ความคิดเห็นที่ 1 ปัญหาเรื่องกฏหมายรัฐธรรมนูญ ที่ทำให้มันเกิดทางตันเพราะว่า ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้เขียนอนุญาตให้ พรรคการเมืองไม่ต้องส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งได้ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาทางตันทางการเมืองขึ้น แต่เดิมในรัฐธรรมนูญฉบับก่อนนี้ ได้บังคับไว้ว่าพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมา จะต้องส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้น กฏข้อนี้สำคัญมาก ทำให้ไม่มีใครสามารถตั้งแง่ได้ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ตอนที่ยอมเขียนว่า พรรคการเมืองจะส่งหรือไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งก็ได้นั้น เป็นเพราะว่า ผู้ร่างกฏนี้ขึ้นมานั้น คิดว่า เมื่อมีการเลือกตั้ง ทุกพรรคการเมืองก็ต้องอยากมี ส.ส. ในพรรคตัวเองเกิดขึ้นทั้งนั้น จึงแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะมีพรรคการเมืองไม่ส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้ง มันจึงทำให้เกิดปัญหาในทางการเมืองว่ามีผู้สมัครคนเดียว พรรคเดียว มันทำให้เกิดปัญหาที่ในรัฐธรรมนูญได้ตราไว้ว่า ถ้ามีผู้สมัครคนเดียว พรรคเดียว จะต้องได้รับคะแนน 20% ของผู้ออกมาใช้สิทธิ์ เพราะการยอมให้มีกฏว่าพรรคการเมืองจะส่งหรือไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง จึงทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา ดังนั้น เพื่อยุติปัญหาในอนาคต ควรแก้รัฐธรรมนูญให้ ทุกพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นมา จะต้องส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้ง....ไม่งั้นจะมีพรรคการเมืองไว้ทำไม???? ทั้งยังได้รับเงินอุดหนุนพรรคการเมืองอีก???? ประหลาดเหลือเกิน!!!! ขณะนี้ ผู้ก่อม็อบกำลังทำผิดกฏหมายรัฐธรรมนูญหรือเปล่านะครับ เพราะว่า ตามหลักรัฐธรรมนูญนี้ ให้สิทธิชุมนุมแสดงความคิดเห็นได้ แต่ไม่ได้ให้สิทธิในการกดดันให้นายกที่มาจากการเลือกตั้ง ออกไปนะครับ ถ้าจะทำให้ถูกต้อง ม็อบควรจะกดดันเรียกร้องให้รัฐบาลตอบคำถาม ทุกอย่างที่ตนมีข้อมูลมา เช่น เรื่องที่น่าสงสัยเกี่ยวกับคอรัปชั่น หรือ เรื่องกฏหมาย FTA หรือ เรื่องอื่นๆ ที่อาจเป็นผลเสียต่อประเทศ และคนไทยทุกคน เมื่อกดดันให้รัฐบาลชี้แจงต่อสาธารณะแล้ว คนไทยก็จะไม่ต้องแตกแยก ทะเลาะกันแบบทุกวันนี้ ประชาชนก็จะไปใช้อำนาจของตนเองผ่านการเลือกตั้ง แต่นี่ม็อบเรียกร้องผิด โดยไม่มีอำนาจรองรับ ฝ่ายค้านก็ดันไปร่วมด้วย ทำให้เกิดปัญหามากมาย ถ้าฝ่ายม็อบอยากสู้มีปากมีเสียงมากกว่านี้ เพื่อจะซักฟอกใครก็ตามในรัฐสภา ก็ควรเสนอตัวต่อประชาชน เข้าไปเป็นปากเสียงในสภา จึงจะถูกต้อง การกระทำอย่างนี้จะทำให้คนไทยยังรักและสามัคคีกันต่อไปและช่วยกันพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป แต่การออกมาประท้วงเช่นนี้มีแต่จะทำให้เกิดผลเสียต่อประเทศ การประกาศให้นายกที่มาจากการเลือกตั้งลาออกนั้น แสดงว่า คุณไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่ และถ้าคุณอ้างว่า คุณเป็น 1 ใน 19 ล้านเสียงที่เปลี่ยนใจแล้ว นั่นก็ยิ่งต้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ นั่นคือการยุบสภา นั่นก็เป็นการตอกย้ำว่า ทักษิน ทำการยุบสภาเป็นการถูกต้องแล้ว เพราะทุกคนสามารถใช้วิจารณญาณของตนเอง ออกเสียงเลือกผู้นำ ไม่ใช่การออกมารวมตัวกันประท้วง แล้วอ้างว่าเป็นตัวแทนประชาชนทั้งประเทศ ไม่ถูกต้อง เพราะ ทั้งประเทศไม่ได้เห็นด้วยกับม็อบ อีกอย่างขณะนี้ พวกม็อบอ้างว่า เป็นพวกกู้ชาติ เพื่อรักษาประชาธิปไตย แต่ทำไมทนไม่ได้ เมื่อมีใครออกมาแสดงความเห็นหักล้าง ด้วยปัญญา ทำไมไม่ยอมรับความคิดที่แตกต่าง ทั้งๆ ที่ตัวเองประกาศปาวๆ ให้ผู้อื่นยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างของตัวเอง แม้แต่นักมวยที่ไปวิ่งสนามหลวง แค่คาดป้ายว่า คนรักทักษิณ ก็จะไปรุมไล่เขา แบบนี้เขาเรียกว่าอันธพาลนะครับ แบบนี้แหละเขาเรียกว่า เผด็จการอย่างแท้จริง คิดแต่แบ่งพรรคแบ่งพวก ทำให้เกิดการแตกแยก ไม่สามัคคีกันในชาติ ไม่รู้ว่า ผู้มาชุมนุมกันน่ะ ได้ไตร่ตรองรอบคอบแค่ไหน แค่ฟังคนอื่นเค้าพูดน่ะ ยังไม่พอหรอกนะครับ รู้มั๊ยว่า ขณะนี้ เวลาม็อบขึ้นเวทีพูดนั้น ชอบอ้างข้อมูลผิดๆ บางทีก็กุเรื่องขึ้นมาเอง อย่างเช่น บอกว่า "ผมเพิ่งได้รับข่าวที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า ....กำลังเตรียมจะทำการจะประกาศภาวะฉุกเฉิน....." และ อื่นๆ อีก ถ้าจะให้ถูกต้องก็ควรอ้างอิงแหล่งที่มีสิครับว่า ใครมาบอก แบบนี้ใครก็พูดขึ้นเองได้ ไม่น่าเชื่อถือนะครับ ผู้ฟังควรจะพิจารณาให้รอบคอบ อย่าเอาแต่เชื่อโดยไม่หาข้อมูล หรือไม่ได้คิดเอง ผมได้ยินคนที่ไปประท้วงกันให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อโทรทัศน์ช่องหนึ่ง "....เอาเข็มกลัดที่มีข้อความแรงๆ กลับไปฝากน้อง ฝากลูก ฝากเพื่อน, สะใจดี...." แปลกมาก อยากรู้ว่า ทำกันไปได้ แค่เพื่อความสะใจเหรอ นี่ทำให้ประเทศชาติเสียหายอย่างมากนะ อุตส่าห์กอบกู้กันมาตั้งหลายปี ยิ่งปีนี้จะมีแขกบ้านแขกเมืองมาแสดงความยินดีกับพระเจ้าอยู่หัวด้วย ทำไมคนพวกนี้ไม่คิดกันบ้างเลย คอยดูไว้นะ ปีหน้าน่ะ คนในชาติลำบากแน่ๆ เตรียมรับมือกับภาวะเงินฝืดได้เลย จะเปิด หรือปิดห้องคุยก็ไม่มีปัญหา เพราะมีคนกลางอยู่ด้วย ต่างก็ต้องออกมายืนยันสิ่งที่ได้คุยกันไว้อยู่แล้ว ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนั้นหรอก แต่อยู่ที่ ม็อบ หลับหูหลับตา เรียกร้องสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะว่า กฏหมายไม่ได้รองรับ มันนอกกติกา มันจะไปสร้างบรรทัดฐานใหม่ ต่อไปถ้าฝ่ายไหนไม่พอใจรัฐบาล ก็จัดตั้งม็อบออกมาขับไล่ ล่ารายชื่อ ถวายฎีกา ถอดถอนมั่ว ยังไม่ทันฟังคำชี้แจงเลย อย่างนี้ ประเทศก็พังสิครับ จากคุณ : Mega Focus (thipch) - [ 19 มี.ค. 49 21:46:01 ]

ความคิดเห็นที่ 2 http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9480000038829 "แต่ว่าพี่ลอง คล้ายๆ ว่าเงียบไปนานแล้ว ไม่อยากให้คนลืม อยากจะมีบทบาทขึ้นมาอีก แต่ว่าผมมีอะไรบางอย่างซึ่งผมคิดว่า พี่ลองเดินผิดทาง และผมต้องเตือนเอาไว้ซักนิดนึง และเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองไปแล้วนะ คือมีการจัดตั้งกันทุกสิ่งทุกอย่างเลย " จากคุณ : ช่างเจรจา - [ 19 มี.ค. 49 21:51:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 'สนธิ' ชี้ 'มหาจำลอง' ประท้วงเบียร์ช้างเป็นเรื่องการเมือง   โดย ผู้จัดการออนไลน์ 19 มีนาคม 2548 04:41 น. 1 | 2 | 3 | 4    หน้าถัดไป                สนธิ ติง “จำลอง” ประท้วงเบียร์ช้าง ไม่ถูกเรื่อง แนะควรประท้วงเรื่องที่พระสงฆ์ผิดพระรรมวินัยมากกว่า และยันเรื่องนี้เป็นการเมือง พร้อมจวกยับกระทรวงเกษตรฯ แก้ปัญหาภัยแล้งไม่ได้ เพราะทุจริตกันมานาน แฉปุ๋ยยูเรียเป็นของปลอม ทำให้ทำฝนเทียมไม่ได้ ด้านราคาน้ำมัน เสนอให้ขึ้นทันที 3 บาท เพราะจะกระตุ้นให้ประหยัดน้ำมันได้ดีกว่าการปรับทีละนิด             สโรชา – สวัสดีค่ะ คุณผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์อาหารสมองก่อนเข้านอนในทุกคืนวันศุกร์ค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้งค่ะกับ กับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล และดิฉัน สโรชา พรอุดมศักดิ์ สัปดาห์นี้มีเรื่องที่ต้องคุยกันหลายต่อหลายเรื่องค่ะคุณผู้ชม เรื่องราวที่เกิดขึ้นในรอบสัปดาห์ คงจะมีหลายต่อหลายท่านได้พูดคุยกันถึงพี่น้องประชาชนหลายภูมิภาคของประเทศไทยที่ต้องประสบกับภัยแล้งอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้แล้วยังมีอีกหลายกลุ่มของสังคมเช่นเดียวกันค่ะ ที่กำลังต้องทำใจรับกับราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันดีเซล หรือว่าน้ำมันเบนซิน ก็ตาม มีคำถามของหลายต่อหลายคนในใจ ถามว่าเมื่อไหร่จะลอยตัวราคาดีเซล และจะลอยตัวอย่างไร รวมไปถึงเมื่อไหร่ ผลกระทบจะไปถึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และเราในฐานะผู้บริโภคนั้นจะต้องรับภาระนี้เมื่อไหร่อย่างไร และก็หนักหน่วงมากน้อยขนาดไหน เราคงต้องคุยกันในประเด็นนี้ แต่เรื่องใหญ่ประจำวันนี้คงจะไม่พ้นเรื่องการรวมตัวของพระสงฆ์เป็นพันๆ รูปนะคะ หน้าอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อที่จะคัดค้านการเข้าระดมทุนของบริษัทผู้ผลิต แอลกอฮอล์รายใหญ่ของประเทศ คุณสนธิค่ะ ถือว่าเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ พอสมควร เพราะว่าเหลืองอร่ามไปทั่วเลย ตลอดหน้าตลาดหลักทรัพย์              สนธิ – เป็นเรื่องที่ผมผิดหวังมาก และเป็นเรื่องที่ผม คิดว่า เป็นจุดยืนยันในเรื่องของสังคมไทย เป็นสังคมที่ขาดองค์ความรู้ และไร้ปัญญา คือเรื่องนี้โดยตรรกะแล้วใช้ไม่ได้เลย ด้วยเหตุด้วยผลใช้ไม่ได้ เพราะว่าประท้วงผิดเรื่อง ประท้วงผิดประเด็น และประท้วงผิดที่ แล้วผู้คนซึ่งเป็นพระสงฆ์องค์เจ้า เรื่องที่ควรจะประท้วงเช่น เรื่องของพระธรรมวินัย ไม่ประท้วง มาประท้วงเรื่องซึ่ง ผมอยากจะใช้คำพูดว่า เลอะเทอะ ก่อนผมจะอธิบายให้คุณสโรชาฟังในตอนสองดีกว่า เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องอธิบายความกันนิดหน่อย ว่าจริงๆ แล้ว ในสายตาของผม ผมคิดว่า บริษัทไทยเบฟเวอร์เรจ ถ้าพูดถึงบริษัทที่ผลิตเบียร์ช้าง คนจะรู้จัก เป็นเหยื่อทางการเมือง เรื่องนี้ เพราะว่า มันเป็นปลายเหตุ มันไม่ใช่ต้นเหตุและคนซึ่งมาประท้วง แม้กระทั่งพี่ลองที่ผมรู้จัก พี่ลองของผม ที่เคยพูดมาแล้วครั้งหนึ่ง คือพี่ลองเป็นคนซึ่งเงียบนานไม่ได้ อยากจะให้คนจำตัวพี่ลองไว้เสมอ             สโรชา – หมายความว่าไงค่ะ หมายความว่าท่านมีกระแสออกมาเรื่อยๆ              สนธิ – ต้องมีกระแสออกมาเรื่อยๆ ครั้งแรกที่สุดในชีวิตที่โด่งดังขึ้นมาคือสมัยพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ลุกขึ้นมาประท้วงเรื่องการทำแท้ง คือพี่ลองเป็นคนจับต่อมความรู้สึกของคนไทยได้เก่ง รู้ว่าถ้าเล่นเรื่องประท้วงการทำแท้ง ประท้วงเรื่องไม่ให้เบียร์ช้างเข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยอ้างว่าจะส่งเสริมให้คนกินเหล้ามากขึ้น พ่อแม่พี่น้องประชาชนปรบมือเกรียวกราว ชอบอกชอบใจ             สโรชา – ถูกใจ โดนใจ             สนธิ – แต่ในข้อเท็จจริงไม่ใช่อย่างนั้น ไม่ใช่อย่างที่พี่ลองคิดนะครับ แต่ว่าพี่ลอง คล้ายๆ ว่าเงียบไปนานแล้ว ไม่อยากให้คนลืม อยากจะมีบทบาทขึ้นมาอีก แต่ว่าผมมีอะไรบางอย่างซึ่งผมคิดว่า พี่ลองเดินผิดทาง และผมต้องเตือนเอาไว้ซักนิดนึง และเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองไปแล้วนะ คือมีการจัดตั้งกันทุกสิ่งทุกอย่างเลย เดี๋ยวผมจะชี้แจงให้ฟัง             สโรชา – ค่ะ จะเป็นอย่างไรนั้นรายละเอียดเดี๋ยวมาติดตามในช่วงต่อไปของรายการนะคะ แต่ว่ามันก็เป็นประเด็นที่เราจะนำมาเรียนถามคุณผู้ชมในค่ำคืนนี้ เราถามคุณผู้ชมว่า ท่านเห็นควรให้เบียร์ช้างเข้าตลาดหลักทรัพย์หรือไม่ นะคะ เห็นควรกด เอ็มที 1 ไม่เห็นควร กดเอ็มที 2 ส่งมาที่ 84820 หรือโทร.มาก็ได้นะคะ ที่ 02-201-6055-60 ค่ะ ขอบคุณฟรีอินเตอร์เน็ตที่เอื้อเฟื้อระบบเอสเอ็มเอสให้กับเราค่ะ เช่นเคยค่ะ มีข่าวประชาสัมพันธ์อยากจะเรียนให้คุณผู้ชมทราบอีกซักครั้งหนึ่ง สำหรับงานอุทยานอนุรักษ์สุขภาพครั้งที่ 9 จะจัดขึ้นในวันที่ 26 และ 27 มีนาคมนี้ โดยวันที่ 26 นั้นคุณสนธิจะไปร่วมสนทนากับศ.นพ. ประสาน ต่างใจ ในหัวข้อ วิทยาศาสตร์ กับพุทธศาสตร์ ในวันที่ 27 คุณสนธิ จะร่วมเสวนาธรรมกับพระอาจารย์วัลลภชวนปัญโญ นะคะ ในหัวข้อ รหัสกรรมภาค 2 นอกจากนี้แล้วยังมีผู้เชี่ยวชาญด้วยนะคะ ที่จะบรรยายพิเศษ ในหัวข้อต่างๆ อาทิเช่น พุทธศาสตร์กับสมาธิยิ้ม โดยดร.เทียนชัย วงศ์ชัยสุวรรณ หรือว่าชะตากรรมกับสุขภาพบนใบหน้า และการนวดหน้าด้วยตนเอง เพื่อสุขภาพนะคะ โดยอาจารย์อำนาจ ชัยชลทรัพย์ และอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คงจะไม่พ้นสุขภาพเท้าดี ชีวีมีสุข โดยอาจารย์สมบูรณ์ รุ่งโรจน์สกุลพร ค่ะ สามารถที่จะติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ 02-629-2211 ต่อ 117 1118 และ 1152 ค่ะ จัดที่อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ ในละแวกบางลำพู หมดเขตไปแล้วนะคะ สำหรับหนังสือเมืองไทยรายสัปดาห์ ดิฉันขอแซวนิดนึง เพราะได้ยินข่าวว่าคุณสนธิปวดหลัง ก็เลยจะเรียนถามว่า เป็นเพราะเซ็นหนังสือมากเกินไปหรือเปล่า             สนธิ – คุณสโรชา ถ้าคุณต้องเซ็นหนังสือที่ท่านผู้ชมหรือท่านผู้สนใจสั่งจองมาประมาณ 3,200 ชุด เอา 3 คูณเข้าไป 9,600 เล่ม คุณไม่ต้องหัวเราะ คุณก็ต้องเซ็นเหมือนกัน             สโรชา – เซ็นด้วยความดีใจมากกว่านะคะ เป็นกำลังใจให้กับทีมงานทุกๆคน สำหรับเมืองไทยรายสัปดาห์ที่จะผลิตรายการให้คุณผู้ชมได้รับชมในทุกคืนวันศุกร์ค่ะ พักซักครู่นะคะ เดี๋ยวกลับมาคุยกันเรื่องประเด็นเบียร์ช้าง ซักครู่ค่ะ จากคุณ : Livestock - [ 19 มี.ค. 49 22:19:26 ]