CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    สัตว์เลี้ยงลูกด้วยเงินกำลังเข้าครอบงำสังคมไทย

    เมื่อเรารู้ว่าสีดำมันคือตัวแทนความมืด สีขาวคือตัวแทนของความสว่าง ดังนั้นความรู้สึกต่อความชั่วหรือความดีคนที่มีสมองปกติย่อมเข้าใจ….การออกมาเบี่ยงเบนของฝ่ายนิยมความขี้โกงนั้นรู้สึกว่าหมู่นี้มีมากขึ้น เหมือนมีทีมงานออกมาเล่นกันเป็นทีม บางคนก็เล่นในลักษณะเสียดสีฝ่ายตรงข้าม บางคนก็เป็นฝ่ายส่งป้อนข้อมูลเชิงบวกให้กับพวกกับฝ่ายตนเพื่อเอาไปเย้ยคู่แข่ง เหมือนทุกคนในทีมใส่แว่นสีเดียวกันหมด เวลาลงมือทำงานจึงเห็นจุดมุ่งหมายในการนำเสนอได้ง่าย


    ความมีชีวิตในคนเรามันมีองค์รวมอยู่ 5 องค์ ทั้งรูปและนาม…ถ้าคนทั่วไปเข้าใจอย่างลึกซึ้งในองค์ประกอบดังกล่าว มันก็สามารถมองเห็นจิ๊กซอร์ของตัวเราเองได้ และจะให้เท่าทันต่อการปรุงแต่งที่เกิดขึ้นกับตัวเรา


    ความแตกต่างของคนจึงอยู่ที่กองการประกอบแยกชิ้นเหล่านี้…รูปจะบอกถึงองค์ประกอบของยีนต์ตั้งต้น เช่นชาวเอเชียผิวจะเหลืองจะมีความเป็นสัตว์สังคมที่สูงกว่าตะวันตก จึงมีบุคลิกตามระบบผู้อาวุโสมากกว่าการดำเนินชีวิตบนความปัจเจก…เวทนาหรือการแสวยอารมณ์ทั้งทุกข์ทั้งสุขสามารถคอนโทลปรับจูนได้ตามเหตุปัจจัย…สัญญาคือการจำได้หมายรู้เป็นหน่วยความจำของเมนบอร์ด สังขารถือการปรุงแต่งของจิตตามภูมิสังคมและการรับรู้ …ส่วนวิญญาณคือ”เจ้าตัวรู้”ที่จะมาถ่วงดุลกับ”เจ้าตัวอยาก”จะทำให้ชีวิตบรรลุจุดหมายปลายทางและเกิดความสมดุล


    สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างมนุษย์จะมีสายใยที่ตามองไม่เห็น มันเป็นอรูปที่รู้ได้ เข้าใจได้ ว่าคือความรู้สึกที่ดีของสมาชิกด้วยกันเอง ความสัมพันธ์ที่ใกล้และเข้าใจกันได้ดีที่สุดมักจะเป็นสายพันธุ์ที่มียีนต์ตั้งต้นตัวเดียวกัน ในสายพันธุ์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมยังมองประโยชน์ของหมู่พวกอยู่บ้าง แต่พวกคนสายพันธุ์ใหม่พวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยเงิน จะมองแต่ประโยชน์ของส่วนตนเองเป็นที่ตั้ง คนพวกนี้จะผ่านระบบการเลี้ยงดูในวัยเด็ก และเลี้ยงลูกตนเอง ในลักษณะทิ้งเงินวางไว้ให้ที่โต๊ะเครื่องแป้งจนเกิดความเคยชิน


    ผมขอตั้งชื่อพวกคนเห็นแก่ตัวสายพันธุ์ใหม่นี้ว่า”สัตว์เลี้ยงลูกด้วยเงิน” พวกนี้จะบูชาเงินมากกว่าความดีงาม พวกเขาจะเข้าใจว่าเงินคือสารตั้งต้นที่สามารถดลบันดาลได้ในทุกสิ่ง ชั่วก็ทำให้ดี ผิดก็ทำให้ถูกได้ด้วยการซื้อ  แต่เขาซื้อไม่ได้อย่างเดียวคือความตาย


    ปีหนึ่งของคนเราสมมุติให้มันมี 365 วัน  ช่วงชีวิตของคนเราอยู่อย่างเก่งก็ประมาณ 30,000 กว่าวันคือไม่ถึงร้อยปี…หมื่นปีแรกคือวัยที่กำลังตั้งต้นและเจริญเติบโต ต้องรอรับ ต้องเรียนรู้ ต้องค้นหา…หมื่นปีที่สองเป็นวัยที่ต้องรับใช้หรือเป็นวันทำงาน ต้องเหนื่อย ต้องรับภาระ ต้องชดเชยให้แก่สังคมที่ตนอาศัยอยู่…หมื่นปีสุดท้ายคือได้เวลาหยุดพัก สำรวจตน พักผ่อน อุทิศตน และรอคอยความตาย


    วันนี้ 365 วันในช่วงชีวิตของเราได้ทำอะไรกันบ้าง…365 วันของคนเห็นแก่ตัวแต่โง่ พวกนี้จะเอาแต่การเสพกินไม่แบ่งปันให้ผู้ใด …365 วันของคนเห็นแก่ตัวแต่ฉลาด พวกนี้น่ากลัว เพราะรู้ว่าเศษเวลาเพียงนิดหน่อยก็สามารถสลับล่างจากการสร้างภาพให้กลายเป็นผู้เสียสละได้ ด้วยการใช้เงินซื้อ…ขณะที่ 365 วันของคนเสียสละและรู้จักพอเพียงที่แท้จริง ส่วนใหญ่ของเวลาหรือเกือบจะทั้งหมด เขาจะทุ่มเทให้กับการเสียสละและแบ่งบัน...ท่านพ่อของเราคือตัวอย่างของการครองชีวิตในลักษณะหลังครับ จึงไม่แปลกใจเลยที่ท่านพ่อของเรา ปลุกจิตสำนึกของประชาชนให้รู้จักความพอเพียง และเฝ้าเป็นห่วงเป็นใยการทำงานที่เกินศักยะภาพ ท่านสะท้อนความคิดและการกระทำอยู่บ่อยครั้งในเรื่องของความเสียสละและการแบ่งบัน

    จากคุณ : ไทยพันธุ์แท้ - [ 18 ม.ค. 49 14:50:00 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป