ความคิดเห็นที่ 1 กฎหมายออกใหม่   ก็เลยลองใช้ดูมั๊ง แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 49 20:15:05 จากคุณ : ฉ่ำ - [ 17 ก.พ. 49 20:12:22 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ลูกชายบอกไว้ชัดๆแล้วว่า "  แล้วแต่คุณพ่อ " ความหมายชัดแจ๋วไม่ต้องการคำอธิบายแล้วไม่ไช่หรือ  ท่านสาธุชนทั้งหลาย จากคุณ : ทางผ่าน (วอน) - [ 17 ก.พ. 49 20:13:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คคห ๒ เขาบอก "แล้วแต่ผู้ใหญ่ " อย่าบิดเบือน จากคุณ : ceebee50 - [ 17 ก.พ. 49 20:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เค้ามีทีมบริหารนะครับ... จากคุณ : นายโอ้นโต้น - [ 17 ก.พ. 49 20:30:40 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่น่าถาม...ลูกจะเก่งกาจ เจรจาขายหุ้นขนาดนั้นเชียวหรือครับ จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 17 ก.พ. 49 20:34:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แค่การเมืองก็ปวดหัวตายแล้ว จริงๆนายกน่าบอกว่า  ผู้จัดการทรัพย์สินคือใคร แล้วให้ไปไล่เบี้ยกันเอง เฮ้อ จากคุณ : clk99 - [ 17 ก.พ. 49 20:39:14 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อนาคตประเทศไทย ช่างมืดมน มองไปข้างหน้าก็อับจนหนทาง มองไปข้างหน้า ก็เห็นแต่คนที่รอเข้ามาคอรัปชั่น แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 49 21:11:38 แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 49 20:46:32 จากคุณ : NipponJ - [ 17 ก.พ. 49 20:45:41 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องจริงไม่มีใครรู้ ?  แต่ละคนก็คงต้องโหวตโดยใช้ความเชื่อ  ความนึกคิด  โดยสมมุติว่า ถ้าเป็นเราจะทำอย่างไร   ถ้าเป็นผม คงต้องใส่ใจดูแลบ้าง  ครั้นจะปล่อยปะละเลย เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ คงจะไม่ได้ ยังไงๆมันก็สมบัติของลูกๆเรา  ส่วนการที่ลูกๆจะขายสมบัติที่พ่อสร้างมาให้คนอื่นนั้น  ถ้าไม่มาขออนุญาตพ่อก่อน มันคงไม่ใช่ลูกที่ดีแน่ๆ จากคุณ : sahwatt - [ 17 ก.พ. 49 20:47:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ Can ครับ แล้วมีอะไรเป็นเครื่องชี้วัดว่าลูกเขาต้องโง่ล่ะครับ จะตัดสินใจแค่นั้นคงไม่ต้องเก่งกาจสามารถจนเกินมนุษย์หรอกมั้ง คิดอย่างดีๆสุดโต่งก็คือ ไม่อยากให้พ่อโดนด่า ถือไว้ก็รวย ขายไปก็รวย แล้วจะรวยให้โดนด่าทำไม รวยแบบไม่โดนด่าดีกว่า อนาคตตัวเอง(พานทองแท้และน้องๆ)ก็ใช่ว่าจะอับจน ดีไม่ดีอาจหาใหม่ได้มากกว่าเดิมอีก คิดอย่างเลวๆก็คือ ก็อยากขาย ขายแล้วได้เงินใช้ไปไม่รู้กี่ชาติ ก็อยากได้เงิน หน้าเงิน ชอบเงิน อยากมีเงิน 7 หมื่นล้าน ขายตอนนี้ก็มีคนสนใจซื้อ ได้กำไรดี ผู้หลักผู้ใหญ่ก็เยอะแยะที่คอยดูแลช่วยเหลือ ก็เลยจะขาย แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะมองเป็นพ่อพระหรือพญามารบทสรุปก็คือ หุ้นของเขา เขาสร้างมา เขาไม่ขายใครก็ไม่ได้อะไร เขาขายใครก็ไม่ได้อะไร แต่พอเขาขายดูเหมือนใครๆก็อยากจะได้อะไร ไม่มากก็น้อย จากคุณ : Paul Krub (Paul Krub) - [ 17 ก.พ. 49 20:51:28 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อาจารย์ที่สอนลูกตัวเอง จะให้คะแนนลำเอียงไหม ถ้าเป็นเหตุทางทุรจริต ก็ต้องแสดงกันให้ชัด ถ้าเขาปรึกษากันให้ครอบครัว ขายทรัพย์สินตัวเองก็ ไม่ควรยุ่งแล้ว จากคุณ : sarayutddd - [ 17 ก.พ. 49 20:52:26 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอไม่โหวตได้หรือเปล่าครับ... จากคุณ : ฉัตรธรรม - [ 17 ก.พ. 49 20:58:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ Can ครับ แล้วมีอะไรเป็นเครื่องชี้วัดว่าลูกเขาต้องโง่ล่ะครับ จะตัดสินใจแค่นั้นคงไม่ต้องเก่งกาจสามารถจนเกินมนุษย์หรอกมั้ง จากคุณ : Paul Krub (Paul Krub)  - [ 17 ก.พ. 49 20:51:28 -------------- จำได้ไหมครับว่า ลูกใครเอ่ย ที่โกง ข้อสอบ ราม น่ะครับ แล้วลูกใครหว่าเข้าจุฬาได้  แล้วปี นั่น พอดี๊ พอดี ข้อสอบรั่ว ทั้งที่ปีแล้วๆมาไม่มี จากคุณ : MacDelta - [ 17 ก.พ. 49 20:58:45 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ส่วนข้อถามของกระทู้ผมมองว่า ไม่มีใครรู้ทั้งนั้นแหละตอนนี้ว่าเขามีส่วน หรือไม่มีส่วน ทุกอย่างแต่ละคนใช้จินตนาการคาดเดากันไปตามแต่ประสบการณ์ของแต่ละคน แต่สิ่งที่รู้แน่ๆตอนนี้คือ เขาไม่มีหุ้นเหลืออยู่แล้วสักเปอร์เซ็นต์ ไม่มีสิทธิ์จะไปยุ่งเกี่ยวได้อีกแล้ว นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วแต่ละวันนายกฯไปใหนทำอะไรก็มีคนมารายงานข่าวให้ฟังทางทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์วันละหลายๆรอบ จนหลายๆคนอิจฉาแทบกระอักเลือดตาย แต่ก็ไม่เห็นมีสักวันที่บอกว่า นายกฯไปโฉบไปเฉี่ยวอะไรกับการประชุมของบริษัท เห็นวันๆไปสร้างภาพแก้จนก็หมดเวลาแล้ว แต่อีกสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ พอเขามีหุ้นก็ผิด ยกหุ้นให้ลูกก็แลดูยังผิด(ไม่ตรงใจ) สุดท้ายขายหุ้นทิ้งไปซะก็หาเรื่องให้ผิดได้อีกต่างๆนาๆ ก็งงๆอยู่ แต่ผมมองว่านายกฯน่ะโง่นะ ขายไปทำไมให้โดนด่า เก็บไว้ถึงจะโดนด่าแต่ก็ยังได้อะไรเพิ่มเติมตามมูลค่าหุ้นกลับมาบ้าง ถ้ายังไม่ขายป่านนี้มิขึ้นไปอีกกี่หมื่นล้านแล้วก็ไม่รู้ แถมถ้าเลวจริงๆ ยังสามารถกอบโกยผลกำไรจากการทับซ้อนได้อีกต่อ แต่พอขายแล้วก็โดนด่าอย่างเดียวเลย ค่าหุ้นก็ไม่ได้ ผลกำไรจากการทับซ้อนก็ไม่ได้ ตกลงไม่รู้ยังไงนะ จากคุณ : Paul Krub (Paul Krub) - [ 17 ก.พ. 49 21:02:40 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ MacDelta ครับ แล้วผม Post ไปตั้งยาว ไม่สนใจอ่านบ้างเหรอครับ เหตุผลที่ผมให้ถึงแม้จะเป็นคนโง่ก็คิดได้ครับ จากคุณ : Paul Krub (Paul Krub) - [ 17 ก.พ. 49 21:04:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 โหวตข้อ 1. ครับ คิดแบบง่ายๆ หากจะไปทำงานเพื่อบ้านเมือง เพื่อชาติ หรือเพื่อความสงบสุขของชาวโลก หากครอบครัว ลูกเมีย มีธุรกิจแค่หลักล้านก็พอ เราจะเหลียวหลังมาดูบ้างหรือเปล่า จากคุณ : คนหัวหงอก - [ 17 ก.พ. 49 21:13:30 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ......................ต้องอธิบายอีกหรือ จากคุณ : กระเพราเป็ด - [ 17 ก.พ. 49 21:31:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มาตรา 209 บ่งชัดครับ แค่เข้าไปตัดสินใจ มีผลในทางปฏิบัติทันที ผิดทันที....ไปให้กำลังใจพนักงงานวันฉลองปีใหม่ในวันที่ 9 มกราคม ลอง ๆ ไปถอดเทปมาดูสิ เข้าข่ายเข้าไปมีอิทธิพลในการตัดสินใจในบริษัทหรือไม่ จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 17 ก.พ. 49 21:37:41 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ก็เอาไปให้ศาลท่านซิครับคุณ Can ศาลท่านก็รอให้เอาให้ เห็นมั๊ยผมบอกแล้วว่าหลักฐานมันหาง่ายมาก แต่ถ้าไม่หาเลยแล้วมางอนศาล มันใช่เรื่องเหรอครับ จากคุณ : Paul Krub (Paul Krub) - [ 17 ก.พ. 49 21:46:27 ]

ความคิดเห็นที่ 20 mission impossible:give up จากคุณ : lekton - [ 17 ก.พ. 49 21:57:17 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตามกระทู้มันก็ถือเป็นหลักฐานทางพฤติกรรมเหมือนเดิม คงไม่รับเรื่องไว้อีก ต้องไปหาเทปบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดที่นายกไปเจรจากับกลุ่มเทมาเซค .................................................................. ถ้าพูดถึงกรณีนี้แล้ว เรื่องการจัดการอะไรพวกนี้บางทีแค่การโทรสั่งก็ได้ครับ ไม่ต้องถึงกับเข้าไปประชุม หลักฐานแบบนั้นมันไม่มีหรอกครับ แต่หลักฐานพฤติกรรมนี่สามารถเอาผิดได้นะครับ มันชี้ให้เห็นว่าเกิดความบังเอิญขึ้นหลายต่อหลายครั้งที่นโยบายหรือกฎหมายใหม่ที่ออกมาจะสอดคล้องกับกลุ่มชินฯ ตลอด ........................................................................ ลองไปดูคำพิพากษาของคดี นายแพทย์วิสุทธิ์ ที่สังหารภรรยาดูสิครับ ไม่มีหลักฐานที่เห็นว่ากำลังฆ่า หรืออาวุธที่ใช้ แต่เป็นการตัดสินจากพยานบอกเล่าและหลักฐานทางพฤติกรรม แม้จะมีจดหมายลาของภรรยาที่นายแพทย์วิสุทธิ์ทำขึ้นมาเอง แต่ก็ไม่ได้ชี้ว่าฆ่า แต่ศาลสามารถตัดสินจากพฤติกรรมได้เช่นกันครับ ...................................................................... ไม่ต่างอะไรกับกรณีแบบนี้หรอกครับ จากคุณ : sladday - [ 17 ก.พ. 49 22:00:44 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่ใช่เรื่องความเชื่อ แต่เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ให้เห็นจริงว่า เขาทำจริงๆ ความเชื่อ เอาไปเป็นหลักฐานในศาลไม่ได้ จากคุณ : ประชาชน(ไทย) - [ 17 ก.พ. 49 22:07:58 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คห # 18 คิดออกมาได้ไงนี่  อัจฉริยะจริงๆ ขายหุ้นไปให้หมดเลย ดีที่สุดแล้ว มิเช่นนั้น ถ้าเจอลูกน้องเก่าก็ห้ามคุยทักทาย ยิ่งเจอพี่น้องที่เป็นผู้บริหารในกลุ่ม SHIN ด้วยแล้วต้องทำเป็นไม่รู้จักกัน จากคุณ : sahwatt - [ 17 ก.พ. 49 22:09:32 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อยากเห็นสามัญสำนึกของคุณทักสิน .. . ชาตินี้จะได้เห็นมั๊ยนะ จากคุณ : Call me,baby - [ 17 ก.พ. 49 22:15:10 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สิงคโปร์ มันคงดีใจ 73,000ล้าน ทำให้คนไทยจะฆ่ากันตายได้ เรายังสะใจเลย ที่เห็นคนกัดกัน ถ้ามันฆ่ากันได้ก็จะดี เพราะผมว่าคนมันเริ่มเยอะเกินไปแล้ว ตายๆกันไปซะบ้างก็ดี ชาติจะได้เบาลงหน่อย จากคุณ : waytarn - [ 17 ก.พ. 49 22:51:11 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อ้ายโอ๊กมันคงมีปัญญาเจรจาขายหุ้นตั้ง 73,000 ล้านหร็อก แค่เปิดขายกาแฟมันยังเจ๊ง  ใครเชื่อว่าทักษิณไม่เกี่ยวก็โง่ยิ่งกว่าควาย 5 ตัวรวมกันแหละครับ จากคุณ : A-NOY - [ 17 ก.พ. 49 23:01:36 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ส่วนข้อถามของกระทู้ผมมองว่า ไม่มีใครรู้ทั้งนั้นแหละตอนนี้ว่าเขามีส่วน หรือไม่มีส่วน ทุกอย่างแต่ละคนใช้จินตนาการคาดเดากันไปตามแต่ประสบการณ์ของแต่ละคน แต่สิ่งที่รู้แน่ๆตอนนี้คือ เขาไม่มีหุ้นเหลืออยู่แล้วสักเปอร์เซ็นต์ ไม่มีสิทธิ์จะไปยุ่งเกี่ยวได้อีกแล้ว นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วแต่ละวันนายกฯไปใหนทำอะไรก็มีคนมารายงานข่าวให้ฟังทางทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์วันละหลายๆรอบ จนหลายๆคนอิจฉาแทบกระอักเลือดตาย แต่ก็ไม่เห็นมีสักวันที่บอกว่า นายกฯไปโฉบไปเฉี่ยวอะไรกับการประชุมของบริษัท เห็นวันๆไปสร้างภาพแก้จนก็หมดเวลาแล้ว แต่อีกสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ พอเขามีหุ้นก็ผิด ยกหุ้นให้ลูกก็แลดูยังผิด(ไม่ตรงใจ) สุดท้ายขายหุ้นทิ้งไปซะก็หาเรื่องให้ผิดได้อีกต่างๆนาๆ ก็งงๆอยู่ แต่ผมมองว่านายกฯน่ะโง่นะ ขายไปทำไมให้โดนด่า เก็บไว้ถึงจะโดนด่าแต่ก็ยังได้อะไรเพิ่มเติมตามมูลค่าหุ้นกลับมาบ้าง ถ้ายังไม่ขายป่านนี้มิขึ้นไปอีกกี่หมื่นล้านแล้วก็ไม่รู้ แถมถ้าเลวจริงๆ ยังสามารถกอบโกยผลกำไรจากการทับซ้อนได้อีกต่อ แต่พอขายแล้วก็โดนด่าอย่างเดียวเลย ค่าหุ้นก็ไม่ได้ ผลกำไรจากการทับซ้อนก็ไม่ได้ ตกลงไม่รู้ยังไงนะ จากคุณ : Paul Krub (Paul Krub)  - [ 17 ก.พ. 49 21:02:40 ]   เห้นด้วย แล้วเงินขนาดนั้นมันต้องมีทีมงานบริหารลูกนายกอาจทำตามคำแนะนำพวกนั้นก็ใด้ ถึงนายกจะบอกให้ขายมันก็รู้กันอยู่พวกเล่นการเมืองโอนหุ้นให้ลูกเมียถีอแทนทั้งนั้นในความเป็นจริง หรือคิดว่ามีใครมาเป็นรัฐมนตรีแล้วจะขายกิจการตัวเองหมดก่อนมาเป้น มันก็แค่เกมส์การเมือง จากคุณ : noi01 - [ 17 ก.พ. 49 23:12:55 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คคห. 2 เขาบอกว่า "แล้วแต่ผู้ใหญ่" ครับท่าน อย่าบิด ๆ จากคุณ : punko - [ 18 ก.พ. 49 12:57:21 ]