ความคิดเห็นที่ 19
สาระน่ารู้ > ตาบอดสี
แสงที่ตามนุษย์มองเห็นได้ คือ แสง(คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) ที่มีความยาวคลื่นในช่วง 400-700 นาโนเมตร เซลประสาทในจอรับภาพของลูกตาที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเห็นสี คือ cone cells หรือ cones ซึ่งมี 3 ชนิด ได้แก่ red, green และ blue cones แต่ละชนิดจะมีความไวต่อแสงความยาวคลื่นต่างกัน
การมองเห็นสีจะเกิดได้ในภาวะที่มีแสงสว่างหรือแสงแดด และจะไม่มีการมองเห็นสีในที่มืด สัดส่วนและการผสมผสานของแสงความยาวคลื่นต่างๆที่ไปกระตุ้น cones ทั้ง 3 ชนิดจะทำให้ผลรวมออกมาเป็นสีต่างๆที่เราเห็นได้มากมาย เช่น การเห็นสีเหลือง เกิดจากการผสมผสานของการกระตุ้น red และ green cones และบางส่วนของ blue cones
ตาบอดสี คือ ภาวะการมองเห็นสีผิดปกติ ส่วนใหญ่เป็นการบอดสีแต่กำเนิด พบได้ 8%ของเพศชาย และ 0.5%ของเพศหญิง เพราะเป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรมแบบลักษณะด้อยบนโครโมโซมเพศ ทำให้มี cones ไม่ครบ 3 ชนิด ส่วนใหญ่จะขาด red cones ทำให้แยกสีแดงจากสีเขียวไม่ได้ โดยความผิดปกติจะเกิดขึ้นกับตาทั้ง 2 ข้าง และแก้ไขไม่ได้ บางคนไม่มี cones เลย จะเห็นแต่ภาพขาวดำ
ตาบอดสีอาจเกิดจากโรคของประสาทตาก็ได้ เช่น ประสาทตาอักเสบ ประสาทตาถูกกดทับโดยเนื้องอก พวกนี้มักจะเห็นสีผิดปกติในตาข้างเดียว
นอกจากนี้ ยาบางชนิดอาจทำให้เห็นภาพสีผิดปกติได้ เช่น ยาไวอะกร้าเมื่อโรคหาย หรือ หยุดยาต้นเหตุ อาการมองเห็นสีผิดปกติจะหายได้
ผู้ที่ตาบอดสีอาจมีข้อจำกัดหรือถูกห้ามในการประกอบอาชีพบางอย่าง เช่น เภสัชกร นักเคมี วิศวกรไฟฟ้า นักบิน/ผู้ควบคุมการบิน คนขับรถไฟ คนทอผ้า/พรม ช่างฝีมือที่ต้องการแยกสี ช่างทีวีสี ตำรวจ เป็นต้น
ผู้ที่ต้องการตรวจการมองเห็นสีสามารถทดสอบ(โดยอ่านแผ่นภาพสี)ได้ที่ ห้องพยาบาล สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ลาดกระบัง
^ ^ ^ เห็นว่า ตาชดอยู่ใกล้ KMITL เลยเอามาให้อ่านอ่ะ ... อิ๊อิ๊
จากคุณ :
100600
- [
6 ก.พ. 49 13:06:09
]
|
|
|