PANTIP.COM : P4045923 คุณคิดว่า คุณทักษิณเป็น "คนเก่ง" แล้ว เป็น "คนดี" ด้วยหรือไม่ [การเมือง]

ความคิดเห็นที่ 5

ผู้สื่อข่าว "มติชน" รายงานเมื่อวันที่ 22 มกราคมถึงความคืบหน้ากรณีที่ครอบครัวชินวัตร-ดามาพงศ์จะขายหุ้น บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กว่า 1,157 ล้านหุ้น (เฉพาะที่ถือในชื่อครอบครัวชินวัตร-ดามาพงศ์) มูลค่าเกือบ 70,000 ล้านบาท ให้แก่กองทุนเทมาเซคของรัฐบาลสิงคโปร์ แต่จนแล้วจนรอดยังไม่สามารถประกาศการซื้อขายหุ้นดังกล่าวได้อย่างเป็นทางการว่า มีการวิเคราะห์ถึงสาเหตุหลายประการ เช่น การเสียภาษี "ส่วนต่าง" ราคาหุ้นที่เกิดจากการขายหุ้นของครอบครัวชินวัตร-ดามาพงศ์ซึ่งซื้อหุ้นชินมาในราคาเพียงหุ้นละ 1 บาท การตกลงในรายละเอียดในธุรกิจในเครือชินคอร์ปยังไม่ชัดเจน เรื่องราคาหุ้น ทำไมการประกาศซื้อขายหุ้นดังกล่าวต้องเลื่อนมาตลอดจากเดิมที่มีข่าวว่า จะแจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในวันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2549 ไปเป็นวันที่ 23 มกราคม 2549

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) พบว่า พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2549 ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการขยายสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติในบริษัทที่ประกอบกิจการ
โทรคมนาคมรวมทั้งโทรศัพท์เคลื่อนที่ขยายจากไม่เกินร้อยละ 25 เป็นไม่ถึงร้อยละ 50 รวมทั้งยกเลิกสัดส่วนกรรมการบริษัทที่ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ออกทั้งหมด เพิ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2549 (เล่ม 123 ตอนที่ 5 ก. หน้า 9 มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่เสาร์ 21 มกราคม 2549 หรือมีผลในทางปฏิบัติในวันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2549

แหล่งข่าวจากวงการโทรคมนาคม กล่าวว่า การที่ครอบครัวชินวัตร-ดามาพงศ์ เลื่อนการประกาศการซื้อขายหุ้นอย่างเป็นทางการกับกองทุนเทมาเซค อาจเป็นเพราะต้องการรอให้ พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 2) ประกาศและมีผลบังคับใช้ก่อนเพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในเรื่องข้อกฎหมายที่กองทุนเทมาเซคเป็นต่างด้าว แต่เข้ามาถือหุ้นบริษัททางด้านโทรคมนาคมเกินสัดส่วนร้อยละ 25 เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมถึงคณะกรรมการบริษัทที่จะต้องมีเกิน 1 ใน 3 ซึ่งตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคมที่แก้ไขใหม่ให้ใช้กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจ
ของคนต่างด้าวเป็นหลักซึ่งหมายความว่า สิงคโปร์จะเข้าไปถือหุ้นในบริษัทโทรคมนาคมได้ถึงร้อยละ 49 และไม่มีปัญหาเรื่องสัดส่วนกรรมการที่เป็นคนต่างด้าวที่ถูกจำกัดโดยกฎหมาย

นายโสภณ สุภาพงษ์ ส.ว.กทม.กล่าวว่า จะเห็นได้ว่า การขายหุ้นชินของครอบครัวชินวัตรสอดคล้องกับการประกาศใช้ พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคมฉบับใหม่ ซึ่งเป็นไปได้ว่าการเลื่อนการประกาศซื้อขายอย่างเป็นทางการเพื่อรอ
ให้กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้มิเช่นนั้นแล้วผู้ซื้อคือสิงคโปร์จะไม่มีความมั่นใจว่า ได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายไทยหรือไม่

นายโสภณกล่าวว่า ในการยกร่าง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม 2544 ในวุฒิสภามีการถกเถียงกันในประเด็นสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติในบริษัทโทรคมนาคมซึ่งกว่า 130 เสียงเห็นด้วยว่าไม่ควรเกิน 25% เช่นเดียวกับสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมี ส.ส.ไทยรักไทยอยู่เป็นเสียงส่วนใหญ่ แต่กลับมีการเสนอขอแก้ไขให้ยกเลิกสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติซึ่งน่าเป็นเพราะนึกขึ้นได้ว่า ต้องการขายหุ้นบริษัทชินฯในอนาคต จึงเกิดคำถามว่า การแก้ไขกฎหมายการประกอบกิจการโทรคมนาคมครั้งนี้เพื่อธุรกิจของครอบครัวหรือไม่

"ในต่างประเทศไม่ว่าประเทศพัฒนาแล้วอย่างฝรั่งเศสหรือขององค์การการค้าโลกก็ไม่มีใคร
ให้ต่างชาติถือหุ้นในกิจการโทรคมนาคมเกินร้อยละ 25" นายโสภณกล่าว

จากคุณ : จ้าวยุทธจักร - [ 23 ม.ค. 49 11:50:55 ]