 |
+_+_[สัมผัสแรก] Nokia Lumia 920...การกลับมาทวงบัลลังค์ของ The King_+_+
|
|
วันนี้ถือว่าเป็นวันดีอีกวันครับที่ได้รับเกียรติจากทางโนเกียประเทศไทย และหน่อยแห่ง mxphone ที่ทำให้ผมได้มีโอกาสได้เข้าไปร่วมงานพบปะสังสรรค์และสาธิตการใช้งาน Nokia Lumia 920 & 820 ครับ ยังไงต้องขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกๆท่านนะครับที่ทำให้งานนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง ออกมาแนวเพื่อนๆมาจับกุล่มคุยกันประมาณนี้มากกว่า
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่านะครับ ผมเองคงไม่ต้องเกริ่นไรมากละเกี่ยวกับสถานการณ์ของโนเกียในปัจจุบัน เพราะคิดว่าทุกๆท่านในห้องนี้น่าจะทราบอยู่ว่าเป็นอย่างไร ในสัมผัสแรกกระทู้นี้ของผมจึงเน้นไปที่ Flagship อย่าง Lumia 920 ไปเลยนะครับ...เป็นอีกครั้งหนึ่งครับที่ทำให้ผมรู้สึกว่านี่ละใช่เลย ผมกำลังจะกลับบ้านหลังเดิมที่ผมรักและผูกพันแล้ว
เด่นที่สุดสำหรับ 920 คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากกล้องแน่นอนครับ เราเคยเห็นเทคโนโลยี PureView มาแล้วใน Nokia 808 แต่สำหรับ 920 นั้น ได้แตกย่อยเทคโนโลยีนี่ไปอีกครั้ง และครั้งนี้เป็นอะไรที่น่าตะลึงมากครับ PureView ในเจ้า 920 มาพร้อมรูรับแสงที่ใหญ่มากระดับ f/2.0 (ตัวเลข f ยิ่งน้อย รูรับแสงยิ่งกว้างครับ) รูรับแสงจะส่งผลโดยตรงต่อความเร็วชัตเตอร์ ยิ่งรับแสงได้กว้าง ชัตเตอร์ภาพได้เร็ว ผลที่ได้คือภาพที่สว่าง(สว่างแบบที่ไม่ต้องพึ่งพาแฟลช) คมชัด ไม่สั่นเบลอ เท่านั้นยังไม่พอครับ โนเกียใส่เทคโนโลยี OIS หรือที่เราคุ้นเคยกันว่ากันสั่นในกล้องคอมแคทั่วไปนั่นเอง การมาของ OIS ครั้งนี้เป็นแบบ floating ซึ่งจะป้องกันการสั่นไหวไปทั่วทิศทางตามการเคลื่อนไหวของกล้อง ผลที่ได้คือภาพผมชัดสูงสุด และไร้อาการเบลอให้เห็นแม้เราจะมือสั่นตอนถ่ายสาวๆ pretty ก็ตาม! ยังไม่พอครับ กล้องของเจ้า 920 ประกอบไปด้วย Carl Zeiss ถึง 5 ชิ้นเลนส์ด้วยกัน เรียกว่ากะเอากันให้ตายไปข้างเลยกับเรื่องการถ่ายภาพในครั้งนี้ ผมกล้าพูดได้เลยครับว่า ณ เวลานี้ มือถือที่วางจำหน่าย หรือใกล้จะวางจำหน่ายทีี่ผมเคยลองเล่น Lumia 920 คือที่สุดของประสบการณ์ที่คุณจะได้จากการถ่ายภาพและวิดีโอ ผมเชื่อแน่ครับว่าท่านใดได้เห็น ฟุตเทจการถ่ายวิดีโอตอนกลางคืนของ Lumia 920 แล้วจะต้องทึ่งกับผลลัพธ์อย่างที่ผมและเพื่อนทุกคนในงานเป็นกันมาแล้ว ในงานมีการโชว์พาวเอาเจ้าตุ๊กตุ่นน้อยเก็บไว้ในกล่องมืดๆในที่แสงน้อยแล้วเจาะรูเพื่อให้เราเอามือถือของเราเองถ่ายครับ แหงละมืดขนาดนั้นจะถ่ายไรเห็น ของเห็นเป็นเงาลางๆสไตล์คนอวดผีมากครับ แต่เมื่อเจ้า 920 เข้ามาถ่ายวงแตกกันหมดครับ เอาผลงานมาเทียบกันแล้วก็แบบว่า...อายเค้าอ่ะครับ เจ้า 920 เก็บรายละเอียดน้องโดราเอม่อนแบบชัดแจ๋วส่วนของผมนี่เป็นเงาผีสิงไป
เมื่อพูดถึงกล้องก็ต้องเลยมาถึง Nokia City Lens แล้วมันคือไรหว่า สรุปง่ายๆเลยนะครับมันคือระบบจริงที่แสดงสถานที่เช่นร้านอาหาร โรงแรม โรงภาพยนตร์หรือแม้กระทั่งระบบขนส่ง เพียงแค่ยกกล้องขึ้นมา แล้วแพนไปยังบริเวณที่เราอยากทราบ ทุกอย่างจะโชว์ให้เราเห็นขึ้นมาทันที และที่สำคัญที่สุดคือ "รองรับกับข้อมูลในแผนที่ของประเทศแบบเต็มรูปแบบ" นอกจากนี้ยังไม่ Nokia Drive+ พาเราไปยังที่ๆเราไม่เคยไปมาก่อน, Nokia Transport สามารถบอกรายถึงระบบขนส่งที่เราต้องการทราบ และ Nokia Maps อันเลื่องชื่อที่สามารถใช้แบบ Offline ได้เต็มรูปแบบ
ที่นี้เรามาพูดถึงเรื่องสเปคของตัวเครื่องกันบ้างนะครับ การมาของ iPhone ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดในเรื่องหน้าจอของโลกมือถือ เจ้า 920 ก็มีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า PureMotion HD+ ด้วยหน้าจอขนาด 4.5 นิ้วที่ความระเอียด 1280x768 พิกเซลใช้ Panel แบบ IPS เพื่อมุมมองในการรับภาพกว้างขึ้น แล้ว PureMotion HD+ นี่ละ มันคือไร มีดีไงหว่า...มันคือเทคโนโลยีใหม่ทางหน้าจอที่สามารถแสดงความเคลื่อนไหวได้สูงถึงระดับ 60 เฟรม/วินาที ส่งผลเมื่อใดที่เราเลื่อนหน้าจอ รับประกันได้ว่าจะไม่มีอาการเบลอของ pixel ที่เปลี่ยน เมื่อใดก็ตามที่เราชมคลิปที่มีความเคลื่อนไหวเร็วๆ ภาพที่ได้จะคมกริบ ไม่เบลอเหมือนผีเหงาตามหลอกหลอนนั่นเอง (ผมไม่ขอลงรายละเอียดเชิงลึกเรื่อง pixel transition, LCs, period of one rendered frame ฯลฯ เอาแบบบ้านๆ เข้าใจกันง่ายๆนี่ละครับ) อีกจุดขายคือความ sensitive ของน่าจอ คือเอาไรเขี่ยก็ติดครับ ใส่ถุงมือก็ยังเลื่อนหน้าจอได้ปกติ อันนี้ขอชมเลยครับว่า Capacitive Screen ก็ทำได้นะเฟ้ย
หน้าจอผ่านไปแล้ว แล้วเจ้า OS ละ WP8 นี่ไรหว่า...เกริ่นสักนิดนะครับว่า MS ได้เปลี่ยนองค์หน้าตาของ interface ให้ออกมาแนวเดียวกันหมดไม่ว่าจะเป็นมือถือ แทปเลต หรือเดสทอปก็ตาม เพราะงั้นจะได้เห็นไอเจ้ากรอบสี่เหลียมกระดุกกระดึกไปมานี่อีกนานละครับ เจ้าสี่เหลี่ยมนี่ละครับคือ Live Tiles เปรียนเสมือนแผ่นกระเบื้องที่มีชีวิต คอยอัพเดท app บนหน้าจอ stand by ของเราอยู่ตลอด ด้วยแกนหลักคือ Windows 8 เพราะงานการเขียนโปรแกรมจะเป็นอะไรที่ง่ายดายมาก สามารถเขียนโปรแกรมลงคอมแล้ว deploy มาลงมือถือได้สะดวกสะบาย ลองนึกภาพตามนะครับว่าเราจะสามารถใช้ Microsoft Office ได้สมบูรณ์แบบ, โปรแกรมหลายๆอย่างบนคอมก็จะถูกย่อลงมาอยู่ในมือเรา (และนี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ WP7.5 ตอนนี้ไม่สามารถไปต่อได้เพราะแกนหลักของ OS ไม่เหมือนกันและ H/W ที่ต้องใช้ต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ MS ก็มี WP7.8 ออกมาให้อัพกันต่อครับ)... 1.5GHz Dual-Core Snapdragon S4 CPU คือหัวใจหลักในความแรงของ 920 นี่เอง ถึงแม้เครื่องที่ผมสัมผัสในวันนี้ยังเป็นตัวทดสอบ ไม่ใช่เวอร์ชั่นขายจริงๆก็ตาม แค่การทำงานไหลลื่น ไม่มีสะดุดกดปุ๊บมาปั๊บ เรียกว่าคราวนี้จัดเต็มกันมาเลย แล้วทำไม 1GB RAM ล่ะ...สั้นๆครับ แต่ละ OS ย่อมต้องการทรัพยากรที่ไม่เท่ากัน เปรียบเสมือนเราเล่นเวทนะครับ(ขอยกตัวอย่างเป็นเล่นเวทนะครับเพราะผมถนัด จะได้เห็นภาพชัดๆ) บางท่านเล่นน้อยๆ แป๊บเดียว แต่เล่นอย่างถูกต้อง มีหลักการที่เห็นผลชัดเจน สิ่งที่ได้คือความแข็งแรงและกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์ ในขณะที่บ้างท่านต้องเล่นหนักเน้นๆ ใช้เวลานาน ก็สามารถทำให้เกิดกล้ามเนื้อได้ขึ้นมาเหมือนกัน...เจ้า OS มือถือก็เหมือนคนเล่นกล้ามครับแต่ละ OS ไม่จำเป็นที่ต้องใช้ทรัพยากรที่เท่ากัน แต่ก็สามารถแสดงผลลัพธ์สุดท้ายที่ออกมาได้ใกล้เคียงกันนั่นเอง
ทีนี้มาถึงเรื่อง S/W ที่ทำให้ผมชอบคือ WP8 จะมี People Hub ที่นำทุกความเคลื่อนไหวของคนๆนั้นมารวมอยู่ในทีเดียวกันเลย เช่นผมกดเลือกไปที่ชื่อน้องมะนาว หน้าแรกก็จะแสดงรายละเอียด รูปภาพของน้องเขา ทีนี้ผมอยากรู้ว่า เอ๋...ตอนนี้น้องมะนาวทำไรว้า อัพเดทเฟซป่าว หรือว่ากำลังทวีตหาใครน้อ แล้วอีเมล์เรื่องสินค้าที่ให้ส่งมาละน้องเค้าจัดให้ละยัง....ทุกอย่างจะโชว์พร้อมกันหมดเพียงแค่คุณใช้นิ้วเลื่อนไปอีกหน้าเท่านั้นเอง แล้วถ้าเลื่อนไปอีกหน้าจะแสดง History Profile ว่าโทรกันล่าสุดเมื่อไรนะ ฯลฯ เป็นต้นครับ สรุปง่ายๆคือ เจ้า WP8 เอะ๊อะๆอะไรก็ Hub หมดครับ คือเขาจะรวม content ที่อยู่ในหมวดหมู่เดียวกันมารวมกัน ทำให้เราไม่ต้องไปเปิดโปรแกรมควานหากัน เพิ่มความสะดวกสบายและลดขั้นตอนการเข้าถึงไปได้พอสมควรครับ
อีกจุดนึงที่ผมชอบคือ SkyDrive ครับ มีเนื้อที่จุใจถึง 7GB ใส่เข้าไปสิครับ อยากยัดไรจัดไป โดยที่หลักการทำงานจะคล้ายๆกับ iCloud ของ iOS นั่นเอง แต่ต่างกันที่ว่าเราสามารถเข้าไปหาเจ้า SkyDrive จากที่ไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็น PC, Mac, Tablet หรือมือถือก็ตาม สามารถที่จะเข้าถึงไฟล์ในแบบ Offline (ไฟลที่โหลดมาแล้วก่อนหน้านี้) ตลอดจนการใช้ Windows Explorer จัดการกับไฟล์ และโฟลเดอร์ต่างๆ และหน้าตาเจ้า SkyDrive ที่เราสามารถเปิดไฟล์ แก้ไข้ หรืออัพโหลดแล้วลากขึ้นไปจัดเก็บไฟล์กลับคืนไปแทนอันเดิม เหมือนกับเรากำลังใช้งานแบบฮาร์ดดิสก์บน PC เลยครับ
ส่วนท่านที่กังวลเรื่อง App ก็ลองดูครับว่า App ที่เราใช้ประจำๆมีใน WP8 หรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ข้ามไปโลด แต่เจ้า Windows Phone Store เองก็รู้จุดอ่อนตรงนี้ ส่งผลให้มีทั้ง app และเกมส์มากกว่า 100,000 app ไปแล้ว (อย่าง Instagram ที่หลายๆคนติดกัน ผมเองก็ติด 555+ ก็กำลังมาลงในเจ้า WP8 เร็วๆนี้ละครับ)
มาถึงเรื่องวัสดุกันบ้าง ดูดีครับสวยมากครับ หลากหลายสีสัน การประกอบเรียบร้อยเก็บงานดีเป๊ะ ด้วยตัวเครื่องแบบ Unibody เราไม่สามารถถอดฝาหลังออกมาได้เองทำให้มีเนื้อที่จัดเก็บอยู่ที่ 32GB ในตัวเครื่อง และ 7GB ใน SkyDrive ครับ ไม่สามารถใช่หน่วยความจำภายนอกได้นั่นเอง (แต่เจ้า Lumia 820 ถอดฝาหลังได้ เลยเปลี่ยนแบตเองได้ เพิ่มเมมได้นั่นเอง) ตัวเครื่องเองหนัก 185g นี่ถือว่าหนักเลยนะครับ ใครชอบอะไรที่เบาๆคงต้องไปลองเองแล้วละครับว่ารับได้ขนาดไหน แต่สำหรับผมชิลมากครับ ไม่ได้หนักอะไรถือได้ถนัดมือปกติ อาจจะเป็นเพราะตัวเครื่องเองมีขอที่โค้งเว้ารับอับอุ้งมือ ทำให้ถือจับได้อย่างสะดวกครับ
Gimmick อีกอย่างที่โนเกียภูมิใจหนำเหนอมากคือการชาร์ตแบตแบบไร้สายด้วยมาตรฐาน Qi ซึ่งโนเกียมีของเล่นเยอะมากสำหรับชาร์ตแบบไรสาย ที่เด็ดๆก็น้องหมอน Fatboy, JBL Power Up อันนี้เสียงดีมากแค่แป๊ะ 920 กับเครื่องนี้ เพลงก็จะถูกเล่นอัตโนมัตทันที เสียงดีตามสไตล์ JBL (แต่ราคาอาจจะทำให้หน้ามือวิงเวียนศีรษะได้นะครับ) ยังมีหูฟัง Monster แบบไร้สายอีกเมื่อเราแตะมือถือกับหูฟัง เพลงก็จะเล่นขึ้นมาทันที่ผ่าน Bluetooth ครับ เราพับหูฟังเก็บปุ๊บก็จะกลายเป็นการตัดการทำงานไปในตัวเลย แต่ถ้าใครอยากเสียบสายกลัวเปลืองแบตก็มีให้เสียบได้ไม่ว่ากัน
ส่วนเรื่อง Browser เจ้า IE10 นี่ผมไม่ได้ลองครับเพราะยังไม่ Final F/W เลยขอผ่านไปก่อน แล้วสัญญาณ Wifi ในสถานที่จัดงานก็อ่อนระทวยมาก รวมถึงความอึดของแบต 2000 mAh อันนี้คือถ้าจะทดสอบกันจริงๆต้องใช้เวลาหลายวัน
สุดท้ายคือเรื่องภาษาไทย...Lumia 920 จัดมาให้ครับทั้ง ทั้งพิมพ์ อ่าน เมนงเมนูไรภาษาไทยหมด นอกจากนี้ยังมีสารพัดภาษาให้ดาวโหลดมาใช้งานได้อีกด้วยครับ
สิ่งที่ผมว่าดีและชอบ - ตัวเครื่องสวยครับ สะดุดตาครั้งแรกที่เห็นทันที วัสดุและงานประกอบสั้นๆครับ "เป๊ะ" - หน้าจอสวยมาก PureMotion HD+ ทำงานได้จริงเห็นผล ไม่ได้โม้ ตั้งแต่เห็นมาผมว่าหน้าจอ 920 สวยไหลลื่น เนียนตาที่สุดละตอนนี้ - PureView เทคโนโลยีเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของกล้องถ่ายภาพบนมือถือในที่แสดงน้อย รวมถึงระบบกันสั่นจริงๆที่เห็นผล ยกระดับกล้องมือถือแบบไม่ใช่ก็ใกล้เคียงกับกล้องคอมแพคได้ - OS ทำงานเร็วมาก ลื่นไหลดี ใช้ง่ายไม่ซับซ้อน ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับหลายๆท่านที่เบื่อทานผลไม้หรือเล่นหุ่นยนต์ - สารพัด Hub ที่รวม content ที่อยู่ในหมวดหมู่เดียวกันมาไว้ที่เดียว สะดวกครับ - ของเล่นต่างๆมีเพียบหูฟัง ลำโพง ที่ชาร์ตแบบไร้สาย บลาๆๆๆ ถ้าใครชอบอยากได้นี้ หมดตูดเอาง่ายๆนะครับ แบบเห็นอะไรก็อยากได้หมดเลย
สิ่งที่เฉยๆเลยไปถึงอาจจะไม่ชอบ - ด้วยตัว OS ที่เน้นสะดวกสบายง่ายๆ เลยกลายเป็นแบบอะไรฟระ ไม่ค่อยมีไรดึงดูดเลย ไม่ท้าทายเลยงะ ปรับแต่งโมโน่นนี่ไรก็ไม่ได้ วิดเจ็ทวิดน้ำไรก็ไม่มี ซึ่งตรงนี้ใครที่ใช้ Android และรักการโมลง custom ROM จะพาลหงุดหงิดอยากเขวี้ยงขึ้นมาได้ แต่คนที่ชอบ iOS อาจจะหลงรัก WP8 ได้เลยครับ - MS ต้องการกำจัด fragmentation ที่กำลังเป็นปัญหาหนักของ Android ตอนนี้เลยกำหนดมาหมดว่าสเปคต้องงั้นงี้นะ จะได้รัน app รันไรได้เหมือนกันหมด เลยกลายเป็นแบบ เฮ้ยสเปคเครื่องไหนๆก็เหมือนกันอ่ะ อยากที่แบบเร็วกว่าก็ไม่มี ฯลฯ (อันนี้ความเห็นส่วนบุคคลนะครับ) - เพิ่มเมมนอกไม่ได้ เข้าใจเหตุผลครับ แต่แบบว่า 32GB มันไม่ค่อยจะพอเลยนะครับสำหรับหลายๆคน - ตัวเครื่องหนัก 185g ไม่ใช่ทุกคนที่บ้าเล่นเวทและมือควายแบบผมที่จะคิดว่ามันเบาสบายครับ - ตัวเครื่องได้การรับรองแล้วว่ารองรับ Bluetooth 4.0 แต่โนเกียกลับไม่เอามาโม้ และบอกว่ารองรับ 3.1 (อันนี้ผมก็โง่ลืมถามอีกแล้วครับท่านผู้ชม) - วัสดุดีจริง แต่มันแวววาวนะคร้าบ เพราะงั้นระวังรอยด้วยล่ะ - ราคายังไม่เปิดตัว เลยไม่รู้ว่าคุ้มหรือไม่คุ้มกับตังและระบบใหม่ที่ยังไม่เคยลองเล่น งานนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญมากครับ ถ้าโนเกียไทยตั้งมาแบบพอดี เกิดแน่ครับ
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ผมได้พูดคุยกับพี่ๆในโนเกียไทยนะครับ - 920 เป็นมือถือตัวแรกที่หน้าจอใช้เทคโนโลยี PureView HD+ ที่รองรับการเคลื่อนไหวระดับ 60fps เทคโนโลยีนี้มีเพียงโนเกียเท่านั้นในตอนนี้ - 920 เป็นมือถือตัวแรกของโลกที่มีระบบกันสั้นที่ชิ้นเลนส์จริงๆ ไม่ใช่ Software เหมือนที่ผ่านๆมา - โนเกียอยากขาย 920 และ 820 ใจจะขาดครับ แต่ทาง MS กำลังทำ OS ให้มันดีสมบูรณ์ที่สุดและรอการเปิดตัวปลายเดือนตุลาคมก่อน (ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนะครับ) - โนเกียหมายมั่นปั้นมือพอสมควรว่า 920 จะเป็นก้าวแรกที่สามารถเรียกศรัทธากลับมา โดยมีหมัดเด็ดอื่นๆอีกเพียบ - 4-5 ของรถยนต์ที่ใช้ในปัจจุบันนำข้อมูลแผนที่จาก Nokia มาใช้ เช่น BMW, Ford เป็นต้น - โนเกียไทยซุ่มทำ content เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จาก NFC อยู่ แต่อุบไว้ ยังบอกไม่ได้ - โนเกียไทยมี local app ที่ pre-installed มาเลยเช่น ครอบครัวข่าว3, Thai TV3, Travel Thailand เป็นต้น - เมื่อใกล้วางขายโนเกียจะประกาศโปรโมชั่นเด็ดต่างๆจาก operator เต็มที่ - ระบบชาร์ตแบบไร้สายมาตรฐาน Qi จะค่อยๆมีบทบาทมากขึ้น - จริงๆมีหลายอย่างที่ค้างในใจผมมาก แต่พอได้เจอ ได้สัมผัส ได้เล่น 920 ทำเอาลืมถามไปเลย แป่ววววว
เดือนพฤศจิกายนนี้ โนเกียไทยจะเริ่มทำการวางจำหน่าย Lumia 920, 820 พร้อมหลายๆประเทศทั่วโลก ราคาอย่างเป็นทางการจะประกาศในทราบในเร็วๆนี้ ใครที่อยากลองอะไรใหม่ๆ อยากสัมผัสประสบการณ์กล้องบนมือถือที่เยี่ยมที่สุด จอภาพแบบว่าเมพขิงๆ ชอบมือถือดีไซน์สวย วัสดุและการประกอบอยู่ในระดับท็อป ...ลองรอดู รอจับ รอเล่นก่อนได้ครับ เร็วๆนี้แล้ว
สำหรับตัวผมเอง...ผมพร้อมละครับที่จะกลับบ้านหลังเก่าที่ผมคุ้นเคย(ถ้าตั้งราคามาแบบที่ผมจ่ายได้ด้วยนะครับ แพงเกินก็ไม่ไหวเด้อ)
อีกครั้งครับขอบคุณหน่อย mxphone, ปุ้ยที่น่ารักสุดๆ และพี่ๆในโนเกียทุกท่านที่เป็นกันเองและตอบคำถามกวนบาทาบางอันของผมอย่างใจเย็นและมีสติแบบเยี่ยมมากๆ และขอบคุณทุกท่านที่ทนอ่านจนจบด้วยนะครับ
*แก้ไขการเว้นบรรทัดให้อ่านง่ายขึ้นนะครับ
แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 55 03:58:36
จากคุณ |
:
wort
|
เขียนเมื่อ |
:
27 ก.ย. 55 02:35:05
|
|
|
|  |