ความคิดเห็นที่ 11
เล่าให้ฟังเล่นๆ แลกเปลี่ยนประสบการณ์นะคะ
สมัยเรียนจบใหม่ๆ ทำงานปีแรก ก็ไฟแรงค่ะ อยากรู้เรื่องหุ้น (มีแต่ทฤษฎีไม่รู้ปฏิบัตินี่คะ) ก็ถลาไปซื้อกองทุน One Plus One ของค่าย Fin-1 ไว้ ยุคโน้น เป็นยุคมนุษย์ทองคำค่ะ (เด็กรุ่นใหม่รู้จัก "มนุษย์ทองคำ" มั่งไหมเนี่ย) ดิฉันเป็นพวกเบี้ยน้อยหอยน้อย แล้วก็เป็นพวก conservative แต่เป็นคนชอบเรียนรู้ ชอบทดลองด้วยจนเอง ก็ลงทุนไปซื้อนี่ล่ะค่ะ ซื้อตามกำหนดขั้นต่ำสุดที่เค้ายอมขายให้ คือจำนวน 1,000 หน่วย โดยมีราคาหน่วยลงทุนละ 10 บาท เลยได้จ่ายไป 10,000 ของกองทุนปิด One +1 นี่ล่ะค่ะ
การซื้อตอนโน้น นอกจากซื้อหาประสบการณ์ว่า คนเล่นหุ้น เค้าเล่นไงเนี่ย ต้องมีหลักฐานอะไรพิเศษไหม ต้องมีความรู้อะไร จะเลือกถือหุ้นกลุ่มไหน แบบใดดี ฯลฯ รวมไปถึงการเสียค่าธรรมเนียม ค่าคอมมิชชั่น แล้วก็ค่าภาษี (ถ้ามี) อีกจำนวนเท่าไหร่ ถือว่าเป็นการซื้อประสบการณ์จริงๆ ค่ะ
ผลที่คาดหวังจะได้รับจากการซื้อกองทุนก็คือ ถ้าขาย เราน่าจะกำไรบ้างนะ (ก็ฝันไว้ว่าจะขายได้สักหน่วยละ 20 บาท ฮ่าๆๆๆ) หรือถ้าไม่กำไร ก็น่าจะได้เงินปันผลหน่า (ฝันเฟื่องค่ะ)
หลักจากถือกองทุนไว้ระยะหนึ่ง ก็หนีไปเรียนต่อเสียก่อน พอกลับไทยอีกที เจอพิษต้มยำกุ้งค่ะ หุ้นร่วมรูด คนมีใบหุ้นเอาไปปะฝาบ้านแทน wallpaper กัน ฯลฯ ฉะนั้น ไม่ต้องหวังเลยว่า มูลค่าของกองทุน one+1 ที่ซื้อไว้จะอาการหนักขนาดไหน
ดิฉันถึงกับไม่ดูราคาเลยนะคะ เค้าส่งจดหมายมา แกะอ่าน เหลือบมองตัวเลขให้ช้ำใจแล้วทิ้งขยะไปเลย
ช่วงที่กองทุนนี้ราคาต่ำสุดๆ ก็คือ หน่วยละ 3 บาทเศษๆ ค่ะ ก็คือเหลือแค่ 3,000 กว่าบาทเอง โห.. บทเรียนแรกก็จ่ายหลายพันไปแล้ว (แต่ถือคติว่า ถ้ายังไม่ขายก็ยังไม่ขาดทุน เอ๊า) ซื้อมา10,000 ค่าคอมฯ ต่างหาก แต่ตอนนั้นเหลือ 3,000 กว่าบาท ถ้าจะขายยังเจอหักค่าคอมฯ อีก ตายๆ ใครจะไปขาย ก็ทนทู่ซี้ถือมาเรื่อยๆ ค่ะ นี่ถือมาก็ 10 กว่าปีแล้ว ตอนนี้ราคาต่อหน่วย ก็ยังแค่ 8 บาทกว่าๆ ก็คือ 8,000 กว่าบาทอยู่ดี
ลงทุน 1 หมื่น รอมานานกว่า 10 ปี ผลการลงทุนก็คือยังคงขาดทุนอยู่ดี บทเรียนแรกในการหัดจะเล่นหุ้น เจ็บเล็กๆ อะค่ะ :-)
จากคุณ :
มูอิ
- [
24 ม.ค. 49 12:36:46
]
|
|
|