 |
สกู๊ปพิเศษ: ไม่อยากให้สังคมหลงประเด็น จนประมูล3Gต้องล่ม ...แล้วคนไทยเสียโอกาสต่อไป...
|
|
ทำท่าจะกลายเป็นมหากาพย์กันไปอีกโครงการ สำหรับการประมูลเพื่อออกใบอนุญาต 3จี บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช....พลันที่สิ้นเสียงเคาะกระดานประมูล 3จี... ก็มี คลื่นแทรก
ออกมาจากหลายๆส่วนทันที
คลื่นแทรกที่ส่งออกมาแม้จะเหมือนจากต่างที่ต่างที่มา...แต่ทำไมมันสอดประสานกันเหมือนกับเตรียมตัวกันมาแล้ว....จาก ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานทีดีอาร์ไอ ที่ออกมาบอกว่าการประมูล ครั้งนี้ว่า ไม่ผิดไปจากที่คาดการณ์มาก่อนหน้านี้ว่า เป็นการจัดฉาก...และออกมาย้ำว่าราคามันได้ต่ำเกินไป...ยกตัวเลขว่ารัฐเสียหายถึง 1.6 หมื่นล้าน...ก่อนจะโดนต่อไป ให้กลุ่มเครือข่ายกรีน....องค์กรคุ้มครอง ผู้บริโภคและเครือข่าย...อะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย...ที่โดดเข้ามาร่วมวงกันพร้อมหน้า....ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้เห็นบทบาท...ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็มีอีกหลายโครงการที่เปิดประมูลแล้ว...ก็ออกมาแบบขัดความรู้สึกของสังคม...แต่ก็ยังไม่เห็นเครือข่ายนี้ออกมาทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติหรือของประชาชน....
แม้แต่กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังที่ไม่เคยจะลุกขึ้นมาปกป้องผลประโยชน์ตนเองอย่างกรณีสัญญาทำการตลาดมือถือ 3จี HSPA กสท-ทรูมูฟ ที่อนุกรรมการไต่สวนป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ก่อนหน้านี้ ว่า ขัดตัวบทกฎหมาย หลายฉบับ ที่ทำให้ภาครัฐสูญเสียประโยชน์มหาศาล พร้อมสั่งเชือดกราวรูดผู้เกี่ยวข้อง กระทรวงการคลังกลับได้แต่นั่ง เอามือซุกหีบ... แต่หนนี้ กลับโดดออกมารับลูก แถมยังยัดเยียดข้อหา ฮั้วประมูล ถึงขั้นส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ฟันกราวรูดผู้เกี่ยวข้องด้วยอีก....มันทำให้สงสัยได้ใช่ไหมล่ะ...ว่ามีเจตนาพิเศษอะไรหรือปล่าว...
เอาเป็นว่า เส้นทางวิบาก 3จีบ้านเราที่ หาวเรอ รอคอยกันมานับทศวรรษ วันนี้จ่อจะต้องเจอวิบากกรรมซ้ำรอยกันอีกหน เพราะประเด็นการประมูล 3จี วันนี้ถูกลากเข้ารกเข้าพงจนแทบลืมไปแล้วว่า เนื้อแท้ การประมูลเพื่อออกใบอนุญาต 3จีที่เราต้องการเห็นคืออะไรกันแน่ !
เราต้องการ ค่าต๋งผลประโยชน์สูงสุดเข้ารัฐ หรือประชาชน!!!
ศาสตราจารย์ ถวิล พึ่งมา อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมโทรคมนาคมของไทย...เตือนสติองค์กรและเครือข่ายต่างๆ ที่กำลัง เมามันส์กับการแห่นางแมว3จีนี้ว่า...กำลังหลงทาง เข้ารกเข้าพง กันทั้งประเทศ!
เพราะคลื่น3จีที่ว่า มีมูลค่าสูงลิ่วจะเอามาชั่งกิโลขายกันถูกๆ อย่างนี้ไม่ได้นั้น แสดงว่าผู้พูด เอาท์โลกเทคโนโลยีจริงๆ เป็นการมองตลาดโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงและสภาพตลาด เพราะในอนาคตอันใกล้ภายในปี 2558 หรือ 3 ปีจากนี้ เทคโนโลยีใหม่ LTE หรือ 4จีจะเริ่มให้บริการกันแล้ว ประเทศต่างๆ ทั่วโลกเริ่มมุ่งไปสู่คลื่น 4จีกันแล้วเริ่มทดลองใช้ 4 จีกันมา 2-3 ปีแล้ว แม้แต่ประเทศไทยเองก็เริ่มทดลองแล้วเช่นกัน
เหตุนี้คลื่น3จีที่ไทยนำออกประมูลวันนี้ เอกชนที่ได้ไปต้องรีบเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ให้ทันใน 3-4 ปีนี้เท่านั้น หากคืนทุนไม่ได้ก็เจ๊งเข้าเนื้อแน่นอน และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่เหตุใด 2 ค่ายยักษ์ ดีแทค-ทรูมูฟ ถึงได้แสดงพฤติกรรมที่ส่อ ฮั้วประมูลไม่ยอมเคาะราคาต่อสู้ให้สมศักดิ์ศรี
หากเป็นเมื่อ 8-10 ปีก่อนหละใช่แน่ แต่วันนี้มันไม่ใช่แล้ว คลื่นที่สามารถจะนำไปแสวงหาประโยชน์ได้แค่ 3-4 ปีจากนี้ ย่อมไม่คุ้มที่จะทุ่มเม็ดเงินเป็นพันๆ ล้านไปช่วงชิงมา ตลาด 3จีนี้หากไม่สามารถคืนทุนได้ภายใน 3 ปีก็มีแต่เจ๊งเท่านั้น ยิ่งโอกาสที่จะแสวงหากำไรจากการประกอบการไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเดิมเก็บค่าบริการเสียง (Voice) ได้ถึงนาทีละ 9 บาทแต่วันนี้คิดค่าบริการได้เพียง 0.99 บาทเท่านั้น
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมค่ายมือถือเหล่านี้ถึงกดราคาประมูลชนิดที่ ค้านสายตาคนเชียร์ กันได้
ยิ่งหากทุกฝ่ายได้เห็นเบื้องหลังการประมูลครั้งนี้ จะยิ่ง อึ้งกิมกี่ ยิ่งกว่านี้อีก เพราะ ดีแทค นั้นตั้งใจจะเสนอประมูลแค่ 1-2 สลอตเท่านั้น จนถึงขนาดที่ตัวแทนผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้เข้าไปนั่งกำกับผู้บริหารอย่าง จอน เอ็ดดี้ อับดูลลาห์ ตีกันไม่ให้ผู้บริหารเผลอมือไปเคาะราคาด้วยซ้ำไป
ทำไมน่ะหรือ?
เพราะดีแทคเพิ่งจะลงทุนกว่า 4 หมื่นล้านยกเครื่องเน็ตเวิร์กใหม่รองรับ 3จีบนคลื่นความถี่เดิม (ไอ้ที่ สวอปเน็ตเวิร์กแล้วล่มซ้ำซากนั่นแหละ) และยังเหลือสัมปทานอยู่อีก 7-8 ปีแถมยังเหลือคลื่น 1800 อยู่ในมือที่ยังไม่ได้นำออกมาใช้อีกกว่า 24 MHz
เขาจะเอาคลื่น3จีนี้ไปทำซากอะไรในเมื่ออีก 1-2 ปีข้างหน้าคลื่นใหม่ 4 จีและ 5 จีกำลังจ่อคิวจะมาอยู่แล้ว แต่เพราะถูกสังคมบีบจนหน้าเขียว ถ้าไม่มีคลื่น3จีมาโชว์ลูกค้าก็อาจถูกบีบให้ย้ายค่าย เราจึงได้เห็นข้อเสนอ หลุดโลกประมูลไปอย่างเสียไม่ได้...
ส่วนทรูมูฟนั้น ยิ่งแล้วใหญ่ เพิ่งทำสัญญา3จี HSPA กับกสท ไปไม่ถึง 2 ปี ต้องลงทุนไปกว่า 4 หมื่นล้านแบงก์ใหญ่ 4 แห่งที่ปล่อยกู้ให้วันนี้ยังนั่งหายใจไม่ทั่วท้องอยู่เลย กลับจะต้องมาควักค่าต๋งเป็นหมื่นล้านเป็นเงิน กินเปล่า เพื่อคลื่น 3จีนี้อีก ยังไม่นับที่จะต้องลงทุนเพิ่มอีก 30,000-50,000 ล้านบาท ที่รู้ทั้งรู้ว่าหากินไปได้อีกแค่ 3-5 ปีก็หมดน้ำผึ้งแล้ว ค่ายทรูจึงเข้าประมูลอย่างเสียไม่ได้เช่นกัน
จึงเหลืออยู่เพียงค่าย เอไอเอส ที่ยังพอมีทุนเต็มหน้าตักและพร้อมจะทุ่มทุนเพื่อ ตีตั๋ว 3จีนี้มาให้ได้ ด้วยไม่มีทางเลือกอื่นรองรับ เราจึงได้เห็นเอไอเอสเคาะโต๊ะ 3จีอย่าง เมามันส์ อยู่เจ้าเดียว ทั้งที่ราคาที่เคาะนั้นแค่เคาะไปครั้งเดียว บวกจากราคาตั้งต้นไปแค่ 225 ล้านก็ชนะขาดลอยแล้ว เพราะรายอื่นยังไงก็ไม่เอาด้วย
แน่นอน! พูดอย่างนี้คงมีนักวิชาการ (บางคน)โต้แย้งว่า นี่มันฮั้วชัดๆ ทำไมเขาจะไม่อยากได้คลื่น 3จี ในเมื่อของเดิมระบบสัมปทานนั้น เขาต้องจ่ายค่าต๋งให้รัฐตั้ง 25-30% แถมยังไม่ได้เป็นเจ้าของโครงข่าย และทรัพย์สินที่ลงทุนไปอีก แต่นี่จ่ายค่าต๋งประมูลแค่ 13,500 ล้านบวกกับค่าธรรมเนียมรายปีราว 6.5% ใครมันจะโง่ไม่รีบชิงดำตีตั๋วใบอนุญาต3จีใหม่
แต่ก็อย่างที่กล่าวไปตั้งแต่ต้น ทั้ง ดีแทค-ทรูมูฟ พร้อมจะ ตีโง่ ทิ้งคลื่นเจ้ากรรมที่คนไทยบูชากันอย่างกับบร๊ะเจ้านี้ อย่างที่ทุกฝ่าย ตราหน้ากันนั่นแหละ เขายินดีกอดเสา 2จีเดิมหรือ 3จี HSPA เพื่อรอประมูลคลื่น 4 และ 5 จีใหม่ที่ยังไงซะไม่เกิน 1-2 ปี จากนี้ กสทช.ก็ต้องนำออกมาประมูล
หากทุกฝ่ายตั้งสติดีๆพิจารณากันอย่างถ่องแท้...คงจะเกิดคำถามในมุมอื่นๆออกมา...เช่น ในเมื่อเชื่อกันว่า...กสทช.ตั้งราคาประมูลคลื่น 3จีไว้ต่ำเกินไป... เหตุใดเจ้าสัวเจริญ กลุ่มทุนไทยที่ได้ชื่อว่าพร้อมจะลุย ฮุบทุกธุรกิจที่ขวางหน้า แถมยังมีทุนหนาระดับแสนล้าน ที่สามารถต่อกรกับยักษ์ใหญ่เบียร์ไฮเนเก้นเพื่อเทคโอเวอร์ F&N หรือ อย่างกลุ่มสามารถ จัสมิน ทริปเปิ้ลทรี ที่ก็ล้วนมีศักยภาพไม่แพ้ 3 ยักษ์สื่อสารนี้
หากจะเข้าร่วมประมูลแล้ว ทุกรายล้วนผ่านเกณฑ์ข้อเสนอได้หมด ยิ่งกับ เจ้าสัวเจริญด้วยแล้วที่กล่าวได้ว่าพร้อม ฮุบ ทุกธุรกิจ แถมยังมีกุนซือใหญ่ที่ชื่อ บุญคลี ปลั่งศิริ อยู่ข้างกาย ทำไมเขาถึงไม่เอาด้วย หากคลื่น3จีนี้ คือ ขุมทรัพย์แสนล้าน!
นั่นเพราะ ทุกฝ่ายรู้กันอยู่เต็มอก มันไม่ใช่เค้กก้อนยักษ์ที่ใครก็เข้ามาเล่นได้ หากไม่มีฐานลูกค้าเดิมอยู่....
ในต่างประเทศเขาถึงไล่แจกไลเซ่นส์ 3จีกันเป็นว่าเล่นไง จะจีน ญี่ปุ่น ลาว เขมรเวียดนามเขาแจกตรงไปยังผู้ประกอบการ รายเดิม ล้วนๆ ส่วนที่อังกฤษและยุโรปนั้น เขาประมูลกันก็จริงแต่ก็ไม่ได้สูงส่งระดับหมื่นล้าน แสนล้านอย่างที่เราเข้าใจกัน แค่ระดับร้อยล้าน หรือ สูงสุดก็แค่ระดับ 4-5 พันล้านบาทเท่านั้น จะมีก็แต่เยอรมนี ที่เคยประมูลกันสูงถึง 3 แสนล้าน แต่ก็เจ๊งไม่เป็นท่าในอีก 2-3 ปีให้หลัง
ส่วนเมืองไทยเรานั้น ไอ้ที่ประมูลให้สัมปทานแก่รัฐกันเป็นแสนล้าน และสูงถึง 3.5 แสนล้านก็มีเช่นกันสัมปทานโทรศัพท์พื้นฐานภูธร 1.5 ล้านเลขหมายนั่นไง แต่นัยว่าพะงาบๆ มา 10 กว่าปีแล้วไม่รู้ตอนนี้ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้หรือยัง และไม่รู้กระทรวงการคลังเคยเข้าไปตรวจสอบทวงถามค่าต๋งแสนล้านในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ทีโอทีบ้างหรือไม่
เราไม่ควรมองแต่เรื่องของเงินประมูลจนหลงทาง แต่ควรมองในเรื่องการขยายเครือข่าย เน็ตเวิร์ก เป็นหลัก รัฐไม่จำเป็นต้องเรียกเก็บค่าสัมปทานเพื่อให้เอกชนมีเงินไปลงทุนขยายเครือข่ายให้มากที่สุด ลงทุนได้เป็นแสนล้านยิ่งดี ถึงเวลานั้น ทั้ง กสทช.และรัฐจะได้ประโยชน์กลับมามากกว่าเงินกินเปล่านี้
เพราะหากทั้ง 3 ค่ายขยายเครือข่ายได้สมบูรณ์แบบ ตลาดมีการแข่งขันกันสมบูรณ์ แค่ลูกค้าผู้ใช้บริการ 20 ล้านคน ใช้บริการวันละ 20 บาท/คน ก็มีเงินสะพัด 400 ล้านบาท/วันแล้ว กสทช.จะได้ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บ 6.5% ของรายได้สุทธิ รัฐเองก็ได้ภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต)7% รวมแล้ว 13.5% ของรายได้แล้ว แทนที่จะรีบถอนขนห่าน น่าจะปล่อยให้ห่านมีขนขึ้นมาเสียก่อนแล้วค่อยถอน
แต่หากสังคมบีบให้บริษัทสื่อสารเหล่านี้จ่ายค่าต๋ง กินเปล่า กันเป็นหมื่นล้านให้รัฐ โดยที่ยังไม่รู้อนาคตเลยว่า ประกอบการไปแล้วจะไปรอดหรือไม่ ใครมันอยากจะเสี่ยง ก็ขนาดทรูมูฟป่าวประกาศทรูมูฟ H 3G+ อยู่ทุกวี่วันลูกค้าในระบบเดิมก็ใช่จะย้ายค่ายไปซบอกกันเป็นบ้าเป็นหลัง จนทะลักล้นอย่างที่ตั้งธงกันไว้
จ่ายค่าต๋งไปเป็นหมื่นล้านแล้วต้องมานั่งลุ้นว่าจะไปรอดหรือไม่ จะหากินไปได้อีกกี่ปี ฝรั่งเขาถึงไม่เอาด้วยไงครับ สู้กอดของเดิมเอาไว้ก่อนชัวร์ๆ ไม่ดีกว่าหรือ?รอให้ฟ้าสาง ตลาด 4 และ 5 จีที่กำลังจะเข้ามาชัดเจนก่อนถึงเวลานั้นเชื่อเถอะทุกค่ายเอาด้วยแน่
แต่เวลานี้แค่ลุ้นให้ 3 รายที่จะได้ใบอนุญาตไปนี้หอบเงินมาลงทุนให้ได้ก่อนเถอะ 30,000-50,000 ล้านบาท ตามราคาคุยนะแค่นี้ก็หืดจับแล้ว!!!
Credit: www.naewna.com
จากคุณ |
:
เด็กชายชิโร่คุง
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ต.ค. 55 07:34:10
|
|
|
|  |