PANTIP.COM : P4053875 ขอถามสั้นๆ คุณอิจฉาเงิน 7 หมื่นล้าน ของเขาหรือไม่ [การเมือง]

ความคิดเห็นที่ 7

1 ม.ค. ก่อนเดินทางไปสิงคโปร์ "การที่ไม่เดินเล่นในประเทศไทย เพราะต้องมีคนมาคอยดูแลอารักขาเต็มไปหมด จึงไม่มีความเป็นมนุษย์ธรรมดา ผมอยากเป็นมนุษย์ธรรมดา คือเดินกันสบายๆ พ่อ แม่ ลูก ทำกับข้าวอยู่กันอย่างสบายๆ บางครั้งต้องการมุมของความเป็นมนุษย์ เพราะที่สุดแล้วผมก็เป็นมนุษย์ ผู้ชายก็เป็นผู้ชาย ผู้หญิงก็เป็นผู้หญิง จึงอยากเป็นมนุษย์มากๆ"

นายกฯ ทักษิณ แสดงวาทะราวปรัชญาชีวิต..สูงสุดคืนสู่สามัญ กระนั้นเชียว

5 ม.ค. นายกฯ ทักษิณ เดินทางกลับถึงเมืองไทย หลังหยุดพักผ่อน4วัน และตอบคำถามนักข่าว ถึงเรื่องข่าวลือว่า ไปสิงคโปร์เพื่อเจรจาขายหุ้นว่า "ระวังติดหวัด"

13 ม.ค. นายกฯ ทักษิณ ปฎิเสธอีกครั้ง เรื่องขายหุ้นชินคอร์ปฯ ให้"กลุ่มเทมาเสก" จากสิงคโปร์ว่า

"ไม่มี ผมไปเดินช็อปปิ้งอย่างเดียว กินข้าว สนุกสนานอยู่กับลูกกับเมีย ส่วนที่มีข่าวลือออกมา ก็เป็นเพราะคนมันอยากเขียน มันก็เขียนอะไรก็ได้ คนอยากกุอะไร ก็กุได้ แต่ผมยืนยันว่าไม่ได้ไปพบใครเลย พบแต่ศูนย์การค้า ซุเปอร์มาร์เก็ต แมคโดนัลด์”

20 ม.ค. นายกฯทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่ค่าเงินบาทแข็งตัวขึ้นในรอบ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนตัวลง ซึ่งมีผลกับการแลกเปลี่ยนทั้งเอเชีย

แต่ปฎิเสธข่าวที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการ ธปท. ออกมายอมรับว่า มีเงินโอนต่างประเทศเข้ามาเพื่อซื้อหุ้นว่า

"ยังไม่รู้ เพราะไม่ได้ชำระ จึงไม่รู้ ต้องชำระแล้วจึงจะรู้..ต้องไปถามลูกๆ ผมไม่ใช่เจ้าของหุ้น ลูกผมเป็นเจ้าของ"

นายกฯ ทักษิณ ยังปฎิเสธข่าวที่ นายบุญคลี ปลั่งศิริ ประธานเครือชินคอร์ปฯ ไปพบที่บ้านจันทร์ส่องหล้าว่า

"ผมไม่รู้ ผมไม่เคยแนะนำลูก มีแต่ลูกแนะนำผม เพราะลูกเป็นเจ้าของ ผมยังขอเงินเมียใช้อยู่เลย"

23 ม.ค. นายกฯ ทักษิณ ได้ยอมรับเป็นครั้งแรก เมื่อมีการขายหุ้นของชินคอร์ป ที่"ตระกูลชินวัตร" และ"ดามาพงศ์" ถืออยู่ในนามบุคคคล ให้บริษัทตัวแทนของ"เทมาเส็ก" ว่า

"ถือเป็นเรื่องปกติของการซื้อขายหุ้น.. ชินไม่ได้ตัดสินใจขายหุ้น ชินก็เหมือนชินอย่างเดิม เป็นเรื่องของทางลูกๆ เขาอยากให้พ่อ ทำงานให้บ้านเมืองอย่างเต็มที่ ไม่ต้องถูกกล่าวหาในเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนและเรื่องอื่นๆ เขาจึงตัดสินใจประชุมและตกลงกันเอง ตัดสินใจว่าขายดีกว่า"

พร้อมกับกล่าวถึงอนาคตทางธุรกิจว่า "ลูกๆ ยังไม่ได้คิด แต่เขาคงจะทำงานในด้านมูลนิธิ ด้านการกุศลอะไรบ้าง"

อย่างไรก็ตาม เมื่อซักถามมากๆ เข้า ในประเด็นเรื่องหักภาษีเงินได้ จากการขายหุ้น นายกฯทักษิณ ก็เกิดอาการหงุดหงิด โดยเฉพาะซักถามถึงการซื้อขายล่าช้าว่า อาจเป็นเพราะเกี่ยวข้องกับรอแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2549 ที่กำหนดให้นักลงทุนต่างชาติมีสิทธิ์ถือหุ้นได้ไม่เกินร้อยละ 49 จากเดิมกำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 25 ใช่หรือไม่

"ไม่เกี่ยวเลย ถามหาเรื่อง มันคนละเรื่อง ไม่เกี่ยวกันเลย ไม่เกี่ยวกับกฎหมายที่ออกมาเมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมาเลย มันไม่เกี่ยวกัน พวกนี้ชอบหาเรื่อง ไม่รู้คิดอะไร แปลก" นายกฯ ทักษิณ โพล่งอย่างมีอารมณ์

24 ม.ค. นายกฯ ทักษิณ ชี้แจงข้อซักถามในประเด็นจ่ายภาษีเงินได้ให้รัฐว่า

"เรื่องนี้คงต้องไปถามบางกอกโพสต์ และมติชนว่า เวลาที่ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เสียภาษีหรือไม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เขาประกาศยกเว้นการการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มานานหลายปีแล้ว มีการประกาศใช้ตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน สมัยนายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ เป็นรัฐมนตรีคลัง ครั้งแรก และยังมีผลบังคับใช้ต่อเนื่อง"

และตอบคำถามนี้อีกครั้งว่า

"ฮู้ย! ไม่เกี่ยวเลย มันเป็นเรื่องของกติกาสากล การขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ต้องเสียภาษี ทุกๆ ตัว ทั้งบางกอกโพสต์ มติชน ที่ขายในตลาดหลักทรัพย์ก็ไม่มีเสียสักคน"

ต่อข้อถามจากนักวิชาการ ที่ตั้งข้อสังเกตว่า หากกลัวถูกกล่าวหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ทำไมไม่ตัดสินใจขายหุ้นของตระกูลตั้งแต่ต้น

"โฮ้! มันขายง่ายเหมือนขายขนมเข่งที่ไหนเล่า แหม! เงินตั้งเยอะแยะ พ่อค้ารับซื้อขนมเข่ง มีกี่คนเล่า ปัดโถ่ เฮ้อ..." นายกฯ ทักษิณ ทำหน้าเบื่อหน่าย

25 ม.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คนเดิม กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ การเลี่ยงภาษีขายหุ้นอีกครั้งว่า

“..โอ้ย ตาย! คิดกันไปเอง ใช้แต่สมองข้างซ้าย คมเหลือเกิน สมองข้างขวาทื่อ..ผมตัวเบ้อเร่อเท่านี้ ผมทำไม่ตรงไปตรงมาได้อย่างไร..อิจฉาละซิ แค่นั้นแหละ..ก็คนที่ติดใจมันเห็นเงินเยอะ มันอยากได้ เข้าใจมั๊ย"

จากคุณ : จ้าวยุทธจักร - [ 25 ม.ค. 49 22:58:19 ]