กรณีการขายหุ้นชินคอร์ปในมือของนายพานทองแท้และนส.พิณทองทาให้กับกลุ่มเทมาเซค โดยอ้างเหตุผลว่า..ต้องการให้พ่อทำงานการเมืองอย่างสบายใจ
ได้กลายเป็นหัวข้อ "ลูกกตัญญู" ในสังคมไปแล้ว เพราะเหตุผลฟังแล้วดูเหมือนว่า ที่ขายธุรกิจของตระกูลให้ต่างชาติไปทั้งหมดนั้น มิได้สืบเนื่องมาจากเหตุผลทางธุรกิจ แต่เป็นเหตุผลของ "ความรักความหวังดีที่ลูกมีต่อพ่อ"
น่าเสียดายที่การกระทำดังกล่าว กลับถูกตอบสนองด้วยข้อกล่าวโทษของคณะกรรมการ กลต. ในสองกระทง คือ ไม่รายงานการซื้อขาย และไม่ทำคำเสนอซื้อตามกฎหมาย
ความจริงถ้าไม่ขายหุ้นเพื่อพ่อ พฤติกรรมความผิดต่างๆ ที่ซ่อนเร้นไว้ก็คงไม่มีใครใส่ใจไปเปิดออกมา
และทำไปทำมา เพราะความหวังดีของลูกนี่แหละ ที่กำลังทำร้ายพ่ออย่างแสนสาหัส เพราะพ่อกำลังจะต้องหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเร็ววันนี้ เพราะการขายหุ้นชินคอร์ปในครั้งนั้น
ส่วนลูกเอง ก็ต้องโดน อย่างน้อยๆ ก็หลายสิบล้านบาท เป็นค่าปรับในการกระทำความผิด
เรียกว่า ความกตัญญู ไม่ส่งผลให้พ่อทำงานการเมืองอย่างสบายใจ และไม่ส่งผลดีของกรรมนี้ให้กับลูกคนนี้เลย
...................
หันมาดูอีกกรณีหนึ่ง..
นายเหยียนปิน หรือ นายชาญชัย รวยรุ่งเรือง
ที่เข้าถือหุ้นใหญ่ (๔๙% ) ในเหมืองแร่โปแตซที่เป็นการร่วมทุนของประเทศในภูมิภาคอาเชียน ที่อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ ในฐานะ "ตัวแทนประเทศไทย"
แถมได้รับการยกย่องจากนายพงศ์ศักดิ์ (เสี่ยเพ้ง) รมว.คมนาคม บอกว่า เป็นการแทนคุณแผ่นดิน ต้องการให้คนไทยได้ซื้อปุ๋ยในราคาถูก
(ผมฟังแล้วน้ำตาจะไหล)
ก่อนหน้านี้ นายเหยียนปิน ก็โผล่มาเป็นที่ปรึกษาประธานรัฐสภา นายโภคิน พลกุล ทีหนึ่งแล้ว
ก็งงกันทั้งประเทศ ทำไมตำแหน่งประธานรัฐสภาต้องใช้ที่ปรึกษางานเป็นพ่อค้าจีนข้ามชาติรายนี้ มันทะแม่งๆ อยู่ เพราะ มิได้แสดงให้เห็นว่า จะสามารถใช้ความรู้ความสามารถในด้านใดช่วยงานของสภาไทย
มาดูภูมิหลังของนายเหยียนปิน คนรักชาติหน่อยสิครับ
ข้อมูลจากนสพ.ผู้จัดการ บอกว่า..
"เกิดที่มณฑลซานตุง อยู่ในครอบครัวลูกกำพร้า และอยู่ในคณะงิ้ว ที่ ตำบลเหอหนาน มณฑลซานตุง เขาศึกษาและโตที่เมืองจีน ก่อนจะมาถือสัญชาติไทยโดยการช่วยเหลือของ พล.ต.ประมาณ อดิเรกสาร (ยศเมื่อปี 2527)"
นายเหยียนปินเป็นนักธุรกิจที่มีกิจการในประเทศจีนทั้งสวนสนุก สนามกอล์ฟ เป็นตัวแทนขายเครื่องดื่มกระทิงแดงในจีน จะเห็นได้ว่าความเจริญก้าวหน้าในอาชีพ มิได้สร้างขึ้นบนผืนแผ่นดินไทยเลย
เหตุไฉน รักชาติ รักประชาชนชาวไทย (จนน้ำลายไหลเยิ้ม)
ไม่อยากซัดทอดพลต.ประมาณในขณะนั้น แต่อยากให้ทางรัฐบาลไทยไปวิเคราะห์ภูมิหลัง และการได้บัตรประชาชนของคนต่างด้าวคนนี้ก่อนว่า ได้มาอย่างถูกต้องชอบธรรม หรือไม่
ก่อนที่จะ มอบตำแหน่งสำคัญๆ ทางการเมืองให้กับคนที่ไม่ได้สัญชาติไทยมาแต่กำเนิด
เมื่อมีข่าวเรื่องการแต่งตั้งนายเหยียนปินเป็นที่ปรึกษาประธานสภา นักข่าวไปถามท่านนายก นายกทักษิณ บอกว่า ไม่รู้จัก..
แต่
นายสนธิ แฉหลักฐานว่านายกฯโกหก เพราะมีภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหวปรากฏให้เห็นว่า นายเหยยียนปิน และพ.ต.ท.ทักษิณ รู้จักและพูดคุยกัน ทั้งในงานเลี้ยงฉลองครบรอบ 83 ปี ของการตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อปี 2547 และที่สนามกอล์ฟของนายนเหยียนปินเองเมื่อปี 2548 ที่สนามกอล์ฟดังกล่าวยังมีนายสุชน ชาลีเครือ ประธานสภาฯ ผู้ใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีร่วมอยู่ด้วย
ตกลงมันยังไงแน่???
ถ้าเป็นภาพตัดต่อ ภาพเคลื่อนไหวตัดต่อด้วยเทคนิกใหม่ ก็น่าจะฟ้องร้องนายสนธิไปเลย ที่หาว่า นายกพูดโกหก
จริงๆ นายกท่านไม่เคยยอมรับว่า พูดโกหก แต่ ท่านมักจะพูดเล่นๆ มากกว่า เพียงแต่คนไทยส่วนหนึ่งดันไปคิดว่า พูดจริงๆ
..............................
คำว่า "โคตร" ไม่ใช่คำหยาบหรือคำด่า นะครับ ความหมายเป็นเรื่องของชาติตระกูล หมายถึง ที่มาของชาติตระกูลที่มีการสืบทอดกันเป็นลำดับ
หรือ อีกความหมายหนึ่ง คือ สุดๆ ไปเลย
ดังนั้น พานทองแท้โคตรกตัญญู จึงมีความหมายว่า กตัญญูจริงๆ สุดๆ เลย
ส่วน เหยียนปินกตัญญูโคตร กลับหมายความว่า เขากตัญญูโคตรเหง้าของเขา ใครเป็นโคตรเหง้าของนายเหยียนปินก็รับไปละกัน
ถ้าคิดจะลบกระทู้ก็จงไตร่ตรองความหมายให้ดีก่อนนะครับ
จากคุณ :
*bonny
- [
24 ก.พ. 49 11:42:57
]