จากการที่นายสนธิเป็นแกนนำการร่วมชุมนุมถวายฎีกาคืนพระราชอำนาจแก่นายหลวง นั้น จากการสังเกตุของผู้ร่วมชุมนุมได้พบว่า การชุมนุมของนายสนธินั้นมีอะไรมากว่าการจะทำเพียงแค่ถวายฎีกา เริ่มตั้งแต่นายสนธิขึ้นกล่าวปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลรวมไปถึงการโจมตีนายกฯทักษิณ ไม่ว่าเรื่องการทำงานหรือเรื่องส่วนตัว นายสนธิพยายามพูดโน้มน้าวจิตใจคนฟังให้มีความจงเกลียดจงชังนายกฯมากยิ่งขึ้น ร่วมไปถึงขั้นดึงเอาศูนย์รวมใจของคนทั้งชาติลงมาเป็นเครื่องมือ อีกทั้งยังใช้คำพูดที่รุนแรง หยาบคาย ปลุกระดมมวลชนให้โกรธแค้นนายกฯยิ่งขึ้นๆๆๆตามลำดับ จนกระทั้งนายสนธิคิดว่ากล่อมคนได้เต็มที่แล้วจึงเดินขบวนไปหาท่าน พลเอกเปรมฯ องคมนตรีเพื่อยื่นถวายฎีกา ตลอดเส้นทางที่เดินไปจะมีการพูดยั่วยุให้เกิดอารมณ์โกรธตลอดเวลา ซึ่งหากเจอการสกัดกั้นของตำรวจหรือเกิดมีม็อบชนม็อบ คนที่ร่วมชุมนุมก็พร้อมที่จะโต้ตอบด้วยความรุนแรงทันทีซึ่งเป็นความต้องการของสนธิอยู่แล้ว แต่โชคดีที่ท่างฝ่ายรัฐบาลเตรียมงานมาดี จึงไม่เป็นไปตามแผนที่นายสนธิต้องการซึ่งก่อให้เกิดความผิดหวังต่อนายสนธิเป็นอย่างมาก และท่านองคมนตรีก็ไม่ได้ออกมารับฎีกาของนายสนธิด้วยตัวเองเพราะท่านรู้ทันนายสนธิอยู่แล้วว จึวทำให้นายสนธิมีอาการโกรธเป็นอย่างมาก จึงต้องหาแนวทางใหม่เพื่อทำให้เกิดการนองเลือดให้ได้ โดยไม่สนใจว่าใครจะตายใครจะเดือดร้อนขอให้บรรลุเป็หมายก็พอ และแกนนำการชุมนุมจึงมีมติที่จะทำให้เหตุการณ์บานปลาย โดยการใช้ทหารเป็นเครื่องมือต่อไป นายสนธิจึงเริ่มปฎิบัติการด้วยการเขียนข้อความถึงผบ.ทบ.ขึ้นมาใหม่ชึ่งไม่มีอะไรเลยในเนื้อความ แต่เขียนขึ้นเป็นเครื่องมือนำทางเท่านั้น การประเมิณความรุนแรงของแกนนำคิดว่าถ้าใช้ทหารเป็นเครื่องมือจะได้ผลดีตามที่ต้องการ เพราะ หากม็อบเดินทางไปที่ค่ายทหาร.ซึ่งจะใช้วัยรุ่นเป็นแนวหน้า และพยายามยั่วยุให้ทหารหมดความอดทนหรือให้ทหารป้องกันไม่ให้ประชาชนบุกเข้าไปในค่ายซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้มันอ่อนไหวมากในความคิดของประชาชน และหากเป็นเช่นนั้นจริงคนก็จะร้องว่าทหารรังแกประชาชนและจะทำให้การขัดแย้งขยายวงกว้างออกไปอีกและจะต้องเกิดการเข่นฆ่าไทยด้วยกันอีกเป็นครั้งที่สาม แต่ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของพระสยามเทวาธิราช รวมไปถึงบุญบารมีของนายหลวง จึงไม่เกิดความเลวร้ายอย่างที่นายสนธิต้องการ และ มันทำให้นายสนธิมีความแค้นเพิ่มขึ้นไปอีก จึงต้องจัดการชุมนุมขึ้นอีกในวันที่ 11 กพ.49 เพื่อให้เกิดการนองเลือดให้ได้ จึงจะสาสมใจของนายสนธิ นายสนธิไม่เคยคิดเลยว่าการกระทำของตัวเองซึ่งสนองกิเลสตัณหาของตัวนายสนธิเองและยังเป็นการแก้แค้นส่วนตัวที่นายกฯกระทำต่อนายสนธิเอง มันจะมีผลเช่นไร คนร่วมชุมนุมจะตายก็ช่างหัวมัน ประเทศชาติจะพังทลายก็ช่างมัน เพราะตอนนี้นายสนธิรวยแล้ว จากการขาย วีดี+เสื้อ รวมไปถึงเงินสนับสนุนจากคนที่จ้องล้มรัฐบาลซึ่งมันมากพอที่จะทำให้นายสนธิไม่ต้องทำอะไรไปอีกทั้งชาติ ซึ่งจากการสังเกตุจึงต้องขอประณามการกระทำของนายสนธิ ว่าเป็นกบฎต่อแผ่นดิน ด้วยข้อหาบ่อนทำลายชาติ ยุยงเพื่อให้ก่อเกิดความว่นวาย และ ยุยงให้เกิดการเข่นฆ่าคนไทยด้วยกัน และขัดต่อพระบรมราโชวาทที่ทรงให้คนไทยปรองดองกัน นายกฯทักษิณท่านก็ถอยออกมาแล้ว แต่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ยังไม่ถอยและยิ่งถาโถมกำลังเข้าไปอีก แล้วประชาชนคนไทยคิดว่านาย สนธิควรจะยืนอยู่บนแผ่นดินไทยต่อไปอีกหรือไม่ ส่วนตัวผมมีความกังวลใจเป็นอย่างมาก หากนายกทักษิณหมดความอดทน ปล่อยให้ม็อบที่ศรัทธาในตัวนายกฯออกมาแสดงพลังกันบ้างมันจะเกิดอะไรขึ้น
แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 49 22:26:29
แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 49 17:20:44
จากคุณ :
เด็กบ้านหลวง
- [
7 ก.พ. 49 17:16:15
]