กระทู้นี้พูดถึงอาการของพรรคประชาธิปัตย์โดยเฉพาะ
พรรคการเมืองที่ประกาศตัวเองอยู่ตลอดว่า เป็นพรรคการเมืองที่เก่าแก่ เป็นสถาบันการเมืองที่มีเป้าหมายทางการเมืองอย่างชัดเจน ยึดมั่นในระบบรัฐสภา
แต่พอมาถึงวันที่ทุกอย่างถูกกำหนดขึ้นตามกระบวนการรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตย เพียงแต่มองเห็นว่าโอกาสที่จะให้ประชาชนเป็นผู้ใช้อำนาจนั้น หัวหน้าพรรคผู้ซึ่งนับวันที่จะคอยลุ้นกับเหตุการณ์ทางการเมืองให้เอื้อประโยชน์และทำให้ได้นั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเมืองไทยหมดสิ้นไป ความหวังที่มีอยู่น้อยนิดกำลังสูญสลายไปกับอำนาจที่กลับเข้าไปสู่มือของประชาชน ก็ถึงกับเก็บอาการไม่อยู่ เสมือนกับเด็กที่ต้องการจะได้ของเล่นแล้วไม่ได้ ออกอาการกระฟัดกระเฟียด งอแง จนถึงกับขนาดไม่ยอมรับฟังเหตุผลใดๆ
การออกมาป่าวประกาศว่าจะคว่ำบาตรการเลือกตั้ง เป็นการเดินแต้มทางการเมืองที่ผิดพลาดครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นความพ่ายแพ้ก่อนที่จะถึงเวลาแข่งขันด้วยซ้ำไป แสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถของผู้บริหาร หัวหน้าพรรค และทีมสมองของพรรคประชาธิปัตย์อย่างแท้จริง ทั้งที่หลายฝ่ายก็มองออกว่าการกระทำดังกล่าวเป็นลักษณะของการออกอาการเท่านั้น เมื่อถึงเวลาก็จะเปลี่ยนการคิดและตัดสินใจให้พรรคเองและสมาชิกผู้นิยมอยู่ให้รู้สึกอับอายและขายหน้าต่อการกระทำเช่นนั้น
จขกท.ผู้เสนอกระทู้นี้ ขอมองเกมการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ไว้ในนาทีนี้ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะต้องส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างแน่นอน โดยมีเหตุผลสนับสนุนความคิดดังนี้
1.พรรคประชาธิปัตย์ไม่กล้าที่จะให้ฐานเสียงทางการเมืองในพื้นที่ภาคใต้ต้องเปลี่ยนมือไปอยู่กับพรรคการเมืองอื่น
หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ส่งผู้สมัครลงรับการเลือกตั้ง
2.การเว้นวรรคทางการเมืองอย่างน้อยหนึ่งสมัยนั้น อาชีพของนักการเมืองหลายคนคงไม่สามารถที่จะยอมทิ้งไปได้
เพราะไม่รู้ว่าหนึ่งสมัยการเลือกตั้งจะใช้เวลายาวนานแค่ไหน การหมดบทบาทของผู้ทรงเกียรติในสภากลับไปเป็นนายมี นายมา คนธรรมดานั้นคงยากในการปรับตัวและความรู้สึก
3.การเลือกที่จะเป็นผู้แพ้ในเกมการเมืองคงยังดีกว่าเป็นผู้แพ้ตั้งแต่นอกเกมการเมือง และจะถูกสังคมตราหน้าจดจำการกระทำของพรรคประชาธิปัตย์ไปตลอด ความถูมิใจที่จะกล่าวอ้างว่ายึดมั่นในระบบรัฐสภาก็จะหมดไป นักการเมืองเก่าๆที่อยู่กับพรรคมานานคงจะไม่ยอมที่จะให้ชื่อเสียงของพรรคที่สะสมมาต้องหมดไปภายใต้หัวหน้าพรรคการเมืองคนใหม่ที่ยังขาดภาวะความเป็นผู้นำ การรู้จักคิดและตัดสินใจอย่างสุขุมรอบคอบ และมองถึงการณ์ข้างหน้ามากกว่าการมองในระยะสั้น
สรุปแล้ว การออกมาแสดงอาการไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งจึงเป็นอาการอย่างหนึ่งที่แสดงออกซึ่งความไม่สมหวังในเรื่องอย่างอื่นทางการเมือง ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเรียกอาการเช่นนั้นว่า เป็นการ"งอนทางการเมือง" หรือ "แดกดันทางการเมือง" ได้เหมาะสมกว่ากัน
จากคุณ :
ศรีธนญชัย
- [
26 ก.พ. 49 14:07:31
]