ความคิดเห็นที่ 1 แถมสุดหล่อคนนี้อีกคนนั่งคู่กะ สุทัด เงินหลายหมื่น จากคุณ : สนิทสนมกันดี (มีใครไทยแลนด์) - [ 6 ม.ค. 49 18:21:14 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่มีทาง ตามนโยบายขจัดศัตรูทางการเมืองของรัฐบาล จากคุณ : devware - [ 6 ม.ค. 49 18:27:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ศาลพิพากษาหนักสุดในคดีฮั้ว ให้จำคุก'ประชา โพธิพิพิธ'5ปี ส่วนภรรยากับพวกจำคุกคนละ 4 ปี ที่ศาลอาญา ถนนรัชดา วันนี้ ศาลอาญามีคำพิพากษาคดี ที่พนักงานอัยการ ฝ่ายคดีพิเศษ2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายประชา โพธิพิพิธ หรือกำนันเซี๊ยะ อดีตส.ส.กาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ นางเขมพร ต่างใจเย็น ภรรยานายประชา นางสาว วรรณา ล้อไพบูลย์ เลขานุการของนางเขมพร และนายถวิล สวัสดี เลขานุการส่วนตัวของนายประชา ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1 ถึง 4 ในความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ หน่วงเหนี่ยวกักขัง ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 6 ม.ค. 49 18:30:39 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคมหาชน กล่าวว่า หากพรรคได้สส.1ที่นั่ง ตามที่โพลระบุจะยอมยุบพรรคทันที และถ้าผลการเลือกตั้งออกมาแล้วเป็นอย่างที่ว่า จะเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อลงมติยุบพรรคทันที ส่วนส.ส.ที่ได้มาจะยกให้พรรคประชาธิปัตย์ จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 6 ม.ค. 49 18:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สุทัศน์ เงินหมื่นใกล้ตายแล้ว ติดหนี้ที่สิงค์โปร์ บานตะไท ขายกิจการมาใช้หนี้แล้วก็ยังใช้ไม่หมดเลย จากคุณ : นิราศดานัง - [ 6 ม.ค. 49 19:30:15 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มี คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้นายทศพร เทพบุตร สามีนางอัญชลี วานิช เทพบุตร นายก อบจ.ภูเก็ต ให้ออกจากพื้นที่ สปก. 4-01 บริเวณหาดนุ้ย เทือกเขานาคเกิด ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต เนื้อที่ 98 ไร่เศษ กระทั่งรายสุดท้ายคือนายบุ่นเก้ง ศรีแสนสุชาติ ซึ่งแต่ละคนล้วนเป็นผู้มีชื่อเสียงของจังหวัดภูเก็ตทั้งสิ้น จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 6 ม.ค. 49 19:30:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ฉาวหนัก'สหโกง'ปชป. ดูดงบ 15 ล้านทำสหกรณ์ สมาชิกพวกพ้องฟันกำไร (ไทยโพสต์ 6 ต.ค. 43) สหกรณ์-สหโกง ส.ส.ประชาธิปัตย์เอา งบประมาณแผ่นดิน 115 ล้านบาทไปลงทุนทำสหกรณ์ สุราษฎร์ธานี แสวงหาผลกำไร ให้สมาชิกซึ่งเป็น พ่อค้านักธุรกิจ นักการเมือง สหกรณ์สุราษฎร์ธานี จำกัด   นอกจากจะตกเป็นข่าวอื้อฉาว เนื่องจากพบว่ามีรัฐมนตรีหลายคน ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีลงมาเข้าไปถือหุ้นแล้ว   เอกสารรายงานการดำเนินการของสหกรณ์ดังกล่าวยังพบความไม่ชอบมาพากล ในการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินผ่าน ส.ส.สุราษฎร์ธานี ของนายบัญญัติ บรรทัดฐาน, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ, นายชุมพล  กาญจนะ, นางนิภา พริ้งศุลกะ, นายประวิช นิลวัชรมณี และนายธวัช วิชัยดิษฐ ที่ผูกขาดเป็น ส.ส.มาโดยตลอดจนปัจจุบัน ยกเว้นนายธวัชที่เสียชีวิตไปแล้ว ตามเอกสารรายงานของสหกรณ์พบว่า สหกรณ์สุราษฎร์ธานี เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2539   โดยมีสมาชิกแรกตั้ง 173 คน ถือหุ้น 17,600 หุ้น หุ้นละ 10 บาท หรือก่อตั้งด้วยเงินเพียง 1.7 แสนบาทเท่า นั้น แต่เพียง 4 ปีกลับมีสินทรัพย์ถึง 608,905,915 บาท   เป็นทุนเรือนหุ้น 191,256,010  บาท จากสมาชิก 11,865 คน   โดยผู้ถือหุ้นจำนวนมาก ได้แก่ นายวัฒนา อัศวเหม 10  ล้านบาท, นางราศรี บัวเลิศ 15 ล้านบาท, นายสนธยา คุณปลื้ม 3 ล้านบาท, นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ฯลฯ.......... จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 6 ม.ค. 49 19:40:18 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ต้องแต่งเพลง น้ำตา เสธ เข้ ซะแร้ว.. จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 6 ม.ค. 49 19:56:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์              นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปี 2536-37 กำลังจะถูกหมายเรียกตัวในข้อหาพัวพันทุจริตการขายยางพารา และยังมีอดีตรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายชัชวาลย์ สุกิจจวนิช ที่ถูกหมายจับไปก่อนหน้านี้แล้ว และอยู่ระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ พ่วงเข้ามาด้วย ปมที่กรณี คาเน่ เทรดดิ้ง เกี่ยวข้องก็คือ        เป็นบริษัทที่ถูกสร้างขึ้นมาบังหน้าการซื้อขาย หรือที่เรียกว่า บริษัทกระดาษ หรือ Paper Company              การตรวจสอบพบตามเอกสารสัญญาซื้อขายที่บอกว่า บริษัทตั้งอยู่ที่แฟลต บี. ชั้น 4 อาคารการ์เด้นแมนชั่น เลขที่ 154-156 ถนนออสติน เกาลูน ฮ่องกง แม้จริงแล้วไม่มีอยู่จริง              เมื่อไม่มีอยู่จริงก็ย้อนมาดูที่สัญญาซื้อขาย              พบว่า ไม่มีการเปิด L/C โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารโดยตรง แต่มอบหมายให้ บริษัทค้ายางในประเทศไทย คือ ทองไทยรับเบอร์ เป็นผู้ดำเนินการแทนทั้งหมดรวมถึงการขนสินค้าลงเรือ              และเมื่อย้อนไปดูที่ระเบียบปฏิบัติ พบว่า มีมติครม.ไม่ให้ขายยางพาราตามโครงการแทรกแซงให้กับบริษัทค้ายางในประเทศไทย เพราะเกรงว่าจะรอซื้อราคาถูกจากยางในสต๊อกที่รัฐเก็บไว้ให้ ไม่ยอมไปไล่ซื้อจากรายย่อยในตลาดจริง              ข้อสังเกตที่ว่า เอื้อให้เอกชนไทยรายหนึ่งซื้อยางถูกโดยผิดระเบียบโดยนิติกรรมอำพรางก็เกิดขึ้น              และสุดท้ายให้สังเกตวันที่ทำสัญญาซื้อขายล็อตสุดท้าย 20 มกราคม 2537 ให้ดี              เพราะนี่เป็นการทำสัญญาหลังจากคณะของนายจุรินทร์ และนายชัชวาลย์ เดินทางไปเจรจาซื้อขายยางกับ บริษัทฉางอัน ที่เมืองไทเป ไต้หวัน กำหนดเดินทาง 14-18 มกราคม 2537              ใครกลับมาเมืองไทย ใครแวะฮ่องกงเพื่อเจรจาความกับบริษัทกระดาษที่ไม่มีตัวตน หนังสือบันทึกของตรวจคนเข้าเมืองได้บันทึกเอาไว้ !!? http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=4564675881265 แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 49 20:02:32 จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 6 ม.ค. 49 20:01:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ภาวะปั่นป่วน วุ่นวาย ภายหลังจากถาวร เสนเนียม แถลงทฤษฎี CHAOS จากมติชนรายวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2546 น่ายินดีที่นายอรรคพล สรสุชาติ รีบออกมา brake นายถาวรเสนเนียม ในเรื่องการนำเสนอ Chaos Theory หรือที่รู้จักกันในวงไม่กว้างนักจากหนังสือ "ทฤษฎีไร้ระเบียบ" ของ ชัยวัฒน์ ถิระพันธุ์ น่ายินดีเพราะว่า หากใครก็ตามที่ศึกษาถ้อยคำและการให้สัมภาษณ์ของ นายถาวร เสนเนียมที่ว่า "พรรคประชาธิปัตย์จะใช้ยุทธศาสตร์ Chaos Theory หริอยุทธศาสตร์การสร้างความสับสน วุ่นวาย" รวมถึงปรากฏผ่าน รายงานข่าว แจ้งว่า ในการสัมมนาของพรรคประชาธิปัตย์ที่จ.เชียงราย สมาชิกส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการใช้ "ทฤษฎีเคออส" เป็นยุทธศาสตร์ทางการเมืองในการต่อสู้กับพรรคไทยรักไทย ทฤษฎีนี้เป็นการเสนอจาก "กลุ่มสนามบินน้ำ" โดยมีรายละเอียด คือ เน้นสร้างความวุ่นวานให้เกิดขึ้นในสังคม โดยใช้เงื่อนไขการทุจริตของรัฐบาลที่ทำให้ประชาชนเกิดความเบื่อหน่าย จนกระทั่งเกลียดชังรัฐบาล และนำไปสู่การล้มรัฐบาลในที่สุด (ผู้จัดการ 1 กรกฎาคม) ก็ไม่แน่ว่าความเข้าใจต่อสิ่งที่เรียกว่า "ทฤษฎีเคออส" ของ นายถาวร เสนเนียม และของสภาพที่ระบุว่า "สมาชิกส่วนใหญ่" ถูกต้องและตรงกับความเป็นจริงหรือไม่ เรื่องรายละเอียดอ่อนระดับนี้จะไม่ brake ก็คงไม่ได้แล้ว ในความเป็นจริง ความพยายามเสนอทฤษฎี Chaos ของ ชัยวัฒน์ ถิระพันธุ์ และหรือการนำมาประสานเข้ากับหลักแห่งอนิจจังของ ยุค ศรีอาริยะ เสมอเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่ง ทางหนึ่งเพื่อทำความเข้าใจต่อสภาพของระบบโลก ระบบสังคม ขณะเดียวกัน ทางหนึ่งเพื่อที่จะให้การทำหน้าที่ในการอธิบายสภาพความเป็นจริงของโลกและของสังคมดำเนินไปอย่างใกล้เคียงกับสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ดำรงอยู่และดำเนินไป แปลกอย่างยิ่งที่ นายถาวร เสนเนียม คิดจะนำเอาทฤษฎี Chaos มาเป็นเครื่องมือในลักษณะที่เป็น อาวุธ เพื่อนำไปสู่การทำความเข้าต่อกระบวนการภายในของรัฐบาลและของพรรคไทยรักไทย แล้วนำเอากระบวนการเหล่านั้นมาสร้างเงื่อนไขที่สั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาล ลำพังการประสานทฤษฎีที่ใช้ การศึกษาฐานความรู้ เป็นธงนำเพื่อสร้างยุทธศาสตร์ในรูปของนโยลายใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ ก็เป็นเรื่องยากลำบากอย่างยิ่งของการแปรนามธรรมเป็นรูปธรรม แปรความคิดเป็นการปฏิบัติ ความพยายามที่จะแปรทฤษฎี Chaos มาเป็น อาวุธ ในทางการเมืองยิ่งจะเป็นเรื่องยากลำบากยิ่งกว่า เว้นแต่นายถาวร เสนเนียม จะเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนในทฤษฎี Chaos เท่านั้น นั้นก็คือ นายถาวร เสนเนียม เคยได้ยินคำว่า ทฤษฎีสร้างความสับสน หลุดออกมาจากปากของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อนักข่าวถามถึงกระบวนการจัดการต่อปัญหาความขัดแย้งในพรรคไทยรักไทย นั่นก็คือ มีีความพยายามจะโยงให้เห็นว่า พรรคไทยรักไทยนำเอาภาวะสับสนมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในแต่ละโครงการอย่างไร เป็นการโยงในลักษณะที่เรียกว่า โยงแบบจิตวิสัย นั่นก็คือ คิดเอาเอง สรุปเอาเอง โดยที่เป็นการอ้างอิงข้อมูลบนพื้นฐานอย่างที่เรียกว่า ทฤษฎีสมคบคิด หรือ Conspiracy อย่างที่นิยมจับแพะชนแกะกันในสังคมตะวันตก เช่น จับแพะชนแกะเรื่อง เอลวิส เพรสลีย์ ยังไม่ตาย หรือจับแพะชนแกะเรื่องความสัมพันธ์อันสับสนระหว่าง มาริลีน มอนโร กับคนในตระกูลเคนเนดี้ และเลเพลาดไปถึง แฟรงก์ สินาตรา เรื่องอย่างนี้เมื่อนำเสนออาจมากด้วยสีสัน แต่จะทำให้คนเชื่อได้หรือไม่ ตอบลำบาก ยิ่งการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ 2 ครั้งของพรรคประชาธิปัตย์ การนำเสนอข้อมูลการทุจริตคอร์รัปชันไม่สามารถทำอะไรรัฐมนตรีของพรรคไทยรักไทยได้ ยิ่งทำให้น้ำหนักที่น่าเชื่อถือของพรรคประชาธิปัตย์ลดน้อยถอยลง ในที่สุด ภาวะแห่ง CHAOS แทนที่จะเกิดขึ้นกับพรรคไทยรักไทย กลับจะปะทุที่พรรคประชาธิปัตย์มากกว่า อย่าได้แปลกใจที่คล้อยหลังแถลงเรื่องทฤษฎี Chaos ของ นายถาวร เสนเนียม ไม่นาน ก็มีเสียงจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย ติดตามมา และอย่าได้แปลกใจที่ไม่เพียงแต่ นายอรรคพล สรสุชาติ จะออกมาติด brake ให้ แม้กระทั่ง นายถาวร เสนเนียม ก็ออกมาปฏิเสธข่าวของตนเอง เพราะไม่ทำเช่นนั้น ความปั่นป่วนต้องเกิดขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 6 ม.ค. 49 20:23:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เยี่ยมครับ จขกท. ที่เอามาเสนอ แต่ระวัง สักวัน พวกนี้จะกลับมานะ อิอิอิ จากคุณ : sticnin - [ 6 ม.ค. 49 20:57:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เอ้า.........ผมโหวตให้แล้วกัน 1 เสียง ฐานข้อมูลเยี่ยม.................... จากคุณ : sticnin - [ 6 ม.ค. 49 20:58:14 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ทุจริตรถไฟรางคู่ ............แฉเรื่องแดงสมัยรัฐบาลชวน       ..................โครงการรถไฟรางคู่ จากการตรวจสอบพบว่าโครงการมีการทุจริตจริงทำให้รัฐเสียหาย 3-4 พันล้านบาท ขณะนั้นโครงการดังกล่าวอยู่ในช่วงของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรมช.คมนาคม กำกับดูแลการรถไฟในขณะนั้น ภายหลังการตรวจสอบตนเองจึงได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังกระทรวงคมนาคมที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รองนายกฯดำรงตำแหน่งรมว.คมนาคมอีกทั้งการตรวจสอบของคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎรก็สรุปชัดเจนว่าโครงการรถไฟรางคู่มีความผิดจริง ขณะนั้นพูดเพียงว่าโครงการนี้ส่อไปในทางทุจริตแต่ไม่ได้บอกว่านายประดิษฐ์โกงจากนั้นนายประดิษฐ์ ก็ฟ้องศาลจังหวัดพิจิตร แต่มีการถอนฟ้องในภายหลังเพราะตนเองได้ยืนยันว่าไม่ได้พูด ดังนั้นหากมีการสืบพยานก็จะฟ้องกลับ............... แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 49 21:44:00 จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 6 ม.ค. 49 21:41:20 ]

ความคิดเห็นที่ 15 "ทวี เอสดีเอช" หอบหลักฐานส่งเลขา ปปป.เอาผิด "สุเทพ" (ไทยโพสต์ 9 ก.พ.42) จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 6 ม.ค. 49 21:53:31 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ประมูล SDH ฉาวไม่เลิก 3 รง.ไทยยื่นหนังสือถึงนายกฯ สาวไส้ (ผู้จัดการ 5 พ.ย.42)   นายอธิคม ทองน้ำตะโก รองประธานกรรมการอาวุโส บริษัทบางกอก เคเบิ้ล จำกัด ในฐานะตัว แทนกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า โรงงานผู้ผลิตเคเบิล ใ ยแก้วนำแสงในประเทศไทยทั้ง 3 ราย ได้แก่ บริษัท ไทยไฟเบอร์ออฟติคส์ จำกัด, บริษัท ฮิตาชิ บางกอก เคเบิล จำกัด และบริษัทสยามไฟเบอร์ ออฟติค จำกัด ได้ส่งหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อขอความเ ป็น ธรรมเกี่ยวกับเรื่องการจัดซื้อจัดหาสายไฟเบอร์ออพติกของโครง การสื่อ สัญญาณความเร็วสูงหรือ เอสดีเอชขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ทศท.) ทั้งนี้ เพราะข้อกำหนดในทีโออาร์ทศท.ได้กำหนดให้บริษัทผู ้ผลิตสาย เคเบิลจะต้องมีสัญญาการ ประมูลซื้อขายมาไม่ต่ำกว่า 1 สัญญา คิดเป็นมูล ค่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านเหรียญ สหรัฐซึ่งเรื่องดังกล่าวถือเป็นการกีด กัน บริษัทผู้ผลิตในประเทศโดยตรง อย่างไรก็ตาม ที่ผ ่านมาทางโรง งานผู้ผลิตได้เคยเสนอหนังสือชี้แจง และร้องขอความเป็นธรรมต่อนายมีชัย วีระไวทยะ ประธานคณะกรรม การ ทศท.แต่ไม่ได้มีการตอบรับกับเรื่องดังกล่าวและนายมีชัยก็ได้มีการ ให้ข่าวกับ สื่อมวลชนว่าคุณ ภาพของ สายเคเบิลที่โรงงานในประเทศไม่ได้ มาตรฐานซึ่ง ไม่เป็นความจริง เพราะ ทางทศท.เองก็ได้เคยไปเยี่ยมชมโรง งาน และทาง โรงงานก็ได้รับการจด ทะเบียนจากกระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งได้รับ ISO 9002 และบีโอ ไอ อีกด้วยซึ่งการที่ทศท.กำหนดเงื่อนไข ในทีโออาร์ จะส่งผล ให้บริษัทที่จะเข้า ประมูลเหลือเพียง 2-3 รายเท่านั้นซึ่งคาดว่าจะเป็นบริษัท พิลลารีและลูเซ่นท์ที่ผ่านทีโออาร์ดังกล่าว สำหรับการที่ทศท.กำหน ดเงื่อนไขทีโออาร์ดังกล่าวถือเป็นการเอื้อ ประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนบางกลุ่ม และขัดต่อมติคณะรัฐมนตรี ที่กำหนดให้ หน่วยงานต่างๆ ซื้อสินค้า หรืออุปกรณ์ในประเทศหากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมี โรงงานผู้ผลิตในประเ ทศ 3 รายขึ้น ไปและการที่โรงงานทั้ง 3 บริษัทที่จัดตั้ง ขึ้นนั้นก็เพื่อเป็นการรองรับโครงการเอสดีเอช ตามคำเชิญชวนของรัฐบาลที่ให้ มาลงทุน ซึ่งรายได้ของโรงงานทุกวันนี้ก็ได้มาจากการขายสายเคเบิลให้กับ ทศท .และกสท. ซึ่งหากโรงงานไม่สามารถเข้าร่วมประมูลโครงการดังกล่าวได้ ก็อาจจะ ต้องปิดกิจการเนื่องจากไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ได้ นายอธิคมกล่าวว่า การประมูล การจัดซื้อจัดหาสายเคเบิลในโ ครงการ เอสดีเอชครั้งที่ผ่านมาทางบริษัทผู้ผลิตในไทยได้เสนอราคาที่เมตรละ 9 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่ต่างประเทศ เสนอที่เมตรละ 12 เหรียญสหรัฐซึ่ง มีความ แตกต่างกันมาก ดังนั้น การ ที่มีนายมีชัยจะกล่าวว่าหา กซื้อกับบริษัทจากต่าง ประเทศจะทำให้ราคา ถูกกว่าก็ไม่สามารถจะระบุได้เพราะ ยังไม่มีการ ประมูลจริง ดังนั้น แนว ทางบริษัทก็ต้องการให้ทศท.มีการเปลี่ยนเงื่อนไขโดยยก เลิก ในส่วนข้อมูลดังกล่าวเท่านั้นและสา ยเคเบิล จำนวน 9 ล้านเมตรทางโรง งานเชื่อว่า จะสามารถผลิตได้ทันภายในเวลา 2 ปี นอกจากนี้แล้วตัวแทนสอท. ยังจะส่งหนังสือเพื่อเข้าพบนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รัฐมนตรีว่า การคมนาคมเพื่อชี้แจ งเรื่องดังกล่าว อีก ครั้งซึ่งบริษัทผู้ผลิตทั้ง 3 บริษัท เองก็ต้องการที่จะมีส่วนร่วม ในการ ประมูล โครงการดังกล่าวเพราะจัด ตั้งบริษัทมาเพื่อจะผลิตสายรองรับโครงการเอสดี เอชซึ่งได้มีการลงทุน ในการดำเนิ นการโรงงานละ 1,000 ล้านบาทและมี พนักงานในโรงงานเฉลี่ยโรงงานละ 300 คน ซึ่งหากบริษัทไม่สามารถเข้าร่วมใน โครงการ ดังกล่าวได้ก็จะต้องปิดโรงงานจะส่งผลกระทบต่อคนงานถึง 900 คน "โครงการนี้มีมูลค่าลดล งเพราะทศท.ลดเนื้องานและทำให้จำนวนสาย เคเบิลลดลงหากดูจากเนื่องานที่ทศท.เสนอมานั้นเชื่อว่าจะมีมูลค่าโครงการ ประมาณ 6,000 ล้านบาทเท่านั้น" จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 6 ม.ค. 49 21:57:59 ]

ความคิดเห็นที่ 17 จขกท น่าจะเอาไปทำวิทยานิพนธ์คงได้ปริญญาโท ถ้าพ่วง ปรส และคลองด่าน คงได้ปริญญาเอก                             จากคุณ : สวรรค์พร - [ 6 ม.ค. 49 22:02:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ใบแดง'บุญมาก'กระทบปชป. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ที่ จ.สงขลา ว่า การที่นายบุญมาก ศิริเนาวกุล ผู้สมัคร ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับใบแดงจาก กกต.นั้นเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก และส่งผลกระทบต่อพรรคแน่นอน อย่างน้อยจำนวนเก้าอี้ ส.ส.ก็ลดลงไปแล้ว 1 ที่นั่ง นอกจากนี้อาจมีผลกระทบต่อภาพพจน์และการหาเสียงของพรรคต่อจากนี้ไปบ้าง ซึ่งได้เตือนไปยังสมาชิกพรรคที่ลงสมัครทุกคนแล้วว่าให้ระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม แม้จะเชื่อมั่นในตัวนายบุญมาก แต่ก็ต้องเคารพในการตัดสินของ กกต.ด้วย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี กกต.แจกใบแดงให้นายบุญมาก ศิริเนาวกุล ผู้สมัคร ส.ส.ราชบุรี เขต 1 ของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อพรรคบ้าง แต่ภาพของพรรคโดยรวมได้แสดงให้เห็นมาโดยตลอดว่า พรรคไม่สนับสนุนเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียงจนบางครั้งพูดไปจนพรรคการเมืองอื่นโกรธด้วยซ้ำ จึงคิดว่าจุดนี้ทุกฝ่ายคงเข้าใจ ในเรื่องของนายบุญมาก และก็ยังมีความรู้สึกว่านายบุญมากไม่ใช่คนอย่างนั้นเลย แต่เมื่อ กกต.วินิจฉัยออกมาก็ต้องยอมรับกัน "ทุกคนรู้ว่าคุณบุญมากว่าท่านเป็นคนอย่างไร เพราะในการเลือกตั้งทั้งสองสมัยที่ผ่านมา ท่านไม่เคยมีปัญหาในเรื่องเหล่านี้ แต่ผมคิดว่าอย่าไปกังวลอะไรเลย เมื่อ กกต.วินิจฉัยออกมาอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น ขณะนี้คงต้องไปหวังอีกขั้นตอนหนึ่งคือคณะกรรมการกฤษฎีกา 11 คณะ" นายบัญญัติกล่าว และว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ได้พิจารณากันว่าจะให้นายบุญมากออกจากพรรคหรือไม่ แต่ถึงอย่างไรนายบุญมากก็ถูกตัดสิทธิไปแล้ว จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 6 ม.ค. 49 22:05:48 ]

ความคิดเห็นที่ 19 จำคุก"สุทัศน์"3ด.คดีหมิ่น"ฉลามเขียว" ศาลสั่งจำคุก 3 เดือน คดี“สุทัศน์ เงินหมื่น”ถูกคอลัมน์นิสต์ไทยรัฐ "ฉลามเขียว" ฟ้องหมิ่นประมาท แต่ให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ที่ห้องพิจารณาคดี 811 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 1 พ.ย.47 เวลา 09.00 น. ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา ในคดีที่นายวีรจักร ก้อนทอง คอลัมน์นิสต์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ นามปากกา “ฉลามเขียว” เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสุทัศน์ เงินหมื่น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, บริษัทมติชน จำกัด (มหาชน) และนายสุชาติ ศรีสุวรรณ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์มติชน เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 6 ม.ค.43 ระบุความผิดจำเลยทั้งสามสรุปว่า ระหว่างวันที่ 7-8 ต. ค.42 เวลากลางวันกลางคืนต่อเนื่องกัน ขณะที่จำเลยที่ 1 เป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บังอาจให้สัมภาษณ์ใส่ความโจทก์ต่อผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์มติชนและฉบับอื่นหลายฉบับ โดย นสพ. มติชน นำบทสัมภาษณ์ไปตีพิมพ์เผยแพร่ ข่าวลงวันที่ 8 ต.ค.42 ว่า “เมื่อวันที่ 7 ต.ค. จำเลยที่ 1 ให้สัมภาษณ์ว่าเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ได้ยื่นฟ้องโจทก์เป็นจำเลยคดีหมิ่นประมาทต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังจากที่โจทก์เขียนบทความใน นสพ.ไทยรัฐว่า เมื่อสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ให้เลือก ส.ส. ได้เขตละ 1 คน ทำให้การเมืองต้องแข่งขันกันรุนแรงโดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสานที่นายสุทัศน์ เงินหมื่น ดูแล ซึ่งประชาชนในพื้นที่เกิดวามเอือมระอา...”โดยข้อความการสัมภาษณ์ตอนท้ายจำเลยที่ 1 ระบุว่า “เหตุที่โจทก์เขียนบทความใส่ร้ายเพราะน้องชายของโจทก์จะลงสมัคร ส.ส. ในเขตจังหวัดอำนาจเจริญ จึงทำลายชื่อเสียงจำเลย...” ซึ่งข้อความดังกล่าวทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จึงนำคดีมายื่นฟ้องต่อศาลเพื่อให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามกฎหมาย ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์-จำเลยแล้ว เห็นว่า ในทางนำสืบคดีจำเลยที่ 1 ไม่ได้โต้ แย้ง หรือคัดค้านว่าไม่เคยให้สัมภาษณ์ หรือได้ฟ้องกลับหนังสือพิมพ์ หรือแก้ข่าวที่ นสพ. มติชน นำไปตีพิมพ์ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยถ้าข้อความดังกล่าวไม่เป็นจริงทั้งหมดตามที่จำเลยที่ 1 ให้สัมภาษณ์ จำเลยที่ 1 ควรจะได้แก้ข่าว เพราะหากหนังสือพิมพ์ตีพิมพ์ข้อความที่จำเลยที่ 1 ไม่เคยให้สัมภาษณ์ จำเลยที่ 1 ย่อมจะได้ผลกระทบต่อชื่อเสียง ซึ่งข้อความ ระบุว่า โจทก์เขียนบทความเพื่อทำลายชื่อเสียงจำเลยเพราะน้องชายโจทก์จะลงสมัครใน จ. อำนาจเจริญ เป็นเนื้อหายืนยันทำให้บุคคลที่สามเข้าใจผิดและเชื่อว่าโจทก์กระทำการเช่นนั้นจริง การกระทำของจำเลยจึงไม่ใช่การสัมภาษณ์แสดงความคิดเห็นเพื่อปกป้องตัวเองโดยสุจริต จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นให้ต้องเสียชื่อเสียง ส่วนจำเลยที่ 3 เป็น บก.ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา มีหน้าที่ต้องตรวจสอบ และควบคุมเนื้อหาข่าว บทความ ไม่ให้ขัดหรือผิดต่อกฎหมาย ที่ นสพ.มติชน นำคำสัมภาษณ์จำเลยที่ 1 ไปตีพิมพ์ จำเลยที่ 3 ย่อมมีความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และ พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ.2484 พิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 3 เดือน ปรับ 10,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 3 จำคุก 6 เดือน ปรับ 40,000 บาท แต่ข้อเท็จจริงไม่เคยปรากฎว่าจำเลยที่ 1 และที่ 3 เคยต้องโทษจำคุกคดีอาญามาก่อน โดยจำเลยที่ 1 เป็น ส.ส. และเคยเป็นรัฐมนตรี ได้ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติสมควรให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นคนดี จึงให้โทษจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 3 รอลงอาญาไว้มีกำหนด 2 ปี ส่วนโทษปรับให้ชำระตามคำพิพากษา และให้จำเลยทั้งสอง ร่วมกันโฆษณาคำพิพากษาย่อในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เดลินิวส์ ข่าวสด มติชน เป็นเวลา 5 วัน สำหรับจำเลยที่ 2 เป็นเพียงเจ้าของ นสพ.มติชน ที่ไม่ได้ร่วมรู้เห็นในการนำเสนอข่าว ให้ยกฟ้อง ภายหลังคำพิพากษานายสุทัศน์ กล่าวว่า นักการเมืองกับการฟ้องคดีหมิ่นประมาท ถือเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งตนจะยื่นอุทธรณ์คดีนี้ต่อไป เพราะในคดีที่ตนฟ้องนายวีรจักร กับ นสพ.ไทยรัฐ กระทำการหมิ่นประมาทต่อศาลอาญากรุงเทพใต้นั้น ศาลก็มีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกนายวีรจักรไว้ 6 เดือน แต่คดีก็อยู่ระหว่างที่นายวีรจักร ยื่นอุทธรณ์ไว้ด้วย จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 6 ม.ค. 49 22:09:16 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ประมวล   พงษ์ถาวราเดช ชื่อ                           นายประมวล   พงษ์ถาวราเดช ตำแหน่ง                    -ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ เกิด                         19  มกราคม  2496 สถานภาพ                 สมรส ที่อยู่                         300/7-8-9  ถ.เพชรเกษม  ต.กำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน  จ.ประจวบคีรีขันธ์ เบอร์โทรติดต่อ 032 - 691167-8 การศึกษา                  -โรงเรียนสันติราษฎร์บำรุง    กทม.                              -ปริญญาตรีคณะธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยนาโรต์ ประเทศอินเดีย                              -ปริญญาโทรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง การทำงาน                -เป็นตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์   ด้านการเมือง             -เข้าวงการเมืองท้องถิ่น เริ่มจากการเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ประจวบฯ แม้จะสอบตกไป 2 สมัยแต่ก็ได้กลับมาเป็นรองนายก อบจ.อีกครั้งในสมัยที่ นายทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์ ได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.                               -เป็นแกนนำคนสำคัญของ "ส.จ.กลุ่ม 16" ที่กุมอำนาจบริหารเบ็ดเสร็จใน อบจ.ประจวบฯ โดยสร้างผลงานให้ผู้สมัคร ส.อบจ.ประจวบฯ ในทีมได้รับเลือกตั้งทั้ง 8 คน ในเขต อ.ทับสะแก บางสะพาน และบางสะพานน้อย ทำให้แกนนำทุกพรรคการเมืองต้องการให้เขาเข้าไปอยู่ในสังกัด เพราะผลการทำโพลสำรวจพบว่าเขามีคะแนนนิยมสูง                               -ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์   (6 ก.พ.2548) โดยลงสมัคร ส.ส.แทน ร.ต.อ.พเยาว์ พูลธรัตน์ อดีต ส.ส.เขต 3 ปชป.ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ                               - 11 ก.ค.2548 ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ตัดสินจำคุก "ประมวล" เป็นเวลา 7 ปี ในข้อกล่าวหาเรียกรับสินบนสมัยดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ประจวบคีรีขันธ์ จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 6 ม.ค. 49 22:16:23 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เข้ามาอ่านครับ ข่าวที่สื่อไม่ค่อยเล่น ไม่รู้ทำไม อิอิ บรืนๆๆ~ จากคุณ : Jinx D Wednesday - [ 6 ม.ค. 49 22:35:43 ]

ความคิดเห็นที่ 22 'ถนอม' ลาออก 'ชวน' ไม่ขอโทษ ปชป.เปรียบถนอม เทียบรัฐบุรุษปรีดี (เนชั่นสุดสัปดาห์ 1 เม.ย. 2542) กุมภาพันธ์ 2542 จอมพลถนอม กิตติขจร ก็ได้รับเกียรติจาก นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เสนอแต่งตั้งเป็น 'นายทหารพิเศษ' ประจำกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ ท่ามกลางความไม่พอใจจากองค์กรประชาชน ที่เห็นว่าการดำเนินการครั้งนี้ เป็นการทำร้ายความรู้สึกของประชาชน แต่ นายชวน หลีกภัย ได้ชี้แจงว่า ดำเนินการไปอย่างถูกต้องและเหมาะสม และจะไม่มีการทบทวนหรือยกเลิกคำสั่งโดยเด็ดขาด โดยให้เหตุผลว่า การแต่งตั้งครั้งนี้ จอมพลถนอม กิตติขจร จะไม่ได้รับสิทธิพิเศษ หรือจะมีรายได้แต่อย่างใด เป็นแต่เพียงการได้รับเกียรติจากหน่วยงานหน่วยหนึ่งเท่านั้น คำชี้แจงของนายกรัฐ- มนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าได้ดำเนินการอย่างถูกต้องเหมาะสม มิได้หมายความว่ากระแสสังคมจะยอมรับได้ เพราะเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ยังเป็นความทรงจำอันขมขื่นของคนร่วมสมัย ที่ยากจะลบเลือน!! ซึ่งการแต่งตั้งครั้งนี้ผ่านขั้นตอนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ลงนามเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ไปเมื่อ 2 กุม-ภาพันธ์ 2542 ซึ่งมีการดำเนินการอย่างเงียบเชียบ แต่เรื่องก็มาปูดในภายหลัง กรณีการแต่งตั้ง พล.ต.มนูญ-กฤต รูปขจร ที่ปรึกษ มท.1 ผู้ที่มีคุณูปการต่อพรรคประชาธิปัตย์อย่างใหญ่หลวง ดูเหมือนองค์กรประชาชนจะไม่ติดใจมากนัก แต่การแต่งตั้ง จอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี องค์กรประชาชน องค์กรประชาธิปไตย "ไม่สามารถยอมรับได้" เพราะ.. เหตุการณ์นองเลือด 14 ตุลาคม 2516 แม้จะผ่านมาร่วม 25 ปี แต่ จอมพลถนอม กิตติขจร ยังถือเป็นคนสำคัญที่เป็น 'จำเลยสังคม' ในฐานะ 'ผู้นำรัฐบาล' สมัยนั้นที่มีการใช้กำลังทั้งทหารตำรวจ พร้อมอาวุธร้ายแรง ทำการจับกุม ปราบปราม ทำร้าย..สังหาร นิสิต นักศึกษา และประชาชน จนต้องบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ในความรู้สึกของประชาชนไทย ผู้รักประชาธิปไตย รักความเป็นธรรม เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็น 'บาดแผล' ที่ลืมเลือนกันไม่ได้ จอมพลถนอม กิตติขจร ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำรัฐบาลทหารที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จยาวนานที่สุด (ร่วม 11 ปี) ทั้งในตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารสูงสุด นอกจากนี้ รัฐบาลจอมพลถนอม ยังได้ชื่อว่าเป็นรัฐบาลเผด็จการที่บรรดาวง-ศาคณาญาติ ต่างเข้ามามีบทบาททางการเมือง-อำนาจ กันอย่างลงตัว (ซึ่งประชาชนรู้จักกันในนาม ถนอม-จอมพลถนอม กิตติขจร, ประภาส-จอมพลประภาส จารุเสถียร, พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร) การปกครองประเทศยุค ถนอม-ประภาส-ณรงค์ เกิดแรงกดดันทางสังคมอย่างหนักหน่วงจนก่อเป็นกระแสของคลื่นประชาชนที่ต้องการรัฐธรรมนูญแบบประชาธิปไตย ที่สุด คลื่นพลังประชามหาชนก็ชุมนุมขับไล่เผด็จการทหาร ถนอม-ประ-ภาส-ณรงค์ หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 จอมพลถนอม กิตติขจร จอมพลประภาส จารุเสถียร และพ.อ.อกณรงค์ กิตติขจร ต้องอพยพไปอยู่ต่างประเทศ รัฐบาลนายสัญญา ธรรมศักดิ์ ซึ่งเป็นรัฐบาลช่วงหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ได้สั่งยึดทรัพย์ จอมพลถนอม-จอมพลประภาส-พ.อ. ณรงค์ และครอบครัว ความพยายามจะขอกลับเข้ามาในเมืองไทยของ จอมพลถนอม กิตติขจร จอมพลประภาส จารุเสถียร และ พ.อ. ณรงค์ กิตติขจร หลายครั้ง แต่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ มีมติยืนยันไม่ให้เข้ามาอย่างเด็ดขาด แต่ที่สุดเดือนกันยายน 2519 จอมพลถนอม กิตติขจร ก็สามารถกลับเข้าเมืองไทยโดยการบวชเป็น 'สามเณร' อันเป็น 'ชนวน' ที่นำไปสู่กระแสต่อต้านจากขบวนการประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา และสุดท้ายก็นำไปสู่เหตุการณ์นองเลือด 6 ตุลาคม 2519 หลังเหตุการณ์นองเลือด 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ถูกสังหารล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ในสายตาของประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ภาพของจอมพลถนอม กิตติขจร ชายชราวัย 87 ปี คือ 'จำเลยสังคม' ซึ่งจอมพลถนอม จะยืนยันว่า พยายามชี้แจงมาตลอดว่าไม่ได้เป็นคนออกคำสั่งฆ่านักศึกษาประชาชน โดยชี้ว่าเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เป็นเกมการเมือง โดยมีประชาชนจำนวนหนึ่งถูกใช้เป็นเครื่องมือ การที่จอมพลถนอม กิตติขจร ได้รับเกียรติจาก นายชวน หลีกภัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เสนอแต่งตั้งเป็น 'นายทหารพิเศษฯ' องค์กรประชาชน องค์กรประชาธิปไตย จึงยอมรับไม่ได้ และได้รวมตัวชุมนุมประท้วงที่ท้องสนามหลวง เรียกร้องให้นายชวน หลีกภัย แสดงความรับผิดชอบ และกล่าวคำขอโทษต่อประชาชน สำนักสวนดุสิตโพลล์ ออกสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการแต่งตั้ง จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายทหารพิเศษฯ พบว่าประชาชนร้อยละ 68.49 เห็นว่า จอมพลถนอม ไม่สมควรได้รับการแต่งตั้งฯ มีเพียงร้อยละ 11.64 ที่เห็นด้วยกับการแต่งตั้งนี้ ขณะที่ สำนักเอเบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้รายงานสรุปผลการสำรวจความเห็นของประชาชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลต่อกรณีนี้ พบว่าประชาชนร้อยละ 40.4 ต้องการให้ นายกรัฐมนตรี (นายชวน หลีกภัย) แสดงความรับผิดชอบด้วยการขอโทษประชาชน ขณะที่ร้อยละ 42.2 ระบุว่าความเชื่อมั่นที่มีต่อนายกรัฐมนตรี ลดลงจากกรณีดังกล่าวนี้ ไม่เพียง 'ไม่มีคำขอโทษ' นายชวน หลีกภัย ยังได้ยืนยันแข็งขันว่า สิ่งที่ตนได้ดำเนินการไปนั้น เป็นไปอย่างถูกต้องและเหมาะสม และประชาชนไม่ได้เสียหายอะไร ขณะที่องค์กรประชาชน องค์กรประชาธิปไตย ยืนยันว่า การแต่งตั้งจอมพลถนอม กิตติขจร นั้น ประชาชนได้สูญเสียหลักการสำคัญไปแล้ว นั่นคือ การสูญเสียการเคารพต่อประวัติศาสตร์วิญญาณการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และการลงโทษเผด็จการตามสมควรเท่าความผิด เพราะบรรดาญาติวีรชนที่บาดเจ็บ ทุพพลภาพ และเสียชีวิต จากเหตุการณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2516 และตุลาคม 2519 ไร้ค่าอย่างสิ้นเชิง เมื่อเปรียบเทียบกับ 'ความดี' ที่ จอมพลถนอม กิตติ-ขจร ได้รับจาก นายชวน หลีกภัย 24 มีนาคม ท่ามกลางแรงกดดัน คนที่ได้รับการแต่งตั้งอย่าง จอมพลถนอม กิตติขจร จำเลยของสังคมเปิดบ้านแสดง สปิริต 'ขอลาออก' จากตำแหน่งนายทหารพิเศษฯ (ต่อมา พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร ก็ขอลาออกจากนายทหารพิเศษฯ) เพื่อลดกระแสความไม่พอใจของสาธารณชน และท่ามกลางความไม่พอใจของประชาชนที่ยังดำรงอยู่ เกียรติภูมิ จอมพลถนอม กิตติขจร ก็ถูกยกย่องเทียบชั้นกับ นายปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษผู้มีคุณูปการต่อสังคมไทย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ซึ่งเป็น เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมายืนยันว่า การที่กองทัพเสนอแต่งตั้งจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายทหารพิเศษฯ เป็นสิทธิของทหารที่จะสมารถทำได้ และไม่ผิดอะไร และยังได้เปรียบเทียบว่า การที่ทหารยกย่องจอมพลถนอม กิตติขจร คล้ายกับการที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยกย่องนายปรีดี พนมยงค์ "ยกตัวอย่างเช่น อาจารย์ปรีดี พนมยงค์ ก็ถูกกล่าวหาอย่างรุนแรง แต่เมื่อทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยกย่อง ก็เป็นเรื่องของแต่ละคน..อย่างอาจารย์ปรีดี ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เขาก็ยกย่อง ส่วนทางทหารเขาจะยกย่องใคร ก็เป็นเรื่องของเขา ทหารเขามีสิทธิที่จะนับถือใครก็ได้ เมื่อเราไม่นับถือ ก็ไม่นับถือ อะไรถูก อะไรผิด ก็ว่ากันไป" เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวย้ำ คำกล่าวของ พล.ต.สนั่น ขจร-ประศาสน์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เสมือนเป็นการเติมเชื้อไฟให้กับองค์กรประชาชน องค์กรประชาธิปไตย เพราะเป็นการเปรียบเทียบผู้นำเผด็จทหารที่ก่อการรัฐประหารเพื่ออำนาจ มาเทียบชั้นกับรัฐบุรุษผู้มีอุดมการณ์ประชาธิปไตย สุลักษณ์ ศิวรักษ์ นักคิดนักเขียนคนสำคัญของสังคมไทย ชี้ว่า เป็นการไม่สมควรที่นำจอมพลถนอม เทียบกับนายปรีดี เพระนายปรีดี พยมยงค์ ไม่ใช่เป็นเพียงผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เท่านั้น แต่เป็นผู้หนึ่งในคณะราษฎรผู้ก่อการปฏิวัติประชาธิปไตย เป็นผู้จัดตั้งขบวนการเสรีไทยเพื่อกอบกู้ชาติ เป็นรัฐบุรุษ ซึ่งมีอุดมการณ์ประชาธิปไตยอย่างเต็มเปี่ยม แต่จอมพลถนอม กิตติขจร นอกจากจะเป็นทรราชในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 แล้ว ยังเป็นเผด็จการและร่วมก่อกรรัฐประหารมตั้งแต่ปี 2490 ขณะที่ นายธีรยุทธ บุญมี อดีตผู้นำนักศึกษาในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม ปัจจุบันเป็นนักวิชาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชี้ว่า การที่เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เปรียบเทียบอาจารย์ปรีดีกับจอมพลถนอม สะท้อนโลกทัศน์และประวัติศาสตร์ที่น่าอดสูอย่างยิ่งของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพรรคนี้เป็นคนเริ่มสร้างกระแสทำลายอาจราย์ปรีดี แล้วนำมาใช้เป็นประโยชน์ให้กับตัวเองหลังเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 และหวนกลับมาทำลายอีกในครั้งนี้ "คำพูดของ พล.ต.สนั่น สร้างความปวดร้าวแตกแยกให้สังคม ในขณะที่ต้องการความร่วมใจกันแก้เศรษฐกิจ.. และคำพูดทำนองนี้ของหัวหน้าและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ สะท้อน อาการของคนที่ตกอยู่ในอำนาจมานาน จนหลงลืมรากเหง้าของตัวเอง" ธีรยุทธ บุญมี กล่าวย้ำ หากย้อนประวัติศาสตร์การเมืองไทยไปในยุคก่อน บรรพบุรุษของพรรคการเมืองหนึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งคนไปร้องตะโกนกล่าวหา "ปรีดีฆ่าในหลวง" ในโรงภาพยนตร์ กระทั่งกลายเป็น 'ตราบาป' ทางการเมืองของพรรคการเมืองนี้ แม้จะเป็น 'เรื่องเท็จ' และแม้จะเป็นการ 'ทาสี' ทางการเมือง ซึ่งพรรคการเมืองที่ว่านี้ ปัจจุบันครองอำนาจในการบริหารประเทศอยู่ ก็ไม่เคยสำเหนียกที่จะแสดงความเสียใจ หรือขอโทษใดๆ กับการกระทำอัน 'ชั่วร้าย' ของตนเลย กรณีการแต่งตั้ง จอมพลถนอม นอกจากจะไม่มี 'คำขอโทษ' จากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อันสวนกระแสความรู้สึกของประชาชนแล้ว แกนนำคนสำคัญในพรรคประชาธิปัตย์ อย่างเลขาธิการพรรคฯ ยังเปรียบเทียบ จอมพลถนอม กิตติขจร ผู้นำรัฐบาลเผด็จการทหาร ขึ้นมายกย่องเสมือนยกย่องเทียบชั้นนายปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษผู้มีคุณูปการต่อสังคมไทย หรือนี่คือ 'วัฒนธรรมทางการเมืองของคนในพรรค' ที่คนรุ่นนี้ได้สืบทอดมรดกจากคนรุ่นก่อนอย่างเต็มภาคภูมิ?? [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 6 ม.ค. 49 22:53:17 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คารวะ พอรู้แต่ไม่ได้รวบรวมมาเรียบเรียง จากคุณ : เมื่อไรปชป.และสาวกจะเลิกตอแล๋ (chatmar) - [ 6 ม.ค. 49 23:01:20 ]

ความคิดเห็นที่ 24 โห...คุณ มีใครไทยแลนด์ ช่างสรรหาข้อมูลมาจริงๆ เยี่ยม............... ผมกำลังรอสาวกของอีกฝ่ายมาแก้ต่าง.....อิอิอิ จากคุณ : sticnin - [ 6 ม.ค. 49 23:01:47 ]

ความคิดเห็นที่ 25 จขกท.กะเอาตายเลยนี่หว่า ถึงเราจะไม่ชอบปชป.มากว่าทรท. ซึ่งถ้าว่ากันแบบนี้ ก็ไม่มีไรจะเถียง แต่ดูเกมส์จะต้องดูตาสุดท้าย ทางฝั่งทรท.ก็ใช่ย่อย เดี๋ยวหางก็โผล่มาเอง ให้คะแนนความพยายาม A++ จากคุณ : นิราศดานัง - [ 6 ม.ค. 49 23:06:22 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ข้อมูลดีครับ   ...กดให้คะแนน 3 โชะ แต่...ทำไมผมยังรู้สึกว่ากำลังเป็น "การแบล็คเมล์" ทางการเมืองที่ออกมาจากกลุ่มของนายภูมิธรรม ? จากคุณ : qazwsx - [ 6 ม.ค. 49 23:49:55 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่ใช่ "กลุ่ม" ไหนครับ มาจากความ "กลุ้ม" ของผม มากกว่าถึงที่สุด จากคุณ : กลุ้มใจว่ะ (มีใครไทยแลนด์) - [ 7 ม.ค. 49 00:15:10 ]

ความคิดเห็นที่ 28 จขกท. เล่นแบบนี้เขาก็รู้กันหมดสิว่าสถาบันการเมืองนี้โกง  พรรคนี้เขาขึ้นชื่อว่าซื่อสัตย์สุจริตนะ จริงๆ ด้วย อย่างนี้เขาเรียกว่า "เอกอัครอภิมหาโครตโกง อมตะนิรันการณ์"  พรรคที่อุปโลก ตัวเองว่าเป็นสถาบันการเมือง จากคุณ : คำพอดี - [ 7 ม.ค. 49 01:22:14 ]

ความคิดเห็นที่ 29 แค่นี้หรือ จะสู้ต้นตำรับ  โกงทั้งโคตร จากคุณ : สส (Suptep) - [ 7 ม.ค. 49 03:57:10 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สรุป ก่อนจะด่าว่าใคร ให้มองตัวเองเสียก่อน คนที่ชี้นิ้วว่า เขาโกงๆๆๆ แต่พอมีโอกาศ กลับโกงด้วยช่วยกัน อย่างนี้เขาเรียกว่า ชั่ว ดับเบิ้ล ชั่ว  ครับ จากคุณ : Jungke - [ 7 ม.ค. 49 07:30:51 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเล้ย ทั้งพรรคแมงสาบ และ ไทยลักไทย จากคุณ : waytarn - [ 7 ม.ค. 49 10:00:11 ]

ความคิดเห็นที่ 33 จขกท. ขุดเก่งจริงๆ ครับ รออ่านของไทยรักไทยอยู่นะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Abraxas - [ 7 ม.ค. 49 12:10:10 ]

ความคิดเห็นที่ 34 จขกท.เคยทำงานกับสนติ๊อ่ะป่าว เล่นขุดซะทะลุแกนโลก จากคุณ : นิราศดานัง - [ 7 ม.ค. 49 21:45:49 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อูย...ซี๊ด เสียวมากเลยยยยย  ข้อมูลแบบนี้  เอาอีก ...อ้ายยยย...ซี๊ดดดด เป็นไงละด่าเค้าดีนัก เจอขุดมาอย่างนี้ ต้องเผาแล้วล่ะ มันเหม็นอะ จากคุณ : นายแกว่น - [ 7 ม.ค. 49 22:17:54 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ข้อกล่าวหาทั้งหมดข้างบนรวมกัน.. ยังเสร็จกรณีรัฐบาลสั่งให้แปรรูปสัมปทานมือถือเป็นภาษีสรรพสามิต  รายการเดียว 8 หมื่นล้านบาท  ฮ่า จากคุณ : *bonny - [ 8 ม.ค. 49 07:39:44 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ถามอะไรหน่อย.จักได้รึไม่ครับ.. และขอให้กล้าตอบด้วย.. ถ้าผมจำไมผิดกรณีคุณบุณมากนั้น... ถ้าผมจำไม่ผิด...ในสุดท้าย.. ท้ายสุด.. ผลมันออกมาแล้วว่าท่านมิผิดใช้รึไม่..   แล้วเหตุึไรคุณจึงมิลงข่าวประกอบในกระทู้ด้วย.. หรือว่าคณก็เป็นพวกชอบพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว.. อ้อ..ดังนั้นผมก็คงจะมิต้องพูดอะไรอีกแล้ว.. กะคนจำพวกนี้.. จากคุณ : An.mkII - [ 8 ม.ค. 49 08:38:35 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อ้อเอาช่าวมาฝากเพราะเดียวใครเขาจะหาว่าผมมั่วข่าว.. "บุญมาก"เฮศาลยกฟ้องคดีใบแดง กรณี นายบุญมาก ศิริเนาวกุล อดีตผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ชนะการเลือกตั้งในปี 2544 แต่ถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ใบแดง ต่อมาทาง กกต.ได้ ส่งสำนวนให้กับอัยการเพื่อส่งฟ้องศาล คดีนี้มีการสอบพยานมายาวนานกว่า 4 ปี จนวานนี้ (16 ก.พ.) ศาลจังหวัดราชบุรี ได้อ่านคำพิพากษายกฟ้องคดีดังกล่าว โดย นายกำแหง เกตุมาก ผู้พิพากษาศาลจังหวัดราชบุรี ได้อ่านคำพิพากษายกฟ้องว่า คดีระหว่างอัยการจังหวัดราชบุรี กับนายบุญมาก ที่ถูกฟ้องกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติตามรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.-ส.ว.ตามมาตรา 44 และ 101 ให้เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปีนั้น พิพากษาให้ยกฟ้องนายบุญมาก นายกำแหง อ่านต่อว่า พยานโจทก์มีนายทวี ไกรคุปต์ กำนันเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ กำนันสิงห์ นาคขำ ร.ต.อ.วิทยา ส.ต.อ.ครรชิต 2 ตำรวจสายสืบ กกต.และเจ้าหน้าที่ กกต.พร้อม ด้วยพยานแวดล้อมที่เป็นชาวบ้านกว่า 10 ปากทั้งหมดให้การขัดแย้งกันเอง และมีพิรุธแทบทั้งสิ้นเป็นเหตุให้สงสัยว่า จำเลยได้กระทำความผิดตาม กกต.วินิจฉัยหรือไม่ และทนายจำเลยได้ซักค้านพยานมีนายทวี กำนันเกชา กำนันสิงห์ มีเหตุโกรธเคืองพรรคประชาธิปัตย์ และนายบุญมาก กันมาก่อน ศาลไม่เชื่อว่า ส.ต.ท.ครรชิต สายสืบ กกต.(เข้าไปล่อซื้อในสำนักงาน) เข้าไปในสำนักงานนายบุญมาก จริงหรือไม่ ทำให้ศาลไม่เชื่อว่าจำเลยแจกเงินซื้อเสียงตามคำวินิจฉัยของ กกต.จึงพิพากษายกฟ้อง หลังจากฟังศาลอ่านคำพิพากษาเรียบร้อยแล้ว นายบุญมาก กล่าวว่า ที่ผ่านมานั้นตนได้เสียสิทธิการเป็น ส.ส.กว่า 4 ปี ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลและครอบครัว และทรมานมากว่า 4 ปี มีข่าวขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์และทีวีกว่า 2 อาทิตย์ และการพิพากษาของศาลถือว่ายุติธรรมแล้ว ต่อไปนี้จะปรึกษากับทนายความว่าจะฟ้องกลับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งแพ่งและอาญารวมทั้งฟ้อง กกต.ด้วยโดยทางแพ่งนั้นจะฟ้องเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท http://www.bangkokbiznews.com/2005/02/17/pol/index.php?news=pol1.html อ้อข่าวนี้ลงเมื่อวันท่๑๘กุมภานี้เองครับ..ยังมิทันถึงปี.. อ้อ..และมิทราบว่าหาข่าวนี้มิได้หรือย่างไรครับ.. เลยมิเอามาลง.. แหม.. แต่ผมก็ว่าก็แปลกดีน่ะครับ... ข่าวโดนใบแดงตั้งนานนมหามาได้..   แต่ข่าวนี้ยังไม่ถึงปีหามามิได้..555 อ้อ..และข่าวนี้จากเครือเนชั่น... คุณอาจะว่าเชื่อมิได้ผมก็มิว่าอะไร... แต่ผมก็ถามว่าแล้วข่าวจากผู้จัดการน่ะมันเชื่อได้หรือ... เพราะเห็นว่าข่าวผู้จัดการเชื่อมิได้มิใช้หรือ..จากปากคำฝากของพวกคุณเอง..!!?? และไอ้ข่าวที่เอามาลงแต่ไม่บอกที่มาน่ะ.. มิทราบว่ากลัวอะไรครับ..555 อ้อ...และที่โพสแบบนี้ก็มิใช้จะเข้าข้างใคร..ใครผิดก็คือผิดมิผิดก็คือมิผิด.. แต่ผมคิดวาคนเราควรจะเสนอข้อมูลให้มันครบทั้งสองด้าน.. และให้คนอ่านขาตัดสินใจเอาเองว่าจะเชื่อรึไม.. มิใช้ตั้งธงเอียงกระเท่มาตั้งแต่ยังมิเปิดคอมพ์.. แบบใครบางคนบางพวก..   จากคุณ : An.mkII - [ 8 ม.ค. 49 08:58:02 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ทำได้ดีมาก ไอ้หนูทั้งหลาย มารับตังค์ที่ป๋า ~ จากคุณ : ขุนพลลิโป้ - [ 8 ม.ค. 49 09:52:33 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ไม่เคยเห็นกระทู้ไหน เหม็นได้ขนาดนี้มาก่อน อ๋อ ถ้าคดีไหนยังไม่ได้ตัดสินหรือว่าตัดสินให้พ้นผิดแล้ว ก็ให้ความเป็นธรรมเขาด้วยนะครับ จากคุณ : siwarut - [ 8 ม.ค. 49 10:39:43 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ข้อมูลดีมากครับ ผมเป็นสมาชิกพรรคประชาธปัตย์ครับ แบบนี้สร้างสรรดี ทุกพรรคก็มีคนดีคนไม่ดีปนกันอยู่ ผมไม่อยากให้ภาคประชาชน สื่อ องค์กรอิสระอ่อนแอ ห่วงประเทศมากกว่า จากคุณ : คูหาสววรค์ (คูหาสวรรค์) - [ 8 ม.ค. 49 10:47:58 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อืม.........นับถือคุณคูหาสวรรค์ครับ.......... ถ้า ปชป.มีลูกผู้ชายที่ยอมรับความจริงแบบนี้มากๆ วันหนึ่งผมอาจจะเปลี่ยนกลับไปเชียร์เหมือนเมื่อก่อน เมื่อตอนยังเด็ก............. ส่วนเจ้าของกระทู้ยอดเยี่ยมมากครับ............ ผมตามอ่านความเห็นของคุณมานานพอสมควร......... คุณด่าทั้ง ไทยรักไทย และคู่แข่งอย่าง ประชาธิปัตย์ .......... ผมจึงเชื่อข้อมูลของคุณมากกว่าพวก..........มองหน้าเดียว......... จากคุณ : mister_hang - [ 8 ม.ค. 49 11:30:33 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ไอ้ที่เที่ยวไปแำหกปากตะโกนว่าำไทยรักไทยโคตรโกง  ที่แท้ปชป.ก็โคตรโกงของแท้ตัวจริง จากคุณ : เกลอแก้ว - [ 8 ม.ค. 49 12:11:50 ]

ความคิดเห็นที่ 44 แบะๆ พูดไม่ออก โหวตให้เลย จากคุณ : ณสองแคว - [ 8 ม.ค. 49 13:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เรื่องแผนการโกงหนองงูเห่า.....ที่พอดีวาสนาหมดก่อน รัฐบาลทักษิณ 1 มาแก้ไขทบทวนยกเลิกของรัฐบาลเก่า ก่อนจะก่อสร้างอย่างเป็นทางการ ช่วยประหยัดงบประมาณประเทศจำนวนมหาศาล.... เฉพาะราคาประมูลก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารและอาคารจอดเทียบเครื่องบิน อย่างเดียวนะครับ: เป็นบุญของเมืองไทยที่นายกฯมาทันเวลาพอดีครับ .......................................................................... แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 49 13:28:24 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ลี้ถ้ำฮวย - [ 8 ม.ค. 49 13:26:38 ]

ความคิดเห็นที่ 46 55+ รัฐบาลทุศีล ช่วยประหยัดงบ ฯ จริงเหรอ  ในโครงการหนองงูเห่า หน่ะ ป.ล. หาได้แค่นี้เองเหรอครับ อย่างนี้จะสู้ CTX ได้เหรอ ไหนจะกรณีอย่างที่ทั่น *bonny บอกอีกหล่ะ กี่หมื่นล้านแล้ว อ้ออย่าลืมผลประโยชน์ที่ได้แบบเนื้อๆ จากการแปรรูป ปตท. ด้วยหล่ะ 555+ แต่ก็คงว่า นาย ของ จขกท.ไม่ได้หรอก เพราะมันถูกกฏหมายนี่นา เนอะ  อย่างว่าสมัยนี้ คนมันเลวได้เนียนขึ้น จากคุณ : สี่หามสามแห่ - [ 8 ม.ค. 49 14:25:06 ]

ความคิดเห็นที่ 47 โหวต...................อูย เจ็บ จากคุณ : เทพบุตรแดนสนธยา - [ 8 ม.ค. 49 14:35:47 ]

ความคิดเห็นที่ 48 พอดีเเวะมาดูน่ะ... มาดูว่าใครจะตอบคำถามที่ผมถามไปรึเปล่า..แต่ก็ยัง.. แต่พอดีเห็นประโยคฮิต..ประโยคที่หากินได้จนวาระสุดท้าย.. คือประโยค..ที่ชอบพูดว่า.. "รัฐบาลทรท.นั้นลดช่วยประหยัดงบไปตั้งเท่าในโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ.." แต่ผมก็จะขอถามอีกครั้ง...ซึ้งหวังว่าจักมีคนตอบ.. ว่าเเล้วไปดูรึยังว่าหลังจากลด...ที่ว่าจนเป็นประโยคฮิต.. รัฐบาลนี้เพิ่มโครงการอะไรไปมั้ง... และยิ่งไม่รวมเรื่องซีทีเอกซ์อีก๖๐๐ล้าน.. หักลบกันแล้ว..มันมากกว่ารึน้อยกว่าไอ้ที่ลด.. แหม.. ถ้าแน่จริงตอบมาสิ.. เอ้า..ใครกล้าเชิญ..!! จากคุณ : An.mkII - [ 8 ม.ค. 49 15:12:55 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ยอดเยียม ดีนะ ปปช เดิ้ยงไปก่อนไม่งั้นเข้าคุกอีกเยอะ จากคุณ : สงสัยใฝ่รู้ - [ 8 ม.ค. 49 16:50:40 ]

ความคิดเห็นที่ 50 คุณ An.mkII พวกที่คุณถามเรื่องข้อ #37 น่ะเขาแกล้งทำเป็นไม่เห็นครับ ถามอย่างนั้นจะไปตอบได้อย่างไร เขามาเฮๆน่ะ เรามาดูความเห็นกันต่อดีกว่าครับ อิอิ ความเห็นข้างล่างจะยังมีอีกเยอะเชียว อ่านเพลินครับ อ่านเพลิน จากคุณ : ลูกไทย หลานไทย - [ 8 ม.ค. 49 17:31:48 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อุ๊ย...ท่าน เอาความจริงมาล้อเล่น คนแถวนี้บางท่านรับไม่ได้นะท่าน โหวตครับ จากคุณ : หม่ำ หม่ำ - [ 8 ม.ค. 49 18:00:50 ]

ความคิดเห็นที่ 52 555.. ลทลท. สงสัยอะไรมันคงะบังกะตา... หรือว่าคคห.นั้นมันเป็น.. คคห.ระบบเเบบใหม่..ของพันทิบ..   ที่ว่ามันจะเห็นได้เฉพาะบางคนบางกลุ่ม.. ส่วนบางกลุ่มจะมองมิเห็น... กระมั้ง..555 แต่ผมว่ามองมิเห็นแบบนี้ก็ดีน่ะครับ... ดีกว่ามองเห็น.. แล้วตอบแต่ล่ะที่...พอตอบเสร็จต้องไปอาบน้ำ..หรือไม่ก็ต้องหายาทาแก้สีข้างช้ำมาทาตัว.. เพราะตัวเละยังกะไปดำน้ำดำดิน...หรือเข้ารกเข้าพงที่ไหนมา.. จนสีข้างเเดงเเจ๋...555 จากคุณ : An.mkII - [ 8 ม.ค. 49 20:12:58 ]

ความคิดเห็นที่ 53 น่าสังเกตครับ.. ทุกข่าวที่ จขกท. นำเอาลง..ถีงอาจจะเรียกบอกว่า... ประจานก็ตามเถอะ..แต่เกีอบจะทุกข่าว..อยู่ใน.. กระบวนการของกฏหมาย..โดยมี นักการเมืองเป็น.. จำเลย.. เลย เกิดคำถาม แล้ว รัฐบาลชุดนี้ล่ะ..ทั้งที่มีคดี ทุจริต.. และต้องสงสัยว่าน่าจะมีการทุจริตมากมาย..... ระบบการตรวจสอบหายไปไหน...? เกืดอะไรขึ้นกับ.. ระบบตรวจสอบของบ้านเมืองเรา... จากคุณ : คนจร(หมอนหมิ่น) - [ 8 ม.ค. 49 20:23:53 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เห็นแล้วเซ็งโคตร โคตร แข่งกันว่าใครชั่วน้อยกว่ากัน ก็นับว่ามีเกียรติ มีศักดิ์ศรี พอที่จะมาบริหารราชการแผ่นดิน ใครโกงแล้วโดนจับได้ ไม่สมควรกลับมา คนโกงที่ไม่มีใบเสร็จ รู้แต่ไมทำอะไร ก็นับเป็นคนที่ควรยกย่อง เซ็งกระทู้ จากคุณ : nirva - [ 8 ม.ค. 49 21:13:47 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ดีใจที่พอมีบางคนพอจำเราได้ 5555 เรื่องบุญมาก แกก็คงเหลือบุญแกตามอัตภาพครับ เรื่องคดีผมตกข่าวจริงไม่มีเจตนาบิดเบือนแต่อย่างไร ผมพอจะหาข้อมูลได้เท่าไรก็หามารวมๆไว้ก่อน ไม่น่าจะมีผิดพลาดไปนัก คือตั้งใจเสิร์ชตามที่นึกหัวข้อออก ....... ไม่มีเหตุผลที่จะด่า ปชป.ทำไมเพียงแต่กลัดกลุ้มไปนิดๆหน่อยๆ กับการพยายามจุดกระแส มาร์คพร้อมเปนนายกฯ....... ....... ประเด็นของผมคือ นายกฯต่อให้เทวดามาเปนมันก็ไม่สามารถแก้ ไขปัญหาชาติได้เพียงลำพัง ........... เรื่องชาติเปนเรื่องใหญ่โตมากมาย การจะนำกองเรือทั้งหมด แล่นไปในทิศทางเดียวกันเปนเรื่องยาก ยิ่งมาคิดถึง หรือเทียบกับแค่แต่ใน "ราชดำเนิน" เองแค่นี้ก็แทบจะตีกันตายแล้ว 555555 ....... แค่หน่ายกับการชูบุคคลที่ไม่น่าจะ เชิดชูได้ก็แย่อยู่แล้ว กับชื่อที่เรียงกันตามกระทู้แบบนั้น....... .......คิดแล้วกลุ้มครับ.. ผมแทบจะไม่ได้คอมเมนท์อะไรไว้ในกระทู้นี้เลย โปรดพิจารณาด้วยก่อนนะขอรับ แค่ "ข่าว" ที่มีการนำเสนอมาแล้วโดยเท็จจริงตามที่ เราลืมๆกันไป เท็จจริงเมื่ออ่านไปก็คงนึกกันออก ถ้าจะตกหล่นไปก็ต้องขอโทษที อย่างที่ว่าคือไม่บอกไม่รู้หรอกครับ เรื่องคดีนายบุญมากจะจบที่ศาลชั้นไหน จะมีอุทธรรณืต่อหรือไม่ แต่ฎีกาคงยังไม่ถึงแน่นอนครับ ......... แค่นี้คงเคลียนะขอรับ จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 8 ม.ค. 49 21:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 56 จริงๆคือข่าวช่วง ปชป.เปนรัฐบาลหายากครับ ในสมัย ทรท.หาไม่ยากหรอกครับ ยังมีคนตอกย้ำอยู่เสมอ ทั้งสนทิ ทั้งปชป. อีกทั้งในเนทหลังๆนี่การบันทึกมีมากขึ้น การเสริชไม่ใช่เรื่องยากนัก ....... อย่างที่เขาว่ากัน คนไทยเราลืม กันง่าย เรื่องหลายๆเรื่องสมัยนั้นสำหรับผมถือว่า เด็กมีปัญหา 555555 .......... คือเก็บกดกับการเปน รัฐบาลของ ปชป.ไว้มากขอรับ อย่างเรื่อง บ้าน3หลังของเสธหนั่น ก็หามาให้อ่านกันไม่ชัดนัก เรื่องสารพัดม็อบเกษตรกร ที่มากินมานอนหน้าทำเนียบสมัยนั้น เรื่อง ปรส. เอื้อประโยชน์โดนเฉพาะกับ บ.จีอี เรื่องรายการอนุมัติทิ้งทวนของ ปชป.ก่อนหมดสมัยรัฐบาล ตอนนั้นหลายๆเรื่องมาก ยกตัวอย่างเช่น อนุมัติ4000ล้านไปปรับปรุงดอนเมืองทั้งๆที่ตอนนั้น เริ่มถมดินหนองงูเห่าแล้ว แทนที่จะเร่งงานก่อสร้างกับใช้เวลาไปกับการขยายดอนเมืองเพิ่มอีกทั้งๆที่หลายฝ่ายบอกว่าไม่จำเปน และฯลฯ ก่อนหมดสมัยนี้ผมจำได้ว่าจ่ายงานแหลกเลย ผมเก็บไฟล์เก่าๆไว้เยอะ ว่างจะค้นจริงๆกว่านี้มาให้ดู อีกเรื่องอย่างโดนยึดมัดจำเครื่องบินเอฟ18สูญเงินฟรี หรือ เรื่องทุจริตยา ที่ช่วยเหลือปลัดกระทรวงแบบปกป้อง กันไว้เหนียวแน่นเพราะใกล้ชิด ปชป.มานาน ........ เด๋วไปใส่เดสทอปเสิรชอีกรอบแล้วจะว่าผมร้ายไม่ได้นะ 55555555555 จากคุณ : ช่างร้ายเหลือเกิน (มีใครไทยแลนด์) - [ 8 ม.ค. 49 21:57:47 ]

ความคิดเห็นที่ 57 #53 ถามหาระบบตรวจสอบ ต้องถามปชป.ครับ ว่าทำอะไรอยู่ทุกวันนี้ เอาแบบจะๆไปเลยแล้วกันว่า "ผลงานในการตรวจสอบรัฐบาลของฝ่ายค้านคือ?" จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 8 ม.ค. 49 22:05:12 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ทำแบบนี่ไม่ดีเลย ผมก็จ๋อยนะซิ ครับ ท่าน จขกท แย่ๆๆ จากคุณ : laostate - [ 8 ม.ค. 49 22:13:18 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ถ้าอย่างนั้นเมื่อ...ทรท... หมดอำนาจวาสนา แล้วนี่..ชะตากรรม..ก็ไม่น่าจะต่างจาก....ปชป... กงกำกงเกวียน จากคุณ : ทองเปลว - [ 8 ม.ค. 49 22:34:59 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ผมไม่แปลกใจครับ ที่ จขกท. จะต้องตอบแบบนี้เพราะดู.. จากกระทู้ก็เดาได้แล้วครับ...เหมือนเอามือปิดตาแค่ข้าง เดียว.. จากคุณ : คนจร(หมอนหมิ่น) - [ 8 ม.ค. 49 22:38:27 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อ้อ..ถ้าอยากรู้ ฝ่ายค้าน ทำงาน หรือ เปล่า ก็ลองบอก.. ท่านนายกที่เคารพ ประกาศ ฟรีโหวต แก่สมาชิกผู้ทรง.. เกียรติ ของ ทรท. ให้หน่อยซิครับ.. จากคุณ : คนจร(หมอนหมิ่น) - [ 8 ม.ค. 49 22:48:39 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ถามจริงๆเถอะนะคุณๆ มีพวกคุณคนไหน ปลาบปลื้มชื่นใจกับ รัฐบาลสมัยปชป. แม้วผมก็ด่า ชวนมันก็ด่า อพิสิดเคยทำเวบ มีช่องหน้าผลงานให้คลิกแล้ว คลิกเข้าไปแล้วกลายเปนหน้าว่างๆ จนต้องลบลิงก์ไปจนถึงทุกวันนี้ ผมก็ถามนายอพิสิดไปแล้ว ว่าให้ลงผลงานหน่อย จะได่ช่วยๆ ไปแจกให้คนชื่นชมมั่ง แต่ทุกวันนี้ นายอพิสิดก็ยังใส่ผลงานตัวเองในเวบไม่ได้ คงไม่ใช่เขานึกไม่ออกหรอกครับ เพราะนายอพิสิด ไม่มีผลงานจพอวดได้มากกว่า กับการดำรงตำแหน่ง รมต.ประจสำนักนายกฯ มาสมัยเดียว แปลกไหม.....ไม่แปลกครับสำหรับนักการเมืองที่มี "อายุงาน" เท่านี้ ถือว่าดีแล้ว แต่วันนี้เขา จะมาเปนตัวเลือกให้ผม จะเปนนายกฯ 5555555 ตามใจผมเถิด ต้องมีโชว์กันบ้าง5555 เรื่องข่าวบุญมาก ผมตกข่าวจริงๆ ตอนนี้คดีไปถึงไหน ผมก็ไม่สนหรอก ตะแกก็เปน สส.ไปแล้วด้วย จะเลือกกันอีกหนจำไม่ได้จริงๆ ใครลองดูก็ได้ ลองพิมพ์ "บุญมาก ศิริเนาวกุล" หรือ "พิพากษา บุญมาก ศิริเนาวกุล" ใน กูเกิลดู ถ้าเจอลิงก์ไหนไปหาถึงเรื่องนี้ได้บอกผมที ....... จากคุณ : อย่าดุผมสิ (มีใครไทยแลนด์) - [ 8 ม.ค. 49 23:16:20 ]

ความคิดเห็นที่ 63 "วิฑูรย์"ซีดเจอใบเหลืองรายแรก 20กุมภาฯเลือกส.ส.อุบลฯเขต3ใหม่ "วิฑูรย์ นามบุตร" ของประชาธิปัตย์ ซีด เจอ กกต.ให้ "ใบเหลือง" รายแรก สั่งเลือกตั้งใหม่ ส.ส.เขต 3 อุบลฯ 20 ก.พ.นี้ ขณะที่ "ประสงค์ บูรณพงศ์" รอดยกคำร้องทุจริตเลือกตั้งแจกผ้าตัดเสื้อ กกต.เชิญ 4 ว่าที่ ส.ส.ไทยรักไทย และ 3 ว่าที่ ส.ส.ปชป.เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่ม "บุญมาก ศิริเนาวกุล" เฮศาลสั่งยกฟ้องคดีใบแดง ลั่นฟ้องกลับ กกต.เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน การประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อพิจารณาและประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง รวมถึงสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในกรณีที่มีการทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งเริ่มตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ ได้เสร็จสิ้นเมื่อเวลา 21.30 น.โดยพล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา เลขาธิการ กกต.แถลงว่า ที่ประชุมมีมติสั่งให้เลือกตั้งใหม่ในเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.อุบลราชธานี ซึ่งนายวิฑูรย์ นามบุตร ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับคะแนนสูงสุด เนื่องจากพบหลักฐานการเลือกตั้งไม่สุจริตและการซื้อเสียง "ที่ให้ใบเหลืองเพราะนายวิฑูรย์ ไม่ได้เป็นผู้กระทำเอง แต่เป็นการกระทำของหัวคะแนน โดยจะจัดเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 20 ก.พ.นี้" -------------------------------------- http://www.bangkokbiznews.com/2005/02/17/pol/index.php?news=pol1.html ------------------------------------ อ้าวแล้วทีแบบนี้ลิงก์ของ  An.mkII ตาม #38 มีหัวข่าวแบบนี้ ทำไมไม่เอามโชว์รวมไว้ด้วยเล่า ให้ผมเปนเกียรติกับกระทู้หน่อย ว่าผมปิดตาข้างเดียวมั่ง ปิดติ่งตรงไหนอีกเนี่ย 55555 ......... ทำไมลงแต่ข่าวแก้ให้บุญมาก "คนเดียว" เล่า รึจะไปตั้งกระทู้ถามอีกว่าใครจำเรื่องบุญมากได้บ้าง ผมว่าหลายๆคนไม่รู้ข่าวศาลยกฟ้องใบแดงแกหรอก ผมไม่รู้ก็บอกไม่รู้ ในกระทู้ก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อ แค่ "ข่าว" เท่าที่ผมจะค้นได้เท่านั้นครับ จากคุณ : อย่าดุผมสิ (มีใครไทยแลนด์) - [ 8 ม.ค. 49 23:26:05 ]

ความคิดเห็นที่ 64 "วิฑูรย์"ซีดเจอใบเหลืองรายแรก 20กุมภาฯเลือกส.ส.อุบลฯเขต3ใหม่ "วิฑูรย์ นามบุตร" ของประชาธิปัตย์ ซีด เจอ กกต.ให้ "ใบเหลือง" รายแรก สั่งเลือกตั้งใหม่ ส.ส.เขต 3 อุบลฯ 20 ก.พ.นี้ ขณะที่ "ประสงค์ บูรณพงศ์" รอดยกคำร้องทุจริตเลือกตั้งแจกผ้าตัดเสื้อ กกต.เชิญ 4 ว่าที่ ส.ส.ไทยรักไทย และ 3 ว่าที่ ส.ส.ปชป.เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่ม "บุญมาก ศิริเนาวกุล" เฮศาลสั่งยกฟ้องคดีใบแดง ลั่นฟ้องกลับ กกต.เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน การประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อพิจารณาและประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง รวมถึงสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในกรณีที่มีการทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งเริ่มตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ ได้เสร็จสิ้นเมื่อเวลา 21.30 น.โดยพล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา เลขาธิการ กกต.แถลงว่า ที่ประชุมมีมติสั่งให้เลือกตั้งใหม่ในเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.อุบลราชธานี ซึ่งนายวิฑูรย์ นามบุตร ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับคะแนนสูงสุด เนื่องจากพบหลักฐานการเลือกตั้งไม่สุจริตและการซื้อเสียง "ที่ให้ใบเหลืองเพราะนายวิฑูรย์ ไม่ได้เป็นผู้กระทำเอง แต่เป็นการกระทำของหัวคะแนน โดยจะจัดเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 20 ก.พ.นี้" -------------------------------------- http://www.bangkokbiznews.com/2005/02/17/pol/index.php?news=pol1.html ------------------------------------ จากคุณ : อีก1ในคอลเลคชั่น (มีใครไทยแลนด์) - [ 8 ม.ค. 49 23:28:12 ]

ความคิดเห็นที่ 65 พรุ่งนี้ผมจะเอากระทู้นี้ไปโพสใหม่ แล้วลงลิงก์เรื่องคดีของบุญมากให้ครบ แล้วคนที่เหลือ พวกคุณอย่าลืมมาช่วยแย้งด้วยว่า ปชป.หล่านั้นเขาบริสุทธิ์ขนาดไหน เพราะผมอาจตกข่าวแบบนี้อีกหลายๆข่าวก็ได้ ช่วยๆกันแก้ให้ ปชป.เขาหน่อย สังคมจะได้สมดุล55555555 ----------------- เอาแบบนี้ดีกว่า เด๋วผมจะหาข่าวฝ่าย ทรท.บ้าง จะได้หายข้องใจ ไม่อยากจำใจทนฟะงคนนินทาว่าเปนสาวกใคร แต่ต้องรอบิ้วท์อารมณ์หน่อยนะครับ แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 49 23:16:15 จากคุณ : หยวนๆ (มีใครไทยแลนด์) - [ 9 ม.ค. 49 00:48:47 ]

ความคิดเห็นที่ 66 555.. อ้าว..แล้วมันเกี่ยวกะกระทูู้้หรือครับ.. ผมจักได้เอามาลง..กะข่าวของคุณวิฑูรย์ เพราะเดียวเอามาลงไอ้คนบางพวก...คือพวกที่่ชอบบอกว่าเอาอะไรมาลงเยอะเเยะมันก็จักด่าผมอีก.. เฮ้อแต่นี้..พอผมไม่เอามาลก็็้ถูกว่าอีก.. นี้แหละนี้ที่เป็นเรื่องของคนมันจะว่า..555 อ้อและถามว่าเหตุไรผมจึงแก้ข่าว บุณมาก คนเดียว.. ก็พอดีผมจำข่าวนี้ได้น่ะสิครับ.. เลยออกมาแก้ข่าวใ้เขาส่วนท่านอื่นๆผมมิได้สนใจ... ผมเลยขี้เกียจที่จะแก้.. เพราะคงไม่มีใครมาจ้างให้้ผมเขียนกระทู้แก้ข่าวให้ใครนี้ครับ.. ผมจักได้รวบรวมข้อมูลมาแก้่ต่างแบบเป็นวรรคเป็นเวร.. แต่นี้ผมทำตามความสมัครใจ..ทำตามที่ผมพอจะรู้ว่าความจริงมันเป็นไร.. และที่ต้องไปหาข่าวมาลง.. เพราะกลัวว่าเดียวใครมันจักหาว่าผมมั่วข่าวเองอีก.. เพราะถ้าผมจักแก้ข่าวอาข่าวมาลงตรงๆ.. เหตุไรผมต้องโพสสองคคห.ด้วย.. จากคุณ : An.mkII - [ 9 ม.ค. 49 07:23:57 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ชื่นชมคุณ An.mkII ที่นำข้อมูลส่วนของคุณบุญมากมาให้ดู ไม่อย่างนั้นคุณบุญมากคงจะถูกมองว่าผิดจริง ผิดคือผิด ถูกคือถูก ว่ากันไปตามหลักฐาน เหตุและผล กระทู้นี้เนื้อหาเข้มข้นดีนะคะ จากคุณ : ผู้ ญ ธรรมดา ที่นางฟ้าอยากเป็น - [ 9 ม.ค. 49 07:42:28 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ..เข้ามาอ่าน แล้วโหวด จากคุณ : Vulcan - [ 9 ม.ค. 49 07:55:51 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ชาติไทยโวยปชป.กรณีเทปอภิปราย (ผู้จัดการ27/02/42,กรุงเทพธุรกิจ01,2,3/03/42 ) แกนนำพรรคชาติไทย นายประภัตร โพธสุธน ขอคำชี้แจงจากเลขาธิการ พรรคประชาธิปัตย์ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ และถามหามารยาททางการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาล ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในเรื่องที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์นำเทปการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยออกแจกจ่ายในพื้นที่หาเสียง ก่อนหน้านี้นางรังสิมา รอดรัศมี อดีตผู้สมัครส.ส.สมุทรสงคราม พรรคปชป. ได้ลงพื้นที่เตรียมหาเสียงเลือกตั้ง ด้วยการแจกเทปบันทึกเสียงของนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สงขลา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส. สุราษฎร์ธานี พรรค ปชป.ที่อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เมื่อปี 2539 กรณีรับเงินจากนายราเกซ สักเสนา ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ(บี.บี.ซี) นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและขัดซึ่งจริยธรรมทางการเมือง ในการประชุม ครม.ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 2 มี.ค.นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้กล่าวขอโทษพรรคชาติไทยแทนสมาชิกพรรค ที่ได้นำเทปการอภิปรายไม่ไว้วางใจข้างต้นไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านซึ่งถือเป็นการไม่เหมาะสม กรณีดังกล่าวนางรังสิมาบอกต้องการหยิบเทปการอภิปรายหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น นายบรรหาร ศิลปอาชา บอกว่า พรรคชาติไทยเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และให้ความร่วมมือด้วยดีกับรัฐบาลตลอดมา คงไม่มีปัญหาอะไรเพราะการกระทำดังกล่าวมิได้เจตนา จากคุณ : นะ (tonytui) - [ 9 ม.ค. 49 08:24:26 ]

ความคิดเห็นที่ 70 อย่าไปว่าเขา พรรคเขาดี "ในเดือนเดียวกันนั้นเองระหว่างการประชุมใหญ่ พรรคประชาธิปัตย์ หัวหน้าพรรคในขณะนั้นคือ ชวน หลีกภัย ก็เอ่ยวาจาทำนองว่ารัฐบาลชุดนี้ “...กำลังบริหารประเทศด้วยระบบกึ่งประธานาธิบดี.” http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9480000014914 "คณะบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.สำเภา ชูศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพื่อขอความเป็นธรรม ภายหลังจากที่มีบุคคลแต่งกายคล้ายทหาร จำนวน 5 คน บุกเข้าไปทำร้ายร่างกายพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของสำนักงานหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ พร้อมทั้งใช้ก้อนหินขว้างปาสำนักงานเก่าของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการจนได้รับความเสียหาย เมื่อเวลา 01.30 น. ของคืนวันที่ 15 พ.ย.43  ที่ผ่านมา เมื่อถามว่า จะเป็นการปล่อยข่าวเพื่อสร้างความเสียหายมาให้นายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า "คิดว่ามันมีมือปืน ประเภทมือรับจ้างทั้งหนังสือพิมพ์ และวิทยุก็มีอยู่จริง ผมเคยพูดแทนพวกเราว่าคนทุกกลุ่มมันมีคนดี คนไม่ดีปนอยู่ เพราะฉะนั้นจะไปเหมาทั้งหมดคงไม่ได้ ประเภทหาประโยชน์ คอยให้ประโยชน์กับบางกลุ่มแล้วก็กล่าวหาบางกลุ่มก็มีอยู่ เราก็เห็นกันอยู่จนถึงทุกวันนี้ ทุกวันนี้ เราอ่านหรือเราฟังก็รู้อยู่ แต่พวกผมไม่มีเวลาที่จะไปสนใจกับสิ่งเหล่านี้ นอกจากว่าหน่วยงานนั้นๆ ต้องดูแลเครื่องมือเหล่านี้ โดยต้องไม่ให้เป็นประโยชน์กับใครเป็นการส่วนตัว และต้องไม่ไปทำอะไรให้เสียหายต่อใคร โดยไม่ยุติธรรมกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด" นายชวน ย้ำว่า รัฐบาลชุดนี้คิดว่าเป็นรัฐบาลที่รักษาความเป็นธรรม 100% และไม่ต้องการให้เครื่องมือเหล่านี้ตกเป็นเครื่องมือของรัฐ หรือเป็นเครื่องมือของนายทุนคนใดคนหนึ่ง " http://rdd.mcot.net/np/43/11/18/20.htm นายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า จะส่งนายสุวรรณ กู้สุจริต อธิบดีกรมพลศึกษาซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันในการทุจริตก่อสร้างสนามกีฬาคลอง 6 ลงรับเลือกตั้งส.ส.เขต ที่จังหวัดตรัง "ของพวกนี้ถ้ามีหลักฐานก็คงมีการดำเนินการไปแล้ว พรรคก็ต้องคิดถึงอนาคตของพรรคด้วยถ้าไม่จริงก็อย่าไปเป็นเครื่องมือของใครเพื่อให้ร้ายใคร ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน และคอยเล่นงานคนโกงบ้านเมืองจะดีกว่า " นายกรัฐมนตรี กล่าว นายชวน บอกด้วยว่า การจัดคนลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบเขตของพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะในส่วนของภาคใต้นั้นได้จัดลงตัวเรียบร้อยไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่นายสุวรรณ เป็นอธิบดีกรมพลศึกษานั้น ได้เกิดกรณีอื้อฉาวเรื่องการก่อสร้างสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ คลอง 6 มูลค่า 1,623 ล้านบาท ซึ่งมีการแก้ไขสเปคของกำแพงกั้นดินจนเกิดความขัดแย้งกันด้านผลประโยชน์ระหว่างบริษัทรับเหมาก่อสร้าง และบริษัทควบคุมการก่อสร้าง จนเป็นสาเหตุของการลอบยิง นายลิขิต เพ็ชรสว่าง น้องชายของ นายโสภรณ เพ็ชรสว่าง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร มาแล้ว จากการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ลงความเห็น กรมพลศึกษามีความผิดจริง และส่อเจตนาไปทางทุจริต ซึ่งได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมี นายศิริศักดิ์ อ่อนละมัย เป็นประธาน ยังตั้งข้อสังเกตว่า การจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์กีฬาตำบลของกรมพลศึกษาในยุคของนายสุวรรณ มีการล็อกสเปคและได้ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบแล้ว http://rdd.mcot.net/np/43/11/18/22.htm จากคุณ : นะ (tonytui) - [ 9 ม.ค. 49 08:26:50 ]

ความคิดเห็นที่ 71 จปร.7ชี้บ้าน3หลังผิด'สนั่น'อย่าออกรับแทน-แผนที่ป่าไม้ถูกแล้ว พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตผู้ช่วยเลขานุการรมว.กลาโหม กล่าวถึง กรณีบ้าน 3 หลัง ว่า สมัยที่เขาเป็นผู้บังคับการกองพันที่ 2 กรมทหารราบที่ 19 กอง พลทหารราบที่ 9 (ผบ.ร.19 พัน 2 กองพลทหารราบที่ 9) ได้ รับมอบหมายให้เข้าคุ้มครองความปลอดภัยของบริษัทที่ก่อสร้างเขื่อนศรี นครินทร์ และยังเป็น 1 ในคณะกรรมการจัดสรรที่ดินให้กับชาวบ้าน และขอยืน ยันว่าบ้าน 3 หลังริมเขื่อนศรีนครินทร์ที่กำลังเป็นข่าว นั้นผิด 100% ต้อง ดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมกับแสดงความห่วงใยพล.ต. สนั่น ขจร ประศาสน์ รองนายกรัฐมน ตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาด ไทย ในฐานะ เพื่อนเก่า ว่า ไม่น่าจะออกรับแทนเจ้าของบ้าน 3 หลังอย่าง สุด ตัว เพราะจะทำ ให้เกิดความเสียหายในภายหลัง .......... ---------- จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 9 ม.ค. 49 08:39:49 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เห็นด้วยกับ 67 ที่ว่า ผิดคือผิด ถูกคือถูก ว่ากันไปตามหลักฐาน เหตุและผล จากคุณ : ใบชาอ่อน - [ 9 ม.ค. 49 08:42:57 ]

ความคิดเห็นที่ 73 "สนั่น"ปฏิเสธไม่ได้ลวนลาม "มติชน" ยืนยัน พร้อมให้สังคม "ตัดสิน" เสนอองค์กรเป็นกลางชี้ขาด ห่วงจิตใจนักข่าวหญิงบอบช้ำทั้งที่พฤติกรรมไม่เคยด่างพร้อย (มติชน 19 ก.ย.45) "เสธ.หนั่น" เปิดชั้น 28 แถลงแจงไม่ได้ลวนลามนักข่าวหญิงมติชน อ้างเจ้าตัวตกใจ-เข้าใจผิดไปเอง กองบรรณาธิการยืนยันข้อเท็จจริงอีกครั้ง พร้อมให้สังคมตัดสิน "ชวน" ระบุไม่ปกป้อง แต่ต้องดูรายละเอียด "มนูญกฤต" รับอาจกระทบภาพพจน์สภาผู้แทนฯบ้าง เมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ชั้น 28 โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์เปิดแถลงข่าวถึงกรณีที่หนังสือพิมพ์มติชนนำเสนอรายงานหน้า 13 เมื่อวันที่ 17 กันยายน ระบุถึงนักการเมืองลวนลามนักข่าวสาวสรุปได้ว่า ตนคลุกคลีกับสื่อมวลชนมา 20 ปี ไม่เคยคิดในเรื่องชู้สาวกับสื่อมวลชน แต่ก็เป็นคนที่สนิทสนมกับน้องๆ เหมือนกับหยอกล้อเล่นกันได้ ตอนถูกคดี 45 ล้านบาท นักข่าวทุกคนมากอดร้องไห้ เวลาทุกข์ก็มาเสียใจ เวลาสุขก็มาดีใจ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น นักข่าวโทรศัพท์มาถึงเลขาฯของตน บอกว่าจะขอสัมภาษณ์ ตนบอกว่า ไม่มีข่าว แต่เขาก็บอกว่า เสาร์อาทิตย์ต้องหาข่าวหน่อย วันนั้นได้นัด ส.ส.มาพบกันที่นี่ 2 ทุ่มวันเสาร์ ก็เลยบอกว่า เอ้า ถ้าอยากจะพบก็มา "พอมาเขาอยู่ข้างล่าง ผมอยู่ข้างบน ผมมาดูหนังสือข้างบน เตรียมที่จะสอบด้วย เตรียมจะทำหนังสือเล่มที่สองด้วย แล้วลูกน้องผมก็ไปเชิญมา ก็ขอข่าว ผมก็บอกไม่มีข่าวให้แล้ว ทานเสร็จก็มานั่งโซฟาตรงนั้น แล้วลูกน้องผมก็มานั่งอยู่ตรงนี้ 3 คน แม่บ้านก็ยืนอยู่ตรงนั้น เพื่อจะคอยรับใช้ว่าจะเอาอะไร ไม่ใช่ว่าผมอยู่กัน 2 ต่อ 2 ผมก็บอกว่าไม่มีข่าวแล้วกลับไปเถอะ ไม่ให้ข่าวแล้ว เขาก็เดินโทรศัพท์ แล้วกลับไป ผมไม่ได้ทำอะไรเลย" พล.ต.สนั่นกล่าว ....... ----------------------------- จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 9 ม.ค. 49 08:52:24 ]

ความคิดเห็นที่ 74 สกู๊ป : ย้อนความทรงจำ 'อุลริค โวล์ฟกัง' เศรษฐีเยอรมัน'ฉาว' (มติชน 25 ส.ค.45) ทันทีที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 689/2540 พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ลงนามห้าม นายอุลริค โวล์ฟกัง ชาวเยอรมัน เข้ามาพำนักในประเทศไทย ทำให้ชื่อของนายโวล์ฟกังหวนกลับมาดังกระหึ่มอีกครั้ง นายโวล์ฟกังคนนี้ เคยเป็นประเด็นร้อนๆ บนเวทีการเมืองสมัยรัฐบาลนายชวนกำลังเรืองอำนาจ เมื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.พรรคความหวังใหม่ ในขณะนั้นแฉว่า มีกลุ่มคนใกล้ชิดรัฐมนตรีงาบเงินสินบนนับล้านบาทจากการวิ่งเต้นให้ลบชื่อนายโวล์ฟกังออกจากบัญชีดำฐานเป็นบุคคลต่างด้าวมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) การเปิดโปงของ ร.ต.อ.เฉลิมทำให้สื่อมวลชนต่างขุดคุ้ยคดีชาวเยอรมันวัย 58 ปี คนนี้ออกมาตีแผ่เป็นข่าวดังไปทั่วเมือง ประวัติของนายโวล์ฟกังเข้ามาเมืองไทยเมื่อ 24 ปีก่อน จากนั้นก็เข้าๆ ออกๆ นับครั้งไม่ถ้วน แต่เข้าพักราว 3 เดือนก็กลับไปเยอรมนี หลังจากนั้นหันมาปักหลักทำธุรกิจในเมืองพัทยา และแต่งงานกับ นางรสริน ชัยสายัณห์ สำหรับธุรกิจของนายโวล์ฟกังมีหลายชนิด เช่น ร้านอาหาร ตึกแถวให้เช่า ร้านเสริมสวย คอนโดมิเนียม ยังมีกิจการในประเทศสหรัฐ มาเลเซีย เยอรมนี แถมยังเป็นประธานมูลนิธิสัตว์เยอรมนี แม้ฉากด้านนอกดูเหมือนนักธุรกิจชาวเยอรมันคนนี้เฟื่องฟูมาก แต่สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วกลับมองอีกด้าน เนื่องจากมีการอ้างถึงรายงานลับของฝ่ายตรวจสอบบุคคลต่างด้าวที่ทำธุรกิจในเมืองไทยระบุ ธุรกิจของนายโวล์ฟกังมีเบื้องหลังซ่อนเร้น ยิ่งเมื่อเข้าไปตรวจสอบบัญชีเงินธนาคารของบุคคลคนนี้ มีการเคลื่อนไหวผิดปกติอย่างมาก บางครั้งมีโอนเงินจากสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี และออสเตรเลีย เข้าบัญชีนายโวล์ฟกังถึง 20 ล้านบาท ช่วง 2 ปี ในระหว่างการตรวจสอบมีเงินเข้าออกนับพันล้านบาท ตำรวจสงสัยว่านายโวล์ฟกังทำธุรกิจถูกกฎหมายประเภทไหนกันแน่จึงมีเงินมากมายมหาศาลขนาดนี้ ในปลายเดือนกรกฎาคม 2540 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ต.พัทยาทำรายงานลับเรื่องการรวบรวมข้อมูลชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่ประเทศไทย มีพฤติการณ์ด้านยาเสพติด และเป็นธุระจัดหาผู้หญิงเพื่อส่งไปค้าประเวณีที่ประเทศเยอรมนี รายงานชิ้นนั้นมีชื่อนาย "อุลริค โวล์ฟกัง" อยู่ด้วย วันที่ 14 กันยายน 2541 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายโวล์ฟกังฐานนำเข้าเรือยอชต์ไม่เสียภาษีมูลค่า 72 ล้าน พร้อมอุปกรณ์สื่อสารไฮเทค และเป็นบุคคลต้องห้ามเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย มหาเศรษฐีเยอรมันฮึดสู้ ตั้งทีมทนายความร้องขอความเป็นธรรมโดยมี นายจอร์จ วิทเมอร์ หรือฉายา "จอร์จ สวิส" คนสนิท เป็นตัวกลางในการติดต่อเจรจาและวิ่งเต้นกับนักการเมืองที่อ้างตัวว่าจะช่วยเหลือนายโวล์ฟกังให้หลุดจากคดีได้ นั่นเป็นที่มาของข่าวการจ่ายเงินสินบนให้กลุ่มนักการเมืองที่ใกล้ชิดกับรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลนายชวน เมื่อต้นปี 2542 สื่อได้ตีแผ่ว่า "จอร์จ สวิส" รับเงินโอนจากเยอรมนี จำนวนราว 27 ล้านบาท เพื่อเอามาจ่ายให้กับกลุ่มนักการเมืองและทนายความที่ช่วยต่อสู้คดี เมื่อ ร.ต.อ.เฉลิมหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาแฉกลางสภาผู้แทนฯ รัฐบาลนายชวนเต้นผาง มีการสั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงสินบน "อุลริค โวล์ฟกัง" หลังจากที่พบว่าชาวเยอรมันที่อื้อฉาวคนนี้เดินทางเข้าๆ ออกๆ ประเทศไทยเป็นว่าเล่นรวมถึง 8 ครั้ง ทั้งๆ ที่ สตม.มีคำสั่งห้ามเข้าประเทศไทยและ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เซ็นคำสั่งไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2540 ผลสรุปการสอบสวนซึ่ง นายชวน หลีกภัย ในฐานะนายกรัฐมนตรี ออกมาแถลงด้วยตัวเองเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2542 ระบุว่า เหตุที่นายโวล์ฟกังเข้าออกประเทศไทยได้อีกหลังถูกขึ้นบัญชีดำเพราะ พล.ต.สนั่นเซ็นคำสั่งล่าช้าถึง 3 เดือน 27 วัน ขณะที่การส่งข้อมูลบันทึกลงในคอมพิวเตอร์และแจ้งให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองนั้นยังล่าช้าอีก 2 เดือน 11 วัน เพราะฉะนั้น คนที่รับผิดชอบก็เป็นเพียงนายตำรวจที่เกี่ยวข้องรวม 3 นาย ต่อมามีการย้ายนายตำรวจระดับสูงของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ส่วนกรณีสินบนนั้น ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา นายลิขิต มุกดา อดีตสมาชิกสภาจังหวัดพิจิตร คนสนิท พล.ต.สนั่น และ นายปรีชัย มาระวัณโณ ข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนนายโวล์ฟกัง ทางตำรวจเยอรมันขอให้ไทยส่งตัวกลับขึ้นศาลที่เมืองมิวนิก เมื่อต้นเดือนเมษายน 2544 ฐานฉ้อโกงเงินบริจาคและเงินค่าธรรมเนียมสมาชิกของมูลนิธิสัตว์เยอรมนี จำนวน 2,000 ล้านบาท! ---------------------------------------------- จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 9 ม.ค. 49 09:03:42 ]

ความคิดเห็นที่ 75 จาก..อุลริค โวล์ฟกัง ถึงแบล็กลิสต์ ป.ป.ส. แฉ 402 คนไทยขายชาติ (เนชั่นสุดสัปดาห์ 25 ก.พ.-3 มี.ค. 2542) ผลพวงจากศึกซักฟอก 3 รัฐมนตรีในรัฐบาล 'ชวน 2/2' ยังส่งผลสะท้านสะเทือนอย่างไม่สิ้นสุดให้กับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เฉพาะอย่างยิ่งทีมที่ปรึกษาใกล้ชิด!?!?!? ยิ่งเรื่องราวของ นายอุลริค โวล์ฟกัง เป็นข่าวใหญ่ที่ยิ่งสาวก็ยิ่งล้ำลึกจนเห็น 'ร่างเงา' ขบวนการที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสินบนของชาวเยอรมันผู้ต้องรายนี้ เช่นเดียวกับขบวนการดองแบล็กลิสต์ ที่ยิ่งสาวลึกก็ยิ่งเห็นความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับขั้นตอนปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะตม.ดอนเมือง ที่ปล่อยให้เดินทางเข้า-ออกประเทศไทยได้อีกหลายครั้งหลายหน ทั้งๆ ที่กระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งที่ 689/2540 ระบุชื่อนายอุลริค โวล์ฟกัง ให้เป็นบุคคลต้องห้ามและเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2540 แต่ ตม.ดอนเมืองตรวจคอมพิวเตอร์แล้วไม่พบชื่อ 'อุลริค โวล์ฟกัง' จึงยังปล่อยให้มีการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยเป็นปกติ กระทั่ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ หยิบขึ้นเป็นประเด็นอภิปรายในศึกซักฟอก 3 รัฐมนตรี รัฐบาลจึงได้ร้อนตัวตั้งคณะกรรมการขึ้นหลายชุด เพื่อมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ตั้งแต่คณะกรรมการชุดที่มี พล.ต.อ.อัยยรัช เวสสะโกศล รอง ผบ.ตร.เป็นประธาน จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ก็ได้ประกาศตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาอีกชุดเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พร้อมกับเกิดคำถามติดตามว่า เกิดเรื่องผิดพลาดอะไรขึ้น? เรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นในขั้นตอนไหน? คนหรือคอมพิว-เตอร์กันแน่ที่ผิดพลาด!?!?!? เพราะมันช่างน่าสงสัยเหลือเกินว่า ทำไม? ตม.ดอนเมือง ตรวจคอมพิวเตอร์แล้ว ไม่พบชื่อ 'อุลริค โวล์ฟกัง' ในขณะที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ยอมรับว่านาย อุลริค โวล์ฟกัง มีชื่ออยู่ในบัญชีดำของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบ-ปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) แต่จัดชั้นความลับเอาไว้ที่ระดับ 8 ส่วนข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของกองบังคับการอำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) มีข้อมูลชั้นความลับอยู่แค่ระดับ 4 เมื่อเป็นอย่างนี้ ก็เลยไม่ปรากฏชื่อ 'อุลริค โวล์ฟกัง' ในคอมพิวเตอร์ของ ตม.ดอนเมือง .................... ------------------------------------------ http://rdd.mcot.net/np/42/4202/420225_50.htm ---------------------------------- จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 9 ม.ค. 49 09:07:12 ]

ความคิดเห็นที่ 76 โอ   พระเจ้าจอร์จ  มันยอดมาก... โหวตกระทู้นี้เอาไปเลยทั้งใจ จากคุณ : ต้องยังงี้สิฟ่ะ (eak_berserk) - [ 9 ม.ค. 49 13:50:34 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เจ้าของกระทู้ลงไม่หมดครับ ข้อกล่าวหาที่ยกมานี่ มีการสอบสวนมาแล้ว หนังสือพิมพ์ก็ลงข่าวการตัดสินไปแล้ว อย่างกรณีใบแดงสส.บุญมาก ที่ผมจำได้ กกต.ตัดสินว่าไม่มีมูล ทำให้บุญมากจะทำการฟ้องกลับกกต.ฐานทำให้หมดสิทธิ์เลือกตั้ง และเสียชื่อเสียง สปก 4-01 เรื่องนี้ถ้ามีการขุดค้ย คนในพรรครัฐบาลปัจจุบัน มีคนนึงที่ได้ที่ดินจากโครงการนี้ไปเป็นจำนวนมาก สุชาติ ตันเจริญไงครับ เวลาลงก็ลงให้หมดด้วยครับ ลงครบทุกชื่อ แต่ถ้าชื่อไหนอยู่ทรท.ไม่ลงซะอย่างนั้น คดีอื่นผมจำไม่ได้หมดหรอกครับ เพราะผลงานแต่ละอันที่คิดว่าเป็นของปชป. อย่างคลองด่านนี้สุวัจน์ไม่ใช่หรือครับ รางคู่มันก็ก่ำกึ่งระหว่างบรรหาร กะชวน อันนี้เคยมีปัญหาเรื่องการตรวจสอบ แต่สาวไปยัไงไม่รู้ เรื่องก็เงียบไป แล้วอย่างกรณีบิ๊กจ๊อดช่วยตรวจสอบทีสิครับ มีทรัพย์สมบัติมาจากใคร ใครจ่ายให้ ถ้าคุณเป็นแค่คนอ่านธรรมดา ไม่ใช่ลูกกระแป๋ง ก็ลองคิดดูเองนะว่า คดีพวกนี้เคยมีลงข่าวแล้ว และก็มีการชี้แจงแล้วทั้งสิ้น แต่เจ้าของกระทู้เลือกเอามาแต่ตอนที่มีข่าว ไม่ได้เอาตอนที่มีการชี้แจงมา ถ้าจะรื้อฟื้นควรเอามาให้หมดครับ ไม่ใช่เอาแต่ข้อกล่าวหามา แต่ข้อชี้แจงตัดทิ้ง แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 49 16:08:31 แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 49 16:08:11 จากคุณ : THX - [ 9 ม.ค. 49 16:06:24 ]

ความคิดเห็นที่ 78 สกู๊ป : บันทึกลับสอบบ่อนตรังจเร..ฟันธงผิดยกจังหวัด (ไทยรัฐ 4 มิ.ย.44) จะเป็นกรณีประวัติศาสต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ ที่จเรตำรวจเสนอเด้งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง เพราะปัญหาบ่อนการพนันโปปั่น ในจังหวัดของ นายชวน หลีกภัย ผู้นำฝ่ายค้าน แถมตำรวจกองปราบฯจากกรุงเทพฯ ยังจับ นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้คาบ่อน อีกด้วย ที่บอกว่า เป็นกรณีประวัติศาสตร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ใช่เพราะจับ ส.ส.ได้คาบ่อน แต่อยู่ที่...ตำรวจกองปราบฯ ไปจับบ่อน แล้วสั่งย้ายนายตำรวจยศ พล.ต.ต. ตำแหน่งผู้บังคับการ นั้น ไม่ค่อยปรากฏให้เห็นบ่อยนัก...  ------------------------------------ สมชาย โล่สถาพรพิพิธ ชื่อ                       นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ตำแหน่ง                -ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เกิด                      7 พฤษภาคม 2501 สถานที่เกิด             อ.ปะเหลียน จ.ตรัง บิดามารดา             นายจั้งเห้ง และนางไน่จู่ สถานภาพ              สมรสกับ นางรัชดาภรณ์ โล่สถาพรพิพิธ มีบุตร-ธิดา 3 คน การศึกษา               -มัธยม โรงเรียนวิเชียรมาต จังหวัดตรัง                           -ปริญญาตรีนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง การทำงาน             -หลังศึกษาจบเดินทางกลับ จ.ตรัง ช่วยพี่ชายทำธุรกิจเกี่ยวกับการขายวัสดุก่อสร้าง ด้านการเมือง         -เข้าสู่การเมืองระดับท้องถิ่นตั้งแต่ปี 2529 ด้วยการเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง เขต อ.ย่านตาขาว                           -ได้รับเลือกเป็นประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ปี 2540                           -ปี 2542-2543 เป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง                            -ลงเล่นการเมืองสนามใหญ่ ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (6 ม.ค.2544)  ได้ 50,503 คะแนน                           -18 พ.ค.2544 ถูกตำรวจกองปราบฯ จับคาบ่อนโปปั่น กลางเมืองตรัง พร้อมผู้ติดตาม อมรับว่ารู้จักกับเจ้าของบ่อน แต่ปฏิเสธไม่ได้เข้าไปเล่นการพนัน แต่ไปทำธุระเรื่องเลือกตั้ง อบต.                           -ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (6 ก.พ.2548) ................................................ แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 49 23:07:05 จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 9 ม.ค. 49 16:22:59 ]

ความคิดเห็นที่ 79 โพลสำรวจคะแนนนิยม "ชวน" วูบ หมดลายนักประชาธิปไตย จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 9 ม.ค. 49 16:47:38 ]

ความคิดเห็นที่ 80 วงการทูตวิพากษ์'ชวน'ไร้ศักดิ์ศรี (กรุงเทพธุรกิจ 28 ต.ค.43) "ชวน" สารภาพยกขบวนทีมรัฐมนตรีประชาธิปัตย์เข้าพบทูตญี่ปุ่นจริง อ้างเจรจาขายข้าว โยนให้ถาม "บิ๊กหมง-สุเทพ-ประดิษฐ์" ปรับแบบหนองงูเห่าเอง วงการทูตวิจารณ์เละไม่เคยมีธรรมเนียมปฏิบัติในประวัติศาสตร์ ที่นายกฯบุกเข้าพบทูต ระบุ ทูตพบได้เพียงระดับอธิบดี นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการเข้าพบเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่ามีการเจรจาเพื่อขอให้ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือเจบิค ลดเงื่อนไขแบบก่อสร้างอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานหนองงูเห่า ของกลุ่มเมอร์ฟี่ย์ จาห์น แทมส์ แอ็คหรือเอ็มเจทีเอ โดยผู้ที่จะให้รายละเอียดได้ดีที่สุด คือ พลเอกมงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งในวันที่ไปพบกับทูตญี่ปุ่นนั้น นายชวน กล่าวว่า นายประดิษฐ์ ก็อยู่ด้วย ทั้งนี้ นายชวน กล่าวถึงการไปพบทูต ว่า เพื่อเจรจาเรื่องที่ญี่ปุ่นจะให้ความช่วยเหลือเกาหลีเหนือ โดยจะส่งข้าวสารจำนวน 5 แสนตัน จึงได้ถือโอกาสสอบถามว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และถ้าเป็นความจริงก็อยากจะให้ซื้อข้าวจากไทย เพราะว่ามีราคาถูกกว่าข้าวญี่ปุ่นถึง 10 เท่า อีกประการหนึ่ง เกาหลีใต้ได้ซื้อข้าวไทยแล้วจำนวน 3 แสนตัน เพื่อช่วยเหลือเกาหลีเหนืออยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าญี่ปุ่นจะให้ความช่วยเหลือเกาหลีเหนือโดยช่วยซื้อข้าวไทยส่วนหนึ่งก็จะสามารถช่วยเกษตรกรของเราด้วย ต้องการให้หนองงูเห่าเสร็จเร็ว นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสนามบินหนองงูเห่า ว่า ปัญหาในขณะนี้ คือ ต้องการเห็นทุกอย่างโปร่งใส และบริสุทธิ์ยุติธรรม โครงการสามารถดำเนินการไปได้ตามกำหนดระยะเวลา เพราะขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันในเรื่องแบบของอาคารที่พักผู้โดยสาร แต่ไม่สามารถไปวิจารณ์อะไรได้ เพราะเป็นเรื่องทางเทคนิค "ความตั้งใจ คือ อยากให้โครงการสนามบินหนองงูเห่าสำเร็จ เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานชื่อมาแล้ว" นายชวน กล่าว เมื่อถูกถามว่า ในการเจรจากับเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ได้มีการรับปากว่าจะนำเรื่องไปหารือกับทางเจบิคหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เท่าที่ได้หารือในวันนั้น ก็ได้เรียนให้เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นทราบถึงปัญหา ซึ่งแนวโน้มมั่นใจว่าดี วงการทูตชี้ไม่มีธรรมเนียม ด้านแหล่งข่าวจากวงการทูต กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีพร้อมกับรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์หลายคนเข้าไปพบทูตญี่ปุ่น ว่า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เพราะไม่มีประเทศไหน ที่นายกรัฐมนตรี หรือระดับประธานาธิบดี เดินทางเข้าไปพบทูตด้วยตัวเอง เพราะไม่เคยมีธรรมเนียมปฏิบัติมาก่อน ทั้งนี้ ในระบบการทูตแล้ว เอกอัครราชทูตที่ประจำอยู่ประเทศใดๆ หากจะมีการพบปะกัน ก็ต้องทำเรื่องขึ้นมาในลักษณะทางการทูต หากทูตจะเข้าพบคงทำได้เพียงระดับอธิบดี ซึ่งก็ต้องทำหนังสือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรในการขอเข้าพบ หากเป็นในกระทรวงการต่างประเทศ ทูตก็จะขอพบกับอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กรมยุโรป เป็นต้น แต่หากมีเรื่องสำคัญมาก อธิบดีกรมก็อาจต้องแจ้งไปยังระดับปลัดกระทรวง หรือรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น "ไม่มีประเทศใดที่นายกรัฐมนตรีต้องเดินทางเข้าไปพบกับทูตด้วยตนเองเหมือนของไทย การที่ผู้บริหารประเทศทำอย่างนี้เท่าว่าไม่มีศักดิ์ศรี อาจทำให้ทูต หรือผู้นำประเทศนั้นๆ ดูถูกได้ ในหลักความเป็นจริงแล้ว เราจะปฏิบัติที่เท่ากันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นประเทศเล็กหรือใหญ่ นักการทูตพบได้เฉพาะระดับอธิบดี ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีไปพบทูต" แหล่งข่าวกล่าวและว่า การกระทำของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ทำให้เสียภาพจน์การทูต เผยทูตไม่มีอำนาจตัดสินใจ แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ทูตที่ประจำอยู่ประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทูตประเทศไหนก็ตาม เป็นเพียงผู้นำสารเหมือนบุรุษไปรษณีย์เท่านั้น ไม่มีอำนาจตัดสินใจอะไรทั้งสิ้น ซึ่งตามหลักแล้ว รัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรี ควรให้ทูตไทยประจำโตเกียว หรือที่เมืองไหนก็ได้ ไปหารือกับเจบิคเอง หรือให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไปเจรจาจะเหมาะสมกว่า แหล่งข่าวกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้ วงการทูตรู้สึกแปลกใจมากกับการกระทำของนายกรัฐมนตรีของไทย ไม่ทราบว่ามีเงื่อนงำอะไรถึงขนาดที่ระดับผู้นำประเทศจะต้องเดินทางเข้าพบทูต "การกระทำในลักษณะดังกล่าว ทำให้ประเทศไทยจะขาดอำนาจต่อรองในอนาคต เพราะผู้นำประเทศอื่นเขาจะมองว่า แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรียังต้องเข้าพบทูต และจะมีประเทศอื่นๆ ใช้เงื่อนไขข้างต้นที่จะขอพบนายกรัฐมนตรีได้" แหล่งข่าวกล่าว จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 9 ม.ค. 49 17:04:22 ]

ความคิดเห็นที่ 81 บริษัท "สนั่น-มนูญ" ฉลุย ขายคอมฯ รง.ยาสูบ 60 ล. (ประชาชาติธุรกิจ 20-23 ม.ค.43) จากคุณ : มีใครไทยแลนด์ - [ 9 ม.ค. 49 17:08:27 ]

ความคิดเห็นที่ 82 โกงมากก็โกง โกงน้อยก็โกงเหมือนกัน ประเด็นคืออยู่ที่โกงหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าฝ่ายที่เราชอบโกงน้อยกว่าเขาหรือเปล่า ถ้าคุณรักที่จะปกป้องผลประโยชน์ชาติ จงตำหนิทุกคนที่โกงครับ ไม่ใช่แก้ต่างว่าพวกฉันโกงน้อยกว่าพวกแก ให้กำลังใจ จขกท ครับ โหวดครับ จากคุณ : Dr.Anma - [ 9 ม.ค. 49 17:18:44 ]

ความคิดเห็นที่ 83 1 โหวด สำหรับความพยายามของ จขกท จากคุณ : kenghot - [ 9 ม.ค. 49 19:43:12 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณที่เอาข้อมูลมาดูกัน  เอามาเยอะ ๆ แล้วคนที่มีอำนาจตอนนี้อย่าเห เห้  อย่างเขาก็แล้วกัน จากคุณ : กาแลนท์เขียวเมืองนนท์ - [ 9 ม.ค. 49 21:41:47 ]

ความคิดเห็นที่ 85 .. แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 49 22:56:12 จากคุณ : Dragon Stone - [ 9 ม.ค. 49 22:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 86 สุดยอดดด อย่างลืมกองทุนมิยาซาว่านะคร๊าบบบบ จากคุณ : I.Brother - [ 10 ม.ค. 49 04:09:49 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ทุกรัฐบาลมีโกงเหมือนกันหมด ต่างกันตรงที่ โคตรโกง กับ โกงทั้งโคตร จากคุณ : maxtea - [ 10 ม.ค. 49 07:00:23 ]

ความคิดเห็นที่ 89 #87 ตอบโดนใจจัีง ลูกชวนน่ะเค้าเลี้ยงงู ส่วนลูกแม้วน่ะเลี้ยงอะไร ฝากถึง จขกท เวลาเอาอะไรมาน่ะเอามาให้มันหมด ไม่ใช้เอามาตอนพาดหัวข่าว แล้วตอนจบไม่ได้เอามา จากคุณ : chonlapat81 - [ 10 ม.ค. 49 08:43:17 ]

ความคิดเห็นที่ 90 เฮอๆ ข่าวปี 42 .เขากลับมาได้เพราะเป็น สส. แต่แม้ว อาจไม่ได้กลับ เพราะต้องลี้ภัย! จากคุณ : พายุตะเกียง - [ 10 ม.ค. 49 11:36:13 ]

ความคิดเห็นที่ 91 เข้ามาอ่านดู สนุกดี ข้อมูลแน่นปึ๊ก เจ๋ง ๆ ๆ จากคุณ : น้าแมงมุม - [ 10 ม.ค. 49 13:15:10 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ขอบคุณ จขกท.มากครับที่เอาข้อมูลดีๆเรื่องจริงๆมาให้ทราบกัน จากคุณ : ทวีศักดิ์ - [ 10 ม.ค. 49 18:11:48 ]

ความคิดเห็นที่ 93 เรื่องของ ปชป.พอจะมีอีกบ้าง แต่ข่าวมาร์คเงียบไปแล้ว ตอนนี้ข่าว เหลิมและลูกๆของเขากำลังจะกลับมา อาจมี "ของขึ้น" อีกสักกระทู้ เด๋วรอเราว่างสักครึ่งวันก่อนนะ จากคุณ : เชิญมาช่วยกันแฉนะครับ (มีใครไทยแลนด์) - [ 10 ม.ค. 49 21:31:44 ]

ความคิดเห็นที่ 94 //Wink //Wink   แหม แบบนี้สิ เจ๋ง ... กองเชียร์อาแม๊ว ทำการบ้านมาดี ฉะ..นักการเมืองกันแบบจริงจัง ... เห็นด๊วยที่ ลากไส้มาแฉแบบนี้ ... มันส์หยดกว่า ..การด่าแขวะเพื่อนสมาชิก ด้วยกัน..หน่ะจ๊ะ ......................กองเชียร์ ไทยรักไทย ไอ ยู .................. จากคุณ : ถูกใจ ใช่เลยฮะ (ลูกหินฮะ ๛) - [ 10 ม.ค. 49 22:22:36 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เอาแบบนี้ดีกว่า เด๋วผมจะหาข่าวฝ่าย ทรท.บ้าง จะได้หายข้องใจ ไม่อยากจำใจทนฟังคนนินทาว่าเปนสาวกใคร (ถึงจะเปนจริงๆ.....อ้าว55555) แต่ต้องรอบิ้วท์อารมณ์หน่อยนะครับ ได้ที่เมื่อไร เด๋วกลับมาโพสใหม่ จากคุณ : ครับผม.....โย่ๆๆ (มีใครไทยแลนด์) - [ 10 ม.ค. 49 23:18:19 ]

ความคิดเห็นที่ 96 อย่าเพิ่งเลยฮะ ..เอา ฝ่ายค้านนี่แหละ เพราะข่าวแขวะนายกฯ มีแยะทุกวัน..อ่านแล้วเริ่มเบื่อ ..ขอแบบ Request...Request... ถ้ามี ของน้าอะไรนะ ที่ทำเวป Insider หน่ะฮะ .. เอามาเล่นบ้างให้...เพื่อนๆรุ่นใหม่ๆ..เขารู้จักกันหน่อย ว่าตอน ..แชร์กับทรัส ..เจ๊งเนี่ย! สมัยนั้นมันเศร้าอย่างไร?? จากคุณ : ลูกหินฮะ ๛ - [ 11 ม.ค. 49 00:00:06 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ดีครับ จากคุณ : engg - [ 11 ม.ค. 49 00:31:23 ]

ความคิดเห็นที่ 98 "เอกยุทธ" ขี้ขึ้นสมองผวาคัตเอ้าท์ขู่ฆ่า "เอกยุทธ-อมรินทร์" ผวาคัตเอ้าท์สยอง " 2 นักธุรกิจ อ.ชะตาถึงฆาต " วอนสื่อจับตา โวยส่งสัญญาณขู่ฆ่าชัด ทำเหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อแป แต่ยืนยันไม่หวั่นไหว แรงมาก็แรงกลับ ขณะที่ตรวจสอบแล้วพบเป็นคัตเอ้าท์หนังดัง "สุริยะฆาต" ภายหลังจากการที่มีการขึ้นป้ายคัตเอ้าท์ขนาดใหญ่บนทางด่วนสายบางนา บริเวณ ซอยสุขุมวิท 62 มีข้อความว่า ?โหรดังฟันธง 14 ตุลา เกิดสุริยคราส นักธุรกิจชื่อดังอักษร อ. ชะตาขาด?นั้น ปรากฎว่าทั้งนายอัมรินทร์ คอมันต์ และนายเอกยุทธ อัญชันบุตร 2 นักธุรกิจที่กำลังเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล อย่างรุนแรงในช่วงนี้ ต่างเข้าใจว่าเป็นการส่งสัญญาณจากรัฐบาลให้ทำร้ายตน นายอัมรินทร์ คอมันตร์ กล่าวว่า ต้องการให้ผู้สื่อข่าวติดตามดูสถานการณ์ให้ดี เพราะป้ายที่ขึ้นนั้น เราไม่รู้ว่าใครเป็นคนขึ้น เพราะไม่มีรายชื่อว่า ผู้ใดรับผิดชอบป้ายดังกล่าว ซึ่งจากข้อความที่ปรากฏบนป้ายนั้น จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้ นอกจากตนหรือนายเอกยุทธ สองคนเท่านั้น คาดว่าต้องการจะให้หยุดการเคลื่อนไหวในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นคนทำป้ายขึ้นมาเองแน่นอน เพราะไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม ขณะนี้ไม่มีเวลามากพอที่จะคิดเรื่องนี้ ด้านนายเอกยุทธ อัญชันบุตร กล่าวว่า การขึ้นป้ายอย่างนี้ มองได้ว่า น่าจะมีการขู่ฆ่ากันแล้ว เป็นการขึ้นป้ายส่งสัญญาณให้ เจ้าหน้าที่ทำร้ายตน ทำเหมือนกับบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป ถ้าตนไม่หยุดเคลื่อนไหวคงเสร็จแน่ "ยืนยันว่า ผมไม่ได้กลัว ไม่หวั่นไหวแน่นอน มีแต่ผมจะยิ่งแรงขึ้น เพราะมีความพยายามจะให้เกิดความรุนแรง ขึ้นป้ายอย่างนี้ได้อย่างไร ออกมาประกาศกันเหมือนสังคมนี้ไม่มีกฎหมาย" นายเอกยุทธ กล่าว อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบไปล่าสุดพบว่า คัตเอ้าท์ดังกล่าวเป็นการโปรโมตภาพยนตร์ไทยเรื่อง "สุริยฆาต" ซึ่งจะลงโรงฉายในวันที่ 14 ตุลาคม นี้ ------------------------------ ไปเจอข่าวนี้ฮาดี เลยเอามาฝากไว้ก่อน ข่าวเก่าๆของนายเอกยุดคนนี้ สมัยแกกลับมาดังใหม่ๆ หาอ่านได้แต่ภาษาอังกฤษ เด๋วนี่เสิร์ชไปได้แต่ข่าวขยะของแกเต็มไปหมด ไม่เปนเรื่องเปนราว แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 49 09:01:04 จากคุณ : ตลกคาเฟ่ยังอาย (มีใครไทยแลนด์) - [ 11 ม.ค. 49 08:59:26 ]

ความคิดเห็นที่ 99 แค่นี้ขี้เล็บครับ เทียบมูลค่าไม่ได้กับรัฐบาลปัจจุบัน ต้องรอเปลี่ยนรัฐบาล แล้วให้รัฐบาลใหม่ ขุดขึ้นมาให้ดู แล้วจะรู้ถึงมูลค่ามหาศาลที่ต้องสูญเสียเข้ากระเป๋าใคร โดยเปล่าประโยชน์ จากคุณ : กาเฉม - [ 11 ม.ค. 49 15:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 100 รอข้อมูล ทรท.อยู่อย่าช้านะ จากคุณ : georgejump - [ 11 ม.ค. 49 18:05:58 ]

ความคิดเห็นที่ 101 สองเกลอลุยจับเท็จ "อากู๋ แกรมมี่" ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ส.ส.นครราชสีมา และนายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.อุดรธานี พรรคไทยรักไทย ได้ออกมาแถลงข่าวตอบโต้นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการบริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ว่า อยากขอร้องนายไพบูลย์ว่าอย่ามาเบี่ยงเบนประเด็น และไม่ควรออกมาปกป้องนายอภิสิทธิ์ สิ่งที่นายไพบูลย์ยืนยันทางสื่อมวลชน เป็นเท็จและโกหกหลายเรื่อง อาทิ บอกว่าซื้อที่ดินในนามส่วนตัวนั้น มีหลักฐานการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทร่มฟ้า จำกัด ประจำปี 2544 ปรากฏว่าที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ยืมเงินประธานบริษัทคือนายไพบูลย์ จำนวน 120 ล้านบาท เพื่อมาซื้อที่ดินตามที่ประธานเสนอ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประกอบกิจการของบริษัทตามแผนที่วางไว้ จุดนี้จึงไม่ได้ซื้อเพื่อส่วนตัวตามที่นายไพบูลย์ระบุ นายสุภรณ์กล่าวด้วยว่า นายอภิสิทธิ์ไม่สามารถตอบสื่อมวลชนได้ว่า ได้ขายที่ดินดังกล่าวให้แก่บริษัทหรือในนามบุคคลส่วนตัว ทั้งที่การซื้อขายผ่านไปแค่ไม่กี่เดือน จึงขอตั้งคำถามว่า นายอภิสิทธิ์เป็นนายหน้าตัวจริงหรือตัวปลอมกันแน่ นอกจากนั้น การที่นายไพบูลย์ระบุว่าไม่เคยมีธุรกิจเกี่ยวข้องกับเรื่องอาหารและบะหมี่นั้น ถือว่าเป็นการโกหกต่อสาธารณชน เพราะมีหลักฐานมาว่าบริษัทโฟร์ พีเพิล ฟู้ด จำกัด ที่นายไพบูลย์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้ร่วมทุนกับบริษัทไทยเพรสซิเดนท์ ฟู้ด จำกัด บริษัทผลิตอาหารและบะหมี่ด้วย นายสุภรณ์กล่าวด้วยว่า ห้องชุดคอนโดมิเนียมที่นายอภิสิทธิ์อ้างว่าบิดาซื้อให้นั้น จากการตรวจสอบในหนังสือสัญญาพบว่าเป็นการซื้อขายโดยตรง ระหว่างนายอภิสิทธิ์และผู้ขาย โดยสั่งจ่ายเช็คระบุชื่ออย่างชัดเจน โดยในวันที่ 22 พ.ค. นี้ พวกตนจะแสดงให้เห็นถึงการไหลเวียนทรัพย์สินของนายอภิสิทธิ์ให้ชัดเจน ส่วนที่นายอภิสิทธิ์ออกมาระบุว่าบิดามารดาของพวกตนคงไม่เคยสั่งสอนนั้น ขอชี้แจงว่า แม้พ่อแม่จะเป็นคนยากดีมีจน แต่ก็ไม่เคยสอนลูกให้ไปหาค่าหัวคิวกับคนในวงศ์ตระกูล เพราะหากทำเช่นนี้จะเสียสละให้ประเทศชาติได้อย่างไร นายธีระชัยกล่าวเสริมว่า ต้องการตรวจสอบนายอภิสิทธิ์ไม่ใช่นายไพบูลย์ เพราะฉะนั้นอย่ามาแก้ต่างแทนนายอภิสิทธิ์ เราสงสัยว่ามีผลประโยชน์ตอบแทนกันหรือไม่ แม้จะเป็น ส.ส.ต่างจังหวัด แต่ก็มีความรู้ไม่แพ้ ส.ส.กทม.เหมือนกัน ทางด้านนายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของนายสุภรณ์และนายธีระชัย ถือเป็นสิทธิของ ส.ส.ที่สามารถตรวจสอบได้ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็น ส.ส.ในส่วนของฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ซึ่งตนคงไปห้ามอะไรไม่ได้ จากคุณ : ขยะสังคม - [ 12 ม.ค. 49 05:39:21 ]

ความคิดเห็นที่ 102 สุดยอด 5555 นับถือครับ คุณมีใครไทยแลนด์ จะบอกว่าใครโกงต้องแบบนี้ดิ  โป๊เช๊ะเลย จากคุณ : batihgoal - [ 12 ม.ค. 49 09:18:30 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ยุติธรรม  ยุติธรรม จากคุณ : lekton - [ 12 ม.ค. 49 12:45:51 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ถ้าไม่ทันใจ ลองค้นได้ในนี้เลยครับ ถ้าจะให้มันส์ ก็อปเรื่องมาแล้ว ลองเสิร์ชหารูปมาแปะด้วย จะสร้างอารมณ์ได้มากครับ 5555 --------------------------------------------- (แนะนำเวบค้นคว้าข้อมูลอ้างอิง) นอกจาก google แล้ว ก็นี่เลยครับ แหล่งข้อมูลที่แน่นปึ๊ก ใช้อ้างอิงได้แน่นอน ไม่มีพลาด http://rdd.mcot.net/ ทั้งข่าวเก่า ข่าวสรุป รูปภาพจากทีวี นสพ. จากข้อมูลเกือบ10ปี รับประกันความผิดหวังนะจ๊ะ มีดีก็มาแนะนำนะจ๊ะ ไม่ใช่จ้องแต่จิกด่าอย่างเดียวจ๊ะ นะจ๊ะๆ.....จ๋าจ๊ะๆ เชิญชวนช่วยกันไปขุดคุ้ย ชวนกันคุ้ยทั้งทรท. ทั้งปชป. ตามสะดวกเลยนะจ๊ะ ถือว่าคุ้ยเพื่อชาติเอาให้เละเลยทั้งคู่ ดีกว่าด่ากันไปๆมาๆ อย่างเดียว เพราะคนไทยเราเสียแต่ลืมง่าย ก็อปๆกัน โพสกันไว้ให้ปรากฏมากๆ จะได้ไม่ลืม ใครไม่ดีก็ว่ากันไปนะจ๊ะ.... ---------------- http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4015699/P4015699.html ---------------- จากคุณ : จ๊ะๆ จ๋าๆ (มีใครไทยแลนด์) - [ 12 ม.ค. 49 15:13:21 ]

ความคิดเห็นที่ 105 เป็นกระทู้ที่ดีที่สุด ไม่กล่าวหาลอยๆเหมือนตาแก่สนธิ มีการอ้างข่าวจากสื่อและหลักฐาน  น่าชื่นชม โหวตให้ครับ  เก่งในการไปค้นหาข้อมูลเก่าๆ เยี่ยมจริงๆ  ปชป. ลองหันกลับมาสำรวจตัวเองก่อนดีไหม จากคุณ : Zeq - [ 13 ม.ค. 49 12:21:03 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ข่าว พวกนี้ มันครึ่งๆกลางๆทั้งนั้น เอาบทสรุปมาพูดหน่อยสิ แหม ไม่งั้นก็คงโดนจับกันหมดแล้ว ไม่ลอยหน้าลอยตาอยู่จนถึงบัดนี้หรอก ทั้งที่มีอำนาจล้นฟ้าอยู่ในมือ ---------this is the world---------- แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 49 14:45:38 จากคุณ : ::วิญญาณห้อง2:: - [ 13 ม.ค. 49 14:43:33 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ^ ^ ^ ก็เพราะไม่ได้มีอำนาจล้นฟ้าอยู่ในมือไง เลยทำอะไรไม่ได้ องค์กรอิสระที่จะทำก็เป็นง่อยหมดแล้ว คดีค้างอยู่ก็ค้างกันไป ฮิ ฮิ จากคุณ : ขุนอิน - [ 14 ม.ค. 49 11:48:21 ]

ความคิดเห็นที่ 108 นี่ไทยรักไทย ขวัญเสียขนาดนี้แล้วเหรอ จากคุณ : ปธ.0 - [ 14 ม.ค. 49 12:20:54 ]

ความคิดเห็นที่ 109 .... มั่วได้เยี่ยมมากครับ นับถือ! จากคุณ : เสือใต้ (lermcivil) - [ 14 ม.ค. 49 14:36:01 ]

ความคิดเห็นที่ 110 มาโหวตครับ อยากเห็นภาพที่ต่อให้นักการเมืองโกง แต่เมื่อหมดอำนาจชุดที่เข้ามาใหม่ก็มาตรวจสอบแล้วเอาเข้าคุก ไม่ใช่อย่างทุกวันนี้ที่มันเป็นพวกเดียวกันไปหมด ออกจากพรรคนี้ก็ไปเข้าพรรคนั้น เป็นปลาในข้องเดียวกันไปซะหมด กล่าวหากันไปกันมาก็ไม่มีการเอาจริงเพราะกลัวจะเข้าตัวในวันนึง จากคุณ : หลังเขา - [ 14 ม.ค. 49 21:14:42 ]

ความคิดเห็นที่ 111 มีเยอะกว่านี้อีกเยอะครับ..(เอาเรื่องไอ้น้อยต่อเลยครับ) อย่างที่เคยบอกแหละครับ รัฐบาลไทยรักไทย"คนไม่ดีเยอะ" รัฐบาลประชาธิปด"คนเลวเยอะ" คุณจะเอาแบบไหนดีครับ จากคุณ : เชื้อชั่วไม่มีวันตาย - [ 15 ม.ค. 49 05:22:55 ]

ความคิดเห็นที่ 112 พวกนี้ทำทุกอย่างเพื่อกลับมามีอำนาจจะได้กอบโกยใช้กนี้กันอีกรอบ จากคุณ : รู้ทันสนธิและปชป. (คนดอยภูเขา) - [ 15 ม.ค. 49 10:20:20 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ดีครับเห็นด้วยอย่างยิ่ง พอหมดอำนาจก็รีบๆจัดการ เดี๋ยวมีอำนาจอีกครั้งจะจัดการไม่ไหว แล้วอย่าให้พวกโกง กลับมาอีกนะ จากคุณ : แมงกุ๊ดจี่ - [ 15 ม.ค. 49 11:53:30 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ประเทศไม่พัฒนาเพราะคนไม่เคารพกติกา คนไม่เคารพกติกาเพราะไม่ไม่เข้าใจคำว่าวินัย คนไม่เขัาใจคำว่าวินัยเพราะไม่รู้จักคำว่าอดทน คนไม่อดทนเพราะไม่ได้รับการศึกษาที่ดี คนไม่ได้รับการศึกษาที่ดีเลยไม่รู้ว่าทุกอย่างที่ตนไม่เห็นด้วย ไม่จำเป็นต้องผิดเสมอไปเพราะโลกตนมันอยู่แค่ในกะลา mostlyปชปist so, they know only how to judge other, but not themselves. จากคุณ : jhan (jhan) - [ 15 ม.ค. 49 22:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 115 คนที่ชอบพรรคใหนก็จะเลียพรรคนั้นแหละครับลองถามใจคุณดูนะครับถ้าเราไม่มีนักการเมืองที่คุณด่ากันอยู่นี้ประเทศชาติเราจะพัฒนามาจนถืงทุกวันนี้หรือครับผมคนหนึ่งครับที่ยอมรับนักการเมืองบ้านเราทุกทุกคนเพราะในใจผมถือสุภาษิตโบราณที่ว่า"ฝนตกขี้หมูใหล  คนจะไรมารวมกัน" จากคุณ : รักกันใว้เถิด (ลุงเข่ง) - [ 16 ม.ค. 49 17:03:31 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ยกให้เป็นกะทู้ยอดเยี่ยมประจำเดือนนี้ ( ช่วง 1- 16 มค 49 ) จากคุณ : Jungke - [ 16 ม.ค. 49 19:25:27 ]