| เชื่อ (12 คน) |
| ไม่เชื่อ (46 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 58 คน |
บทความจากมติชน
พิษ"หุ้นชินฯ" "ทักษิณ"ถูก"จริยธรรม"ท้าทาย
ไม่ต้องการจะกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี "พูดไม่จริง" เกี่ยวกับการขายหุ้นชินคอร์ปของครอบครัวชินวัตรว่าไม่ต้องเสียภาษีนั้นก็เพราะเป็นกติกาสากล ที่ประกาศใช้มาตั้งแต่สมัยนายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ เป็น รมว.คลัง
แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า กติกาที่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวอ้างถึงนั้นเกิดขึ้นมาพร้อมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2518
หรือเมื่อกว่า 31 ปีที่แล้ว..??
ขณะที่นายธารินทร์ได้รับการโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2535 ในรัฐบาลชวน 1
ทิ้งระยะห่างกัน 17 ปีกว่าๆ
หรือจะเป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณจะหลงลืมไปจึงให้สัมภาษณ์ไปทำนองนั้น
ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะด้วยความที่เป็นนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยมาอย่างยาวนาน จนนำบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทะยานขึ้นสู่การเป็นบริษัทชั้นนำในตลาดหุ้นได้
ก็น่าจะแม่นยำเรื่องหลักเกณฑ์ต่างๆ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้เป็นอย่างดี
หรือหากจะลืมจริงๆ เพราะวางมือมานานแล้ว แต่ พ.ต.ท.ทักษิณก็เป็นผู้ยืนยันเองเกี่ยวกับเรื่องภาษีนี้ว่า "ได้ปรึกษาที่ปรึกษาด้านกฎหมายมาหมดแล้ว"
ทั้งหมดนี้จึงทำให้อดคิดไม่ได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณพูดไม่จริง!!
ถามว่า คำให้สัมภาษณ์ถึงเวลาของการออกกฎเกณฑ์ที่เชื่อมโยงไปถึงอดีตรัฐมนตรีที่เป็นคนของพรรคการเมืองอื่น ไม่ใช่พรรคไทยรักไทยนั้น
เป็นการ "พูดไม่จริง" ครั้งแรกหรือไม่
คงไม่ใช่..!!
ก่อนหน้านี้ก็มีคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณที่สังคมเคลือบแคลงว่า เป็นเรื่องจริงหรือไม่นั้น ออกมาให้เห็นกันอยู่
เช่น ปฏิเสธไม่รับรู้ ไม่เกี่ยวข้องกับการเจรจาขายหุ้นชินของวงศ์ตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ บอกเป็นเรื่องของลูกๆ
แต่พอไปถามนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับได้คำตอบว่า "ไม่รู้ เป็นเรื่องของผู้ใหญ่"
ผู้ใหญ่ที่นายพานทองแท้อ้างถึงจะเป็นใคร หากไม่รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ
หรือแม้แต่การแก้กฎหมาย พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 เพื่อขยายสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติในบริษัทที่ประกอบกิจการโทรคมนาคม จากไม่เกิน 25% มาไม่ถึง 50%
ยกเลิกสัดส่วนกรรมการบริษัทที่ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ออกทั้งหมด
ในช่วงก่อนการเสนอร่าง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ..เพื่อแก้ไขในประเด็นข้างต้นต่อสภาเมื่อปี 2546 นั้น
พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2546 ว่า "เพื่อรองรับการเปิดเสรีทางการค้า รวมทั้งการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางการค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนเปิดโอกาสให้เอกชนผู้ประกอบการโทรคมนาคมมีเงินลงทุนจากต่างชาติเข้ามาสนับสนุนธุรกิจมากขึ้น"
"เมื่อรัฐบาลไปเจรจาเขตการค้าเสรีในต่างประเทศ เพื่อต้องการไปเปิดตลาดสินค้าการเกษตร จะถูกต่อว่าเสมอว่าหากกฎหมายไทยยังปิดกั้น หรือรัฐบาลไทยยังปิดตลาดอยู่อย่างนี้ ก็คงไม่สามารถเจรจากันได้"
"ดังนั้น ประเทศไทยจึงต้องเปิดเสรีทางการค้าและเร่งแก้ไขข้อกฎหมาย เพื่อให้การเจรจาผลประโยชน์ระหว่างประเทศเป็นไปด้วยความราบรื่น เพราะถึงแม้ไม่แก้ไขในวันนี้ ต่อไปองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ก็จะกำหนดให้ทุกประเทศเปิดเสรีการค้าในที่สุด"
แต่วันนี้ เมื่อการซื้อขายสิ้นสุดลง กลับกลายเป็นว่ากฎหมายฉบับนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เขียนขึ้นมาเพื่อรองรับการขายหุ้นของครอบครัวชินวัตร แบบเทหมดหน้าตักให้แก่ต่างชาติ
การพูดไม่จริงเกี่ยวกับการขายหุ้นชินฯของบรรดาลูกๆ น้องสาว และพี่ภรรยาของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น
หากพูดในนามนักธุรกิจที่ชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร" ก็เป็นอีกมาตรฐานหนึ่ง
แต่หากเป็นการพูดผ่านบุคคลระดับ "นายกรัฐมนตรี" ย่อมจะมีคำถามเกี่ยวกับ "จริยธรรม" ตามมา
เพราะเมื่อบุคคลระดับนายกรัฐมนตรีพูดไม่จริง ปกปิดข้อมูลเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเองและครอบครัวแล้ว
แน่ใจได้หรือว่า เรื่องอื่นๆ คนๆ เดียวกันนี้จะพูดความจริงทั้งหมด!!
ถามว่า จริยธรรมและจิตสำนึกของคนที่เป็นผู้นำประเทศ ระดับนายกรัฐมนตรีในลักษณะเช่นนี้ถูกต้องแล้วหรือ
ประชาชนบางส่วนอาจจะบอกว่าไม่ถูกต้อง แต่ พ.ต.ท.ทักษิณอาจจะอ้างประชาชน 19 ล้านคนว่าถูกต้องแล้ว เพราะได้เลือกเขามาเป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนที่เคยอ้างมาแล้วหลายๆ ครั้ง
แต่ ณ วันนี้ จริยธรรมและจิตสำนึกที่ดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ถูกท้าทายแล้ว..?
จากคุณ :
batseboy
- [
26 ม.ค. 49 08:23:54
]