ความคิดเห็นที่ 1 ทำอะไรตามใจไม่ได้หรอกครับ ทางเลือกมันมีแล้ว และบังคับว่าต้องเลือกทางนี้เท่านั้น จารีตค้ำคอ กงล้อประวัติศาสตร์ ทำไม "พล.อ.เกรียงศักดิ์" ต้องลาออก ! "ไม่มีมูลหมาไม่ขี้" คำโบราณแบบไทยๆ ว่าไว้แบบนั้น ดูเหมือนว่า คำโบราณที่ว่า ยังเข้ากับสถานการณ์บ้านเมืองในภาวะปัจจุบัน ทั้งข่าวยุบสภา ตั้งแต่คืนวันพุธ มาจนกลางดึกวันพฤหัสบดี ในทำนองว่า "ท่านผู้นำประเทศ" ได้ยกร่างกฤษฎีกา "ยุบสภา" เรียบร้อยแล้ว ทั้งข่าว นายกรัฐมนตรีตัดสินใจลาออก หลังจากถูก "สังคมทุกฝ่าย" บีบให้พ้นการเป็นผู้นำประเทศ ทางเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่าง "ยุบสภา" และ "นายกรัฐมนตรีลาออก" จะต้องเกิดขึ้นก่อนวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2549 แน่ ข่าวเหล่านี้ ถูกโหมกระพือ จนไม่รู้ว่าข่าวไหนเท็จ ข่าวไหนลวง หรือข่าวไหนจริง "นักประมวลข่าวสารของบ้านเมือง" ไล่เรียงสถานการณ์ตลอดวันพฤหัสบดีแล้ว ยังรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าหารือกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดี ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ อย่างปัจจุบันทันด่วน ไม่มีหมายล่วงหน้า ด้วยเรื่องอะไร ? แล้วทำไมในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี ยังเข้าพบ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านพิษณุโลก ด้วยเล่า ? ทั้ง 2 ปรากฏการณ์นี้ ดูเหมือนจะทำให้ "คนการเมือง" และข้าราชการประจำ วิ่งวุ่นเช็คข่าวกันจ้าละหวั่น บ้างก็ว่า ทักษิณ ต้องยุบสภาแน่ บ้างก็ว่า ทักษิณ เลือกลาออก "กุนซือสมองเพชรในไทยรักไทย สายคนเดือนตุลา" บอกกล่าวกับ "ดาร์กนิวส์" ว่า การเมืองตอนนี้ตีบตันแล้ว ทางเลือกของ นายกรัฐมนตรี มีไม่มากนัก หากเลือกที่จะสู้ นั่นหมายถึงก่อน 26 กุมภาพันธ์ จะไม่มีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงทางการเมือง บั้นปลายอาจหมายถึงการนองเลือด แต่ถ้า นายกรัฐมนตรี เลือกรักษาระบบ เหมือนเมื่อครั้งที่ พล.อ.ชวลิต ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2540 บางที... การลาออกจากตำแหน่ง ก่อนวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ประเทศก็จะไม่บอบช้ำ ที่สำคัญ คือ "ทักษิณ" ยังจะมีแผ่นดินอยู่ ลึกๆ แล้ว "กุนซือสมองเพชรในไทยรักไทย" อยากให้จุดเปลี่ยนของประเทศ ออกมาในรูปของ "การลาออก" มากกว่า ที่จะ ยุบสภา หรือดันทุรังสู้ แม้ในทางการเมือง คำว่า "ลาออก" อาจไม่ต่างกับคำว่า พ่ายแพ้ แต่การ"ลาออก" น่าจะเป็นทางเลือกทางเดียว ในสถานการณ์ขณะนี้ ที่จะทำให้ตัวนายกรัฐมนตรีและครอบครัว ยังอยู่ในสังคมไทยได้... เพียงแต่เหตุผลเดียวที่ "กุนซือสมองเพชรสายคนเดือนตุลา" เห็นว่าทางเลือกนี้เป็นทางเดียวที่จะรักษาระบบ รักษาประเทศ และรักษาสถานภาพทางสังคมของทักษิณ และครอบครัวไว้ได้ นั่นคือ ประวัติศาสตร์การเมือง เมื่อปี 2521 อันเป็นยุคสมัยที่ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมตรี แทนการ "ยุบสภา" กงล้อการเมืองยุคนั้น รัฐบาล พล.อ.เกรียงศักดิ์ ได้รับเสียงสนับสนุนจากทั้ง 2 สภา โดยเฉพาะสภาสูงที่มาจากการแต่งตั้ง มีกำลังกองทัพเป็นแรงหนุนสำคัญ มี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กับ พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีอำนาจทางความคิดในขณะนั้น ร่วมขบวนด้วย แต่รัฐบาล "แกงเขียวหวานใส่บรั่นดี" ก็ต้องประสบกับวิกฤติปัญหาราคาน้ำมันแพง จนต้องยอมลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทว่า ก่อนที่ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ลาออก มีเรื่องราวที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น พล.อ.เกรียงศักดิ์ ไม่ได้ตัดสินใจลาออกแต่แรก เขาเลือกแนวทาง "ยุบสภา" ก่อน เรื่องราวทางประวัติศาสตร์นี้ "ดาร์กนิวส์" ได้รับการเปิดเผย จากคนใกล้ชิดที่ทำงานกับ พล.อ.เกรียงศักดิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า "ในช่วงเวลานั้น หากยุบสภาได้ และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ พล.อ.เกรียงศักดิ์ กลับเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีแน่ แต่ที่ไม่สามารถยุบสภาได้ เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็หาความผิดของฝ่ายนิติบัญญัติที่จะนำมาใช้เป็นเหตุผลอ้างอิงไม่ได้ สุดท้าย พล.อ.เกรียงศักดิ์ต้องยอมล่าถอยออกจากตำแหน่ง โดยมีตัวแปรสำคัญคือ กองทัพที่เคยหนุนหลังประกาศถอนตัว โดยเฉพาะ พล.ต.จำลอง กับ พล.ต.มนูญกฤต" จริงอยู่ที่การยุบสภาถือเป็นเรื่องปกติของการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยที่พรรครัฐบาลสามารถกระทำเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในการจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ได้ โดยอาศัยความเป็นรัฐบาลรักษาการในการสร้างความชอบธรรมให้กลับเข้ามาบริหารประเทศได้อีกครั้ง อนึ่ง รัฐธรรมนูญมาตรา 116 บัญญัติว่า พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจที่จะยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ การยุบสภาผู้แทนราษฎรให้กระทำโดยพระราชกฤษฎีกา ซึ่งต้องกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน เมื่อความผิดพลาดเกิดขึ้นเฉพาะบุคคล หนทางที่จะแสดงความรับผิดชอบก็คือ ผู้บริหารที่กระทำผิดพลาดนั้นจะต้องลาออกแต่เพียงผู้เดียว และสถานเดียวด้วย ฝ่ายนิติบัญญัติ หรือรัฐสภา ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือมีความผิดร่วมแต่ประการใด ประวัติศาสตร์การเมือง เมื่อปี 2521 ชัดเจนอยู่แล้ว กลับไปพลิกอ่านกันเอาเอง !!! นักข่าวหมายเลข 10 http://www.darknews.net/2006/02/24/newsp1_406.php จากคุณ : Ultimas - [ 24 ก.พ. 49 02:31:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กระทู้เปิดโหวตก็ส่วนหนึ่งนะครับ ผมเองก็พยายามจะกลางๆ ไม่เอียงไปทางรัก หรือชัง.. วันนี้ประเทศไทยเรามีปัญหามากนะครับ คนแต่ละภาคส่วน มีประเด็นการมองปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นแตกต่างกัน แต่แปลกมั้ย ที่วันนี้.. ไม่ว่าจะภาคส่วนไหนๆ ต่างชูธง ว่าตนเองรักและกำลังปกป้องประเทศไทย ทุกคนต่างบอกว่า เรารักในหลวง.. ปีนี้ เป็นปีที่ในหลวง พระจ้าอยู่หัวของเรา ครบรอบขึ้นครองราช 60 ปี .. มีแขกบ้าน แขกเมือง ระดับประมุขของนานาประเทศทั่วโลก ทั้งกษัตริย์ ประธานาธิปดี ..ชาวโลกมาถวายพระพรพระเจ้าอยู่หัวของเราถึงบ้าน ยกย่อง เชิดชูเกรียติ พ่อหลวงของเราทุกๆ คน แต่ทำไม คนในประเทศไทยถึงตีกันอย่างนี้.. ถึงตอนนี้ คนที่อ่านมาถึง และเลือกข้างแล้ว จะมีความนึกคิดผุดขึ้นมาในหัวสมอง บางคนอาจจะถึงขั้นเดือดดาล พร้อมที่จะลุกขึ้นอภิปรายโต้แย้ง ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับตนอย่างเผ็ดร้อน ทุกคนชูธงประเทศไทย ทุกคนชูธงว่าเรารักพระเจ้าอยู่หัว ทุกคนชูธงว่าประชาธิปไตย ....แปลกแต่จริง!! คนเกลียดทักษิณ บอกทักษิณขายชาติ คนรักทักษิณบอก ทักษิณช่วยปัดเป่าความยากจน ทั้งคนรักทักษิณและคนเกลียดทักษิณ บอกอีกฝ่ายเป็นกลุ่มคนจัดตั้ง หลายครั้งในภาวะปัจจุบัน ..เราเถียงกันว่าฝ่ายฉันถูก ฝ่ายแกผิด ทำไมเราไม่คิดว่า ..เราต่างก็ถูก ถูกทั้ง 2 ฝ่ายนั่นแหละ.. ไม่ว่าคุณจะรักหรือเกลียดทักษิณ ..เราต่างก็ถูก แ ล ะ เ ร า ต่ า ง ก็ ผิ ด ด้ ว ย  กั น ทุ ก ค น   ทุ ก ฝ่ า ย นั่ น แ ห ล ะ. . เราผิด ที่เราต่างยึดมั่นถือมั่น ในความเห็นของตนเอง และไม่เคารพในความเห็นของผู้อื่น ..นี่คือชนวนของความร้อนแรงทั้งหมด ของการโต้เถียง ขัดแย้งกันในสังคมเราอยู่ทุกวันนี้ เคารพกันหน่อย เราทุกคนมีทั้งถูกและผิด อยู่ด้วยทุกขณะ ความเห็นของเรามีสิทธิ์ถูก ความเห็นของคนอื่นก็มีสิทธิ์ถูกไม่แพ้กัน เพราะการเมือง เป็นเรื่องของแนวคิด มีรากฐานมาจากความคิดเชิงปรัชญา ซึ่งอภิปรัชญาหลักๆ ของโลก ..ก็จะมีด้วยกัน 2-3 แนวคิดหลัก ที่เราจะได้ยินกันบ่อยๆ ได้แก่ 1. จิตนิยม 2. วัตถุนิยม 3. ธรรมชาตินิยม ถ้าเป็นปรัชญาทางเศรษฐกิจ ก็มีอาธิ 1. ทุนนิยม 2. สังคมนิยม เป็นต้น.. เรื่องจริยธรรมก็ถือเป็นภาคส่วนหนึ่งของปรัชญาด้วยเช่นกัน เราน่าจะเปลี่ยน จากการเลือกฝักเลือกฝ่ายทางการเมือง.. หันมาถกเถียงกันในแนวคิดหลักของประเทศชาติกันดีมั้ย ว่าสังคมจะไปทางไหน การเมืองจะไปทางไหน และเศรษฐกิจจะไปทางไหน ผมอยากให้เปลี่ยนการถกเถียงกันหน้าดำคร่ำเครียดในสังคมเรื่องเอา-ไม่เอาทักษิณ เปลี่ยนมาเป็นว่า เราจะให้ประเทศไทยไปทางไหนดีกว่า.. ถกเถียงกันให้หนักๆ ในระดับปรัชญาของประเทศชาติ ว่าเราจะพาประเทศไปทางไหน ในด้านเศรษฐกิจและสังคม ถ้าทุนนิยม จะทุนนิยมแค่ไหน ถ้ามีเสรี จะมีเสรีแค่ไหน ถ้าอยากให้สังคมดี จะส่งเสริมกันยังไง เปิดประเด็นไว้ก่อน.. การเมืองผ่านจุดเขม็งเกลียวแล้ว อยากให้เรา มาจุดประเด็นเรื่องนี้กันหนักๆ คุยกันมากๆ ผลักดันให้มันไปได้ในทางที่ดี.. ..เริ่มจากเศรษฐกิจพอเพียงที่พระเจ้าอยู่หัวพระราชประทานให้ ถ้ามีโอกาส และมีความคิดเห็นดีๆ อยากจะมาชวนคุยกันเรื่องนี้ให้มากๆ ในโอกาสต่อไปครับ.. จากคุณ : ฟังหูไว้หู - [ 24 ก.พ. 49 02:43:14 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คุณ.. คือจุดอ่อน เชิญค่ะ!!! แต่ที่จริงนอกจากตัวนายกเองรัฐธรรมนูญก็มีจุดอ่อน  โดยเฉพาะองค์กรอิสระไม่ทำงาน จากคุณ : (-O-)Koka - [ 24 ก.พ. 49 02:45:31 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ยุบสภาดีกว่า ให้ประชาชนตัดสินอีกที ตามระบอบประชาธิปไตย เสียงส่วนน้อยก็ยอมรับไป อย่าไปตามไอ่ฝ่าย ตรงข้ามรัฐบาลว่าให้ลาออกมากนักเลย บ้า จากคุณ : avidols - [ 24 ก.พ. 49 03:04:02 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าลาออก ก็จะถูกกล่าวหาอีกว่าเป็นเผด็จการรัฐสภา..สส ถูกครอบงำ...ยุบสภาเลยครับ เหตุผลก็เพราะถูกกล่าวอ้างว่าเป็นเผด็จการรัฐสภานั่นแหละ โยนเรื่องนี้กลับไปให้ประชาชนตัดสินใจเถิด ว่าพวกเค้าต้องการอะไรกันแน่ จากคุณ : Sam (หนูถ้ำ) - [ 24 ก.พ. 49 04:57:21 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมไม่รุ้ว่านายกจะจำได้หรือป่าวว่าจะเป็นแค่ 2สมัย จากคุณ : Angleevil - [ 24 ก.พ. 49 06:57:59 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเราปล่อยให้นายกที่ได้มาตามครรลองประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ถูกกฎหมู่และแก๊งข้างถนนกดดันจนไม่สามารถบริหารประเทศได้ ด้วยข้อกล่าวหาซึ่งเป็นแค่คำโกหกตอแล๋เพราะไม่มีหลักฐานสักชิ้น  เราท่านก็คงต้องเตรียมพบกับความหายนะของประเทศ และ เตรียมยกประเทศนี้ให้กับพวกจอมแบล็คเมล์ตอแล๋เก่ง สื่อจิตทรามผู้เสียผลประโยชน์  เครือข่ายยาบ้า ผู้มีอิทธิพลนอกกฎหมาย และเสี้ยนหนามแผ่นดินไปได้เลย เพราะยามใดรัฐบาลที่ทุ่มเททำงานเพื่อประเทศชาติประชาชน แต่ไปขัดผลประโยชน์พวกนี้ พวกมันก็จะรวมตัวกันขับไล่รัฐบาล ด้วยข้ออ้างโกหกตอแล๋ต่างๆนานา แล้วแต่จะสรรหามาตอแล๋ โดยถือหลักว่า ตอแล๋ซ้ำๆบ่อยๆคำโตๆ ย่อมมีคนหลงเชื่อจำนวนหนึ่ง ซึ่งการรวมตัวกันของกากเดนแผ่นดินพวกนี้สักหมื่นสักแสนคน ง่ายดุจพลิกฝ่ามือ   เราจะยอมให้เกิดแบบอย่างอันเลวร้าย ซึ่งจะนำไปสู่การล้มล้างรบราฆ่าฟันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดอย่างนั้นหรือ? จากคุณ : คนไทย (Thai_peo) - [ 24 ก.พ. 49 07:07:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ฝ่ายค้านและฝ่ายแค้นปัญญาอ่อนพวกนี้ เข้าใจจิตวิทยามวลชนดีว่า  การสร้างความสับสนวุ่นวายในบ้านเมืองมากๆ จะทำให้ประชาชนเบื่อหน่าย และส่วนหนึ่งกลายเป็นแนวร่วมเรียกร้องให้นายกลาออก เพราะคิดไปว่า นายกเป็นต้นเหตุของความวุ่นวายทั้งปวง   ความจริงคือ... มันก็เหมือนเด็กดื้อเกเรนิสัยเสีย เอาแต่ใจตัว จะเอาอะไรต้องเอาให้ได้ พอพ่อแม่ไม่ยอมตามใจ มันก็ลงนอนเกลือกกลิ้งทุบอกชกตัวทึ้งผมส่งเสียงโวยวาย เป็นความผิดของพ่อแม่หรือ  ถ้าญาติพี่น้องไม่เข้าใจ หาว่าเป็นความผิดของพ่อแม่ที่ทำให้อับอายขายหน้าชาวบ้าน บอกว่ายอมๆมันไปเถอะ  ก็เท่ากับส่งเสริมให้มันเป็นโจร เสื่อมเสียวงศ์ตระกูลในอนาคตแน่นอน ทางที่ถูกญาติพี่น้องปู่ย่าจะต้องอดทน ยอมขายหน้าชาวบ้านบ้างในตอนนี้ กำหราบเด็กดื้อสันดานพาลให้อยู่หมัด เพื่อไม่ให้มันได้ใจใช้วิธีนี้ในการข่มขู่พ่อแม่เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการร่ำไป ซึ่งย่อมเป็นผลดีต่ออนาคตของเด็กและเกียรติของวงศ์ตระกูล จากคุณ : คนไทย (Thai_peo) - [ 24 ก.พ. 49 07:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ในสถานการณ์เช่นนี้ คนในครอบครัวสามารถปกป้องรักษาครอบครัวให้อยู่รอดได้ โดยการใช้ชีวิตตามปกติธรรมดา  เดี๋ยวมันเหนื่อยและไม่ได้รับความสนใจ มันก็เลิกไปเอง  ที่สำคัญ ต้องคอยดูแลอย่าให้มีญาติพี่น้องคนใดทนรำคาญไม่ได้ไปทำร้ายมันเข้า หรือระวังไม่ให้มันใช้อาวุธทำร้ายตัวเอง เพื่อเรียกร้องความสนใจให้หนักขึ้น หรือระวังไม่ให้มันไปข่มขู่ทำร้ายคนอื่น  แค่นี้ครอบครัวก็อยู่รอดแล้ว จากคุณ : คนไทย (Thai_peo) - [ 24 ก.พ. 49 07:13:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าท่านลาออก ระบบที่อุตส่าห์สร้างกันมาจะเสียไป แล้วเมื่อไรจะเซตรูปร่าง และประดับประดาได้เหมือนเดิม ท่านต้องทน ผมก็ต้องทน คนไทยทุกคนต้องทน ทนเพื่อให้ระบบมันเดินได้ จะได้ไม่มีพวกนอกระบบ พวกสร้างเรื่อง พวกเสียประโยชน์ ที่อยากได้อะไร อยากทำอะไร ก็ยุยงปลุกปั่น สร้างมอบ ผมและเพื่อนอีกหลายคนยืนยันจะอยู่ข้างนายกฯ และนายกจะต้องไม่ลาออก จากคุณ : amt (amt) - [ 24 ก.พ. 49 13:09:04 ]