CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เดือนเศษ ๆ ชินวัตรรวยเพิ่มหมื่นล. ตลาดหุ้นรอ"ชินคอร์ป"เปิดข้อมูล

    เดือนเดียวชินวัตรรวยเพิ่มหมื่นล. ตลาดหุ้นรอ"ชินคอร์ป"เปิดข้อมูล

    โอ้โห ! เดือนเศษครอบครัวชินวัตรรวยขึ้นกว่าหมื่น ล. หลังข่าวขายหุ้นชินคอร์ปสะพัด นักลงทุนแห่เก็งกำไรทำวอลุ่มซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า ราคาหุ้นพุ่งกว่า 18% เผยครอบครัวชินวัตรและดามาพงศ์ที่ถือหุ้นใหญ่ 49.61% มีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นกว่า 10,000 ล้าน วงในคาด "ปิดดีล" กับสิงเทลไปแล้ว ด้าน ตลท.รอชินคอร์ปเปิดเผยข้อมูล

    หลังจากที่มีกระแสข่าวแพร่สะพัดเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2548 ว่าตระกูลชินวัตรจะขายหุ้นชินคอร์ปให้กับพันธมิตรต่างชาตินั้น ก็ทำให้ระดับราคาหุ้นของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ก็มีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อ 1 ธันวาคม 2548 ราคาหุ้นของชินคอร์ปอยู่ที่หุ้นละ 37.75 บาท และมีการไล่ราคาจนเมื่อ 10 มกราคม 2549 ราคาหุ้นชินคอร์ปก็ขึ้นมาอยู่ที่ 45 บาท ซึ่งถือว่ามีการปรับตัวสูงขึ้นกว่า 18%

    ทั้งนี้จากที่กลุ่มครอบครัวชินวัตรและครอบครัวดามาพงศ์ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของชินคอร์ปถือหุ้นอยู่จำนวน 1,487,740,120 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 49.61% พบว่าในช่วงระยะเวลาเพียง 1 เดือนเศษมูลค่าหุ้นชินคอร์ปครอบครัวชินวัตรและดามาพงศ์เพิ่มสูงขึ้นถึง 10,786 ล้านบาท จากเมื่อ 1 ธันวาคม 2548 มูลค่าหุ้นอยู่ที่ 56,162 ล้านบาท เพิ่มเป็น 66,948 ล้านบาทเมื่อ 10 มกราคม 2549

    โดยช่วงเดือนที่ผ่านมาหุ้น SHIN และหุ้น ADVANC มีการซื้อขายกันอย่างคึกคักสูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงก่อนหน้าอย่างมาก ซึ่งจากที่ "ประชา ชาติธุรกิจ" ได้รวบรวมข้อมูลปริมาณการซื้อขายในช่วงเดือน มิ.ย.-พ.ย.2548 พบว่าการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 5.41 ล้านหุ้น แต่ช่วง 1 ธ.ค.2548 ถึง 9 มกราคม 2549 พบว่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 14.7 ล้านหุ้น เรียกว่าเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัวจากก่อนหน้านี้

    ในกรณีของหุ้น ADVANC ก็เช่นเดียวกัน ระดับราคาหุ้นก็ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อ 1 ธันวาคม 2548 ราคาหุ้นอยู่ที่ 98 บาท และเมื่อ 10 มกราคม 2549 ราคาหุ้นก็ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 112 บาท โดยที่ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันก็มากกว่าช่วงก่อนหน้าเช่นกัน

    โดยก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวที่ทางครอบครัวชินวัตรเจรจาขายหุ้นชินคอร์ปให้กับทั้งทางบริษัทไชน่า เทเลคอม และทางบริษัทสิงคโปร์ เทเลคอม (สิงเทล) ซึ่งมีรายงานข่าวว่าทางครอบครัวชินวัตรและดามาพงศ์ได้มีการเซ็นเอ็มโอยูขายหุ้นกับพันธมิตรต่างชาติไปแล้ว และจะมีการเปิดเผยข้อมูลในวันที่ 10 มกราคม 2549

    ยืนยัน "ปิดดีล" กับสิงเทล

    แหล่งข่าวจากบริษัทที่ปรึกษาการเงินกล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า แม้ว่าวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมาจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลจากบริษัทชินคอร์ป แต่ในแวดวงที่ปรึกษาการเงินก็ยืนยันว่าการเจรจาตกลงขายหุ้นนั้นมีการ close deal กับทางกลุ่มสิงเทลไปแล้ว แต่การที่จะเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนเมื่อไหร่นั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ และขึ้นอยู่กับข้อตกลงของผู้ซื้อและผู้ขายซึ่งอาจจะมีการเปิดเผยข้อมูลเมื่อมีการเซ็นสัญญาเลยก็ได้

    นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่าทางครอบครัวชินวัตรจะมอบหมายให้ทาง บล.ไทยพาณิชย์เป็นแกนนำในการทำรายการซื้อขายหุ้นดังกล่าว

    แหล่งข่าวกล่าวว่า หลังการเข้าซื้อหุ้นชินคอร์ปของสิงเทลก็คาดกันว่าจะต้องมีการจัดทัพกวาดบ้าน โดยการเลย์ออฟพนักงานบางส่วนโดยเฉพาะพนักงานที่สังกัดในบริษัทชินคอร์ป เพราะชินคอร์ปเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่เข้าไปลงทุนในบริษัทต่างๆ ไม่มีการทำธุรกิจของตัวเองก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีพนักงานหรือโครงการอะไรใหญ่โต

    แหล่งข่าวกล่าวว่า ขณะนี้พนักงานในกลุ่มชินก็เกิดความระส่ำระสายกับข่าวการขายหุ้นมาก ซึ่งจะเห็นว่าเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2549 ซึ่งเป็นการจัดงานฉลองปีใหม่ของพนักงานกลุ่มชินคอร์ปทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีการจัดงานแบบรวมบริษัทในเครือทั้งหมด โดยที่ทางนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรได้เดินทางไปร่วมงานพร้อมกับครอบครัว

    โดยนายกฯทักษิณพูดสั้นๆ กับพนักงานว่า "รู้สึกดีใจที่ปีใหม่ปีนี้ได้มีโอกาสมาเจอกันอีก ก็อยากให้พนักงานทุกคนตั้งใจทำงานเพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ และเชื่อว่าองค์กรจะเติบโตต่อไปได้ดี เพราะนอกจากพนักงานทุกคนแล้ว ทีมผู้บริหารที่อยู่ในเครือชินคอร์ปทุกคนยังล้วนแล้วแต่เป็นสุดยอดของประเทศทั้งนั้น"

    และเมื่อ 9 มกราคมที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร เกี่ยวกับเรื่องการขายหุ้นชินคอร์ป ซึ่งนายกฯกล่าวเพียงว่า "ไม่ทราบ ต้องไปถามลูกผม ไม่ใช่มาถามผม"

    ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายพานทองแท้ ชินวัตร ก็ได้รับคำตอบว่าตนไม่รู้เรื่อง เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ถ้าผู้ใหญ่ขายตนก็คงขายตาม

    ตลท.จี้ชินคอร์ปเปิดเผยข้อมูล

    นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงกรณีที่ ตลท.ไม่ได้เรียกให้ชินคอร์ปชี้แจงข้อมูลในช่วงที่มีกระแสข่าวการขายหุ้นก่อนหน้านี้ เพราะว่าทางชินคอร์ปเคยชี้แจงมาแล้วว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่ได้ขายหุ้นให้บริษัทต่างชาติตามที่เป็นข่าว ดังนั้น ทาง ตลท.จะรอดูคำชี้แจงของบริษัทต่อกรณีที่เป็นข่าวว่าจะเป็นอย่างไร

    "นักลงทุนจะต้องรับรู้ว่าการลงทุนในหุ้น SHIN มีความไม่แน่นอนสูง ต้องรอดูการชี้แจงข้อเท็จจริงของชินว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการออกมาพูดอย่างเป็นทางการ หากมีการควบรวมกิจการระหว่างกลุ่มชินและพันธมิตร ก็ต้องรอดูว่าจะออกมาในรูปแบบไหน ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ก็ได้ เหมือนอย่างเช่นการรวมกิจการอื่นๆ ที่เกิดขึ้น" นางสาวโสภาวดีกล่าว

    นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทีเอสอีซี ได้ออกมาวิเคราะห์ว่า จากการที่ได้ไปพูดคุยกับทางบริษัทชินฯครั้งล่าสุด บริษัทยังตอบปฏิเสธว่ายังไม่มีนโยบายขายธุรกิจในเครือออกไป ยังคงลงทุนใน 5 ธุรกิจที่ดำเนินงานอยู่ แต่ถ้าผู้ถือหุ้นจะขายก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะทำได้ ซึ่งถือเป็นคำตอบที่แสดงท่าทีไม่ชัดเจน เพราะเป็นการให้ภาพแค่มุมกว้างๆ และในปัจจุบันชินมีผู้ถือหุ้นขายหุ้นมาโดยตลอด และถ้าดีลนี้จะเกิดขึ้นจริง คาดว่าน่าจะสรุปดีลนี้ได้ในครึ่งปีแรก

    เรื่องนโยบายของการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสิงเทลและไชน่า นักวิเคราะห์มองว่า ถ้ามีการเข้ามาเทกโอเวอร์กลุ่มชิน จะเข้าสูตรเหมือนกับกรณีดีล บมจ.ยูไนเต็ด คอมมูนิเกชั่น อินดัสตรี (UCOM) โดยการซื้อบริษัทแม่คือชิน จะได้ราคาที่ถูกกว่าเข้าไปซื้อเอไอเอสโดยตรง หลังจากนั้นจะมีการขายธุรกิจประเภทอื่นออกไปเหลือแค่ธุรกิจโทรคมนาคมอย่างเดียว

    นักลงทุนไทย-เทศจับตาดีลชินคอร์ป

    แรงกระพือของข่าวลือตระกูลชินวัตรเตรียมขายหุ้นในชินคอร์ป ทำให้ดีลนี้เป็นที่สนใจอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงใกล้วันที่ 10 มกราคม แม้แต่หนังสือพิมพ์ธุรกิจต่างชาติ อย่าง "วอลล์สตรีต เจอร์นัล" ก็หยิบประเด็นนี้มาเขียนวิเคราะห์ในคอลัมน์ "Heard in Asia" ฉบับวันที่ 10 มกราคม 2549 โดยอ้างความเห็นของนักวิเคราะห์บางรายที่ตั้งข้อสังเกตว่า ตระกูลชินวัตรน่าจะต้องการขายหุ้น SHIN เพื่อทำกำไรจากการปรับขึ้นของราคาหุ้นในช่วง 2-3 ปีผ่านมา

    ขณะที่นักวิเคราะห์อีกกลุ่มหนึ่งเชื่อว่าตระกูลชินวัตรต้องการขายหุ้น เพราะต้องการลดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งการเดินทางไปสิงคโปร์ของนายกฯทักษิณและครอบครัวในช่วงปีใหม่ก็ยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟให้ข่าวดีลครั้งนี้ดูเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น

    อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างพากันซื้อหุ้นชินเก็บกันใหญ่ เพราะหวังว่าการซื้อขายหุ้นของตระกูลชินวัตรจะช่วยผลักราคาหุ้นให้สูงขึ้นไปได้อีก

    หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีตฯได้อ้างความเห็นของนายธิติเทพ นพเกศ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ภัทรว่า การที่นักลงทุนต่างพากันซื้อหุ้น SHIN ในระยะสั้นๆ เนื่องจากคิดว่าหากมีดีลการซื้อขายหุ้นเกิดขึ้นก็เชื่อว่าจะเป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาด โดยที่ผ่านมาก็มีรายงานข่าวว่ามีการตกลงซื้อขายหุ้นชินคอร์ปกันในราคา 46 บาท และนักวิเคราะห์ในไทยจำนวนมากต่างให้คำแนะนำให้ซื้อหุ้น SHIN เก็บ พร้อมกับชี้ว่าราคาพื้นฐานและราคาเป้าหมายของหุ้นชินในปี 2549 จะอยู่ที่ 52 บาท ทำให้หุ้นปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปิดที่ 45 บาท เพิ่มขึ้น 50 สตางค์ (วันที่ 9 มกราคม 2549)

    สิงเทลทุ่ม 4.8 แสน ล.แผ่อาณาจักร

    วอลล์สตรีตฯวิเคราะห์ว่า หาก "สิงเทล" เข้ามาถือหุ้นใหญ่ในชินคอร์ปจริงๆ ก็จะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทสิงคโปร์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ "กลุ่มเตมาเส็ก โฮลดิงส์" ซึ่งเป็นบริษัทที่รัฐบาลสิงคโปร์เป็นเจ้าของ และได้เข้ามาลงทุนในไทยอยู่บ้างแล้ว ทั้งนี้เตมาเส็กฯถือหุ้น 63% ในบริษัทสิงเทล และถือหุ้น 28% ในธนาคารดีบีเอส

    ยิ่งกว่านั้นการเข้าถือหุ้นในชินคอร์ปของสิงเทล เท่ากับเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในเอไอเอส จากที่เดิมสิงเทลถือหุ้นอยู่ 19.26% ก็จะช่วยเพิ่มโมเมนตัมให้กับบริษัทสิงเทลมากขึ้น เพราะตลาดในประเทศเริ่มถึงจุดอิ่มตัว โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาสิงเทลได้ควักเงินราว 12,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.8 แสนล้านบาท) เพื่อขยับขยายธุรกิจไปทั่วภูมิภาค อาทิ การซื้อบริษัทออปตัส (Optus) ยักษ์สื่อสารโทรคมนาคมอันดับ 2 ของออสเตรเลีย เมื่อปี 2544 ซึ่งปัจจุบันออปตัสสามารถสร้างกำไรสุทธิให้กับสิงเทลคิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของกำไรทั้งหมด

    นอกจากนี้ สิงเทลยังถือหุ้น 44.6% ในบริษัท โกลบ เทเลคอม ของฟิลิปปินส์, ถือหุ้น 35% ในบริษัทพีที เทลคอมเซล ของอินโดนีเซีย และในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว สิงเทลก็ยังเข้าถือหุ้น 45% ในบริษัทแปซิฟิก บังกลาเทศ เทเลคอมอีกด้วย

    http://www.matichon.co.th/prachachart/prachachart_detail.php?s_tag=02p0101120149&day=2006/01/12

    จากคุณ : ไทเมือง - [ 12 ม.ค. 49 04:01:16 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป