ความคิดเห็นที่ 3
ถ้าโชว์หลักฐานโอนเงินด้วย ก็คงแถต่อไม่ไหวหรอก
พยานกลับลำแจ้งจับ สุเทพ แฉหมดเปลือกรับเงิน ปชป. 1 ล้านบาท ให้กล่าวหา ทรท. กทม. 25 มี.ค. ส.ส.ปาร์ตี้ ลิสต์ พรรคแผ่นดินไทย พยานปากสำคัญกลับลำแจ้งตำรวจกองปราบปรามจับเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เหตุถูกข่มขู่กดดันจนทนไม่ไหวให้เก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านพักที่สุราษฎร์ธานี 5 วัน 5 คืน หลังตกลงรับเงิน 1 ล้านบาท แลกกับการเป็นพยานเท็จกล่าวหาพรรคไทยรักไทยว่าจ้างผู้สมัครพรรคเล็กลงเลือกตั้ง ส.ส. เผยขั้นตอนละเอียดยิบหว่านล้อมให้ทั้งเงินและตำแหน่ง ส.ส.กทม. เที่ยวหน้า จ่ายเงินสด 100,000 บาท โอนเข้าบัญชีอีก 200,000 บาท ที่เหลือรอตกเบิกหลังสิ้นคดีในชั้นศาล
นางฐติมา ภาวะลี ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 2 พรรคแผ่นดินไทย พร้อมด้วยนายบุญอิทธิพล ชิณลาช หัวหน้าพรรคแผ่นดินไทย และทนายความ เดินทางเข้าแจ้งความต่อตำรวจกองปราบปรามให้ดำเนินคดีกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และพวก ในข้อหากักขัง หน่วงเหนี่ยว ทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ ทั้งที่ก่อนหน้านี้นางฐติมา เป็นหนึ่งในพยานปากสำคัญในจำนวน 4 ปาก ที่นายสุเทพ นำมาเปิดตัวกล่าวหาพรรคไทยรักไทยว่าว่าจ้างผู้สมัครจากพรรคเล็กให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.
นางฐติมา ให้สัมภาษณ์ว่าเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา สารวัตรสุวิชา หรือสารวัตรเอก ไม่ทราบนามสกุล สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มาพบตนและพาไปที่ที่ทำการพรรคปะชาธิปัตย์ โดยบอกว่าให้ไปพบกับนายสุเทพ และหัวหน้าพรรคแผ่นดินไทย เพื่อเจรจาเรื่องการยุบรวมพรรคเข้าด้วยกัน เมื่อไปถึงพบเพียงนายสุเทพ และผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์บางคน คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ และนายสุวโรช พะลัง แต่ไม่พบนายบุญอิทธิพล หัวหน้าพรรคของตน โดยนายสุเทพ ได้พูดข่มขู่ตนว่าใช้เอกสารเท็จในการลงสมัครเลือกตั้งซึ่งมีโทษทางกฎหมายอย่างหนัก หากไม่อยากถูกฟ้องร้องให้ยอมเป็นพยานกล่าวหาพรรคไทยรักไทย โดยเสนอผลประโยชน์เป็นเงินสด 1 ล้านบาท และตำแหน่ง ส.ส.กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป หลังถูกพูดจาหว่านล้อมประมาณ 30 นาที ตนจึงตกปากรับคำ เพราะกำลังมีปัญหาหนี้สินอยู่ นายสุเทพ จึงจ่ายเงินสดให้ 100,000 บาท และโอนเงิน 200,000 บาท จากธนาคารกรุงเทพ สาขาบิ๊กซี สะพานควาย เข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพของตนที่จังหวัดร้อยเอ็ด ส่วนเงินที่เหลืออีก 700,000 บาท จะจ่ายให้หลังการพิจารณาของศาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว
นางฐติมา กล่าวว่า จากนั้นนายสุเทพ ได้นำสคริปต์คำพูดจำนวน 4-5 แผ่น ซึ่งมีข้อความพาดพิงถึงผู้บริหารพรรคไทยรักไทยมาให้ตนอ่านและบันทึกเป็นซีดีไว้เพื่อนำไปให้ กกต. ใช้เป็นหลักฐานเอาผิดพรรคไทยรักไทย เสร็จแล้วได้พาตนไปควบคุมตัวไว้ที่บ้านพักของนายสุเทพ ที่จังหวัดสุราษฐ์ธานี โดยมีตำรวจนอกเครื่องแบบและชายฉกรรจ์คอยดูแลอย่างเข้มงวด รวมทั้งพาตนไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธร ภาค 8 ว่าตนยินยอมมาอยู่ในความดูแลของนายสุเทพ เอง เพราะกลัวว่าจะถูกข่มขู่ทำร้ายจากพรรคไทยรักไทย
อย่างไรก็ตาม ในภายหลังเมื่อพบว่านายสุเทพ นำซีดีที่ตนบันทึกไว้ไปเปิดเผยกับสื่อมวลชนซึ่งถือว่าเป็นการผิดข้อตกลง ประกอบกับถูกข่มขู่และกดดันจากนายสุเทพ ตลอดเวลาว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กำลังส่งทหารออกตามล่าตัวตนอยู่ ห้ามไม่ให้ออกไปไหน จึงทำให้เกิดความกดดันและไม่ต้องการอยู่ภายใต้การควบคุมของนายสุเทพ อีก เมื่อถึงวันที่ 23 มีนาคม ซึ่งนายสุเทพ ได้พาตนไปที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 เพื่อให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ กกต. พร้อมกับพยานอีก 3 คน จึงได้ฉวยโอกาสโทรศัพท์ไปบอกน้องสาวให้แจ้งตำรวจกองปราบปรามมาช่วยรับตนออกไปจากบ้านพักของสุเทพ ตนจึงออกมาได้เมื่อวานนี้ และตัดสินใจนำเรื่องเข้าแจ้งความในวันนี้
นางฐติมา เชื่อว่าการเข้าแจ้งความครั้งนี้ต้องสร้างความไม่พอใจต่อพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน จึงจะขอกำลังตำรวจมาช่วยรักษาความปลอดภัย แต่ยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้ไม่มีเงื่อนงำใด ๆ แต่ทำไปเพราะทนรับแรงกดดันจากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ไหว โดยมีหลักฐานการโอนเงินทุกอย่างเป็นเครื่องยืนยัน ส่วนประชาชนจะมองว่าตนเป็นนักการเมืองที่ขายตัวให้พรรคประชาธิปัตย์ด้วยเงิน 1 ล้านบาทหรือไม่ ตนก็พร้อมยอมรับการตัดสินใจของประชาชน ทั้งนี้ ได้พยายามติดต่อไปหานายสุเทพ ถึง 2 ครั้งแล้ว เพื่อขอคืนเงินให้แต่นายสุเทพ ยังไม่รับโทรศัพท์ นางฐติมา บอกด้วยว่าพยานที่เหลืออีก 3 คน ที่ถูกซื้อตัวก็กำลังต้องการอิสรภาพเหมือนตนเช่นเดียวกัน. สำนักข่าวไทย
ว่าแต่ว่าน่าจะมีการบุกช่วยพยานอีก 3 คนที่เหลือนะ
จากคุณ :
p (shikima)
- [
25 มี.ค. 49 21:21:31
]
|
|
|