ครับ วันพระใหญ่ แบบนี้ ก็ต้องขอเสนอบทความของผมเองสักนิดเกี่ยวกับคำพังเพยโบราณที่ว่า " ไม่เห็นกระรอก อย่าโก่งหน้าไม้"
ความหมายก็อย่างที่ทราบกันดี คือ หากยังไม่สามารถเล็งเห็นผลเลิศได้ ก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ กระทำการใดๆลงไป แม้ว่า ท่านเองจะหิวโหย หรือมีความจำเป็นก็ตาม เพราะต่อให้กระทำลงไปแล้ว ผลที่ได้ มันไม่มีอะไรเกิด แถมอาจทำให้เราเหนื่อยไปเปล่าๆ
ก็ต้องยอมรับว่า รัฐนาวา ทักษิณ สองนี้ มีปัญหาต่อเนื่องมาจาก ทักษิณ หนึ่งตอนปลาย ในเรื่องความโปร่งใส ความชัดเจนในโครงการบางโครงการ
แต่ที่ผมเฝ้ามองดู แม้จะรู้สึกว่ามันผิดปกติ ก็จริง แต่เรื่องผิดปกติมากกว่านั้นคือ ระบบการตรวจสอบและการสืบสาวในเรื่องที่บอกว่าผิดปกติมากกว่า มันไม่ได้เดินหน้าไปแต่อย่างใด
อันที่จริง ผมมานั่งพิจารณาว่า เอ....การตรวจสอบนั้น มันไม่จำเป็นต้องพูดในสภานี่นา ในฐานะที่คนที่มีหน้าที่ตรวจสอบจะทำการตรวจสอบในเรื่องใดๆ ย่อมทำได้เช่นกันอยู่แล้ว เอกสารเอย หลักฐานเอย พยานบุคคลเอย สามารถเรียกมาดู สามารถสืบเสาะได้
...........หากพยายามรวบรวมให้ได้ชัดเจนเท่าไร ก็นำคดีขึ้นสู่ศาล เข้ากระบวนการยุติธรรมว่าไปตามกระบิลเมือง
แต่ไฉน ป่านนี้ จึงมีน้อยกว่าน้อยที่ยังไม่สามารถทำได้ เป็นเพียงคำกล่าว เป็นเพียงข้ออ้าง เท่านั้น
ปราศจากการสืบเสาะหามาเพื่อดำเนินคดีจริงจัง มันเป็นเพราะอะไร?กันแน่
หากพบว่ามันมีอะไรไม่ดี ก็ควรต้องสืบสาวเอาเรื่องหาหลักฐานมาเอาเรื่องแล้วดำเนินคดีไป มันก็เท่ากับทำหน้าที่สมบูรณ์แล้วนี่ครับ แต่หากมีแต่การกล่าวอ้าง และอ้างอยู่เช่นนั้น โดยไม่มีปัญญา ไม่มีการดำเนินการสืบเสาะหาหลักฐานใดๆ แม้จะเป็นเรื่องจริง ผมเห็นว่า แบบนั้น มันไร้ประโยชน์สิ้นดี
หันมามอง บ้านเมืองเวลานี้ .......
ผมเองนั้นก็รำคาญท่านผู้นำฯไม่น้อยเกี่ยวกับ บุคคลิกบางประการของท่าน โดยเฉพาะ การกล่าวคำพูดในที่สาธารณชน บ่อยครั้งที่ดูออกจะไม่เหมาะสมนักกับคำว่า คำกล่าวของผู้นำประเทศ แต่นั่นก็ยังไม่หนักหนาสาหัส เท่ากับ ทิฐิ
ผมเห็นว่าท่านผู้นำ หากลดทิฐิลงไปในหลายๆเรื่อง ท่านจะเป็นบุคคลที่ดูดีมากๆ ยิ่งเรื่องของคนข้างตัวท่านบางคน หากท่านไม่ปกป้องจนเกินงาม ไม่เอาใจจนเกินพอดี ท่านเองก็จะได้รับคะแนนจากประชาชนเพิ่มอีกไม่น้อยทีเดียว
ทุกรัฐบาลครับ ไม่เฉพาะรัฐบาลท่านนายกฯ ย่อมมีคนดีและไม่ดีแฝงอยู่ แต่นี่คือธรรมชาติของการเมือง ทุกแห่งในโลก เพียงแต่เมื่อพบว่าอะไรไม่ดี ก็พยามตัดมันทิ้งไปซะ หรือควบคุมมันซะ เรื่องเหล่านั้น ก็จะไม่รกหู รกตาประชาชนและไม่รกสมองท่านนายกฯอีกต่อไป
คำกล่าวอ้างต่างๆจากกลุ่มที่ไม่ชอบรัฐบาลนี้ ก็เป็นสิทธิอันชอบธรรมที่เขาจะพึงทำได้ ท่านนายกฯต้องสงบนิ่งและฟังเขาบ้าง
บางครั้ง ฝ่ายที่ตรงข้ามเรา หากมองให้ดี มันก็เสมือนกระจกเงาที่สะท้อนให้เราเห็นอะไรต่างๆได้ชัดเจนขี้น
ท่านนายกฯต้องรู้จักนำคำติ คำวิจารณ์ มาพิจารณาบ้างอย่างจริงใจ ท่านสามารถกรองได้ ว่าสิ่งไหนสามารถนำมันมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่าไปทิฐิ มากไปนัก
การรับฟังผู้อื่นนั้น บางคราวก็อาจทำให้หงุดหงิด หากคำกล่าวเหล่านั้น มันไม่จริง แต่ต่อให้ไม่จริง ท่านก็ควรกรองและพิจารณาว่า ควรทำอย่างไรให้เกิดความเข้าใจดี ไม่ใช่การตอบโต้ด้วยวิธีการเดียวกันกลับไป......
...........มันไม่มีอะไรดีขึ้นมา นอกจากความร้าวฉานที่เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เท่านั้น
การชี้แจงด้วยสติและไม่ใช่อารมณ์ เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนและผู้ที่ต่อต้าน เป็นทางเดียวที่ท่านนายกพึงกระทำครับ อย่าได้ไปให้คนรอบตัวท่านออกมาช่วยเหลือในแนวทางอื่นๆอันมีแต่เรื่องทำให้เกิดความแตกแยกจะเป็นการดีที่สุด
..........คนเป็นผู้นำ หากวางเฉยต่อครหา และใช้สติควบคุมสถานการณ์ ใช้ปัญญาค่อยๆชี้แจงทำความเข้าใจทีละน้อย ไม่ตอบโต้ด้วยถ้อยคำรุนแรง เสียดสี แต่ใช้คำพูดที่สุภาพถ่อมตน มีเมตตาแก่ผู้อื่นอย่างจริงใจ เยี่ยงนั้น ก็จะได้รับการยอมรับนับถือจากใจจริง
เคยมีคนกล่าวว่า หากมีใครก็ตามทำให้ศัตรูของตนเองยอมรับ และเข้าใจในที่สุดได้ คนผู้นั้นเป็นยอดคนครับท่านนายกฯ ผมมุ่งหวังเช่นนั้น
บ่อยครั้งที่คนข้างตัวท่าน ไม่ได้รักท่านอย่างที่ท่านเข้าใจ การปกป้องด้วนวิธีการแปลกๆของคนข้างตัวท่าน ทำให้ท่านเสื่อมเสียมากขึ้นด้วยซ้ำ บางคราวท่านต้องพิจารณาจุดนี้เช่นกัน
...ความรักของคนข้างตัวท่านอาจไม่ได้ทำให้ตาบอดอย่างเดียว แต่มันทำให้เขาเหล่านั้น ปากหมาไปด้วย
และนั่นย่อมทำให้ท่านเองเสื่อมเสียไปด้วย ไม่มีผลดีอย่างใด
คนพวกนี้ ไม่ได้รักท่านจริงครับ..........มันอ้างว่ารัก แต่มันทำลายท่านด้วยการกระทำที่บอกว่ารักท่านต่างหาก
คนที่ไม่ได้ถึงขนาดรักท่าน แต่ก็มีมุมมองที่ชอบท่านอยู่ในบางส่วน เขาติง เขาเตือนท่าน ท่านควรต้องฟังและคิดตามสักหน่อยครับ
ใครก็ตามรักท่านจริง ต้องทำให้คนอื่นรักท่านไปด้วย อย่าไปทำให้คนอื่นเขาเกลียดท่าน มันจึงจะถูก
ยิ่งหากรักท่านจริง ต้องพยายามทำตัวให้ศัตรูท่าน หรือคนที่เกลียดท่านเขาลดความเกลียดลงไป และหันมามองอย่างเป็นมิตรมากขึ้น
********
หลายคนในบ้านเมือง อยากให้แก้รัฐธรรมนูญ
ผมเห็นด้วย แต่จะแก้ได้ มันต้องเป็นไปตามกติกาบ้านเมือง ไม่ใช้ฉีกทิ้งแล้วเขียนใหม่ อันนี้ ไม่ดีแน่ครับ
หลายกลุ่มออกมาบอกว่า ไม่เอาท่านทักษิณ ท่านไม่ดี สารพัดจะหาคำมาบรรยาย
นี่แหละครับ คือการโก่งหน้าไม้ ทั้งที่ยังไม่เห็นกระรอก
หากท่านนายกทักษิณ ลาออกแล้วยุบสภาเลือกตั้งใหม่
ท่านคิดหรือยังว่า ใครจะชนะการเลือกตั้ง?
ท่านมีธงในความคิดแล้วหรือว่า รัฐบาลใหม่หน้าตาเป็นอย่างไร? รูปแบบไหน จะบริหารประเทศอย่างไร?
บางท่านบอกว่า ไม่สน ขอให้ทักษิณไปให้พ้นๆก็พอ
โอ.........นั่นนะโก่งหน้าไม้รอเก้อเลยครับ
กระรอกอยู่ไหน ก็ไม่รู้ จะมีกระรอกให้ยิงหรือเปล่าก็ไม่รู้
แถมหากไม่ใช่กระรอก แต่ดันเป็นเสือ หันกลับมาขย้ำคุณอีก จะทำอย่างไร?
นอกจาก โก่งหน้าไม้ทั้งที่ยังไม่เห็นกระรอกแล้ว ท่านอาจหนีเสือปะจรเข้เข้าด้วยเพราะท่านต่างๆ หลายท่าน ไม่มีธงในใจ...........ที่มองไกลพอในอนาคตข้างหน้านั่นเอง!!!!
บางคนกล่าวว่า ก็การตรวจสอบ การเอาเรื่องมันทำได้ไม่เต็มที่
ก็ต้องย้ำว่า การสืบหาหลักฐานทำได้เต็มที่แน่นอน แต่การเอาเรื่องในสภาอาจทำไม่ได้ แต่หากท่านมีหลักฐาน ทำไมต้องเอาเข้าสภา เอาไปที่ศาลครับ ดีกว่ากันแยะเลย
ส่วนบางเรื่อง มันทำในสภาเสียงไม่ถึงจริงๆ ในการเข้าไปตรวจสอบ
ผมก็หนุนให้แก้รัฐธรรมนูญตามกติกาครับ
แต่แก้แล้วก็ขอนิดนึงว่า ไม่ต้องมาพูดเรื่องเสียงอีก
เพราะไร?
ขึ้นชื่อว่า ระบบตรวจสอบ มันก็คือ การอุดช่องว่างระบบ และทำให้เกิดดุลย์แห่งอำนาจ
ดังนั้น เสียงไม่สำคัญ เท่าวัตถุประสงค์ของการมีฝ่ายค้าน
เมื่อเป็นเช่นนั้น เสียงไม่เกี่ยว แต่ขอให้มองที่วัตถุประสงค์ จะมีคนเดียวเสียงเดียว ก็สามารถทำได้ จะดีกว่าไปกำหนดเสียงว่าเท่านั้น เท่านี้ แบบนั้นมันยึดติดมากไปนะครับ
อยากให้มองและพิจารณาที่วัตถุประสงค์และจุดมุ่งหมายที่แท้จริงว่า ควรเป็นอย่างไร มากกว่า การมองไปที่จำนวนเสียงว่าควรเป็นเท่าไร?
.......มองให้เห็นกระรอกชัดๆก่อน ก็ไม่สายครับที่จะโก่งหน้าไม้
นั่นหมายความว่า ท่านควรตรองให้ดีในทุกเรื่องราว
คนทำผิด ก่อนจะตัดสินพิพากษา ก็ควรหาพยานหลักฐานมามัดให้แน่นก่อน แล้วดำเนินคดี
แต่หากคุณไม่หาหลักฐานแล้วพูดลอยๆทุกวัน นั่นเท่ากับเป็นการกล่าวหา นะครับ
ผมเห็นด้วยว่าต้องจัดการคนผิด คนไม่ดี
แต่ผมไม่เห็นด้วยสักนิดหากเรากล่าวห่ลอยๆโดยไร้หลักฐาน
และเรา "ไม่ใช่ผู้พิพากษา" ครับ
หากมีหลักฐาน ก็ต้องนำคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ให้ตุลาการอันเป็นอำนาจที่สามแห่งประเทศนี้ ดำเนินการ มันจึงจะถูกต้อง
กระรอกก็มองไม่เห็น ก็อย่าเพิ่งโก่งหน้าไม้กันเลย
รู้ได้อย่างไรว่า อาจมีคนที่เขาอยากยิงกระรอกเหมือนกัน แกล้งบอก หลอกให้เราโก่งหน้าไม้แทนจนเมื่อยมือ แต่ท้ายสุด เขาคนนั้น คนกลุ่มนั้น อาจยิงกระรอกไปกินซะเอง
ผมก็ได้แต่ฝากข้อคิดตามประสาสุราชนแบบผมให้ตรองกันลึกๆว่า หากบางท่านรวมทั้งผมด้วย เห็นจุดบอดในรัฐธรรมนูญ เราก็ควรแก้ไข ตามกติกาที่มี
บางท่านเห็นจุดไม่ดี ของรัฐบาล ก็ควรไปสืบเสาะหาหลักฐานมาดำเนินการตามขั้นตอนตามกฏหมายเสีย ดีกว่าพูดอย่างเดียว
บางท่านอยากให้ท่านนายกฯทักษิณ ออกจากตำแหน่ง อยากให้รัฐบาลนี้ไปให้พ้นตาซะ
แต่ยังมองไม่ออกเลยว่า อนาคตจะออกมาเป็นแบบไหน รัฐบาลใหม่หน้าตาอย่างไร ใครจะมาเป็นผู้นำรัฐนาวาลำใหม่
คิดให้รอบคอบสักนิด แล้วเดินไปตามกติกาที่เรามี เป็นทางออกที่ดีที่สุด
อยากย้ำอีกครั้งครับว่า
"ไม่เห็นกระรอก อย่าไปโก่งหน้าไม้"
เพราะท่านอาจต้องไปเสี่ยงกับคำว่า
"หนีเสือปะจรเข้"
พวกเราเป็นประชาชนครับ มองประโยชน์ของพวกเราให้ชัดๆก่อนดีกว่า อย่าหลง อย่าให้ใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น รัฐบาลนี้ หรือ ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลนี้ หลอกเราเป็นเครื่องมือทางการเมืองของเขาเลย
นายชด
หัวหน้าพรรคสุราชน
จากคุณ :
นายชด
- [
13 ก.พ. 49 16:34:18
]