| สมควรถูกยุบพรรค (226 คน) |
| ไม่สมควรถูกยุบพรรค (7 คน) |
| เอาน่าถึงผิดจริง ก็ให้อภัยกันเถอะ เสียดายพรรคเก่าแก่ (9 คน) |
| เฉยๆ ยังไงก็ได้ (1 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 243 คน |
พยานสุเทพกลับลำ แจ้งความกลับฐานกักขังหน่วงเหนี่ยว
นาง ฐัติมา ภาวะลี ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคแผ่นดินไทย พร้อม นายประพันธ์ พรหมรัตน์ รองหัวหน้าพรรคแผ่นดินไทย และทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ ผู้กำกับการ 1 กองปราบปราม เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์บ ฐานกักขังหน่วงเหนี่ยว หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามซึ่งได้รับแจ้งความจากน้องสาวของตนให้ไปขอรับตัวกลับมาจากบ้านพักของนายสุเทพ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวานนี้ (24)
นางฐัติมา เปิดเผยว่า ก่อนที่จะไปเป็นพยานให้นายสุเทพ กรณีกล่าวหาพรรคไทยรักไทยทุจริตการเลือกตั้ง โดยว่าจ้างให้พรรคการเมืองขนาดเล็กลงสมัครแข่งขันการเลือกตั้ง เรื่องเริ่มจากวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา พ.ต.ท.สุวิชา ได้ขับรถยนต์บีเอ็มดับบิว สีน้ำเงิน ทะเบียน 666 มาหาที่ทำการพรรคแผ่นดินไทย ซึ่งตั้งอยู่ย่านดินแดง เชิญไปที่พรรคประชาธิปัตย์เพื่อพบกับนายบุญอิทธิพล ชิณราช หัวหน้าพรรคของตน
แต่เมื่อไปถึงตนก็ไม่พบตัวหัวหน้าพรรค เหมือนถูกหลอกให้ไป โดยตนได้พบกับนายสุเทพ, นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ, นายองอาจ คล้ามไพบูลย์, นายสุวโรช พลัง และนายไทยกร อดีตหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง โดยนายสุเทพได้พูดถึงเอกสารที่ผู้สมัครของพรรคตนใช้ลงเลือกตั้งว่ามีการปลอมแปลงเอกสาร และถามตนรู้หรือไม่ว่าความผิดทั้งหมดนี้มีกี่กระทง ซึ่งได้โต้เถียงไปว่าเอกสาเหล่านี้ทางพรรคเป็นผู้ทำให้ ตนไม่ทราบรายละเอียด แต่เชื่อว่าพรรคทำอย่างถุกต้องตามกฎหมาย แต่นายสุเทพยืนยันว่าปลอม
จนนายสุเทพพูดขึ้นมาว่า ถ้าอย่างนั้นไหนๆ มาแล้ว อยากให้ทำงานให้พรรคประชาธิปัตย์ 1 ชิ้น คือให้ช่วยแฉว่าพรรคไทยรักไทยว่าจ้างพรรคเล็กๆ ลงสมัคร เพราะจะโค่นพรรคไทยรักไทย ตนถามไปว่าจะให้ทำอย่างไร นายสุเทพจึงขอให้ช่วยอ่านสคริป 4-5 แผ่น ที่เตรียมไว้แล้ว โดยพบว่ามีการพาดพิงถึง คุณหญิงสุดารัตน์, พล.อ.ธรรมรักษ์, น.ต.ศิธา และนายผดุงศักดิ์ จากนั้นได้เสนอค่าจ้าง 1 ล้านบาท พร้อมตำแหน่งในพรรคประชาธิปัตย์ โดยจ่ายล่วงหน้าเป็นเงินสด 3 แสนบาทภายในห้องทำงานของนายสุเทพ ซึ่งมีหลักฐานกานโอนเงินเป็นสลิปของธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานควาย ที่ตนโอนเงินไปเข้าบัญชีน้องสาวที่บัญชีธาคารกรุงเทพ สาขาจังหวัดร้อยเอ็ด ส่วนที่เหลือนายสุเทพ บอกว่าจะให้ต่อเมื่อตนขึ้นให้การต่อหน้าศาลเสร็จแล้ว นอกจากนี้ยังได้ขอบันทึกวีดีโอไว้ แต่เมื่อมีการบันทึกคำพูดเสร็จ นายสุเทพบอกว่าเมื่อมาถึงขั้นนี้ เกรงว่างถ้าปล่อยให้กลับบ้านก็จะเป็นตรายต่อชีวิต ขอให้ไปเก็บตัวที่บ้านพักนายสุเทพ ในจังหวัดสุราษฎรธานี ซึ่งมีผู้สมัครจากพรรคพัฒนาชาติไทยอีก 3 คนอยู่ด้วย จากนั้นก็ถูกพาไป สภ.อ.พุนพิน เพื่อลงประจำวันว่ามาด้วยความสมัครใจ ต่อมาวันที่ 23 มีนาคม นายสุเทพ ได้พาตนและพยานอีกสามคนไปให้ปากคำกับ กกต. เมื่อกลับถึงที่พักจึงได้ขอใช้โทรศัพท์เพื่อโทรมาหาน้องสาวที่ กทม.ให้เข้ามาแจ้งความกับตำรวจกองปราบปราม ขอให้ส่งกำลังไปรับตัวออกมา
นางรัติมา กล่าวย้ำว่า ตามเนื้อหาในวีดีโอที่มีการพาดพิงถึงผู้ใหญ่ในพรรคไทยรักไทยหลายคน ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วก็ยังรู้สึกกลัว แต่ดีใจที่รอดชีวิตมาได้ ตอนนี้ไม่หนักใจอะไรแล้ว และขอให้ประชาธิปไตยดินหน้าต่อไป ศักดิ์ศรีของความเป็นผู้หญิงก็ไม่กลัวที่จะเสียภาพพจน์ในเมื่อกล้าทำก็กล้ารับ และขอให้ตำรวจเข้าไปช่วยเหลือพยานอีกสามคนที่ตกอยู่ในที่นั่งลำบากด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างการแถลงข่าว นางฐัติมา พยายามโทรติดต่อนายสุเทพ เพื่อนำเงินสามแสนไปคืน โดยโทรศัพท์อยู่สองครั้งแต่ไม่มีการรับสาย ขณะที่ผู้กำกับการ 1 กองปราบปรามได้มอบหมายให้สอบปากคำผู้เสียหายไว้ก่อน จากนั้นจะเรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 49 21:06:08
จากคุณ :
จอมกระบี่ไร้พ่าย
- [
25 มี.ค. 49 21:04:08
]