| 50% (6 คน) |
| 70% (3 คน) |
| 80% (7 คน) |
| 100% (2 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 18 คน |
ไม่ต้องปฎิเสธว่าไม่มีการจ้างคนมาประท้วง..คนที่รับจ้างมา ส่วนมากเป็นคนงานตามโรงงานแถวๆชานเมืองเช่นพระประแดง นครปฐมหรือสมุทรสาคเป็นต้น แม้แต่แถวๆมีนบุรีก็มี
เวลาประมาณ4โมงเย็นจะมีรถบัส10-20คัน จอดคอยตามจุดต่างๆ..500บาทขาดตัว เริ่มตั้งแต่1700-2400น..เสาร์อาทิตย์ต้องจัดรถบัสเพิ่มและต้อง1,000บาท เพราะต้องนอนค้างคืนด้วย มีอาหารบริการเต็มที่..ดังนั้น คนที่มาประท้วงเพราะเดือดร้อนจริงๆ ผมว่ามีไม่กี่เปอร์เซ็นต์ สังเกตุดูจากหน้าตาก็รู้ บางทีไม่รู้ว่า ที่นี่มันกรุงเทพหรือปักใต้ เพราะมันพูดกันแต่ภาษาปักใต้ที่มาจากแถวๆรามคำแหง บางพวกรับจ้างทั้งทักษิณและของไอ้ทิ วันที่ทักษิณเปิดปราศัยที่สนามหลวง คนพวกนี้ก็รับจ้างมา พอข้ามไปอีกวันก็รับจ้างไอ้ทิมาอีก คนพวกนี้เลยเบลอร์ พอคนบนเวทีตะโกนว่า ทากกกกกสินนนนนนนนน...คนพวกนี้ลืมไป แล้วตะโกนตอบไปว่า..สู้สู้..ฮ่ะๆๆ ดีว่ามาจากรถบัสคันเดียวกันและโรงงานเดียวกันเลยรอดถูกเหยียบจากคนของไอ้ทิไปได้.
เราจะสังเกตุได้ว่า จำลองพยายามปลุกระดมให้เกิดความรุนแรง แต่ไม่เกิด เพราะคนเหล่านี้ไม่ต้องการ เห็นท่าไม่ดี ก็หนีลูกเดียวเรื่องอะไรจะต้องไปเสี่ยงด้วย หนึ่งในหมื่นคนเล่าให้ฟัง พวกเขาไปเพื่อเงินอย่างเดียว..
อีกส่วนหนึ่งในระยะหลังๆก็มีเหลือไม่มากนัก คือพวกเสียผลประโยชน์จริงๆ คนพวกนี้เป็นพวกที่มีความรู้มีงานมีการทำเงินเดือนสูงๆจากรัฐวิสาหกิจต่างๆ คนพวกนี้ก็ไม่ต้องการความรุนแรงเช่นกัน เหลือแต่เด็กของไอ้ทิที่เดินกร่างไปทั่วที่มันฝึกไว้ชนเท่านั้นแหละ..
เพราะฉะนั้น ใครที่กลัวความรุนแรงจึงไม่ต้องกังวลให้มากนัก จะเห็นได้ว่าไอ้ทิมันพยายามรวบรัดให้จบเร็วๆ เพราะเงินทุนสนับสนุนจากผู้เสียผลประโยชน์ทั้งหลายทั้วประเทศกำลังจะหมดไป อีกอย่างหนึ่ง พวกสนับสนุนทั้งที่มีอาชีพผิดกฎหมายและถูกกฎหมายเริ่มเห็นว่า ชักยากเต็มทีที่จำกำจัดทักษิณออกไปให้พ้นทางได้ ตัวสนับสนุนรายใหญ่ก็ถูกตัดตอนไปอีกรายเรื่องมั่วเช่าสถานที่เกี่ยวกับหุ้น..
ผมว่าการประท้วงครั้งนี้จึงแตกต่างจากการประท้วงที่ผ่านๆมาอย่างสิ้นเชิง เช่น14ตุลาและพฤษภาทมิฬ..เพราะครั้งนั้น ไม่มีใครรับจ้างมาประท้วง ไม่ใครเสียผลประโยชน์จากการกระทำของรัฐบาล แต่เราต้องการประชาธปไตยจริงๆ คนเข้าร่วมจึงมากันด้วยความบริสุทธิ์ใจปราศจากเงินจ้างอยู่เบื้องหลัง
เจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ถืออาวุธแบบยั่วยุท้าทาย บวกกับสมัยนั้นมีวัยรุ่นจากโรงเรียนอาชีวะต่างๆเข้าร่วมด้วย..การกินเหล้าเมายาและอาวุธก็ไม่มีใครควบคุมได้ เมื่อเกิดกระทบกระทั่งกันขึ้นกับเจ้าหน้าที่และพวกกันเอง จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น จึงเป็นเหตุให้คนปลุกระดมอย่างนายจำลองถือโอกาสขึ้นเวทีปลุกระดมได้ง่ายขึ้น จึงเป็นสาเหตุหนึ่งของการปะทะ มีการบาดเจ็บและเสียชีวิตเกิดขึ้น..ภาพการเสียชีวิตของพี่น้องเพื่อนฝูงในครั้งนั้นจึงติดตามาจนทุกวันนี้
ปัจจุบันถ้าสังเกตุจะเห็นว่านายจำลองพยายามใช้แผนเดิมคือเคลื่อนย้ายมอ็ปไปที่โน่นทีที่นี่ทีเพื่อให้เกิดการปะทะ แต่ก็ไม่ได้ผล ตามที่ผมได้กล่าวไว้แล้วข้างต้น เจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ไม่มีการถืออาวุธแบบยั่วยุ ผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่กลายเป็นเพื่อนกันก็มีเพราะรับจ้างประท้วงเสียจนเจ้าหน้าที่จำได้..บางที่จะเห็นว่าเจ้าหน้าที่กับผู้ประท้วงยืนคุยกัน แบ่งของกินกัน เจ้าหน้าที่ก็ถามว่า เมื่อไรจะหยุดประท้วงเสียทีว๊ะพวกกรูเหนื่อยอิบอ๋ายเลย ผู้ประท้วงบางคนก็ตอบ่า โธ่พี่ ถ้าเลิกประท้วงพวกผมก็อดดิ..
ประชาชนก็ไม่พกอาวุธ การกินเหล้าเมายาก็น้อย สรุป ทุกอย่างสามารถควบคุมได้ เพราะฉะนั้น ผมแน่ใจว่า การนองเลือดจะต้องไม่เกิดขึ้นแน่นอนครับ..หรือไม่ก็ทำสัญญาผูกปีประท้วงกันไปเลยเพราะรายได้ดี ขออย่างเดียวอย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อนและทำลายทรัพย์สินของทางราชการก็แล้วกัน..แต่ถ้าเงินหมด.ไอ้ทิก็หาทางอื่นหาเงินใช้หนี้เขาต่อไปหรือไม่ก็เข้าไปสงบสติอารมณ์ในคุกเนื่องจากไม่มีเงินจ่ายหนี้..ไอ้ลองก็กลับไปนอนกับหมาจรจัดต่อไป คนอื่นๆเช่นนายสมศักดิ์นายสุริยะใสก็คอยหาทางรับจ้างเป็นผู้นำประท้วงต่อไปเพราะมันเป็นอาชีพถนัดที่ทำอย่างอื่นไม่เป็นแล้ว..
แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 49 15:12:01
แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 49 15:10:17
จากคุณ :
นายเหม็น
- [
22 มี.ค. 49 14:55:34
]