การประกาศยุบสภาผู้แทนราษฏรของนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร คงทำให้การเมืองไทยเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าไปอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งแม้นว่าหลายฝ่ายมองว่าเป็นแนวทางหนึ่งที่จะเป็นทางเลือกให้กับผู้นำรัฐบาล แต่ในใจส่วนลึกของฝ่ายพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยที่ร่วมกันออกมาต่อต้านนายกรัฐมนตรีนั้นย่อมรู้สึกผิดหวังที่การเมืองไม่เป็นไปตามแนวทางที่ฝ่ายตนต้องการ เพราะสถานการณ์ทางการเมืองจะออกมาในรูปแบบใดในช่วงเวลาข้างหน้าย่อมขึ้นอยู่กับประชาทั่วไปทั้งแผ่นดิน โดยน้ำหนักของฝ่ายอื่นไม่สามารถออกมาเรียกร้องหรือกระทำการอย่างใดภายหลังผลการเลือกตั้งปรากฎชัดออกมาแล้ว การยุบสภาครั้งนี้ จะส่งผลต่อการเมืองไทยอย่างไร
1.การเลือกตั้งใหม่จะต้องจัดให้มีขึ้นภายใน 60 วัน ตามรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2540 ที่ยังไม่ได้มีการแก้ไขแต่เพียงประการใด
2.พรรคการเมืองสามารถที่จะเลือกส่งบุคคลลงสมัครในการเลือกตั้งตามความเหมาะสม โดยบุคคลใดที่พรรคการเมืองเห็นว่าไม่สมควรจะได้รับการเสนอชื่อส่งเข้าสมัครในนามพรรคก็จะต้องหยุดกิจกรรมทางการเมืองที่จะมีในนาม ส.ส.ที่จะได้รับการเลือกตั้งเข้ามาอย่างน้อย 1 สมัยการเลือกตั้ง
3.ประชาชนจะได้รับอำนาจเพื่อตัดสินใจครั้งใหม่ทางการเมือง โดยผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวชี้การยอมรับและการตัดสินใจที่ฝ่ายที่ได้รับเสียงข้างมากก็จะสามารถอ้างได้ทุกกรณี ส่วนฝ่ายที่ไม่พอใจผลการเลือกตั้งก็จะไม่สามารถที่เรียกร้องหรืออ้างสิทธิความชอบธรรมใดๆได้อีกเพราะไม่มีอะไรที่จะศักดิ์สิทธิ์ได้ไปกว่าอำนาจของประชาชน และการตัดสินใจของประชาชนครั้งใหม่ถือเป็นเกราะกำบังกายให้ฝ่ายที่ประชาชนส่วนใหญ่ยืนอยู่ข้างได้เป็นอย่างดียิ่ง
4.ทุกอย่างที่เกิดขึ้นและจะดำเนินการทางการเมืองต่อไป เป็นเรื่องตามกระบวนการทางกฎหมาย ไม่มีฝ่ายใดที่รู้ตัวว่าเป็นการเสียเปรียบจะทำอย่างไรหรือมาเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้แต่อย่างใด กระบวนการตามรัฐธรรมนูญย่อมถูกนำมาเป็นเกณฑ์และถือเป็นความถูกต้องทุกประการ
5.นับจากการประการยุบสภา ขบวนการทางการเมืองของฝ่ายพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย จะขาดแรงจูงใจที่จะดำเนินการเพราะเป้าหมายที่แท้จริงที่ต้องการขจัดนายกฯรัฐมนตรีก็ไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นได้แล้ว อีกทั้งแม้นจะดำเนินการภายหลังการเลือกตั้ง หากภายหลังที่นายกฯยังคงเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร น้ำหนักและการยอมรับจากประชาชนก็จะมีน้อย การดำเนินการใดๆทางการเมืองของกลุ่มนี้ อาจจะกลายเป็นอันธพาลทางการเมืองไป เพราะทุกอย่างประชาชนเป็นผู้ตัดสินออกมาแล้ว
6.การดำเนินการทางการเมืองของนายกฯครั้งนี้โดยการประกาศยุบสภา จึงเป็นการเดินแต้มทางการเมืองที่ฉลาดที่สุด แม้นจะต้องกระทำการในสิ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อน แต่จากความพร้อมทั้ง ตัวเงินสนับสนุน ฐานอำนาจเดิม ความรู้สึกที่ประชาชนส่วนหนึ่งยังมีความนิยมอยู่ และนโยบายของรัฐบางอย่างที่ยังอยู่ในใจของประชาชน ยังคงเป็นความได้เปรียบและโอกาสที่จะได้กลับมาสูงมาก การกระทำที่เกิดขึ้นทางการเมืองครั้งนี้อาจจะดูเป็นความพ่ายแพ้ แต่จะเป็นความพ่ายแพ้บนเส้นทางของชัยชนะ และหากจะมองในส่วนของฝ่ายพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย ก็จะเป็นชัยชนะบนความพ่ายแพ้อย่างแท้จริง
กระทู้ที่เสนอนี้เป็นมุมมองทางการเมืองที่เป็นความคิดส่วนตัวของ จขกท.โดยเฉพาะ ไม่มีเจตนาที่จะเสียดสี หรือซ้ำเติมความรู้สึกของฝ่ายใดหรือบุคคลใดทั้งสิ้น
จากคุณ :
ศรีธนญชัย
- [
24 ก.พ. 49 19:06:30
]