ความคิดเห็นที่ 11
อันนี้ของจริง ช่วยเขาก๊อบมาให้ดูจะได้เลิกแกล้งโง่
นายคณวัฒน์ วศินสังวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวแสดงความเห็นกรณีที่มีความพยายามจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่จะสร้างความเข้าใจผิดให้กับผู้คนในสังคม โดยนำประเด็นการขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น(มหาชน)จำกัด ให้กับกองทุนเทมาเส็กมาบิดเบือนว่าเป็นการขายทรัพยากรและสมบัติของประเทศชาติโดยเฉพาะในส่วนคลื่นความถี่โทรศัพท์เคลื่อนที่และตำแหน่งวงโคจรดาวเทียม ซึ่งสร้างความสับสนเป็นอย่างมากให้ผู้คนในสังคม โดยนายคณวัฒน์ วศินสังวร กล่าวว่า การดำเนินการกิจการโทรคมนาคมทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นการดำเนินการบนหลักการของสัญญา BTO (Build Transfer and Operate) กล่าวคือคลื่นความถี่โทรศัพท์มือถือและตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมเป็นสมบัติของประเทศชาติมาโดยตลอด บริษัทเอกชนที่เป็นคู่สัญญาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น AIS, TT&T(Fixed Line), True Move (Fixed Line) ซึ่งเป็นคู่สัญญากับบริษัท ทีโอที (มหาชน) จำกัด และ DTAC, True Move, DPC ซึ่งเป็นคู่สัญญากับ บริษัท กสท โทรคมนาคม (มหาชน) จำกัด และ บริษัท ชินแซทเทิลไลท์ (มหาชน) จำกัด ซึ่งเป็นคู่สัญญากับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ลงทุนแล้วส่งมอบทรัพย์สินเหล่านั้นให้เป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐในทันที โดยเอกชนผู้ลงทุนเหล่านั้นได้รับสัมปทานสิทธิ์ในการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ลงทุนเหล่านั้นแทนรัฐบาลภายใต้เงื่อนไขในสัญญาร่วมการงาน โดยต้องนำส่งส่วนแบ่งรายได้และเสียภาษีให้กับรัฐบาลตลอดอายุสัมปทาน ซึ่งรัฐบาลนอกจากจะเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในคลื่นความถี่และตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมแล้ว ยังได้รับผลตอบแทนดังนี้ คือ 1. มูลค่าสินทรัพย์ที่ลงทุนตามสัญญาทั้งหมด 2. ส่วนแบ่งรายได้ตลอดอายุสัญญาสัมปทาน 3. ภาษีสรรพสามิตและภาษีเงินได้นิติบุคคล
นายคณวัฒน์ กล่าวในตอนท้ายว่าการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นไม่ว่าในกรณีใดๆ ก็ตามไม่มีผลให้เงื่อนไขในสัญญาร่วมการงานเปลี่ยนไป บริษัทเอกชนซึ่งเป็นนิติบุคคลไทยตามสัญญายังคงต้องปฏิบัติการเงื่อนไขสัญญาร่วมการฉบับเดิมอย่างเคร่งครัด โดยกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทั้งหมดรวมทั้งคลื่นความถี่และตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมเป็นของรัฐมาโดยตลอดไม่มีใครจะเอาไปได้
จากคุณ : ขนมต้ม - [ 23 ก.พ. 49 16:36:45 ]
จากคุณ :
bergbaan
- [
23 ก.พ. 49 19:31:53
]
|
|
|