| อิจฉา ริษยา อย่างรุนแรง (17 คน) |
| หวังดีต่อคนรากหญ้าจริงๆ (5 คน) |
| ไม่เคยคิดทำอย่างนี้มากก่อน (5 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 27 คน |
ครับก็กลายเป็นว่าการลงพื้นที่แก้ปัญหาให้ชาวบ้านของนายกฯทักษิณครั้งนี้ทั้งนักวิชาเกิน..เอ้ย!นักวิชาการและฝ่ายแค้น.เอ้ย!ฝ่ายค้าน (ขออภัยผิดๆถูกๆ)มองว่าเป็นการหาเสียงและสร้างภาพ...ซึ่งถ้ามองกันอย่างนั้นรัฐบาลจะแก้ปัญหาให้ประชาชนไม่ได้เลยใช่ไหม..การที่การแก้ปัญหาความยากจนมันช้าไม่คืบหน้า คนเป็นผู้นำก็ต้องลงไปดูในพื้นที่ว่าติดขัดอะไรตรงไหนเพราะการรับฟังจากรายงานกับลงไปดูด้วยตนเองมันต่างกัน..เพราะการเขียนรายงานนั้นคนที่ชงเรื่องขึ้นมาก็ต้องเขียนดีไว้ก่อนขนาดไปลงพื้นที่ข้าราชการในพื้นที่ยังเนรมิตรบริเวณนั้นจากดูแห้งแล้งกลับมีชีวิตชืวาขึ้นมาทันใดได้เลยถ้าคนเป็นนายกฯมองเห็นแค่นี้พอใจแล้วเดินทางกลับเพราะพอใจในการแก้ปัญหา..ก็พอจะพูดได้ว่าเป็นการหาเสียงหรือสร้างภาพ..แต่นี่มีการสอบถามถึงความเป็นอยู่จากชาวบ้านโดยตรงไม่ผ่านการรายงานของเจ้าหน้าที่ เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัวคือได้รู้ความจริงจากปากชาวบ้านกับทำให้เจ้าหน้าที่รู้ว่าต่อไปนี้จะทำแบบลูบหน้าปะจมูกไม่ได้แล้วนะเพราะถ้างานไม่คืบหน้าแสดงว่าไม่มีประสิทธิภาพ....ที่ผ่านมาในอดีตรัฐบาลหรือฝ่ายค้านในปัจจุบันทำงานในลักษณะสั่งงานลงไปให้ช้าราชการทำแบบต่างคนต่างทำไม่มีแบบแผนไม่รีบเร่ง...แล้วคนเป็นผู้นำก็นั่งรอรับรายงานโดยไม่คิดจะลงไปดูหรือลงไปก็เห็นแบบที่เค้าเรียกว่าผักชีโรยหน้าพอใจแล้วก็กลับ
...ก็เลยอยากถามว่าอะไรที่ทำให้นักวิชาการและฝ่ายค้านมองเรื่องนี้ว่าเป็นการหาเสียงหรือสร้างภาพ?
จากคุณ :
ขุนหลวง
- [
18 ม.ค. 49 10:35:25
]