ความคิดเห็นที่ 1 ผมก็ว่างั้น   พวกต่อต้านคือพวกหลงยุค  กากเดนนักกวน เมืองพวกนี้น่าเอาไปทำปุ๋ย จากคุณ : สาละวิน - [ 20 ก.พ. 49 11:07:05 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องที่ควรตามต่างชาติหรือประเทศที่เจริญแล้ว เช่นเรื่อง สิทธิมนุษยชน กลับไม่สนใจ ใครดิ้นมากกลับถูกหา "ไม่รักชาติ" หรือ "ยูเอ็น ไม่ใช่พอ" เออ ทีเรื่องแบบนี้ถามหาอารยประเทศ แบบ FTA """ เฮ้อ...ตูละหน่าย... ที่สังคมถามคือ กฎหมายมีผลวันเสาร์ แล้วขายหุ้นวันจันทร์ มันจริงหรือเปล่า จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 20 ก.พ. 49 11:08:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ก็ช่าย  แต่เขาก็มีเงื่อนไข ขอบเขต ลองยก ตย. ประเทศที่เจริญแล้วของคุณมาดูดิ หาหลักฐานมายืนยันด้วย  อย่าอ้างแบบเลื่อนลอยตามสคริปต์ ปล. ไทยเป็นประเทศที่เจริญแล้วหรือ? จากคุณ : โคราชา - [ 20 ก.พ. 49 11:11:05 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แต่ก้น่ากลัวที่ประเทศเราได้พัฒนาตัวได้เร็วมากๆจนทำให้คนจำนวนหนึ่งรับอะไรไม่ทัน จนกลายเป็นการขัดแย้งของคนกลุ่มหนึ่งแล้วไปดึงพวกที่รับรู้เรื่องแค่งูๆปลาๆ มาเป็นแนวร่วม จากคุณ : น้าจ๊ะ - [ 20 ก.พ. 49 11:13:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ต่างชาติต้องการ 100 % ครับไม่ใช่แค่ 49 อย่าง DTAC ก็เกือบ 100 % แล้วครับ จากคุณ : บุรี (Buree) - [ 20 ก.พ. 49 11:19:16 ]

ความคิดเห็นที่ 6 WTO ตกลงกันไว้ที่ไม่เกิน 20% มีไม่ถึง 10 ประเทศในโลกที่ปล่อยให้เกิน 20% จากคุณ : Ultimas - [ 20 ก.พ. 49 11:30:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าทำ อะไร ไม่ให้น่าเกลียด  ก็พอรับได้ กฏหมายมีผล วันที่  20 มค.49  อีก 3 วัน ก็ ขาย ไม่น่าเกลียด เกินไปหรือ เหตุผลที่เอาหุ้นไปอยู่ที่หมู่เกาะฟอกเงิน เพระจะไปเข้าตลาดที่อเมริกา     คงนึกว่าประชาชนกินแกลบ สงสัยว่า  กลุ่มครอบครัว นายก เค้ายังไม่ตอบให้ชัดเจน น่าจะเอาข้อมูลในราชดำเนิน ไปใช้นะ ประชาชนจะได้ลุกฮือมากกว่านี้ แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 49 11:40:17 จากคุณ : pom - [ 20 ก.พ. 49 11:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ใช่ครับลุงแคน.. กฎหมายมีผลวันเสาร์ และขายหุ้นวันจันทร์จริง.. แต่กรณียูคอมฯขายหุ้นล่วงหน้าก่อนกฎหมายตั้ง  2  เดือน หรือชินคอร์ปจะเลื่อนการขายหุ้นไปอีก 1-2 เดือน.. มีความแตกต่างเป็นประเด็นสำคัญอย่างไร?? ผมมองว่า ประเด็นสำคัญน่าจะอยู่ที่.. กฎหมายนี้ เข้าสภาผู้แทนฯตั้งแต่ปี 46  ผ่านวุฒิสภาเป็นเอกฉันท์เมื่อ พย.48.. ก็ไม่เห็นจะมี"ใครมาโวยวายคัดค้าน" แม้แต่ สส.ฝ่ายค้าน หรือ 27 สว.นั่น.. เพิ่งจะมาโวยวายกันเสียงดังลั่น ก็เมื่อวันที่ชินคอร์ปขายหุ้น.. สรุปว่า.. พรบ.ฉบับนี้ ออกมาอย่างถูกต้องแล้วใช่ไหมครับ??.. ถ้าชินคอร์ปไม่ได้ขายหุ้น ก็ไม่มีใครคิดจะโวยวายเรื่อง พรบ. รึเปล่า?? . จากคุณ : เพดาน ช่างฝัน - [ 20 ก.พ. 49 11:42:12 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จริงๆ เรื่องสัดส่วนต่างชาติถือหุ้นเพิ่ม ส่วนตัวก็ไม่เห็นด้วยนะ แต่สงสัยว่าทำไมคุณลองบิดเบือนข้อมูลได้ขนาดนั้น ที่บอกว่า แก้กฎหมาย(ตัวนี้) 2 วันเสร็จ ขายหุ้นเลย ขอโทษนะ...แกอายุมากจนเลอะเลือน ถูกปลุกปั่น หรือมั่วข้อมูลกันแน่ ก็มีที่ไหนกฎหมายแก้ 1-2 วันออกมาใช้งานเลย เอาแค่ยื่นให้เบื้องสูงลงพระนาม อย่างน้อยก็เป็นอาทิตย์ แล้วนี่เป็นการแก้พรบ. ซึ่งมันต้องผ่านทั้ง 2 สภา แล้วก่อนถึง 2 สภา มันก็ต้องตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาแก้ไข ให้อย่างน้อย 1 ปีเลยแล้วกัน เลยสงสัยว่า ไอ้ช่วงเวลาที่เขาแก้ๆ กันอยู่ ผู้ที่ไม่เห็นด้วยในเวลานี้ โดยเฉพาะฝ่ายค้าน นั่งทำอะไรอยู่ หรือว่าโดดร่มหนีการประชุม ถึงไม่เห็นออกมาโวยวายเสียแต่ตอนนั้น หรือเห็นว่าเป็นเรื่องไม่น่าสนใจ ไม่คิดว่าจะมีอะไร พอปล่อยให้กฎหมายผ่าน ถึงเพิ่งบอกว่าไม่ดี และที่แย่มาก ใส่ความเขาขนาดว่าแก้ 2 วันเสร็จ เข้าใจว่า 2 วันที่ว่าคือเสาร์-อาทิตย์ ก่อนถึงวันจันทร์ ที่ดีล shin เรียบร้อย ส่วนวันศุกร์คือวันประกาศใช้กฎหมาย หรือก็คือวันที่ได้รับกฎหมายที่ลงพระนามลงมาแล้ว จึงประกาศใช้ในวันนั้น ตรงนี้แหละที่พยายามบอกกับเพื่อนๆ เสมอว่า ทำไมเราถึงยอมตกเป็นเหยื่อของสื่อ ยอมตกเป็นเครื่องมือของคนที่ต้องการทำร้ายบ้านเมือง แค่รับฟังสิ่งที่เขาบอก เราก็เชื่อไปแล้ว แต่ทำไมไม่วิเคราะห์หาเหตุและผลให้ดีก่อน ว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่ พูดมาได้แก้กฎหมาย 2 วันเสร็จ ขอโทษนะ...คนพูดแบบนี้จะบ้าหรือเปล่า พูดแบบนี้พูดเพื่อทำลายกันอย่างเดียวชัดๆ ประเทศนี้เป็นของคนไทยทุกคน แต่คนไม่กี่คน กลับให้ร้ายไม่คิดถึงบ้านเมืองโดยรวม เรื่องนี้หมายถึงทุกคนที่พูดแบบนี้ แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 49 11:44:22 จากคุณ : TSC - [ 20 ก.พ. 49 11:42:52 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เฮ้อเบื่อ จขกท.สติยังดีอยู่รึเปล่า ประเทศที่เจริญแล้วเปิดเสรีต่างชาติถือได้49% ประเทศไทยเจริญถึงขนาดนั้นแล้วเหรอ นักธุรกิจไทยทุนหนาพอที่จะสู้กับต่างชาติได้เหรอ ที่ประเทศอื่นเค้าเปิดก็เพราะเค้าสู้ได้คุณจะเอาเราไปเปรียบเทียบกับนักธุรกิจจาก อเมริกา อังกฤษ หรือฝรั่งเศสได้ไง ก่อนที่จะตั้งกระทู้คิดก่อนนะ สงสัยจะเรียนมาน้อยขยันเลียเป็นอย่างเดียว แล้วบอกว่าที่ประเทศที่เจริญถือได้เกิน49% เนี่ยประเทศไหนบ้าง อย่ามามั่วนะ.... แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 49 11:47:33 จากคุณ : beetom - [ 20 ก.พ. 49 11:44:43 ]

ความคิดเห็นที่ 11 กฎหมายมีผลหลังจากลงในพระราชกิจจานุเบกษา ลอง ๆ ค้นดูนะครับ ไอ้วิธีเขียนกฎหมายแก้กฎหมายรู้อยู่ ขั้นตอนทั้งหลายทั้งปวงรู้หมด ลองกลับไปค้นข้อมูลดูสิ มันเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่ กฎหมายมีผลวันเสาร์ ขายหุ้นวันจันทร์ จัดอาจสามารถกลบทั้งประเทศ จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 20 ก.พ. 49 11:51:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แต่เมื่อถูกถามว่าเหตุที่การเจรจาซื้อขายล่าช้าเพราะรอการแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติใช่หรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเครียดลงอย่างเห็นได้ชัดว่า “ไม่เกี่ยวเลย...ถามหาเรื่อง คนละเรื่อง” พร้อมบอกปัดข้อสังเกตของผู้สื่อข่าวที่ว่ากฎหมายฉบับดังกล่าว ออกมาในช่วงเดียวกันว่า ไม่เกี่ยวเลย ไม่มีอะไร พวกนี้ชอบหาเรื่อง คิดอะไรก็ไม่รู้ แปลก และยืนยันการขายหุ้นชินคอร์ปครั้งนี้ เป็นการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ แคปปิตอล เกน (Capital Gain) ไม่ต้องเสียภาษี http://www.thairath.co.th/thairath1/2549/page1/jan/24/p1_2.php จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 20 ก.พ. 49 12:00:03 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จุดสำคัญอยู่ที่ว่า.. ระบบสื่อสารเราจะพัฒนาเป็น  3G  ในปีนี้(ไม่แน่ใจว่าล้าหลังประเทศอื่นๆไปกี่ปีแล้ว) ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละรายจะต้องใช้เงินลงทุนสูงร่วมแสนล้าน.. ถามว่า มีกลุ่มทุนไทยรายไหนที่สนใจจะลงทุนบ้าง??.. ที่ผ่านมาแทบไม่มีออกตัวมาให้เห็นเลย หรืออยากจะให้ ทีโอที กสท. ผูกขาดอยู่เหมือนเดิม.. หรือว่า.. อยากให้เทคโนโลยีสื่อสารในประเทศ ย่ำอยู่กับที่ ไม่ต้องพัฒนาไปไหน.. . จากคุณ : เพดาน ช่างฝัน - [ 20 ก.พ. 49 12:04:40 ]

ความคิดเห็นที่ 14 "ทีโอที-ไอซีที"ดื้อแพ่งแจงสัญญา"AIS" "ธีรวิทย์"ยันไม่ได้หนังสือจาก"กทช." เหน็บรายอื่นขายหุ้นกลับไม่โดนโวย "ไอซีที-ทีโอที"ปฏิเสธ ยังไม่ได้รับหนังสือจาก กทช.ให้ตรวจสอบการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปว่าผิดสัญญาสัมปทานหรือไม่ "ธีรวิทย์"ยันเรื่องนี้ไม่ได้กำหนดในสัญญา นายธีรวิทย์ จารุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กรณีที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ได้ทำหนังสือมาให้ทำการตรวจสอบการเข้ามาถือหุ้นของบริษัทต่างชาติในบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส เป็นบริษัทในเครือ และยังเป็นบริษัทภายใต้สัญญาสัมปทานของ ทีโอที ทางทีโอทียังไม่ได้รับหนังสือดังกล่าว แต่ก็พร้อมจะดำเนินการตรวจสอบให้ นายธีรวิทย์กล่าวว่า การเข้ามาถือหุ้นดังกล่าวไม่ผิดสัญญาสัมปทาน เพราะไม่มีสัญญาข้อไหนที่กล่าวถึงเรื่องนี้ และการดำเนินการดังกล่าวก็ไม่ส่งผลกระทบกับการจ่ายส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาสัมปทาน หรือภาษีสรรพสามิต ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาแต่อย่างใด เพราะทุกอย่างยังต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเดิมที่ทำร่วมกันระหว่าง ทีโอที กับ เอไอเอส อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เห็นว่าเรื่องดังกล่าวเหมือนเป็นการสร้างประเด็นขึ้นมา เพราะก่อนหน้านี้บริษัท ยูไนเต็ด คอมมูนิเกชั่น อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือยูคอม ได้ขายหุ้นให้บริษัท เทเลนอร์ ก็ไม่มีการตรวจสอบ แต่พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ เอไอเอส ก็มีการตั้งข้อสงสัยหลายอย่าง นอกจากนี้ ยังมีบริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) ที่มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างหนี้ จนทำให้มีผู้ถือหุ้นต่างชาติอยู่มากมาย แต่ก็ไม่มีใครหยิบขึ้นมาเป็นประเด็น นายไกรสร พรสุธี ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือจาก กทช.ให้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด หากยื่นมาก็พร้อมจะดำเนินการให้ แหล่งข่าวจากคณะกรรมการ กทช.เปิดเผยว่า ยืนยันว่า กทช.ได้ส่งหนังสือถึง ทีโอที และ กสท ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และได้ส่งหนังสือทวงถามไปอีกครั้งในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ เนื่องจากทั้ง ทีโอที และ กสท ยังไม่ตอบหนังสือของ กทช.กลับมา แหล่งข่าวกล่าวว่า หนังสือที่ กสท ส่งถึง ทีโอที และ กสท ก็คือการที่ ทีโอที ให้ตรวจสอบร่างสัญญาสัมปทานที่มีกับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส และร่างสัญญาที่ กสท มีกับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ว่าการอนุมัติสัญญาสัมปทานนั้นได้มีการระบุเกี่ยวกับโครงสร้างผู้ถือหุ้นว่าจะต้องเป็นคนไทยหรือไม่ จำนวนเท่าไหร่ หากมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นจะต้องแจ้งคู่สัญญาหรือไม่ "ทีโอที และ กสท จะต้องให้ฝ่ายกฎหมายดูสัญญาให้ถี่ถ้วนและตอบมาที่ กทช. รวมทั้งจะต้องส่งสัญญาสัมปทานมาให้ กทช.ดูด้วย เพราะสัญญาสัมปทานดังกล่าว อาจมีการดูถึงโครงสร้างผู้ถือหุ้น ด้านความมั่นคงไว้แล้ว ซึ่งหากส่งสัญญามาก็จะได้ตรวจสอบ" ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.ชูชาติ พรหมพระสิทธิ์ ประธาน กทช. ยืนยันว่า หนังสือที่ส่งให้กับกระทรวงไอซีที ทีโอที และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) ชี้แจง เพราะต้องนำผลตรวจสอบของกระทรวงไอซีที ทีโอที และ กสท มาพิจารณาเพื่อให้คำตอบกับสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค (สอบ.) สอบภายในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ตามที่ให้สัญญาไว้ ว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรกับการซื้อขายหุ้นของชินคอร์ป http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01eco01200249&day=2006/02/20 ประชาชนกำลังเกาะติด เปิดเผยสัญญา...ทำไมยักท่า... ยึกยักทำไมเธอต้องทำเป็นยึกยัก.... จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 20 ก.พ. 49 12:06:07 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องแก้กฎหมาย  นี้     เป็นไปไม่ได้ที่แก้ 2 วัน แล้วประกาศใช้ เรื่องนี้  เคยอ่านเจอว่า  เริ่มตั้งแต่ ปี 44 ที่ถูกคัดค้าน โดย ไทยรักไทย ไปครั้งหนึ่ง   แต่โดนโจมตีว่า  ปิดกั้น การแข่งขันเสรี   ในที่สุด ก็ได้เริ่มกันใหม่  กว่าจะมาจบได้ ปีนี้ เอง สังเกตดู   เรื่องนี้  ปชป  ไม่กล้าเอามาโจมตีเลย   เพราะเป็นฝ่ายสนับสนุนเรื่องนี้ มาตั้งแต่ต้น จากคุณ : รักกันไว้เถิด (minibar) - [ 20 ก.พ. 49 12:15:55 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เออ ดูค่าเงินด้วยนะครับ 49 เปอร์เซ็นต์เขา นะ เขาเอาเศษเงินมาซื้อนะ ถ้า 49 เขา เราแทบจะขายประเทศไปซื้อหรือเปล่า กติกาเดียวกัน ที่เขาได้ประโยชน์ นี้ มันไม่ได้ เรื่องนะท่าน จากคุณ : ช้างยิ้ม - [ 20 ก.พ. 49 12:23:59 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ใครบอกว่าแก้ 2 วัน ไปเอามาจากใหน ก็บอกแล้ว กฎหมายมีผลวันเสาร์ ขายหุ้นวันจันทร์ ขึ้นไปอ่านใหม่สิ....จะเบี่ยงหนีไปใหน ........................................................... กฏหมายที่เป็นเงื่อนมัดนาย ก กฎหมายที่นำมาสู่ความไม่ไว้วางใจในตัวรัฐบาล ลองโหลดอ่านเปรียบเทียบดู แล้วตัดสินกันเองน่ะครับว่าจริงหรือไม่ พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 ลองอ่าน มาตร 8 (1) http://www.ntc.or.th/uploadfiles/parabon.pdf เทียบกับ พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.2549 ลองอ่าน มาตร 3 http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2549/00180394.PDF ใจความที่ถูกตัดออกไปคือ  "ต้องมีบุคคลสัญชาติไทยถือหุ้นไม่น้อยกว่า75% " ไม่อยากครับเข้าใจง่าย จากคุณ : hiyo_ch จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 20 ก.พ. 49 12:36:04 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แล้ว DTAC ขายให้ต่างชาติบริหารตอนนี้ไอ้จำลอง ไอ้สนธิไม่ไปโวยวาย TT&T ต่างชาติมีหุ้นมีหน้าไหนโวยมั่ง อย่ามาดัดจริตพูดกันอยู่เลย ที่ไหนๆเขาเกิน50% สาเหตุเพราะเขาต้องการเงินลงทุนและเทคโนโลยีจากต่างประเทศทั้งนั้น มีไอ้พวกสมองน้อยๆไม่กี่ตัวมากวนเมือง ทำให้ประเทศหล้าหลัง จากคุณ : คนไทยล้าน% - [ 20 ก.พ. 49 12:40:56 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอถามย้ำอีกที.. ผมมองว่า ประเด็นสำคัญน่าจะอยู่ที่.. กฎหมายนี้ เข้าสภาผู้แทนฯตั้งแต่ปี 46  ผ่านวุฒิสภาเป็นเอกฉันท์เมื่อ พย.48.. ก็ไม่เห็นจะมี"ใครมาโวยวายคัดค้าน" แม้แต่ สส.ฝ่ายค้าน หรือ 27 สว.นั่น.. เพิ่งจะมาโวยวายกันเสียงดังลั่น ก็เมื่อวันที่ชินคอร์ปขายหุ้น.. สรุปว่า.. พรบ.ฉบับนี้ ออกมาอย่างถูกต้องแล้วใช่ไหมครับ??.. ถ้าชินคอร์ปไม่ได้ขายหุ้น ก็ไม่มีใครคิดจะโวยวายเรื่อง พรบ. รึเปล่า?? . จากคุณ : เพดาน ช่างฝัน - [ 20 ก.พ. 49 12:44:11 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อยู่หลังเขาที่ชื่อว่าคุณธรรม ดีกว่าอยู่หน้าเขาที่คดโกง จากคุณ : varada - [ 20 ก.พ. 49 12:47:30 ]

ความคิดเห็นที่ 21 หน้า ๙ เล่ม ๑๒๓ ตอนที่ ๕ ก    ราชกิจจานุเบกษา   ๒๐ มกราคม ๒๕๔๙ เปิดดูตามลิงค์หรือยังครับ ตามนั้น....ชัดเจนมั๊ยครับ กฎหมายจะมีผลตามมาตรา 2  เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา เวลาอ่านหนังสือให้อ่านให้แตก...อย่าเพิ่งแถกไปใกล จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 20 ก.พ. 49 12:51:28 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมชี้ให้เห็นว่า.. "การคัดค้านกฎหมายใดๆ" สมควรกระทำในช่วง"การร่างและพิจารณากฎหมายนั้น"ในทั้ง 2 สภา.. ซึ่งเมื่อ"ในช่วงนั้น มิได้คัดค้านกัน".. แต่พอทูลเกล้าฯลงพระปรมาภิไธยฯ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว.. กลับเพิ่งจะมาโวยวายไม่เห็นด้วย.. มันสมควรหรือ?? . จากคุณ : เพดาน ช่างฝัน - [ 20 ก.พ. 49 13:01:32 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณเพดาน ช่างฝัน ครับ ผมจะอธิบายปรากฎการณ์ที่ผู้คนไม่พอใจพอสรุปได้ดังนี้ 1. ไม่มีใครอิจฉาคนรวย 2. นายกเคยบอกว่า วันที่ส่งดาวเทียมขึ้นนั้น มันเป็นความภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ ได้ชื่อพระราชทานว่า "ไทยคม" 3. แก้กฎหมายโดยอ้างว่าเพื่อรองรับการเปิดเสรีโทรคมนาคม 4. คนไทยคิดว่าบริษัทของคนไทย จะพยายามสู้กับต่างชาติอย่างมีศักดิ์ศรี 5. บริษัทของนายกรัฐมนตรีกลับขายให้ต่างชาติ หลังกฎหมายมีผลใน 2 วัน หากคุณเป็นคนไทย ที่ได้รับการกรอกหูจากนายกรัฐมนตรีว่า..."รักชาติกันหน่อย"....มาเจอปฏิบัติการแบบนี้ คุณคิดว่าคนไทยกำลังเจอกับอะไร... ถามว่ามันถูกกฎหมายหรือไม่ ไม่มีใครเถียงเพราะมันเป็นกฎหมายที่แก้ไขโดยรัฐบาลนี้ และมันแสดงว่าเพื่อนายกรัฐมนตรีคนนี้...ตามผลที่มันปรากฎ พอตามทันมั๊ยครับ ถามว่า....คนอื่นขายทำไมไม่โวย ตอบว่า...คนอื่นขาย ไม่มีธุรกิจเกี่ยวพันมากมายขนาดนี้ ที่สำคัญ เค้าไม่มีอำนาจแก้ไขกฎหมายใด ๆ เป็นพ่อค้าธรรมดา ๆ ไม่ใช่มือหนึ่งเป็นพ่อค้า มือหนึ่งเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจสั่งการทุกอย่างในประเทศนี้ อย่าบอกนะครับ ผมไม่รวย คนรวยน่ะเมียผม มันทุเรศครับ จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 20 ก.พ. 49 13:05:30 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ก็เขียนกฎหมายเอง ขายเอง รวยเอง แล้วมันจะไปผิดตรงใหนครับ ประชาชนเลือกมาให้สร้างประโยชน์ให้ลูกให้เมียอย่างนั้นหรือครับ แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 49 13:09:39 จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 20 ก.พ. 49 13:08:08 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมพยายามแยกแยะ ออกมาให้เห็นชัด ไงครับลุงแคน.. ประเด็นอยู่ที่ว่า "กฎหมายฉบับนี้ เป็นสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสม ตามสภาพการณ์ในปัจจุบันของประเทศ แล้วหรือไม่??".. ถ้าคำตอบว่า"ใช่".. ก็แปลว่า ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหนๆ ก็สมควรออกกฎหมายฉบับนี้.. เราควรว่ากันตามหลักการพิจารณาออกกฎหมาย หรือปรับแก้ไขกฎหมายก่อน.. ลองมองในมุมกลับสิครับ.. ถ้าสมมติ"ป๋าเปรมฯ"เป็นนายกฯอยู่ในขณะนี้ และมี ทักษิณกับพรรคไทยรักไทย เป็นฐานสนับสนุนอยู่.. แล้วป๋าเปรม ไม่กล้าจะปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย เพราะกลัวคำครหา"มีผลประโยชน์ทับซ้อน เอื้อประโยชน์ให้พรรคพวก" กลัวจะเสียจริยธรรม.. พรบ.โทรคมนาคมนี้ ก็จะถูกดองไว้อย่างเดิม โดยมิได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสม....  แล้วจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือ?? . . จากคุณ : เพดาน ช่างฝัน - [ 20 ก.พ. 49 13:28:21 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ทำไมทุกบริษัทถึงอ้างว่า ต้องการต่างชาติมาลงทุน 3G แล้วเราเอาเครือข่าย 3G มาทำอะไรบ้าง เมื่อเรามี 3G แล้วเรามี Content พร้อมที่จะใช้งานหรือ หรือว่าเราต้องการเอา 3G เพื่อมาด่ากันในกระทู้ จากคุณ : sos42 - [ 20 ก.พ. 49 13:40:36 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ผมว่าไม่น่าเบี่ยงประเด็นเลยนะท่าน จะ 25,  30, 49, 51, 75 หรือ 99.99% นั่่นก็เรื่องหนึ่ง แ่ต่เรื่องที่ผู้นำประเทศอาศัยจังหวะชุลมุนตรงนี้  หาผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตนเอง  ตรงนั้นคือประเด็นสำคัญ คุณอย่ามาเลี่ยงเบี่ยงประเด็นว่า 49% ไม่ได้เสียหายตรงไหน จากคุณ : BaKha BhaKam - [ 20 ก.พ. 49 13:43:45 ]

ความคิดเห็นที่ 28 จะมีใครในโลกนี้มั้ย ที่ทำสัญญาซื้อขายกันทั้งที่รู้ว่าเป็นข้อห้ามของกฎหมาย ที่เขาทำกันคือ เมื่อรู้ว่ากฎหมายมีผลวันไหน ก็จะทำสัญญาให้มีผลในวันนั้นเป็นต้นไป  อย่าไปมองเจตนาย้อนหลังแบบนั้นสิ นั่นเป็นวิธีมองที่คุณอยากให้เขาเป็น ไม่ใช่อย่างที่เขาเป็นอยู่จริง จากคุณ : ชาติมา - [ 20 ก.พ. 49 13:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คห 25 ลุงแคนบอกอย่าแถก ก็ยังจะแถก เฮ้ออ คนเรา ตอนนี้พูดกันที่ว่า มีผลก่อนนนนนน จะขายหุ้นนนน เพื่อทำให้มันขายยยยยย ได้ตังมากกกกว่า เดิมมมมม เข้าใจมั๊ยนี่ เจตนา ให้มีผลบังคับใช้ ก่อน วันขายหุ้นนนน เว้ยยยยย แล้วก็เลิกแถกได้แล้ว เบื่อ อ่านอ่ะ จากคุณ : NineDev - [ 20 ก.พ. 49 13:50:46 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ก็บอกชัดแล้วนี่นะ ออกกฎหมายเอง ขายเอง รวยเอง ก็เท่านั้น จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 20 ก.พ. 49 13:57:31 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ออกกฎหมายนั่นเรื่องหนึ่ง กฟผ.ที่โดนต่อต้านมากๆ จนยอมก็งุบงิบ พอคนเผลอจะเอาเข้าเลยอีกเรื่องหนึ่ง จังหวัดไหนเลือกทรท เราจะดูแลก่อนก็อีกเรื่องนึง จะแก้กฎหมายขายที่ดินให้ต่างชาติ และมีคนดอดไปซื้อที่รอบสนามบินทับแก้มลิง และมาบอกว่าจะสร้างเมืองใหม่ยังอีกเรื่องหนึ่ง แก้กฎหมายเรื่องการซื้อต้องมีใบสั่งจากแพทย์ แต่มีคนแอบดอดไปซื้อบริษัทขายยา และร้ายขายยาเพื่อแฟรนไชส์นั่นก็อีกเรื่องนึง ออยยยย แจงไม่ไหว เหนื่อย ค่าสัมปทานที่ต่างกันระหว่างบริษัทตัวกับคู่แข่งก็ยังเป็นอีกเรื่องหนึ่ง จากคุณ : asterisk - [ 20 ก.พ. 49 13:57:42 ]

ความคิดเห็นที่ 32 UCOM บ.แม่และDTAC ...............ไม่มีดาวเทียม........ จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 20 ก.พ. 49 14:01:25 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คุณ Can ว่า "กฎหมายมีผลหลังจากลงในพระราชกิจจานุเบกษา" ก็รู้นี่ แล้วทำไมคนที่คัดค้าน ไม่พูดแบบนี้ พูดได้ไงแก้กฎหมาย 2 วันขายหุ้น ทั้งที่กว่าเบื้องสูงจะลงพระนาม แล้วส่งลงมา แล้วประกาศในราชกิจจา ต้องใช้เวลาเกิน 2 วันแน่ๆ โดยเฉพาะคุณลอง เมื่อวานแถลงข่าว เสียงดังฟังชัด "แก้กฎหมาย 2 วันก็ขายหุ้น" เออ...แทนที่จะพูดให้มันเคลียร์ๆ เช่น พอกฎหมายมีผลบังคับใช้ ก็ขายเลย มันยังมีเหตุผลมากกว่า แก้ 2 วัน...ขาย ึเหมือนกับบอก ขายหุ้นไม่เสียภาษีในตอนแรกนั่นแหละ พอเขาเอากฎเกณฑ์ซื้อขายหุ้นมาหักล้าง ถึงได้มาเปลี่ยนไปเล่นประเด็นอื่น ว่าทำโน่นทำนี่เพื่อเลี่ยงภาษี จาก "ไม่เสียภาษี" มาเป็น "เลี่ยงภาษี" ว่าแต่คนที่พูดความจริงไม่หมด ไม่ได้เบี่ยงประเด็นเลยหรือไง ทำให้คนฟังเกิดความเข้าใจผิด เพื่อทำลายคนอื่น แล้วเป็นประโยชน์กับตัวเอง โดยไม่นึกถึงบ้านเมืองแบบที่ทำๆ กันอยู่ ถามจริง...มีจริยธรรมสูง คุณธรรมเป็นเสิศนักใช่ไหม กรณีนี้ ถ้ามันจะไม่มีจริยธรรม ก็ด้วยกันหมดนั่นแหละ ทั้งคนถูกกล่าวหา และคนที่กล่าวหาเขา "UCOM บ.แม่และDTAC ...............ไม่มีดาวเทียม........" สรุปมันผิด เพราะดันมีดาวเทียม เออ...แล้วที่รัฐบาลไทยหลายๆ รัฐบาล ยกสัมปทานให้ต่างชาติ ขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย ก็คงจะผิดเหมือนกันมั่ง เพราะเดี๋ยวจะสูญเสียน่านน้ำไทย จากคุณ : TSC - [ 20 ก.พ. 49 16:46:21 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คุณ : TSC อ่านความเห้นผมใน ความเห็นที่ 2 ก็ชัดเจนแล้ว บอกว่ากฎหมายมีผลวันเสาร์ ขายของวันจันทร์ ส่วนคำตอบเชิงเปรียบเทียบ ให้อ่านความเห็นที่ 23 ชัดเจนครับ เหมือนเอาบ่อเกลือให้สัมปทานต่างชาติ มันไม่มีอะไรที่น่าภูมิใจหรอก น้ำมัน-แก๊ส มันทำโดยฝรั่งมาแต่ต้น แต่เรื่องดาวเทียม มันมีความเป็น "คนไทย" ผสมอยู่ในนั้น เรื่องที่เป็น "นามธรรม" แบบ "ความรักชาติ" บางคนมองไม่ออก เว้นแต่จะเอาประโยชน์จากคำว่า..."รักชาติ" แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 49 18:00:39 จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 20 ก.พ. 49 17:59:51 ]

ความคิดเห็นที่ 35 แล้วคนที่ไหนบอกว่าให้ขายกิจการออกไปให้หมดละครับ มันต้องโทษคนที่เรียกร้อง หาพระแสงในตอนนั้นมากกว่ามั้งครับ ผมก็ไม่ได้ชอบนะกับการขายชิน คอร์ปออกไปให้ต่างชาติ แต่อยากจะบอกว่าคนไทยหรือคนคัดค้านมันเอาแต่ค้านนี่ครับ ไม่รู้จักมองว่า คนไทยด้วยกันใครจะไปซื้อกิจการ 70000 ล้านนี่ละครับ ไหนจะต้องรับเผือกร้อนว่าเป็นหุ่นชักนายกอีก เหมือนกับตอนนี้ที่บอกให้นายกลาออกไปก่อน ใครจะมาแทนก็ทีหลัง พูดง่ายนะครับ คนเก่งมันหาไม่ยากหรอกครับ แต่คนเก่งที่จะกล้ามาให้คนไทยบางท่านหรือปชป ขุดบรรพบุรษมา ด่าเสียๆ หายๆ มันคุ้มกันเหรอครับ อยู่เฉยๆ ทำธุรกิจของเขาเงียบๆ ดีกว่า ตอนนี้มาถามหาความรักชาติ แค่อย่าทะเลาะกันแต่ละฝ่ายมันยังไม่ยอมกันเลยนี่ครับ มันก็ไม่มีฝ่ายใดหยุดทั้งนั้น นายกก็บอกเค้ามาตามกติกา อีกฝ่านก็บอกว่าไม่ชอบธรรม มันก็ไม่จบซะทีหรอก ผมชื่นชม สว 27 ท่านนะครับ นั่นละที่เป็นตัวอย่างที่ดีของการรักชาติ ยี่นฏีกาและศาลตันสินอย่างไรก็ยอมครับ เคารพด้วยใจจริงๆ ครับ แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 49 18:21:49 จากคุณ : Vincent Van Gogh - [ 20 ก.พ. 49 18:17:12 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คุณ Can กฎหมายมีผลวันศุกร์ที่ 20 มค. ไม่ใช่หรือ แต่เขาจบดีลวันจันทร์ที่ 23 มค. แต่เราก็กำลังบอกว่า ในเมื่อคุณก็รู้ คนที่ออกมาว่าๆ เขา...ก็รู้ กฎหมายมีผลบังคับใช้ได้ต้องประกาศในราชกิจจา คือท่านต้องลงนามก่อน ตรงนี้ต่างหากที่เราพยายามสื่อว่า ทำไมคนกล่าวหาพูดแค่ "แก้ 2 วัน ขาย" ทำไมไม่พูดให้หมด ฉะนั้น ถ้าจะถามหาจริยธรรมนายก ว่าพอกฎหมายมีผลปุ๊บขายปั๊บ ก็ต้องถามคนกล่าวหาเช่นกัน พูดไม่หมด เพื่อให้คนเข้าใจผิดแบบนี้ มีจริยธรรมมากกว่าคนที่กำลังถูกกล่าวหาหรือไม่ ส่วนไอ้ที่เขาเพิ่มสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างชาติ หลายคนก็พยายามบอกแล้วว่า เพราะมีคนเรียกร้องให้เปิดเสรีโทรคมนาคม เรียกร้องกันมานาน ตอนแรกเขาจะไม่แก้ให้ ก็นักวิชาการบางคนบอกว่า จะปิดกั้น ไม่เสรี พอเขาแก้ให้ กลายเป็นเขาผิดอีก ซึ่งคนที่ขอให้แก้และคนที่ว่าเขาหลังแก้แล้ว ก็เป็นคนเดียวกัน 1 ในนั้นก็คือ ดร.แห่งสถาบันดังที่เรารู้จักกันดีนั่นแหละ "เหมือนเอาบ่อเกลือให้สัมปทานต่างชาติ มันไม่มีอะไรที่น่าภูมิใจหรอก น้ำมัน-แก๊ส มันทำโดยฝรั่งมาแต่ต้น" นี่ไง เราก็มองอย่างนี้ ที่ไม่มีใครพูดเรื่องนี้ เพราะมองว่าสัมปทานน้ำมัน ไม่ได้เริ่มให้กันในรัฐบาลนี้ แต่มันมีมาตั้งแต่อดีต ตั้งแต่การปกครองของไทย ยังไม่ใช่ประชาธิปไตยเต็มรูปแบบด้วยซ้ำ และเราก็เชื่อว่า ถ้าสัมปทานน้ำมัน-แก๊ส มาเริ่มกันในยุครัฐบาลนี้ มันก็ต้องโดนเหมือนกัน ถูกหาว่าเอาสมบัติของชาติไปให้ต่างชาติหาผลประโยชน์ และที่เปรียบบ่อน้ำมันเหมือนบ่อเกลือ ไม่น่าภูมิใจ จริงเหรอ ? ก็แล้วทำไมหลายๆ คนถึงโวยวายกรณีแปรรูปปตท.ล่ะ แถมยังเสนอว่าให้ขายคืนให้คนไทย ถ้าน้ำมันมันไม่มีค่า หรือมีค่าแค่เกลือ จะเอาปตท.กลับมาเป็นเหมือนเดิมทำไม ปล่อยให้ต่างชาติมันซื้อหุ้นต่อไปซิ "เรื่องที่เป็น "นามธรรม" แบบ "ความรักชาติ" บางคนมองไม่ออก" แล้ว "จริยธรรม" เป็น "รูปธรรม" มากพอ ที่จะไม่ต้องอาศัย "กฎหมาย" มาประกอบการตัดสินคนกันแล้วหรือ ถ้าเช่นนั้น อีกหน่อยใครเกลียดใครก็สร้างหลักฐานเท็จ แล้วไปกล่าวหาคนอื่น ก็ได้ซิ ไม่ต้องรอการพิสูจน์ทางกฎหมาย เช่นเดียวกับกรณีใบเกิด...ใช่ไหม ^_^ จากคุณ : TSC - [ 20 ก.พ. 49 19:20:34 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอร่วมตั้งข้อสังเกตเรื่องการขาย DTAC หน่อยนะ เห็นมีคนชอบเอาเคสนี้มาเปรียบเทียบนัก   ว่า DTAC  ก็ขายออกไปเยอะเหมือนกัน   ทำไมไม่เห็นมีใครต่อต้าน   การขายของ DTAC นั้น  ถ้าจำไม่ผิดจะขายก่อน กม. เรื่องการถือครองหุ้นนี้ประกาศออกมาอีก   เพราะฉะนั้น  DTAC  คงไม่สามารถขายออกไปได้ถึง 49 %  แน่นอน   เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว   ถ้าขายไปได้ถึง 49 %   จริง    หน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่แล้วไม่ออกมาทำหน้าที่คัดค้าน    คงต้องโดนเชือดหมดแล้วล่ะ   ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่     อยากรู้จริง ๆ ว่าเคสของ  DTAC  นั้น  ผู้ถือหุ้นใหญ่คือกลุ่มเบญจรงคกุล   ขายออกไปทั้งหมดเท่าไหร่กันแน่   จะเปรียบเทียบก็คงต้องยกเอารายละเอียดทั้งหมดมาพูดถึงนะ   ไม่ใช่กั๊กแค่ท่อนเดียวว่าขายเหมือนกันแล้วทำไมไม่โดนคนต่อต้านมาเทียบกัน จากคุณ : ลมรำเพย (Felix) - [ 20 ก.พ. 49 20:43:30 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เค้ากำลังดูเรื่องสัญชาติบริษัท ผมไม่แน่ใจนะครับ ขอดูสัญญาสัมปทานตัวจริงกันอยู่ จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 20 ก.พ. 49 22:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 39 คุณ : TSC ถ้าคุณทักษิณ เป็นนักธุรกิจธรรมดา คงไม่มีใครว่าครับ แต่มาตรฐานของ รัฐมนตรี หรือนายก มันค้ำคอครับ จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 20 ก.พ. 49 22:22:24 ]

ความคิดเห็นที่ 40 จขกท  kit1970 เจริญแบบ ตามก้นเขา หรือครับที่คุณภูมิใจ ? เก็บสัญชาตญานทาสไว้คนเดียวก็ได้ไม่ว่ากัน จากคุณ : ZEAZ - [ 20 ก.พ. 49 22:41:21 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ Can ว่าแล้วไง พอสิ่งที่เขาทำมันเหมือนกับคนอื่นๆ สุดท้ายก็ต้องลมพัดหวนกลับมาจบ ตรงคำว่า "นายก" กับ "จริยธรรม" ถึงได้ถามว่า "จริยธรรม" มันเป็นรูปธรรมพอ ที่จะตัดสินคนโดยไม่ต้องอาศัย "กฎหมาย" กันแล้วหรือ อ่ะ...แล้ว case ต่อไปนี้ล่ะ อดีตนายกคนหนึ่ง เคยเซ็นอนุมัติขายโรงกลั่นแห่งหนึ่ง ในวันสุดท้ายของการรักษาการ อดีตรมต.คนหนึ่ง เคยมีปัญหาเรื่องหุ้นสหกรณ์ ผู้ว่าฯ ถูกตรวตสอบพบความผิด ยังไม่ยอมออกจากตำแหน่ง ซ้ำโบ้ยไปให้ลูกน้องผู้หญิงเป็นแพะ แล้วพยายามกล่าวหาโยงไปถึงคนโน้นคนนี้ (ผู้ว่าฯ ก็ถือว่าเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเหมือนกัน) 3 Case ข้างบน เข้าข่ายผิดจริยธรรมหรือไม่ ? ...................................... คุณ Felix กรณี DTAC เขาพูดกันในส่วนของการซื้อขายหุ้น ที่มีลักษณะเดียวกันกับที่ชินขาย ไม่เกี่ยวกับต่างชาติถือหุ้น แต่ตอนนี้เมื่อกฎหมายเปิดให้ต่างชาติถือได้มากขึ้น คิดว่าก็คงจะมีการเปลี่ยนแปลงในเร็วๆ นี้ Ture เองก็กำลังเจรจากับต่างชาติ ล่าสุดมาเลย์ก็เข้ามาซื้อหุ้นของสามารถไป แม้แต่ธนาคารหลายแห่ง ก็กำลังคุยกับต่างชาติเช่นกัน ข้อมูลเรื่องดังกล่าวข้างต้น ติดตามอ่านได้จาก settrade.com จากคุณ : TSC - [ 21 ก.พ. 49 11:10:26 ]

ความคิดเห็นที่ 42 มันอยู่ที่ว่าเราอยู่กับอดีตหรือปัจจุบัน หากตอบได้ในสภา สามารถพูดให้ประชาชนเข้าใจ คงไม่มีปัญหา แต่หากตอบไม่ได้ ไม่ชัดเจนหรือซับซ้อนเกินกว่าชาวบ้านจะเข้าใจ บาปหนักตกแก่นายกแน่นอนครับ จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 21 ก.พ. 49 15:05:35 ]

ความคิดเห็นที่ 43 จริงๆ ลืมอีกคนหนึ่ง อดีตนายก ที่นั่งอยู่ในตำแหน่งหลายเดือน โดยไม่มีฝ่ายค้าน เหมือนรัฐบาลเผด็จการที่ไม่ต้องมีฝ่ายค้าน แต่ก็ยังไม่ยอมยุบสภา นั่งไปจนหมดวาระ แบบนี้ถือว่ามีความชอบธรรมหรือจริยธรรมไหม แล้วกรณีผู้ว่าฯ ก็เป็นเรื่องปัจจุบัน แต่ทำไมไม่มีใครไปโวยวายกัน ซึ่งเราตั้งข้อสังเกตไว้เองว่า เป็นเพราะ... 1. ผู้ว่าฯ ไม่ใช่ "นายก" 2. ผู้ว่าฯ อยู่คนละพรรคกับรัฐบาล และ 3. ผู้ว่าฯ เป็นคนของพรรคที่ใครๆ ก็(หลง)คิดว่าอยู่พรรคนี้ ต้องดีทุกคน ก็ขนาดตัวเองทำผิดแท้ๆ แต่โยนไปให้คุณหญิงเป็นแพะวางยา จากผู้หญิงที่หลายคนชื่นชม กลายเป็นถูกมองว่าเธอวางยาผู้ว่าฯ จริง เพียงเพราะไปมีเรื่องกับคนในพรรคคนดี๊ดีเท่านั้นเอง ไม่ผิดเลยกับสโลนแกน...เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น อุ๊ย! แค่จะยกตัวอย่างเปรียบเทียบ ว่าคนไทยบางส่วนทำไม double standard กันได้ถึงเพียงนี้ ไม่ได้คิดว่าพรรคนั้นดีพรรคนี้เลวนะจ๊ะ แต่จะบอกว่า พฤติกรรมมันก็เหมือนกันหมด ต่างกันตรงที่ ภาพพจน์ใครดีกว่าเท่านั้น เพราะยังมีคนที่ชอบมองคนอื่นจากภายนอก แต่ไม่มองเข้าไปลึกๆ ว่า สิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่เขาทำ เจตนาเป็นอย่างไร เหมือนการรับข่าวสารนั่นแหละ รับมาปุ๊บ เชื่อปั๊บ ไม่มีการกลั่นกรองว่า จริงหรือมั่วชัวร์หรือไม่ สักนิดเดียว แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 49 16:25:18 จากคุณ : TSC - [ 21 ก.พ. 49 16:23:45 ]

ความคิดเห็นที่ 44 แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 49 09:03:56 จากคุณ : Pom.com - [ 21 ก.พ. 49 16:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คุณ  TSC ลองเขียนเป็นตารางเทียบกันให้ชัดน่าจะดีนะ   ระหว่างการขาย  DTAC  กับ  ชินคอร์ปน่ะ   คงจะเห็นอะไรได้ชัดขึ้นว่าเหมือนกันจริงหรือเปล่า   การขายของ  DTAC  มีเส้นทางวกวนว่าหุ้นอยู่ตรงนั้นตรงนี้แล้วไปดึงออกมาเพื่อที่จะขายแบบเดียวกับชินคอร์ปหรือเปล่า    การขายของ  DTAC  ขายโดยบุคคลธรรมดาแล้วไม่ต้องเสียภาษีตรงนี้ทุกคนก็คงยอมรับว่าเป็นเช่นนั้นแบบเดียวกับชินคอร์ป   แต่การขายไม่ต้องไปดึงจากที่ซุกนอกประเทศมาขายแบบชินคอร์ปนี่คือข้อแตกต่างใช่หรือไม่    คิดว่าการเปรียบเทียบคงต้องยกมาทั้งหมด   ไม่ใช่อ้างแต่เพียงบางขั้นตอนแค่ว่า  ขายโดยบุคคลธรรมดาแล้วไม่ต้องเสียภาษีเหมือนกันแค่นั้น    ข่าวทั้งหมดของการขายทั้งสองรายก็มีรายละเอียดใน นสพ. อยู่แล้ว   คงเทียบกันได้ไม่ยากนะ จากคุณ : ลมรำเพย (Felix) - [ 21 ก.พ. 49 19:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 46 คุณ Felix ก็ใช่ไง ที่เขายกตัวอย่าง DTAC ก็เฉพาะในส่วนของการซื้อขายไม่เสียภาษีเท่านั้น ซึ่งตอนแรกๆ ครอบครัวนายทักโดนกล่าวหาว่าซื้อขายหุ้นแล้วไม่ยอมเสียภาษี พร้อมยกตัวอย่าง DTAC และเจ้าอื่นๆ ที่ขาย แม้แต่ของนายกลอนเอง ก็ไม่มีใครเสียภาษี พร้อมยกกฎเกณฑ์มาให้ดู ข้อหาซื้อขายหุ้นไม่เสียภาษีก็ตกไป แต่คนที่มันรับข่าวสารในช่วงแรก มันเข้าใจไปแล้ว ว่าตระกูลเขาไม่เสียภาษี ขนาดมีคนส่ง sms มาว่า ไม่อยากนับชาม เอาเข้ากลต.ซิ คือเขาจะบอกว่า เอาเข้าตลาดหุ้น แต่เขาไม่รู้เรื่องหุ้น ขนาดกลต. ตลท. ยังแยกไม่ออก แล้วนับประสาอะไรกับคำที่เข้าใจง่ายๆ ว่า ไม่เสียภาษี เขาเชื่อไปแล้วว่า ตระกูลนี้ไม่เคยเสียภาษีอะไรเลย แต่คนที่ออกมาว่าเขาไม่พูดให้หมด ไม่พูดให้เคลียร์ ว่าภาษีที่ว่ามันคืออะไร มันกี่อย่าง อย่างไหนเสียไม่เสีย ไม่มีใครพูด สื่อก็ไม่พูด แต่เหมารวมเลย คนนี้ไม่เสียภาษี ก็จนเมื่อเรื่องไม่เสียภาษีตกไปนั่นแหละ เลยพยายามไปขุดคุ้ยเรื่องอื่นๆ ขึ้นมา เพื่อพยามต่อจิ๊กซอว์ให้ได้ว่าเขา "เลี่ยงภาษี" จริง จากคำว่า "ไม่เสียภาษี" กลายเป็น "เลี่ยงภาษี" แทน แต่เราก็ไม่ได้บอกว่าเขาทำผิดหรือถูก ใครผิดใครถูกก็ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบให้ชัด เพราะเราเชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นจริง แต่จะยังไม่เชื่อในสิ่งที่เขาเล่าว่า โดยเฉพาะสิ่งที่ยังเป็นแค่ข่าวในนสพ. แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 49 11:40:56 จากคุณ : TSC - [ 22 ก.พ. 49 11:39:02 ]