ความคิดเห็นที่ 1 พูดเรื่องระบบการศึกษาแล้วปี๊ดดดดดดดดด ส่วนใหญ่ ห่วยค่ะ แต่มันก็ไม่เชิงว่าไม่มีระบบเอ็น เพียงแต่เปลี่ยนเป็นการสอบ Onet Anet ตรงส่วนนี้เราว่าดี แต่การที่มหาลัยส่วนใหญ่จะรับเด็กเอง ไม่ผ่านสกอ. ทำให้เด็กต้องวิ่งไปสอบทุกคณะที่อยากเรียนเนี่ยมันยังใช้ไม่ได้กับเมืองไทย เพราะง่ายๆเลยว่าเด็กจนๆแต่เรียนเก่งหมดสิทธิ์ เพราะค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งสูงมากทั้งค่าสอบ ค่าเดินทาง แต่ถ้าถามว่าสอบติดแล้วคุ้มมั๊ย คุ้มค่ะ เพียงแต่กว่าจะรู้ผลว่าติดที่ไหนแล้ว ก็ต้องวิ่งไปสอบหลายที่ หลายคณะ มันทำให้ต้นทุนทางสังคมสูงขึ้นมากเลย แล้วการที่ใช้GPA GPAXเยอะๆนั้นมันมีผลต่อการเรียนการสอนมาก เด็กจะเห็นแก่ตัวขึ้น ซุ่ม รู้แนวข้อสอบก็ไม่บอก ไม่ช่วยกันติว เด็กอายุสิบกว่าๆ แต่ก็จะมารยาใส่กันเหมือนเด็กมหาลัย(เฉพาะเรื่องเรียนนะ)   อาจารย์มีช่องทางหากินได้อีก สอนพิเศษบอกข้อสอบ(ครูจะได้ปลดหนี้เอาเงินไปส่งดอก) ใครติดศูนย์ไปถางหญ้าบ้านครู ซื้อข้าวมาฝากด้วย เมื่อก่อนโรงเรียนเราใช้ระบบห้องคิง ใครเกรดตก ก็ตกห้องคิง ทำให้เด็กเป็นโรคซึมเศร้าไปประมาณ2%เฉพาะที่แสดงอาการนะ โรงเรียนเลยยกเลิก แต่ตอนนี้ไม่รู้เป็นไงบ้าง จากคุณ : นิราศดานัง - [ 4 ม.ค. 49 23:14:11 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณมากครับ สำหรับคุณนิราศดานัง ที่มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณครับ แต่พูดถึงการเอ็นทรานซ์ระบบเดิมมันแย่ตรงที่ เด็กที่ไม่ตั้งใจเรียนมาตลอดช่วงม.ปลาย พอใกล้จะเอ็นทรานซ์ค่อยมาขยันแล้วสอบติดเช่นนี้ คุณนิราศดานังคิดว่าดีหรือไม่ เพียงใดครับ? จากคุณ : ริวเชย์ - [ 4 ม.ค. 49 23:22:37 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ระบบมันยังไม่ได้รับการพิสูจน์นะครับ คงต้องรอให้ผ่านไปซักครั้งถึงจะพูดได้เต็มปาก แต่โดยส่วนตัวที่ผ่านระบบเอนท์ 2 ครั้งต่อปีมา มีความเห็นว่าระบบนี้กับระบบเดิมก็ไม่มีความแตกต่างคือ "ทำให้เด็กเรียนแล้วไม่มีความสุข" เพราะเอาคะแนนในห้องเรียน ที่มันไม่เป็นมาตรฐานเป็นตัวชี้วัดอนาคตของเด็กในอีก 4 ปีข้างหน้า จากคุณ : icyZ - [ 4 ม.ค. 49 23:23:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แย่มาก เป็นการปลูกฝังให้เด็กเห็นแก่ตัวเลิกเห็นใจที่จะช่วยเพื่อนร่วมชั้น เอาแต่ตัวเองให้รอดเป็นพอ จากคุณ : โบกโบยบิน ใต้เงาฝัน - [ 4 ม.ค. 49 23:33:15 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แบบรุ่นผมซิ สอบอย่างเดียว ไม่ประกาศคะแนน ส่องเทียนหาชื่อตัวเอง มันมาก จากคุณ : siwarut - [ 4 ม.ค. 49 23:37:31 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่านะครับการคำเลือกแบบนี้มันก็ดีนะ แต่ว่ามาตรฐานโรงเรียนมันไม่เหมือนกัน ยังไงก็ขอให้พิจารณาเรื่องนี้อีกทีนะคับ จากคุณ : เอ็มเด็กดี (เอ็มเด็กดี) - [ 4 ม.ค. 49 23:42:00 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณริวเชย์ค่ะ เอ็นท์ระบบเดิมเนี่ย เดิมขนาดไหนคะ มันเปลี่ยนมา2รอบแล้วนะ 1 ตอนแรกก็แบบที่คุณsiwarutบอกคือเซอร์ไพส์ทีเดียวตอนส่องเทียน ไม่รู้ว่าระหว่างชื่อตัวเองกับผีจะเจออันไหนก่อน 2 แล้วก็มาเป็นเอ็นท์แบบใช้ GPA PRอย่างละ 5% สอบ2ครั้ง รู้คะแนนก่อน แล้วค่อยเลือก 3 และก็แบบปีนี้ เป็นแบบเกาเหลา มั่วชิบ เราคิดว่าใช้เกรด10-20% ก็พอ เพราะแต่ละโรงเรียนมาตรฐานต่างกัน ซึ่งรัฐก็ต้องพยายามทำให้มันเท่าเทียมกันทั่วประเทศ ที่เหลือก็สอบแบบที่ 2 คือสอบสองครั้ง เพื่อลดความกดดันของเด็กด้วย ระยะห่าง 1 เทอม (แบบที่3 ระยะห่าง2วัน) รู้มั๊ยทำไมรมต.ศธ.ถึงอยู่กันไม่ค่อยนาน . . . เพราะเด็กมันอ่านหนังสือไปสาปแช่งกันไป หึ หึ จากคุณ : นิราศดานัง - [ 4 ม.ค. 49 23:56:17 ]

ความคิดเห็นที่ 8 การศึกษานี่ปัญหามานเยอะจริงๆ จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 5 ม.ค. 49 00:36:31 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่าการศึกษาเมืองไทยไม่มีทางเลือกมากสำหรับเด็กนะครับ เด็กบางคนจำเป็นต้องเรียนสิ่งที่ไม่จำเป็นสำหรับทางเดินของเขา เช่นยกจะสถานการ์ของผมนะครับ ผมจะเข้าวิทย์คอม แต่ม.ปลายเรียนออฟฟิศ แต่กลับเจาะลึกเคมี-ชีวะ ซึ่งไม่จำเป็นเลย หรือบางคณะก้รับเด็กไม่ดูความถนัด เอาตามกระเเสไปงั้นๆ เช่นวิทย์คอม แต่ไม่มีสอบความถนัดด้านคอมเลยซะวิชา ไม่มีข้อสอบด้านนี้สักข้อ จากคุณ : Feniz - [ 5 ม.ค. 49 00:46:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่เห็นว่าระบบที่ใช้หรือกำลังจะใช้จะเป็นคุณกับระบบการศึกษาไทยตรงไหนในทางกลับกันกลับเห็นและได้ยินแต่ปัญหามาตลอด - ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปล่อยเกรด อย่างน่าเกลียด - ความเครียดสะสมที่มากกว่าเดิมมากเพราะต้องเกรดไม่ตก ข่าวเด็กฆ่าตัวตายเพราะได้เกรดไม่ดีก็มาจากกลัวว่าเกรดไม่ดีจะไม่มีปัญญาเข้าคณะที่ต้องการได้ - คตวามเน่าสะสมไปสู่ระดับมหาวิทยาลัย เพราะนักศึกษาที่เข้าไปเรียนมีคนไม่มีคุณภาพมากกว่าเดิม ไปถามเถอะมหาวิทยาลัยไหนก็ได้ คุณภาพตกลงมาก ส่วนข้อเน่าเสียอื่นๆ ข้างบนคุณนิราศดานังเขียนไว้นะชัดแล้ว ส่วนตัวชอบระบบสอบครั้งเดียวจบรู้เรื่องเลย ไม่พอใจก็ไปสอบอีกปี จากคุณ : นายเบียร์ - [ 5 ม.ค. 49 00:50:38 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แต่แบบที่ทำข้อสอบรั่วไหล  จนเกิดผลประโยชน์ต่อลูกหลานตัวเอง  อันนี้ไม่เอานะครับ คนไทยต้องเท่าเทียมกัน จากคุณ : ขุนพลลิโป้ - [ 5 ม.ค. 49 01:21:30 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เปลี่ยนตามรัฐบาลครับ ไม่งั้นไม่มีผลงาน จากคุณ : หมาดำช้ำรัก - [ 5 ม.ค. 49 02:48:59 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณริวเซย์ครับ ผมว่าที่คุณว่า ถ้าขยันมาตลอด โอกาสที่จะสอบได้ก็มีมากครับ แต่ถ้าพลาดมันก็เป็นเรื่องเป็นไปได้ นักกีฬาซ้อมมาตลอดก็แพ้ได้ ไม่ใช่เพราะคู่แข่งเก่งกว่าอย่างเดียว แต่มันเป็นจังหวะชีวิต ถ้าอย่างนั้นทำไมคนที่ขยันมาตลอก เกรดดี ถึงตกงาน ซุ่มอ่านหนังสือ เกรดดีมันก็เท่านั้น ถ้าทำงานไม่เป็น เข้าสังคมไม่ได้ การทำงานมันวัดที่ผลของงานครับ โลกความจริงมันเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ว่ามีแต่ในตำรา แล้วต้องไปอุ้มเด็กที่ขยันอย่างเดียว เด็กบางคนอาจจะฉลาดกว่า เรียนแค่เข้าใจ ไม่ต้องเกรดสูงมาก แล้วเอาเวลาที่เหลือ ไปเรียนรู้โลก ทำกิจกรรม ผมว่าดีกว่าอีก จริงๆแล้ว ผมว่าสอบแข่งไปเลย คุณจะอ่านวันละ 2 ชั่วโมง หรือ 24 ชั่วโมง จะขยันทำการบ้านโง่ๆที่ครูยัดเยียดให้ หรือไม่ทำ ก็มาสู้กันแบบแฟร์ๆเลย เพราะวิธีการเรียนรู้มันมีหลายวิธี ไม่ใช่มีแต่วิธีทำเกรดให้สูงอย่างเดียว จากคุณ : ยอดมือปราบ - [ 5 ม.ค. 49 08:59:34 ]

ความคิดเห็นที่ 14 #2 ของคุณริวเชย์ ถ้าเพิ่งมาขยันตอนใกล้สอบเนี่ย ไม่มีใครได้ดีหรอกคะ เพราะความรู้ไม่แน่น แต่อาจได้ข้อสอบที่เข้าทางก็เป็นไปได้ ส่วนเด็กบางคนขยันมาตลอด แต่วันสอบจริงเกิดป่วย ท้องเสีย แม่ตาย ก็ซวยสิคะ อนาคตก็จบเลย ดังนั้นแค่ให้น้ำหนัก ของแต่ละส่วนให้เหมาะสมดีกว่า แล้วก็ควรจัดทดสอบความถนัดของแต่ละคณะให้มากกว่านี้ เช่นคอมฯ ที่ไม่มีการสอบเลย แต่ตอนนี้ความถนัดทาง แพทย์ ทันตะ ก็มีแล้ว ค่อยๆทำ เบรนด์สตรอมกันมากๆ # 11 คุณขุนพลลิโป้  รู้ป่าวคะ ว่าเด็กคนนั้นพอเข้าเรียน ที่จุฬาแล้วเค้าได้TOPLESS หลายวิชามากเลย #13 เห็นด้วยกับคุณยอดมือปราบ  มากมายเลยคะ แต่ขอเสริมว่า การเรียนรู้โลกภายนอก ไม่มีเกณฑ์การ ตัดสินที่ใช้อ้างอิงได้ค่ะ เมืองไทยเลยเน้นทางวิชาการอย่างเดียว จากคุณ : นิราศดานัง - [ 5 ม.ค. 49 15:49:41 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แบบดั้งเดิมที่สอบทีเดียวเลิก ดีที่สุดแล้ว ถ้าจะให้มีเปอร์เซ็นต์ติด ก็พิจารณาเอาคะแนนตอนเรียนในชั้นมา 10% พอ   ระบบล่าสุด   ต้องทดสอบกันไปก่อน แต่ในความเห็นส่วนตัว  ยอมรับว่า ไม่เวิร์ก จากคุณ : ดาราวิปลาส - [ 10 ม.ค. 49 15:34:33 ]