CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    การเมืองไทยในสายตานักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง:เหตุใดผมถึงสนับสนุนท่านนายกฯ

    ปัจจุบัน ผมอายุ 36 ปี  ทำไมผมถึงต้องแจ้งวันเดือนปีเกิด เพราะข้อเขียนของผมชิ้นนี้ มันจะเกี่ยวข้องกับเงื่อนเวลาของการเมืองไทยพอสมควร รายละเอียดที่เกิดขึ้นนั้น ผมต้องขอเรียนให้ท่าน...ทราบว่า อาจมีความละเอียดสู้นักประวัติศาสตร์การเมืองหรือนักรัฐศาสตร์ไม่ได้ เพราะผมเป็นนักวิทยาศาสตร์โดยสันดาน มิอาจจะจำใจขุดคุ้ยเรื่องการเมืองให้มากความไปได้ จึงได้แต่เสนอการเมืองในแง่มุมที่ผมศึกษา ติดตามมาตลอดตั้งแต่เริ่มจำความได้นำมาประมวลเข้ากับการรับรู้เรื่องการเมืองจริงๆจังตอนอายุ 15 ปี

    ความดีความชอบทั้งหลายขอยกให้กับ บิดาทั้งหมดเพราะบิดาเป็นครูสอนวิชาการเมืองไทยเป็นคนแรก

    ผมจำได้ว่าครั้งแรกที่รู้เรื่องการเมืองไทยก็เพราะได้ยินได้ฟังเพลงมาร์ชปลุกใจ ซึ่งเป็นเสียงของสันติ ลุนเผ่ บ่อยครั้งมากแต่ผมก็ไม่รู้อะไรมากหรอกแต่รู้ว่าทุกช่องทุกสถานีเปิดกันหมด ในแฟลตที่ผมอยู่ ผมไม่เคยได้ยินใครพูดถึงเรื่องการเมืองซักคนเดียว ถ้าไม่อย่างนั้นผมก็คงพอจะปะติดปะต่ออะไรได้อีกนิดหน่อย

    ผมไปทำท่าเต๊ะจุ๊ยอ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ดาวสยาม ที่มันได้สมญาว่าหนังสือพิมพ์หัวแดง หัวเขียว ผมไม่รู้เรื่องหรอกว่าหัวแดงหัวเขียวมันเป็นยังไง

    สันติ ลุนเผ่ ยังคงเป็นนักร้องเพลงปลุกใจมาอีกยาวนานหลายปี เช่นแผ่นดินของเรา ...., บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ...,   เพลงปลุกใจของเขาถูกนำไปเปิดเป็นเพลงเปิดสถานีของช่อง 3

    ต่อมาผมย้ายไปเรียนราชบุรี ผมได้รู้จักคำว่า คอมมิวนิสต์ ก็เพราะดินแดนนั้นเขาจัดกันว่าเป็นดินแดนสีชมพู และเต็มไปด้วยโจร ยิ่งกิ่งอำเภอสวนผึ้งไม่ต้องพูดถึง ไม่มีใครอยากไป แต่คุณพ่อผมย้ายมาและไปสอนคนที่นั่นที่ดินแดนสีชมพูนั่นแหละ ผมไม่สนใจหรอก เพราะผมไม่รู้จักว่าคอมมิวนิสต์คืออะไร รู้แต่ว่าพ่อผมทำงานเป็นครู มีอาชีพสอนช่างยนต์ ก็เท่านั้น

    ต่อมา การรับรู้เรื่องคอมมิวนิสต์ของผมก็เริ่มมากขึ้นเรื่อย ระดับที่แบบว่าคอมมิวนิสต์เป็นโจร เป็นผีร้าย เป็นพวกป่าเถื่อน แม้แต่ในโรงเรียนประถมชื่อดังประจำจังหวัดที่ผมเรียนอยู่ก็ยังไม่วายว่าเป็นแหล่งซ่องสุมของคอมมิวนิสต์

    ผมรู้จักเรื่องคอมมิวนิสต์จริงๆตอนเรียนอยู่มัธยมประจำจังหวัดราชบุรีเพราะโรงเรียนนั้นเป็นโรงเรียนชายล้วนและมีลูกทหารเรียนเป็นส่วนใหญ่ วันหนึ่งเขาจัดนิทรรศการเกี่ยวกับคอมมิวนิสต์มาให้ดูเห็นรูปที่คอมมิวนิสต์ทำร้ายประชาชนแล้วก็นึกว่าอะไรมันจะน่ากลัวปานนี้นะ ก็เลยเริ่มติดตามเรื่องคอมมิวนิสต์

    คอมมิวนิสต์ยุคต่อมาของผมก็เลยกลายเป็นเรื่องผู้ร้าย ทหารกลายเป็นพระเอก โดยเฉพาะมีละครปลุกใจของทหารที่ ร.ท อนุสรณ์ เดชะปัญญา(ยศสมัยนั้น)แสดงเป็นนายทหารที่รบบนผู้หินร่องกล้าจนตัวตายนั่นแหละ ไอ้เราเป็นผู้ชาย เรายิ่งสนุกกับเรื่องพวกนี้ แต่ก็เป็นในแบบผู้ร้าย-พระเอกนะครับ

    ต่อมาพ่อก็เริ่มพูดเรื่องคอมมิวนิสต์ให้ฟังแต่ผมจำไม่ได้หรอกว่าผมมีแนวคิดว่าอย่างไร จำได้แม่นก็คือคืนหนึ่งตอนผมอาย 12 ปี พ่อพูดถึงหนองงูเห่า นั่นคือครั้งแรกที่ผมได้ยินพ่อพูดถึงสนามบินแห่งนี้ว่ามันกำลังสร้าง ผมไม่ได้ถามหรอกว่าหนองงูเห่าคืออะไร แต่คิดว่ามันคงมีงูเห่าบานเบอะเลย อ้อ อีกเรื่องหนึ่ง ผมจำได้ว่าผมอ่านหนังสือพิมพ์ล้อเลียนการเมือง มีรูปท่านนายกฯเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ กำลังเทบรั่นดีใส่แกงไก่ ผมก็คิดว่าทำอย่างนั้นได้อย่างไร อร่อยตรงไหนหว่ามีกลอนอยู่ข้างใต้ด้วยแต่ผมจำไม่ได้แล้วรู้สึกว่า แกงไก่ใส่บรั่นดี.... ลงท้ายด้วยแรงงานหรืออะไรซักอย่างนี่แหละ

    เมื่อผมอยู่มัธยม 2 ผมย้ายไปนครสวรรค์จำได้ว่า ช่วงนั้นกาว 3 เคกำลังระบาดหนักขนาดโรงเรียนที่ผมจะไปเรียนผมยังได้ข่าวว่าเด็กดมกาวกันให้เต็มไปหมด น่ากลัวมาก แต่ก็แปลกนะ ผมไปเรียนจริงๆ ไม่ค่อยมีแฮะ หรือว่าเราไม่เห็น

    ที่นครสวรรค์นี่แหละที่ผมรู้จักวงคาราบาวเป็นครั้งแรก รู้จักก็เพราะเพลงทินเนอร์ รู้จักพลเอกเปรม ติณสูรานนท์ก็เพราะเพลงของคาราบาว,เพลงอเมริกา อเมริโกยนี่แหละ อีกอย่าง พ่อผมคงเริ่มพูดเรื่องการเมืองให้ฟังแต่ผมก็ยังไม่ได้สนใจอะไรมาก

    ต่อมาวันหนึ่งผมเดินเล่นอยู่ในแถวบ้านพักครูนั่นแหละก็ได้ยินเสียงวิทยุประกาศปฏิวัติของใครก็ไม่รู้ มารู้อีกทีว่าพลเอกเทียนชัย สิริสัมพันธ์ยึดอำนาจคืนแล้วก็ตอนเที่ยงๆบ่ายๆเพราะครูผู้ชายเขาเปิดโทรทัศน์ดูกันแล้ววิจารณ์กันทั่วไปว่าพลเอกเปรมอยู่โคราชนู่น

    ช่วงอายุ13-14 ปี ผมก็ยังคงไม่เริ่มสนใจจริงจังซักเท่าไหร่คงรู้แค่ว่านายกฯรัฐมนตรีของประเทศไทยชื่อพลเอกเปรม ติณสูรานนท์ คนดี ใจซื่อ มือสะอาดจวบจนผมได้ข่าวว่าพลเอกเปรม ติณสูรานนท์ถูกบีบให้ลงจากตำแหน่งเป็นข่าวกันใหญ่โตออกหน้าจอทีวี

    การเลือกตั้งครั้งแรกในชีวิตผมก็เริ่มต้นขึ้น พร้อมๆกับการเริ่มศึกษาเรื่องการเมืองอย่างจริงๆจังๆจากหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์สองฉบับคือ มติชนกับสยามรัฐรายสัปดาห์ ที่ผมเริ่มอ่านเพราะว่า ตอนที่ขึ้น ม. 4 ยังคงไม่มีเป้าหมายที่จะดูหนังสือเพื่อจะสอบอะไรประกอบกับพ่อใช้ให้ไปหาหนังสือมาอ่านเพื่อหาอะไรยามว่างเสาร์อาทิตย์ของพ่อ แรกๆผมก็ไม่ได้อ่านเอาเนื้อหาอะไรมากแต่ที่อ่านเพราะอยากรู้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ใครชื่ออะไรกันบ้าง  อ่านไปอ่านมาก็เลยติดใจประกอบกับอยากรู้เรื่องการเมืองขึ้นมาจริงๆอยากรู้เรื่องการเมืองเหมือนพ่อ แต่ก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่หรอก

    ช่วงที่พลเอกชาติชายถูกปฏิวัติ ผมได้ยินคำว่า บุฟเฟต์คาบิเนต บ่อยจากทั้งหนังสือรายสัปดาห์และคำบอกเล่าของพวกนักวิจารณ์การเมืองในโทรทัศน์และวิทยุ ผมก็ยังคงไม่ค่อยเข้าใจอยู่ถึงแม้ว่าจะย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯแล้วก็ตาม ตอนนั้นผมเลิกอ่านหนังสือสองฉบับ  อ่านแค่ฉบับเดียวต่อสัปดาห์คือ มติชน

    การหักหลัง ไม่ซื่อสัตย์ วงจรของนักการเมืองที่เห็นแก่อำนาจและประโยชน์ตนก็เริ่มขึ้นตรงนั้นกับทหาร ใครจะเชื่อผมหรือไม่ ไม่สำคัญ แต่ผมรู้มาก่อนล่วงหน้าแล้วว่าพลเอกสุจินดา จะขึ้นเป็นนายกฯเพราะพรรคสามัคคีธรรม พรรคเฉพาะกิจเป็นผู้หนุนหลังนั้น ผมรู้มาจากคอลัมนิสต์มติชนนี่แหละ

    การเมืองช่วงหลังพฤษภาทมิฬนั้นผมจะทราบล่วงหน้าทุกครั้งว่าคุณชวนคิดอะไร พลเอกเชาวลิตจะทำอะไร คุณจำลองจะเดินเกมต่อไปอย่างไร คุณบรรหารจะยึดพรรคชาติไทย ก็เพราะหนังสือมติชนรายสัปดาห์นี่แหละ บางคอลัมน์วิจารณ์วันนี้ อีกสัปดาห์ต่อมาหรือสองสามวันต่อมาเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมเชื่อถือหนังสือมติชนมาก แหล่งข่าวเขาอาจจะดีมากหรือคอลัมนิสต์ที่เขามีอยู่ในมืออาจจะรู้จักเส้นทางการเดินของนักการเมืองลายครามพวกนั้นยิ่งกว่าเห็นไส้ของตัวเองก็ได้

    การเมืองช่วงหลังนี้ เรากล่าวกันว่ามันเป็นประชาธิปไตยมากๆ ผมก็เห็นว่าจริงตามนั้นเพราะเราได้นายกฯใจซื่อมือสะอาด คุณชวน หลีกภัย ยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย รัฐบาลเป็นเสียงข้างมากที่ไม่ใช่เผด็จการรัฐสภา สามารถเปิดอภิปรายนายกฯเมื่อไหร่ก็ได้ นายกฯมานั่งฟังอภิปรายทุกวันตั้งแต่เช้า ทำหน้าที่ได้สมศักดิ์ศรี บางครั้งจะมีข่าวต่อรองเก้าอี้กันบ้างก็ไม่มีปัญหาเพราะนายกฯมือสะอาดแต่เหตุการณ์ตีรวนในสภามีกันจนชินเป็นประจำ ผมได้เห็นการยุบสภาเพราะข้ออ้างของนายกฯหลายเหตุมากมายแต่เชื่อไหมครับ ทุกครั้งที่คะแนนเสียงออกมา คะแนนสุทธิของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยทิ้งห่างพรรคคู่แข่งแบบมากมายเลยผมก็เคยแปลกใจบ่อยๆ    เมื่ออ่านหนังสือมติชนให้ละเอียดจะพบความจริงบางอย่างซ่อนอยู่ในคอลัมน์เสมอๆ

    ปีแรกๆของการมีสิทธิ์เลือกตั้ง ก่อนลงคะแนน ผมจะไม่ลังเลเลยที่จะลงคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากผมมั่นใจในตัวผู้นำ แต่เมื่อติดตามการเมืองร่วมกับการอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ผมเริ่มสงสัยในมาตรฐานจริยธรรมของพรรคนี้แต่จนใจที่เราไม่เคยเชื่อพรรคการเมืองพรรคอื่นเลย เนื่องจากแต่ละพรรคที่เข้ามาร่วมเป็นรัฐบาล นานวันเข้าก็มักมีข่าวต่อรองเอาเก้าอี้ตัวหลักเช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตร ด้วยกันทั้งสิ้น บางครั้งในการต่อรองต่างๆเหล่านี้มักก่อให้เกิดเหตุการณ์ยุบสภาตามมา การต่อรองเก้าอี้ต่างๆเหล่านี้รวมถึงความแปลกใจในคะแนนเสียงไม่เคยขาดลอยของคุณชวน หลีกภัยร่วมกับรัฐบาลประชาธิปัตย์ ซึ่งมีผลทำให้การทำงานของรัฐบาลไม่ราบรื่น

    การเข้ามาของคุณเชาวลิต ยงใจยุทธและพรรคความหวังใหม่ทำให้ผมคิดว่าผมคงได้ทางเลือกใหม่จริงๆ แต่ผิดถนัด สิ่งที่ผมได้รับรู้ในเวลาต่อมามันค้านกับฉายาของท่านเหลือเกิน ไม่มีอะไรใหม่ มีแต่ได้เห็นธาตุแท้ของนักการเมืองไทยมากขึ้นทุกที จนกระทั่งเกิดวิกฤตเศรษฐกิจที่หนักหนาสาหัสที่สุดในความคิดของผมเบื้องแรกที่ได้ข่าว ผมคิดว่าเราคงจะอาศัยและดำรงชีวิตด้วยความลำบาก อาหารการกินราคาคงจะแพงขึ้นเป็นสองเท่า แต่ต่อมาผมได้ทราบว่า จากกลไกตลาดที่เข้มแข็งภายในประเทศประกอบประเทศไม่ได้ซื้อวัตถุดิบในการประกอบอาหารเองทุกอย่าง(ยกเว้นบางอย่าง)ทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคแพงขึ้นไปจากเดิมนิดหน่อย(ความรู้นี้ได้มาภายหลังจากการศึกษาจากการอ่านหนังสือ “ถลกสูทพ่อมดการเงิน”และการอ่านวิจารณ์เศรษฐกิจอื่นๆ)

    สิ่งที่ตามมาจากการลาออกของคุณเชาวลิต ยงใจยุทธ ก็คือ การจัดตั้งของพรรคการเมืองที่ไม่เคยได้เสียงข้างมากเลยจากการเลือกตั้งและพ่ายแพ้ในการจัดตั้งรัฐบาลทุกครั้ง(แต่มักได้เป็นรัฐบาลหลังการลาออกของนายกฯคนก่อนทุกครั้ง)เข้ามาแก้วิกฤตเศรษฐกิจ รวมถึงการปรากฏขึ้นของยาบ้าอย่างหนาแน่น ทีวีทุกช่อง ทุกวัน มักมีข่าวคนเมายาบ้า จี้เด็ก ผู้หญิง เป็นตัวประกันทุกวัน มีข่าวคนเมายาบ้าเชือดคอตัวเอง ปีนเสาไฟฟ้า การฆ่ากันตายเพราะยาบ้า

    การทรยศหักหลังกันทางการเมืองของกลุ่มงูเห่า ซึ่งมีสส.ชื่อดังของ...ที่อื้อฉาวเป็นแกนนำ ยิ่งทำให้ภาพผู้นำของคุณชวน หลีกภัย ด้อยลงไปอีกเนื่องจากคุณชวนไม่เคยคิดต้อนรับพรรคมารมาก่อน(ป้ายสีพรรคเทพ พรรคมาร สมัยพฤษภาทมิฬ) การเข้ามาของไอเอ็มเอฟจนรัฐบาลของคุณชวนได้ชื่อว่า เด็กดีของไอเอ็มเอฟบ้าง คุณพ่อไอเอ็มเอฟบ้าง มีคนฆ่าตัวตายเนื่องจากพิษเศรษฐกิจทุกวัน ข่าวเรื่องเด็กผู้หญิงจากภาคเหนือขายตัวเพราะพ่อแม่ไม่มีเงินทำมาหากิน   ข่าวเรื่องธนาคารกรุงเทพฯพณิชยการล้ม และธนาคารกรุงไทยก็ใกล้จะล้มแต่พอดีรัฐบาลเข้าไปค้ำไว้ก็เลยไม่ล้ม ต่างๆเหล่านี้สลับสับเปลี่ยนเวียนกันไป คุณชวนไม่มีความสามารถที่จะควบคุมรัฐบาลได้เลย แม้แต่รัฐมนตรีคลัง(คุณธารินทร์)กับรองนายกฯด้านเศรษฐกิจ(คุณศุภชัย) ก็ทะเลาะกันแนวทางไม่เข้ากันแบบนี้เศรษฐกิจของไทยทำอย่างไรก็ไม่มีวันพื้นคืนชีพได้นี่หรือภาพผู้นำใจซื่อมือสะอาดที่ผมเคยเชื่อว่าเขาดี แต่ในความดีเขาไม่มีความสามารถในการปกครองคนได้

    จากคุณ : หนุ่มเทคนิค - [ 12 มี.ค. 49 17:29:27 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป