ตอนที่๑..
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4100709/P4100709.html
ตอนที่๒..
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4101737/P4101737.html
ตอนที่๓..
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4104268/P4104268.html
ตอนที่๔..
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4107267/P4107267.html
.........................................
๕) คำสั่งฆ่าประชาชน(ผู้บริสุทธิ์)
เมื่อปี ๒๕๔๕ รัฐบาลทักษิณ๑ มีนโยบายทำสงครามกวาดล้างยาเสพติด โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ "อย่างเข้มงวด" เพื่อกำจัดยาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย มาตรการดังกล่าวถูกนำมาใช้ในช่วงเดือน กพ.-เมย. ให้เวลาทุกจังหวัดสร้างผลงานปราบผู้ค้ายาเสพติด โดยกำหนดเป้าหมายเป็น "จำนวนตัวเลข" ที่ต้องทำให้บรรลุ จังหวัดไหนทำตัวเลขไม่ถึงเป้าหมาย ก็จะต้องถูกพิจารณาโทษ
ประเทศไทยยังมีบทลงโทษให้ประหารชีวิตได้อยู่ ตามกม.มาตรา ๓๑ ในรธน.ปัจจุบัน..
"บุคคลย่อมมีสิทธิเสรีภาพในร่างกาย การทรมาน ทารุณกรรมด้วยวิธีโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม กระทำมิได้ แต่การลงโทษด้วยวิธีประหารชีวิตตามที่กฎหมายบัญญัติ ไม่ถือว่า เป็นการโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม ตามวรรคนี้"
นั่นก็คือ ฆ่าได้ หยามไม่ได้ นั่นเอง
ท่านทราบหรือไม่ครับว่า ตั้งแต่เรามีกฎหมายลงโทษประหารชีวิตเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน มีการลงโทษด้วยการประหารชีวิต ไปเพียง ๓๒๓ ราย ตั้งแต่ปี ๒๔๗๗-๒๕๔๖
(โทษประหารชีวิตในไทย โดย..สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน และ สหพันธ์สิทธิมนุษยชนสากล กค.๒๕๔๘)
แต่อะไรกันครับ เฉพาะช่วงสามเดือนที่มีคำสั่งจากผู้นำรัฐบาลผ่านมาทางกท.มหาดไทย มีการฆ่ากันตายโดยอ้างว่า วิสามัญผู้ค้ายา และ ผู้ค้ายาฆ่าตัดตอนกันเอง เกือบ ๓,๐๐๐ ศพ
มีเสียงสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมาก เห็นด้วยกับมาตรการนี้ จนนำไปสู่การประกาศชัยชนะสงครามยาเสพติด เมื่อวันที่ ๔ ธค.๒๕๔๕ โดยนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร
ต่อไปนี้ เป็นการตัดถ้อยคำ บทความ มาประกอบการพิจารณานะครับ
"คนที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการฆ่าตัดตอนนี้ ก็คงมีแต่พวกชีวทรรศน์ ที่เป็นแนวพุทธเท่านั้น
แต่ในสังคมที่กึ่งไทยกึ่งฝรั่ง ก็คงเห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการสมครแล้ว" (นิธิ เอี่ยมศรีวงศ์ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน)
...................................
ยิ่งมาได้ฟังข่าวที่นายกรัฐมนตรีสั่งให้กำจัดปัญหายาบ้าให้เสร็จภายในสามเดือน เริ่มจากวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ก็ทำให้รู้สึกกังวลว่าอำนาจมือ ศาลเตี้ยกำลังจะกลับมาถ้าไม่มีระบบตรวจสอบ
เมื่อมาถึงเวรหมออีกครั้ง โอกาสในการพิสูจน์ก็มาถึง เพราะช่วงหัวค่ำมีโทรศัพท์ถามว่ามีคดีฆาตกรรมในท้องที่เดิม เวลาเดิม คราวนี้ผู้แจ้งถามว่าคุณหมออะไรจะไปตรวจ ลูกน้องก็บอกไปว่าเวรหมอพรทิพย์
หมอได้ฟังก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยว่าถามชื่อหมอทำไม คราวนี้ก็เลยเริ่มระวัง เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุอยู่ในท้องที่เดิมอยู่สุดซอยออกไปกลางทุ่งนา ที่เกิดเหตุมีสภาพมืดมาก มีรถตำรวจ รถมูลนิธิ รถผู้สื่อข่าวจอดอยู่หลายคัน
เมื่อเดินไปถึงมีป้ายหมายเลข 1 วางอยู่ที่ศพ ตอนแรกก็นึกว่าเป็นเจ้าหน้าที่วิทยาการมาทำงานแล้ว ปรากฏว่าไม่ใช่ เลข 1 หมายถึงศพที่หนึ่ง คดีนี้มีสองศพ
ถามข้อมูลจากตำรวจก็ได้ทราบว่าเป็นคดีฆาตกรรมไม่รู้ใครยิง หมอเองก็รู้สึกแปลกใจว่าถ้าเป็นคดีฆาตกรรมทำไมไม่ตามเจ้าหน้าที่วิทยาการมาเก็บหลักฐาน หรือหาร่องรอยผู้กระทำผิด
ศพแรกอยู่ในสภาพนอนควำ มือไขว้หลังคล้ายถูกใส่กุญแจมือ ที่หัวมีรูถูกยิงที่ท้ายทอย แต่แปลกที่มีสมองไหลออกจากรูเข้าของกระสุน คราบเลือดที่พื้นก็มีสองขยัก
ลักษณะแบบนี้แสดงว่ามีการเคลื่อนย้ายศพแน่นอน
เมื่อตรวจดูเสื้อผ้าก็พบว่าที่กระเป๋าด้านหลังของกางเกงมีผ้าโพกหัวยัดไว้บางส่วน สภาพเช่นนี้มีใครดึงออกแล้วใส่เข้าไปในกระเป๋า เมื่อล่วงไปที่ก้นกระเป๋าก็พบซองยาบ้าสีฟ้า หมอยังไม่ทันได้นับก็มีคนรายงานว่ามียาบ้า 200 เม็ด รู้ได้ยังไง
ค้นตามตัวจึงพบว่าเขาเป็นผู้ต้องขังที่ถูกกักขังแทนค่าปรับในคดียาเสพติด ซึ่งเพิ่งจะพ้นโทษออกมาวันที่ถูกยิงนี้แหละ เขาถูกยิงจากด้านหลัง บนลงล่าง กระสุนทะลุ หมอมองไม่เห็นอะไรเลย เพราะมันมืดมาก อย่างนี้จะเอาหลักฐานอะไรไปมัดคนยิง เพราะไม่ได้มีความพยายามหาหัวกระสุนกันเลย
เห็นแล้วนึกถึงคดีสุพจน์ พูลสวัสดิ์ ที่ถูกฆ่าที่อ่างทองแต่มาจัดฉากเป็นวิสามัญที่นนทบุรี เพราะไม่มีการเก็บหลักฐานหรือตรวจไม่พบหัวกระสุนก็ไม่รู้ เมื่อไม่มีหัวกระสุนก็ไม่สามารถพิสูจน์ว่าใครยิงได้
อีกศพก็ไม่ตางจากศพแรกนอนตายในสภาพคว่ำหน้าถูกยิงจากหลังมาหน้า บนลงล่าง แต่รายนี้นุ่งกางเกงชาวเล มีซองยาบ้าเหน็บไว้ที่เอวทั้งๆ ที่ดูแล้วไม่น่าใช่ที่เก็บยาบ้าเลย ที่สำคัญเขาเป็นคนที่เพิ่งถูกปล่อยตัวจากการกักขังแทนค่าปรับสองวันก่อนตาย
ศพทั้งสองมีประเด็นมากมายที่สังคมต้องติดตาม เขาทั้งสองเป็นผู้ต้องขังแทนค่าปรับ แสดงว่าโทษของเขาไม่มากหากเขาเกี่ยวข้องกับกระบวนการยาเสพติดก็น่าจะเป็นผู้เสพหรือมียาไม่มากไม่ใช่รายใหญ่ ความตายของเขาดูจะไม่ตรงไปตรงมา
ยิ่งหมอมาเจอประเด็นว่าซองยาบ้าน่าจะไม่ได้มีมาตั้งแต่เดิม แถมยังไม่ได้นับจำนวนยาบ้าเลย ทำไมถึงรู้ได้ว่ามียาบ้า 200 เม็ด
การเก็บรวบรวมหลักฐานก็ดูจะละเว้นกันไปเลยทำให้หมอยิ่งเชื่อว่านี่อาจเป็นวิสามัญนอกรอบ ถ้าเป็นคดีฆาตกรรมแต่ไม่มีการเก็บหลักฐานเลย ไม่หากระสุน แล้วจะจับผู้ร้ายได้อย่างไร
(ตอนหนึ่งในบทความของพญ.พรทิพย์ โรจนสุนันท์)
.............................................
แต่ที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งกันอย่างมาก จนกระทั่งองค์กรอิสระหลายแห่ง เช่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เข้ามาเกี่ยวข้อง และเกิดการโต้เถียงกัน เมื่อนักข่าวไปถามท่านนายกฯว่า สำนักงานข้าหลวงใหญ่ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน จะเข้ามาตรวจสอบปัญหาสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ท่านนายกรัฐมนตรีก็เลยหมดความอดทน กล่าวตอบไปว่า "ยูเอ็นไม่ใช่พ่อผม" กลายเป็นเรื่องใหญ่ จนนายกรัฐมนตรีจะจัดระเบียบการสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรีขึ้นใหม่ เพราะที่ท่านนายกฯ หลุดปากออกไปเป็นคำพูดที่ค่อนข้างแรงและเป็นข่าวไปทั่วโลก ดีไม่มีประเทศต่างๆ ที่จ้องจะเล่นงานทางการค้ากับเรา จะยกเอาเรื่องดังกล่าวเป็นเครื่องมือโจมตีเล่นงานทางการค้า และการเงินกับประเทศของเรา หรือไม่ก็อาจจะถือโอกาสโจมตีบ้านเมืองของเราโดยเปล่าประโยชน์
(ตอนหนึ่งในบทความของ ดร.วีรพงศ์ รามางกูร ประชาชาติธุรกิจ)
................................
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯเผยแพร่รายงานด้านสิทธิมนุษยชนประจำปี 2003 วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลไทยกรณีสงครามปราบปราม ยาเสพติดอันนำไปสู่คดีฆาตกรรม ผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจำนวนกว่า 2,000 ราย ในช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย.ปีที่แล้ว แม้ว่ารัฐบาลไทยได้ชี้แจงว่าคดีฆาตกรรมในช่วงเวลา 3 เดือนดังกล่าว จำนวน 2,598 คดี เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 1,383 คดี และคนร้ายถูกตำรวจยิงตายแค่ 42 คดี ส่วนที่เหลือรัฐบาลไม่สามารถติดตามสอบสวนได้กระจ่างชัด อ้างว่าผู้ต้องสงสัยถ้าไม่ ฆ่าตัวตายก็ถูกฆ่าโดยสมาชิกแก๊งค้ายาเสพติดด้วยกันเอง ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ ของไทยแถลงโต้รายงานดังกล่าวอาจกระทบถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ
(ไทยรัฐ)
............................................
จากคุณ :
*bonny
- [
16 ก.พ. 49 09:37:25
]