CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ปรากฎการณ์ทางการเมือง : พิเคราะห์ผู้ชุมนุมสองกลุ่ม ผ่านข้อเรียกร้องที่ประกาศต่อสาธารณชน

    เบื้องต้น หากจะกล่าวถึงการชุมนุมทางการเมืองที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ประการหนึ่งที่จะต้องกล่าวถึงโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ คือ กลุ่มชนเหล่านั้นเป็นกลุ่มชนที่มี"ความเป็นมวลชนธรรมชาติ"เพียงใด ? อันจะสะท้อนให้เห็นถึงความทรงพลังทางการเมือง

    คนหมู่มากที่รวมตัวชุมนุมทางการเมือง ไม่ว่าจะเรียกว่า "ม็อบ" หรือ "กลุ่ม" หรือ "มวลชน" ก็ตาม ย่อมต้องมีที่มาที่ไป

    ที่มาของมวลชนที่มารวมกลุ่มกันอาจมาจากการจัดตั้งผ่านระบบราชการ จัดตั้งผ่านสหภาพรัฐวิสาหกิจ จัดตั้งผ่านระบบพรรคการเมือง และมวลชนธรรมชาติ โดยที่ในกลุ่มผู้ชุมนุมหนึ่งๆ อาจมีที่มาของมวลชนปะปนจากหลายแหล่งก็ได้



    เช่นนี้ลองมาดูกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งที่หน้าทำเนียบรัฐบาลกับอีกกลุ่มหนึ่งที่สวนจตุจักร

    ผู้อยู่วงนอกหรือประชาชนทั่วไปไม่อาจทราบได้ว่า ทั้งสองกลุ่มเป็นมวลชนอันมีที่มาที่ไปอย่างไร ? และมีความเป็นมวลชนธรรมชาติอยู่เพียงใด ?

    ประการหนึ่งที่จะหาคำตอบได้ คือ พิเคราะห์จาก "ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม"

    ทั้งนี้เพื่อแสวงหาความเป็น"มวลชนธรรมชาติ"ของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นๆ(ตัวเจ้าของกระทู้มีความเชื่อส่วนตัวว่ากลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองทุกกลุ่มย่อมต้องมี มวลชนจัดตั้งแฝงอยู่ จุงละไว้ไม่ขอกล่าวถึงที่มาตรงนี้)

    กลุ่มแรกที่หน้าทำเนียบรัฐบาล นำโดยสนธิและจำลอง ซึ่งมีข้อเรียกร้องหลักคือ ให้ทักษิณลาออก(โดยวัตถุประสงค์ต้องการกีดกันคุณทักษิณออกจากการเมือง) ด้วยเหตุผลว่าโกงชาติ ไร้จริยธรรม

    ข้อเรียกร้องดังกล่าว ดูประหนึ่งว่าเป็นข้อเรียกร้องที่บริสุทธิ์ ปราศจากผลประโยชน์แอบแฝงเพื่อตนเองและพวกพ้อง  อันเป็นความต้องการรักษาประโยชน์ของชาติ ของแผ่นดินเป็นประการสำคัญ

    ถือได้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมาก ทั้งที่ประกอบไปด้วยผู้ทรงศีล นักธุรกิจ นักศึกษา นักวิชาการ  พนักงานรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งบรรดาไฮโซ

    ความสมเหตุสมผลต่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนี้ ช่างน่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง

    ความมีเจตนารมณ์เดียวตรงกัน ทั้งที่องค์ประกอบหลากหลายยิ่งนัก และทั้งแกนนำบางคนยังเคยมีข้อพิพาทระหว่างกันอย่างรุนแรงอีกด้วย

    ด้วยประการฉะนี้ แทนที่จะเป็นจุดแข็ง กลับกลายเป็นจุดอ่อนที่น่าเคลือบแคลงสงสัยยิ่งนักว่าเป็นการ"แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่างหรือไม่ ?

    อันนำไปสู่ข้อคลางแคลงใจถึงข้อเรียกร้องให้ทักษิณลาออกหรือเว้นวรรคทางการเมือง บริสุทธิ์ใจจริงเช่นนั้นหรือ ?

    ทั้งกระทบไปถึงความเป็น"มวลชนธรรมชาติ"อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

    หันมามองกลุ่มผู้ชุมนุมด้านสวนจตุจักร นอกจากมาสนับสนุนคุณทักษิณแล้ว ยังแสดงออกถึงข้อเรียกร้องประการสำคัญ คือ นำปัญหาของคนจนมาร้องเรียนต่อนายกฯ

    ตรงนี้นี่แหละที่มองว่าสำคัญอย่างมีนัยะ ไม่ใช่แค่มาสนับสนุน แต่มาเรียกร้องแก้ปัญหาคนจนด้วย

    ข้อเรียกร้องดังกล่าว เพื่อประโยชน์สำหรับชนชั้น(คนจนหรือชนชั้นกรรมาชีพ)ของตนโดยชัดแจ้ง

    ความต้องการนี้ดูประหนึ่งขาดความบริสุทธิ์ใจ มิได้เรียกร้องเพื่อชาติหรือเพื่อแผ่นดิน หากแต่เพื่อประโยชน์ชนชั้นของตน

    อย่างไรก็ตาม เมื่อพิเราะห์ข้อเรียกร้องดังกล่าว ประกอบกับองค์ประกอบของผู้ชุมนุม จะเห็นถึงความสมเหตุสมผลอยู่ในตัว

    กล่าวคือ มวลชนที่รวมตัวกันนั้น ประกอบไปด้วยชาวไร่ ชาวนา เกษตรกร คนยากจน เรียกร้องในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตนโดยตรง อันต่างจากกลุ่มแรก ที่ไม่ต้องการเพื่อตนเองเลย ซึ่งผิดธรรมชาติเป็นอย่างมาก

    ประเด็นนี้ กลับแสดงออกให้เห็นถึงความเป็น"มวลชนธรรมชาติ" ด้วยซ้ำไป

    ด้วยประการฉะนี้ จึงแสดงให้เห็นได้อย่างเด่นชัด ถึงผู้ชุมนุมกลุ่มสวนจตุจักรว่า มีความเป็น"มวลชนธรรมชาติ"มากกว่า และเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่ทรงพลังทางการเมืองมากกว่า

    จากคุณ : สินธร - [ 18 มี.ค. 49 01:02:40 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป