ลับเฉพาะคนรู้ทันสนธิ บทที่ 7
bobby2006
เมื่อต้องระเห็จออกมาจากช่อง 9 สนธิก็ปรับเปลี่ยนปรัชญาของสื่อมวลชน แบบสนธิที่ต้องรับใช้ทุน มาเป็นสื่อที่ต้องรับใช้ประชาชน และเรียกร้องหาเสรีภาพให้แก่สื่อมวลชน ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเชื่อถือมาก่อน
อาจจะเป็นเพราะว่าแท้จริงแล้ว เขาก็ไม่ใช่เสือ เช่นเดียวกับที่ เจิมศักดิ์ก็ไมใช่เสือ เมื่อถูกอัปเปหิออกมาจากช่อง 9 เพื่อใหสนธิเข้าไปแทนที่
การถูกสั่งให้พ้นจากช่อง 9 คือฟางเส้นสุดท้ายที่ตกใส่บนความสัมพันธ์ที่หลงเหลือบางเฉียบระหว่างสนธิกับทักษิณ เนื่องจากแผนการปลดหนี้ยังไม่สำเร็จ แผนการแสวงหารายได้ใหม่ ก็ยังไม่สำเร็จตามเป้าหมาย สถานภาพของอาณาจักรธุรกิจไทยเดย์ดอทคอม ที่แปลงกลายมาจากแมนเนเจอร์มีเดียกรุ๊ป และกำลังทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้กลับเข้าไปอยู่บนกระดานซื้อขายหลักทรัพย์อีกรอบหนึ่ง ประสบกับวิกฤติง่อนแง่นขึ้นมาทันที เนื่องจากโอกาสที่จะไปหยิบจากตลาดหุ้นมาใช้ต้องถูกปิดลงทันที
หากใครที่ตกอยู่ในอาการเดียวกับสนธิ ย่อมต้องแค้นกระอักเลือด เหมือนๆ กัน จะต่างกันตรงที่ปฏิกิริยาโต้ตอบของแต่ละคนจะเป็นเช่นไรเท่านั้นเอง
สำหรับสนธิแล้วเขาเลือกที่จะสู้
สู้ด้วยการสวมใส่เสื้อ "เราจะสู้เพื่อในหลวง"
แต่ยังไม่ชัดว่า ในหลวงที่พูดถึงนั้นหมายถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นเคารพสักการะเทิดทูนของประชาชนคนไททั้งประเทศ หรือมีความนัยไปถึงธนบัตรที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ท่านกันแน่ สำหรับการต่อสู้ครั้งนี้
มีการตั้งคำถามกันมากมายจากทุกสารทิศว่า...
"ทำไมต้องสู้เพื่อในหลวง"
"ทำไมไม่รู้รักสามัคคีเพื่อในหลวง"
"พระองค์ท่านมาเกี่ยวอะไรด้วยกับความขัดแย้งระหว่างสนธิกับทักษิณ"
พระองค์ท่านจะทรงทราบหรือไม่ว่ามีการแอบอ้างพระองค์ท่าน เป็นเครื่องมือโจมตีให้ร้ายกัน"
"พระองค์ท่านจะทรงทราบหรือไม่ว่ามีการแอบอ้างพระองค์ท่านเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ ได้แก่ เสื้อเราจะสู้เพื่อในหลวง ที่ขายกันไปแล้วหลายแสนตัว ในราคาตัวละ 150-200 บาทนั้น นำเงินไปใช้ในธุรกิจของใคร นำไปใช้เพื่อความสุขสบายในชีวิตของใคร"
"พระองค์ท่านจะระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทเพียงใดกับการดึงพระองค์ท่านเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง การขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจ" ฯลฯ
คำถามเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นคำถามที่ออกจากปากของพสกนิกร ประชาชนในพระองค์ท่าน ที่ปราศจากและปลอดวาระซ่อนเร้น ทั้งในเชิงอำนาจการเมืองและผลประโยชน์ทางธุรกิจ ซึ่งจนถึงวันนี้ก็ยังไม่อาจจะหาคำตอบได้ จากผู้จุดประเด็นคือ สนธิ ลิ้มทองกุล
ถึงแม้ว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีจะออกมาตักเตือนและขอให้หยุดการกระทำที่แอบอ้างสถาบัน แต่ทว่าสนธิและพรรคพวกก็ยังคงสวมใส่เสื้อ "เราจะสู้เพื่อในหลวง" ออกมากล่าวโจมตีรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ตลอดจนข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนปกป้อง รักษาและไม่ก้าวล่วง หรือใช้สถาบันเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง
การต่อสู้ของสนธิ มีการกำหนดยุทธวิธีไว้ชัดเจนว่าการจะกำจัด พ.ต.ท.ทักษิณ ให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเปรียบเสมือนการกำจัดขวากหนามทางธุรกิจของตน และเครือผู้จัดการจะต้องทำลายความน่าเชื่อถือของ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนมากถึง 19 ล้านคน ซึ่งเป็นศรัทธาประชาชนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากศรัทธาประชาชนไม่ลงตัว โอกาสที่จะล้มนายฯทักษิณ เป็นเรื่องที่ยากเกินไป
การทำลายความน่าเชื่อถือของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีอยู่สองทางด้วยกัน คือการโจมตีเรื่องการทำงาน และการโจมตีเรื่องส่วนตัว
การดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรครั้งที่ 1-2 จึงเป็นการวิพากย์วิจารณ์การทำงาน และเครือญาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างรุนแรง ด้วยการแสดงท่าทีที่ใช้ความก้าวร้าว แสดงออกถึงความกล้าหาญที่จะท้าทาย ท้าชนกับอำนาจรัฐ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี อย่างไม่เกรงกลัว เป็นแรงดึงดูดใจประชาชนให้สนใจฟังและติดตามฟัง เนื่องจากความก้าวร้าว การท้าทายต่ออำนาจรัฐ และท้าชนนายกรัฐมนตรี อย่างรุนแรงในลักษณะนี้ เป็นปรากฏการณ์ที่ขาดหายไปนานหลายปีจากสังคมการเมืองไทย
หลังจากการดำเนินรายการครั้งที่ 2 ผ่านไป จึงมีการทบทวนกันอีกครั้งว่าหากดำเนินยุทธวิธีเช่นนี้ จำต้องรบยืดเยื้อแน่ และการยืดเยื้อไม่ดีกับสนธิ ซึ่งมีปัจจัยการรบอันจำกัด ในขณะที่ไม่สามารถคาดเดาจิตใจประชาชนได้ว่าจะเชื่อถือข้อมูล และตรรกะที่สร้างขึ้นใหม่เพียงใด เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยสร้างตรรกะเชลียร์ทักษิณไว้อย่างหนักแน่น
จากคุณ :
mr_a
- [
9 มี.ค. 49 10:27:41
]