ความคิดเห็นที่ 3
"ย้อนรอย 'กบฏ 9 กันยา' เรื่องเก่าของคนดัง (บางคน) วันนี้!
ถ้าย้อนอดีตเหตุการณ์รัฐประหาร 9 กันยายน 2528 ที่น่าสนใจ เริ่มแต่ 03.00 น. ของวันที่ 9 กันยายน 2528 เมื่อรถถังจำนวน 22 คัน จาก ม.พัน. 4 รอ. พร้อมด้วยกำลังทหารจำนวนกว่า 400 คน เคลื่อนออกมาจากที่ตั้งและเข้าร่วมปฏิบัติการรัฐประหารเพื่อยึดอำนาจรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี ซึ่งในเวลานั้น พล.อ.เปรม เดินทางไปราชการที่ประเทศอินโดนีเซีย
05.00 น. 'แอ๊ด คาราบาว' พร้อมชาวคณะถึงสวนอัมพร ซึ่งก่อนหน้านี้ จ.ส.อ.วิเชียร วรชัย ไปตามแอ๊ดที่บ้านตอน 2 ทุ่ม โดยแจ้งว่า "พ่อบอกให้ลงมือวันนี้"
แอ๊ด คาราบาว ต้องตระเวนรวบรวมสมาชิก และติดต่อเครื่องเสียงอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ทันรุ่งสาง
ซึ่งตามแผนการที่ฝ่ายปฏิวัติกำหนดไว้ วงคาราบาวจะเปิดทำการแสดงที่สวนอัมพรเวลา 09.00 น. โดยมีการถ่ายทอดสดทางช่อง 5, ช่อง 7 สี และช่อง 9 ไปทั่วประเทศ เพื่อดึงมวลชนมาเป็นพลังสนับสนุนการปฏิวัติ
เป็นครั้งแรกของการยึดอำนาจที่ใช้วงดนตรีชื่อดังที่สุดของประเทศเวลานั้น
06.00 น. ปฏิบัติการยึดเมืองเปิดฉากขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อเข้าควบคุมอาคารกองบัญชาการทหารสูงสุด สนามเสือป่า อาคารกรมประชาสัมพันธ์ และองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย พร้อมประกาศความสำเร็จของการรัฐประหาร และอ่านแถลงการณ์ของคณะรัฐประหาร ที่ระบุว่า พล.อ.เสริม ณ นคร อดีตผู้บัญชาการทหารบก เป็นหัวหน้า
ทว่า 07.00-09.00 น. การรัฐประหารก็พบกับอุปสรรค เมื่อ พล.อ.เทียนชัย สิริสัมพันธ์ รองผู้บัญชาการทหารบก รักษาการผู้บัญชาการทหารบก (แทน พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในเวลานั้น ที่ติดราชการอยู่ในยุโรป) ได้ประสานงานกับ พล.อ.เปรม และ พล.อ.อาทิตย์ ก่อตั้งกองอำนวยการต่อต้านการรัฐประหารขึ้น ที่กรมทหารราบที่ 11 รอ. บางเขน พร้อมกับติดตั้งระบบส่งกระจายเสียงตอบโต้ฝ่ายยึดอำนาจ ด้วยการออกแถลงการณ์ในนามของ พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก
ทั้งสองฝ่ายโต้ตอบกันด้วยสงครามจิตวิทยามวลชน ต่างฝ่ายต่างประกาศว่า ฝ่ายของตนคือผู้กุมอำนาจรัฐ จนเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ฝ่ายต่อต้านการรัฐประหาร ได้สั่งกองกำลังจากพัน 1 ร.2 รอ. ประกอบด้วย รถยีเอ็มซี และรถสิงห์ทะเลทรายพร้อมอาวุธเคลื่อนไปตามถนนพหลโยธิน เข้ายึดสถานที่สำคัญต่างๆ เอาไว้
แต่หลังจากนั้นไม่นาน เวลาประมาณ 09.50 น. รถถังของฝ่ายรัฐประหาร ที่ตั้งอยู่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ก็เคลื่อนเข้าระดมยิงเสาอากาศ และตัวอาคารของสถานีวิทยุกระจายเสียงกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ และยิงปืนเอ็ม 60 เข้าไปยังกรมประมวลข่าวกลาง ที่ตั้งอยู่ในวังปารุสก์ฯ เป็นเหตุให้ นีล เดวิส ผู้สื่อข่าวต่างประเทศชาวออสเตรเลีย และบิล แรตช์ ผู้สื่อข่าวชาวอเมริกัน ของเครือข่ายเอ็นบีซี ถูกลูกหลงเสียชีวิต
หลังจากนั้นกำลังทั้งสองฝ่ายได้เริ่มปะทะกันอย่างรุนแรง ไปจนกระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. การเจรจาเพื่อสงบศึกได้เริ่มขึ้น โดยมี พล.ท.พิจิตร กุลละวณิชย์ (ยศในเวลานั้น) เป็นตัวแทนฝ่ายรัฐบาล เจรจากับ พล.อ.ยศ เทพหัสดิน ณ อยุธยา แกนนำคนสำคัญฝ่ายรัฐประหาร จนที่สุดฝ่ายรัฐประหารยินยอมยกเลิกปฏิบัติการ
17.30 น. สถานการณ์ที่ตึงเครียดบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เริ่มคลี่คลายเข้าสู่ความสงบ กองกำลังทั้งสองฝ่ายถอนตัวออกจากปฏิบัติการ กลับเข้าที่ตั้ง
18.30 น. พล.ท.พิจิตร และ พล.ท.ชวลิต ยงใจยุทธ ได้เดินทางไปยังสนามบินดอนเมือง เพื่อส่งตัว พ.อ.มนูญ และนาวาอากาศโท มนัส รูปขจร สองแกนนำคนสำคัญในการรัฐประหารครั้งนี้ให้เดินทางออกนอกประเทศ
ในคืนวันเดียวกันนั้น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้เดินทางกลับเมืองไทย และเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จึงเป็นอันว่าวิกฤตการณ์การเมืองไทยในวันที่ 9 กันยายน พ.ศ.2528 ยุติลง
อย่างไรก็ตาม มีข้อบ่งชี้ในเหตุการณ์ที่น่าสนใจ คือ คุณหญิงแสงเดือน ณ นคร ภรรยา พล.อ.เสริม ณ นคร หัวหน้าคณะปฏิวัติ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในเวลาต่อมาว่า ที่เหตุการณ์สงบราบรื่นได้นั้น เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงทราบเหตุการณ์โดยตลอด ทรงวิตกกังวลต่อสถานการณ์ ทรงมีพระกระแสรับสั่งขอให้กองกำลังทั้งสองฝ่ายยุติการต่อสู้ และให้ตกลงกันโดยสันติ ทั้งสองฝ่ายก็สามารถทำความเข้าใจกันได้ แล้วนำกำลังกลับเข้าสู่ที่ตั้ง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็ยุติลงโดยสิ้นเชิง
ในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น คือวันที่ 10 กันยายน ประชาชนทั่วประเทศที่ติดตามข่าวสารมาตลอดทั้งวันของวันที่ 9 กันยายน เพิ่งได้รู้ข่าวจากหนังสือพิมพ์ ว่านอกจากบรรดานายทหารของกองทัพ แบ่งฝ่ายกันเล่นเกมยึดอำนาจกันเองแล้ว ยังมีพลเรือนจำนวนหนึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่น ผู้นำแรงงานคนสำคัญๆ อย่าง สวัสดิ์ ลูกโดด, อาหมัด ขามเทศทอง, ประทิน ธำรงจ้อย ฯลฯ
และชื่อที่ทำให้หลายคนประหลาดใจสุดขีดก็คือ เอกยุทธ อัญชันบุตร ผู้เพิ่งหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีแชร์ชาร์เตอร์ ได้ปรากฏตัวขึ้นที่กองบัญชาการรัฐประหารในฐานะแกนนำคนสำคัญ บุคคลที่ให้ข้อมูลกับหนังสือพิมพ์ คือ พิเชษฐ สถิรชวาล ในขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ขสมก.) ซึ่งถูกฝ่ายก่อการควบคุมตัวไว้
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 10 กันยายน 2528 ในกรอบข่าวสุดท้ายหน้าหนึ่ง พาดหัวว่า 'เอกยุทธ โผล่หน้า บก.ปฏิวัติ' ในเนื้อข่าวลงคำให้สัมภาษณ์ของพิเชษฐ ว่า ถูกผู้นำสหภาพแรงงาน ขสมก. โทรศัพท์มาเรียกให้ไปที่สำนักงานใหญ่ ขสมก. แล้วโดนควบคุมตัวไว้ โดยแกนนำเหล่านั้น ประกอบด้วย สมชาย ศรีสุนทรโวหาร, อิสระ งามโรจน์ ประธานสหภาพ และ สมพงษ์ สระกวี อดีตผู้นำนักศึกษา (ปัจจุบันเป็น ส.ว.สงขลา)
พิเชษฐ ได้กล่าวถึงเอกยุทธ ว่า ในระหว่างที่ถูกควบคุมตัวไว้นั้น ได้เห็น เอกยุทธ อัญชันบุตร เจ้ามือแชร์ชาร์เตอร์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ตำรวจกำลังต้องการตัว ไปปรากฏตัวอยู่ในกลุ่มบุคคลระดับผู้นำของฝ่ายปฏิวัติที่เข้ายึด ขสมก.ด้วย โดยใช้วิทยุมือถือรหัส 'สิงห์ 1 ' และเอกยุทธได้ฉากหนีไปเมื่อรู้ว่าสถานการณ์ของฝ่ายปฏิวัติตกเป็นรอง
มันเป็นเรื่องเล่าที่ไม่มีใครคาดคิดหรอกว่า คนหน้าเดิมๆ กลุ่มนี้จะปรากฏตัวบนถนนการเมืองอีกครั้งใน พ.ศ.นี้"
จากคุณขนมต้ม
จากคุณ :
นักเลงโบราณ
- [
15 มี.ค. 49 00:48:48
]
|
|
|