CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    **(ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด)...ด่วน!! การเข้าชื่อของประชาชนที่ธรรมศาสตร์ กำลังกลายเป็นหนทางรอดของนายกไปแล้ว?**

    อืมม์..
    ต้องพลิกตำราใหม่หมดเลยครับ หลังจากได้ดูข่าวประจำวันแล้ว

    การที่กลุ่มพันธมิตรและพวกเราพากันไปลงชื่อที่ม.ธรรมศาสตร์เพื่อขับนายกทักษิณออกจากตำแหน่ง  กำลังจะกลายเป็น **หนทางรอดสุดท้าย** ให้นายกรัฐมนตรีได้ดำรงตำแหน่งต่อไปอีกระยะหนึ่งแล้ว

    คงไม่มีใครคาดคิดนะครับว่า เรื่องจะกลับกลายเป็นเช่นนี้ได้  แต่ผมมีเหตุผลในการอธิบายดังนี้ครับ  ติดตามและนึกภาพตามไปด้วยนะครับ

    ๑๓ กพ.๔๙
    --ขณะนี้ได้รายชื่อจากประชาชนมาแล้ว 11000 ชื่อ

    --นายธนาชัย สุนทรอนันตชัย นายกอมธ.ออกมาบอกว่า จะล่ารายชื่อให้ได้ครบ 50000ชื่อ ก่อนวันที่ 26กพ.ที่จะถึงนี้

    --นายกอมธ.ยังบอกว่า จะไม่ไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มผู้ชุมนุมในวันที่26 กพ.ที่สนามหลวง

    ................
    เกมพลิกมาอยู่ทางด้านรัฐบาลในทันที  เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นพอจะคาดคะเนได้ดังนี้

    ๑) ก่อนถึงวันที่ ๒๖ กพ.จะมีการเร่งเร้าให้เกิดกระแสชักชวนคนไปร่วมลงชื่อให้ทันกำหนดการชุมนุมใหญ่  วันท้ายๆ จะมีการเปิดให้ลงชื่อกันทั้งวัน  และจะครบจำนวน ๕ หมื่นชื่อได้ในที่สุด

    ๒) นายกอมธ.และคณะจะไปยื่นหนังสือพร้อมรายชื่อเพื่อขอถอดถอนนายกรัฐมนตรีผ่านประธานวุฒิสภา ก่อนถึงวันที่ ๒๖ กพ.

    ๓) รัฐบาลและประชาชนส่วนหนึ่งจะโหมกระพือข่าวให้การชุมนุมยุติ เพื่อรอฟังผลการประชุมพิจารณาถอดถอนในสภา เพื่อให้เป็นไปตามกติกาของรัฐธรรมนูญ

    ๔) ถ้านักศึกษาไม่ไปร่วมชุมนุมเพราะขัดกับหลักการที่นายกอมธ.แถลงเอาไว้  พลังนักศึกษาจะไม่เกิดขึ้น  พลังนักศึกษาเป็นพลังที่เป็นความหวังของมวลชน  เพราะเด็กเหล่านี้มีทั้งพลังกาย และอุดมการณ์แรงกล้าที่จะผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

    ลำพังนายสนธิ  ผู้นำแรงงาน และสว.ส่วนหนึ่ง นั่งประท้วงที่สนามหลวง ๒ วันก็หมดแรงแล้วครับ  ส่วนพนง.รัฐวิสาหกิจมีภารกิจต้องสลับกันทำงาน  ครูต้องสอนหนังสือ  ทำให้มองเห็นกว่า หลังวันที่ ๒๖ ไปแล้ว พลังประชาชนที่สนามหลวงจะอ่อนแอลงเรื่อยๆ

    ๕) ขณะเดียวกันก็จะมีการโหมกระแสว่า มีทางออกอยู่ที่สภา  ประชาชนส่วนหนึ่งจะไม่มาร่วมชุมนุมแล้ว เพราะคิดว่า ควรดำเนินการถอดถอนตามระบบรัฐสภาจะทำให้ประสบความสำเร็จอย่างมีเกียรติมากกว่า
    ดังนั้น..อย่าแปลกใจนะครับถ้าวันท้ายๆ ยังไม่ถึงห้าหมื่นชื่อ นายกจะแสดงความใจป้ำ ขอร้องให้ประชาชนไปเข้าชื่อถอดถอนตัวเอง (คล้ายๆ แสดงความจริงใจ)

    ๖) ประธานรัฐสภา นัดเปิดประชุมสมัยวิสามัญพิจารณาเรื่องนี้  ซึ่งจะทำให้อยู่ในช่วงปลายสมัยของสว.ชุดนี้พอดี

    ๗) เมื่อเข้าพิจารณาในสภาตามกำหนดการแล้ว ก็อภิปรายกันอย่างดุเดือดทั้งสองฝ่าย สองวันสองคืน ก่อนลงมติ

    ๘) ฝ่ายยื่นถอดถอนนายกพ่ายเสียงข้างมากไปตามระเบียบ  เพราะอย่าลืมนะครับ  นอกจาก ๓๗๗ เสียงในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว  ยังมีสว.กลุ่มรัฐบาลซึ่งเป็นเสียงข้างมากอยู่ในสภา
    ดังสังเกตได้จากมติยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เรื่องขัดรัฐธรรมนูญของนายก ของนายแก้วสรร อติโพธิ ปรากฏว่า มีสว.ร่วมลงชื่อเพียง ๒๗คนเท่านั้น

    โหวตอีกสิบชาติก็ไม่มีวันชนะครับ  เพราะเราได้เห็นมาแล้วทุกครั้งในการแต่งตั้งคณะกก.องค์กรอิสระที่ผ่านมาทุกชุด

    ๙) นายกรัฐมนตรีอ้างความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศต่อไปจากการได้รับความเห็นชอบจากเสียงส่วนใหญ่ในสภา

    ๑๐) ถึงเวลาที่จะต้องเตรียมเลือกตั้งสว.ชุดใหม่พอดี  รัฐบาลรับปากว่า จะดำเนินการให้สว.ชุดใหม่มีคุณภาพและคุณธรรมเป็นที่พึ่งของประชาชน

    ๑๑) ประชาชนทุกคนหันไปตั้งความหวังให้กับสว.ชุดใหม่ในการเลือกตั้งวันที่ ๑๙ เมย.ที่จะถึง

    ๑๒) พลังประชาชนทั้งหมดไม่มีทางปลุกระดมได้ขึ้นอีกต่อไปแล้ว  เพราะเวลานาทีทองได้ผ่านพ้นไปแล้ว

    ตั้งหน้าตั้งตารอคอยวิกฤติทักษิณรอบใหม่ในโอกาสต่อๆ ไป
    .........เอวังก็ด้วยประการฉะนี้..................


    ภาคผนวก..

    เท่าที่ติดตามข่าวมา..
    รัฐบาลนี้ยอมลงจากตำแหน่งในเวลานี้ไม่ได้เด็ดขาดครับ  ดังจะเห็นได้จากการนัดตีกอล์ฟกับผู้นำเหล่าทัพทั้งหมด เพื่อเช็คเสียงหนุนว่าจะไม่มีใครแตกแถว

    กระทรวงการคลังออกมาบอกในวันนี้ว่า..ยังไงๆ ก็ต้องแปรรูรัฐวิสาหกิจอีก ๔ แห่งให้ได้ภายในปีนี้ อันได้แก่ กฟผ.  กปน.  ทศท. และกสท.

    จำนวนเงินที่กระจายมีมูลค่านับล้านล้านบาทซึ่งจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด เพราะตรงนี้เป็นล็อคที่กำหนดไว้แล้วว่า ใครจะได้ส่วนแบ่งจากหุ้นที่กระจายให้บ้าง  ซึ่งแน่นอนที่สุด จับตาประเทศสิงคโปร์ให้ดีๆ นะครับ

    นอกจากนี้..
    เมกกะโปรเจ็ตเจ็ดแสนล้านที่ชักชวนต่างชาติมาลงทุนก็ได้เตรียมความพร้อมและก้อนเค้กไว้ให้ทุกคนแล้ว  อย่ากระพริบตานะครับ  จัดสรรเอาไว้แล้วเช่นกัน

    เปรยๆ ออกมาก่อนหน้าแล้วว่า จะเอาสินค้าเกษตรไปแลก

    นี่นับว่าพูดอย่างเกรงใจ  ความจริงน่าจะบอกเลยว่า เป็ฯสินค้าของซี พี  โดยรัฐบาลจะบอกว่า เราได้ประโยชน์ได้ขายสินค้า ไม่ต้องควักเงินส่วนหนึ่งออกไป

    ความจริงแล้วไม้นี้หลอกได้ไม่กี่คนหรอกครับ  เพราะการเอาไก่ซีพี ไปแลกรถไฟฟ้า แลกรถไฟรางคู่  ทางด่วน ฯลฯ  มันก็คือ การหาตลาดไก่และสินค้าเกษตรให้ซีพี ในระยะยาวหลายสิบปี

    การเอาไก่เอาสินค้าเกษตรซีพีไปแลกนี่ อย่าคิดว่า ไม่ใช้เงินภาษีนะครับ  เพราะรัฐบาลไทยก็ต้องควักเงินซื้อจากซีพีนั่นแหละโดยใช้เงินภาษีของประชาชน

    สุดท้ายของสุดท้ายก็มาลงที่เงินงบประมาณแผ่นดินอยู่ดี  กลายเป็นงบผูกพันระยะยาวกว่า ๒๐ปี  ต่อมาใครมาทำหน้าที่รัฐบาลต่อจากนายกทักษิณมีแต่หาเงินใช้หนี้ซีพี และต่างชาติครับ  จะเก็บภาษีเพิ่มขึ้นประชาชนก็คงด่ารัฐบาลนั้นแหลกลาญ  และถามหาว่า ทำไมสมัยทักษิณเขาไม่เก็บภาษีแพงเช่นนี้  แสดงว่า รัฐบาลใหม่บริหารเงินไม่เป็น

    เสร็จมันจนด้าย@!@

    จากคุณ : *bonny - [ 13 ก.พ. 49 20:37:45 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป