CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    คุณคิดว่าสว.ทำตัวเหมาะสมหรือไม่ที่ขู่ศาลรัฐธรรมนูญให้รับคำร้อง?

      เหมาะสมแล้ว (17 คน)
      ไม่เหมาะสม (53 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 70 คน

     24.29%
     75.71%


    27 ส.ว.บี้ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องคดีซุกหุ้นภาค 2 ขู่ไม่รับคำร้องถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตั้ง'กล้านรงค์' เป็นหัวหน้าทีม
             นายแก้วสรร อติโพธิ ส.ว.กรุงเทพฯ พร้อมด้วยนายพนัส ทัศนียานนท์ ส.ว.ตาก แถลงในฐานะตัวแทนคณะ 27 ส.ว.ที่เข้าชื่อร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยนายกรัฐมนตรีขาดคุณสมบัติตามมาตรา 209 ว่า ในการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 16 ก.พ. ศาลไม่มีสิทธิ์ที่จะไม่รับคดีที่พวกตนร้องเอาไว้พิจารณา
             นายพนัส กล่าวว่า ตามมาตรา 96 ที่เปิดให้ส.ว. 1 ใน 10 เข้าชื่อร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยศาลรัฐธรรมนูญจะต้องรับพิจารณาอย่างเดียว ไม่มีอำนาจในการไม่รับคำร้องเพราะในมาตราดังกล่าวเป็นเอกสิทธิ์ของส.ว.ในการเข้าชื่อผ่านประธานวุฒิสภา ซึ่งเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ เมื่อประธานส่งไปแล้วศาลก็มีหน้าที่วินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติหรือไม่เท่านั้น เมื่อวินิจฉัยประการใดแล้วก็ต้องแจ้งมายังประธานสภา การที่ศาลรัฐธรรมนูญอ้างข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับวิธีพิจารณาคดี ในข้อ 12 วรรค 2 นั้น ถือว่าเป็นข้อกำหนดที่เล็กกว่ารัฐธรรมนูญ ไม่สามารถนำมาอ้างได้
             “ถ้าศาลรัฐธรรมนูญยังดันทุรังไม่รับคำร้องจะถือว่าคำสั่งศาลไม่มีผลตามกฎหมาย และถ้าไม่ทำอะไรเลยถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และเป็นละเมิดสิทธิ์ของคณะ 27 ส.ว. ซึ่งจะทำให้พวกเราเป็นผู้เสียหายในทันที ดังนั้นหากเป็นเช่นนั้นเราจะหารือกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป” ส.ว.ตากกล่าว
             ผู้สื่อข่าวถามว่า มองการดำเนินการของศาลรัฐธรรมนูญอย่างไร นายพนัส กล่าวว่า ชอบกลคือถ้ายังดันทุรังเอาข้อกำหนด 12 วรรค 2 มาอ้าง จะถือว่าไม่ชอบมาพากล ตนไม่บังอาจไปดูหมิ่นว่าศาลอ่านรัฐธรรมนูญไม่ครบถ้วน แต่ถ้าท่านรู้ดีอยู่แล้วว่าข้อกฎหมายเป็นอย่างไร โดยเฉพาะมาตรา 96 ที่เกี่ยวข้องกับการยื่นดังกล่าว ทุกท่านก็คงอ่านอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว
             นอกจากนี้เมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องเอาไว้พิจารณาแล้ว คณะ 27 ส.ว. จะมาพิจารณาอีกครั้งว่าจะมีการยื่นคำร้องคัดค้านตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใดหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาในการพิจารณาคดีซุกหุ้นภาค 1 ของพ.ต.ท.ทักษิณมีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่เคยพิจารณาคดีดังกล่าวโดยอ้างหลักรัฐศาสตร์พิจารณาให้นายกฯพ้นคดี ยังคงเป็นตุลาการอยู่ปัจจุบัน ซึ่งหลักรัฐศาสตร์สามารถอ้างได้ แต่ต้องอ้างภายใต้หลักกฎหมายรัฐธรรมนูญคือกติกา
             นายแก้วสรร กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่วินิจฉัยตามหน้าที่ในรัฐธรรมนูญ ต้องเปิดกระบวนการพิจารณาไต่สวน ถ้าศาลบอกว่าหลักฐานไม่พอก็มีหน้าที่หาความจริง โดยต้องเรียก 27 ส.ว.ไปให้ปากคำ ถ้าต้องการพยานเพิ่มก็สามารถเรียกนายกรัฐมนตรี บริษัทชินคอร์ปฯ ไปถามว่าเงินปันผลจากแอมเพิลริช ไปจ่ายให้ใคร เรียกลูกน้องของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เช่นน.ส.กาญนาภา หงษ์เหิน และน.ส.ปราณี มาถามว่าใครเป็นไอ้โม่งสั่งการให้ขายชินคอร์ปฯ ซึ่งมาตรา 265 ให้เครื่องมือกับศาลเอาไว้พร้อมและคดีนี้ก็เป็นคดีตามรัฐธรรมนูญ จะอ้างข้อกำหนดศาลดำเนินการเหมือนคดีทั่วไปไม่ได้
             “ขณะนี้เราเตรียมผู้แทนทางกฎหมายเอาไว้แล้ว โดยมีนายกล้านรงค์ จันทิก อดีตเลขาธิการปปช. เป็นหัวหน้าคณะ ถ้าศาลรับคำร้อง นายกล้านรงค์ ก็จะเป็นนักกฎหมายที่ดำเนินการในคดีนี้ แต่ถ้าศาลไม่รับ นายกล้านรงค์ ก็จะมีหน้าที่ดำเนินการในศาลอื่นแทน” นายแก้วสรร กล่าว

    ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com

    จากคุณ : <_Eminem_> - [ 15 ก.พ. 49 21:48:54 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป