ปรากฎการณ์ทางการเมืองในอดีตสองครั้งใหญ่ๆที่เกิดขึ้น คือ ปี 16 และปี 35 เกิดเหตุการณ์การชุมนุมของปวงชน ไม่ว่าจะมีใครเป็นแกนนำและด้วยเหตุผลประการใดก็ตาม ได้รับการตอบรับจากประชาชนเข้าร่วมต่อสู้อย่างรวดเร็วและเต็มใจ
เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะผู้ปกครอง มิได้มีที่มาจากประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยประการหนึ่ง หากแต่เป็นการถือปืนและขับรถถังเป็นเครื่องมือในการครองอำนาจ
ประการต่อมา การใช้อำนาจของผู้ปกครองในสองครานั้น กล่าวได้ว่า ไม่ยอมเปิดช่องทางให้ประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยได้โต้แย้งคัดค้าน หรือฝ่ายใดวิพากษ์วิจารณ์
ประกอบกับประชาชนเห็นและเข้าใจถึงช่องทางทางการเมืองที่ตนไม่อาจดำเนินการใดได้ตามกติกาการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่ต้องดำเนินไปตามรัฐธรรมนูญ กล่าวคือ สิ้นหนทางที่จะโต้แย้งอำนาจของผู้ปกครอง อันเกิดจากความต้องการของผู้ปกครองเอง ที่ต้องการครองอำนาจโดยไม่ต้องได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน
ความเป็นไปของเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเป็นอยู่ในขณะนั้น ผู้ปกครองประสงค์ครองและใช้อำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ โดยที่ไม่ต้องการการโต้แย้งใดๆจากประชาชน หรือที่มักเรียกกันว่า"เผด็จการ"
กรณีเช่นนี้จึงก่อให้เกิดทางตันทางการเมืองที่ประชาชนหมดสิ้นหนทาง ไม่อาจดำเนินการประการใดได้ ไม่มีช่องทางตามกติกาของระบอบการปกครอง นอกจาก"การชุมนุมทางการเมือง"ต่อต้านผู้ปกครอง เท่านั้น ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนอย่างล้นหลาม
นี่จึ่งเป็น"ทางตันทางการเมือง"อันเกิดจากความเป็นจริง
หันมามองดูปรากฎการณ์ทางการเมือง ณ.ปัจจุบัน
การแสดงความเห็นจากนักวิชาการบางท่าน การวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อมวลชนบางแขนงบางแห่ง การแสดงออกของนักเคลื่อนไหวทางการเมือง รวมไปถึงการดำเนินการของนักการเมืองบางฝ่ายบางกลุ่ม
หลายกลุ่มหลายฝ่ายได้ร้องขึ้นพร้อมเพรียงกันว่า "เกิดทางตันทางการเมือง" และได้รวมตัวชุมนุมทางการเมืองโดยบุคคลกลุ่มหนึ่ง พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนแสดงพลังต่อต้านผู้ปกครอง
การเรียกร้องต่อประชาชนโดยกลุ่มบุคคลดังกล่าว ดำเนินมาอย่างยาวนานกว่าครึ่งปี แต่กลับไม่ได้รับการตอบรับจากประชาชนดังเหตุการณ์ปี 16 และปี 35
เพราะเหตุใด ?
ในทางกลับกัน เกิดมีกลุ่มชนอีกกลุ่มรวมตัวสนับสนุนผู้ปกครอง
เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ?
พิเคราะห์เปรียบเทียบปรากฎการณ์ทางการเมืองในขณะนี้กับเมื่อครั้งปี 16 และปี 35 (สองครั้งดังกล่าวก็มีรายละเอียดที่ต่างกัน แต่ละไว้ฐานที่เข้าใจ)
ณ.ปัจจุบัน ผู้ปกครองมีที่มาต่างจากปี 16 และปี 35 กล่าวคือ มิได้อาศัยปืนและรถถังเป็นที่มาของการเข้าสู่และครองอำนาจอำนาจ หากแต่ได้รับฉันทานุมัติผ่านการเลือกตั้งจากประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตย
ประการต่อมา ผู้ปกครองไม่ได้ปิดช่องทางในการวิพากษ์วิจารณ์ ประชาชนไม่ว่ากลุ่มหรือฝ่ายใด สามารถโต้แย้งคัดค้าน ผ่านช่องทางต่างๆได้หลากหลาย เช่น ทีวี หนังสือพิมพ์ วิทยุ บทความ รวมถึงอินเตอร์เน็ต นี่คือข้อแตกต่างในประการสำคัญประการหนึ่ง
ตัวอย่างที่พิสูจน์ได้อย่างชัดเจนถึงสิทธิในการวิพากษ์วิจารณ์และโต้แย้งผู้ปกครอง เช่น เมื่อเดินไปดูตามแผงหรือร้านขายหนังสือ
การแทรกแซงสื่อหรือปิดปากมิให้โต้แย้งผู้ปกครองอย่างปี 16 ปี 35 ที่พยายามโหมกระแส จึงเห็นได้ชัดว่า ไม่เป็นความจริง
กรณีนี้เป็นเหตุผลที่สำคัญประการหนึ่งที่ประชาชน ไม่ตอบรับการเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ต่อต้านรัฐบาล
ประกอบกับช่องทางในการดำเนินการทางการเมืองตามกติการัฐธรรมนูญ ยังคงมีอยู่ เช่น ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง การเลือกตั้ง และอื่นๆฯ มิใช่สิ้นหนทางอย่างเช่นครั้งก่อนๆ ซึ่งผู้ปกครองได้แสดงความจำนงค์ถึงการยอมรับมติของปวงชนด้วยซ้ำไป
อำนาจของผู้ปกครองจึงไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด โดยปราศจากการโต้แย้งใดๆหรือปฏิเสธฉันทานุมัติของประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างในอดีต
สถานการณ์ทางการเมืองที่ดูเสมือนหนึ่งยุ่งยากวุ่นวายนี้ เกิดจากผู้ปกครองรวบอำนาจเบ็ดเสร็จดังอดีตหรือเกิดจากประการใดกันแน่
การพยายามไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ การไม่ยอมรับการตัดสินใจของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง มิได้เกิดจากการกระทำของผู้ปกครอง
หากแต่เกิดจากการกระทำของกลุ่มและฝ่ายต่างๆที่ต่อต้านรัฐบาล"ก่อให้เกิดขึ้นเอง" และแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ว่าเกิด"ทางตันทางการเมือง" พร้อมโยนความผิดไปที่รัฐบาลว่าเป็นผู้กระทำ ทั้งๆที่ปรากฎชัดว่าเป็นการกระทำของตน
เมื่อเป็นดั่งนี้ ทางตันทางการเมืองที่กล่าวกัน จึงเห็นได้ชัดว่า "มิใช่" ทางตันทางการเมืองตามความเป็นจริง
แต่เกิดจากการกระทำของผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่ง ประกอบกับฝ่ายค้าน และโหมกระพือข่าวเพื่อสร้างกระแสโดยนักวิชาการผู้ฝักใฝ่พรรคการเมืองบางคนบางกลุ่มกับสื่อบางแขนงบางแห่ง
ทั้งที่ความเป็นจริงปรากฎการณ์ทั้งหลายมิได้เกิดจากผู้ปกครองและมิได้เกิดทางตันอย่างที่พยายามกล่าวอ้างชวนเชื่อเลย
จากคุณ :
สินธร
- [
23 มี.ค. 49 12:51:09
]