ตอนที่๑..
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4100709/P4100709.html
ตอนที่๒..
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4101737/P4101737.html
ตอนที่๓..
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4104268/P4104268.html
ตอนที่๔..
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4107267/P4107267.html
ตอนที่๕..
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4110093/P4110093.html
ตอนที่๖..
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4115916/P4115916.html
ตอนที่๗..
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4120347/P4120347.html
.........................................
๘) ทุจริต..คอรัปชั่นเชิงนโยบาย..ผลประโยชน์ทับซ้อน
ตลอดระยะเวลาห้าปีของรัฐบาลทักษิณ มีผู้คนทุกหมู่เหล่า ทั้งสามัญชน นักวิชาการ สื่อมวลชน องค์กรอิสระ และแม้แต่ผู้แทนพระองค์ ออกมาพูดเรื่องคอรัปชั่นในรูปแบบต่างๆ ของรัฐบาล เป็นระยะๆ อย่างสม่ำเสมอ
แต่..
ไม่มีเลยแม้แต่ครั้งเดียวที่นายกทักษิณ ออกมายอมรับว่า ขณะนี้คนในรัฐบาลกำลังกินบ้านกินเมือง และรีบหาทางแก้ไข กำจัดให้พ้นไปจากสังคม
คำพูดที่ได้ยินเป็นประจำจากปากของท่านนายกเมื่อมีคนกล่าวถึงเรื่องนี้ขึ้นมาคือ..
"ไม่มี" "ไม่จริง" "เป็นเรื่องของคนไม่เข้าใจ" "พวกไม่สร้างสรรค์" "เป็นการเข้าใจผิด"
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้หลายปี ท่านเคยบอกกับประชาชนเองว่า จะจัดการกับคนที่ทุจริตคอรัปชั่นทันที ไม่ต้องมีใบเสร็จ
พิจารณาดูแล้ว นายกทักษิณ น่าจะมีความบกพร่องอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้..
๑/ ไม่รู้จักความหมายที่ถูกต้อง แท้จริงของคำว่า คอรัปชั่น
๒/ เคยทำด้วยตัวเองมาเป็นนิจ เลยคิดว่า การกระทำเช่นนั้น.."ใครๆ ก็ทำกันทั้งนั้น"
๓/ ไม่กล้าจัดการ กลัวผลกระทบที่จะเกิดกับตำแหน่งนายกของตน
๔/ เป็นการกระทำที่จำเป็นต้องสนับสนุนเพื่อให้ตนเองและลูกน้องมีรายได้ โธ่..นักลงทุนมีหรือไม่ต้องการผลตอบแทน
ดังนั้น..
จึงพบว่า ในรอบห้าปีที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่ประกาศสงครามกับคอร์รัปชั่นไปสองรอบ แต่กลับพ่ายแพ้สงครามอย่างไม่เป็นท่า ไม่ปรากฏเลยว่า คนไทยรักไทยได้กระทำการทุจริต เป็นมาเฟีย ค้าอาวุธ รีดไถ
ช่างเป็นพรรคที่ใสสะอาดบริสุทธิ์เสียนี่กระไร ทั้งๆ รับเข้ามาโดยไม่ได้กลั่นกรองเรื่องคุณงามความดีเลย
มาดูกันนะครับว่า ในรอบห้าปีที่ผ่านมา มีอะไรจะ ๆ ชัด ๆ ในเรื่องของการทุจริต..คอรัปชั่น..ผลประโยชน์ทับซ้อน แต่ท่านนายกละเลยที่จะจัดการบ้าง
๑) ทุจริตโครงการโคพระราชทาน ของนายชูวิทย์ กุ่ย หลักฐานคือ ฟาร์มรับซื้อและจำหน่ายของน้องสาว
๒) ทุจริตลำใยอบแห้ง ตอนนี้ท่านเสรีดำเนินการเอาผิดอยู่ เป็นปลายแถว คือ ข้าราชการระดับท้องถิ่น และเกษตรกร แต่คนที่เปิดสัญญา คนที่อยู่เบื้องหลังบริษัทปอเฮง กลับไม่สามารถเอาผิดได้เลยสักคน
สัญญาระหว่างอตก.กับปอเฮง มันผิดสังเกตตั้งแต่คุณสมบัติเริ่มต้นแล้วครับ เพราะจ้างเอกชนอบลำใยสดให้อตก. แต่เอกชนรายนี้ไม่มีแม้แต่ "เตาอบ" ของตนเอง
ถ้าย้อนไปดูว่า ใครเป็นคนที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ประธานบอร์ดอตก. นายบรรพต หงส์ทอง(ปลัดกท.เกษตรฯ) อืมม์..นี่ครม.แต่งตั้งกับมือ แล้วใครเป็นเจ้ากระทรวงในขณะนั้น อ๋อ..สมศักดิ์ เทพสุทิน อ้าว..เจ้าเก่าที่ถูกเด้งไปอยู่กท.แรงงาน(เล็กลงถนัดใจ หรือ นี่จะเป็นการลงโทษที่เด็ดขาดที่สุดของท่านนายก)
อย่างที่นายอนันต์ ดาโลดม ประธานคณะอนุกรรมาธิการการเศรษฐกิจด้านพาณิชย์ วุฒิสภา ตั้งข้อสังเกตุ ไว้อย่างน่าสนใจว่า กระบวนการทุจริตโครงการแทรกแซงลำไยปี 2547 ไม่น่าจะเกิดขึ้นเฉพาะข้าราชการระดับปฏิบัติงาน เพราะโครงการนี้เป็นนโยบายของรัฐบาล ผู้กำหนดนโยบาย ผู้สั่งการ น่าจะมีส่วนรับผิดชอบทั้งหมด
๓) อมเงินวัด
โถ..ชัดเจนออกอย่างนั้น เจ้าอาวาสท่านเปลืองตัวออกมาแฉ นายกยังแก้ต่างให้ลูกพรรคว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน เอาเงินไปคืนวัดก็สิ้นเรื่อง
(ที่ผมยกกรณีเล็กๆ ข้างต้นขึ้นมาก่อนกรณีใหญ่ ก็เพื่อจะแสดงให้เห็นว่า "ขนาดเล็กๆ ยังไม่แตะ แล้วใหญ่ๆ จะกล้าเหรอ")
ครับ..ง่ายดี วิธีการจัดการกับคนผิดของท่านนายก ต่อไปพวกโจรกรรมของชาวบ้านจำไว้ให้ดีนะครับ จับไม่ได้..ก็สบายตัวไป จับได้ ให้เอาของกลางไปคืน แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง
๔) สุวรรณภูมิ..ซีทีเอ๊กซ์
ขอเอาซีทีเอ๊กซ์ก่อนนะครับ
จำได้ว่า ตอนที่เรื่องนี้ปูดขึ้นมา นายกไปต่างประเทศ พอลงจากเครื่องบิน ท่านกล่าวทันที "ผมตรวจสอบทางลับ ไม่เป็นความจริง" โอ้..ญาณวิเศษจริงๆ ไม่ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหาข้อเท็จจริง แค่บอกว่า ได้ส่งคนไปสืบทางลับก่อนหน้าแล้ว
แล้วทำไมข้อมูลที่สืบ กับข้อมูลที่อภิปรายในสภามันจึงแตกต่างกัน หรือว่า ท่านเห็นว่า บริษัท คออเตอร์เทคฯ ไม่ได้ผิดคุณสมบัติ บริษัท แพทริออต (จัดตั้งในสิงคโปร์เจ้าเก่า) ไม่มีเงื่อนงำน่าสงสัย ทำไมทางการไทยจ่ายเงินไปง่ายๆ เป็นพันล้านบาทโดยไม่ต้องเห็นของ
พอเกิดเรื่องฉาวขึ้นมา รัฐบาลซื้อตรงแต่ราคาเท่าเดิม
ป่านนี้ ยังไม่สามารถเอาผิดกับใครได้เลยสักคนเดียว ทั้งๆ ที่มีการจ่ายเงินจ่ายทองกันไปแล้ว
ถ้านี่เป็นมาตรฐานการตรวจสอบของท่านนายก ผมว่า เราอย่าทำสงครามปราบคอรัปชั่นเลยครับ เพราะทีมปราบมันก็คือ โจรที่จะต้องถูกปราบ
เรื่องทุจริตงานก่อสร้างและตกแต่งอาคารจอดรถ ที่เกี่ยวพันกับน้องสาว(อีกคน) ของท่านนายก
ขณะนี้เรื่องดำเนินการอยู่ในชั้นศาล จริงเท็จอย่างไรผมไม่พูดถึง แต่อยากให้สังเกตวิดิโอทั้งสองภาคของนายลัทธพลให้ดีๆ นะครับ ประชาชนเห็นก็รู้ว่า อะไรของแท้อะไรของเทียม
ส่วนเรื่องเปลี่ยนชื่อและลายเซ็นต์ที่แตกต่างในหนังสือเอกสาร ถ้านายกทำธุรกิจมาจนเป็นระดับเซียนเหยียบเมฆ ย่อมรู้ดีว่า การมีสองลายเซ็นต์เพื่อเฉไฉการฟ้องร้องเอาผิดอย่างไร นี่เป็นข้อสังเกตประเด็นแรก
ประเด็นที่สอง นางเยาวเรศรู้จักเขาในชื่อที่ติดต่อกันว่าอะไร ถ้าเขาเปลี่ยนชื่อไปแล้ว เขาควรจะใช้ชื่อใหม่ในการติดตามหนี้เก่าหรือไม่?
๕) แปรรูปสัมปทานมือถือ
เรื่องนี้เป็นมหากาพย์ที่ชนรุ่นหลังในแวดวงการศึกษาจะต้องนำไปประกอบการเรียนในตำรา และจะมีวิทยานิพนธ์ของนศ.ในระดับปริญญาโทและเอกทำเรื่องนี้อย่างแน่นอน
นายกมักอ้างว่า (ตอนนี้อ้างบ่อยมาก) ทำทุกอย่างตามกติกา ไม่เคยทำผิดกฎหมาย
ก็ในกรณีสัมปทานมือถือเนี่ย กติกาเดิมที่ทำไว้กับการสื่อสารคือ สัมปทานมือถือจะหมดลงในปี ๒๕๔๘ อุปกรณ์ เสาอากาศต่างๆ ที่เอกชนลงทุนไป(มูลค่ากว่า ๘ หมื่นล้านบาท) จะต้องตกเป็นของรัฐทันที
นั่นคือ กติกาที่ลงนามกันไว้ทั้งสองฝ่ายมากว่า ๒๐ ปีแล้ว
จู่ๆ ท่านและครม.มาฉีกกติกา อ้างเพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรมและเสรี สั่งแก้ไขกม.ใหม่ ยกเลิกสัมปทานเดิม ให้จ่ายค่าตอบแทนเป็นภาษีสรรพสามิต
ไอ้แข่งขันอย่างเป็นธรรมและเสรี ผมไม่ว่าครับ แต่กฎหมายต้องไม่ผูกพันสัญญาเดิมที่กระทรวงคมนาคมทำไว้กับเอกชนสิครับ เรายกเว้นเป็นกรณีได้หากเห็นว่า จะทำให้ประเทศชาติเสียประโยชน์จำนวนมหาศาล
ตั้งแต่ตั้งกท.ไอซีทีขึ้นมา ผลงานโบว์ดำชิ้นแรกและชิ้นเดียวของกระทรวงนี้ก็งานนี้แหละ ตอนนี้แว่วว่า จะยุบแล้วไปรวมกับกท.อื่น ก็โถ..ประโยชน์ของมันมีแค่นั้น
๖) บริษัทฮาว คัม ของลูกโอ๊ค
ท่านนายกจะอ้างว่า ลูกๆ โตแล้ว และมีความสามารถในการดำเนินธุรกิจเอง
แต่การได้งานของรัฐบาลที่มีพ่อเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ผมว่า นายกต้องเก็บไปคิดนะครับว่า นี่เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่
สมมุติผมเป็นนายกบ้าง ไม่ต้องใช้ลูกล่ะ เอาคนรับใช้ที่บ้านไปตั้งบริษัทขึ้นมา ผมโยนงบประมาณไปก้อนหนึ่งให้ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์งานของรัฐ บริษัทคนรับใช้นั้นดันได้งานหลังจากยื่นซองประกวดราคาแข่งกับเอกชนหลายคน
มีใครจะด่าผมไหมครับว่า เอื้อคนใช้ตัวเอง?
ที่ผมกำลังจะบอกคือ..
สิ่งต้องห้ามของจริยธรรมของผู้นำ คือ ต้องไม่มีคนใกล้ชิดไม่ว่าจะเป็นลูก หรือแม้กระทั่งคนรับใช้มาประมูลงานของรัฐแข่งกับเอกชน
ไม่งั้นมันอ้างความบริสุทธิ์ ยุติธรรมไม่ขึ้นหรอกครับ อ้างได้แต่คนภายนอกเขาไม่เชื่อถือ
ลูกหาบหลายๆ คนจะมาแย้งว่า..อ้าว แล้วลูกๆ เขาทำธุรกิจมั่งไม่ได้เหรอ?
ตอบว่า..ได้ครับ มีเสรีภาพในการประกอบธุรกิจโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่เมื่อพ่อเป็นนายกรัฐมนครี เป็นคนที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติงบประมาณของประเทศทั้งหมด
ลูกๆ ที่..อยากให้พ่อเล่นการเมืองอย่างสบายใจ ไม่ต้องมีข้อครหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ก็ควรเป็นลูกกตัญญู ไม่อยากให้พ่อถูกด่า ก็ไม่ควรเข้าไปข้องแวะกับโครงการของรัฐนะครับ
เพราะถ้านายกบอกว่า ทำได้ ไม่ผิดกฎหมายอะไร
งั้นก็เฮโล..กันไปให้หมดโคตรเลยดีไหมครับ พี่เขย น้องเมีย พี่เมีย น้องสะใภ้ น้องสาว(หลายคน) พี่ชาย น้องชาย ลูกชาย แฟนของลูก
เอามามะรุมมะตุ้มงบของรัฐให้หมดทุกโครงการเลย อ้างได้ว่า นายกไม่มีหุ้นอยู่นี่นา ไม่เกี่ยวกับนายก
ถูกกฎหมายแต่หน้าด้าน เลือกเอาเองก็แล้วกัน
...........
ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นตัวอย่างคร่าวๆ ในรอบห้าปีที่ผ่านมา ยังมีอีก มีอีกเยอะมากๆ ไม่สามารถกล่าวได้จบในสามวันสามคืนได้
แม้แต่การซื้อเครื่องบินส่วนตัว ยังสามารถเอามาเป็นประเด็นได้เลยครับ ทั้งในเรื่องของ ผลประโยชน์ทับซ้อน และทุจริตเชิงนโยบาย
อยู่ที่ต่อมสำนึกในคำว่า ทุจริต ของท่านนายกรัฐมนตรีว่า อ่อนไหว หรือ ด้านหนาเพียงใด
แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 49 08:45:49
จากคุณ :
*bonny
- [
21 ก.พ. 49 08:54:25
]