ความคิดเห็นที่ 1 อันนี้พูดกันตรง ๆ ว่า ผมดูโฆษณา Smart G-Book by Toyota ในทีวี เข้าใจว่ามันเป็นแอปเฉพาะสำหรับลูกค้า Toyota เท่านั้น พอดีผมไม่ได้ขับ Toyota ก็เลยไม่ค่อยสนใจนัก พอเข้าไปดูในเว็บ เห็นว่าก่อนจะนำทางได้ต้องโทรเข้า Call Center ก่อนผมก็เลยเลิกสนใจซะงั้น เพราะยังงงว่าทำไมต้องเสียตังค์โทรไปหา Call Center อีก จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 07:41:22

ความคิดเห็นที่ 2 อันนี้หน้าตาของแอปครับ หลัก ๆ ก็จะมีเมนูอยู่หลายอัน ซึ่งเดี๋ยวจะอธิบายต่อไป แต่ที่เพิ่งรู้จริง ๆ ก็คือคนที่ไม่ใช่ลูกค้า Toyota ก็สามารถใช้งานได้ครับ ไม่ขับรถก็ใช้ได้ คือใช้เป็นแอปนำทางแบบ Tur-by-Turn เหมือนพวก Sygic หรือ Garmin ได้ด้วยเช่นกัน โดยมันทำงานใน iOS และ Android (แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันยังมีปัญหากับ ICS อยู่พอสมควรครับ ยังรอการแก้ไขก่อน) จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 07:44:32

ความคิดเห็นที่ 3 แม้ว่าตัวแอปเองจะค้นหาสถานที่จากชื่อสถานที่ได้ แต่ Toyota บอกว่าวิธีที่ง่ายที่สุดในการใช้แอปคือโทรไปบอกสถานที่ที่เราจะไปกับ Call Center ครับ ซึ่งผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำแบบนี้เหมือนกัน มันเหมือนเสียเงินสองต่อ ซื้อแอปแล้วยังต้องเสียเงินค่าโทรศัทพ์อีก?!? Toyota เขาอธิบายว่านี่เป็นการออกแบบเพื่อความปลอดภัยครับ คือเขาบอกว่าเวลาเราเริ่มหลง ถ้าต้องมาพิมพ์สถานที่ในแอปเพื่อจะหา อาจทำให้ต้องละสายตาจากท้องถนนซึ่งอันตรายมากและผิดกฏหมายของไทยด้วย (ห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ) ดังนั้นเขาเลยตัดขั้นตอนตรงนี้ไปโดยให้โทรเข้าไปที่ Call Center เพื่อให้เขาหาให้ครับ อันนี้ทดลองโทรดู จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 07:48:12

ความคิดเห็นที่ 4 แอปจะขึ้นเตือนว่ามันจะส่งค่าพิกัดของเราในปัจจุบันไปห้ Call Center ด้วย นั่นหมายถึงเราต้องเปิด GPS และ Data เอาไว้ด้วยครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 07:49:12

ความคิดเห็นที่ 5 โทร! แล้วก็ว่ากันไปครับ ตอนนี้ผมจะกลับจากหัวหินไปที่ศูนย์ Toyota พระราม 2 เราก็บอก Call Center ไปว่าเราต้องการไปไหน เขาจะหายไปซักพักแล้ว Confirm สถานที่กับเรา เมื่อเรายืนยันแล้วเขาก็จะวางสายและส่งจุดหมายปลายทางมาให้ครับ (ใช้เวลาราว ๆ นาทีกว่า) จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 07:51:01

ความคิดเห็นที่ 6 ส่งมาแล้วครับ เราทำการ Restart แอปและเริ่มทำการนำทาง จะว่าไปสำหรับคนที่ไม่ถนัดในการหา POI ใช้แบบนี้ก็สะดวกดีเหมือนกันครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 07:52:14

ความคิดเห็นที่ 7 หลังจากนั้นมันจะถามว่าจะให้แสดงเส้นทางไหม เราก็กด OK โลด จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 07:52:57

ความคิดเห็นที่ 8 อันนี้คือเส้นทางที่ได้ครับ พูดถึง Map (ซึ่ง Toyota บอกว่าเป็น Offine Map ด้วย) ดูพอใช้ได้ทีเดียวครับ แต่ความสวยงามผมว่ายังสู้แผนที่ของ Garmin หรือพวก Google Map ไม่ได้ ตรงนี้เสนอว่าควรจะต้องปรับปรุงซักนิดนึงครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 07:55:04

ความคิดเห็นที่ 9 มันจะคำนวณระยะทางและเวลาที่คาดว่าจะถึงให้เหมือนกับ GPS แท้ ๆ จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 07:55:35

ความคิดเห็นที่ 10 ลองเทียบกับ Map และ Navigator ที่ติดมาใน Prius ครับ พบว่ามันแทบจะเหมือนกันเลย จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 07:56:42

ความคิดเห็นที่ 11 นอกจากการโทรเพื่อนำทางให้เราแล้วมันยังมีลูกเล่นอื่นเหมือนกันครับ ตรงนี้ทำให้มันต่างและทำอะไรได้มากกว่าเมื่อเทียบกับ Navigator ในรถยนต์พอสมควรทีเดียว ลองไปดูกันครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 07:57:54

ความคิดเห็นที่ 12 G-Memory เป็นที่เก็บสถานที่ที่เราเคยโทรไปขอการนำทางครับ เพื่อครั้งหน้าจะได้ไม่ต้องโทรอีก จะเก็บไว้ตรงนี้ทั้งหมด จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 07:58:53

ความคิดเห็นที่ 13 G-Road ปุ่มเรียกฉุกเฉินเวลารถเราเกิดเสียครับ เมื่อกดไปแล้วมันจะต่อเข้าไปที่ Call Center เราสามารถแจ้งอาการเสียของรถของเราและร้องขอความช่วยเหลือได้ Call Center จะทราบตำแหน่งของเราจากตำแหน่ง GPS ที่โทรศัพท์เราส่งไปให้ครับ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบ้าง แต่ก็ถือว่าอย่างน้อยก็ช่วยพารถเราออกจากถนนกลับบ้านหรือเข้าอู่ได้ อันนี้ผมไม่ได้ทดลองใช้จริงเหมือนกัน ^ ^" จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:00:59

ความคิดเห็นที่ 14 G-Life อันนี้สำหรับเวลาเราประสบอุบัติเหตุและต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์ฉุกเฉินครับ ตรงนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย เนื่องจาก Toyota จะประสานงานกับศูนย์กู้ชีพนเรนทรเพื่อส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยเราครับ อันนี้ก็ไม่ได้ทดสอบเหมือนกัน ^ ^"" จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:02:42

ความคิดเห็นที่ 15 หลัก ๆ จะมีเท่านี้ครับ สำหรับการนำทางค่อนข้าง OK เลยครับ เทียบได้กับ GPS Navigator ยี่ห้อดัง ๆ (พอดีผมไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะว่าขับรถอยู่ ถ่ายไม่ได้ครับ) มี Voice คอยบอกทางเราเป็นภาษาไทย ส่วนตัวแผนที่มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดย Call Center สำหรับช่วยนำทางเปิดตลอด 24 ชั่วโมง Toyota บอกว่าไทยเป็นประเทศที่สองต่อจากญี่ปุ่นที่ได้ใช้แอปตัวนี้ ซึ่งตอนนี้ Toyota กำลังพัฒนาเพื่อใส่ความสามารถใหม่ ๆ เข้าไป แอปรองรับ iOS 4.3 ขึ้นไป และใช้ได้กับ iPhone, iPad และ iPod ครับ ตอนนี้มีรุ่นทดลองใช้ฟรี 30 วันตาม link นี้ http://itunes.apple.com/th/app/smart-g-book-th-lite/id495161884?mt=8 หรือถ้าสนใจจะซื้อก็ราคา 31.99 เหรียญ ราคาพอ ๆ กับ Navigator เจ้าดังทั่วไป แต่มี Option พิเศษหลายอย่างที่เจ้าอื่นไม่มีครับ http://itunes.apple.com/th/app/smart-g-book-th/id499869269?mt=8 ส่วน Android สามารถโหลดได้ที่นี่ครับ ใช้ได้กับโทรศัพท์ Android ที่ใช้ Android 2.3 ขึ้นไปและมี GPS ในตัวครับ http://play.google.com/store/apps/details?id=th.co.dmap.smartGBOOK_TH1111&hl=th ข้ดดีข้อเสียที่ผมสรุปมามีดังนี้ครับ ข้อดี 1. ใช้ง่าย โดยเฉพาะการมี Call Center กลับกลายเป็นจุดเด่นสำหรับคนที่ไม่ชำนาญในการใช้ GPS หรือไม่รู้สถานที่ที่เราจะไปแบบชัดเจน ตรงนี้ให้ Call Center ช่วยหาให้ ซึ่งได้ผลลัพธ์คือความปลอดภัยครับ เพราะเราไม่ต้องละสายตาจากท้องถนนมากนัก และใช้วิธีฟังเสียงนำทางก็ได้เช่นกัน 2. ไม่ต้องซื้อ GPS แท้ ๆ โดยเราซื้อแอปตัวนี้และซื้อ Holder มาติดรถ ก็สามารถใช้งานเป็น GPS ได้เช่นเดียวกัน ประหยัดเงินไปได้เยอะอยู่ 3. POI ในประเทศไทยเยอะพอสมควร 4. ราคาเมื่อเทียบกับแอป GPS เจ้าอื่นแล้ว ถือว่าค่อนข้างคุ้ม เพราะมีฟีเจอร์ที่เจ้าอื่นยังไม่ค่อยมีนักเช่น G-Road หรือ G-Life ซึ่งเวลาฉุกเฉินน่าจะใช้ได้ดีทีเดียว 5. ใช้ได้กับลูกค้ารถทุกยี่ห้อ หรือไม่ขับรถก็ใช้ได้ ตัวแอปไม่ได้ผูกอยู่กับรถ Toyota ครับ แต่สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถ Toyota รุ่นฉลอง 50 ปี จะมี Version พิเศษให้เล่นเช่นกัน ข้อเสีย 1. Interface ยังดูเชย ๆ ไปบ้างครับ แผนที่ยังดูไม่ค่อยสวยนัก 2. แม้ว่าจะมี Offline Map ที่ทำให้เราสามารถค้นหา POI ได้โดยไม่ต้องต่อเน็ต แต่ถ้าจะใช้ความสามารถของมันให้เต็มประสิทธิภาพก็ควรต้องต่อ Net ได้ครับ แม้มันจะแทบไม่กิน Data แต่ถ้าใครไม่มี Unlimited Package ก็อาจจะต้องใช้แบบ Offlineในบางช่วงเวลา แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 55 08:16:03 จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:15:32

ความคิดเห็นที่ 16 อย่างที่บอกคือไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ในเมื่อมี Prius ตัว Tops Option ซึ่งมีรถบบ Multimedia ค่อนข้างดีมาให้ลองขับ ผมกับเพื่อนก็เลยขนโทรศัพท์ไปลองเล่นกับรถยนต์ดีครับ เหอ ๆ ที่เราลองเล่นวันนี้ก็มี iPhone 4, HTC One V, Nokia Lumia 900, i-mobile i-style Q3 และ Nokia E72 ครับ ส่วนใหญ่ผมใช้ Bluetooth ต่อกับโทรศัพท์ครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:18:40

ความคิดเห็นที่ 17 จอที่ติด Prius เป็นจอสัมผัสซึ่งมี Bluetooth ต่อกับโทรศัพท์เราได้ครับ เมื่อเรา Pair โทรศัพท์เราเข้ากับ Prius ไว้แล้ว จอตรงนี้ก็สามารถทำหน้าที่ได้เหมือนโทรศัพท์ของเราเช่นกัน และทำอะไรได้เยอะทีเดียว เช่นในภาพนี้มันแสดงสถานะแบ็ตและสัญญาณได้เลย จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:20:47

ความคิดเห็นที่ 18 รวมถึงเราสามารถโหลด Address Book เข้าไปยัง Prius ได้เช่นเดียวกัน จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:21:23

ความคิดเห็นที่ 19 Windows Phone ใช้ได้ไม่มีปัญหาแฮะ โอ้ววววว อันนี้ลองทดลองเปิด Address Book ใน Prius เทียบกับใน Lumia 900 ดูครับ (ขออนุญาตเซ็นเซอร์รายชื่อสักนิดเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้อื่นครับ) จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:22:42

ความคิดเห็นที่ 20 มันยังมีฟีเจอร์โทรด่วนให้เราตั้งค่าจาก 6 หมายเลขใน Address book สำหรับกดโทรด่วนได้โดยไม่ต้องไปหาใน Address Book ครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:24:51

ความคิดเห็นที่ 21 เดี๋ยวลองโทรดูดีกว่าครับ จะโทรเข้า HTC One V เครื่องนี้ จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:26:22

ความคิดเห็นที่ 22 โทรเข้าแล้วครับ เวลาเราโทรเราสามารถพูดได้เลยโดยไม่ต้องต่อ Small Talk เนื่องจากมันมีไมค์อยู่ที่คอนโซล และเสียงพูดก็จะออกมาในลำโพงรถยนต์ ถ้าเราเปิดเพลงอยู่แล้วมีสายเรียกเข้ามันก็จะแทรกเพลงเข้ามาให้ ถือว่าทำได้ครบเช่นเดียวกับรถยนต์ระดับบนในตลาดปัจจุบัน สังเกตุในรูปว่าผม Sync Contact กับ Facebook ไว้ในโทรศัพท์ Prius มันก็โหลดรูป Profile ลงมาในรถยนต์ให้ด้วยเช่นกันครับ แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 55 08:29:02 จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:28:09

ความคิดเห็นที่ 23 ลองเอา E72 แบบคลาสสิค ๆ ต่อ มันก็ยังรู้จักครับ สำหรับการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth ไม่ว่าจะเป็น iOS, Android รุ่นถูกรุ่นแพง, Windows Phone หรือแม้แต่ Symbian ก็ต่อได้ใช้ฟีเจอร์ของรถได้เต็มประสิทธิภาพเหมือนกันครับ ตรงนี้ถือว่าโอเคมาก ๆ เลย จุดให้ติมีอย่างเดียวคือ UI ของรถค่อนข้างเชยไปนิดครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:31:01

ความคิดเห็นที่ 24 อ้ออีกอย่างที่ลืมพูดไปก็คือ Prius มันจะดูด Call History มาให้เราด้วยครับ คือมันดูดทุกอย่างเท่าที่พอดูดได้มาลงในรถเสมือนว่ามันทำงานเป็นโทรศัพท์ได้เลย แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 55 08:33:13 จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:32:56

ความคิดเห็นที่ 25 รูปผิดครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:33:35

ความคิดเห็นที่ 26 เวลาเราโทรสามารถสั่งงานได้สามลักษณะคือ กดที่ปุ่มตรงริมจอด้านซ้ายครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:34:18

ความคิดเห็นที่ 27 หรือที่พวงมาลัยจะมีปุ่มสำหรับโทรและวางสายอยู่ โดยเราสามารถใช้ปุ่มลูกศรด้านบนในการเลือก Contact ได้ครับ หรือถ้าเราทำการบันทึกไว้ เราก็สามารถเรียกชื่อผู้ที่เราต้องการโทรหาโดยการกดปุ่มโทรออกด้วยเสียงได้เช่นเดียวกัน (เสียงที่ระบบโตตอบกับเราเป็นภาษาไทยครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องฟังไม่รู้เรื่อง) แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 55 08:35:59 จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:35:35

ความคิดเห็นที่ 28 นอกจากนั้นเรายังสามารถ Stream เพลงผ่าน Bluetooth ได้เช่นกันครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:36:57

ความคิดเห็นที่ 29 และสำหรับคนใช้ iOS ทั้ง iPhone iPod และ iPad สามารถเปิดที่เก็บของตรงข้างที่นั่งขึ้นมา จะมีช่องสำหรับเสียบ USB ครับ ตรงนี้เราสามารถเสียบ Trumb Drive หรือเสียบ iPhone iPod และ iPad เพื่อเล่นเพลงได้เลยในทันที จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:38:28

ความคิดเห็นที่ 30 ส่วนผมลองใช้ Lumia 900 Stream เพลงผ่าน Bluetooth ครับ (สายที่เสียบคือกำลังชาร์ตไฟ) เสียงที่ออกมาฟังดูดีทีเดียวเนื่องจากตัวรถใช้ลำโพง JBL เรื่องเสียงนี่ต่างคนต่างความคิดครับ แต่คุณภาพเสียงของลำโพง JBL นั้นค่อนข้างรับประกันว่าดีกว่าลำโพงติดรถเดิม ๆ ทั่วไปแน่ ๆ แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 55 08:40:43 จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:40:19

ความคิดเห็นที่ 31 โดยลำโพง JBL จะมีเฉพาะ Prius รุ่น Tops Option เท่านั้นครับ จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:41:29

ความคิดเห็นที่ 32 สำหรับวันนี้คงจบเพียงเท่านี้ ขอบคุณ Toyota ที่ชวนไปทดลองแอป Smart G-Book และให้ผมลองเล่นโทรศัพท์กับ Prius ซะพรุนเลย สวัสดีครับ ^ ^ จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 08:43:15

ความคิดเห็นที่ 33 โหวตครับ โหวต อยากให้หลายคนได้ลองใช้แอพนี้ครับ ใช้ดีมากจริงๆ จากคุณ : MobMan เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 10:45:14

ความคิดเห็นที่ 34 ลำโพง jbl มีตั้งแต่รุ่น top grade แล้วครับ ส่วนฟังชั่นวิทยุมีคล้ายๆกันต่างกันเล็กน้อยแต่ไม่มี navi ครับ จากคุณ : acker_online เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 10:55:10

ความคิดเห็นที่ 35 ถูกต่อว่าประจำ เพราะตั้งค่าเลือกสารพันโน่นนี่นั่น กว่าจะได้ออกรถ จากคุณ : Pa-nin เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 12:30:51

ความคิดเห็นที่ 36 ข้อดีอีกย่างของ  Smart G-Book คือ การนำทาง เอาสภาพการจราจรมาวิเคราะห์ด้วย จากคุณ : big member เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 55 21:21:54

ความคิดเห็นที่ 37 โหวตค่ะ น่าใช้มาก ชอบตรงตัว G-Life กับ G-Road ด้วยค่ะ  ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ จากคุณ : twinkle_jay เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 55 18:59:31

ความคิดเห็นที่ 38 เจ๋งมาก น่าใช้อะ ขอบคุณมากนะคะ ^^ จากคุณ : Vintage ladies เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 00:46:14

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณท่าน จขกท. มากครับ ผมอยากรบกวนขอใช้พื้นที่นี้ เรียนแจ้งไปทาง toyota motor Thailand ครับ ว่าระบบโทรออกด้วยเสียงของ toyota prius ในรุ่น top option นั้นไม่สามารถใช้งานได้จริงครับ เมื่อเราโอนคอนแทคจากมือถือลงมาหรือเชื่อมต่อแล้ว เราสามารถกำหนดเสียงอัดด้วยเสียงเราเองให้กับเบอร์ของแต่ละคน การอัดเสียงตามเบอร์ที่ต้องการเพื่อใช้โทรออกด้วยเสียงทำได้ง่ายครับ แต่ตอนที่จะเรียกใช้ หลังจากเรากดปุ่มโทรออกด้วยเสียงที่พวงมาลัยแล้ว ระบบจะให้พูดชื่อผู้ที่ต้องการติดต่อ หลังจากพูดไปแล้ว ระบบสามารถทวนเสียงที่เราอัดไว้ ได้อย่างถูกต้องแต่ไม่สามารถหมุนเบอร์นั้นได้ดัน บอกว่าพบชื่อที่ตรงกันหลายชื่อ แล้วเอารายชื่อเหล่านั้นมาให้เลือก ทุกครั้ง เราต้องไปกดเลือก ในจออีกทีซึ่งมีจำนวนมาก ซึ่งชื่อเหล่านั้นได้อัดเสียงของใครของมันไว้แล้ว สรุปตอนทวนเสียงที่เราอัดไว้ ทวนถูกตามเสียงที่อัดไว้ แต่ไม่สามารถเอาเบอร์ที่ตรงกับเสียงที่อัดไว้นั้นหมุนออกได้ ผมคาดว่าน่าจะเป็นบัคของซอพแวร์ที่ไม่สมบูรณ์ ระบบนี้เหมือนกับในรถยุโรปพวก bmw ใช้เสียงของเจ้าของรถอัดเอง โทรออกด้วยเสียงที่อัดไว้กับเบอร์นั้นได้ และได้อย่างถูกต้อง โดยไม่ต้องละสายตาจากท้องถนน หรือต้องเอามือเอื้อมมาเลือกชื่ออื่นๆที่ไม่น่าจะแสดงออกมาทั้งที่สามารถทวนเสียงที่อัดไว้ได้ตรง รบกวนถ้าทีมงานของโตโยต้าผ่านมาเห็นช่วยแก้ไขด้วยนะครับ ผมเป็นเสียงแทนผู้ใช้พรีอุสรุ่นนี้ทุกคน จะ ได้ ใช้ รถยนต์ได้อย่างคุ้มค่าราคา และ ประสิทธิภาพครับ แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 55 06:23:33 จากคุณ : kami_hikoki (NoizY) เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 06:14:16

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ แต่ผมยังชอบ garmin มากกว่า ตอนนี้ nuvi ตัวล่างๆก็หลักสามสี่พันบาท ง่ายและคล่อง ไม่ต้องโทรหาใคร(และรอหลังโทร) interface สวยกว่า และเสถียร ข้อเสียคือ ไม่มีหน่วยช่วยเหลืออย่างที่ว่า และยังไม่ได้เอาสภาพจราจรมาช่วยคำนวณ จากคุณ : หมอเถื่อน เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 07:48:08

ความคิดเห็นที่ 41 ถ้าจะไปไหนต้องเรื่องมากขนาดต้องโทรไปก่อน แล้วรอๆๆๆกว่าข้อมูลนำทางจะมา ผมซื้อยี่ห้ออื่น จากคุณ : KapampaBlue เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 10:58:19

ความคิดเห็นที่ 42 ยังไงผมเลือก garmin อยู่ดีครับ จากคุณ : Yasaka เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 12:04:39

ความคิดเห็นที่ 43 #คห. 41 ที่ให้โทรไปหา Call center นั้นหมายถึง กรณีมีปัญหา คำศัพท์ ทับศัพท์ภาษาอังกฤษบ้าง ตัวสะกดทางด้านภาษาไทยบ้าง อะไรก็ตามแต่ที่ทำให้เราหาไม่เจอ ด้วยคำของภาษา แค่โทรไปทาง Call Center เค้าก็จะส่งข้อมูลการเดินทางมาให้เราครับ และที่บอกว่า รอๆๆๆ รอไม่เกิน 10 วินาทีครับ ผมลองดูแล้ว จากคุณ : วื้อ วึน เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 19:21:04

ความคิดเห็นที่ 44 มันมองได้สองมุมครับสำหรับการโทร คือสำหรับผมที่ใช้ GPS ค่อนข้างคล่องอยู่แล้ว การโทรไม่จำเป็นเลย (ใช้ Garmin อยู่) สำหรับ Smart G-Book ผมลองหาจุดหมายปลายทางก็เจอ แต่สำหรับคนไม่ค่อยคล่อง การโทรอาจจะช่วยได้บ้างครับ แต่อันนี้มันคงต้องแล้วแต่คนชอบล่ะมั๊งครับ บางคนก็บอกว่าดี บางคนก็บอกว่าไม่ดี เอาเป็นว่า อันไหนดี ก็เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองแล้วกันครับ ^ ^ แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 55 22:10:00 จากคุณ : Skyman (Analayo) เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 22:07:29

ความคิดเห็นที่ 45 ราคาที่ว่ามันใช้ได้ปีเดียวไม่ใช่หรือครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองเพรียว เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 55 23:55:28

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ จะลองใช้บ้าง จากคุณ : แก๊ป เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 21:28:12 A:110.169.196.43 X: TicketID:374059

ความคิดเห็นที่ 47 ทิ้งกริฟเพ่นมาออกพริอุสซะแล้ว จากคุณ : via Android (Eakiji Onisuka) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 55 21:57:48

ความคิดเห็นที่ 48 ที่จริงการโทรหาคอลเซ็นเตอร์น่าจะเป็นเพียงแค่ตัวเลือกรอง ไม่ใช่เป็นตัวเลือกหลักที่บังคับให้ผู้ใช้ต้องเลือก ส่วนมากผู้ใช้มักจะต้องการหาตำแหน่งและจุดหมายเองอยู่แล้ว ถ้าจำเป็นจริงๆก็จอดรถกดหา  ถ้าขี้เกียจหรือไม่ทราบจริงๆก็ค่อยโทรหาคนอื่น แล้วระบบคอลเซนเตอร์เตรียมการไว้ดีแค่ไหนแล้วครับ รองรับผู้ใช้จำนวนมากหรือเปล่าครับ  ผมจำความรู้สึกตอนที่โทรไปแล้วต้องรอสายเป็นเวลานาน ของคอลเซนเตอร์ในองค์กรต่างๆได้ดีน่ะครับ จากคุณ : penn's เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 55 05:41:35

ความคิดเห็นที่ 49 เอารูปกิจกรรมแรลลี่โตโยต้าพรีอุสมาฝากคะ http://www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T12825760/T12825760.html#38 จากคุณ : Vintage ladies เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 55 21:33:51

ความคิดเห็นที่ 50 สุดยอดเลยโยแต่ผู้หญิงสปีชีส์โลว์เทคอย่างคุณพี่ ตายสนิท ยากอ่ะ อิอิ จากคุณ : มาเรีย ณ ไกลบ้าน เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 55 00:27:56