สวัสดีครับเพื่อนๆชาวอัสสัมชัญฯ และเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ท่านอื่นๆที่รักทุกท่าน
ผมใช้เวลาพอสมควรในการตัดสินใจว่าจะเขียนจดหมายนี้ถึงทุกๆคนดีหรือไม่ ในใจคิดอยู่ 2 เรื่อง คือ
จดหมายที่ผมเขียนนี้จะมีประโยชน์อะไรหรือไม่ จะมีใครเชื่อที่ผมเล่าให้ฟังนี้หรือเปล่า และถึงจะเชื่อ แค่จดหมายฉบับเดียวนี้ จะมีผลกับการตัดสินใจของทุกท่านหรือไม่ในวันเลือกตั้ง 2 เม.ย 49
จะมีการเลือกตั้งหรือเปล่า เพราะ ณ เวลานี้ยังบอกไม่ได้ว่าความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรที่ไม่ชอบทักษิณนั้นจะสัมฤทธิ์ผลตามเจตนาที่ตั้งใจไว้หรือไม่ที่จะให้นายกฯ ลาออก ซึ่งถ้าสำเร็จผลดังตั้งใจ จดหมายของผมก็คงจะไม่จำเป็น (แต่ผมก็ขอภาวนาให้ขบวนการขับไล่นายกฯ ในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ)
แต่ในที่สุดผมก็ตัดสินใจเขียนมา เพราะว่าอย่างน้อยก็ยังดีกว่านั่งอยู่เฉยๆไม่ได้ทำอะไรเลย อย่าน้อยผมก็ได้ทำอะไรเพื่อชาติบ้าง แม้จะเป็นเพียงเสียงเล็กๆ จากคนเพียงคนเดียว ผมรับรองได้ว่าไม่ได้มีผลประโยชน์หรือส่วนเสียใดๆกับฝ่ายใดทั้งสิ้น ความรู้สึกรังเกียจคนที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร มีมานานกว่า 16 ปีแล้ว เพราะผมเองได้เคยร่วมงานกับคนๆนี้ และโดนเขาหลอกมาแล้ว
มีหลายคนเคยถามผมว่าทำไมผมถึงเกลียดนายทักษิณ ชินวัตร คนนี้มากเหลือเกิน วันนี้ผมจะเล่าให้ฟัง รับรองได้ว่าผมไม่ได้เกลียดนายทักษิณคนนี้ เพราะหลงไปตามกระแส ผมไม่ได้ถูกมอมเมาโดยการปลุกระดม หรืองมงายเชื่อถือข้อกล่าวหาของฝ่ายต่อต้าน ปีศาจ:-) แต่อย่างใด แต่เป็นเพราะผมมีประสบการณ์ตรงกับตัวเองที่โดนคนๆนี้หลอกและหักหลังมา
จดหมายนี้อาจจะยาวและเสียเวลาในการอ่านบ้าง แต่รับรองได้ว่าทุกท่านจะใช้เวลาในการอ่าน เร็วกว่าผมเขียนแน่นอน โดยเฉพาะเพื่อนๆอัสสัมฯ คงรู้ดีว่า สมัยเราเรียนพิมพ์ดีดนั้นเราไม่ได้เรียนด้วยแป้นนี้ ซึ่งทำให้ผมพิมพ์ได้ช้ามาก ขอรบกวนเวลาเพื่อนๆ ช่วยกันอ่านสักนิด เป็นเรื่องประสบการณ์ตรงของผมกับคนที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร เมื่อ 16 ปีที่แล้ว ก่อนที่เขาจะเล่นการเมือง ก่อนที่เขาจะรวยเป็นแสนๆล้าน ก่อนที่เขาจะมีอำนาจเบ็ดเสร็จในบ้านนี้เมืองนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนั่นก็คือ ความเจ้าเล่ห์ ปลิ้นปล้อน หลอกลวง ความไร้จริยธรรมในการทำธุรกิจ ไม่สนใจวิธีการและความเดือนร้อนของผู้ร่วมงานและคนอื่นๆ สนใจแต่การได้มาซึ่งผลประโยชน์ของตัวเองฝ่ายเดียว ลองอ่านแล้วพิจารณาดูกันเองนะครับ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2533 คุณรัมยง (โต้ง) ได้ชวนผมซึ่งขณะนั้นเป็น ผู้จัดการทั่วไปของ บริษัทเพรสซิเด้นท์ทัวร์ฯ ให้ออกมาทำธุรกิจของตัวเอง ตั้งบริษัทของเราเองขึ้นมาใช้ชื่อว่า บริษัท อินเตอร์เน็ทคอมมิวนิเคชั่นฯ งานแรกที่เรารับคือ การเป็น Sub-Contract ติดตั้งเสาอากาศระบบ Microwave รับเคเบิลทีวีให้กับ บริษัท IBC Cable TV ของนายทักษิณคนนี้ (ตอนนั้นมี คุณประคอง พ. (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งนายทักษิณไปดึงตัวมาจากกลุ่มบริษัทสหยูเนี่ยน เป็น MD.แต่ต่อมาภายหลังคุณประคอง รู้เช่นเห็นชาตินายทักษิณคนนี้ เลยกลับไปอยู่กับ สหยูเนี่ยนอย่างเดิม) คงเหลือแต่ คุณนิวัฒน์ บ. (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อและนามสกุลแล้ว) ซึ่งนายทักษิณดึงตัวมาจากบริษัท IBM (ประเทศไทย)
ขอประทานโทษที่ต้องเอ่ยนามสองท่านนี้ แต่เพื่อพิสูจน์ว่าที่ผมพูดเป็นเรื่องจริง ไม่ได้แอบอ้าง (แต่ผมขอสงวนนามสกุลของท่านทั้งสอง) ปัจจุบัน คุณนิวัฒน์ ยังเป็นใหญ่เป็นโต (มาก) อยู่ที่ ITV
เมื่อเริ่มธุรกิจกับ IBC ตอนนั้นมี Sub-Contract ที่รับติดตั้งเสาอากาศแบบบริษัทของผมอยู่เพียง 4 บริษัทฯ เพราะตอนเริ่มนั้น ทาง IBC ตั้งคุณสมบัติของ Sub-Contract ไว้สูงมาก ตัวอย่างเช่น
- ต้องมีวิศวกรประจำบริษัทฯ
- ต้องมีเครื่องมือและอุปกรณ์ตามมาตรฐานซึ่งสูงมาก
- ต้องมี Field Strength Meter สำหรับวัดความแรงของสัญญาณ (ราคาเครื่องละเกือบแสนเมื่อ 16 ปีก่อน)
- รถที่ใช้ต้องเป็นรถกระบะมีหลังคาด้านหลัง ติดสติกเกอร์ของ IBC
- บันไดที่ใช้ต้องเป็นบันไดอลูมิเนียมแบบชักยืดได้
- พนักงานต้องใส่เสื้อฟอร์มของ IBC ฯลฯ
มีต่อ
จากคุณ :
Peechat
- [
30 มี.ค. 49 09:36:26
]