สื่อทีวีร่อนหนังสือร้องสมาคมฯทำข่าวม็อบ"สนธิ"ถูกผู้ชุมนุมคุกคาม พูดจาหยาบคาย ยันทำหน้าเป็นกลาง วอนปกป้องวิชาชีพพร้อมหามาตรการดูแล
(15กพ.) นายนิมิต สุขประเสริฐ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ไอทีวี นายชรัช จรรยา ช่างภาพสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 น.ส.รุ่งฟ้า ทรัพย์พร้อม ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 ได้ทำหนังสือถึงนายกสมาคมนักข่าววิทยุโทรทัศน์ไทยและนายกสมาคมช่างภาพผู้สื่อข่าวโทรทัศน์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เรื่องผลกระทบจากการนำเสนอข่าว การชุมนุมของกลุ่มประชาชนที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยมีใจความว่า
เนื่องจากสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มประชาชน ที่นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ทีมข่าวสถานีโทรทัศน์ ช่องต่างๆที่ได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติงานภาคสนามบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ได้รับผลกระทบจากกลุ่มผู้ชุมนุมบางคน ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งหลายคนถูกข่มขู่จะทำร้าย และใช้คำพูดไม่สุภาพ รวมทั้งแสดงกริยาท่าทางในลักษณะที่ยั่วยุให้เกิดความรุนแรง อาทิ
นายสมโภช โตรักษา ผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ถูกล้อมรุมด่า และใช้มือปัดไมโครโฟน ขณะรายงานสด
นายชรัช จรรยา ช่างภาพสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ถูกถีบ จนกล้องล้มลงได้รับความเสียหาย
นายบุญเชิด หาญขุนทด และนายธีรพงศ์ จำนงค์พันธุ์ ช่างภาพสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ถูกผลักอก ตบหัว และพูดจาข่มขู่ทำร้าย
นายอาธิต พันธุ์ปิยะสิริ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 โดนล้อมด่าและถูกทำร้าย
นายอดุลย์ พรหมอ่อน ช่างภาพสถานีโทรทัศน์ ไอทีวี ไม่ให้เข้าไปถ่ายภาพใกล้นายสนธิ และถูกพูดจาเสียดสีว่า ถ่ายไปไม่ได้ออก
น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้ประกาศข่าว สถานีโทรทัศน์ไอทีวี ถูกล้อมด่า และชี้หน้าด่า ด้วยถ้อยคำรุนแรง เช่น เลว
น.ส.รุ่งฟ้า ทรัพย์พร้อม ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 ถูกรุมด่า และแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว
จากพฤติกรรมดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความไม่ปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้บังคับบัญชาแต่ละสถานีมอบหมายให้รายงานสถานการณ์และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งยืนยันว่า ทางทีมข่าวโทรทัศน์ทุกช่อง ได้รายงานข่าวไปตามข้อเท็จจริง ตามแต่เวลาและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วง แต่มีการหยิบยกในบางประเด็นที่มีการนำเสนอข่าวมาพูดในเวทีปราศัยในลักษณะยั่วยุให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจผิด และปลุกระดมให้เกลียดชังสื่อมวลชน ทั้งที่ไม่มีมูลความจริง เช่น
กรณีนายสนธิปราศรัย ระบุสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ปล่อยข่าวว่าเขาหนีไปต่างประเทศ ทั้งที่ข้อเท็จจริงเป็นการรายงานข่าวที่กลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่ขอเข้าพบนายสนธิ แต่ทางผู้บริหารเครือผู้จัดการปฏิเสธให้เข้าพบ โดยแจ้งว่านายสนธิไปต่างประเทศ ซึ่งประเด็นดังกล่าวนายสนธิได้หยิบบางช่วงที่รายงานข่าว ไปพูดบนเวทีว่าเป็นการปล่อยข่าวโจมตีเขา จนกลุ่มผู้ฟังไม่พอใจและเดินมาต่อว่า ทีมข่าวด้วยถ้อยคำรุนแรงจนถึงรถถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ไอทีวี
หรือการกล่าวหาสื่อโทรทัศน์ทุกช่องวางตัวไม่เป็นกลาง ไม่นำเสนอข่าวการชุมนุมในวันที่ 4 กุมภาพันธ์เลย ทั้งที่ข้อเท็จจริงแต่ละช่องมีการนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง ตามแต่ละช่วงเวลาของสถานี
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมบางคนยังไม่พอใจหากมีการนำคำชี้แจงของฝ่ายรัฐบาล มารายงานร่วมกับข้อกล่าวหาของผู้ปราศัยบนเวที ทั้งที่เป็นหลักการรายงานข่าวทั่วไปที่ต้องนำเสนอข้อมูลทั้งสองด้าน รวมทั้ง การนำเสนอข่าวเรื่องจำนวนผู้ชุมนุมก็สร้างความไม่พอใจให้กลุ่มผู้ชุมนุมบางคนตลอดเวลา แม้ว่า ได้รายงานไปตามข้อเท็จจริงแต่ละช่วงเวลา เช่นกรณีโทรทัศน์ช่อง 7 รายงานข่าวว่ามีผู้ชุมนุมหลายหมื่นคน แต่ผู้ชุมนุมบางคนที่มายืนฟังไม่พอใจและพยายามข่มขู่ให้รายงานว่ามีผู้มาร่วมชุมนุมมากกว่า 1 แสนคน
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยในการทำหน้าที่ ทางทีมข่าวก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลและหวังว่า ทางสมาคมจะให้ความเป็นธรรม
จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทีมข่าวหลายคนยอมรับว่ารู้สึกท้อใจ ที่การทำหน้าที่ของสื่อมวลชนถูกหยิบยกไปประเด็นกล่าวหาทางการเมือง ทั้ง ๆ ที่ทีมข่าวทุกคนได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลางตามจรรยาบรรณของวิชาชีพสื่อมวลชน รวมทั้งยังมีความรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินหากต้องไปปฏิบัติงานภาคสนามในพื้นที่ ซึ่งหวังว่าทางสมาคมฯ คงจะมีมาตรการดูแลเพื่อปกป้องวิชาชีพสื่อมวลชนด้วยกัน
ที่มาจากหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก
จากคุณ :
น้าจ๊ะ
- [
16 ก.พ. 49 09:45:44
]