ความคิดเห็นที่ 1 คือ mega jump ของ iphone พอคุณกดออก แล้วเข้ามาเล่นใหม่ คุณก็จะได้เล่นต่อตอนที่คุณกดออกไปเมื่อกี้ [freeze multitasking] แต่ถ้าเป็น android พอคุณกดออก แล้วเข้ามาเล่นใหม่ คุณจะต้องเริ่มเล่นใหม่เพราะมันตายไปแล้วตอนคุณไปเล่นแอพอื่น  [real multitasking] ปล ไม่เคยเล่น mega jump บน android แต่ข้างบนคืออธิบายรูปแบบ real multitasking นะจ๊ะ อิอิอิ ผิดพลาดประการใด ขอให้ไปลงโทษที่ คห 2 ได้เลยจ้า อิอิอิ จากคุณ : เมก้าซาวะหมายเลข154 เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 23:14:54

ความคิดเห็นที่ 2 เอ้า กุซวยซะงั้น 。・°°・(>_<)・°°・。 จากคุณ : muping เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 23:57:30

ความคิดเห็นที่ 3 ของandroidจะมีแอพบางตัว หรือบางส่วนของแอพทำงานอยู่ครับ ไม่ใช่ว่าออกเกมแล้วมันเล่นต่อนะ-- เคยใช้ iphone4 แล้วเปลี่ยนมาใช้ Android สำหรับผมคิดว่า true multitasking ของAndroid มันเป็นข้อเสียมากกว่าข้อดีนะครับ ผมไม่รู้สึกถึงประโยชน์ของมันเลย แถมทำให้เครื่องช้าอีก(มีแต่ one x ที่ใช้แล้วไม่เป็นปัญหา เพราะspecมันสูงพอ) จากคุณ : สึโค่ยโดสิส เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 01:47:09

ความคิดเห็นที่ 4 เอ๊ะ??? รี1 ลองซาฟารีซิ ลองเข้าเวปอะไรที่โหลดนานๆดู กดโหลดปุ๊ป ออกมาทำอย่างอื่นก่อนเพราะขี้เกียจรอ พอกดเข้าไปเข้าซาฟารีอีกที เอ้าเห้ย โหลดเสร็จทั้งหน้าเลย อันนี้แหละ ที่ iOS มันไม่ true multitasking ลองดู แปลกดี จากคุณ : แม่บ้านiPhone by อิออน (farohnut) เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 02:52:11

ความคิดเห็นที่ 5 มัลติทาสไม่ใช่แต่เรื่องการสลับโปรแกรมเล่นอย่างที่พูดกันทั่วไป   แต่หมายถึงเรื่อง การใช้งานหลายโปรแกรมซ้อนกันด้วย เช่นแอพในplay store ช่วงหลังจะมีเป็นแอพจำพวกทำงานแบบ Floating หรือเป็นmini windowsบน หน้าจอ เช่นการแสดงรูปภาพในคลังภาพ ขณะอยู่ในโปรแกรมแชต   การเข้าเวป อ่านอีเมล์ ซ้อนทับโปรแกรมคุยแบบเห็นหน้า ทำงานได้พร้อมๆกัน ไม่ต้องออกจากโปรแกรม หรือ การใช้แบบครึ่งจอเปิดyoutube อีกครึ่งจอแสดงแผนที่นำทาง เพราะปัจจุปันขนาดจอของandroid ขยับขึ้นมาเกิน 4.3นิ้วกันแทบทั้งหมด มีเป็น 4.7นิ้วอย่างone X /galaxy nexus / sii และ5.3นิ้วอย่างNOTE  รวมถึงสเปคเครื่องที่แรง การทำงานแบบมัลติทาสกิ้งเด่นขึ้นมากครับและใช้ประโยชน์จากเสปคของตัวเครื่องandroidได้คุ้มค่า ไม่ใช่มีแต่เรื่องสลับโปรแกรมที่พูดกันเท่านั้น อย่างโปรแกรม live wallapaper บางตัว ที่ทำงานมากกว่า wallpaper เช่น wallaper เปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ หรือ Buddycon ที่เป็นตัวตุ๊กตาที่สามารถเรียกเป็นรายชื่อได้เลย พวกนี้ก็อาศัยการทำงานซ้อนกันมาทำให้เป็นประโยชน์ได้น่ารักมาก รวมถึงการใช้มัลติทาสในลักษณะwidget ก็เริ่มสร้างความแตกต่างในแนวทางการใช้งานครับจะเห็นจากโปรแกรม " line " ที่ตัวpop up แจ้งเตือนข้อความเข้า เราสามารถส่งข้อความตอบได้เลยโดยตรงผ่านpop upที่เตือนขึ้นมา โดยไม่ต้องเข้าโปรแกรม line ก่อน ถือว่าสะดวกมากครับในเวลารีบๆ หรือการตอบประโยตสั้นๆ มัลติทาสกิ้งเป็นเหมือนคุณสมบัติเด่นที่ตอนนี้ผมเรียกว่า ผู้พัฒนาแอพเริ่มใช้มันให้เป็นประโยชน์ขึ้นมากกว่าแต่ก่อนเยอะครับ ด้วยตัวอุปกรณ์ที่แรงขึ้น รวมทั้ง Android ics สามารถเข้าไปควบคุมการทำงานมัลติทาสกิ้งได้มากกว่าเดิมอีกด้วย ในเครื่องผมทุกเครื่อง ใช้ประโยชน์เด่นๆจากฟังชั่นนี้ชัดๆเลยก็คือ wave launcher และถ้าคุณเคยเห็นที่หนุ่มๆสาวๆในร้านเนต เขาเปิดหนังเปิดคลิปyoutubeดูไปด้วยและแชตกับเพื่อนไปด้วยบนคอมพิวเตอร์  Android ก็ทำได้แล้วครับ แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 55 08:56:20 จากคุณ : noppinij เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 08:53:53

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ แบบนี้น่ะหรอ หลายโปรแกรม iOS ก็ทำได้ จากคุณ : นาคน้อยคอยรัก เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 09:04:44

ความคิดเห็นที่ 7 mutitaskin ไม่ใช้การสลับโปรแกรม แต่เป็นการทำงานของหลายๆโปรแกรมพร้อมกันได้ เช่น ผมใช้ tablet android ผมก็เอา widget ที่ต้องการมาไว้ในหน้า desktop ผมสามารถอ่านข่าว + twitter + facebook + ฯลฯ พร้อมๆ กันใน 1 หน้าจอได้เลยครับ ios ให้ตายก็ทำไม่ได้ครับ ปรับแต่งหน้าจอยังไม่ได้เลย อย่าอ้างเลยครับ ว่าทำให้เครื่องช้า pc ยังทำได้เลย อนาคตมันมาแนว pc อยู่แล้วครับ spec ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ ให้ตาย ios ก็ทำไม่ได้ จากคุณ : QDora เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 09:47:05

ความคิดเห็นที่ 8 tapose มันก็คือ1แอพ ที่มีความสามารถมัลติทาสอยู่ภายใน และนั้นก็คือข้อดีของมัน มัลติทาสกิ้งนั้นเองครับ จากtaposeเราจะเห็นประโยชน์ของการทำงานหลายโปรแกรมได้ชัดเจน ของandroid ไม่ต้องใช้แอพที่ต้องเอาทุกอย่างมาเชื่อมกัน เพราะมันเชื่อมกันได้อยู่แล้ว ที่สำคัญใช้งานได้บนสมาร์ทโฟนอีกด้วยไม่ต้องเป็น แท็บเล็ต ไม่จำกัด ว่าจะใช้บนอะไรกับแอพอะไร เช่น!! ผมดูสามารถตั้งคลิปที่คุณ นาคน้อย มาโพส พร้อมกับ ออกไปหาอ่านกระทู้ของเพื่อนคนอื่นๆในแอพพันทิปได้ ด้วยโทรศัพท์ผม ^^ จากคุณ : noppinij เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 09:51:37

ความคิดเห็นที่ 9 และไม่จำเป็นต้องมีเจตนาตั้งต้น ที่ต้องเข้าไปยังแอพรองรับมัลติ คิดจะใช้ก็เรียกใช้ พวกนี้เวลาจะใช้ มักจะเป็นปัจจุปันทันด่วน ไม่ได้ต้องคิดก่อนหรอกครับว่า เดี๋ยวต้องใช้อะไร เช่นเช็คอีเมล์ ออร์เดอร์เข้า ตัวเลขชักเยอะ ก็เรียกเครื่องคิดเลขมาใช้ดีกว่า ส่วนใหญ่ชีวิตจริงมันก็แบบนี้ จากคุณ : noppinij เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 09:56:31

ความคิดเห็นที่ 10 ทั้งคู่ก็มีพื้นฐานจาก unix (android เป็น linux, ios เป็น bsd) ซึ่งรองรับ multi tasking โดยกำเนิด สิ่งที่เราสัมผัสเรียกว่า ui ซึ่งออกแบบให้เหมาะกับ input และ output บนอุปกรณ์ต่างๆไม่เหมือนกัน โดยปกติแล้ว ui ทุกประเภท จะให้ความสำคัญของ active windows มากกว่า ทำให้ inactive windows หยุดทำงานชั่วคราว นอกเหนือจาก ui แล้วยังมี process อื่นๆอีกมากมาย ซึ่งทำงานพร้อมๆกันอยู่ เป็น background process มันมีอยู่จริง แต่เราไม่เคยเห็นเท่านั้นเอง ถ้า ios ไม่มี background process คงไม่สามารถมี notification ได้หรอกครับ ส่วน android พวก inactive windows ก็หยุดทำงานเหมือนๆกัน ส่วนตัวแล้ว เห็นว่า ios ทำ ui ได้ดีกว่ามากครับ และ kernel ของ bsd ก็มีเสถียรภาพดีกว่า linux linux มีดีด้านความยืดหยุ่น และความหลากหลาย เลือกในสิ่งที่ชอบครับ :) จากคุณ : Bobby (bob26623) เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 10:05:33

ความคิดเห็นที่ 11 อันนี้ต้องบอกว่า ตอนนี้ iOS ยังไม่มี widget ครับ ซื่งจากที่เห็น มันเป็นความสามารถของ widget คู่ไปด้วย ถ้าจะเอาเรื่องนี้มาพูด iOS ก็คงยังทำไม่ได้ครับ จากคุณ : นาคน้อยคอยรัก เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 10:29:03

ความคิดเห็นที่ 12 ขี้เกียจเขียนใหม่ ก็อปคำตอบเดิมมาตอบแล้วกัน มันก็มีเรื่องเกี่ยวกับ multitask อยู่ด้วยแหละ ---------------- เหตุของปัญหา android ไม่ลื่นมันเกิดจากการออกแบบระบบตอนเริ่มต้น ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับ touch screen แต่ออกแบบมาเพื่อสู้กับ blackberry จนเมื่อ iPhone ออกมาก่อน เจ้า android เลยเปลี่ยนเป้าหมายไปสู้กับ iPhone แทน โดยยังไม่ทิ้งรากฐานเดิมที่เป็นระบบเพื่อการควบคุมแบบปุ่ม รวมถึงระบบการวาดหน้าจอที่เหมาะสำหรับการวาดหน้าจอทีละบรรทัดเหมือนเลื่อนข้อความใน bb ครับ ส่วน iPhone จะเป็นรูปแบบการวาดหน้าจออีกลักษณะหนึ่ง ที่เป็นลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม ทำให้สามารถเลื่อนได้อิสระกว่า นอกจากนี้ iPhone ถูกออกแบบโดยเก็บเป็นความลับสุดยอดมาตลอด และสตีฟ จ็อบส์ให้ความสำคัญกับการตอบสนอง และความลื่นของหน้าจอมากๆ ระบบเลยออกแบบให้งานวาดหน้าจอมีความสำคัญระดับสูงสุดของระบบ ที่เรียกว่าระดับ real-time คือแม้มีการเลื่อนหน้าจอมากๆ ระบบจะทุ่มการประมวลทั้งหมดไปลงที่การวาดหน้าจอ ที่บางคนเห็นว่าเมื่อมีการเลื่อนจอเร็ว เว็บถึงกับหยุดโหลดเพื่อให้เลื่อนจอให้เสร็จก่อน และระบบการทำงานของ iPhone กับ android ก็แตกต่างกัน ดั่งปรัชญาการผลิตที่ต่างกัน คือไอโฟนยอมที่จะสละบางอย่าง เพื่อให้งานบางอย่างออกมาดีที่สุด ในที่นี้ก็คือระบบ multitask แกนๆ ของ iPhone ที่จะไม่มีการประมวลผลเบื้องหลัง แต่จะแช่แอพไม่ให้ทำงานไว้อย่างนั้น เว้นไว้เพียงบางเรื่องที่ API เปิดให้ทำงาน เช่นแผนที่ หรืองานเล็กๆ ที่ต้องทำให้เสร็จอย่างการอัพโหลด ในขณะที่ android ทำงานเหมือนคอมพิวเตอร์ คือทุกงานไว้ว่าจะเปิดอยู่ หรืออยู่บน background ทำงานได้หมด ซึ่งความแตกต่างในจุดนี้ ทำให้ android กินแรงซีพียูมาก กินแรมมาก เพื่อรักษางานทุกอย่างให้รันต่อไปได้ ส่วน iPhone จะทุ่มแรงและทรัพยากรทั้งหมดเพื่องานที่อยู่ตรงหน้า ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่ามันตอบสนองดีกว่า ทางออกของ android เรื่องความลื่นของระบบจึงออกมาในรูปของการอัดระบบ อัดซีพียู อัดแรมให้สูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วน iPhone สามารถทำงานได้ดีแม้แรม 512 เพราะมันไม่ต้องเหนื่อยกับภาระงานเบื้องหลังใน multitask ครับ นอกจากนี้ถ้าจะแก้ปัญหาความลื่นของการแสดงให้เท่ากับไอโฟนโดยไม่ต้องเพิ่มความเร็วระบบ ก็ต้องรื้อฐานของ os ใหม่ ทำให่แอพที่มีอยู่ในปัจจุบันจะรันไม่ได้ IOS กับ android จึงแตกต่างทั้งการกำเนิด และปรัชญาการทำงาน แต่ก็ต้องมาสู้กันในปัจจุบันครับ จากคุณ : Eka-X เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 11:02:13

ความคิดเห็นที่ 13 ชอบ คห. บน บางแอปที่กินแรมไม่เยอะมันก็รันซ้อนนะ คงแล้วแต่คนเขียนโปรแกรมละ จากคุณ : เขียนบน iPhone (hydeless) เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 12:07:36