ความคิดเห็นที่ 2 . แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 49 09:49:54 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ลูกไทย หลานไทย - [ 2 ก.พ. 49 09:44:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมอ่านตั้งแต่ต้นจนจบยังไม่เห็นการใช้ชื่อ"ในนามอาจารย์สถาบัน" หรือคำดังกล่าวที่ใกล้เคียงสักนิดเดียวครับ ผมคิดว่าการถอดหัวโขนใดๆที่คุณเรียกร้องว่าควรทำ เขาก็ทำไปแล้วนะครับ จากคุณ : ลูกไทย หลานไทย - [ 2 ก.พ. 49 09:47:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กลุ่มขาประจำ เดิมๆ ที่เคบค้านและบางคน เขียนหนังสือให้ ผู้จัดการสนธิ จม.เปิดผนึก ค้านซื้อหุ้นหงส์ มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2547 เห็นชอบในหลักการให้การกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นผู้ประสานงานในการซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ซึ่งคาดว่าจะเป็นสโมสรลิเวอร์พูล มูลค่า 4,600 ล้านบาท โดยใช้วิธีการออกสลากพิเศษเพื่อการกีฬา มูลค่า 10,000 ล้านบาท ข้าพเจ้าผู้มีรายนามแนบท้ายจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ ขอค้านมติ ครม.ดังกล่าว โดยมีข้อคิดเห็นและข้อสังเกต ดังต่อไปนี้ 1.การตัดสินใจซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลอังกฤษของนายกรัฐมนตรี เป็นการตัดสินใจบนพื้นฐาน ที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่มีการประเมินต้นทุน-ผลประโยชน์ที่ตกแก่สังคมอย่างรอบด้าน หากเป็นการสนองความต้องการส่วนตน ทั้งยังเป็นการตัดสินใจในทำนอง 'ลงมือไปก่อน แล้วคิดทีหลัง' ไม่มีแผนการที่ชัดเจนแต่แรกในเรื่องแหล่งที่มาของเงินทุน รูปแบบการบริหารบริษัทที่จะเข้าถือหุ้นและการจัดสรรผลตอบแทนจากการลงทุน ทั้งที่วงเงินที่ต้องใช้ซื้อหุ้นมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 4,600 ล้านบาท 2.การตัดสินใจซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลอังกฤษของนายกรัฐมนตรี มีปัญหาความคลุมเครือของบทบาท และผลประโยชน์ทับซ้อนของผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่แรกเริ่ม นายกรัฐมนตรีไม่สามารถแยกบทบาทของนายกฯ ทักษิณ ในฐานะผู้นำประเทศ ออกจากนายกฯ ทักษิณในฐานะนักธุรกิจได้ เช่นเดียวกับนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ที่ไม่สามารถแยกบทบาทของตน ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของรัฐบาลไทย ออกจากบทบาทนายหน้าเจรจาธุรกิจของนายกฯ ทักษิณได้ 3.เงินจำนวนมหาศาลถึง 4,600 ล้านบาท ย่อมมีคุณค่าอย่างสูง ต่อประเทศกำลังพัฒนาอย่างประเทศไทย ที่มีปัญหามากมาย โดยเฉพาะปัญหาความยากจน ให้ต้องทุ่มทรัพยากรแก้ไขประเทศที่เต็มไปด้วยคนจน ที่ไม่มีแม้แต่สินค้าจำเป็นในการยังชีพ อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่มีสิทธิแม้แต่คิดที่จะเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลต่างประเทศ ซึ่งเป็นสินค้าอภิมหาฟุ่มเฟือย ไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะใช้เงินในงบประมาณ เงินนอกประมาณ หรือระดมเงินจากประชาชนเข้าซื้อหุ้น ย่อมสูญเสียโอกาสในการใช้เงินก้อนนั้นในการทำกิจกรรมอื่นที่มีประโยชน์และจำเป็นมากกว่า ต้นทุนของการซื้อทีมฟุตบอลจึงมิใช่แค่รายจ่ายที่ใช้ซื้อหุ้น หากต้องคำนึงถึงต้นทุนค่าเสียโอกาสเหล่านี้ด้วย 4.ข้อกล่าวอ้างของนายกรัฐมนตรี ที่ว่าการเข้าซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลอังกฤษ จะช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลไทย ไม่มีความสมเหตุสมผลแต่อย่างใด ความเชื่อมโยงระหว่างการมีสโมสรฟุตบอล สัญชาติไทย อยู่ที่ต่างประเทศกับการพัฒนาคุณภาพของวงการฟุตบอลไทย เลือนรางแทบมองไม่เห็น หากนายกรัฐมนตรีต้องการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยอย่างแท้จริง ควรนำเงิน 4,600 ล้านบาท มาสร้างสรรค์กิจกรรมภายในประเทศ ที่ส่งผลเชื่อมโยงต่อการพัฒนาคุณภาพวงการฟุตบอลไทยอย่างชัดเจน เช่น ลงทุนก่อตั้งลีกฟุตบอลอาชีพ พัฒนาวงการวิทยาศาสตร์การกีฬา พัฒนาคุณภาพของวิทยาลัยพลศึกษา และหลักสูตรที่มีอยู่แล้ว ออกแบบโครงสร้างสิ่งจูงใจให้นักกีฬาอาชีพมีที่ยืนในสังคม และสร้างสนามฟุตบอลให้ทั่วถึงเพื่อให้เด็กมีที่ทางสำหรับพัฒนาตัวเอง รวมทั้งปฏิรูปสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นต้น 5.การซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลอังกฤษ ถือเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทหนึ่ง ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ทำหน้าที่ให้ข้อมูลข่าวสารที่สมบูรณ์ เพื่อให้ผู้ต้องการลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างมีเหตุมีผลสมบูรณ์ เช่น ข้อมูลว่าด้วยฐานะทางการเงินของสโมสร ความเสี่ยงจากการลงทุน ประวัติการให้เงินปันผล เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัฐบาลไม่เคยส่งผ่านข้อมูลข่าวสารเชิงลบ เช่น ไม่บอกกล่าวกับผู้ลงทุนว่า สโมสรลิเวอร์พูลมิใช่บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน อันจะนำมาซึ่งปัญหาสภาพคล่องในการเปลี่ยนมือหลักทรัพย์ เมื่อต้องการขาย และไม่บอกกล่าวกับผู้ลงทุนว่าปี 2546 ที่ผ่านมา สโมสรลิเวอร์พูลมีกำไรหลังหักภาษีลดลงจากปีก่อนหน้า ถึง 61.86% จนคณะผู้บริหารมีมติไม่จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น นอกจากนั้น การจัดตั้งบริษัทเพื่อบริหารหุ้นสโมสรฟุตบอลอังกฤษ ไม่มีแผนการที่ชัดเจนและไม่มีวิธีการที่โปร่งใสในการนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ 6.วิธีการระดมทุนซื้อหุ้น โดยออกสลากพิเศษเพื่อการกีฬา เป็นการใช้วิถีแห่งอบายมุข ที่มีเงินรางวัลสูงถึง 1 พันล้านบาทมาหลอกล่อประชาชน เพื่อให้ระดมเงินได้ตามเป้าหมาย โดยไม่คำนึงถึงผลตอบแทนและความเสี่ยงจากการลงทุน อีกทั้งการออกสลากกินแบ่งมีลักษณเสมือนเป็นภาษีอัตราถดถอย ที่คนจนต้องแบกรับภาระภาษีมากกว่าคนรวย นอกจากนั้น การให้สลากพิเศษมีฐานะเป็นใบแสดงสิทธิแลกหุ้นของบริษัทในอนาคต อาจเป็นข้อกังขาในทางกฎหมาย 7.การบริหารสโมสรฟุตบอลต่างประเทศ มิใช่หน้าที่ของรัฐบาล ไม่ว่าจะในทางเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคม การจัดตั้งบริษัทมหาชนเพื่อบริหารสโมสรฟุตบอลอังกฤษ โดยรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เป็นการกระทำที่ไร้เหตุไร้ผลสนับสนุนอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรัฐบาลพยายามลดบทบาทในกิจการไฟฟ้า กลับต้องการเพิ่มบทบาทในธุรกิจสโมสรฟุตบอล ด้วยเหตุผลหลักทั้งเจ็ดประการดังกล่าว ข้าพเจ้าผู้มีรายนามแนบท้ายจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนแผนการซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลอังกฤษ โดยระดมเงินประชาชนผ่านการออกสลากพิเศษ * อาจารย์ที่ร่วมลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกคัดค้านการซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลอังกฤษ มีดังนี้ ศ.รังสรรค์ ธนะพรพันธ์ ศ.ดร.ปราณี ทินกร รศ.ดร.สมบูรณ์ ศิริประชัย Dr.William A.Macleary ดร.อภิชาติ สถิตนิรามัย รศ.ดร.วิมุต วานิชเจริญธรรม รศ.ดร.อารยะ ปรีชาเมตตา ผศ.ภราดร ปรีดาศักดิ์ อ.ภาวิน ศิริประภานุกูล ร.ศ.ดร.สมนึก ทับพันธ์ อ.เฉลิมพงษ์ คงเจริญ รศ.ดร.วิไลวรรณ วรรณนิธิกุล รศ.ดร.ดาว มงคลสมัย ผศ.สุวรรณี วัธนจิตต์ อ.ปกป้อง จันวิทย์ ผศ.ประเสริฐ วัตราเศรษฐ์ อ.ธีรวุฒิ ศรีพินิจ ดร.เอื้อมพร ตสาริกา ผศ.ดร.นิธินันท์ วิศเวศวร อ.นิรมล สุธรรมกิจ รศ.ชูศรี มณีพฤกษ์ ดร.เกรียงไกร เตชกานนท์ รศ.ดร.สุกัญญา นิธังกร รศ.สุขุม อัตวาวุฒิชัย รศ.ดร.สมศักดิ์ แต้มบุญเลิศชัย ดร.ดวงมณี เลาวกุล รศ.วันรักษ์ มิ่งมณีนาคิน อ.พรเทพ เบญญาอภิกุล รศ.ดร.ชวินทร์ ลีนะบรรจง รศ.ดร.มัทนา พนานิราย จากคุณ : Jack Wealth - [ 2 ก.พ. 49 09:49:48 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนตัวป๋อหลิน คิดว่า เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ก็เหมือนกับท่านนายกฯ จริง ๆท่านก็คือ เจ้าของชินคอร์ปตัวจริงเสียงจริงแหละครับ แต่อ้างว่าโอนหุ้นให้ลูกให้เมียไปแล้ว เพื่อมาเล่นการเมืองถูกต้องตามกฎหมาย และสังคมก็ยินดีให้โอกาสพิสูจน์ความดีมา 5 ปีแล้ว.... ตอนนี้สังคมเขาแค่ "ตั้งคำถาม" ตอบให้ไว ตอบให้ได้ ตอบให้เคลียร์  ก็ได้อยู่ต่อวีซ่า "นายกรัฐมนตรี" แน่นอนว่า กฎหมายบ้านเราก็ยังไม่ได้กำหนดเทอมความเป็นผู้นำ ท่านอาจจะอยู่ได้ยาวนานแข่งกะลี กวนยู ก็ยังได้ อยู่ต่อตลอดอายุสัมปทานของชินคอร์ปก็ยังได้ ถ้า.....สังคมส่วนรวมตรวจสอบ DNA ครบถ้วนให้ข้องใจแล้ว เพราะฉะนั้นอาจารย์ฟาก มธ. จะเคลื่อนไหวในฐานะนักวิชาการ หรือประชาชน หรือฐานะอาจารย์ ยังไงมันก็แยกไม่ออกอยู่ดี...ถ้าไม่ทำอะไรเลยนี่ซิ...น่าคิดล่ะว่า จิตสำนึกอยู่ไหน ? เหมือนอาจารย์ธีรยุทธ ท่านออกมาให้ข้อสรุปทางวิชาการทุกปีทุกครั้ง ก็ชัดแจ้งมาตั้งแต่สมัยไหนต่อไหนเป็นที่รับรู้ทางสังคมแล้วว่า ท่านอยู่ฝั่งตรงข้ามมาตลอดทุกรัฐบาล ออกมาแต่ละทีน่วมไปทั้งตัว  แต่ก็ยอมเจ็บตัว  คนแบบนี้ ต้องให้ "เครดิต" ทำด้วยใจวิชาการ ถ้าเขาให้ข้อมูลไม่น่าเชื่อถือหรือสร้างสรรค์เป็นทาสหรือสุนัขรับใช้นายทุน....สังคมจะปลิ้นเนื้อในเขาเองแหละครับ จากคุณ : ป๋อหลิน - [ 2 ก.พ. 49 09:50:03 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เป็นที่รู้กันโดยทั่วไป...ครับ...ท่าน...สื่อเองก็ระบุออกมาชัดเจน...ไม่ได้บอกว่าประชาชนกลุ่มหนึ่ง..ยื่นจดหมาย...แต่ใช้คำว่า อาจารย์ ธรรมศาสตร์ 19คน...มันเป็นที่รู้กันทั่วไป...ทั้งภาพและเสียง...ที่ออกอากาศไปทั่วประเทศ จากคุณ : TRAT - [ 2 ก.พ. 49 09:52:05 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จขกท คิดเอง เออเอง แล้วออกมาโวยวาย เฮ้อ จากคุณ : superninja - [ 2 ก.พ. 49 09:53:53 ]

ความคิดเห็นที่ 8 รศ.ดร.สุวินัย ภรณ์วลัย ^ ^ ^ ^ ชื่อท่านนี้  คุ้น ๆ อย่างไรไม่ทราบ จากคุณ : Sky - [ 2 ก.พ. 49 09:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ : Jack Wealth -------------------- ประเด็นการเมืองครับ...เข้าประเด็นนิดหนึ่ง...ไอ้ประเภท คัดค้านบ่อน ค้านไพ่ เฮโล...ค้านผลประโยชน์ชาติ ฯลฯ มันทำได้ อันนั้นมันหน้าที่ใน 4 พันธกิจของอาจารย์อยู่แล้ว.. คนละกรณีกับเรื่องการเมือง....จะอ้างก็ต้องดูความเข้ากันได้ของเหตุผลตามพันธกิจหลักของมหาวิทยาลัย...และรัฐธรรมนูญ... แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 49 09:56:55 จากคุณ : TRAT - [ 2 ก.พ. 49 09:54:37 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ok ok จากคุณ : Jack Wealth - [ 2 ก.พ. 49 09:56:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อายหว่ะ !!! แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 49 10:01:09 จากคุณ : คนพันธุ์ดุ - [ 2 ก.พ. 49 10:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 13 บอกมันไปกราบไอ้เปรตกู้เหอะ จากคุณ : เจียะป้าบ่อสื่อ - [ 2 ก.พ. 49 10:06:10 ]

ความคิดเห็นที่ 14 หนักหน่อยนะ คุณ TRAT รีบ ๆทำผลงานหน่อย ศึกหลายด้านจริง ๆในระยะนี้....555 จากคุณ : TuMan - [ 2 ก.พ. 49 10:08:16 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อ่านแถลงการณ์แล้วนึกว่า เขียนโดยสมุนสนธิ ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของ "วิชาการ" ถ้าระดับภูมิปัญญาของคนที่ทำงานวิชาการในสถานศึกษา เป็นไปแค่นี้ ก็ไม่ต้องไปหวังอะไรให้มากนักกับเด็กไทย เมื่อไหร่จะมีใครกล้า ทำจดหมายเปิดผนึกไล่อาจารย์พวกนี้กันบ้าง จากคุณ : จิ๋ม นางเลิ้ง - [ 2 ก.พ. 49 10:13:06 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อาจารย์ไม่มีสิทธิออกความคิดเห็นหรือครับ จากคุณ : Gome - [ 2 ก.พ. 49 10:17:10 ]

ความคิดเห็นที่ 17 จะใช่อาจารย์ หรือไม่ใช่ก็ตาม  วันนี้เขาได้ทำหน้าที่แล้ว เห็นด้วยอย่างยิ่ง หากเป็นอาจารย์จะต้องออกมาบอกสังคมให้รับรู้ในเรื่องราวต่างๆเหล่านี้  ไม่อย่างนั้นท่านจะสั่งสอนลูกศิษย์ให้มีปัญญาได้อย่างไร หรือจะสอนให้แต่ท่องจำ ประเภทไม่เถียง ไม่ถาม ทำตามอย่างเดียว สมองจะไม่ฝ่อไปหมดหรือ จากคุณ : . (ปางมะผ้า) - [ 2 ก.พ. 49 10:22:49 ]

ความคิดเห็นที่ 18 นักวิชาการที่น่ายกย่องในสายตา จขกท ควรเป็นอย่าง 1.ศาสตราจารย์ ดร.วิษณุ เครืองาม 2.ศาสตราจารย์ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโน 3.ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร ทั้ง 3 ท่านนี้เคยสอนที่นิติจุฬาฯ 2 ท่านแรกเป็นนักกฎหมายระดับชั้นปรมาจารย์ เคยเป็นที่ภาคภูมิใจของชาวจุฬาฯมาก  แต่ตอนนี้ลองไปถามคนจุฬาฯดูสิครับ พวกเขาเอือมระอาคนพวกนี้เหลือเกิน จากคุณ : กระบี่ไร้นาม - [ 2 ก.พ. 49 10:23:21 ]

ความคิดเห็นที่ 19 โอ้สนธิ เป็นใครหรือครับที่จะสามารถทำให้นักวิชาการเหล่านี้เป็นลูกสมุนได้ ขณะที่สนธิยังใช้ปากบอกว่า  "ทักษิณคือนายกฯที่ดีที่สุดที่ประเทศไทยเคยมีมา" นักวิชาการเหล่านี้เขาก็วิพากษ์นายกฯทักษิณมานานแล้ว  สนธิพึ่งจะมาไม่นานนี่เอง ผมตลกจริงๆใครวิพากษ์รัฐบาลบอกสมุนสนธิ ไม่ใช่สมุน ปชป แล้วหรือ? จากคุณ : กระบี่ไร้นาม - [ 2 ก.พ. 49 10:25:55 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ปัญหาที่ควรจะเป็นประเด็นคือทำไมบางสถาบันการศึกษาของประเทศถึงปล่อยให้มีกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองเข้ามาแฝงอยู่ในรูปแบบของอาจารย์เพื่อทำการเคลื่อนไหวทางการเมือง? ประเทศเรามีวิกฤติหญิงขายบริการมาในรูปแบบของนักศึกษาเพื่อหากินแล้ว แล้วยังมาเจอกลุ่มนี้อีก ถึงดูจากจำนวนแล้วยังเป็นส่วนน้อยมากอยู่ก็จริง แต่ก็น่าเป็นห่วงเยาวชนไทย จากคุณ : <_Eminem_> - [ 2 ก.พ. 49 10:27:02 ]

ความคิดเห็นที่ 21 รัฐธรรมนูญ มาตรา 64 บุคคลผู้เป็นทหาร ตำรวจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่อื่น ของรัฐ พนักงานส่วนท้องถิ่น และพนักงานหรือลูกจ้างขององค์การ ของรัฐ ย่อมมีสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป เว้นแต่ที่จำกัดในกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับที่ออกโดยอาศัย อำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการเมือง สมรรถภาพ วินัย หรือจรรยาบรรณ ------------------- สำหรับหลายท่านที่สงสัย...อาจารย์มีสิทธิหรือไม่...มีขอบเขตหรือไม่...จริยธรรม จรรยาบรรณในฐานะสถาบันทางวิชาการ ที่เป็นกลาง จากคุณ : TRAT - [ 2 ก.พ. 49 10:34:27 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ^ ^ ^ คุณ <_Eminem_> คนมีความคิดไม่ตรงกับรัฐบาลต้องเป็นกลุ่มผลประโยชน์หรือครับ ถ้าผมถามกลับว่าพวกเห็นด้วยกับรัฐบาลก็เป็นกลุ่มผลประโยชน์เหมือนกัน คุณจะว่าจะว่ายังไง ถ้าพูดเป็นแต่กล่าวหาคนอื่นใช้เหตุผลไม่เป็น หาข้อมูลมาอ้างไม่ได้ คุณยังแย่กว่าคนที่คุณกล่าวหาด้วยซ้ำ คุณ TRAT ยื่นจดหมายเปิดผนึกมันผิดจรรยาบรรณตรงไหนครับ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 49 10:36:39 จากคุณ : Gome - [ 2 ก.พ. 49 10:34:44 ]

ความคิดเห็นที่ 23 การเปลี่ยนแปลงเรียกร้องในอดีต ก็จุดประกายจากมหาวิทยาลัย หลาย ๆ ประเทศก็เช่นกัน คือถ้าไม่เริ่มจากปัญญาชนก็กรรมกร เพราะพวกระดับกลาง ๆ มักไม่ค่อยอยากออกความเห็น จากคุณ : ส (สารส้ม) - [ 2 ก.พ. 49 10:36:16 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ่โอ้โห ไม่อยากจะเชื่อ เห็นคนพูดเรื่องหัวโขนได้อย่างหน้าตาย.. แล้วไอ้หัวโขนนายกรัฐมนตรีที่มันแอบแฝงทำธุรกิจ ขายหุ้น หมกเม็ด นี่มันเป็นยังไง ผมว่าอันนี้มันชั่วช้ากว่าอาจารย์ออกมาเรียกร้องจดหมายเปิดผนึกอีกนะ #4 ขอบคุณที่เอามาลง จะได้รู้ว่านักวิชาการเขามองเกมส์ออกมานานแล้ว ว่าซื้อหุ้นหงส์มันก็เ็ป็นแค่กระบวนการห่วย ๆ อันหนึ่งของรัฐบาลนี้ และเขาก็ได้ประท้วงอย่างเป็นทางการ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ในกาลต่อมาแล้วว่าเขาพูดถูก นับว่าเป็นคำชม นอกจากจะมีคนที่คิดว่าซื้อหุ้นหงส์เป็นสิ่งที่ถูก ส่งเสริมการกีฬา หรือจะมีคนออกมาคัดค้าน หาว่าอาจารย์เหล่านี้เป็นพวกกวนเมือง ขอฉายหนังเก่า.. มีอาจารย์ผมด้วยหลายคน ภูิมิใจจัง...เท่าที่ผมรู้ อาจารย์กลุ่มเหล่านี้ ไม่มีใครมี aspiration ในทางการเมืองครับ ไม่ได้เป็นเหมือนพวกนักวิชาการรอบตัวนายกหลาย ๆ คน ตัวอย่าง อ.รังสรรค์ ท่านเป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติสาขาเศรษฐศาสตร์นะครับ มีผลงานอันเป็นกลางมากมาย เป็นที่ยอมรับสำหรับนักเศรษฐศาสตร์ไทย ท่านก็วิจารณ์นโยบายต่าง ๆ มาเรื่อย ๆ ตามหลักวิชาการ มีแค่ในยุครัฐบาลนี้นั่นแหละ ที่ท่านต้องโดนคนบางกลุ่มใส่ร้ายป้ายสีแบบโง่ ๆ แต่ในที่สุดทองแท้ก็ไม่กลัวไฟครับ ตอนนี้สังคมไทยก็คงจะรู้กันแล้ว ว่าที่พวกอาจารย์ นักวิชาการต่าง ๆ เขาพูดมาน่ะ มันจริงหรือไม่... จะบอกให้อย่าง.. นายกทักษิณเคยจะฝากให้ลูกชายเข้าเรียน ที่ เศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ (B.E) พร้อมข้อเสนอก้อนใหญ่ แต่พวกอาจารย์เขาไม่เอา เพราะคุณสมบัติไม่ถึง นึกแล้วเป็นหนี้บุญคุณพวกอาจารย์มาก เงินงบประมาณที่ได้มา คงไม่คุ้มค่ากับชื่อเสียงของสถาบัน จากคุณ : B.F.Pinkerton - [ 2 ก.พ. 49 10:36:52 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง คนสอนหนังสือที่นี่ 19 คน ออกมาแสดงความเห็นก็ยินดีครับ อยากเห็นคนสอนหนังสือท่านอื่นๆ ได้กรุณาออกมาสำแดงด้วยก็จะยิ่งเป็นที่น่ายินดียิ่งขึ้น เข้าใจว่าที่นี่มีคนสอนหนัองสือมากว่าร้อยกระมัง อ้อ คนสอนหนังสือที่อื่นๆ ก็ช่วยกันออกมาแสดงความเห็นกันหน่อย จากคุณ : นาย ก - [ 2 ก.พ. 49 10:39:42 ]

ความคิดเห็นที่ 26 พวกมันเอาชื่อธรรมศาสตร์ มาอ้างแบบนี้ทุเรศครับ... ลาออกไปเลย...ไปเล่นการเมือง เข้าพรรคไหนก็เชิญ จากคุณ : Nazareth - [ 2 ก.พ. 49 10:42:00 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อาจารย์หมาๆ ใน กทม. ก็มีสังกัดหมาลัย'อยู่ที่นี่ที่เดียวแหละ หมั่นไส้มานานแล้ว  ขอบอก จากคุณ : timmed - [ 2 ก.พ. 49 10:43:01 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คิดไงกะรัฐบาลเอาอำนาจรับเอื้อประโยชืพี่น้องเครือญาติ...คุณตอบได้มั้ย...สงสารเจ้าของกระทู้ช่วงนี้ทำงานหนักสู้ๆๆต่อไป.......เหอะๆๆ จากคุณ : @LLTimE - [ 2 ก.พ. 49 10:43:17 ]

ความคิดเห็นที่ 29 1.ศ.รังสรรค์  ธนะพรพันธุ์ 2.รศ.ดร. สมบูรณ์ ศิริประชัย 3.ดร.วันรักษ์ มิ่งมณีนาคิน 4.รศ.ดร.นิรมล สุธรรมกิจ 5.วัชรียา โตสงวน 6.ศ.ดร.ปราณี ทินกร 7.ดร. ดวงมณี เลาวกุล 8.ดร.วิไลวรรณ วรรณนิธิกุล 9. ดร. ดาว มงคลสมัย 10.รศ.ดร.เพลินพิศ สัตย์สงวน 11.ผศ.ดร.อภิชาติ สถิตนิรมัย 12.รศ.ภราดร ปรีดาศักดิ์ 13.รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย 14.รศ.ดร.เยาวเรศ ทับพันธุ์ 15.รศ.ดร.สมนึก ทับพันธุ์ 16.รศ.ดร.ชวินทร์ ลีนะบรรจง 17.ดร.เณศรา สุพานิช 18.รศ.ดร.สมชาย สุขสิริเสรีกุล 19.ผศ.ดร.อรวรรณ รัตนภากร ผู้มีชื่อข้างต้น ขอให้ลาออกจากการเป็นอาจารย์เสีย เนื่องจากท่านทั้ง 19 คน ทำตัวไม่เหมาะสมกับความเป็นครู ลดตัวมาเล่นการเมือง เพราะความรู้สึก ส่วนตัว ส่วนการทำหน้าที่ก็ย่อหย่อนไม่มีประสิทธิภาพ พิสูจน์ได้โดยการจับตาสังเกตุ บรรดานักศึกษาที่สอนมา ไม่มีใครกระตือรือล้นแสดงออกในวิชาที่เรียน ถูกหรือผิดก็ไม่แสดงอารมณ์ ไม่ทราบสอนกันมาอย่างไร เห็นด้วยหรือไม่ก็ไม่เคยออกความเห็น เป็นการผิดธรรมชาติของผู้ที่ศึกษามาในด้านนั้นๆ ยกตัวอย่างด้านการเมือง ที่กำลังเป็นประเดนขัดแย้ง ไม่มีการแสดงออกหรือออกความคิดเห็นใดๆ ไม่ว่ารัฐศาสตร์ นิติศาสนต์ หรือเศรษฐศาสตร์ ก็ไม่ออกความเห็น ผู้สมควรพิจารณาควรเป็นพวกท่าน หาใช่ นายกฯไม่ ขอให้ท่านระอายใจบ้าง ปัจจัยตอบแทนท่านก็รับไปแล้ว ท่านปฏิบัติหน้าที่ได้ดีแล้วหรือ จึงออกมาแสดงความด้อยปัญญาในวันนี้ . จากคุณ : เภก อายแทน (พิเภกอินเตอร์) - [ 2 ก.พ. 49 10:44:15 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ครูบาอาจารย์ก็คือคนไทยนะคะ  เจ้าของกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4071429/P4071429.html จากคุณ : คำตัดพ้อของใบไม้ - [ 2 ก.พ. 49 10:50:52 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ท่านทักษิณกรุณามอบมือกฎหมายยื่นฟ้องหมิ่นประมาทบุคคลเหล่านี้ด้วย เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานในการใช้กระบวนการยุติธรรมในการจัดการปัญหาการกล่าวหาอย่างไม่มีความรับผิดชอบ จากคุณ : นาย ก - [ 2 ก.พ. 49 10:53:45 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณคุณภิเภกที่นำรายชื่อมาลงให้ทราบ  พวกนี้กล้าแสดงออกอย่างเปิดเผย ผมพอใจมากกว่าพวก ค ต ง เสียงข้างมากเสียอีก  ยื้อเก้าอี้คุณหญิงไว้ตั้งนาน จากคุณ : น้องทิมมี่ - [ 2 ก.พ. 49 10:59:41 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เมื่อวานชมรม โหด มัน ฮา พูดเรื่องสิทธิ หน้าที่และเสรีภาพ และได้เอาเนื่อหาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ที่ นายชด นำมาลงไว้ มาตรา 39   บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา      และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น การจำกัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัย    อำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเฉพาะเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ เพื่อคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ      เกียรติยศ ชื่อเสียง สิทธิในครอบครัวหรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของบุคคลอื่น เพื่อรักษาความสงบ    เรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อป้องกันหรือระงับความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือ    สุขภาพของประชาชน การสั่งปิดโรงพิมพ์ สถานีวิทยุกระจายเสียง หรือสถานีวิทยุโทรทัศน์ เพื่อลิดรอน    เสรีภาพตามมาตรานี้ จะกระทำมิได้ การให้นำข่าวหรือบทความไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจก่อนนำไปโฆษณา    ในหนังสือพิมพ์ สิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง หรือวิทยุโทรทัศน์ จะกระทำมิได้ เว้นแต่จะกระทำในระหว่าง    เวลาที่ประเทศอยู่ในภาวะการสงครามหรือการรบ แต่ทั้งนี้จะต้องกระทำโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติ    แห่งกฎหมายซึ่งได้ตราขึ้นตามความในวรรคสอง เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่นต้องเป็น    บุคคลสัญชาติไทย ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ การให้เงินหรือทรัพย์สินอย่างอื่นอุดหนุนหนังสือพิมพ์    หรือสื่อมวลชนอื่นของเอกชน รัฐจะกระทำมิได้ หากจะตีความ  ต้องตีความ  "ความมั่นคงของรัฐ" ให้แตกเสียก่อน จากคุณ : เด็กน้อยเมื่อหลายปี - [ 2 ก.พ. 49 11:03:06 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ^ ^ ^ น่าลองดูนะ...แต่ก็ให้เตรียมมือกฎหมายไว้คอยแก้ต่างให้ดีก็แล้วกัน..."ซุกหุ้นภาค 2 - อวสานเซลล์แมน" จากคุณ : TuMan - [ 2 ก.พ. 49 11:06:01 ]

ความคิดเห็นที่ 35 นายกฯ ทำไมต้องลาออก ไอ้สนธิมันเป็นใคร มันใหญ่แค่ไหน ถึงขนาดจะมาไล่นายกฯ  ที่มาจากการเลือกตั้ง ไอ้สนธิไม่พอใจก็ให้รอไปอีก 3 ปีซิ บ้านเมืองปกครองในระบบประชาธิปไตยก็ต้องเคารพกติกา ไม่อย่างนั้นถ้าเลือกตั้งได้ผู้นำมาแล้ว มีคนกลุ่มหนึ่งไม่พอใจผู้นำก็ออกมาเดินขบวนขับไล่ มันถูกต้องที่ไหน  เรื่องผู้นำทำผิดกฏหมายหรือไม่ ก็ต้องว่ากันไปตามพยาน หลักฐาน ไม่ใช่ใช้กฏหมู่หรือความรู้สึกส่วนตัวมาตัดสิน เหมื่อนที่กำลังทำกันอยู่ บ้านเมืองพัฒนากันมาถึงขนาดนี้แล้ว อย่าให้ต้องถอยหลังเข้าคลองกลับไปเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่เลย จากคุณ : otop (otop) - [ 2 ก.พ. 49 11:09:13 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เหล่าอาจารย์ช่างกล้าหาญ ต่างจากกองเลียตามเวปบอร์ดยิ่งนัก จากคุณ : B.F.Pinkerton - [ 2 ก.พ. 49 11:11:44 ]

ความคิดเห็นที่ 37 คำถามครับ (จริงๆ ไม่ได้กวน) "มีข่าวลือว่า อ.ธรรมศาสตร์ไม่ชอบ อ.นิด้า เพราะเคยดูถูกดูแคลนกันมาตอนย้ายอ.จากธรรมศาสตร์มานิด้า แล้วอ.นิด้าดันได้ดีในรัฐบาลชุดนี้" จริงเท็จประการใด ขอคำตอบครับ จากคุณ : Jaffa - [ 2 ก.พ. 49 11:14:09 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่เคยได้ยินเรื่องเช่นนี้เลยครับ สังเกตนะครับ คนที่มาจากนิด้า เช่น ดร.ปุระชัย หรือ ดร.สมคิด ่ก็เป็นคนที่มีคุณภาพดี น่ายกย่อง ไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปคิดเช่นนั้น จากคุณ : B.F.Pinkerton - [ 2 ก.พ. 49 11:22:46 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อยากจะเพิ่มเติมว่า อาจารย์พวกนี้อีโก้จัด ไม่เคยเห็นด็อกเตอร์คนไหนที่พยายามถ่อมตัวเลยสักคน มีแต่พยายามยกตัวเองหรือพยายามพูดเป็นคนสุดท้าย เสียเรื่อย ไม่ว่าจะรู้หรือไม่รู้จริงในสิ่งที่ตัวเองพูด ถึงบอกว่ารู้จริงก็รู้เท่าที่ข้อเท็จจริงที่ศึกษา หรือตามกรอบที่ตัวเอง hypothesize ขึ้นมา ต้องรอการพิสูจน์ ถึงพิสูจน์ ยังไงๆก็เบี่ยงเบนไปจากที่คิดไว้เสมอ อาจจะกลับหน้ามือเป็นหลังมือด้วยซ้ำไป ยิ่งไปกว่านี้ คนพวกนี้เป็นกลุ่มเล็กๆ มากๆๆๆๆ วันๆนั่งสรรเสริญกันเอง พอลับหลังก็นินทากัน อย่างเป็นกิจลักษณะ เรื่องทำงานเป็นทีมจริงๆน่ะ ไม่น่าจะเก่ง เรื่องแตกคอกันล่ะไม่ว่า ไม่ได้ดูถูกอะไรกัน แต่พูดจริงๆ พอมาวันนี้ก็จะเอาความเป็นอาจารย์มาโหนกระแส เศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ คณะเดียวมีอาจารย์เป็นร้อย ทั้งที่โหนกันมาแต่ไหนแต่ไร และที่แทรกเข้ามาใหม่ ใครเป็นใครไม่รู้หรอก แต่แค่ความคิดที่ออกมา เห็นแค่นี้ ถือว่าแย่ จากคุณ : milotte   - [ 2 ก.พ. 49 11:30:26 ]       ความคิดเห็นที่ 4   อีกนิดก็คือ นิสัยอาจารย์พวกนี้คือพูดอย่างทำอีกอย่าง แต่ก่อนเรียกร้องให้รัฐบาลทุ่มเพื่อการศึกษา เดี๋ยวนี้ ให้ตั้ง 20% ของงบประมาณ พอรัฐบาลสร้างวิทยาเขตให้ที่รังสิตเป็นพันๆล้านจริงๆ แต่กลับเรียกร้องไม่ยอมย้ายไปสอน อ้างว่ารัฐบาลพยายามลบเลือนประวัติศาสตร์ สารพัดจะอ้าง ที่แท้คือไม่อยากเดินทาง เอาแค่นี้ให้สำเร็จก่อน ค่อยไปว่าคนอื่น คนเก่งจริงๆ เขาออกไปทำอย่างอื่นกันหมดแล้ว ไม่มาจ่อมขัดขากันเองวันๆหรอก จากคุณ : milotte - [ 2 ก.พ. 49 11:41:32 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เหล่าอาจารย์ช่างกล้าหาญ ต่างจากกองเลียตามเวปบอร์ดยิ่งนัก จากคุณ : B.F.Pinkerton แล้วคุณ B.F.Pinkerton เลียใครอยู่ ผมช่วยมั้ยครับ จากคุณ : หมูประตูผี (เลียหงายหลัง) (หมูประตูผี) - [ 2 ก.พ. 49 11:57:42 ]

ความคิดเห็นที่ 41 #6 the fact : เรื่องของเรื่องคือ เขาไม่ได้ใช้ความเป็นสถาบันครับท่าน ท่านเอาหลักฐานมายันกับผมทีสิว่าตรงไหนที่เขาเอาความเป็นอาจารย์และสถาบัน หรือท่านมีแต่ "เป็นที่รู้กัน" คำนี้หากเป็นที่ยอมรับกัน ผมจะได้นำไปเป็นบรรทัดฐานในกระทู้อื่นๆต่อไป แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 49 12:12:01 จากคุณ : ลูกไทย หลานไทย - [ 2 ก.พ. 49 12:10:53 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ป่วยการครับ คุณลูกไทยหลานไทย....ข่าวมันออกมาชัดเจน ข่าวเที่ยงก็ยังย้ำ ชื่อ สถาบัน ครบถ้วน... จากคุณ : TRAT - [ 2 ก.พ. 49 12:19:51 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อ่านจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ "ทักษิณ" ลาออกของอาจารย์จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จำนวน19 คนแล้วก็ได้แต่ถอนใจ อ่านรายชื่อคร่าวๆก็พอจะทราบทันทีว่าอาจารย์บางท่านหนึ่งใน19 คน นั้นเป็นขาประจำ่วิพากษ์วิจารณ์ตำหนินายกฯทักษิณตลอดมายกตัวอย่างเช่น ศ.รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ นักคอลัมนิสต์จากนสพ. ผจก.รายวัน  อย่างนี้คงต้องหารความน่าเชื่อถือของท่านลงหน่อยค่ะว่าท่านทำด้วยใจสุจริตมิได้ฝักไฝ่ฝ่ายใด หรือ รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย นักคอลัมนิสต์จากนสพ. ผจก.รายวันที่เีขียนตำหนินายกฯอยู่บ่อยๆ ในความคิดเห็นของเอื้องในวิถีทางแห่งระบอบประชาธิปไตยคณะอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้ง 19 ท่านนี้สามารถมีสิทธิแสดงความคิดเห็นได้ อย่างเสรีภายใต้ความคุ้มครองของรัฐธรรมนูญ แต่กระนั้นก็ตามนายกฯก็มีสิทธิที่จะไม่ลาออกตามข้อเรียกร้องในจดหมายฉบับนั้น เพราะเราต้องเข้าใจก่อนค่ะว่าบ้านเมืองมีกฏ กติกาที่ทุกคนจะต้องเคารพกฏหมายรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันก็ระบุไว้ชัดเจนสำหรับกระบวนการการถอดถอนและการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในกรณีที่นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีผู้ใดมีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ราชการ จงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ทำไมเราถึงไม่เดินตามกรอบกติกาของบ้านเมืองล่ะคะ แล้วเราจะต่อสู้เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญฉบับนี้มาทำไมกัน และเอื้องคิดว่าคณะอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้ง 19 ท่านควรที่จะเคารพกติกา นายกฯทักษิณได้รับเลือกให้เข้ามาบริหารประเทศ โดยได้รับความยินยอมจากประชาชนตามหลักการเสียงข้างมาก และ อำนาจนี้ของนายกฯก็ถูกจำกัดด้วยกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่าเมื่อครบวาระ ๔ ปีแล้ว ก็จะมีการเลือกตั้งใหม่ ไม่มีใครที่ได้ตลอดหรือเสียตลอดหรอก หากรัฐบาลบริหารประเทศไม่ดีเลือกตั้งครั้งต่อไปประชาชนก็คงไม่เลือกเอง บ้านเมืองมีขื่อมีแปหากเราไม่เคารพ แล้วจะมีกฏหมายรัฐธรรมนูญไว้ทำไม? บ้านเมืองมิวุ่นวายกลายเป็นมิคสัญญีไปหรอกหรือ? หากรัฐบาลต้ิองทำตามอย่างที่ นักคอลัมนิสต์ นักวิชาการนอกเวที นักธุรกิจสื่ออย่างนายสนธิบอกแล้ว กฎกติกาของบ้านเมืองซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องรักษาไว้จะคงความศักดิ์สิทธิได้อย่างไร?   อีกอย่างผู้ที่มีความชอบธรรมในการเปลี่ยนผู้นำประเทศจริงๆก็คือประชาชนมิใช่ คณะอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้ง 19 ท่านนี้ ทุกคนควรเคารพกติกาตามระบอบประชาธิปไตยค่ะเป็นต้นว่าคณะอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้ง 19 ท่านนี้ ที่กล่าวหาทักษิณว่าทุจริต ก็ควรจะที่จะส่งข้อมูลหลักฐานให้ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในกรณีที่นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีผู้ใดมีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ราชการ จงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย นอกเหนือจากนั้นยังมีองค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจด้วยองค์กรตามรัฐธรรมนูญต่างๆ เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ปปช เป็นต้นเพราะประชาธิปไตยจะอยู่ได้ต้องช่วยกันรักษา กฎกติกาที่กำหนดในรัฐธรรมนูญจะต้องเคารพค่ะ จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ - [ 2 ก.พ. 49 12:30:26 ]

ความคิดเห็นที่ 44 และที่คณะอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้ง 19 ท่านนี้กล่าวว่า: "... และยังปิดกั้นสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน ปิดกั้นการชุมนุมอย่างสันติตามสิทธิแห่งรัฐธรรมนูญ .." นั้นเอื้องก็ไม่เห็นด้วยกับประโยคข้างบนนี้ค่ะหากรัฐบาลปิดกั้นสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนจริงดังคำกล่าวหาของคณะอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้ง 19 ท่านแล้วเหตุไฉน นักวิชาการที่ทำตัวเป็นฝ่ายค้านจึงรู้ว่านายกเผด็จการไม่ได้รู้มาจากสื่อหรอกหรือคะ? หรือถ้ารู้มาจากสื่อนายกเผด็จการตรงไหนคะ? เห็นสื่อก็ว่านายกอยู่ปาวๆไม่เห็นสื่อไหนที่หายไป แล้วเรื่องที่นักวิชาการผู้มีเกียรติทั้งหลายกล่าวหาว่ารัฐบาลทักษิณมีผลประโยชน์ทับช้อนอีกเช่นกันนี่ก็รู้มาจากสื่ออีกมิใช่หรือคะ? หากรัฐบาลทักษิณคุมสื่อจริงๆตามที่หลายๆคนกล่าวหาแล้วภาพพจน์ด้านลบของรัฐบาลจะออกมาสู่สายตาประชาชนได้อย่างไรคะ? แปลกใจค่ะ รัฐธรรมนูญฉบับนี้จริงๆแล้วก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียค่ะแต่เอื้องคิดว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้นี่แหละที่ เป็นหลักประกันสิทธิเสรีภาพให้กับประชาชนมากกว่ารัฐธรรมนูญในอดีตที่ผ่านมาทั้งหมดและประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุดหรือคณะอาจารย์คิดว่าไม่จริงคะ? และจริงๆแล้วคำว่าเสรีภาพของสื่อที่หลายคนเรียกร้องถามหานั้นหากได้ลองพิจารณาตรึกตองถึงการกระทำและความจริง เฉกเช่นมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาอย่างถ่องแท้แล้วเสรีภาพอย่างแท้จริงร้อยเปอร์เซ็นต์นั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ อย่างที่เคยมีนักเขียนท่านหนึ่งได้ใหุ้มุมมองถึงเสรีภาพของสื่อไว้อย่างน่าฟังว่า: "เราน่าจะถามหา เสรีภาพตามสมควรของสื่อ(มิใช่เสรีภาพของสื่อ 100%) ในฐานะที่เป็นวิชาชีพที่มีความสำคัญสาขาหนึ่ง ที่มีส่วนช่วยจรรโลงสังคมให้น่าอยู่มากกว่า เพราะมันเป็นสิ่งที่พอจะสามารถแสวงหากรอบที่เห็นเป็นรูปธรรมได้ นั่นคือกรอบของกฎหมาย อันเป็นกติกาการอยู่ร่วมกันของสังคม ต้องเรียกร้องและกดดันให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติหน้าที่ของตนให้อยู่ในกรอบของตนเอง อย่าล่วงล้ำสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ในขณะเดียวกันสื่อก็ต้องทำหน้าที่สื่ออย่างระมัดระวัง มิให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายด้วย หากทำได้ไปถึงจุดนั้น นั่นล่ะ "เสรีภาพของสื่อ" ที่มีจริงๆ แต่เป็นเสรีภาพตามสมควรแห่งวิชาชีพ " การชุมนุมในวันที่ 4 กุมภาครั้งนี้จะเป็นที่รวมของกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์อย่างกลุ่มคุณ สนธิ และ พวก, สมาชิกพรรคฝ่ายค้านบางคน พวกพ่อค้่ายาเสพติดที่อาการหนักเพราะถูกทักษิณปราบปรามอย่างหนัก พวกพ่อค้าขายของเถื่อน และประชาชนจำนวนหนึ่งที่ไม่ชอบการบริหารงานของนายกฯทักษิณจริงๆซึ่งก็เป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตยค่ะ .การชุมนุมกันถ้าเป็นไปอย่างสงบ และสร้างสรรค์เอื้องก็คิดว่าเป็นเรื่องที่สวยงามของระบอบประชาธิปไตยค่ะ .... มาถึงตรงนี้คนที่มากล่าวหาว่านายกฯเป็นทรราชย์นี่เอื้องว่าเพี้ยนจริงๆค่ะหากนายกฯเป็นทรราชย์การชุมนุมจะเกิดขึ้นไ้ด้หรือ? ในประเทศที่ปกครองด้วยระบบเผด็จการ คุณสนธิไม่มีทางทำแบบนี้ได้หรอกค่ะ และไม่เคยมีประเทศใดในโลกนี้ถวายพระราชอำนาจคืนให้กษัตริย์....หากการถวายพระราชอำนาจคืนให้สถาบันพระมหากษตริย์มีความหมายไปถึงต้องการเปลี่ยนรูปแบบการปกครอง จากที่เป็นอยู่ในปัจจุบันคนที่ทำเช่นนั้น อาจมีความผิดฐานกบฎ ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระหากษัตริย์เป็นประมุขได้ค่ะนี่คือสิ่งที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ ...... ถ้าหากคุณสนธิและพวกจงรักภักดีกับสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยใจจริง ให้พระองค์ท่านทรง ปกเกล้าต่อไปเถิดค่ะ อย่าดึงพระองค์ท่านลงมาปกครองเลย กษัตริย์ที่ปกครอง มิได้ปกเกล้า ในไม่ช้าก็ล่วงล้ม และเอื้องคิดว่าในโลกนี้ไม่ว่าจะเป็น นายกฯทักษิณ ชินวัตร นายชวน หลีกภัย สมเด็จพระเจ้าตาก หรือแม้แต่รัฐบุรุษพลเอกเปรมไม่มีใครสมบูรณ์ถ้าท่านไม่ใช่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า .... แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 49 12:39:04 จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ - [ 2 ก.พ. 49 12:36:45 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เรื่องปิดกั้นสื่อ คุณเอื้อยต้องถามสื่อบางสื่อครับ ไม่ใช่ผจก.นะครับ จากคุณ : ลูกไทย หลานไทย - [ 2 ก.พ. 49 12:43:48 ]

ความคิดเห็นที่ 46 "....อีกทั้งยังก่อให้เกิดความแตกแยกและความรุนแรงในภาคใต้จนยากที่จะเยียวยาแก้ไข...." และเอื้องก็ไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้อย่างยิ่ง นั่นเพราะว่าเรื่องปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นี่เอื้องคิดว่าต่อให้ประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบลตอนนี้ก็ยังแ้ก้ปัญหาไม่ไ้ด้ และการมี "ศอบต." ก็ไม่ได้หมายความว่ามีส่วนช่วยให้สถานการณ์สงบลงในทันใดค่ะ .... เพราะหากเราลองย้อนไปในสมัยที่ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลนั้นเหตุความรุนแรงสูงทีเดียวค่ะใช่ว่าจะน้อยกว่ารัฐบาลชุดนี้ ..... ข้อมูลสถิตินั้นบันทึกไว้ค่ะ ..... และเอื้องคิดว่า การมี "ศอบต." ไม่ใช่คีย์สำคัญที่จะทำให้ภาคใต้สงบ อย่างที่สส. พรรคประชาธิปัตย์นักวิชาการบางคนนำมาอ้าง โจมตีนายกฯ ค่ะ การที่จะพัฒนาปัญหาชายแดนภาคใต้แบบยั่งยืนนั้นต้องเน้นเรื่อง "การศึกษาเป็นหลัก" เพราะเราต้องยอมรับความจริงค่ะว่ามีเยาวชนไทยมุสลิมจำนวนมากที่ถูกปลูกฝังให้เกลียดรัฐไทยเพราะเรียนแต่เรื่องศาสนา พอเด็กจบออกมาก็ไม่มีงานทำไม่รู้จะไปไหน ไม่รู้จะช่วยตัวเองอย่างไรก็ถูกชักจูงได้ง่ายถูกชวนไปในทางที่ผิดเกิดการปรุงแต่งทางจิต คิดน้อยเนื้อต่ำใจว่าประเทศนี้ไม่ให้โอกาส .... บังเอิญว่าเขต 3 จังหวัดนั้นประชากรส่วนใหญ่เป็นไทยมุสลิม เมื่อทุกพื้นที่มีไทยพุทธเป็นประชากรส่วนใหญ่ก็เหมือนกับว่าประชากรส่วนใหญ่ทำอย่างไรจึงจะให้ประชากรส่วนน้อยคล้อยตาม เพราะฉะนั้นพี่น้องไทยชาวมุสลิมที่อยู่ในจังหวัดอื่นจะไม่มีปัญหา แต่ใน 3 จังหวัดนี้บังเอิญว่าประชากรส่วนใหญ่เป็นไทยมุสลิม แล้วบังเอิญว่าเรียนศาสนากันเป็นส่วนใหญ่และไม่ได้เรียนสายสามัญ เพราะฉะนั้นจึงเข้าสู่ระบบทั่วไปไม่ได้ แต่ทางราชการเองก็ไม่ได้ปรับระบบตัวเองเพื่อรองรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ทางพี่น้องไทยมุสลิมที่ ไม่มีโอกาสในสังคม จิตจึงปรุงแต่งคิดต่อไปเลยว่า ไม่ดูแล เราเป็นบุคคลชั้นสอง ไปโน่นเลย แล้วพอถูกชักจูงก็เลยไปง่าย . ทางแก้ปัญหาตรงนี้ก็คือกระบวนวิชาสายสามัญต้องถูกบรรจุลงในหลักสูตรในโรงเรียนสอนศาสนาให้มากๆค่ะนำเอา ระบบการศึกษานอกโรงเรียนเข้าไป หากพวกเค้าไปเรียนเทียบไปเรียนอะไรมา เพื่อจะได้ไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยปกติ เรียนต่อราชภัฎฯ หรือว่าจะเรียนต่อวิทยาลัยชุมชน หรือจะต่อทางด้านสายวิชาชีพ เยาวชนเหล่านี้จะได้ทำมาหากินได้จะได้มีงานทำไม่ถูกพวกนักการเมืองในคราบนักบวชหลอกเอาง่ายๆ ... และล่าสุดนี่เอื้องได้อ่านข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์ (กอส.) ของอดีตนายกฯอานันท์ ปันยารชุน เท่าที่อ่านจากข่าวแล้วรับไม่ได้จริงๆเลยค่ะกับข้อเสนอแต่ละข้อ ต้องบอกว่า "เอื้ออาทรให้กับโจร" จริงๆเลยค่ะสำหรับข้อเสนอแก้ปัญหาชายแดน เป็นต้นว่า เสนอให้จัดตั้ง "หน่วยทหารไม่ติดอาวุธ" ใน 3 จังหวัดภาคใต้ แปลกันตรง ๆ ก็คือจะปลดอาวุธทหารให้เหลือแต่มือเปล่า ..... เสนอให้นิรโทษกรรมแก่ผู้ทำผิดทุกคนทุกฝ่าย เพื่อยุติปัญหาขัดแย้งที่เกิดขึ้น ...เสนอให้ใช้ภาษามลายูเป็นภาษาราชการที่สองรองจากภาษาไทยได้......ข้อเสนอของกอส.ทุกข้อทำให้ฝ่ายรัฐเสียเปรียบทุกด้านเลยค่ะ ..ไม่เคยเห็นด้วยกับการตั้งกอส.เลยค่ะเพราะแค่ดูรายชื่อคณะกรรมการก็รู้แล้วค่ะว่าจะออกมาอีหรอบไหน . อีกอย่างธรรมชาติของพวกผู้ก่อการร้ายนี่ก็คือว่า ยิ่งเจรจาอ่อนข้อ พวกนี้ก็ยิ่งรุกมากขึ้น จับตัวประกันมากขึ้นค่ะ เพราะเห็นว่า "วิธีรุนแรงนำไปสู่ความสำเร็จ" นั่นเองวิธีที่จะปราบผู้ก่อการร้ายสำเร็จคือต้อง"เด็ดขาด" เท่านั้นค่ะแต่หลายประเทศมักจะทำไม่ได้เพราะมีพวกกลุ่มสิทธิมนุษยชนจ๋าบางกลุ่มมาคอยปกป้องสิทธิให้กับพวกผู้ก่อการร้ายนั่นเองค่ะ.... อาจจะมีคนค้านเอื้องตรงพารากราฟสุดท้ายแต่ขอยืนกรานตรงนี้อีกครั้งว่าการจะปราบผู้ก่อการร้ายมุสลิมหัวรุนแรงนั้นต้อง "เด็ดขาด" และมีกฏหมายรองรับเท่านั้นค่ะ เพราะพวกผู้ก่อการร้ายมักจะอาศัยช่องโหว่ของกฏหมายเรียกร้องหาความชอบธรรมในการสังหารผู้บริสุทธิ์เสมอ... เรื่องเหตุการณ์ความไม่สงบทางสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นเอื้องคิดว่า motive หรือแรงจูงใจของผู้ก่อความไม่สงบนั้นสำคัญค่ะ หากจะกล่าวว่า -การแย่งชิงธุรกิจมืดทุกชนิดคือปัจจัยนั้นก็ใช่   -การอุ้มฆ่าบรรดาอุซตาสที่อยู่เบื้องหลังการวางแผนโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนคือปัจจัยนั้นก็ใช่ -ตากใบและกรือเซะคือปัจจัยนั้นก็ใช่ -ข่าวลือความระแวงคือปัจจัยนั้นก็ใช่ แต่ทว่าเหตุผลหลักอันเป็นแกนคือการจัดตั้งมหารัฐอิสลามบริสุทธิ์ ที่อาศัยปัจจัยทุกอย่างนี้หล่อเลี้ยงนั่นเองและผู้ที่อยู่เบื้องหลังปัญหาความไม่สงบทางสามจังหวัดชายแดนภาคใต้คือผู้ที่สนับสนุนแนวความคิดมหารัฐอิสลามบริสุทธิ์ใน SEA เป็นอิสลามแท้บริสุทธิ์ที่สั่งตรงมาจากตะวันออกกลาง (ที่มีเงินจากการขายน้ำมันเป็นทุนรอน เป็นปัจจัยหล่อเลี้ยงความเคลื่อนไหวนี้ค่ะ) ผ่านทางมุสลิมไทยบางคนผู้คลั่งไคล้ความบริสุทธิ์ที่ถูกฝังรากลึกตามโรงเรียนสอนศาสนา ดังนั้น ข้อสรุปว่า พวกค้ายา พวกสร้างสถานการณ์ อำนาจรัฐที่สองอยู่เบื้องหลัง นั้นจึงไม่ใช่ความจริงทั้งหมด แต่เป็นแค่ส่วนประกอบแต่ "หัวใจสำคัญ" คือ "การกู้ชาติ" สร้างสังคมอิสลามบริสุทธิ์ตามความเชื่อของพวกเขา จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ - [ 2 ก.พ. 49 12:47:15 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ส่วนที่บอกว่าถวายคืนพระราชอำนาจ ก็รบกวนไปดูที่เขาเขียนในเว็ปเขาเถิดครับ มีเขียนชัดเจนว่าถวายคืนในระดับไหน ผมไม่ยกมานะครับ ผมไม่ขอโฆษณางาน 4 กพ. ไม่ว่าทางตรงหรืออ้อม จากคุณ : ลูกไทย หลานไทย - [ 2 ก.พ. 49 12:49:51 ]

ความคิดเห็นที่ 48 " เรื่องปิดกั้นสื่อ คุณเอื้อยต้องถามสื่อบางสื่อครับ " ฉบับไหนคะคุณลูกไทยหลานไทย? อย่าหาว่าเชยเลยเน้ออออออออ 5555+++ จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ - [ 2 ก.พ. 49 12:51:29 ]

ความคิดเห็นที่ 49 อิอิ คุณถามอย่างนี้ก็จบสิครับ ไม่มีใครรอบข้างเล่าอะไรเลยจะทำให้ต่อภาพไม่ครบนาคับ ในนี้ไม่มีใครเล่าอะไรหมดจริงๆนาคับ แล้วก็ #46  เขาไม่ได้บอกว่าแก้ปัญหาได้หมดครับ คำว่า "อีกทั้งยังก่อให้เกิดความแตกแยกและความรุนแรงในภาคใต้จนยากที่จะเยียวยาแก้ไข" แปลว่า เขาบอกว่ามันปะทุขึ้นกว่าระดับที่เคยเป็นในอดีต ครับป๋ม! แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 49 12:54:37 จากคุณ : ลูกไทย หลานไทย - [ 2 ก.พ. 49 12:53:49 ]

ความคิดเห็นที่ 50 " ส่วนที่บอกว่าถวายคืนพระราชอำนาจ ก็รบกวนไปดูที่เขาเขียนในเว็ปเขาเถิดครับ มีเขียนชัดเจนว่าถวายคืนในระดับไหน " ระดับไหนไม่สำคัญทำไมต้องถวายคืนคะ? อย่างแรกเอื้องขอถามคุณก่อนว่า คุณลูกไทย หลานไทยคิดว่าบ้านเมืองอยู่ในขั้นวิกฤตแล้วจริงๆหรือ? คุณลูกไทย หลานไทยลองถามความรู้สึกของคุณเองก็ได้ค่ะ จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ - [ 2 ก.พ. 49 12:54:41 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เห็นด้วยกับทุกความเห็นที่สนับสนุนฝ่ายอาจารย์ค่ะ จากคุณ : tangmaya - [ 2 ก.พ. 49 12:55:31 ]

ความคิดเห็นที่ 52 #50 เพราะผมติดใจจาก #44 ครับ "อย่าดึงพระองค์ท่านลงมาปกครองเลย " ผมเลยคิดว่า คุณน่าจะไปอ่านแถลงการณ์ของเขาดีกว่า จริงๆครับ จากคำถามคุณ บ้านเมืองอยู่ในขั้นวิกฤติแล้วหรือยัง? จากบางความเห็นของคนในนี้ หากเขาโกงแต่ทำให้เขาเจริญ ก็ยังไม่เป็นไร คำตอบของผมคือ ตอนนี้น่ะ วิกฤติครับ ไม่ใช่จากใคร จากประชาชนที่เริ่มคิดแบบนั้นน่ะครับ ตัวสำคัญเลย แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 49 12:58:49 จากคุณ : ลูกไทย หลานไทย - [ 2 ก.พ. 49 12:56:33 ]

ความคิดเห็นที่ 53 "เขาบอกว่ามันปะทุขึ้นกว่าระดับที่เคยเป็นในอดีต ครับป๋ม!" จริงเร้อ?? เอื้องจะขอบอก คณะอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้ง 19 ท่านนี้เลยค่ะว่าให้ท่านไปศึกษา Islamofascist and THE GREAT CALIPHATE ให้ถ่องแ้ท้ค่ะแล้วจะเข้าใจปัญหาภาคใต้มากกว่านี้ อาจารย์นิธิ  เอียวศรีวงศ์ก็หลงทางมาแล้ว จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ - [ 2 ก.พ. 49 13:00:06 ]

ความคิดเห็นที่ 54 #53 ที่คุณยกมาน่ะ ผมยิ่งไม่รู้หรอกครับ ผมจะปฏิเสธก็คงไม่ถูกต้อง ก็คงต้องได้แต่นั่งอ่านเฉยๆ ณ ขณะนี้ แต่ที่ผมคิดน่ะ ปัญหาภาคใต้คือปัญหาของสังคม ศาสนาแค่เป็นทางออกที่เข้าใจว่าใช้แก้ปัญหาได้ ครับ จากคุณ : ลูกไทย หลานไทย - [ 2 ก.พ. 49 13:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 55 " หากเขาโกงแต่ทำให้เขาเจริญ ก็ยังไม่เป็นไร คำตอบของผมคือตอนนี้น่ะ วิกฤติครับ ไม่ใช่จากใคร จากประชาชนที่เริ่มคิดแบบนั้นน่ะครับ ตัวสำคัญเลย " เรื่องที่กล่าวหาว่านายกฯทุจริต คอรัปชันนั้นขอให้นำความจริงมาตีแผ่ทำให้กระจ่างเลยค่ะหากคุณสนธิหรือใครก็ตาม มีหลักฐานที่เป็นจริงอยู่ในมือแต่ขอเน้นว่าเป็นหลักฐานที่ถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็นจริงนะคะมิใช่หลักฐานที่ถูกเติมแต่งขึ้นมา ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่เกิดจากการคาดเดาว่ามันจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้แล้วสรุปเอาเองว่าเป็นข้อเท็จจริง เพราะทุกวันนี้เอื้องเห็นแต่การก่นด่าที่ไร้หลักฐาน อยากด่าใคร อยากปลุกระดมอย่างไรก็ทำได้ตามใจชอบ โดยไม่ต้องพิสูจน์กันก็หันกลับไปสู่วังวนเก่าๆเป็นประชาธิปไตยที่พายเรืออยู่ในอ่าง แน่นอนค่ะว่า การดำเนินการผู้กระทำผิดตามกฏหมายนั้นต้องมีเอกสารหลักฐานและพยาน ค่ะ .... และที่คุณบอกว่า" ไม่ใช่จากใคร จากประชาชนที่เริ่มคิดแบบนั้นน่ะครับ" คุณลูกไทยฯคะคุณรู้ได้อย่างไรว่า ประชาชนส่วนใหญ่ คิดแบบนั้น? ขอเน้นว่า "ส่วนใหญ่" นะคะคุณรู้ได้ อย่างไร? เห็นตามข่าวหรือนึกคิดเอาเอง จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ - [ 2 ก.พ. 49 13:16:17 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ระดับอาจารย์ ความคิดระดับนั้นไม่มีใครมาชักจูงได้หรอก นอกจากเหลี่ยม ชักจูงให้ออกมาขับไล่ 5555แล้ว เอื้องกลับมาแล้ว น่าสนุกแหะ นึกถึงสมัยกล้วยหอมขึ้นมาทันที จากคุณ : cha_srt - [ 2 ก.พ. 49 13:19:05 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าประเทศสิงคโปร์จัดการกับพวกมุสลิมหัวรุนแรงยังไง จะเห็นได้ว่าปัญหามุสลิมหัวรุนแรงนั้นมิใช่แต่ในประเทศไทยยุคทักษิณที่เจอ แต่ปัญหาพวกมุสลิมหัวรุนแรงนี้ได้ระบาดเหมือนดังไข้หวัดนกไปทั่วโลกเพื่อสานฝันมหารัฐอิสลามบริสุทธิ์ของบิน ลาเดนที่ีตัวบินลาเดนได้รับถ่ายทอดมาจากกนักการศาสนาชาวอียิปต์อีกทีตั้งแต่นักการศาสนาชาวอียิปต์คนนี้เขียนเรื่องการปฏิวัติอิสลามตั้งแต่ปี 1920 โน่นเลยโคไมนี็ก็รับเอาแนวทางการปฏิวัติอิสลามมาจากนักการศาสนาชาวอียิปต์คนนี้แหละค่ะ ____________________________ สิงคโปร์วอนชุมชนมุสลิมช่วยป้องกันก่อการร้าย   นายยาคอบ อิบราฮิม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลกิจการมุสลิมสิงคโปร์ ยืนยันว่า รัฐบาลสิงคโปร์มีภาระหน้าที่ในการปกป้องชาวสิงคโปร์จากภัยคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสิงคโปร์ เป็นกังวลในปัญหาความขัดแย้งชนชาติที่อาจลุกลามหากกลุ่มหัวรุนแรงมุสลิมก่อการร้ายขึ้นในสิงคโปร์ อาจส่งผลกระทบต่อชุมชนมุสลิม นายอิบราฮิม กล่าวว่า ชุมชนมุสลิมในสิงคโปร์เอง มีภาระหน้าที่ในการช่วยเหลือป้องกันเหตุก่อการร้ายที่จะเกิดขึ้น และรัฐบาลจะไม่ปล่อยให้มีเหตุการณ์ใดทำลายการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขระหว่างชนชาติในสิงคโปร์ถูกทำลายลงไป สิงคโปร์มีชนเชื้อสายจีนเป็นส่วนใหญ่ของประเทศ โดยมีชนเชื้อสายมาเลย์และอินเดียเป็นอีกสองชนชาติ นอกเหนือจากความหวั่นเกรงว่าจะเกิดความแตกแยกระหว่างชนชาติแล้ว รัฐบาลสิงคโปร์ ยังพยายามป้องกันการแทรกซึมของมุสลิมหัวรุนแรงเข้ามาใช้ลัทธิหัวรุนแรงปลุกปั่นเยาวชนเข้าร่วมขบวนการก่อการร้าย จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ - [ 2 ก.พ. 49 13:35:18 ]

ความคิดเห็นที่ 58 จะเห็นตามข่าวหรือจะคิดเอาเองดีหนอ? :) แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 49 14:06:06 จากคุณ : ลูกไทย หลานไทย - [ 2 ก.พ. 49 13:38:58 ]

ความคิดเห็นที่ 59 " จะเห็นตามข่าวหรือจะคิดเอาเอง ไม่มีความสำคัญสำหรับคนที่มองไม่เห็นครับ" อ้าว!! พูดยังงั้นได้ยังไงคะคุณลูกไทยฯ 5555++ หากเอื้องพูดแบบคุณบ้างว่า "ตอนนี้น่ะ เศรษฐกิจกำลัง ไปได้สวยประชาชนยังให้ความไว้วางใจนายกฯให้บริหารประเทศต่อเห็นได้จากโพลล์ตอบรับ Reality Show ฉุดคะแนนนิยมนายกฯทักษิณขึ้นมาีอีกโข ไม่ใช่จากใคร จากประชาชนที่เริ่มคิดแบบนั้นน่ะค่ะ ตัวสำคัญเลย " ก็คงพอจะบอกได้ใช่มั๊ยคะว่าคนยังนิยมนายกฯคนนี้อยู่ . เอ แต่อย่างน้อยเอื้องก็อ้างถึงโพลล์พอที่จะเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์พอให้เห็นภาพนะึคะ ... อิอิ มิได้กล่าวลอยๆนา ... แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 49 14:14:13 จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ - [ 2 ก.พ. 49 14:06:33 ]

ความคิดเห็นที่ 60 สมัยก่อนเงินของประเทศเราหายไปไหนหมด ทำอะไรก็ไม่มีเงิน แบมือขอเขาไปทั่ว ใครโกง ข้าราขการหรือนักการเมือง เราได้ติดตามอย่างไรหรือไม่ ได้ผลประการใด จะทบทวนย้อนหลังได้หรือไม่ จากคุณ : surasc - [ 2 ก.พ. 49 14:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 61 หลักฐานเชิงประจักษ์ชิ้นแรกที่ระบุว่าการบริหารราชการแผ่นดินของนายกฯทักษิณหาได้ทำให้ประเทศวิกฤติดังที่คณะอาจารย์ผู้ทรงเกียรติทั้ง 19 ท่านกล่าวหาว่า "ทักษิณฉุดลากประเทศให้ถึงซึ่งความพินาศ" ไม่ _____________________ ธปท.แถลงแนวโน้มเศรษฐกิจภาคใต้ปี 49 จะขยายตัวต่อเนื่อง โดย ผู้จัดการออนไลน์ 1 กุมภาพันธ์ 2549 18:11 น.   นายพงศ์อดุล กฤษณะราช ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ แถลงแนวโน้มเศรษฐกิจภาคใต้ในปี 2549 ว่า จะขยายตัวอย่างต่อเนื่องตามการใช้จ่ายของภาคเอกชน โดยมีปัจจัยสำคัญสนับสนุนคือ ราคาพืชผลทางการเกษตร อาทิ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน การท่องเที่ยว จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ รวมทั้งการส่งออกและการใช้จ่ายภาครัฐจะขยายตัวต่อเนื่องเช่นกัน มีเพียงการลงทุนภาคเอกชนที่คาดว่าจะยังคงชะลอตัว เนื่องจากผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ย ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และการขาดแคลนแรงงาน จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ - [ 2 ก.พ. 49 14:23:00 ]

ความคิดเห็นที่ 62 #59 ผมแก้คำพูดใน#58 ไปน่ะครับ อ่านไปมันก็สองแง่สองง่ามได้กลัวคุณอ่านแล้วโกรธ ก็เลยกลายเป็น #58 เวอร์ชั่นใหม่ไป อย่างนี้ครับ ประการแรกผมมองว่าสังคมตอนนี้"วิกฤติ" (จากคำถามคุณ) ตอนแรกผมมองคำตอบว่าใช่เพราะหลายๆเรื่องของคนในพรรครัฐบาล หลายเรื่องก็อย่างที่ว่าไว้ก่อนหน้า เรื่องของสื่อคุณสามารถหากข่าวของคุณได้เอง ผมอาจจะให้ข้อมูลไม่จริง ผมอาจจะให้ข้อมูลที่จริง เป็นไปได้ทั้งนั้นครับ ตอนหลังผมมาคิดว่า การที่ประชาชน"เริ่ม"ปล่อย ให้เหตุการณ์นี้สามารถเกิดขึ้นได้(แม้ว่ายังไม่รู้ว่าจริง) โดยให้ความเห็นว่า "ถึงแม้ว่าโกงแต่หากทำความเจริญให้ก็ไม่เป็นไร" การรวมตัวของพรรคไทยรักไทย เมื่อเทียบกับความขัดแย้งของคนในกลุ่มภายในจนต้องนำมาซึ่งการปรับครม. นั่นแสดงให้เห็นว่าการรวมกันไม่ได้มีจากอุดมการณ์ เพราะไม่มีความเสียสละ นั่นก็เป็นอีกกลุ่มที่อยู่ในข่ายดังกล่าว นี่คือตัวอย่างของสิ่งที่ผมมองว่าการเข้าสู่ภาวะวิกฤติ คนพวกนี้คือใคร คือสส.ที่แทนจำนวนประชาชนเป็นหมื่นในการออกกฎหมายในสภา คือเยาวชนที่ต่อไปคือหัวหน้าครอบครัว ชี้นำเยาวชนรุ่นต่อไป แค่นี้ สำหรับผม มัน"มากพอ" จะให้ผมมองว่าวิกฤติ แต่คุณ คุณบอกผมว่าให้หาหลักฐานว่า ประชาชน "ส่วนใหญ่" ที่คิดอย่างนี้ เพื่อสนับสนุนว่าต้องจำนวน "ส่วนใหญ่" จึงเข้าขั้นวิกฤติ คือมาเปลี่ยนแผนบุกอย่างนี้ ผมงงครับ หากเชื่อในหลักอย่างนั้น ผมบอกได้เลยว่าเลิกกังวลกับปัญหาผู้ก่อการร้ายเถอะครับ เพราะจำนวนคนที่หัวรุนแรงนั้นยังไม่ใช่ จำนวนประชากร ส่วนใหญ่ ของประชากรบนโลกนะครับ จากคุณ : ลูกไทย หลานไทย - [ 2 ก.พ. 49 14:24:07 ]

ความคิดเห็นที่ 63 จะลุยเข้ามาแรงๆก็ไม่โกรธเด้อ เจอกันในบอร์ดมานานแล้ว อิอิ จากคุณ : ลูกไทย หลานไทย - [ 2 ก.พ. 49 14:26:06 ]

ความคิดเห็นที่ 64 อีกอย่างผู้ที่มีความชอบธรรมในการเปลี่ยนผู้นำประเทศจริงๆก็คือประชาชนมิใช่ คณะอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้ง 19 ท่านนี้ จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ ------------------------------------- ถูกต้องเลยครับ...คนระดับอาจารย์ควรจะคิดได้... จากคุณ : TRAT - [ 2 ก.พ. 49 14:51:50 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เพิ่งรู้ว่างบวิจัย 4000 ล้านที่ได้รับการสนับสนุนจากสมัยที่ ปชป เป็นรัฐบาลโดนลดทอนเพราะไม่มีผลงานครับ จากคุณ : ยืมลอกอินมา (Vincent Van Gogh) - [ 2 ก.พ. 49 15:31:15 ]

ความคิดเห็นที่ 66 #62 บอกตรงๆนะคะคุณลูกไทยฯเรื่องคุกคามสื่อปิดกั้นสื่อนี่เอื้องไม่เชื่อหรอกค่ะที่ไม่เชื่อเพราะไ่ม่ใช่นึกคิดเอาเอง แต่กระแสทุกอย่างที่ออกมาไม่ว่าจะเป็นด้านลบหรืิอด้านบวกของรัฐบาลก็ล้วนรับรู้มาจากสื่อทั้งนั้น ที่สำคัญหากรัฐบาลปิดกั้นสื่อจริงหนังสือพิมพ์ผู้จัดการออนไลน์ที่โจมตีรัฐบาลหนักๆอยู่มาได้อย่างไร?,  Thaiinsider ขาประจำด่า-จัง-แก(ิขออภัยในคำไม่สุภาพค่ะ ..ตามเทรนด์จ้า ..อิอิ)  อีกเหมือนกันอยู่มาได้อย่างไร? นี่ Corruption watch เปิดใหม่สโลแกน สวยหรู “จับตากลโกง เปิดโปงคอร์รัปชั่น" แต่กลับเงียบกริบจับทุจริต "โครงการก่อสร้างของสำนักงานโยธา กทม.ที่มีงบประมาณสูงถึง 20,000 ล้านบาท" (ภายใต้การบริหารงานของพรรคประชาธิปัตย์) ไม่ไ้ด้เลย นี่ก็เพิ่งเปิดใหม่ถือว่าเป็นสื่อเหมือนกัน  ข้อกล่าวหาที่บอกว่ารัฐปิดกั้นสื่อนี่บอกตรงๆค่ะว่าเบื่อกับคำอ้างความเป็นอภิสิทธิ์ชนของสื่อฐานันดรสี่เหล่านี้จริงๆ . เห็นนสพ. ฝรั่งเศสที่ลงเรื่องหมิ่นอิสลามมั๊ยคะ? ตอนนี้ บก. ของนสพ. ฉบับนี้ถูกไล่ออกไปแล้ว ด้วยเหตุนี้สื่อมวลชนฐานันดรี่สี่ที่มี "เสรีภาพ" หากแต่ "ขาดจรรยาบรรณ" เสียแล้ว (ไม่รวมสื่อสารมวลชนที่ดีๆนะคะ) ก็สามารถกลายเป็นฆาตกรในสังคมได้ง่ายๆเหมือนกันนะคะ ส่วนเรื่องข้อหาว่าโกงนั้นเอื้องมีความคิดอย่างนี้ค่ะ อย่างแรกผู้ที่เรียกตัวเองว่าฝักไฝ่ในระบอบประชาธิปไตย ต้องตระหนักคือ เราอยู่ในสังคมที่มีกฏระเบียบแบบแผนวางไว้ใช่มั๊ยคะดังนั้น หากคุณลูกไทยฯมีพยานหลักฐานใดที่จะนำมาเสนอต่อสาธารณชนว่านายกฯทักษิณโกงถ้ามี ช่วยนำมาแสดงให้ประชาชนเห็นเลยค่ะจะได้ช่วยกันตรวจสอบ ไม่ใช่แต่จะเอาความรู้สึกของตัวเองมาตัดสินว่านายกฯทักษิณโกงโดยไม่มีพยานหลักฐานใดมายืนยัน อย่างนี้มันเล่ือนลอย ไม่มีน้ำหนักเลยค่ะ เอาอย่างนี้ คุณลูกไทยฯต้องการความเป็นธรรมใช่ไหมคะ? ถ้าคุณคิดอย่างนั้น เราลองมาสมมุติฐานกันอย่างนี้ได้ไหม ถ้าเอื้องจะกล่าวหาว่าคุณลูกไทยฯโกงบ้านโกงเมืองบ้าง โดยที่เอื้องก็ไม่มีหลักฐานใดมายืนยันเช่นกัน คุณจะรู้สึกอย่างไร? คุณยังต้องการความเป็นธรรมให้ตัวเองหรือไม่? ช่วยตอบเอื้องด้วยนะคะ ส่วนเรื่องการมีหลายก๊กหลายเหล่าในพรรคไทยรักไทยนั้นอันนี้เอื้องทราบดีค่ะและการโยกย้ายตัวของ สส. ข้ามพรรคนั้นเอื้องเห็นว่ามีกันเืกือบทุกพรรคค่ะ ไม่เว้นแม้แต่พรรคปชป. ของคุณลูกไทยฯ   เรื่องการย้ายพรรคของส.ส.พรรคทรท.ก็เหมือนกันเวลาที่ส.ส.พรรคทรท.ย้ายไปอยู่พรรคอื่นไม่เห็นมีใครว่าส.ส.พรรคทรท.กลุ่มนั้นถูกชื้อในทางกลับกันเวลา สส. พรรคอื่นมาอยู่ที่พรรคทรท.ก็บอกว่าส.ส. เหล่านั้นถูกซื้อตัวแต่เมื่อตอนที่พรรคประชาธิปัตย์ไปชักชวนส ส กลุ่มงูเห่ามาอยู่ด้วยก็กลับมีข้ออ้างว่าเพื่อความมั่นคงของรัฐบาลจึงนำมารวมกลุ่มด้วยไม่มีใครว่าสส. กลุ่มงูเห่าโดนซื้อตัวและที่สำคัญไม่มีหลักฐานออกมาให้เอาผิดด้วยซ้ำว่ามีการซื้อตัวกันจริงหรือไม่แล้วอย่างนี้จะมีน้ำหนักให้ประชาชนตาดำๆเชื่อได้อย่างไรล่ะคะ? นอกเสียจากมองว่าเป็นเกมส์ทางการเมืองเท่านั้น..และถ้าหากประชาชนเห็นว่าการซื้อขายตัวสส.เป็นสิ่งที่ไม่ชอบธรรมแล้วประชาชนก็คงไม่เลือกพรรคไทยรักไทยหรอกค่ะหรือหากคุณลูกไทยฯจะกล่าวว่าประชาชนต่างจังหวัดโดนพรรคไทยรักไทยซื้อนั่นก็มีสิทธิคิดได้ค่ะ แต่นี่ก็เห็นได้ชัดเจนว่าแม้แต่กรุงเทพมหานครซึ่งได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีการซื้อขายเสียงน้อยที่สุดประชากรเฉลี่ยส่วนใหญ่ที่เป็นตัวแทนของชนชั้นกลางและสูงมีการศึกษาอยู่ในระดับดีก็ยังคงเทเสียงให้ไทยรักไทยอยู่ดีนี่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าประชาชนทั่วประเทศส่วนใหญ่เค้่าพอใจและยอมรับในผลงานของนายกฯคนนี้ค่ะ การนำภาพความซื่อสัตย์มาขายให้กับประชาชนแต่ไม่มีผลงานที่ดีกว่านั้นประชาชนเค้าไม่เลือกหรอกค่ะเพราะโดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครเชื่อว่าจะมีนักการเมืองทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลที่มือสะอาดหมดจดทุกคน เอาเป็นว่าเอื้องชอบการทำงานของนายกฯคนนี้ค่ะและนโยบายโดยรวมของพรรคไทยรักไทยก็แล้วกัน...เรื่องมีหลายมุ้งในพรรคทรท. พรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคอื่นๆนั้นเอื้องก็ทราบค่ะ แต่คุณลูกไทยฯจะเชื่อเอื้องรึเปล่าคะว่านั่นเกิดจากระบบการปกครองประชาธิปไตยแบบตัวแทนส่วนหนึ่งเพราะถ้ามองในบริบทของระบอบประชาธิปไตยจะพบว่าประชาธิปไตยแบบตัวแทนที่ระบุว่าประชาชนใช้อำนาจประชาธิปไตยทางตรงเพียงหนึ่งครั้งเพื่อเลือกตั้งตัวแทนในสภาระดับต่างๆได้สมัยหนึ่งนั้นเอื้อโอกาสให้เกิดระบบชนชั้นในสังคมก่อให้เกิดปัญหาการปกครองหรือบริหารประเทศจากบนลงสู่ล่างขึ้นในบางประเทศ พูดง่ายๆก็คือระบบ Representative Democracy นี้เปิดโอกาสให้ข้อด้อยในโครงสร้างทางสังคมของบางประเทศถูกดึงนำมาใช้แสวงหาประโยชน์ได้ง่าย ประเทศไทยยังมีจุดอ่อนในโครงสร้างทางสังคมยกตัวอย่างเช่น สังคมของประเทศไทยจะเป็นสังคมแบบหลวม ๆไม่ผิดระเบียบกฎเกณฑ์ไม่มีการฝึกในส่วนตรงนี้ คนไทยเป็นคนง่าย ๆอย่างไรก็ได้ สังคมของประเทศไทยเป็นระบบอุปถัมภ์ คนไทยยังชอบการแต่งตั้งอยู่ชอบพรรคพวกกัน สังคมของประเทศไทยยังยึดติดระบบอาวุโส คนไทยยังมีระบบอาวุโส มีระบบผู้บังคับบัญชา หรือมีค่านิยมชอบคนมีบารมีมีอิทธิพล ชอบคนที่เด่นมีชื่อเสียงถ้าคนดังมีชื่อเสียงลงสมัครรับเลือกตั้งคนไทยจะชอบเลือกโดยไม่สนใจว่าเขาลงเพราะมีอุดมการณ์ทางการเมืองมีนโยบายหรือเปล่าเหล่านี้เป็นต้น..แต่ที่เอื้องกล่าวมาทั้งหมดนี่มิได้หมายความว่านี่คือตัวแทนโครงสร้างของสังคมไทยนะคะแต่นี่คือ"ข้อด้อย"ของสังคมบ้านเราค่ะและจริงๆแล้วไม่ใช่มีเฉพาะแต่ในประเทศไทยแต่ยังมีอีกในหลายประเทศทั่วโลก . Representative Democracyจึงเป็นตัวกระตุ้นก่อให้เกิดชนชั้นปกครองใหม่ได้แก่ชนชั้นผู้แทน ชนชั้นนักการเมือง หรือชนชั้นพรรคการเมืองขึ้น ซึ่งบุคคลเหล่านี้มีอภิสิทธิ์อันถูกต้องตามกฎหมายที่รองรับให้อยู่เหนือประชาชนและการทรงไว้ซึ่งอำนาจในการบริหารแต่หากประเทศใดที่สามารถขจัดข้อด้อยหรือมีข้อด้อยของโครงสร้างทางสังคมในส่วนตรงนี้น้อยแล้วก็จะไม่เกิดหรือเกิดปัญหาการปกครองหรือบริหารประเทศจากบนลงสู่ล่างน้อยค่ะ เพราะต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งว่่าใน"บริบท"ของประชาธิปไตยแบบตัวแทนนั้นจริงๆแล้วก็คือ การปกครองที่รวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลางหรือรัฐบาลกลางนั่นเอง"ประชาธิปไตยตัวแทน"จึงจำเป็นต้องพัฒนาให้เหมาะกับสภาพความเป็นจริงตามยุคสมัยและเงื่อนไข จึงจำเป็นต้องมีความคิดริเริ่มในการหารูปแบบการกระจายอำนาจไม่ว่าจะเป็นการบริหารเมืองใหญ่ในรูปแบบของมหานครหรือการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นตามลำดับ..ซึ่งพรรคไทยรักไทยก็มีนโยบายในเรื่องการการกระจายอำนาจในการปกครองตนเองตนเองในระดับท้องถิ่นของประชาชนนี้เช่นกัน จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ - [ 2 ก.พ. 49 15:38:35 ]

ความคิดเห็นที่ 67 "..แต่คุณ คุณบอกผมว่าให้หาหลักฐานว่า ประชาชน "ส่วนใหญ่" ที่คิดอย่างนี้ เพื่อสนับสนุนว่าต้องจำนวน "ส่วนใหญ่" จึงเข้าขั้นวิกฤติ คือมาเปลี่ยนแผนบุกอย่างนี้ ผมงงครับ.."   ที่ื้เอื้องพูดว่าให้คุณ หาหลักฐานว่า ประชาชน "ส่วนใหญ่" ที่คิดอย่างนี้ เพื่อสนับสนุนว่าต้องจำนวน "ส่วนใหญ่" จึงเข้าขั้นวิกฤตินั้นเอื้องมีเหตุผลดังนี้ค่ะ . อย่างแรกเลยทีเราควรเข้าใจก็คือว่า นายกฯทักษิณได้รับเลือกให้เข้ามาบริหารประเทศ โดยได้รับความยินยอมจากประชาชนตามหลักการเสียงข้างมาก และ อำนาจนี้ของนายกฯก็ถูกจำกัดด้วยกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่าเมื่อครบวาระ ๔ ปีแล้วก็ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ จะเห็นได้ว่าอำนาจการบริหารแผ่นดินของนายกฯทักษิณนั้นได้รับความยินยอมจากเสียงประชาชนส่วนใหญ่ดังนั้นผู้ที่มีความชอบธรรมในการเปลี่ยนผู้นำประเทศจริงๆก็คือประชาชนส่วนใหญ่มิใช่ คณะอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้ง 19 ท่านนี้หรือม็อบเสื้อเหลือง ดังนั้นเอื้องจึงอยากทราบว่าคุณลูกไทยฯทราบไ้ด้อย่างไรว่าประชาชนส่วนใหญ่เขาต้องการเปลี่ยนผู้นำรัฐนาวานี่คือ gist ค่ะ จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ - [ 2 ก.พ. 49 15:57:07 ]

ความคิดเห็นที่ 68 การชุมนุมโดยอาศัยสิทธิตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ มักจะอ้างความชอบธรรมโดยอาศัยการแสดงความคิดเห็นของประชาชนเพื่อแสดงเจตนาที่ไม่เข้าข่ายการหมิ่นประมาท แต่ถ้าหากการชุมนุมมีเจตนาแอบแฝงเป็นการปลุกระดม ส่งเสริมยุยงให้ประชาชนหลงเชื่อตามคำยุยงเพื่อมีเจตนาที่จะล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามครรลองในระบอบประชาธิปไตยตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้(ฉบับที่ 40) กรณีนี้จะเข้าข่ายเป็นการโค่นล้มประชาธิปไตยในระบอบรัฐสภา การล้มขบวนการทางรัฐสภา และเป็นการโค่นล้มกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อเจตนาจงใจไม่ดำเนินการตามกฎหมายที่จะขับรัฐบาลตามวิถีทางในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นกรณีดังกล่าวจะผิดกฎหมายอาญาหรือไม่ เนื่องจากการอ้างว่ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น ยังเป็นประเด็นการโจมตีจากฝ่ายคุณสนธิเพื่อชุมนุมหวังผล ประเด็นการกล่าวอ้างว่ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่นดังกล่าวมีข้อพิจารณาที่สมเหตุสมผล มีพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงมากน้อยเพียงใดในการสนับสนุนข้อกล่าวหาเรื่องทุจริตคอรัปชั่น ....การใช้สงครามการสื่อสาร เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศหลงเชื่อ มีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ ดังนั้นเหตุการณ์การชุมนุมในวันที่ 4 กุมภานี้ จึงมีที่มาแตกต่างจากเหตุจราจลทางการเมืองในประวัติศาสตร์ไทยนับตั้งแต่เหตุการณ์ 14 ตุลาคม เนื่องจากเหตุการณ์14 ตุลามีผลสืบเนื่องมาจากรัฐบาลเป็นรัฐบาลทที่ไม่มีความชอบธรรมที่มาจากทหารขาดความชอบธรรมทางการเมือง มิใช่มาจากฉันทามติจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน เหตุการณ์ 14 ตุลาจึงเป็นการชุมนุมที่รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องในสิทธิ เสรีภาพและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีเหตุผล แตกต่างจากการชุมนุมในวันที่ 4 กุมภานี้ ดังนั้นผู้ที่คิดจะไปร่วมชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยตามครรลองแห่งรัฐธรรมนูญน่าจะคิดใคร่ครวญให้ดีค่ะ จะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือของใครคนใดคนหนึ่งที่กำลังกล่าวอ้างว่าสถานะการณ์ของบ้านเมืองถึงขั้นวิกฤติแล้ว เพื่อจะกระทำการใดๆอันเป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญ อันเป็นการเข้าข่ายกบฎต่อประเทศชาติได้ จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ - [ 2 ก.พ. 49 16:09:47 ]

ความคิดเห็นที่ 69 อยากรวย "เสกดินให้เป็นทองได้" ถาม ดร. เปรตกู้" จริงมั้ยท่าน รศ.ดร.สุวินัย จากคุณ : meiyi - [ 2 ก.พ. 49 16:11:33 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ประเด็นก็คือ อาจารย์มหาวิทยาลับกลุ่มนี้ มีความชื่นชอบ และเกลียด พรรคการเมืองบางพรรค ถ้าทำเพื่อชาติ ก็ต้องมีความคงเส้นคงวา ในการวิพากษ์วิจารณ์ ไม่เลือกปฎิบัติ เมื่อเลือกปฏิบัติแล้วจะบอกว่าทำเพื่อชาติ ใครเขาจะยอมให้หลอกง่ายๆ จากคุณ : จิ๋ม นางเลิ้ง - [ 2 ก.พ. 49 16:20:01 ]

ความคิดเห็นที่ 71 แล้วนั่น หน้าที่อาจารย์ หรือ ครู เหรอครับ ถ้าเขาต้องการคำแนะนำจะไปปรึกษาเอง ถ้าเขาไม่ไปหา แปลว่า เข้าใจกว่า รู้กว่า เก่งกว่า และมีประโยชน์ มากกว่า ไม่ไป ใช่หรือเปล่าครับ ไม่ตั้งใจสอนศิษย์ให้มีคุณธรรม อนาคต.....หมดสิทธพูดเตือน จากคุณ : จะเป็นกลางแล้วเชียว (U STUDIO) - [ 2 ก.พ. 49 17:12:43 ]

ความคิดเห็นที่ 72 "....ดังนั้นเอื้องจึงอยากทราบว่าคุณลูกไทยฯทราบไ้ด้อย่างไรว่าประชาชนส่วนใหญ่เขาต้องการเปลี่ยนผู้นำรัฐนาวานี่คือ gist" คุณเอื้อง อย่าสับสนกับข้อความที่เราเพิ่งแลกเปลี่ยนกันครับ คุณลองดูอันนี้ครับ "และที่คุณบอกว่า" ไม่ใช่จากใคร จากประชาชนที่เริ่มคิดแบบนั้นน่ะครับ" คุณลูกไทยฯคะคุณรู้ได้อย่างไรว่า ประชาชนส่วนใหญ่ คิดแบบนั้น? ขอเน้นว่า "ส่วนใหญ่" นะคะคุณรู้ได้ อย่างไร? เห็นตามข่าวหรือนึกคิดเอาเอง " คนละเรื่องกันครับ ตอนที่เรากำลังมาถึงเสียงส่วนใหญ่ที่คุณอ้างให้ผมพิสูจน์ (ซึ่งผมบอกแล้วว่าคนละเรื่องกันเช่นกันที่จะวัดว่าสิ่งใดวิกฤติต้องมาจากจำนวนประชากรที่มากกว่า 50%) อย่ามาปะปนกับประโยคหลังของคุณว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการเปลี่ยนแปลง ฯลฯ ฯลฯ :) แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 49 17:28:51 จากคุณ : ลูกไทย หลานไทย - [ 2 ก.พ. 49 17:25:39 ]

ความคิดเห็นที่ 73 แต่เรื่องอื่นผมยังไม่สามารถค้านคุณได้นะครับ เพราะยังไม่มีเวลาอ่าน ขออภัยจริงๆ เพราะคุณก็ตั้งใจให้ความเห็นมา แต่ผม save ไว้นะครับ หากจะไม่รังเกียจรื้อฟื้นคุยกันในรอบหน้าก็ไม่เสียหลาย หรือจะมองว่าหลายคำถามผมตอบไม่ได้ก็ไม่เป็นไร คำนับโป๊กๆๆ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 49 17:37:37 จากคุณ : ลูกไทย หลานไทย - [ 2 ก.พ. 49 17:30:23 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ยังเปิดโหวตอยู่นะครับ.... จากคุณ : TRAT - [ 2 ก.พ. 49 18:23:55 ]

ความคิดเห็นที่ 75 นับถือคุณเอื้องจริงๆ....อธิบายได้เป็นชุด..อย่างไรก็ดี การชุมนุมนั้น แม้ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่หาได้มีอิสระเสรีในการให้ได้มาซึ่งอำนาจ ซึ่งมิใช่วิถีทางตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด... และผู้ชุมนุม หากมีเจตนาเกินจากการชุมนุมที่แสดงความเห็นตามสิทธิ...ก็มีกฎหมายอาญา หมวดว่าด้วยความมั่นคงของรัฐ ภายในราชอาณาจักรกำกับอยู่...ก็ต้องดูแลให้ดี...ไม่ให้เกิดเรื่องไม่ดี....เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ขึ้นมาแล้วจะโวยไม่ได้... จากคุณ : TRAT - [ 2 ก.พ. 49 18:29:20 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ถ้าไม่สุดทนจริง ๆ เขาไม่ออกมาทำอย่างนี้หรอก จากคุณ : O_envi - [ 2 ก.พ. 49 19:18:38 ]

ความคิดเห็นที่ 77 #72 5555+++ เอาเป็นว่า เอื้องอ่านที่คุณลูกไทยฯเขียนไม่เคลียร์ก็แล้วกันนะคะ คุณลููกไทยหลานไทยคะเอื้องกลับไปอ่านในคห.ที่ 52 คุณพูดว่า: "..จากคำถามคุณ บ้านเมืองอยู่ในขั้นวิกฤติแล้วหรือยัง? คำตอบของผมคือ ตอนนี้น่ะ วิกฤติครับ ไม่ใช่จากใคร จากประชาชนที่เริ่มคิดแบบนั้นน่ะครับ ตัวสำคัญเลย " เอื้องว่าส่วนหนึ่งที่เอื้องเข้าใจผิดเพราะคุณพูด ไม่เคลียร์ด้วยเพราะคุณใช้คำว่า "แบบนั้น" แทนคำว่า  "จากบางความเห็นของคนในนี้หากเขาโกงแต่ทำให้เขาเจริญ ก็ยังไม่เป็นไร" พูดให้เคลียร์ก็คือคุณคิดว่า "จากประชาชน (บางความเห็นของคนในนี้) ที่เริ่มคิดหากเขาโกงแต่ทำให้เขาเจริญ ก็ยังไม่เป็นไร" นี่คือความคิดของคุณที่บอกว่า "ประเทศชาติวิกฤตแล้วหากมีคนคิดแบบนี้"   เอื้องมีความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ดังนี้ค่ะคุณลูกไทยฯ เอื้องคิดว่ามันเป็นภาพที่คนไทยทั่วไปมองว่านักการเมืองไทยยังไงก็โกงมากกว่าไม่ว่าจะมาจาก"พรรคไทยรักไทย" หรือ "ประชาธิปัตย์" ไม่ได้บ่งบอกเฉพาะว่่าเป็นนักการเมืองจากพรรคไทยรักไทยแล้วต้องโกง  ดังนั้นหากจะบอกว่าบ้านเมืองวิกฤติแล้วนั้นการชี้นิ้วไปลงโทษเฉพาะผู้นิยมพรรคไทยรักไทยอย่างนี้ไม่แฟร์ ...แต่สิ่งที่ควรตระหนักคือเรื่อง "จิตสำนึกของคนไทยทุกคนในสังคมไทย" ให้มองเ็ห็นว่าไม่ควรมองการคอรัปชั่นของนักการเมืองและข้าราชการเป็นสิ่งที่เคยชิน ไม่ใช่แต่นักการเมืองนะคะต้องบอกว่ารวมข้าราชการด้วย การเมืองในต่างประเทศต่างกับการเมืองบ้านเราก็คือว่าประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินชะตากรรมของนักการเมืองที่ีมีพฤติกรรมฉ้อฉลเองค่ะใครที่มีพฤตกรรมโกงกินเ่ก่งก็จะหมดอนาคตไปเองเพราะประชาชนเค้่ารู้จักใช้สิทธิ์ของเค้าอย่างเต็มที่เมื่อถึงคราวเลือกตั้งนั่นคือไม่เลือกคนที่โกงกินกลับเข้ามาบริหารงานอีกเรียกว่าหมดอนาคตไปเลย  อย่าง"ผลการเลือกตั้งใหญ่ในแคนาดา" ที่ผ่านมาล่าสุดนั้น สตีเฟ่น ฮาเปอร์ ปัญญาชนอนุรักษ์นิยมจาก"พรรคอนุรักษ์นิยมแคนาดา"กลายเป็นนายกฯแคนาดาที่อายุน้อยที่สุดด้วยวัยเพียง 46 ปีค่ะ (แม้จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย) หลังจากที่เอาชนะพรรคลิเบอร์ัลแคนาดาของนายพอล มาร์ตินที่ปกครองแคนาดายาวนานมากว่า 13 ปีไปได้ ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากภาพ "Corruption Scandals" ของรัฐบาลนายพอล มาร์ตินเริ่มเผยออกมาให้เห็นค่ะจนถูกจับได้และจำนนด้วยหลักฐานเพราะรัฐบาลนำเงินจากกองทุนสำหรับ national unity program in Quebec ไปใช้ในทางที่ผิด และฝ่ายค้านของเค้าที่ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลนั้นก็มีหลักฐานชัดเจน่ค่ะไม่ใช่การกล่าวหาหรือตั้งข้อสังเกตุเอาเองแต่ไม่มีหลักฐานแล้วสรุปว่าเป็นข้อเท็จจริงอย่างนี้ไม่ใช่ค่ะ ...จะเห็นได้ว่าประชาชนเค้าถอดถอนลงโทษนักการเืมืองที่มีพฤติกรรมคอรัปชั่นด้วยวิีถีทางในระบอบประชาธิปไตยตามกรอบของกฏหมายรัฐธรรมนูญนั่นคือเมื่อครบวาระเลือกตั้งใหม่ก็ไม่เลือกคนที่โกงกินกลับเข้ามา แต่ไม่ใช่การระดมพลเดินขบวนล้มล้างรัฐบาล ล้มล้างรัฐธรรมนูญแบบที่บ้านเรากำลังทำอยู่นี้แน่นอน แต่จริงๆคำพูดที่คุณบอกมานั้นนี่มันก็ยังเป็นเพียงสมมติฐานนะคะเพราะ ใช้คำว่า "หากเขาโกง" ไม่ได้ใช้คำว่า "เขาโกงแต่ทำให้เขาเจริญ ก็ยังไม่เป็นไร"   แต่เอื้องคิดว่าบ้านเมืองจะวิกฤตเช่นกันหากพรรคที่ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลแต่กลับมองไม่เห็นว่าคนในสังกัดตัวโกง คนที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการความโปร่งใสของรัฐบาลมาเลือกปฏิบัติซะเองอย่างนี้ก็แย่ค่ะ ...อิอิ จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ - [ 2 ก.พ. 49 20:12:46 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เป็นระดับอาจารย์แล้ว ทำตัวปัญญาชนกว่านี้ไม่ได้หรือครับ? ต้องไปร่วมวง เฮโล ตะโกนไล่ออก ออกข่าวกันด้วยครับ?? มีการศึกษา สอนในม.ทีมีปรัชญาระบอบประชาธิปไตย รออีก 4 ปี เพื่อเลือกใหม่ทำไม่ได้เชียวหรือครับ? หากมีข้อมูล ทุจริตจริงโจ่งแจ้ง ทำตามกฎหมาย แจ้งข้อมูลฝ่ายค้าน ให้ทำหน้าที่ ไม่ได้หรือครับ? ต้องมาล้มกระดานกลางคัน ทั้งๆที่ประเทศกำลังฟื้น แล้วแผนรองรับล่ะครับ ริจะติจะติงจะค้าน  เสนอทางแก้ไขด้วยหรือยัง จะให้ใครเป็นนายกต่อ? หรือว่าต้องอภิสิทธิ์ หรือจะเอาสนธิ?? แล้วคนต่อไปบริหารไม่ถูกใจท่านอีก ก็จะเข้าชื่อ ใช้ตำแหน่ง รศ. อะไรต่างๆ ที่อ้างอิง ข้างล่างชื่อเหล่านี้อีกเหมือนเดิมด้วยรึเปล่าครับ? ไม่รอ4ปี รัฐธรรมนูญที่ประชาชนร่างกันมา ช่างหัวมันหรือครับ? ความจริง ไม่อยากให้ ใช้ชื่อตำแหน่ง มาอ้างอิงกันเลยถ้าจะแสดงความเห็นการเมืองใดๆ จะเสียความรู้สึกที่นักศึกษาบางคนจะเรียกตำแหน่งแบบนี้กับ อ.ที่เป็นกลางของ มหาลัยอื่นๆซะได้ อนึ่ง ทั้งวุฒิ กับชื่อ ที่แสดงกันแบบนี้ มันก็หากันไม่ยากหรอกครับที่จะรู้ว่า เขาเหล่านั้น ณ ตำแหน่งนั้นสังกัดสถาบันไหน ตอนนี้สอนกันอยู่ที่ไหน ในความเห็นผม ถ้าจะพูดในตำแหน่ง อาจารย์ก็ควรเป็นกลางทางการเมืองชี้ให้เห็นข้อดี ข้อเสียทุกๆอย่าง ให้นักศึกษา หรือสังคมไม่ใช่หรือครับ หากท่านจะฟันธง ยังไงก็มีสิทธิเสียงเดียว เท่ากันกับทุกคนตอนอยู่ในคูหาเลือกตั้งครับ!! นี่..นอนมาเอียงกะเท่เร่แบบนี้ โหนกระแสคนปลุกม๊อบกันแบบนี้ อาจารย์หวังดีกับสังคมจริงๆหรือครับ? ผมจะไม่ให้ลูกหลาน เคารพหรือเชื่อ อาจารย์ที่ไม่เป็นกลาง และมีใจอคติเด็ดขาด อีกอย่างหนึ่ง ก็ไม่เข้าใจสนธิ ที่ริจะฎีกา ถวายคืนอำนาจ... อำนาจเหล่านี้พระมหากษัตริย์ ท่านพระราชทานให้ประชาชนมาตั้งแต่ร.7 แล้วนะครับ! อำนาจประชาธิปไตย ที่ผ่านมาคนไทยก็ใช้กันครึ่งใบบ้างเต็มใบบ้าง นี่ยังคิดอะไรกันไป หากถวายฎีกาได้ แล้วหากพระองค์ท่านไม่เห็นด้วย ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ให้รอเลือกตั้งกันแบบเดิม แล้วสนธิจะทำยังไงต่อครับ?ต้องทำให้ได้ ปลุกปั่นกันต่อไป ต้องล้มให้ได้ตอนนี้  อย่างนั้นหรือครับ?? พระบรมราโชวาท 4 ธันวา ได้ฟังกันไปไม่ครบหรือไงครับ? แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 49 20:29:05 จากคุณ : นัยตาสองชั้น - [ 2 ก.พ. 49 20:26:41 ]

ความคิดเห็นที่ 79 "แต่สิ่งที่ควรตระหนักคือเรื่อง "จิตสำนึกของคนไทยทุกคนในสังคมไทย" ให้มองเ็ห็นว่าไม่ควรมองการคอรัปชั่นของนักการเมืองและข้าราชการเป็นสิ่งที่เคยชิน ไม่ใช่แต่นักการเมืองนะคะต้องบอกว่ารวมข้าราชการด้วย" แค่ประโยคนี้จากคุณก็ทำให้ผมสบายใจครับ ส่วนอย่างอื่น ก็มีหลายเรื่องที่ผมคิดว่าคำตอบน่าจะอยู่ที่อนาคตอันใกล้นี้ :) เฮ้อ แต่คำถามอันก่อนหน้าของคุณนั้นก็ยังไม่ได้ตอบคุณนะครับ ขอเวลาสักติ๊ดเถอะ จากคุณ : ลูกไทย หลานไทย - [ 2 ก.พ. 49 20:30:52 ]

ความคิดเห็นที่ 80 #79 คุณลูกไทยฯคะโดยส่ววนตัวเอื้องคิดว่าไม่มีใครเค้าสนับสนุนนักการเมืองที่โกงกินหรอกแต่เค้าไม่เห็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่สนับสนุนคำพูดของผู้ที่กล่าวหาว่าคนนู้นโกงคนนี้โกง เพราะใครๆก็พูดได้ ... คุณลูกไทยอย่าลืมประโยคนี้ของเอื้องด้วยนะคะ ... อิอิ "..และฝ่ายค้านของเค้าที่ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลนั้นก็มีหลักฐานชัดเจน่ค่ะไม่ใช่การกล่าวหาหรือตั้งข้อสังเกตุเอาเองแต่ไม่มีหลักฐานแล้วสรุปว่าเป็นข้อเท็จจริงอย่างนี้ไม่ใช่ค่ะ ...จะเห็นได้ว่าประชาชนเค้าถอดถอนลงโทษนักการเืมืองที่มีพฤติกรรมคอรัปชั่นด้วยวิีถีทางในระบอบประชาธิปไตยตามกรอบของกฏหมายรัฐธรรมนูญนั่นคือเมื่อครบวาระเลือกตั้งใหม่ก็ไม่เลือกคนที่โกงกินกลับเข้ามา แต่ไม่ใช่การระดมพลเดินขบวนล้มล้างรัฐบาล ล้มล้างรัฐธรรมนูญแบบที่บ้านเรากำลังทำอยู่นี้แน่นอน.. " เพราะประชาธิปไตยจะอยู่ได้ต้องช่วยกันรักษา กฎกติกาที่กำหนดในรัฐธรรมนูญจะต้องเคารพค่ะ จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ - [ 2 ก.พ. 49 20:53:00 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เอื้องเห็นด้วยกับคุณ TRAT ค่ะ... ประชาชนมีสิทธิแสดงความคิดเห็นขัดแย้ง  คัดค้าน ชุมนุมโดยสงบ มีสิทธิแสดงประชาพิจารณ์ รวมทั้งแสดงประชามติได้ซึ่งจะต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย  ทุกอย่างทำได้อย่างเสรีจริงแต่จะเห็นได้ว่าในขณะเดียวกันการกระทำดังกล่าวก็ต้องไม่ละเมิดกฏหมายด้วย จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ - [ 2 ก.พ. 49 21:00:58 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ... อาจารย์มหาลัยก็คนครับ มีกิเลสตัณหา และอคติครบถ้วน ... จากคุณ : nunimitr - [ 2 ก.พ. 49 21:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 83 สอนที่ใหนก็บอกที่นั่นผมไม่เห็นผิดตรงใหน เหมือนบอกบ้านเลขที่หรือสังกัดที่ทำงาน จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 3 ก.พ. 49 02:38:17 ]

ความคิดเห็นที่ 84 . จากคุณ : ทวีศักดิ์ - [ 3 ก.พ. 49 08:29:33 ]

ความคิดเห็นที่ 85 กว่าที่จะเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยได้ต้องผ่านการวัดมาตรฐานค่อนข้างสูงนะคะ  และขณะที่เป็นอาจารย์แล้วก็ต้องทำงานวิจัยตลอด  การศึกษาเป็นการเปิดมุมมอง  ทัศนคติ  และฐานข้อมูลของเรา  ทำให้เราสามารถวิเคราะห์ข้อเท็จจริงออกจากมายาคติได้ดีขึ้นค่ะ  ดังนั้นอาจารย์ย่อมจะวิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อเท็จจริงออกจากมายาคติได้ดีกว่าชาวบ้านรากหญ้า ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศอย่างแน่นอน  และอาจารย์ก็เป็นฝ่ายกลางๆ ที่ไม่ได้เสียผลประโยชน์หรือได้ผลประโยชน์อะไรจากการออกมาเคลื่อนไหว  ท่านอยู่เฉยๆ ของท่านก็ได้ปลอดภัย ไม่เสี่ยงดีด้วย แต่การที่ท่านออกมาน่าจะเป็นในฐานะของคนที่รู้เท่าทัน และอยากให้ประชาชนได้รับรู้ข้อเท็จจริงเหล่านี้ด้วยกัน เพราะที่ผ่านมาพวกเราได้รับข้อมูลเพียงด้านเดียวจากรัฐมามากพอแล้ว  การที่มีคนนำข้อมูลใหม่ๆ ออกมา หรือให้มุมมอง ความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป พวกเราน่าจะเป็นฝ่ายที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดค่ะ จากคุณ : นักศึกษา (~ipokokupi~) - [ 5 ก.พ. 49 14:33:49 ]

ความคิดเห็นที่ 86 "แต่ประชาชนทุกคนก็มีหัวโขนของตนเอง...หัวโขนในฐานะอาจารย์ (ข้าราชการ)มันควรจะถอดออก...แล้วเสนอในฐานะประชาชนทั่วไป" อาจารย์เขาก็ถอดหัวโขนออกแล้วนะครับ ยังจะมากล่าวหาอีก ไม่มีอ้างถึงคณะรัฐศาสตร์ จุฬา ไม่ลงตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น คุณ TRAT ครับ ที่คุณทำอย่างนี้ผมเรียกว่าแถครับ แถมยังไม่ได้อ่านให้ดีๆ ด้วย งานนี้เสียฟอร์มนะครับคุณ TRAT จากคุณ : Rapeman - [ 5 ก.พ. 49 16:40:06 ]