ขอเป็นกระทู้ที่เป็นมุมมองการเมืองในด้านบวกผสมเข้ามาสักกระทู้  เพื่อลดอุณหภูมิการเมืองที่ร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ลงบ้างนะครับ

จากภาพการเมืองที่ดูจะถือว่าเป็นช่วงวิกฤติได้ทั้งที่เกิดจากการเรียกร้อง  และสนับสนุนของกลุ่มมวลชน  การตัดสินใจไม่เข้าร่วมกิจกรรมการเลือกตั้งของพรรคการเมือง  ทำให้สังคมเกิดภาวะความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา  

หากมองข้ามปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น  กำลังเกิดขึ้น  หรือคาดว่าจะเกิดขึ้นในหลายด้านให้ผ่านไป  แล้วค้นหาผลของเหตุการณ์การเมืองที่ได้เกิดขึ้นในลักษณะของการเรียนรู้
หรือเป็นการค้นหามุมมองการเมืองในทางบวกจากวิกฤติที่เกิดขึ้นว่า  สังคมจะเกิดการเรียนรู้ และส่งผลต่อการเมืองภาคใหม่ได้อย่างไร  หรือภาพของการเมืองหลังวิกฤติครั้งใหม่นี้  จะเป็นอย่างไรได้บ้าง จขกท.ขอมอง"ฟ้าหลังฝน"
ในมุมมองส่วนตัวดังนี้

ภาคการเมือง...

1.ฝ่ายรัฐบาล จะเกิดความคำนึงต่อความสุจริตในการบริหารแผ่นดินระดับที่สูง  พร้อมที่จะได้รับการตรวจสอบจากองค์กรอิสระ

2.พรรคการเมือง  จะให้ความสำคัญต่อบทบาท อำนาจการสนับสนุนและคัดค้านจากพลังของประชาชน  ไม่มองข้ามความสำคัญของประชาชนที่เคยให้ความสำคัญในช่วงของการเลือกตั้ง และให้ความสำคัญต่อนโยบายทางการเมืองมากขึ้น

3.นักการเมือง  จะหันมาสนใจกับความมีบทบาททางการเมืองที่จะสร้างประโยชน์แก่สังคม เพื่อเป็นทุนแห่งการยอมรับและการแข่งขันครั้งต่อไป  มากกว่าจะหวังผลด้วยวิธีการนอกระบบ

ภาคประชาชน....

1.จะเกิดการเรียนรู้ทางการเมืองว่าไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป  และทุกคนสามารถที่แสดงบทบาทตามสิทธิที่มี  นำไปสู่ลักษณะของ"การมีส่วนร่วม"ทางการเมืองได้อย่างแท้จริงในอนาคต

2.เกิดความเข้าใจและสำนึกในพลังแห่งอำนาจตามรัฐธรรมนูญที่บัญญัติไว้  และรู้สึกหวงแหนต่อสิทธิที่พึงมีตามกฎหมาย  รวมทั้งพลังในการตรวจสอบและคานอำนาจต่อฝ่ายต่างๆทางการเมือง

3.มองการเมืองได้ในภาพกว้างขึ้น  เช่น เรื่องของกลุ่มผลประโยชน์  องค์กรอิสระ  ระบบการตรวจสอบและถ่วงดุลทางการเมือง  หรือ นโยบายสาธารณะ

ภาคองค์กรอิสระ....

1.จะมีการปรับตัว  ปรับวิธีการบริหารจัดการครั้งใหญ่  ให้ความสำคัญกับบทบาทหน้าที่อย่างแท้จริง  รอบคอบและรัดกุมในวิธีการดำเนินงานอย่างเข้มงวด  พร้อมที่จะได้รับการตรวจสอบจากประชาชนและองค์กรอื่นๆ  ในขณะเดียวกันก็จะลดความกดดันที่จะถูกครอบงำจากภาคการเมือง

2.วิธีการสรรหาบุคคลกรในองค์กรอิสระจะเข้มงวดขึ้น  เพราะจะถูกจับตามองจากทุกฝ่าย  ผู้ที่เข้ามาทำหน้าที่จะเกิดความมั่นใจที่ได้รับการสรรหา  และจะให้ความสำคัญต่อการทำหน้าที่อย่างมั่นใจและไม่เกรงกลัวต่ออำนาจแฝง

อาจจะมีในภาคส่วนอื่นอีกหลายอย่างที่ส่งผลบวกในทางการเมืองที่เกิดได้จากการเรียนรู้ในวิกฤติการเมืองในครั้งนี้
หรือหากท่านมีมุมมองใดที่จะเสริมเพิ่ม  ตามความคิดเห็นก็อย่าลืมที่จะร่วมพูดคุยมาในกระทู้นะครับ  จขกท.เองก็หวังที่จะให้ความคิดเห็นที่เสนอมาได้บังเกิดผลที่เป็นจริงขึ้นได้บ้าง  แม้นจะไม่ครบถ้วนก็ตาม  เพราะนั่นจะหมายถึงทิศทางการเมืองไทยที่จะพัฒนาขึ้นไปจากเดิม

                                          .