ความคิดเห็นที่ 1 นิทานแมว 1 ... ทุกข์ ตอน ... แมวสีอะไรที่จับหนูได้ก็ (ไม่) พอ (เสียแล้ว) กาลครั้งหนึ่ง ... วันที่บ้านมีหนูเต็มบ้าน ... ทุกคนในบ้านประสานเสียงว่า ... แมวอะไรก็ได้ ขอให้จับหนูได้ก็พอ ... พวกเราได้ ไอ้สิน แมวสีน้ำตาลตัวเก่งมาเลี้ยงไว้ ... ไม่ถึง 4 เดือน บ้านก็สะอาดสะอ้าน แทบไม่มีหนูให้เห็นเลย เพราะฝีมือไอ้สิน ... ทุกคนรักเอ็นดูไอ้สินอย่างลืมหูลืมตาไม่ขึ้น ... อยู่มาวันหนึ่ง ไอ้ทิ (ยามเฝ้าบ้าน ซึ่งชอบกินหนูที่ไอ้สินจับมา ช่วงหลังโมโหที่ไอ้สินไม่หาหนูมาให้กิน) เห็นไอ้สินขึ้นไปนอนอยู่บนหลังคาบ้าน (นิสัยประจำของมัน) ... ไอ้ทิก็รีบโวยวายเรียกทุกคนในบ้านมาดู ฟ้องว่า ... ไอ้สินมันนอนค้อมห้องพระ ... ต้องออกไปจากบ้าน ...   ไอ้ใส (เมื่อก่อนมีหน้าที่เอาหนูตายไปทิ้ง ตอนนี้ตกงาน) ก็ตะโกนฟ้องว่า เห็นไอ้สินมันข่วนโซฟาในบ้านเป็นรอยด้วย (ทุกคนเห็นโซฟาเป็นรอยมาหลายเดือนแล้ว) ... ต้องออกไป ... ทุกคนในบ้านยืนงง ... ฟัง ไอ้ทิ กับ ไอ้ใส พลั่งพรูนิสัยไม่ดีของ ไอ้สิน ออกมา ... เรื่องทำท่าจะเงียบ ... กระทั่งรุ่งเช้า ไอ้สิน ดันเดินคาบปลาย่างเดินออกมาจากครัว (ปกติมันก็กินของมันอย่างนั้นอยู่ในครัว ไม่มีใครว่าอะไร แม้อาจหมั่นไส้บ้างที่เห็นมันกินจนอ้วนพี) ... แต่คราวนี้ ตาเทียม (คนสวน ซึ่งเป็นที่เคารพของทุกคนในบ้าน) ที่อึดอัดกับไอ้สินมานานเพราะไอ้สินชอบเดินกร่างในสวนของแกอย่างไม่เกรงใจ ก็พูดว่า ... ไอ้สินมันขโมยปลาย่าง ต้องออกไป ... คราวนี้ คุณหนูษิต (ไม่ได้รับการเหลียวแลมานานตั้งแต่ไอ้สินเข้าบ้าน) ก็เริ่มฟ้องว่า ... ไอ้สินมันใช้อภิสิทธิ์อย่างไม่ชอบธรรม ... ตอนนี้ทุกคนในบ้านก็เริ่มเปรยๆ ว่า ... รู้สึก ไอ้สิน เป็นขี้ขโมย มันเดินกินปลากร่างไปทั่วบ้านอย่างไร้จริยธรรม ...   ปรึกษาหารือกันว่า ... จะไล่ไอ้สินออกจากบ้านอย่างไร ... และเริ่มกำหนดว่าคุณสมบัติของเหมียวตัวต่อไป ว่าต้องเป็นแมวสีสวาดเท่านั้น ... จะจับหนูไม่เก่งก็ไม่เป็นไร ... แม้จะรู้ว่าแมวสีสวาดในหมู่บ้านนี้ มีแต่พวกจับหนูไม่เป็น ... เพราะชาวบ้านเลี้ยงแมวสีสวาดพวกนี้ให้ทำงานมาหลายสิบปี ... แต่หนูมันถึงได้เต็มหมู่บ้านอยู่ ... จนกระทั่ง ไอ้สิน มา ... ทุกวันนี้เจ้าของยังต้องเลี้ยงดูแมวสีสวาดพวกนี้ไว้อย่างดี ... มีหน้าที่แค่เดินเคล้าแข้งเคล้าขา เจ้านาย ... จะทำงานก็แค่วิ่งจับหนูตะเภา (ที่เจ้านายเลี้ยงไว้) เล่น ... คิดไปคิดมาแมวพวกนี้ก็ชักเริ่มรู้สึกว่าถ้าเจ้าของเปลี่ยนไปเลี้ยงแมวธรรมดาอย่างไอ้สินกันหมด ... มันจะมีสถานภาพอยู่สบายโดดเด่นอยู่ในหมู่บ้านต่อไปได้อย่างไร ... เอวัง ... จากคุณ : Rockhill - [ 2 เม.ย. 49 11:51:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 นิทานแมว 2 ... สมุทัย ตอน ... ทำไมแมว (ที่เขาว่า ขโมยปลาย่าง) จึงไม่ยอมลงจากหลังคา ... ไม่มีความเดิมจากตอนที่แล้ว ... กลับไปอ่านเอาเองครับ ... ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในบ้าน ไอ้สิน ไม่ได้เฉลียวใจว่า ... แม้มันจะทำให้ทุกคนมีความสุขจากการที่ไม่มีหนูอยู่ในบ้าน ... แต่มันก็ทำให้คนหลายคนอิจฉาริษยา เครียดแค้น หมั่นไส้ ... เช่น ... คุณวิช (คุณหนูผู้รอบรู้ของบ้าน ซึ่งเคยสอนให้คนในบ้านกำจัดหนูมานานแต่ไม่เคยสำเร็จสักที) รู้สึกหมั่นไส้ที่ไอ้สินทำตัวดูเหมือนจะฉลาดกว่าคุณวิช ... ไอ้สินจะอยู่หรือไปคุณวิชก็ไม่เคยเดือดร้อนอยู่แล้ว เพราะคุณวิชนอนอยู่ห้องติดแอร์ชั้นบน (หนูเข้าไปกวนไม่ได้) ...   ป้าซีใหญ่ (แม่บ้าน ที่ปกติอยู่เรือนใหญ่) ต้องย้ายออกมาอยู่เรือนท้ายสวน ... เพราะไอ้สินจับหนูไม่ค่อยได้ ถ้าให้ป้าซีใหญ่ทำงานเป็นหัวหน้าแม่บ้านอยู่ในเรือนหลังใหญ่ ... อีกาน (คนทำความสะอาดบ้าน ที่ปกติทำงานไปอู้งานไป ไม่ค่อยมีใครกล้าบ่น) ต้องทำงานหนักขึ้น เพราะถูกประเมินผลงานแข่งกับความขยันของไอ้สิน ... แม้จะรู้สึกว่าไอ้สินทำให้บ้านดูสะอาดสะอ้านขึ้น ... แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าไอ้สินออกไปก็อาจไม่ต้องทำงานหนักอย่างนี้ ... นายพล (คนขับรถ ที่ปกติเจ้านายก็ยังต้องเกรงใจ เพราะกลัวมันขับลงข้างทาง) ... ยังต้องถูกย้ายไปช่วยตาเทียมทำสวน เพราะไอ้สินทำอาการไม่ไว้ใจ (มันจะไม่ยอมขึ้น) รถที่นายพลขับ ... ... ฯลฯ ... ดังนั้น วันที่ไอ้สินเดินคาบปลาย่างกร่างออกมาจากครัว (อ่านเรื่องจากตอนหนึ่ง) ... จึงเป็นเสมือนวันกรุแตก ... มันเหมือนวันที่หลายคนรอจะคิดบัญชีกับ ไอ้สิน ได้อย่างไม่มีใครทันสังเกตุ ... ... จะมีก็แต่ เฮียกิจ (มาเช่าพื้นที่หน้าบ้านขายของชำ ... ค่าเช่าจากร้านเฮียกิจเป็นค่าเลี้ยงดูคนทั้งบ้าน) ที่ยังดูเหมือนจะเอ็นดู ไอ้สิน ... เพราะ ไอ้สิน ทำให้บริเวณร้านชำเฮียกิจไม่มีหนูไปด้วย ลูกค้าดูเหมือนจะแวะมาซื้อของเยอะขึ้น ... แต่เฮียกิจมีนิสัยไม่ค่อยยุ่งธุระคนอื่น ... ห่วงแต่หาเงิน ... แม้จะรู้ว่าถ้าเปลี่ยนไปเลี้ยงแมวสีสวาด ... หนูคงเต็มร้าน ... เมื่อ เฮียกิจ แกได้ยินเสียงโว่กเวกดังลั่นบ้านเหมือนมีคนทะเลาะกัน แกก็วิ่งไปยืนดูอยู่ห่างๆ ... แกเห็น ไอ้สิน นอนกระดิกหาง คาบปลาย่าง อยู่บนหลังคา ... ในขณะที่หลายคนยืนออมองมันอยู่อย่างเป็นเดือดเป็นแค้น ... (ต่อจากตอนที่หนึ่ง) ... เฮียกิจจับใจความได้ว่า ... ไอ้สิน มันได้ยินหลายคนปรึกษาหารือกันว่าจะไล่มันออกจากบ้าน ... มันรู้สึกว่ามันไม่ได้ทำผิดอะไร ... มันโดน ไอ้ทิ กับ ไอ้ใส กลั่นแกล้ง ... ไอ้ไทยมุง (หลานตาเทียม) เล่าให้ฟังต่อว่า ... พอ ไอ้สิน ได้ยิน ไอ้ทิ ตะโกนว่า ... จับ ไอ้สิน มาตัดหาง ถอนขน ... ไอ้สิน ก็กระโดดหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน (ที่ประจำของมัน) ... ไอ้ทิ ไอ้ใส และตาเทียม ก็โมโหหนัก ตะโกนว่า ... ลงมาเดี๋ยวนี้ ไอ้สิน หลังคาไม่ใช่ที่ของเอ็งอีกต่อไป ... บ้านนี้ไม่มีที่ให้เอ็งอยู่ซุกหัวนอนแล้ว ... แต่ ไอ้สิน ทำไม่รู้ไม่ชี้ ... เพราะมันรู้สึกว่ามันปลอดภัยที่ได้อยู่ข้างบนนี้ ...   ไอ้ทิ ไอ้ใส และตาเทียม ทำท่าเหมือนจะปีนบ้านเพื่อไล่ ไอ้สิน ให้ลงมาจากหลังคา ... คราวนี้หลายคนเริ่มตกใจกลัวบ้านจะพัง ... คุณวิช เริ่มขอร้อง ไอ้สิน อย่างสุภาพ ว่า ... ได้โปรดเถิด ไอ้สิน ลงมา เดี๋ยวบ้านจะพัง ... ลงมาเจรจากันข้างล่าง ... ไอ้สิน รู้สึกว่า คุณวิช เจตนาสร้างภาพให้มันเหมือนเป็นแมวดื้อ ... เพราะคุณวิชก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันลงไปตอนนี้ไม่ได้ ... แม้ความจริงแล้ว ไอ้สิน ไม่ได้ห่วงการลงจากหลังคา ... แต่มันไม่เข้าใจว่า ทำไมคนไม่กี่คนซึ่งดูเหมือนจะอคติและเกลียดมันถึงสามารถไล่มัน ออกจากที่ที่ทุกคนในบ้านโหวตให้มันอยู่ได้อีก 3 เดือน ... และมันยังรู้สึกว่า ... ขนาดอยู่บนหลังคา ยังดูเหมือนไม่มีใครพยายามจะปกป้องมันจากการใส่ร้ายของไอ้ทิ ... ตรงกันข้าม กลับเข้าข้างไอ้ทิเป็นปี่เป็นขลุ่ย ... ถ้าหากลงไปตอนนี้ มันไม่แน่ใจว่าจะมีใครให้ความยุติธรรมและปกป้องมันได้ ... มีหวังถูกถอนขนแน่ ... ไอ้สินตัดสินใจรออยู่ในที่ที่คิดว่าเป็นสิทธิโดยชอบธรรมของมัน ... ที่ซึ่งมันจะปกป้องตัวได้จากความไม่ยุติธรรม ... รอจนกว่าทุกคนในบ้านจะกลับรวมตัวกันครบทุกคน ... มันตัดสินใจว่าถ้าคนส่วนใหญ่บอกให้มันลงมาและออกไป ... มันก็จะยอมรับการตัดสินใจนั้นด้วยหัวใจที่เป็นแมวประชาธิปไตย ... เอวัง ... จากคุณ : Rockhill - [ 2 เม.ย. 49 11:52:14 ]

ความคิดเห็นที่ 3 นิทานแมว 3 ... นิโรธ ตอน ... อดเปรี้ยวไว้กินหวาน ความเดิมจากตอนที่แล้ว ... ไอ้สินตัดสินใจจะรออยู่บนหลังคา ... จนกว่าทุกคนในบ้านจะกลับมารวมตัวกันครบทุกคน ... และถ้าคนส่วนใหญ่บอกให้มันลงมา ... มันก็จะยอมรับการตัดสินใจนั้นด้วยหัวใจที่เป็นแมวประชาธิปไตย ... สำหรับ ไอ้ใส และ ตาเทียม นั้น เดาได้ไม่ยากว่าจะยอมให้บ้านพัง แต่ไม่ยอมให้ตนเสียหน้าแน่นอน ... ยิ่งมี เฮียชัย (คนที่หวังจะมาเซ้งที่หน้าบ้านต่อจากเฮียกิจ) แอบกระซิบว่า ... ถ้าไล่ ไอ้สิน ได้จะมีรางวัล ... งานนี้หัวเด็ดตีนขาด ไอ้ทิ ก็ยอมถอยไม่ได้ ... เฮียชัย รู้ว่าวิธีเดียวที่จะทำให้ เฮียกิจ เจ๊ง คือ ต้องทำให้มีหนูเต็มบ้าน ... จะให้บ้านมีหนูเต็มบ้านก็ต้องไล่ ไอ้สิน ไป ... เชียร์ให้ทุกคนในบ้านเลี้ยง แมวสีสวาด แทน (ความจริง ... แกอุตส่าห์ให้ ไอ้สมุทร แอบปล่อยหนูในบ้านมาหลายรอบเพื่อโยนความผิดให้ ไอ้สิน แต่ก็ไม่ได้ผลเสียที ... เพราะเรือนใหญ่รู้นิสัยคนในบ้านดีว่าใครเป็นใคร) ... ไอ้ทิ รู้ว่าถ้าทุกคนมีสติเริ่มใช้เหตุใช้ผล ... แผนการคิดบัญชีแค้นกับ ไอ้สิน อาจพังทลาย เสียแรงเปล่า ... รางวัลก็อด ... ไอ้ทิ จึงร้อนรนพยายามปีนบ้านเพื่อไล่ ไอ้สิน ให้ได้ก่อนที่ทุกคนจะกลับมา ... ... เริ่มมีเสียงกระแอมดังๆ จากเรือนใหญ่มาหลายรอบ ... ไม่อยากให้ใครต้องเสียหน้า ... หวังเตือนสติให้รู้ตัวกัน ... ไม่อยากให้ไทยมุงต้องเจ็บตัวตอนบ้านพังลงมา ... แต่ดูเหมือน สามเกลอหัวแข็ง กลับไม่ได้แสดงความเกรงใจใดๆ ... เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ... ถือโอกาสรีบบอกไทยมุงว่าท่านกระแอมไล่ ไอ้สิน ... เวรกรรม ... เวรกรรม ... ยายสงบ ที่ยืนเงียบดูอยู่นาน ... เริ่มรู้สึกเห็นใจ ไอ้สิน ... เปรยออกมาว่า ... ทำดีไม่ได้ดี ไอ้สิน เอ๊ย ... จะทำต่อไปทำไม ... ถ้าข้าเป็นเอ็ง ข้าจะกระโดดลงจากหลังคาหนีไปทางด้านหลังบ้าน ... ปล่อยให้หนูเต็มบ้าน ... เดี๋ยวคนก็นึกถึงคุณความดีของเอ็งเอง ... ตาสง่า ที่คันปากมานาน ... ก็พูดขึ้นบ้าง ... จริงของยายสงบ ... ยอมถอยอีกก้าว ... ซื้อหัวใจของคนที่ยังไม่เข้าใจเอ็งดีกว่า ... ข้ารู้ว่า เอ็งไม่อยู่เดี๋ยวหนูมันก็เต็มบ้าน ... ทำใจให้แข็งๆ หน่อยนะ ไอ้สิน ... เดี๋ยวทุกคนก็จะเรียกหาเอ็งดังระงมไปทั้งบ้าน ... อดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่า ... เอวัง ... จากคุณ : Rockhill - [ 2 เม.ย. 49 11:52:39 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เล่าได้น่าฟังครับ จกขท ห่วงแต่ว่าหลังจากที่ไอ้สินลงจากหลังคา และตกงานแล้ว แมวตัวอื่นๆจะร้องว่า ไอ้สินวางระบบจับหนู ไว้ผิดแบบ จนพวกตนไม่สามารถ ใช้ความรู้แบบแมวๆ จับหนูได้ ทั้งๆที่ก่อนไอ้สินมารับจ๊อบ มันก็จับไม่ได้อยู่แล้ว แถมอาจกล่าวหาไอ้สินว่า วิธีการจับหนูของไอ้สิน ทำให้หนู mutate กลายเป็นหนูปีศาจ กลายเป็นข้ออ้างอันชอบธรรม ที่จับหนูไม่ได้อีกต่อไป จากคุณ : คงต้องทนอยู่กับหนู (สัมมาทิฐิ) - [ 2 เม.ย. 49 12:23:44 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทำไม คนเกลียดรัฐบุรุษหลายๆ ท่านในอดีต ทำไม คนเกลียดนักประพันธ์เพลงคลาสสิค หรืออย่าง แวนโก๊ ก็ตายเหมือนหมาข้างถนนในสมัยตน ปัญหานี้เขาเรียก ปัญหาวิสัยทัศน์ของคนในสังคมที่ปรับตัวไม่ทันโลกแห่งการเปลี่ยนแปลง สมัยก่อนผู้หญิงดีดีก็ถูกเผามามากในฐานะ แม่มด เข้าใจหรือยังทำไมประเทศเรา กำลังพัฒนา กำลังพัฒนา และกำลังพัฒนา ก็รอให้ไอ้นักวิชาการรุ่นนี้มันหมดไปก่อนงั๊ย จากคุณ : dqfkztxc - [ 2 เม.ย. 49 14:38:08 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขออนุญาติเอากระทู้ที่โพสไปเดือนก่อนๆ มาให้อ่าน เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้าง คงไม่ได้เรียงลำดับ เพราะจำไม่ได้ว่าโพสไปช่วงไหน เหตุการณ์ไหนเกิดหรือ สังคมมีข้อสงสัยอะไรในช่วงนั้นก็เขียนขึ้นมาแสดงความคิดเห็น แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 49 16:47:16 จากคุณ : Rockhill - [ 2 เม.ย. 49 16:39:41 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คำถามคือ ... ทำไม ข้าราชการ (ไม่น้อย) ไม่ชอบวิธีการทำงานของทักษิณ คำตอบคือ ... การพัฒนาบ้านเราด้วยกลไกในอดีต ... เปรียบได้ว่า ทำอย่างไรก็ไปไม่ถึง ดวงจันทร์ แต่ด้วยทัศนคติพ่อค้าของทักษิณ ... เน้นทั้ง ประสิทธิผล และ ประสิทธิภาพ ดังนั้น แม้มีเป้าหมายแค่ ดวงจันทร์ แต่ก็มักเล็ง พระอาทิตย์ ไว้ก่อน (เล็งไปที่พระอาทิตย์ ถ้าพลาดอย่างน้อยก็จะได้ดวงจันทร์) ... ทำให้ทักษิณกลายเป็นคนเว่อร์ในสังคมไทย ข้าราชการ หัวอนุรักษ์ และ หัวทุจริต จึงอึดอัดกับวัฒนธรรมการทำงานเช่นนี้ การเลือกคนโดยดูตาม ความสามารถ เป็นหลัก (ตามหลักการบริหารธุรกิจ) ไม่ได้ดู ความอาวุโส ก็เป็นอีกสาเหตุหลักที่กระเทือนระบบอุปถัมภ์ในโครงสร้างระบบข้าราชการเมืองไทย ข้าราชการรุ่นเก่าไม่น้อยมีภาพดีในสังคม แต่ขาดความรู้ที่จะไปสู่เป้าหมาย (แม้ดวงจันทร์ก็ไปไม่ถึง) จึงรู้สึกว่าถ้า ทักษิณ ไปเสียได้ ตนก็จะยังมี งานที่ดีทำ และ ไม่เสียหน้า คำพูดทำนอง ทักษิณ มันไม่ดี ... เผด็จการ ... ไม่เห็นต้องพัฒนาเร็ว ประเทศก็อยู่ได้ ... ใครเป็นนายกฯ ประเทศไทยก็ไม่ล้มหรอก ... อะไรทำนองนั้น สะสมมาในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ... นานพอที่หลายคนเริ่มคล้อยตาม ... มันเป็นเช่นนั้นเอง ... จากคุณ : Rockhill - [ 2 เม.ย. 49 16:39:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 (ทางแยกประเทศไทย ... เดิมพันคือ อนาคตลูกหลาน ... จะเลือกใช้ เต่า หรือ กระต่าย ดี) เมื่อประเทศไทยถึงทางแยกให้เลือก ... เราควรจะเดินแบบ เต่า ที่หลายคนคิดว่าช้าแต่ชัวน์ ... หรือจะเป็น กระต่าย ที่เขาคิดว่าจะไม่ถึงเส้นชัย ... สำหรับผม ... ผมคิดว่าเราเป็น เต่า มาหลายสิบปีแล้ว ... และผมไม่คิดว่าเราจะเป็น เต่าตัวเดียวกับในนิทาน นั้นแน่ (ตัวที่เอาชนะกระต่ายได้) ... สำหรับ กระต่าย ตัวนี้ ... หลายคนบอกว่ามันวิ่งเร็วจะทำให้บ้านเมืองเสียหาย ... สำหรับผม ผมคิดว่ามันก็แค่กระต่ายที่ ขน ไม่สวยอย่างที่หลายคนอยากให้เป็น ... ก็เท่านั้นเอง ... ดูจากวิธีวิ่งวิธีคิดที่เป็นรูปธรรมแล้ว หัวใจ มันเป็นกระต่ายคนละตัวกับในนิทานแน่ ... ผมยันยืนว่า ... เราจำเป็นต้องใช้ กระต่ายตัวนี้ (วิ่งเร็ว ไม่โง่ แต่ขนไม่สวย) ต่อไปอย่างน้อยอีกหนึ่งช่วงถนนแข่ง ... ข้ามเขาลูกข้างหน้าไปได้แล้วค่อยว่ากันใหม่ ... เราจะส่ง เต่าตัวเดิม (อืด ไม่ทันเกมแต่ดันเล่นเกมเก่ง มีดีก็แค่กระดองสวยดี) ... ท่าดีทีเหลวทุกที ... โดยเชื่อว่าจะชนะอย่างในนิทานนั้น ... จากผลงานที่เป็นรูปธรรมในอดีต (และปัจจุบัน) ผมไม่อยากเอาอนาคตลูกหลานไปเสี่ยงครับ ... กว่า เต่าตัวนี้ จะพาเราข้ามเขาที่เห็นลูกข้างหน้าได้ ... ผมคิดว่าแค่เวียดนามประเทศเดียว ก็คงแย่งตลาดสำคัญในหลายอุตสาหกรรมของไทยไปได้ ... ไม่ต้องพูดถึงมาเลเซียที่เคยแย่งอุตสาหกรรมอิเลกทรอนิกส์ของไทยไปไม่น้อยแล้วหรอกครับ ... และถ้า ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ตื่นได้ก่อนไทย ... ผมคิดว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า ศักดิ์ศรี (ความเจริญพัฒนา) ของประเทศคงอยู่ท้ายๆ ของอาเซียน (ไม่ต้องไปแข่งนอกกลุ่มก็เหนื่อยแล้ว) ... ผมคิดว่า คนหัวอนุรักษ์นิยม ยังไม่เข้าใจว่า ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นประเทศไม่ได้แข่งกับ กระต่ายตัวเดียว อย่างในนิทาน ... มันมีกระต่ายเป็นสิบตัวที่เราต้องแข่งด้วย ... และ เต่าที่เรามีอยู่ ... ถ้าใช้แข่ง ทางราบ ก็พอไหว ... เจอ ทางขึ้นเขา ... ผมว่าเต่าตัวนี้คงพาเราวนอยู่ในอ่าง ... เหมือนพาเราวังวนอยู่ในการเมืองน้ำเน่าทุกวันนี้ ... รอให้ถึง ทางราบ ก่อน แล้วค่อยคิดดีมั๊ยครับว่าเราจะใช้ เต่าตัวนี้ ดีมั๊ย ... ถามว่าแข่งไปทำไมน่ะหรือครับ ไม่มีเศรษฐกิจที่โตพอ ... ก็ไม่มีตำแหน่งงาน ไม่มีตำแหน่งงาน ... คนก็ไม่มีเงิน ไม่มีเงินพอ ... คนก็ต้องเลือก งานนอกระบบ งานทุจริต ทำลายทรัพยากร รับสินบน ฯลฯ การให้เขาอยู่ในโลกแห่งคุณธรรมจริยธรรมนั้น ดีครับ ... แต่มันเป็นนามธรรม จับต้องได้ยาก ... ปฏิบัติได้ยาก ... โลกมันก้าวไปข้างหน้า สักวันเด็กเขาก็จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ... อย่ากลัวเลยครับ ... ก้าวไปในทางที่ ญี่ปุ่น เคยเดินดีกว่า อย่าก้าวไปในทางที่ คิวบา หรือ อิหร่าน เดิน ... ฐานที่แข็งแรงของสถาบันในอีกร้อยปีข้างหน้าจำเป็นต้องยืนอยู่บนฐานที่แข็งแรงทางเศรษฐกิจ ... ไม่ใช่การทหาร ... นามธรรมด้านจริยธรรมหรือความดีก็ช่วยเราไม่ได้ในทางปฏิบัติมาหลายร้อยปีแล้ว ... ถ้ารัชกาลที่ 5 ท่านไม่ตัดสินใจเปิดรับวันนั้น ... เดาออกมั๊ยครับว่าวันนี้ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ... จากคุณ : Rockhill - [ 2 เม.ย. 49 16:41:03 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ปชป ถือ จุกก๊อก ที่สามารถเปิดรูระบายให้ลูกโป่งที่กำลังพองโตไม่ให้แตกได้ ... (แค่คนเรือนแสนถูกปั่นหัวมันเรื่องปกติครับ) ... แต่ด้วย maturity ที่น่าผิดหวัง ... ครั้งแรก ...คือ ช่วงยุบสภา ... ปชป ก็ไม่ยอมย้ายสนามรบจาก ท้องถนน ไปสู่ คูหาเลือกตั้ง (ตรงข้ามกลับทำตัวเสมือนยุยงให้คนกลุ่มใหญ่ที่สนับสนุนตนออกไปสู่ท้องถนน ... สร้างภาพว่าออกไปรณรงค์ชี้แจง และสนับสนุนให้คนไปเลือกตั้ง ... จริงหรือครับ ... ปากว่าตาขยิบหรือเปล่า) ... ณ วินาทีนี้ ... (หวังว่าจะ) เป็นแค่ช่วงลั่นปี่กลองรบ (สงครามเครื่องขยายเสียง) เท่านั้น ... เมื่อระดมคนได้เป็นเรือนล้านทั้งสองฝ่ายแล้ว ... พรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น ... ก็ขึ้นอยู่กับแกนนำว่าจะอ่านเกมออกหรือเปล่า ... เดินให้เป็นนะครับ ... ชีวิตคน จริงหรือครับ ... จะชุมนุมด้วยความสงบ ... เอาเด็กอนุบาลมาตอบก็น่าจะคิดออก ... ไม่สังเกตพฤติกรรมของหัวหน้ากลุ่มผู้รักชาติของคุณ (แต่ไม่รักคนหลงเชื่อ) หรือครับ ... ประกาศแล้วว่า วันนี้จะเคลื่อนไปโน้น วันโน้นจะเคลื่อนมานี้ ... เป็นว_เป็นค_ฟังไม่ออกว่าหรือครับว่า เขาจะเอาคุณมาเป็นเหยื่อล่ออะไร ... อยู่ในสนามหลวงก็พอทำเนา ... เอาคนเป็นแสนออกมาเดินเผ่นพล่านล่อเป้าได้ทุกวัน ... ต้องการให้คุณทักษิณออก   พศ. นี้ใช้วิธีโบราณอันธพาลอย่างนี้หรือครับ ท่านผู้มีธรรม ... รู้มั๊ยว่าเขามี สนามเลือกตั้ง ไว้ทำไม พ่อนักวิชาการ ... รอให้พัฒนาการมันเคลื่อนไปตามครรลองของมันไม่ได้หรือครับ ... ดันหันไปสนับสนุนคนที่ประกาศลั่นว่า _จะเอา_ออก ... สติปัญญาหายไปกันหมด ... ไปเชื่ออันธพาลที่ประกาศว่า ... จะเอานายกฯออกจากตำแหน่งวันโน้นวันนี้ ... วันนี้เก็เร่งเร้าคนอีกว่าถ้าช้าไป 2-3 วัน ทักษิณจะขนเงินออกนอกประเทศ ... จะเร่งเร้าคนเร่งเร้าเวลาไปทำไม ... ท่านผู้มีสติ ... ถ้าผิดจริง ... คนเกาหลีเขายังรอได้เป็นสิบปีกว่าจะเอาประธานาธิบดีเขาไปขึ้นศาล ... ประเทศเกาหลีมันล้มจมมั๊ยครับ ... นักวิชาการไทยไม่มีปัญญาคิดหรือครับ ... และผมคิดว่าถึงจะมีโอกาสครั้งที่สอง ... คือ หลังเลือกตั้ง (ถ้ามี) ... ปชป ก็คงจะไม่ให้โอกาสต่อสันติวิธีอีก ... ผมผิดหวังกับ maturity ของนักการเมืองไทย (อย่างเคย) ครับ ... จากคุณ : Rockhill - [ 2 เม.ย. 49 16:42:07 ]

ความคิดเห็นที่ 12 (การไม่ส่งเลือกตั้งไม่ใช่สิทธิของ ปชป จะทำได้โดยชอบธรรม) ในวิกฤติการณ์ทางการเมืองปัจจุบัน ... พรรคการเมืองสองฝ่ายเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง ... กล่าวคือมีความขัดแย้งเชิงผลประโยชน์หรือ conflict of interest อยู่ ... เมื่อตกลงกันไม่ได้ ... การยุบสภาเพื่อส่งเรื่องกลับไปให้ผู้มีส่วนได้เสียตัวจริงคือ ประชาชน ตัดสินใจก็ถือว่าชอบธรรมและยุติธรรมแล้ว ... ตามหลักการแล้วทั้งสองฝ่ายไม่มีสิทธิตัดสิทธิของคนที่เขาสนับสนุนฝ่ายของตน ... แต่ ปชป. ซึ่งเป็นเจ้าแห่งหลักการกลับทำเสียเอง ... คนรักความยุติธรรมส่วนใหญ่ทำใจยากครับ ... จริยธรรมของ ปชป ไปไหนหมด ...   ผมเคยแอบได้ยินผู้ใหญ่ท่านหนึ่งพูดว่า ... ไม่ต้องไปพยายามถามคนจนหรอกว่าเขาต้องการอะไร ... ให้อะไรไปเขาก็รับ เพราะพื้นฐานคนไทยมีลักษณะของความเป็นทาสอยู่ในตัว (ไม่เรียกร้อง เจ้านายให้อะไรก็ยินดีรับ) ... ผมฟังแล้วก็อดสะท้อนใจไม่ได้ ... แนวคิดเช่นนี้กระมังที่พวกขุนนาง ปชป สะท้อนถึงประชาชนฝ่ายสนับสนุนตน ... ปชป ชอบทำตัวเป็นผู้กำหนดกติกาในการเมืองไทย ... ทุกคนต้องเข้าไปอยู่ในโลกของคุณ และต้องแสดงท่าทางอย่างที่คุณกำหนดให้เท่านั้น ... ประชาชนต้องการทั้งช้อนและซ้อมครับ ... ไม่มีช้อนมันก็ลำบาก ... ไม่มีซ้อมความคล่องตัวมันก็หมดไป ... อย่าบังคับให้ประชาชนต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ... ทำไมเอาหลักการเล็ก (การตรวจสอบรัฐบาล) มาทำลายหลักการใหญ่ (การเลือกตั้ง) ... ความเป็นแต่นักกฎหมายของ ปชป. ไม่ใช่นักบริหารมันยิ่งเด่นชัดเหลือเกิน ... คุณบอกคุณทักษิณเผด็จการแต่คุณก็ไม่ยืดหยุ่นให้สังคมเลย ... ไปอยู่ต่างประเทศเห็นพวกญี่ปุ่น เกาหลี มันอยู่กันดูแล ช่วยเหลือกันเหมือนพี่เหมือนน้อง ... กลุ่มคนไทยกลับจ้องจับผิดกัน ใครดีก็อิจฉาหาทางกลั่นแกล้งกัน ... ผมเคยได้ยินประโยคหนึ่งที่สะท้อนถึงประเทศไทยได้อย่างลึกซึ้ง คือ ประเทศไทยนั้นดีทุกอย่าง (คงหมายถึง อาหารดี อากาศดี ทรัพยากรธรรมชาติดี ภูมิประเทศดี ฯลฯ) แต่เสียอยู่อย่างเดียวคือ มีคนไทยอยู่ ... period ... จากคุณ : Rockhill - [ 2 เม.ย. 49 16:43:01 ]

ความคิดเห็นที่ 13 (กลุ่มนักธุรกิจทำไมจึงดูเหมือนไม่เลือกฝ่าย) คำตอบ ... ความจริงนักธุรกิจนั้นเลือกฝ่ายอยู่แล้ว ... ถามว่าฝ่ายไหนมากกว่ากัน ... คำตอบคงมาจากตัวเลขทางเศรษฐกิจ ... ในยามนี้คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ยังมีความสุขอยู่กับการทำมาหากิน ... ใจจึงน่าจะเอนเอียงไปทางด้านทักษิณมากกว่า ... ถามว่าแล้วทำไมนักธุรกิจจึงไม่เคลื่อนไหวสนับสนุนทักษิณ ... คำตอบมาจากหลายสาเหตุ ... หนึ่ง ... ภาพลักษณ์ของทักษิณ ... พูดจาไม่สำรวมและ (บ่อยครั้ง) ท้าทายไม่ตรงประเด็น ... ทำตัวเด่นจนสังคมชั้นสูงด้วยกันอิจฉา และรู้สึกเหมือนตนต่ำต้อยลง ... เปลี่ยนแนวทางทำงาน ทำให้ข้าราชการรู้สึกถูกกดดันให้ต้องทำงานหนักขึ้น ... โยกย้ายข้าราชการภาพลักษณ์ดีแต่ไม่มีวิสัยทัศน์หรือประสิทธิภาพออกจากตำแหน่ง ... และการทำงานมากทำให้ภาพเล็กๆ ถูกละเลย เช่น การมองข้ามข้อเสนอ (ที่ตนเห็นว่าไม่ถูกต้อง) โดยไม่ทันระวังความรู้สึกของผู้เสนอ ... ไม่สนองตอบต่อระบบอุปถัมภ์ของผู้สนับสนุนและเพื่อนเก่า ฯลฯ ... เมื่อทุกอย่างบ่มเพาะมากว่า 5 ปี ... การขายหุ้นชิน (ซึ่งในความเป็นจริงไม่ผิดกฎหมายและจริยธรรมอะไร) ก็กลายมาเป็นประกายไฟเล็กๆ ที่กระเด็นไปตกลงบนกองเชื้อเพลิงกองใหญ่ ... สอง ... พื้นฐานของคนทำธุรกิจ ... มีลักษณะเหยียบเรือสองแคม ... คือหลีกเลี่ยงการเลือกฝ่าย ... เพราะถ้าเลือกฝ่ายผิดตนก็อาจตกอยู่ในความเสี่ยงเชิงธุรกิจ (เช่น ไม่ได้รับความสนับสนุน ถูกกลั่นแกล้งภายหลัง ฯลฯ) สาม ... ภาพลักษณ์ของฝ่ายต่อต้าน ...จากประเด็นที่ยกมาโจมตีด้านคุณธรรมจริยธรรม ... ฝ่ายต่อต้านวางตัวเสมือนเป็นฝ่ายธรรมะ ... ยิ่งมี นักวิชาการ สื่อสารมวลชน และคนภาพลักษณ์ดี แห่ตามกระแส ... มันจึงเป็นไม่ง่ายสำหรับคนทั่วไปที่จะแยกแยะวิเคราะห์ประเด็นได้มากพอ ที่จะออกมาสนุนสนับทักษิณ ... การแสดงตัวว่า ฉันเป็นฝ่ายธรรมะ และสนับสนุน นักวิชาการ จึงดูจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีกว่าและอธิบายได้ง่ายกว่ามาก ... สี่ ... ความเสียหายจะยังไม่เกิดขึ้นในระยะสั้น (แม้ทักษิณต้องไป) ... นักธุรกิจจึงได้แต่ปลอบตัวเองว่า ปชป ก็ไม่เลวร้ายอะไร ... แม้ว่ากลุ่มของตนจะเป็นผู้เสียหายตัวจริงเสียงจริง ... แต่การออกไปปกป้องทักษิณถือเป็นการทวนกระแส ... เสี่ยงต่อภาพลักษณ์ ... (นอกจากนี้ การที่ต่างชาติขนเงินร่วมสองแสนล้านเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยในช่วงสองปีที่ผ่านมา ทำให้นักธุรกิจส่วนใหญ่ขายหุ้นออกไปหมดพอร์ตแล้ว แม้จะดูเหมือนเป็นการเล่นกับไฟ แต่หลายคนกลับรอวันที่ประเทศจะเกิด crisis) ... จากคุณ : Rockhill - [ 2 เม.ย. 49 16:43:31 ]

ความคิดเห็นที่ 14 (ไม่ใช่ทั้งเรื่องของคนและระบบ แต่เป็นเรื่องของการเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงานของประเทศ) องค์กรอิสระมีอิสระพอแล้วครับ ... เขียนตัวหนังสืออย่างไรก็แทรกแซงได้ครับ ถ้าคนยอมให้แทรกแซง  ฉะนั้นอย่าพยายามไปบ้าจี้มากกับตัวหนังสือเลย ... เพราะตัวหนังสือมันเขียนให้มีอิสระอยู่แล้ว ประเด็นก็คือมันต้องใช้เวลาจนกว่าแต่ละหน่วยงาน จะมีคนอย่างอาจารย์ปรีดี อาจารย์ป๋วย เข้าไปบริหาร ... แล้ววางวัฒนธรรมการทำงานจนแข็งแกร่ง (อย่าง แบงค์ชาติ) ... รอเวลาให้องค์กรเติบใหญ่พอจนเป็นสถาบัน ... ก็จะเป็นอิสระคานอำนาจกันได้เอง ในที่สุด ...   มันเป็น process ที่ต้องใช้เวลา ... อย่าไปตื่นเต้นกันมากเลยครับ ... ผมคิดว่านักวิชาการของเราหลงประเด็น ... ไม่เข้าใจ cycle การเติบโตขององค์กรไปสู่ความเป็นสถาบันนั้นต้องปล่อยให้มันล้มลุกคุกคลานในระยะเริ่มต้นเพื่อเรียนรู้ (learning curve) บ้าง ...  สังเกตมั๊ยว่าพวกเราเรียนรู้มากขึ้นเรื่อยๆ จากความผิดพลาด ... และจะแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคนรุ่นเก่าถูกสับเปลี่ยนโดยคนรุ่นใหม่ ... ใจร้อน ใจร้อน ส่วนประเด็นคุณทักษิณนั้น ก็เป็นความตกใจของชนชั้นกลางโดยเฉพาะกลุ่มนักวิชาการ ... คนกลุ่มนี้ไม่เคยถูกกด ... เมื่อถูกบีบด้วยทัศนคติเชิงธุรกิจ (ประสิทธิภาพ) ก็ตกใจกันใหญ่ ... คนพวกนี้ภาพดีแต่แนวคิดยังโบราณ ถ้าไปกระซิบผู้ใหญ่ อย่าง หมออาวุโส ราษฎรอาวุโส ฯลฯ ... เพราะตนเองปรับตัวไม่ทันบ้าง กลัวจะเสียหน้าเมื่อถูกปรับตำแหน่งบ้าง ... ก็จะบอกว่าทักษิณ มันไม่ดี ... เผด็จการ ... ไม่เห็นต้องพัฒนาอะไรมากเราก็อยู่ได้ ... ช้าๆ ก็ได้ ใครเป็นนายกเมืองไทยก็ไม่ล้มหรอก ... อะไรทำนองนั้น ... พวกนักการเมือง นักวิชาการวิสัยทัศน์สั้น ก็จะรู้สึกเออออกันไปด้วย ... รู้หรือยังว่าทำไมประเทศไทยไม่พัฒนาแบบสิงคโปร์ เกาหลีใต้ มาเลเซีย .. มันเป็น cycle : culture shock ... (ดูแดจังกึมรึเปล่าหละ ขนาดกษัตริย์ต้องการปฏิรูปประเทศเอง ยังวุ่นวายขนาดนั้น ถ้าแค่ขุนนางฝ่ายซ้ายฝ่ายขวาคิดจะปรับแนวการทำงานมันก็วุ่นวายอย่างนี้หละครับ) ผู้รู้ก็เลยกลายเป็นผู้ไม่รู้กันไปหมด ... เกิดมาต้องแทนคุณแผ่นดินครับ ... มันเป็นเช่นนั้นเอง จากคุณ : Rockhill - [ 2 เม.ย. 49 16:44:14 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อย่ามุ่งเอาชนะกันจนลืมว่าเราเป็นคนไทยเหมือนกัน ถ้าเรามองอย่างนก ... เราจะเห็นฝุ่นตะลบข้างล่างเป็นเพียงแค่จุดเล็กๆ จุดเดียวบนพื้นดิน แต่ถ้าเราเป็นหนอน ... ฝุ่นตะลบที่ว่า มันก็จะดูเหมือนวันโลกาวินาศ นักการเมือง มาแล้วก็ผ่านไป ... หลายคนกอบโกย หลายคนทิ้งชื่อเสียงที่ดีไว้ในแผ่นดิน ... กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ วันนี้เราต่อสู้กันด้วยเหตุผล  ไม่จำเป็นต้องยึดติดเป็นทุกข์กับมันมาก  แย่กว่านี้เราก็ผ่านกันมาแล้ว  ขอเพียงรักษาระบบกติกาเอาไว้ (อย่าปล่อยให้คนขาดสติชักนำ จนเปิดโอกาสให้คนวิสัยทัศน์ต่ำ เข้ามาฉวยโอกาสเข้าสู่อำนาจโดยไม่ต้องใช้กติกา)   ถ้าวันนี้คุณแพ้ ก็ยืดอกยอมรับมัน รอวันเวลา ถ้าฝ่ายโน้นเป็นของดีจริง ชีวิตเราก็จะได้ผลดีนั้นด้วย (ไม่ว่าจะอยากได้หรือไม่ก็ตาม) แต่ถ้าฝ่ายโน้นเป็นของไม่ดี  ขอให้จำไว้ว่า ... ของไม่ดีมันเสื่อม (โดยเฉพาะโลกปัจจุบัน หลอกลวงกันไม่ได้นานหรอกครับ) ... การยึดติดที่ไม่มีขอบเขต ไม่ว่าจะฝ่ายใดก็นำไปสู่ความเสื่อมความวิบัติ ... อยู่กับสิ่งที่จับต้องได้ ... อย่าอยู่ในโลกอุดมคติที่มีแต่นามธรรม สู้กันแค่พอหอมปากหอมคอ  ถ้าเขารู้จักถอยก้าวหนึ่ง  เราก็ควรรู้จักถอยเช่นกัน  ... อย่าจุดไฟเผาบ้านที่พวกเราทุกคนก็ต้องใช้ซุกหัวนอน ... จากคุณ : Rockhill - [ 2 เม.ย. 49 16:44:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ปชป ได้อะไรจากการ ลาออก ของทักษิณ ... คำตอบคือ ถ้าเราต่อตัวเราให้ยาวสู้เขาไม่ได้ ... กลยุทธ์เก่าแก่คือ ตัดเขาให้เขาสั้นลง ... แทนที่จะปล่อย ทรท ให้เข้มแข็งไปสู่ความเป็นสถาบันทางการเมือง ... การดึงคุณทักษิณออกจากตำแหน่งนายกฯ ในตอนนี้ ... จะทำให้สายการบริหารภายในและการสื่อสารของ ทรท สับสนและยุ่งยากในทางปฏิบัต และอาจนำไปสู่การแตกของพรรคในที่สุด ... (คงจำกันได้ว่าตอน มหาเธร์ พยายามให้ อันวา ปกครองประเทศแทน ท้ายสุดก็นำไปสู่ความขัดแย้งใหญ่ของประเทศ) ... โครงสร้างภายใน ทรท. ยังเสมือนลูกนกที่ยังต้องการฟูมฟักจากแม่อีกสักระยะหนึ่ง ... หากทักษิณลาออกในระยะนี้ ความเสี่ยงที่พรรคจะแตกมีสูงมาก (ในทางทฤษฎีดูเหมือนทำได้ แต่การปฏิบัติจริง ทำได้ยากมาก โดยเฉพาะในโครงสร้างปัจจุบัน) ... ดังนั้นถ้า ปชป ต่อตัวเองให้สูงก้าวทัน ทรท ได้อย่างชวนเชื่องช้า ... วิธีเดียวในความคิดของนักการเมืองรุ่นเก่า (บางคน) ก็คือตัด ทรท ให้สั้นลง ... เมื่อสถานการณ์หล่นลงมาตรงหน้า ปชป ที่เก่งเกมการเมืองจึงเข้าสู่โหมดดื้อหัวชนฝาไว้ก่อน ... อาศัยกระแสสังคมชนชั้นกลางระดับสูงเป็นฐานที่แข็งแกร่ง ... ถ้า ทรท อ่อนแอหรือล้มลง ... ปชป ก็ไม่ต้องจำเป็นต้องพัฒนาอย่างรวดเร็วอีกต่อไป ... แม้จะเดินอย่างชวนเชื่องช้า นักการเมืองในพรรคเก่าแก่อย่าง ปชป ก็จะดูยิ่งใหญ่ไปได้อีกนาน ... โดยไม่ต้องปรับตัวอะไรให้เหนื่อยอีกต่อไป ... ทักษิณรู้ว่าเมืองไทยต้องการสถาบันทางการเมืองที่แข็งแกร่งเป็นทางเลือก ... หากพรรคการเมืองไม่เข้าสู่โหมดแข่งขันอย่างแท้จริง ... ระบบฮั้วทางการเมืองของนักการเมืองรุ่นเดิมก็จะยังอยู่ต่อไป (แนวทางของเสนาะ สนั่น บรรหาร สุเทพ ฯลฯ) ... ระบบการแบ่งปันผลประโยชน์ก็จะเกิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ... ทำนองสมบัติพลัดกันชม ... ถือเป็นมรดกทางการเมืองที่คนรุ่นพ่อจะส่งให้คนรุ่นลูกได้เสพสุขกับชีวิตนักการเมืองเมืองไทยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ... ดังนั้นงานนี้ คุณไม่ต้องแปลกใจเมื่อเห็นคนที่เป็นศัตรูกันสุดขั้วหันหน้ามาจับมือกันอย่างสนิทใจถล่มคุณ ... ยิ่งพยายามนำชาติเดินไปเร็วเท่าใด ความแรงของการตีกลับก็จะรุนแรงขึ้นเท่านั้น ... แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 49 16:46:21 จากคุณ : Rockhill - [ 2 เม.ย. 49 16:45:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ธรรมะของโจร : บรรลัย 4 ขั้น ขั้นแรก ... สะสมเชื้อเพลิง ...คือ ชุมนุมยืดเยื้อไปเรื่อยๆ เพื่อสะสมเชื้อเพลิง (คน) ... วันนี้ไม่เพิ่ม พรุ่งนี้ไปใหม่ ... วนเวียนสะสมแนวร่วมไปเรื่อยๆ (ทักษิณต้องทำอะไรพลาดเข้าสักวัน) ... ขั้นที่สอง ... ขยายกองเพลิง ... คือ ชุมนุมจนกว่าจะได้ประกายไฟ (รอวันนายกฯ ก้าวพลาดสักวัน เช่น ขายหุ้นชิน) ... เพื่อให้กองเพลิงเริ่มลุกลามไปติดส่วนอื่นๆ (เพิ่มแนวร่วม เช่น นักวิชาการ พระ สื่อ ข้าราชการ นักเรียน ฯลฯ) ... ขั้นที่สาม ... เพิ่มขนาดการทำลายล้างให้เปลวเพลิง ... แม้ตอนนี้กองเพลิงจะเริ่มลามได้ที่แล้ว แต่ก็ยังไม่มีลักษณะการทำลายล้างอยู่ในตัว ... ต้องกระตุ้นความเร้าร้อน (เช่น ถ้าอยู่ต่อไปอีก 3 วัน 7 วัน ทักษิณจะโกง จะขนเงินหนี ฯลฯ) ... สร้างเงื่อนไขที่จะให้คนรู้สึกต้องตอบโต้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ (เช่น พาคนเดินไปเดินมา ให้เกิดเหตุการณ์ที่เริ่มจากการกระทบกระทั่งเล็กน้อยกับเจ้าหน้าที่ และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ) ... วันนี้ไม่เกิด พรุ่งนี้มาใหม่ ... ในขณะเดียวกัน จะเพิ่มโอกาสให้คนที่ไม่พอใจทักษิณตัดสินใจออกมาเป็นแนวร่วมมากขึ้นๆ เรื่อยๆ ... ขั้นที่สี่ ... สร้างความชอบธรรมให้เปลวเพลิง ... เมื่อคิดว่ามวลชนฝ่ายตนมีกำลังมากพอและหึกเหิมพอ ... ก็กระตุ้นให้เร้าร้อนจนถึงระดับหวังผล (เพิ่มความรุนแรงในการปะทะ) ... สุดท้าย กลุ่มคนที่เร้าร้อนขาดสติก็จะสร้างเงื่อนไขขั้นแตกหักด้วยตัวมันเอง ... บีบให้เกิดเหตุการณ์ที่ทักษิณต้องตัดสินใจอย่างยากลำบากในเวลาเฉียบพลัน คือ ... ลาออก หรือ ใช้กำลัง ... เพื่อยุติเหตุการณ์ ... เมื่อชนชั้นสมองของประเทศต้องการทำให้ 1 คน ไม่เท่ากับ 1 เสียงอีกหนึ่งเสียงอีกต่อไป ... สงครามจิตวิทยามวลชนจึงเป็นทางเลือกสุดท้าย จากคุณ : Rockhill - [ 2 เม.ย. 49 16:49:20 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้า คุณทักษิณ ชนะเลือกตั้ง ... ผมก็เดาว่า คุณทักษิณ จะต้องทำงานหนักและระมัดระวังตัวมากขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย (ก็ดีเพราะ ประเทศก็จะได้ประโยชน์) ... ถ้าคุณทักษิณแสดงฝีมือพัฒนาชาติได้ไม่ชัดเจนหรือล่อแหลมอีก ... ผมว่า ปชป ก็น่าจะชนะเลือกตั้งสมัยหน้าได้ไม่ยาก ... แต่ ถ้า คุณทักษิณ แพ้โหวต (ม๊อบชนะ) ... ผมก็ทำนายว่าอีกไม่เกิน 4 ปี คุณทักษิณก็จะกลับมาปกครองเมืองไทยอีกนับสิบปี ... เพราะผมไม่เชื่อว่าโครงสร้างการบริหารประเทศของใครจะมีประสิทธิภาพพอที่จะแข่งขันในระดับนานาชาติได้เท่า ทรท ณ วินาทีนี้ ... โครงสร้างองค์กรแบบนักกฎหมายของ ปชป ไม่มีความยืดหยุ่นพอสำหรับการแข่งขันในสังคมโลกปัจจุบัน ... ผลสุดท้าย เศรษฐกิจจะบังคับให้คนไทยกลับมาใช้งานคุณทักษิณ ... ทั้งสองเหตุการณ์ ... ผมไม่เห็นว่า ประเทศจะเสียหายอะไร ... ได้ช้า หรือ ได้เร็ว ก็เท่านั้นเอง ... ประเทศจะได้ ถ้าพวกเราเล่นกันในระบบ ... ทางเดียวที่ประเทศจะแพ้ ... ไม่ว่า คุณทักษิณ จะชนะหรือแพ้ ... ก็คือแนวทางที่ คุณสนธิ และ จำลอง ใช้อยู่ในขณะนี้ ... มันเป็นเรื่องของคนปรับตัวไม่ทันโลกการเปลี่ยนแปลง ... ใช้อีกกี่ทีประเทศก็ต้องเจ็บตัวไม่มากก็น้อย ... ไม่พอใจการเมือง เข้ามาเล่นการเมืองกันในระบบ ให้สมกับที่อ้างกันนักหนาว่า เป็นฝ่ายคุณธรรม ดีมั๊ยครับ ...   สำหรับ คนชนชั้นสูงและกลางไม่น้อย ที่ตกบันไดพลอยโจน กันไป ... จะถอยก็กลัวถูกคิดบัญชี ... เลือกฝ่ายไปแล้วก็กลัวจะแพ้ ... อัตตาก็เริ่มครอบงำ เพราะตนเองก็ต้นทุนเยอะ ... คิดกันน้อยๆ หน่อยดีมั๊ยครับ ... ผมคิดว่าถ้าไม่ดึงดันกันมาก ... คุณทักษิณ ถ้ากลับมาได้ ก็น่าจะเข้าใจและให้อภัยกันได้ ... การจองล้างจองผลาญดูแล้วไม่น่าเกิดขึ้น ถ้าจบอย่างสันติ และรู้จักถอยกัน ... แต่ถ้าจบรุนแรง ... ผมว่างานนี้เจ็บตัวกันทุกฝ่าย ... เราจะเสี่ยงอย่างไม่มีความจำเป็นทำไม ... อย่าเห็นแก่ หน้าตา กันเลยครับ ... คุณทักษิณก็พูดน้อยแล้ว ... คนอื่นพูดน้อยๆ หน่อยดีมั๊ย ... ณ วินาทีนี้ทุกอย่างยังไม่สายเกินไป ... เป็นแค่ จุดจบ ที่เป็น จุดเริ่มต้นใหม่ ของอะไรสักอย่าง ... วันที่ 7 เมษายน ถ้าพันธมิตรหยุด ... ทุกฝ่ายก็จะหยุดไปเอง ... มาแย่งกัน แพ้เพื่อชนะ ดีมั๊ยครับ ... จากคุณ : Rockhill - [ 2 เม.ย. 49 16:51:04 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คุณ Rockhill ผมขอเก็บไปให้น้องๆผมได้เรียนรู้บ้างนะครับ  จากข้อเขียนของคุณ ความคิดเห็นและการจัดการด้านเอกสาร เนื้อเรื่อง คุณทำได้ดีมากที่สุดคนหนึ่งตั้งแต่ผมเข้ามาในนี้ครับ ขอบคุณ ที่มีอะไรที่ดีๆ น่าเรียนรู้นะครับ จากคุณ : chiangraiplus - [ 2 เม.ย. 49 19:52:07 ]

ความคิดเห็นที่ 20 โอ้โห่!!! ขอบอกว่าอึ้ง ทึ่ง มากๆครับ ขอคาราวะด้วยน้ำเปล่าหนึ่งแก้วครับ ผมชอบประโยคนี้มากครับ " ผมก็ทำนายว่าอีกไม่เกิน 4 ปี คุณทักษิณก็จะกลับมาปกครองเมืองไทยอีกนับสิบปี ... เพราะผมไม่เชื่อว่าโครงสร้างการบริหารประเทศของใครจะมีประสิทธิภาพพอที่จะแข่งขันในระดับนานาชาติได้เท่า ทรท ณ วินาทีนี้ ... โครงสร้างองค์กรแบบนักกฎหมายของ ปชป ไม่มีความยืดหยุ่นพอสำหรับการแข่งขันในสังคมโลกปัจจุบัน ... ผลสุดท้าย เศรษฐกิจจะบังคับให้คนไทยกลับมาใช้งานคุณทักษิณ ... " ประเทศจะเป็นเช่นไรอยุ่ที่ผู้นำประเทศ  ตัวผม ชอบที่ทำให้ต่างชาติรู้จักประเทศไทยครับ สู้ๆ แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 49 21:50:20 จากคุณ : mazk - [ 2 เม.ย. 49 21:42:25 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ก็ผมมีความรู้เท่านี้ อันน้อยนิด ก็ใครเล่า เฝ้าสั่งสอนผมมาตั้งนานนม ผมจึงปั้มไปแล้ว ทั้ง2เบอร์ ... ทำไงดีเล่า อืมมมม จากคุณ : โฮเฮะ - [ 2 เม.ย. 49 21:46:17 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ Rockhill  เขียนได้ดีมากครับ จากคุณ : ชายสิงห์ ทุ่งชายเคือง - [ 3 เม.ย. 49 09:14:30 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตรงใจจริงๆ สรุปสถานะการได้ดีมากครับ โหวด จากคุณ : clk99 - [ 3 เม.ย. 49 09:17:29 ]

ความคิดเห็นที่ 24 1 โหวตครับ จากคุณ : xiaonong - [ 3 เม.ย. 49 09:21:47 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เขียนมาซะยาว สุดท้ายก็มัวเมาเชลียร์มันเข้าไป จากคุณ : Stone Roses - [ 3 เม.ย. 49 09:33:39 ]

ความคิดเห็นที่ 26 หลังจากสนธิกับจำลอง ได้เดินไปสีลมและสุขุมวิท ไปมาหลายที่แล้วก็ยังไม่มีประชาชนเห็นด้วยกับการชุมนุมประท้วงในครั้งนี้เพราะประชาชนส่วนใหญ่ยังเห็นว่าท่านนายก ยังไม่เลวทรามเหมือนอย่างที่สนธิกับพรรคพวกได้พยายามยัดเยียดให้เพราะว่าคนเราเกิดมา ชาติเดียวไม่มีทางทำความเลวได้ครบถ้วนได้ขนาดนั้นหรอก อย่างเช่นมีคนไปทุบพระพรหมที่แยกราชประสงค์ สนธิยังบอกว่าเป็นการกระทำของนายกทักษิณ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยคนโง่เท่านั้นที่จะเชื่อว่าเป็นจริงและอีกหลาย ๆ อย่างที่เป็นข้อหาที่ยัดเยียดให้กับนายก ฯ เมื่อเป็นเช่นนี้คนส่วนใหญ่ที่เป็นพลังเงียบในสังคมโดยเฉพาะใน กทม.ก็ไม่เป็นแนวร่วมด้วย โดย จำลองได้ตัดพ้อว่าทำไมพวก พลังเงียบเห็นแก่ตัวไม่รักชาติบ้านเมืองกันหรือไงซื่งเป็นการคาดการณ์ที่ผิดครับเพราะพลังเงียบถ้าจะออกมาก็ออกมากระทืบ จำลองมากกว่าเห็นได้จากพรุ่งนี้จะมีการ เลือกตั้งพลังเงี่ยบตัวจริง จะออกมาเลือกพรรคไทยรักไทยกันอย่างถล่มทลายไม่เชื่อคอยดู พรุ่งนี้วันเลือกตั้งเมือเป็นเช่นนี้ ทางเดียวที่จะหาแนวร่วมได้ก็คือพวกเด็กวัยรุ่น สายเดี่ยว นักเรียน นักศึกษา เพราะเด็กพวกนี้ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือพิมพ์ เอาแต่ปาร์ตี้มั่วเซ็กซ์ กันไปวัน ๆ เด็ก ๆที่ดีบางส่วน ก็ถูกอาจารย์บังคับให้มาประท้วง ผลก็คือ ถูกหลอกง่ายพูดอะไรก็เชื่อโดนล้างสมองง่าย หรือโง่บรมโง่ นั่นเองจึงตกเป็นเหยื่อได้ง่ายและเด็กพวกนี้เกิดไม่ทันเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำอะไรกับประเทศไทย ไว้บ้างโดนสอนให้พูดว่าโกงชาติขายชาติ ก็พูดตาม ให้พูดว่าโกงภาษี ก็พูดตามแต่ถ้าถามว่าแล้วเขาขาย-โกงชาติ อย่างไร โกงภาษีอย่างไร จะไม่รู้จะตอบว่าก็ไม่มีจริยธรรม เอาจริยธรรมมาอ้างซึ่งเป็นสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ว่าจริยะธรรมในมุมมองของใคร และที่สำคัญเด็กพวกนี้มีเงินมากกว่าพวก กองทัพธรรม ที่เอาแต่ขอทาน หรือพวกเร่ร่อนแถวสนาม หลวงที่มาอาศัย หาเศษอาหารกินไปวัน ๆ ไม่ค่อยอ้าปากประท้วงเสียงไม่ดังบางคนยังต้องจ่ายเงินค่าจ้างอีก หลังจากย้ายม็อบไปสยามพารากอนวันเดียว ทำยอดขายเสื้อ(ที่มีคำว่ารักในหลวง) ผ้าโพกหัว ซีดี หนังสือได้เป้าถล่มทลาย มากกว่า ประท้วงที่สวนลุมและสนามหลวง ราชดำเนินรวมกัน เสียอีกนับว่าเป็นความเฉียบคมมาก จึงเป็นที่มาของการย้ายม็อบใน ครั้งนี้นับว่าเป็นแผนการตลาดที่แยบยนจริง ๆ ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง ป่านนี้สนธิคงได้ปลดหนี้แล้วจึงไปเที่ยวได้อย่างสบายใจ จากคุณ : ohm (nibhon) - [ 3 เม.ย. 49 09:38:17 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เชลียร์ แผลบๆ เปิดหูเปิดตาสู่โลกแห่งความเป็นจริงบ้างน้องเอ๋ย ผมพูดในนี้หลายทีแล้วว่า ความเป็นจริง ใน ตจว มันเป็นอย่างไร อย่ามองแต่ใน กทม ครับ คน ตจว เขากดดันกันมาก อึดอัดกันมาก แต่ทำอะไรไม่ได้ เลือกตั้งคราวนี้ ทักกี้มันขุดหลุมไว้ฝังตัวเอง เพราะย่ามใจ 19 ล้านเสียง ทีนี้เป็นไงล่ะ ประเทศเราพัตนามาโดยตลอดครับ ช้าบ้างเร็วบ้าง แต่ไม่ได้กินรวบทั้งระบบแบบนี้ ยอมไม่ได้ครับ จากคุณ : แอลกอฮอลเรด - [ 3 เม.ย. 49 09:44:28 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เป็นข้อมูล และ ข้อ คิดเห็น ที่ มีประโยชน์ น่า ส น ใ จ และ น่าติดตาม ขอบคุณ ท่าน จขกท จากคุณ : LuMiNoR - [ 3 เม.ย. 49 10:01:59 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เขียนดีมากครับ เอาไป1โหวต จากคุณ : NegiSpringfield - [ 3 เม.ย. 49 10:10:07 ]

ความคิดเห็นที่ 30 โหวต ครับ จากคุณ : xit - [ 3 เม.ย. 49 10:25:46 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ชัยชนะของผู้แพ้ ย่อมเหนือกว่าและดีกว่า ความแพ้ของผู้ชนะ จากคุณ : CuTe PaTTy - [ 3 เม.ย. 49 10:32:05 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เขียนเข้าข้างทักษิณก็ว่าเชลียร์ เอ้า ตามสบาย มีสมองเป็นของตัวเองอยุ่แล้ว ใครจะคิดยังไงก็ตามใจไม่มีใครบังคับนี่นะ 1 โหวต อ่อ ขอนำบทความไปลงที่อื่นหน่อยนะ จากคุณ : sirpass - [ 3 เม.ย. 49 10:39:13 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เขียนได้ดี ทักษิณต้องปรับปรุงตัวด้วย หากทรท.จะเป็นสถาบันการเมือง คุณพจมานควรจะเลิกตามติดและยุ่งเกี่ยวกับภารกิจของคุณทักษิณ ไม่อย่างนั้นก็มารับตำแหน่งบริหารของพรรคไปเลย. จากคุณ : gmb man - [ 3 เม.ย. 49 11:06:51 ]

ความคิดเห็นที่ 34 (ขออนุญาติโพสกระทู้ของ justgig ที่โพสเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2549 - ขณะที่การประท้วงเริ่มขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ) ____________________________________________________ เมื่อชาติมีภัย (ฉบับ สยามเทวาธิราชดลใจ) ถึง ปวงชนชาวไทย (ตอน กบเลือกนาย 2) คนดีแบบสมบูรณ์แบบนั้นไม่มี และถ้ามี บ่อยครั้งก็มักเอามาใช้ประโยชน์อย่างจริงๆจังๆ ไม่ค่อยได้ ... แต่ละท่านก็มาแบบขอได้เป็นนายกสักครั้งในชีวิตเพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล ...  ฉะนั้น กรุณาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงที่จับต้องได้ ดีกว่าโลกอุดมคติที่โศกาอาดูรอดมื้อกินมื้อ ... จะพูดไปทำไมครับจริยธรรม ... คนพูดไม่น้อยก็ยังไม่แน่ใจเลยว่ามันแปลว่าอะไร ... นักการเมืองคอรัปชั่น ตำรวจอิทธิพล ทหารแสวงหาประโยชน์ นักธุรกิจโกงภาษี ฯลฯ เห็นอยู่เต็มเมือง ... ไม่มีใครทำอะไร ... ตอนนี้กระแดะออกมาพูดถึงจริยธรรมกันทำไม ... คนเลวมีเต็มเมืองพวกคุณองค์กรบ้าบออะไรไม่เคยคิดจะทำอะไร ... สิ่งเดียวที่พวกคุณทำได้เป็นรูปธรรมคือพาคนออกมาเดิน พอเขาตาย คุณก็คอยสร้างอนุสรณ์ให้ ... คุณอยากได้คนดีมีจริยธรรมอย่างคุณจำลองมาเป็นนายกฯ กันหรือครับ เด็กติดเหล้าเมายากันเต็มเมือง ... คุณจำลองนอนหลับได้สบายดี ... ไม่มีปัญญาทำอะไร ... แต่บริษัทเหล้าจะเข้าตลาดหลักทรัยพ์ดันร้อนทุรนทุลายจะเป็นจะตายให้ได้ ... ผมไม่เข้าใจคุณจำลองมานาน ... ตอนนี้ยิ่งงงวิธีดูแลประเทศของคุณจำลองไปใหญ่ ... สิงคโปร์มันก็ห่วงเด็กติดเหล้าครับ ... มันไม่เคยห่วงบริษัทเหล้าจะเข้าตลาดหลักทรัพย์หรอกครับเพราะมันเป็นประโยชน์ของประเทศชาติ ... คุณเป็นนายพลแยกมหภาคกับจุลภาคไม่ออกหรือครับ ... ถ้าคนไทยคิดได้แค่นี้ ... คุณโง่คนเดียวไม่พอ ... เอาลูกหลานออกมาเป็นหมื่นนั่งเฝ้าหน้าตลาดหลักทรัพย์ด้วย ... สิงคโปร์มันก็คงหมดห่วง มันคงขำกลิ้งประเทศไทย ... เพราะมีผู้ใหญ่อย่างนี้ดูแลบ้านเมืองมันถึงมาได้แค่นี้ ... ราษฎรอาวุโสหลายท่านบอกว่าไม่ต้องไปแข่งกับเขาหรอก เราอยู่ของเราอย่างนี้ ... ใช่ซิครับพวกท่านอยู่อีกไม่กี่ปี ... ท่านห่วงบ้างมั๊ยครับว่าลูกหลานจะอยู่กันอย่างไร ... ต่อไปพรมแดนไม่มี ... ความแข็งแรงภายในไม่มีเราจะรักษาสถาบันไว้ได้อย่างไร ... ทหารไม่ใช่คำตอบสุดท้ายนะครับ ... จะรักษาแบบพม่าเกาหลีเหนือหรือครับ ... อย่าได้ทำตลกไปนะครับ ... ถ้าคิดอย่างพวกท่านอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า ... เราอาจถูกมองเหมือนที่เรามองลาวกัมพูช่าทุกวันนี้ ... สถาบันจะอยู่รอดในระยะยาวก็ล้วนต้องอาศัยความมั่นคงและการพัฒนาทางเศรษฐกิจเป็นคำตอบสุดท้าย ... หันไปมองให้รอบโลกซิครับ ... ตัวอย่างมีให้เห็นทุกแบบ ... บทเรียนในอดีตมีให้เรียนรู้มากมายอยู่แล้ว ... ทุกคนมีความสุขทุกสิ่งก็อยู่ได้ ... มรดกของพวกท่านก็คือป่าไม้ที่หมดไป ... ออกไปดูโลกกว้างกันบ้าง ... ประเทศเล็กๆ อย่างสิงคโปร์สร้างตัวจากความไม่มีอะไรเลย ... แม้แต่มาเลย์ที่ไม่รังเกียจเผด็จการอย่างมหาเธร์ก็ยังสร้างบ่อนอย่างเก้นติ้งให้คนไทยไปผลาญเงิน สร้างตึกปิโตนัสพร้อมกับยังเหลือป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ไว้ให้ลูกหลานได้ภูมิใจได้ ... ปล่อยให้ประเทศที่ใหญ่กว่าอย่างไทยที่มีแต่ผู้ใหญ่เอาตัวรอด ชิงดีชิงเด่น แข่งกันสร้างฐานะ อิจฉาริษยากัน ยึดแต่อารมณ์ความรู้สึกของตนเป็นที่ตั้ง ยึดตัวหนังสือ ไม่ยึดเนื้อหาเป็นสรณะ ... ผมเห็นสิ่งที่คุณทักษิณฝันจะสร้างสิ่งมากมาย ... ฝัน 20 สร้างได้ 3 ก็ดีกว่าคนไม่ฝันเลยครับ ... ถ้าคนจะคิดทำลายคุณก็จะเอาไอ้ที่คุณล้มเหลว 17 มาพูด ... แต่ผมมองเห็น 3 ที่คุณทำเสร็จแล้วก็ชื่นใจแล้วครับ เมื่อเทียบกับผมเห็นนักการเมืองรุ่นที่ผ่านมาทำทิ้งไว้ในช่วงชีวิตผม ... สิ่งปลูกสร้างทางวัตถุที่เป็นสาระอย่างที่มาเลเซียสร้างตึกปิโตรนัส ... หรือเกาะต้นปาล์มของดูไบ ... ผมก็เชื่อว่าคุณทักษิณฝันถึง ... เราจะคอยหากินกับของเก่าต่อไปไม่ได้ ... ชาติอื่นเขาสร้างขึ้นจากไม่มีอะไรเลย ... แม้ว่าไนท์ซาฟารีและสวนพฤกษชาติจะไม่ได้อย่างใจที่ผมคิด ... แต่ก็แสดงให้เห็นว่าคุณทักษิณไม่เพียงฝัน แต่สร้างจนเป็นรูปธรรมขึ้นมาได้ ... คุณทักษิณคงกลัวว่าลูกหลานจะนึกถึงคนรุ่นเราว่าขาดวิสัยทัศน์ เป็นรุ่นทำลายความอุดมสมบูรณ์ของชาติ โดยไม่เหลืออะไรไว้ให้เขาได้ภาคภูมิใจเลย ... ดูคนว่าเสแสร้งหรือมีเจตนาจริงนั้นดูไม่ยากหรอกครับ ... ดูรอยที่เขาทิ้งเอาไว้ ... ดีหรือเลวมันปิดไม่มิดหรอกครับ ถ้าดูกันยาวๆ ... ผ่านไป 4 ปี คุณทักษิณคงพบสัจจธรรมแล้วว่าประเทศนี้ไม่มีอะไร ... นอกจากทรัพยากรที่ผลาญกันแทบหมด ... ก็เหลือไว้แต่สิ่งที่เราจนปัญญาจะทำลายกัน อย่างเช่น อาหารวัฒนธรรมประเพณี ... เราขาดทั้งเงิน ขาดฐานความรู้ และที่สำคัญขาดคนที่มีวิสัยทัศน์ ... เมื่อมองสิงคโปร์เราก็อ้างว่าประเทศเล็กบริหารง่าย คนน้อยมันไม่ยุ่งยาก ... หันไปมองประเทศใหญ่อย่างจีน ก้าวหน้ารุ่งเรืองในเวลาอันสั้น ... จากล้าหลังข้ามหัวเราไปชั่วพริบตา ...  ผมก็เดาว่าพวกปัญญาอ่อนก็คงอ้างว่าประเทศจีนใหญ่ มีคนเยอะแยะ มีของเก่าเยอะกว่าเรา อะไรทำนองนั้น ... ไม่จริงหรอกครับ ถ้าประเทศใดก็ตามถ้ามีนักการเมืองนักการบริหารที่มีวิสัยทัศน์อย่างเราก็ไปไม่ถึงไหนเหมือนกัน ... ไม่ว่าประเทศจะใหญ่หรือเล็ก ... คอมมิวนิสหรือประชาธิปไตย ... ไม่ต้องมองไกลอย่างอเมริกาหรือยุโรป หันไปมองญี่ปุ่น สิงคโปร์ จีน หรือมาเลเซีย ... เราน่าจะยอมรับแนวทางที่จะเจริญและจะจมอยู่กับความล้มเหลวกันเสียที ... ผมเห็นความตั้งใจที่ถูกต้องของคุณทักษิณ ... ผมเห็นแนวทางที่ชาญฉลาด (จะว่าไปก็ไม่ได้ฉลาดอะไรถ้าหันไปดูทุกประเทศที่รุ่งเรืองก็ล้วนทำกัน) คือการเปิดรับความรู้และเงินลงทุนจากต่างประเทศ ... แต่พวกมือไม่พายก็มักเริ่มโจมตีว่าขายชาติ ... พวกคุณจะเก็บเอาไว้ทำเองเพื่อให้กลายเป็นโครงการสามสี่ชั่วโคตร แบบเวียนเทียนกันกินหรือลงแขกกันกิน ได้อย่างไม่รู้จบหรือครับ คุณสุเทพ คุณเสนาะ คุณสนั่น คุณบรรหาญ คุณวัฒนา ... แม้ต่างชาติจะถือครองอะไรของประเทศเราก็ตาม ... ถ้าประเทศมีนักการเมืองที่ดีก็สามารถใช้ระบบนิติบัญญัติที่มีคุณภาพดูแลผลประโยชน์ของชาติและประชาชนได้อย่างไม่ต้องกลัวอะไร จริงมั๊ยครับ คุณชวน คุณอภิสิทธิ์ ... ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ต่างชาติ ปัญหาอยู่ที่คนของเราเองมาตลอด ... แต่ผู้ใหญ่หลายคนกลับมองไม่ออก ... ผมให้ตัวชี้วัดง่ายๆ เอาไว้สักเกต ถ้าพวกเราต้องการแยกว่ารัฐบาลนั้นดีหรือเลว ... ดูคุณภาพทางหลวงแผ่นดินว่ามันเป็นโครงการประเภทสร้าง 3 ปีใช้ได้ 2 ปีก็พัง แล้วต้องเริ่มซ่อมหรือทุบสร้างใหม่หรือเปล่า ... งบแทนที่จะเหลือเอาไปพัฒนาโครงการใหม่ๆ ... เราต้องตัดงบพัฒนาประเทศมาสร้างถนนสายเก่าๆ กันอย่างไม่รู้จักจบสิ้น ... แล้วเราก็รู้สึกว่าเราไม่มีเงินพัฒนาประเทศกัน ... ความจริงเงินเรามีเยอะแยะครับ ... ถ้าเราไม่เอาไปสร้างถนนพันธุ์อย่างว่า ... ไม่ต้องไปดูงบที่ท่านตั้งเอาไว้ซื้อของใช้ไม่ได้อย่างประปาหมู่บ้านหรืออีกสารพัดที่ท่านขยันคิดกันมาเหลือเกิน ... ซื้อติดตั้งไว้เป็นพันแห่ง แต่ใช้ได้จริงไม่ถึงร้อยแห่ง (เอาไว้โชว์ผู้ใหญ่ตาถั่วว่าโครงการนี้เวิคกนะจ๊ะ) ... หยุดบ่นดีกว่านะครับ มีเรื่องสนุกอีกสารพัดเรื่องครับถ้าเขียนคงเป็นนิยายเป็นเล่มๆ ... ยาวนานเหมือนถนนเส้นกรุงเทพสระบุรีโคราชนั้นหละครับ ... ใช่มั๊ยครับ คุณสุวัฒน์ ... ขอสรุปสั้นๆ ว่าประเทศจะอยู่อย่างหลบซ่อนต่อไปไม่ได้แล้วครับ ... ยิ่งหลบซ่อนจากความจริงลูกหลานก็จะยิ่งอ่อนแอลงไปทุกวัน ...  ถ้าคุณทักษิณไม่ปรับระบบลอจิสติกให้มีต้นทุนที่แข่งขันได้ ... ไม่ว่าอุตสาหกรรมไหนเราก็สู้ใครเขาไม่ได้หรอกครับในอนาคตอันใกล้ ... จะพูดให้ลึกกว่านี้ก็คงมีอยู่คำเดียวครับโลกอนาคตที่เราจะอยู่รอด ... competitive transaction cost ... ซึ่งมันรวมคน เทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐาน และการเมือง เข้าไว้ด้วยกัน ... ถ้าไม่มีรัฐบาลที่เข้มแข็งยากที่เราจะผ่านเรื่องพวกนี้ไปได้ ... คำตอบสุดท้ายผมคิดว่าเราต้องใช้คนที่คิดได้และทำได้เป็นรูปธรรมอย่างคุณทักษิณ ... คุณทักษิณดูแลตัวเองได้อย่างฉลาด (ขาดจริยธรรมในบางเรื่องไปบ้างก็พอเข้าใจได้ว่าคุณทักษิณก็ยังมีเรื่องต้องเรียนรู้เหมือนกัน) ก็หวังว่าจะดูแลประเทศได้อย่างนั้น ... ประเทศดำรงความสมถะอย่างราษฎรบางท่านไม่ได้ ... คนอยู่ได้ แต่ประเทศอยู่ไม่ได้ในระยะยาว ... คุณทักษิณอาจกร่างไปบ้าง เมาอำนาจไปบ้าง แต่ถ้าไม่หลุดเนื้อหา ก็ต้องให้อภัยกัน ... การมีสมบัติมาก ก็หวงห่วงมาก ทุกข์มาก ... หลายคนที่ไม่เข้าใจก็ปล่อยเขากระเสือกกระสนกันไป ... มีหมื่นล้านกับมีแสนล้านมันไม่สร้างความแตกต่างกันแล้วครับ ความเป็นมนุษย์ ... ผมเชื่อว่าคุณทักษิณเข้าถึงและเข้าใจ ... จึงขายบริษัทออกไป ... มองอย่างบูรณาการจากสิ่งที่จับต้องได้ที่คุณทักษิณทำมา ผมเชื่อว่าคุณทักษิณอยากสร้างแผ่นดินไทยให้เป็นแผ่นดินทองจริงๆ ... คุณทักษิณต้องการเงินก็ขอเชื่อว่าเพื่อแผ่นดิน ... เพื่อเอากลับมาหล่อเลี้ยงโครงสร้างทางการเมืองให้มีเสถียรภาพ ... บางทีไม่มีทุน หลักการอุดมคติอย่างเดียวมันก็ไปไม่ถึงไหน ... มันต้องมีจุดด่างบ้าง (ลีกวนยู มหาเธร์ ก็ไม่ได้สร้างชาติมาด้วยอุดมการณ์อันบริสุทธิ์ผุดผ่อง) ... คนอยู่อย่างพอเพียงแต่ประเทศอยู่อย่างพอเพียงวันนี้จะขาดอย่างมากวันข้างหน้า ... ต้องมีเพื่อความมั่นคงของชาติครับ ... แยกให้ออกระหว่างความเป็นปัจเจกบุคคลกับความเป็นประเทศ ... คนควรอยู่อย่างพอเพียง สมดุลยแก่สถานะ ... มีมากก็หนักมาก มีน้อยก็ไม่สบายตัว ... แต่ประเทศชาติจำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่จะอยู่รอดอีกมากมาย ... ถ้าจะมองให้ลึกลงไปอีกก็คงต้องบอกว่าเราอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ...  รัฐธรรมนูญใหม่สร้างระบบถ่วงดุลยแล้ว ... แต่ละหน่วยงานยังขาดคนที่มีประสบการณ์ขับเคลื่อนมัน (อาจต้องรอคนรุ่นต่อไป) ... ยกตัวอย่าง เราไม่มีวุฒิสมาชิกที่มีฝีมือ (ออกกฎหมายผิดๆถูกๆ ... ก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับของใหม่ ยิ่งใช้โดยคนมือไม่ถึงเข้าไปอีก ก็ยิ่งยุ่ง ... อยากรู้ว่าวุฒิสมาชิกมือถึงเป็นอย่างไรก็ลองไปนั่งฟังวุฒิสมาชิกอเมริกันเขาอภิปรายกันซิครับ ว่าหนึ่งนาทีเขาพูดเนื้อหาได้มากขนาดไหน ให้หนึ่งนาทเขาพูดหนึ่งนาที และเต็มไปด้วยเนื้อหา) ... แต่เราก็เดินมาถูกทางแล้ว ... อย่าใจร้อนหรือถูกรบกวนด้วยเรื่องในอุดมคติมากนัก ... หนทางยังอีกไกล ... อดทนและให้อภัยกับคนตั้งใจทำงาน ... ไม่อย่างนั้นเราจะได้แต่พวกพูดถูกใจ แต่ประเทศไม่เหลืออะไร ... หลายปีก่อน พลเอกเปรมเคยเดินจากพวกกบเลือกนายอย่างเราไป ... ท่านสร้างผลงานให้เยอะแยะ ... ไม่พอใจ จะเอาโน้นจะเอานี้ ท่านต้องเป็นอย่างโน้นต้องเป็นอย่างนี้ ... ผลเป็นอย่างไรครับ ... ท่านไม่อดทนครับ ... ท่านตัดช่องน้อยแต่พอตัว ... ปฎิเสธพลเอกชาติชายที่ไปยืนตากฝนขอร้องท่านอยู่หน้าบ้าน ... ถ้าท่านอดทนสักนิดประเทศเราคงยังอยู่ข้างหน้ามาเลย์หลายสิบปี แทนที่จะแข่งกับอิเหนา วิ่งไล่ตามก้นมาเลย์อย่างทุกวันนี้ ... เราเคยแข่งกับญี่ปุ่นสมัย ร.5 ต่อมาแข่งกับเกาหลี ตอนนี้แข่งกับเวียดนาม อนาคตคงต้องแข่งกับลาว อีกไกลๆ คงได้เทียบชั้นพม่า (ดูฟุตบอลไทยเป็นตัวอย่างซิครับ)   ตอนนี้ เราเริ่มไม่จำบทเรียนของกบอย่างเราๆ ... ประเทศเราคนรวยไม่ดูแลชนชั้นกลาง ชนชั้นกลางไม่ดูแลชนชั้นล่าง (ความจริงตั้งหน้าตั้งตาเอาเปรียบกัน) ... เราปล่อยให้คนทำช๊อตเซลอ้างหลักการมาปั่นหัว รวมกับนักวิชาการขาดสติ นายพลนักเลง นายทุนอิทธิพล นักการเมืองโกงชาติรอการกลับมา พ่อค้าหวยใต้ดิน พ่อค้ายาเสพติดรอวันคืนชีพ ข้าราชการอกหัก ข้าราชการรัฐวิสาหกิจเห็นแก่ตัว และอีกสารพัดสารเพที่กำลังมีความหวัง ... ชนชั้นสูงไม่ดูแลกันเอง ไม่เลือกคนดี ไม่อุ้มคนตั้งใจทำดี ตัดช่องน้อยแต่พอตัว ... ผมมองย้อนไปเห็นประเทศอย่างคิวบาก่อนคนอย่างฟิเดลคาสโตรมา ... แล้วก็อดหดหู่ใจไม่ได้ ... ทำไมเราไม่ดูแลประเทศ ไม่ดูแลสถาบันให้ดีกว่านี้ ... จงเป็นสุขเป็นสุขเถิดประเทศไทย แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 49 11:25:41 จากคุณ : Winthrop - [ 3 เม.ย. 49 11:07:13 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณครับ ท่าน Rockhill จากคุณ : wsarit - [ 3 เม.ย. 49 11:09:06 ]

ความคิดเห็นที่ 36 โหวด เรียบ จากคุณ : BanSan - [ 3 เม.ย. 49 11:10:52 ]

ความคิดเห็นที่ 37 (ขออนุญาติโพสกระทู้ของ justgig ที่โพสเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2549 - ก่อนยุบสภาหลายวัน) ______________________________________________________ เมื่อชาติมีภัย (ฉบับ นักเล่านิทาน) ถึง ทีมงานที่ปรึกษาคุณทักษิณ (ตอน หนทางของเป็ดง่อย) กาลครั้งหนึ่ง ... ในอนาคนอันใกล้ ... 26 กุมภาพันธ์ 2549 ... วันแห่งการกู้ชาติของเสรีชนคนรักประชาธิปไตย ... กลุ่มพลังเริ่มการชุมนุม ... ทักษิณหลงทาง ... ต้นตอของวิกฤตศรัทธาถูกมองข้าม ... การเบี่ยงเบนประเด็นเป็นเสมือนยาพิษ ... การแก้ปัญหาอย่างนักการตลาด อาจถูกมองเหมือนคนเจ้าเล่ห์ ... ผิดทาง และไม่มีน้ำหนัก ... เสมือนเป็นเนื้องอกในสมอง กลับกินยาแก้ปวดหัว ... กลุ่มผู้สนับสนุนที่พร้อมจะเข้าใจ เริ่มลังเล ... ( แทรก 1 ... เมื่อสหรัฐล้มเหลวในการบุกคิวบาที่อ่าวหมู ... ประเทศยิ่งใหญ่อย่างสหรัฐแพ้สงครามประเทศเล็กๆ ... JFK คิดว่าอนาคตทางการเมืองของเขาจบสิ้นแน่ ... เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องนี้กับชาวอเมริกาอย่างไร ... คนอเมริกันไม่ให้อภัยต่อการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเขาแน่ ... แต่แทนที่เขาจะปกปิดเรื่องนี้หรือหลีกเลี่ยงด้วยการโยนความรับผิดชอบไปให้นายพลสักคนเพื่อรักษาอนาคตทางการเมืองไว้ ... เขากลับตัดสินใจที่จะไม่ดูถูกคนอเมริกัน ... เขาประกาศยอมรับความผิดพลาดอย่างกล้าหาญในทันทีโดยไม่ประวิงเวลา ... ผลตอบกลับสร้างความแปลกใจให้เขา ... คนอเมริกันไม่ว่าอะไรเขาสักคำ ... JFK หันไปพูดกลับคนใกล้ชิดว่า ... แปลกนะ เรายิ่งผิดพลาดเขากลับยิ่งรักเรา ... ความจริงแล้ว JFK ไม่รู้ว่าคนอเมริกันยอมรับความผิดพลาดของเขาได้ ... แต่ไม่ยอมรับคนปลิ้นป้อนและโกหกเท่านั้นเองครับ ... จบแทรก 1) เมื่อการชุมนุมเริ่มยืดเยื้อ ... ความรุนแรงเริ่มเกิด ... ทักษิณยังประเมินสถานการณ์ผิด ... อัตตาชนอัตตา ... เกิดการล้มตาย ... แต่อำนาจรัฐคืออำนาจรัฐ ... ทักษิณยังอยู่ในอำนาจต่อไป ... ความมัวหมองครอบงำภาพลักษณ์รัฐบาล ... การหวาดระแวงเข้ามาแทนที่ ... ทักษิณเริ่มถูกโดดเดี่ยว ... เวลาผ่านไป... รัฐบาลขาดสมาธิที่จะพัฒนาประเทศ ... ชาติตกอยู่ในวังวนของการแก้เกมการเมือง ... ยิ่งแก้ยิ่งจมลึก ... ทักษิณบริหารประเทศในสภาพของคนมีชนักติดหลัง ... คนไม่เชื่อถือคำพูด ... คนสนับสนุนรัฐบาลสับสน ... และถดถอยอย่างมีนัยสำคัญ ... ประเทศมีสภาพเหมือน เป็ดง่อย ... ปัญหาที่แท้จริงของประเทศก่อตัวอย่างเป็นรูปธรรมโดยสมบูรณ์ ... วิกฤตศรัทธาเต็มรูปแบบ ... เวลาผ่านไป 4 เดือน ... ทักษิณยอมรับความจริง ... ถอดใจ ... ยุบสภา ในที่สุด ... นสพ. วิจารณ์ว่าถ้ายุบเร็วกว่านี้ ... คุณทักษิณคงจะได้กลับมาเป็นนายกอย่างไร้มลทิน ... (แทรก 2 ... การยุบสภาและจัดการเลือกตั้งอย่างรวดเร็ว เป็นแนวทางเดียวกันกับที่นายกญี่ปุ่นและนายกอังกฤษพึ่งจะใช้แก้ปัญหาวิกฤตศรัทธาอย่างประสบความสำเร็จ ... การคืนอำนาจให้ประชาชนเพื่อให้ประชาชนล้างมลทินให้ในขณะที่ตนยังเป็นที่นิยมอยู่ ... เป็นแนวทางที่ตรงไปตรงมาขาวสะอาด ... ถ้าประชาชนยังเลือกเข้ามาอีกหน ... ก็ถือเป็นการอภัยโทษทางการเมืองอย่างสมบูรณ์ ... เมื่อเสียงประชาชนพูด เรื่องเก่าก็จะจบไป ... เสถียรภาพทางการเมืองหวนคืนมา ... จบแทรก 2) แต่ทักษิณเกรงว่าการพัฒนาของประเทศจะสะดุดลง ... หรืออำนาจบังตา ... คุณทักษิณดื้อดึงต่อไป .... การอธิบายในขณะที่คนสับสน ... ยิ่งอธิบายยิ่งดูเหมือนคนแก้ตัว ... Tax planning แม้จะถูกต้องถูกจริยธรรม แต่ชาวบ้านไม่ค่อยเข้าใจ ... หลายคนไม่แน่ใจว่าใครถูกใครผิด ... นั้นไม่สำคัญแล้ว ... สิ่งที่เขาต้องการบรรลุเป้าประสงค์แล้ว ... คุณทักษิณทำให้ประเทศมีเงินแล้ว ... เขาต้องการบริหารเงินนั้น ... การรอจนนาทีทองผ่านไป ... เดินโดยมีลูกตุ้มถ่วงขาหรือธนูปักอยู่กลางหลัง ... และท้ายสุดต้องยุบสภาในนาทีที่ภาพลักษณ์ตกต่ำสุด ... เป็นการฆ่าตัวตายทางการเมือง ... หลังการเลือกตั้ง ... ประเทศไทยได้นายกคนใหม่ชื่อ ... อภิสิทธิ์ ... แม้จะเต็มเปี่ยมไปด้วยหลักการและจริยธรรม ... พร้อมนโยบายอันแสนสวยหรู ... แต่นายกไม่มีบารมีพอที่ควบคุมขั้วอำนาจของตนเอง ... 1 ปีผ่านไป ... ประเทศชาติก้าวไปไม่ถึงไหน ... บรรยากาศสมัยคุณชวนเริ่มกลับมา ... แย่ยิ่งกว่า ... คุณอภิสิทธิ์เริ่มตระหนักว่านโยบายเดินได้ช้า ... และไม่มีความเป็นรูปธรรม ... ข้าราชการต้องทำงานแบบลูบหน้าปะจมูกไปวันๆ เพราะภายใต้กลุ่มอำนาจทางการเมืองแบบเดิม ...   ประเทศล้าหลังเพื่อนบ้าน ... เพราะนักการเมืองกอบโกยผลประโยชน์เงียบๆ แบบสุเทพสไตล์ ... ซ้ำรอยคุณชวน ... อภิสิทธิ์รู้ตัวดีว่าอยู่ในอำนาจได้เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ ... แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ... กลุ่มพลังไม่อาจเคลื่อนไหว ... เพราะกลุ่มผลประโยชน์ซ่อนอยูใต้เกราะความดีคุณอภิสิทธิ์ ... การพัฒนาประเทศเริ่มวนอยู่ในอ่างเพราะนักการเมืองระบบอุปถัมภ์ ... 3 ปีผ่านไป ... เมื่อเศรษฐกิจเริ่มตกต่ำถึงขีดสุด ... เป็นเงื่อนไขให้กลุ่มพลังนักปฏิรูปการเมืองบนท้องถนนเริ่มเริงร่า ...  โอกาสได้อยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์กลับมาอีกหน ... นักอาริยะขัดขืนเริ่มเคลื่อนไหว ... มันเป็นเช่นนั้นเอง ... เอวัง ... นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ... อย่าเถียงกันเลยครับว่าใครรักชาติมากกว่ากัน ... เราต่างก็ล้วนเริ่มต้นจากคำว่า รักชาติ เหมือนกัน ... สงครามกลางเมืองกี่ยุคกี่สมัยมันก็เริ่มจากคำนี้ คนที่ยึดติดกับอะไรแบบหัวชนฝา ... ล้วนต้องพบสัจธรรม ... เหมือนสัตว์ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อความอยู่รอด ... ส่วนที่ปรับไม่ได้ก็เสื่อมถอยสูญพันธุ์ไป ... เราเกิดมาก็รู้เท่ากันคือไม่รู้อะไร ... เราค่อยๆ สะสมความรู้ ... ตีความสิ่งที่ได้เห็นในโลกใบเดียวกันนี้ด้วยแง่มุมที่แตกต่างกันบ้างเหมือนกันบ้าง ... คนเห็นโลกมากกว่าก็ใช่ว่าจะตีความได้ถูกต้องดีกว่าเสมอไป ... อย่ายึดติดกันต่อไปเลยครับ ... เชื่อในสัจธรรม ... ทางออกนั้นตรงไปตรงมา ไม่ได้ซับซ้อนอะไร ... อย่าหลงทางกับการแก้รัฐธรรมนูญให้ยุ่งยากเลยครับ ... จะปลูกต้นสัก ... ก็ต้องรอหลายสิบปีต้นจึงจะโตเห็นเนื้อเห็นหนัง ... ผ่านไปไม่ถึงสิบปีก็เริ่มโวยวายว่า ทำไมต้นมันยังเล็กนิดเดียว ... เด็กไม่รู้ ผมไม่แปลกใจ ... แต่ผู้ใหญ่ไม่เข้าใจ ... ผมหนักใจแทนประเทศชาติ ... Tax planning ก็อย่าพยายามอธิบายเลยครับ คุณทักษิณ ... ผมเชื่อว่าทั้งคุณสนธิ คุณอภิสิทธิ หรือใครต่อใครก็เข้าใจดี ... แต่จำเป็นต้องแกล้งโง่กัน ... เพราะเขาต้องการทำให้ประชาชนชนชั้นกลางกลุ่มหนึ่งที่พอมีความรู้แต่ยังไม่บรรลุพอสับสน ... เพราะคนกลุ่มนี้เป็นเหยื่อชั้นดีที่จะเป็นหัวหอกทางการเมือง ... ในเมื่อคนกลุ่มนี้ไม่มี judgment พอที่จะแยกแยะ ... คุณยังคิดว่าคุณเก่งพอที่จะอธิบายให้คนที่แยกแยะไม่ได้และอยู่ในสภาพฐิทิเสมือนหูหนวกตาบอดฟังอีกหรือครับ ... ผมเชื่อว่าคุณคิดได้ดีกว่านี้ครับ ... วันนี้ผมมองไม่เห็นใครจริงๆ ที่จะปรับวัฒนธรรมความคิดของประเทศนี้ได้นอกจากคุณทักษิณ ... ได้แต่ภาวนาว่า คุณอย่าแพ้ภัยตัวเอง ไปเสียก่อน ... เรื่อง Tax planning นั้นเป็นเรื่องที่หลายคนเข้าใจดีโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ... อย่าพยายามเสียเวลาอธิบายเลยครับ คุณทักษิณ ... ประเทศชาติจมอยู่กับความคิดของคนพวกนี้มานานเกินไปแล้วครับ ... ผมไม่อยากให้ยุบสภา แต่ดูเหมือนจะเลี่ยงไม่ได้ ... ถ้าช้าดันทุรัง แผลอาจเน่าจนยากเยียวยา ... อย่าเบี่ยงเบนสัจธรรม ... เผชิญหน้ามันอย่างสง่าผ่าเผยดีกว่าครับ ... แม้ไม่อยากเสียเวลาแต่ดูเหมือนมันจะจำเป็นครับ ... SWOT แถมให้ครับ ... อย่าให้จุดอ่อนคือ คุณเป็นนักกลยุทธที่เลือกทางเดินที่ฉลาดแต่บ่อยครั้งมันจะดูเหมือนไม่โปร่งใส ... เอาชนะจุดขายของคุณคือ ความเข้าใจอย่างมีบูรณาการ ความตั้งมั่นที่จะพัฒนาชาติ การกล้าตัดสินใจ ความรวดเร็ว และที่สำคัญสุดคือการนำทฤษฎีไปสู่ภาคปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ... เลือกเดินหมากในที่สว่างก่อน ... ทุกอย่างจะจบลงด้วยดี ... โอกาสของคุณคือการได้กำจัดกลุ่มนักการเมืองรุ่นเก่าออกจากพรรค (ให้โอกาสนักการเมืองรุ่นใหม่ที่มีอุดมการณ์) ... แม้อาจจะมีความเสี่ยงเรื่องความมั่นคงภายในพรรคบ้าง ... ถ้าคุณทำดีจริง ขอให้เชื่อในคุณความดีนั้น ... ความดีจะคุ้มครองคุณ ... เชื่อในเสียงประชาชน ...) แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 49 11:26:32 แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 49 11:13:52 จากคุณ : Winthrop - [ 3 เม.ย. 49 11:12:24 ]

ความคิดเห็นที่ 38 (ขออนุญาติโพสกระทู้ของ justgig ที่โพสเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2549 - ช่วงคุณจำลองประกาศจะเข้าการประท้วงใหญ่ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2549) _____________________________________________________ เมื่อชาติมีภัย (ฉบับ กิเลศหนา...วางไม่ลง...ปลงไม่ตก) ถึง กลุ่มผู้สนับสนุนสนธิ (และจำลอง) กลัวกันเหลือเกินว่าทักษิณจะเป็นซูฮาโต้ เป็นมากอส ... ไม่ต้องกลัว ผีเผด็จการ หลอกหลอนหรอกครับ คุณสนธิ ... ประเทศไทยวันนี้ไม่เหมือนสมัยรุ่นปู่จำลองแล้วครับ ... แค่ทำ Tax planning หน่อยเดียว ... ยังถูกสหบาทาแทบตาย ... ถึงขั้นโกงแผ่นดินขนาดนั้นคนไทยไม่โง่หรอกครับ ... ผมจะเป็นอีกคนที่ไปช่วยไล่ไม่ให้มีแผ่นดินจะอยู่ครับ ... พวกคุณรอให้ประเทศมันแสดงอาการล่มจมให้ชัดกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือครับ (มีไข้สูงหน่อยเดียวพวกก็โวยวายราวกับเป็นมะเร็งจะตายแล้ว จะหามส่งโรงพยาบาลให้ได้) ... ตอนนี้คนส่วนใหญ่เขาสบายดีมีความสุขกับประเทศนี้ ... ตอนนี้พวกคุณจะขี้ช้าง (เอาความเจริญของชาติมาเสี่ยง) ไล่จับตั๊กแตน (เงินทองและครอบครัวคุณทักษิณ) ไปทำไม ... ผมว่าคนรู้มากอย่างคุณทักษิณรู้ดีว่าเกิดมาก็มือเปล่า ตายไปก็มือเปล่า ... จะเหลือไว้ก็เพียงชื่อตราไว้ในแผ่นดิน ... คงไม่อยากสร้างชื่อให้ลูกหลานเล่าถึงคุณทักษิณว่าขาดวิสัยทัศน์ พาคนไปตายหรอกครับ ... คนรวยไปไหนมาไหนนั่งเบนส์ ... เพราะรถช่วงล่างมันดีครับ เขาไม่รู้หรอกครับว่าถนนประเทศนี้มันเฮงซวยแค่ไหน ... หลายท่านมีรถนำขบวนยิ่งไม่รู้ใหญ่ว่าลูกผมมันต้องนั่งรถเมล์ติดวันละหลายชั่วโมงกว่าจะถึงบ้าน ... ประสาทเด็กมันจะเสียขนาดไหน ... ผมไม่มีคอนโดกลางกรุงให้ลูกอยู่อย่างคุณอภิสิทธิ์ครับ ... ให้ผมกินแต่อุดมคติ ... ผมเองก็ไม่ได้โลภอะไร อยู่อย่างพอเพียงอยู่แล้วครับ (จริงๆ ก็แทบจะไม่มีจะกินอยู่แล้วโว้ย อุ้ยขอโทษ) ... ไม่ได้ต้องการรถเบนซ์เหมือนพวกท่านท่านหรอก ... ผมต้องการแค่คนที่ไม่ต้องดีเด่มีจริยธรรมอะไรอย่างคุณทักษิณมาบริหารประเทศ ... อยากให้ประเทศนี้เจริญพอที่จะสร้างสิ่งที่ลูกผมจับต้องได้ในช่วงชีวิตเขา ... ขอแค่มีรถไฟฟ้าที่วิ่งไม่กี่นาทีก็ถึงโรงเรียน ... ลูกผมจะได้มีเวลาเล่น ดูทีวี ดูหนังสือ และพักผ่อนได้เต็มที่อย่างบ้านอื่นเมืองอื่นเขา ... ผมแค่อยู่กับโลกความเป็นจริง ผมก็เลวแล้วหรือครับท่านผู้บรรลุธรรมขั้นสูงทั้งหลาย ... ขอโทษจริงๆ ที่ผมไม่มีปัญญาเรียนรู้เข้าใจโลกชั้นสูงของพวกท่าน ... ผมรู้แค่ถ้าขืนใช้คนดีอย่างพรรค ปชป. ในตอนนี้ ... ผมคิดว่าไม่ใช่แค่ลูกแต่เป็นหลานผมก็คงต้องใช้ถนนผุพังไปอีกหลายปี ... เหลนผมก็คงต้องใช้ชีวิตทารุณอยู่บนท้องถนนหลายชั่วโมงอย่างทุกวันนี้ ... คุณจำลองไม่เดือดร้อนหรอกครับ ... คุณจำลองหนีไปอยู่ป่า ... จะให้ทุกคนไปอยู่ป่าอย่างคุณจำลองหรือครับ ... ผมก็อยากทำ ... แต่ชีวิตคนอีกหลายล้านเขาไม่เก่งอย่างคุณจำลองครับ ... เขาต้องการความช่วยเหลืออย่างเป็นระบบจากภาครัฐ ... ระบบขนส่งที่ทำให้เขาดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างจิตไม่เสื่อม ... ระบบสวัสดิการที่ไม่ทำให้ต้องนอนตายเหมือนหมาข้างถนน ... สิ่งเหล่านี้มันสร้างไม่ได้ครับถ้าประเทศไม่ขยายตัว ... ไม่ปั่นเงินขึ้นมาเหมือนอาระยะประเทศเขาทำกัน ... ไปถามลูกหลานสิงคโปร์หน่อยว่ามันอยากได้คนมีจริยธรรมมาปกครองประเทศมันมั๊ย ... จะได้ใช้ชีวิตลำบากเหมือนคนส่วนใหญ่ในประเทศไทย ... ถ้ามันตอบว่าอยากได้ ... เราจะส่งคุณสนธิ คุณจำลอง และนักการเมืองรุ่นคุณบัญหารคุณเสนาะคุณสุเทพไปช่วยบริหารเพื่อทำลายประเทศมันให้ล้าหลัง ... เขาบอกว่าความเจริญมันเลวร้าย ... เงินทองเป็นของไม่ดี ... แต่พอเดินทางไปอยู่มาหลายประเทศที่มันตั้งหน้าตั้งตาพัฒนาประเทศ ... ปั่นจีดีพีกันสุดฤทธิสุดเดช ... ก็ไม่เห็นว่ามันจะเลวร้ายอย่างท่านผู้รู้หลายท่านในประเทศพยายามจะบอกลูกหลาน ... กลับพบว่าถนนมันก็ดี ... บ้านเมืองมันก็สะอาด ... ป่าไม้ธรรมชาติก็อุดมสมบูรณ์ ... เดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวกสบาย (ไม่ต้องมีรถเบนซ์) ... สังคมก็น่าอยู่ ปลอดภัยแม้ยามค่ำคืน ... ไม่เห็นมี ผีความเจริญ อย่างที่ท่านผู้รู้หลายท่านพยายามจะบอกลูกหลานผมว่ายิ่งเจริญยิ่งเลวร้าย ... คนประเทศเขาก็หน้าตาผ่องใส ดูอายุยืนมาก และสุขภาพจิตก็ดีกว่าคนบ้านเราเยอะ ... อังกฤษยุคไม่เจริญขยะเต็มเมืองแม่น้ำเทมก็เน่าเสีย ... พอเจริญน้ำก็ใสบ้านเมืองก็สะอาดสะอ้าน ... อเมริกายุคไม่เจริญตำรวจโกงกินก็เต็มเมือง อันธพาลก็คุ้มประเทศเหมือนบ้านเราทุกวันนี้ ... พอเจริญขึ้นมาด้วยระบบทุนนิยม ... กลับมองหาตำรวจทุจริตรับสินบนได้ยากเต็มทน ... ผมเบื่อเต็มทีกับผู้ใหญ่ขาดวิสัยทัศน์ในบ้านเรา ... ไม่ต้องพูดถึง พระ ที่ปล่อยวางไม่ลง (แค่นึกในใจนะ ... ไม่รู้เรื่องทางโลกแล้วยัง????อีก ...) ... เด็กมัธยมเด็กมหาลัยไร้เดียงสาขาดประสบการณ์จะหลงยึดติดก็ไม่แปลกใจพอทนได้ ... เหมือนเด็กอยากเที่ยวกลางคืน ... อธิบายไปก็เท่านั้น ... จนกว่าจะเจ็บตัวกลับมานั้นหละ ค่อยมาคุยกัน ... แต่ผู้ใหญ่ไม่รู้นี้ผมกลุ้มใจ ... สงสารก็แต่ประเทศไทย ... ตอนประเทศชาติล้มจม ... เงินต่างจากต่างประเทศที่ไหนก็ยอมรับหมด ... เขาอยากซื้ออะไร ปชป. ก็ไม่แอะสักคำ ... ไปกราบกรานเขามาซื้อประเทศทั้งประเทศ ... ก็ไม่มีใครมา ... ต้องไปขอร้องคุณพ่อ IMF ... ตอนนี้กระแดะออกมาโวยว่าขายบริษัทสื่อสารไปหนึ่งบริษัท ... ปัดโธ่เอ๋ย ... ชาติพวกเราก็เคยขายมาแล้ว ... ตอนนั้นไปอยู่ไหนครับคุณสนธิคุณจำลอง ... เรื่องจริยธรรมมันไปอยู่ไหนหมด พ่อคนดีของแผ่นดิน ... ผมเริ่มเห็นลักษณะเฉพาะของคนที่พูดเรื่องขายสมบัติชาติ ... มีอยู่ 2 ลักษณะคือ ... คนที่รู้ดีว่าไม่ได้เป็นการขายชาติอะไร แต่หวังผลทางการเมืองหรือธุรกิจ ... กลุ่มที่สองคือคนที่โลกแคบ ขาดการศึกษา หรือยังขาดประสบการณ์ เห็นโลกภายนอกไม่มากพอ ... อ้อ ความจริงมีอีกหนึ่งคือ กลุ่มผู้ใหญ่ขี้เหงาขี้น้อยใจ (แถมพวกขี้อิจฉารวมเข้าไปด้วย) ... แม้แต่ประเทศคอมมิวนิสอย่างจีนยังพยายามแปรรูป ... ประเทศประชาธิปไตยอย่างเรากลัวอะไร ... ผมสงสัยว่าถ้าเรามีเงิน เราอยากเอาเงินเราไปซื้อสมบัติของชาติอื่นมั๊ย ... คุณไม่กลัวเขาออกกฎหมายมายึดธุรกิจคุณหรือถ้าคุณไปยุ่งกับความมั่นคงของประเทศเขา ... เหมือนคุณให้คนเช่าห้องแถวทำมาหากิน ... ถ้าเขาทำไม่ดีกับห้องแถวคุณ ... คุณจะทำอะไรก็ได้ ... ถ้าเป็นประเทศ กฎหมายอยู่ในมือเรา ... ออกกฎหมายบังคับอะไรก็ได้ (โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงของชาติ) ... ไม่เห็นต้องวิตกจริตอะไร ... พวกรู้ทำแกล้งโง่หลอกพวกไม่รู้ให้กลัว ... เหมือนผู้ใหญ่หลอกเด็กให้กลัวผี ... ผมเศร้าใจที่เรายังอ้างเหตุผลโง่ๆ ขัดความเจริญของชาติในภาพรวมโดยอาศัยคนชั้นกลางที่ขาดวิสัยทัศน์ ขาดความเข้าใจที่แท้จริง (ผมไม่ว่าคุณขาดการศึกษา หลายคนจบสูง แต่ไม่เข้าใจจริง) และยังเห็นโลกภายนอกมาน้อยเป็นเครื่องมือ ... ผมไม่ได้อวดรู้ว่าผมเดินทางไปอยู่และทำงานต่างประเทศมาหลายประเทศแล้วจะรู้มากกว่าพวกคุณ ... ผมแค่สังเกตุว่าพวกต่อต้านคุณทักษิณมักเป็นพวกอุดมคติ รู้ตัวหนังสือดี จำได้ทุกบรรทัด แต่พอปฏิบัติจริงแล้วก็เศร้าใจ ... พาชาติวนในอ่าง ... ดูแลชีวิตก็งั้นๆ แล้วจะดูแลประเทศชาติกันได้อย่างไร ... ผมคิดว่าหลายคนที่อ้างก็รู้อยู่แก่ใจว่า กรณีอเมริกาเขาไม่ขายบางธุรกิจอย่างยูโนแคลหรือท่าเรือที่เป็นเรื่องในขณะนี้ ก็เป็นเหตุผลที่ธุรกิจเหล่านี้เกี่ยวโยงกับความมั่นคงของชาติสูง ... รู้มั๊ยครับ port ที่อเมริกาไม่อยากขายให้อาหรับนั้น ความจริงก็อยู่ในมือของต่างชาติอยู่แล้ว ... ประเทศอังกฤษ ... เพราะฉะนั้นมันไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องขายให้ต่างชาติหรอกครับ ... มันเป็นเรื่องว่าเราจะคุมมันได้อย่างไร ... ถ้าเรากลัวมากเราก็ออกกฎหมายให้เขาต้องถูกตรวจสอบอย่างหนักหรือให้เขาเปิดเผยข้อมูลในระดับที่ลึกพอที่เราจะควบคุมได้ ... ไม่เห็นยากอะไร ... ถ้าเขาสร้างปัญหากับความมั่นคงของประเทศก็เป็นเหตุให้เราอ้างพอที่จะออกกฎหมายมายึดอำนาจการบริหารธุรกิจนั้นๆคืนมา ... ของกล้วยๆ อย่างนี้คุณอภิสิทธิ์ไม่รู้หรือครับ ... (... เรามีความรู้เรื่องรถน้อย ... แปลว่าเราต้องบอกลูกหลานเราว่ารถมันเป็นของไม่ดี ... เป็นสิ่งชั่วร้าย ... ห้ามใช้รถนะลูก ... เดินเอาดีแล้ว ธรรมชาติ ... ลูกบางคนมันก็ชักสงสัยว่า เอ ลูกบ้านโน้นมันมีรถนั่งไปโรงเรียนสบาย ไม่เห็นมันเป็นอะไร ... ถึงโรงเรียนก็เร็ว ไม่เหนื่อยจนต้องนั่งหลับในห้องเรียนเหมือนเรา ... เรากว่าจะถึงโรงเรียนเดินแทบตาย ... วันไหนฝนตก เท้าก็เปื่อยก็เน่า ... แต่พ่อเราไม่รู้จักรถ และดูเหมือนจะเกลียดรถเป็นชีวิตจิตใจ ... เจอพ่อแม่อย่างนี้เด็กก็ลำบากอีกนาน ...) เรื่องภาษีก็เป็นเรื่อง Tax planning ตามปกติของธุรกิจ ... ประเทศไหนไม่ชอบ ... ก็ออกกฎหมายมาปิดรูเอาไว้ให้รัดกุม ก็เท่านั้นเอง ... ถ้ากฎหมายบอกว่าทำได้ เขาก็ทำกัน ... อยู่ๆ คุณเหม็นหน้าเขา (จะเรื่องอะไรก็เบื่อจะพูดถึง) ... เอาเรื่อง พระราชอำนาจ มาอ้าง ... อ้างไม่ขึ้น ก็เอาเป็นว่า มันขายชาติ .... อ้างไม่ขึ้นอีก ก็ว่ามัน โกงภาษี ก็แล้วกัน ... อ้างไม่ขึ้นอีก เอาเป็นว่ามัน ไม่มีจริยธรรม ก็แล้วกัน (ว่ะ) ... เฮ ในที่สุดก็มีหางเครื่องแล้ว ... ผมว่ามันเป็นตลก ที่ตลกไม่ค่อยจะออก ... จะเอาบรรทัดฐานอะไรมาใช้ในสังคมก็ดูตาม้าตาเรือหน่อยครับ ... สมมติว่าอยู่ๆ ผมเหม็นหน้าคุณอภิสิทธิ์ (ความจริงผมชอบคุณอภิสิทธิ์ และอยากเก็บไว้อีกสักพักใหญ่ๆ เพื่อให้มีบารมีพอ ไม่อยากให้พังหรือมีมลทินเพราะเรื่องโง่ๆ นี้) ... ผมขนคนออกไปตั้งเวทีที่ลานพระบรมรูป ... โว่กเว่ก ว่าคนร่ำรวยอย่างคุณอภิสิทธิ์ไม่ควรหักลดหย่อนภาษี ... การขอหักลดหย่อนถือว่าคุณอภิสิทธิ์ขาดจริยธรรมในการเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองหลักของประเทศอย่างประชาธิปัตย์ ... ออกไป ... ออกไป ... คนชั่วคนเลว ... คุณอภิสิทธิ์จะรู้สึกอย่างไรครับ ... แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 49 11:24:31 จากคุณ : Winthrop - [ 3 เม.ย. 49 11:15:19 ]

ความคิดเห็นที่ 39 (ขออนุญาติโพสกระทู้ของ justgig ที่โพสเมื่อเช้าวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 - ช่วงที่เด็กนักเรียนประกาศจะร่วมเข้ามามีบทบาทในการประท้วง ก่อนจะประกาศยุบสภาในเย็นวันนั้น) _______________________________________________________ เมื่อชาติมีภัย (ฉบับ การเมืองการบริหารประเทศ 101) ถึง น้องๆ นักศึกษาที่จะออกไปเดินบนท้องถนน ผมไม่ได้จะบอกว่าพวกน้องไม่ถูก ... แต่ผมคิดว่าพวกคุณยังมองภาพรวมการดำเนินชีวิตไม่ออก ... หลายคนยังไม่เคยหาเงิน ... ส่วนใหญ่แม้มีคู่ก็ยังไม่เคยแต่งงานและใช้ชีวิตจริงๆ ... ฯลฯ ... ที่น้องเรียนอยู่ก็เพียงเสี้ยวหนึ่งของวิชาการหลายด้าน ... น้องยังไม่เข้าใจการต่อยอดวิชาการเหล่านี้ไปสู่ความเป็นธุรกิจหนึ่งๆ ... ฝ่ายตลาด ฝ่ายผลิต วิศวกรรม ลอจิสติก จัดซื้อจัดจ้าง บัญชี ไอที การเงิน วิจัยพัฒนา การบริหาร ... ไม่ต้องพูดถึงหลายๆ ธุรกิจรวมกัน ... ไม่ต้องพูดถึงหลายๆ อุตสาหกรรมรวมกัน ... และยิ่งไม่ต้องพูดถึงการบริหารประเทศเข้าไปใหญ่ ... ผมจะยกตัวอย่างชีวิตจริงว่า ... การมองภาพรวมหลายๆ ด้านให้ออกนั้นเป็นเรื่องสำคัญต่อการบริหารประเทศ ... คุณชวนเปลี่ยนคุณอภิสิทธิ์ให้นั่งคุมมาหลายกระทรวงก็เพื่อให้คุณอภิสิทธิ์เข้าใจลึกซึ้งเนื้อหาได้ถ่องแท้พอ ... คุณทักษิณเปลี่ยนรัฐมนตรีบางท่านให้ดูหลายกระทรวงก็ด้วยวัตถุประสงค์เดียวกัน ... ประเทศเราต้องเอาตำแหน่งรัฐมนตรีมาฝึกงานนายกกันอยู่ ... เราไม่ได้มีคนที่เข้าใจภาพรวมแล้วมาเป็นรัฐมนตรีนะครับ ... นี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่เราไปไม่ถึงไหน ... เราไม่มีคนที่เข้าใจภาพรวมจริงและไม่มีความเป็นนักบริหารมืออาชีพมาบริหารประเทศ ... แต่น้อง ๆ อย่าไปสับสนกับการที่กลุ่มโน้นกลุ่มนี้เขาขอสลับตำแหน่งรัฐมนตรีกันนะครับ ... ไอ้นั้นมันไร้สาระ ... ไม่ได้เป็นการฝึกงานอะไร ... และก็อย่าได้ไปสับสนกับโรงเรียนผู้นำอะไรโน้นด้วย ... ถ้าสอนด้วยทัศนคติของเจ้าของโรงเรียนอย่างนี้ ... ผมคิดว่าประเทศเรายังต้องเผชิญวิบากกรรมอีกนาน ... ก่อนจะไปเรื่องอื่นขอกลับมาเล่าให้น้องฟังต่อว่าพวกผู้ใหญ่เขาทำอะไรกัน ... บ้านเมืองที่เราไม่เจริญก็เพราะคำคำหนึ่งครับ ... การจัดซื้อจัดจ้าง ... ประเทศนี้หลายคนอยากเข้าไปซุกอยู่ที่ไหนสักแห่งรอบๆงานจัดซื้อจัดจ้าง ... ข้าราชการก็อยากไปซุกนานหน่อย ... หลายคนมีตำแหน่งให้ย้ายเพื่อก้าวหน้า ... ท่านก็ไม่อยากไปไหนหรอกครับ รักงานเสียจริงๆ ... ตัวอย่างก็มีให้เห็นทุกวัน ... ดูเรื่องที่ กทม. ตอนนี้ซิครับ ... ถ้าเป็นรัฐมนตรีหรือผู้ช่วยรัฐมนตรีท่านมาซุกกันได้ไม่นาน เพราะรัฐบาลบ้านเราเปลี่ยนบ่อย ... แต่ท่านรัฐมนตรีเหล่านี้ก็มักขอให้ข้าราชการจัดโครงการอะไรก็ได้ที่มันใหญ่โตพอที่จะกินคำเดียวอิ่มไปทั้งชาติ ... ถ้าอยากรู้ว่าโครงการไหนก็ขอให้ดูว่าโครงการไหนงบมากแต่ทำแล้วมันล้ม (โฮปเวล คลองด่าน ฯลฯ) ... หรือโครงการประเภททำทั่วประเทศแต่ใช้ได้จริงไม่กี่โครงการ ... โครงการประเภทนี้ก็ต้องไปดูแถวกระทรวงเกษตร ... จำพวกสหกรณ์หรือส่งเสริมการเกษตร ... อะไรทำนองนั้น ... โครงการพวกนี้กินคำใหญ่กินนานกินไปได้เรื่อยๆ ... จะเห็นได้ว่ารัฐมนตรีอย่างคุณเนวินคุณสมศักดิ์ทำไมถึงชอบไปวนเวียนและต้องไปเสียน้ำตากันอยู่แถวนั้น ... ผมคิดว่าคุณสุดารัตน์เข้าไปแล้วน่าจะดีขึ้นเยอะ ... (นี้ก็เป็นอีกเครดิตที่ผมคิดว่าคุณทักษิณตั้งใจทำงานให้ชาติ ... ย้ายคนมีเนื้อหาและปัญหาน้อยเข้ามา ... ย้ายคนถ่วงแต่อิทธิพลเยอะออกไปเวียนแทะกระทรวงเล็กกระทรวงน้อยแทน ... ความจริงผมเห็นคุณทักษิณทำได้ดีภายใต้มลภาวะอย่างนี้อีกหลายเรื่อง ... นั้นทำให้ผมเชื่อว่าคุณทักษิณตั้งใจทำงาน ... ส่วนเรื่องพี่น้องอะไรนั้นผมก็คุยไปแล้วในส่วนที่เขียนถึงท่าน ... ประเทศไทยครับ เรื่องอย่างนี้พอเข้าใจท่าน ... แค่เห็นว่าท่านพยายามต่อสู้อยู่ก็โอเคแล้วครับ ... ยิ่งสู้ ท่านก็ยิ่งเพื่อนน้อยเหมือนที่ท่านบ่น ... ไม่ใช่เรื่องกู้ชกกู้ชาติอะไรหรอกครับ ... ออกมาขวางทางทำมาหากินเขามาก เขาก็จะเอาท่านออกให้ได้ ... นี้เป็นอีกตัวชี้วัดหนึ่งที่ผมให้เครดิตว่าท่านพยายามจะเปลี่ยนประเทศนี้ให้ดีขึ้น ...) ... จะเห็นว่าเรื่องงานจัดซื้อจัดจ้างนั้นมีอยู่ในทุกหน่วยงาน ... ถ้าแต่ละกระทรวงมีรัฐมนตรีที่ทุ่มเวลาให้ความสำคัญกับงานจัดซื้อแทนการพัฒนางานของกระทรวง ... น้องคิดว่าประเทศจะไปถึงไหน ... ตัวอย่างที่เด่นชัดแต่พวกเราก็ได้แค่ทำตาปริบๆ ยอมรับสภาพกันอีกแห่งคือ กระทรวงคมนาคม ... สักเกตง่ายๆ ก็ลองดูผลงานของเขาซิครับ ... ทางหลวงผุผัง รสพ. ขสมก. บขส. อะไรทำนองนี้วนเวียนอยู่แถวนี้หมด ... แต่หันมองภาพรวมระบบลอจิสติกของประเทศซิ ... พวกเรายังต้องใช้สิบล้อขนสินค้ากันอยู่ทั่วประเทศ ... ในขณะที่ชาวบ้านเขาใช้ระบบรางกันหมดแล้ว ... ทำให้เปลื่องน้ำมัน ... ถนนที่สร้างไม่ได้มาตรฐานจากฝีมือการตรวจรับงานของเขาเอง ... ก็ยิ่งผุพังเร็ว ทำให้เขามีโอกาสตั้งงบกลับไปซ่อมได้ทุกปีไม่มีจบสิ้น (ทำชั่วได้ดีมีถมไป) ... เป็นวัฎจักรที่ใครต่อใครก็อยากไปเสพสุขใช่มั๊ยครับ ... หน่วยงานพวกนี้ ยังจะทำให้น้องสังเกตพรรคการเมืองได้ด้วยว่ามีเจตนาจะทำเพื่อประเทศชาติเพื่อประชาชนอย่างปากเขาว่าหรือเปล่า ... น้องสังเกตหรือเปล่าครับ จะเปลี่ยนหน้านายกไปกี่คนแต่ พรรคชาติไทย ก็ยังวนเวียนอยู่แถว รสพ. ขสมก. บขส. ... อะไรทำนองนี้ ... ถ้า ปชป. มา ... สุเทพก็จะมาวนเวียนอยู่แถวนี้ ... เขาบอกว่ามันเป็นความชำนาญเฉพาะด้านของเขา ... อะไรทำนองนั้น ... ท้ายที่สุด ... แม้ไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญ ... แต่บางพรรคก็มักยอมเสียบเพื่อชาติ ... คือพรรคไหนจะได้เป็นนายกก็ไม่ว่า แต่ขอผมเป็นรัฐบาลด้วยก็แล้วกัน ... อันนี้น้องอาจสงสัยว่าทำไมการได้เข้าไปนั่งในครม. มันถึงสำคัญนัก อันนี้ขออธิบายอย่างเป็น วิทยาศาสตร์ ได้ว่า ... มันก็เกี่ยวกับ งานจัดซื้อ อีกจนได้ ... เขาอยากไปนั่งฟังว่ามันจะมีโครงการไปเกิดที่ไหนในอนาคต ... เพราะ ครม. มักพิจารณาเรื่องในอนาคต ทำให้มันมีช่องว่างของเวลาพอที่เขาจะไปทำการจัดซื้อที่ดินไว้ล่วงหน้า ... เมื่อถนนตัดผ่านที่ดินเขาซื้อ หรือ ซื้อที่ดินไว้ขายให้หน่วยงานรัฐเพื่อปลูกสร้างโครงการ ... ทำกำไรงาม ความเสี่ยงต่ำ ใช่มั๊ยครับ ... การเข้าไปนั่งใน ครม. นั้นมีความสำคัญต่อเรื่องความเสี่ยง ... เขาต้องการได้เห็นกับตาได้ยินกับหูว่าโครงการมันเกิดแน่นอนขนาดไหน ... เพราะถ้าไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเปลี่ยนรัฐบาลอาจยกเลิกโครงการ ... เขาอาจขาดทุนได้ ... ฉะนั้นใครจะเป็นนายกฉันไม่ว่าขอเสียบเพื่อชาติ ...(แบบว่าถ้าตัวเองไม่ได้เป็น รมต. ขอให้เมียนั่งแทนก็ยอม อะไรทำนองนั้น ... เมียไม่ได้นั่งก็ส่งน้องชายไปแทน น้องชายไม่ได้ ก็ขอเป็นลูกชายลูกสาว หรือพี่เมียน้องเมียก็เอา ... อะไรจะรักชาติกันได้ขนาดนั้น ...) ... เห็นมั๊ยในที่สุดมันก็ย้อนกลับมาที่งานจัดซื้ออีกจนได้ ... ท้ายที่สุด ... ถ้าการออกไปเดินวันที่ 26 นี้ทำให้คุณทักษิณได้จากไปสำเร็จ ... น้องจะได้อาจารย์เก่งๆ ระดับอาจารย์ด้านงบประมาณ อย่างคุณบรรหาร คุณสุเทพ คุณเสนาะ คุณวัฒนา ฯลฯ ... เข้ามาสอนและแสดงตัวอย่างจริงให้น้องได้เรียนรู้กันอีกหลายปี ... จบการบรรยายครับ ... (ปล. ...ต้องขอโทษ ... ผมบรรยายเป็นข้อๆ ไม่เป็น ... ไม่ชอบเอาตำราหรือกฎหมายมาอ้าง ... เพราะผมเป็นอาจารย์หัวโบราณที่ชอบบ่นไปวันๆ สอนไม่มีสาระอะไร ... ฟังแล้วก็ขอให้ปล่อยวาง ... จะชอบหรือไม่ ... เราต่างต้องการให้ประเทศชาติไปสู่จุดหมายเดียวกัน ... แม้เราจะเลือกเดินคนละทาง ... แต่หวังว่าจะเข้าใจว่าผมใช้หัวใจพูด ... ไม่ใช่หลักการหรือจริยธรรมอะไร ... มีแค่ความจริงใจ ก็เท่านั้น ... ก็หวังว่าจะช่วยน้องๆ บางส่วนได้ทันเวลา...) แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 49 11:27:24 แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 49 11:20:36 จากคุณ : Winthrop - [ 3 เม.ย. 49 11:18:17 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เขียนได้ดีครับ ผมอ่านแล้วขนลุก และขอชื่นชม ผมเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ทำให้เข้าใจสิ่งที่ทักษิณกำลังทำ แต่ข้อเสียคือ คนไทยขาดความรู้ และมีวิสัยทัศน์สั้น สิ่งที่เป็นปัญหาคือ  คนไทยตามไม่ทัน และไม่เข้าใจว่าทักษิณจะทำอะไร ทักษิณ ต้องให้ความรู้ อธิบายให้มากกว่านี้ ถ้ามัวรอให้เห็นผลงาน มันนานเกินไป ช่วงที่รอ คนก็หงุดหงิด เหมือนการทำเซอไพซ์แฟน ช่วงที่รออาจทะเลาะกันได้  หรือ เช่น..ถ้าสี่แยกแถวบ้านเรา ปิดถนนก่อสร้าง รถติดวุ่นวายไปหมด ....เราก็เริ่มหงุดหงิด เพราะเราไม่เข้าใจว่าเขาทำอะไรกัน  คงมีคนด่าว่าไปไม่น้อย ผ่านไป 1ปี มีอุโมงค์ทางลอด ดูดีเชียว รถลาวิ่งฉิว ทุกคนเริ่มกลับมาคิดว่า ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าจะเป็นอย่างนี้ ก็คงไม่ด่าว่า คงจะอดทนให้มากกว่านี้ ....ในเหตุการณ์เดียวกัน ถ้ามีป้ายตัวโตๆมาติดไว้ ว่ากำลังจะทำอะไร มีภาพประกอบชัดเจน คนเห็นก็รู้สึกว่ายอมรับได้ และจะอดทนรอดูความสวยงามนั้น .....จุดอ่อนของทักษิณคือ ขาดการให้ข้อมูลครับ เพราะท่าน คิดแต่จะทำงาน รอให้คนดูผลงาน ....แต่ลืมไปว่า ผลงานภาพรวม ไม่ได้ใช้เวลาแค่ ปีสองปี คนรอไม่ไหวครับ .....ช่วงที่ท่านกำลังต่อจิ๊กซออยู่  คนดูบางคนก็รอลุ้น คนดูบางคนก็เริ่มหงุดหงิด ฝ่ายตรงข้ามก็พอจะมองเกมม์ออก ถ้าจิ๊กซอต่อเสร็จ คงดีไม่น้อย  ล้มกระดานซะตอนนี้เลยดีกว่า จากคุณ : tongjuly - [ 3 เม.ย. 49 11:18:45 ]

ความคิดเห็นที่ 41 (ขออนุญาติโพสกระทู้ของ justgig ที่โพสเเมื่อเมื่อ 28 มีนาคม 2549 - หลังคุณอภิสิทธิ์พูดใน รายการถึงลูกถึงคน คืนวันที่ 27 ว่าจะไม่ยอมรับการเลือกตั้ง) ________________________________________ เมื่อชาติมีภัย (ฉบับ งานเลี้ยงย่อมมีวันต้องเลิกลา) ถึง คุณอภิสิทธิ์ ผมเคยเขียนเตือนคุณอภิสิทธิ์ไปใน ... เมื่อชาติมีภัย (ฉบับ กิเลศหนา...วางไม่ลง...ปลงไม่ตก) ... เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2549 ก่อนมีการยุบสภาแล้วว่า ... ความจริงผมชอบคุณอภิสิทธิ์ และอยากเก็บไว้อีกสักพักใหญ่ๆ เพื่อให้มีบารมีพอ ไม่อยากให้พังหรือมีมลทินเพราะเรื่องโง่ๆ นี้ ... วันนั้นผมไม่รู้จริงๆ ว่าคุณจะผ่านวันเสาร์อาทิตย์หลังยุบสภาไปในรูปแบบใด ... จะดูธาตุแท้ของคนว่ามัน เป็นเหล็ก หรือ เป็นเพชร ... บางทีก็ต้องรอดูตอนที่มันโดนไฟ ... ผลก็คือคนที่โดนทำลายจากเหตุการณ์นี้กลับไม่ใช่ คุณทักษิณ ... เพราะมลทินนี้จะติดตัว คุณอภิสิทธิ์ ไปชั่วชีวิต ... คนยุคที่ ทหารยังยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเต็มตัว จะเดินหนีการเลือกตั้งนั้นพอจะเข้าใจได้ ... แต่นี้มันปี 2549 ... ประเทศเดินมาไกล ... แม้แต่ทหารยังไม่คิดจะทำให้ประเทศต้องถอยหลัง ... ทำไมนักการเมืองสายพันธุ์แท้ถึงผ่านเรื่องตื้นๆ ไปไม่ได้ ... ทำไมนักการเมืองที่เรียกตัวเองว่าสายเลือดใหม่ ... ถึงเสียสละผลประโยชน์ของตนให้กับผลประโยชน์ของพรรคไม่ได้ ... และเสียสละผลประโยชน์ของพรรคให้กับผลประโยชน์ของประเทศไม่ได้ ... ต้นปี ประเทศอยู่ในภาวะส่ายไปส่ายมาทำท่าจะตกรางอย่างทุกวันนี้หรือเปล่าครับ ... และถ้ามันเกิดขึ้น ... คุณอภิสิทธิ์ จะกล้ายอมรับมั๊ยครับว่า มันเป็น judgement ที่ผิดพลาดของพวกคุณ ... ผมเดาว่าพวกคุณคงพูดเป็นแผ่นเสียงตกร่องว่า เพราะมันไม่ลาออก ... คุณอภิสิทธิ์ครับ เขาออกไปตั้งนานแล้ว ... ออกไปจนจะกลับเข้ามาใหม่แล้ว ... ตื่นเสียที ... คุณจะนำประเทศนี้ได้อย่างไร ... ในเมื่อเรื่องเล็กๆ คุณยังนำประเทศออกอย่างสันติไม่ได้ ... หากได้เป็นนายกฯ ต้องเจอวิกฤติที่แท้จริง คุณจะไม่พาประเทศนี้ลงเหวลึกหรอกหรือครับ ... หลังวันที่ 2 เมษายน ... ไม่ว่าการเลือกตั้งจะมีปัญหาอะไร ... ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรถ้าพวกเรายังต้องการสันติ ... แต่ถ้าเราไม่ต้องการกันมัน แม้การเลือกตั้งจะออกมาเรียบร้อยเพียงไร เราก็คงหนี กฎแห่งกรรม ไม่พ้น ... ผมคงไม่เตือนพันธมิตรฯ อีกต่อไป ... พระพุทธองค์แบ่งคนออกเป็นกลุ่ม ... ผมคงไม่ฝืนสัจธรรมนั้น ... เวลาได้พิสูจน์คนบางคนไปแล้ว ... ผมหวังว่า ปชป วันนี้จะไม่นั่งปั้นคนปั้นเกมการเมืองสร้างเหตุการณ์ออกมาทำให้บ้านเมืองมันวุ่นวายหนักในอาทิตย์หน้า ... เลือกแนวทางใหม่เถิดครับ ... ประเทศอยู่กับเกมโง่ๆ พวกนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ... ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองท่านก็ได้ทำหน้าที่ของท่านอย่างดีที่สุดแล้วเพื่อรักษาชีวิตคน ... และรักษาความสง่างามของระบบ ... แต่ งานเลี้ยงย่อมมีวันต้องเลิกลา ครับ ... ผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือสิ่งอื่นใด ... ระดับ คุณอภิสิทธิ์ ยังดูไม่ออกหรือครับ ... หรือฝันว่ามันจะออกมาสดสวยงดงามสำหรับ ปชป ... ผมเคยตราหน้าไว้แล้วว่า พรรคการเมืองรุ่นเก่า จะปรับตัวไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงของระบบที่พวกคุณเองเป็นคนสร้างขึ้นมา ... เหมือนคนรุ่นพ่อที่สร้างธุรกิจ สุดท้ายก็ต้องเดินหลีกทางให้คนรุ่นลูกเป็นผู้สานต่อ เพราะนิสัยความคุ้นชินของตนไม่เหมาะกับองค์กรที่มันเจริญเติบโตเปลี่ยนแปลงไป ... ฉันใดก็ฉันนั้น เหตุการณ์นี้ได้พิสูจน์สัจธรรมนี้แล้ว ... สื่อ นักวิชาการ ฯลฯ ...   ก่อน ยุบสภา ผมเคยเรียกร้องให้คุณทักษิณยุบสภาเพื่อหวังชะลอความรุนแรงออกไป ... เพื่อให้ประเทศมีเวลาตั้งสติ ... ถ้าวันนั้นคุณทักษิณมีอัตตา ... ผลกรรมก็คงตกแก่คุณทักษิณเอง ... วันนี้ผมก็ได้แต่ขอให้ พระสยามเทวาธิราช ได้ดลใจ คุณอภิสิทธิ์ ให้พาประเทศนี้เข้าสู่แนวทางสันติ ... เพื่อประเทศชาติมีด้วยหรือครับคำว่า สายเกินไป ... ผมคิดว่าคุณทักษิณได้ถอยจนหมดทางถอยให้พวกคุณแล้ว ... และแม้แต่การตรวจสอบผมก็คิดว่าคุณทักษิณก็คงยอมรับได้ ... เพียงแต่ไม่ใช่ตอนนี้ และไม่ใช่สถานการณ์อย่างนี้ แน่นอน ... โครงสร้างอำนาจของประเทศไม่ใช่ของเล่น ... นึกจะเอาคนแสนสองแสนมาเปลี่ยนแบบข้ามวันข้ามคืน ... กลุ่มสนับสนุนเขาก็มี และพร้อมจะทำสงครามกับคุณทุกรูปแบบทุกเมื่อ ... ประเทศจะเสียมากกว่าได้ ... ผมเห็นว่ายังไม่สายที่ คุณอภิสิทธิ์ จะแก้ตัวอย่างกล้าหาญสง่างาม ... ไม่ยึดติด ... ผมคิดว่า คุณทักษิณ ได้ทำหลายอย่างที่ คุณทักษิณ ไม่อยากทำ ... แต่ คุณทักษิณ ก็ได้ทำมันอย่างสง่างาม ... ถ้า คุณอภิสิทธิ์ ยังอัตตาเล่นแต่เกมการเมือง ... อ่านซับอ่านซ้อน ... อย่าให้ต้องเกิด 2 มลทินในเหตุการณ์เดียวเลยครับ ... เมื่อคุณทักษิณกลืนน้ำลายตัวเองเพื่อชาติได้ ... คุณอภิสิทธิ์ จะควรแสดงความกล้าหาญเช่นเดียวกัน ... หักมุมประเทศและจบเรื่องนี้อย่างสันติวิธีเร็วที่สุด ... อย่าสร้างภาพความเป็นนักประชาธิปไตยแค่ภายในพรรค ... หรือแค่กับพรรคฝ่ายค้าน ... วันนี้ประเทศต้องการความเป็น leadership จากคุณ ... ขอให้แสดงความเป็นนักประชาธิปไตยให้คนทั้งประเทศได้เห็น ... ป๋าก็ได้เปิดทางให้คนทุกฝ่ายเดินเข้าคูหาได้แล้วอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจแล้ว ... ขอให้คุณอภิสิทธิ์ได้แสดงความกล้าหาญทางจิตใจที่น่ายกย่องสมกับการจะเป็นผู้นำของประเทศในอนาคต ... การรักษาชีวิตคนไม่ควรมีเงื่อนไข ... ไม่มีสายเกินไป ... ถ้ามันเกิดขึ้น ผมไม่คิดว่า คุณอภิสิทธิ์ จะบอกว่า ผมไม่เกี่ยวได้อีกต่อไป ... ในฐานะหัวหน้าพรรค มันเป็นความรับผิดชอบของคุณเต็มๆ ... หาความเป็นผู้นำให้เจอ ไม่ต้องหันไปมองใคร ... มันเป็นโอกาสที่สง่างามที่จะกลับออกมาจากบ่วงกรรม ... แสดงให้โลกได้เห็นว่า เมืองไทยมีหัวหน้าพรรคการเมืองคู่แข่งที่สง่างามพอๆ กัน 2 พรรค ... ที่พร้อมจะต่อสู้กันอย่างสง่างามอดทนในระบบ ... ให้ทุกอย่างเดินไปตามครรลองของกติกา ... เมื่อ ทรท พร้อมจะเดินตามครรลอง ... ถ้า ปชป เลือกวิธีนอกครรลอง เขาก็รอคุณอยู่ ... อย่าทำให้มือของคุณต้องเปื้อนเลือดเลยครับ คุณอภิสิทธิ์ ... และถ้ามันเกิดขึ้น ผมไม่คิดว่าคุณจะยังอยู่ในวงการเมืองของประเทศนี้ได้อีกต่อไป ... ประชาชนต้องการให้เรื่องนี้จบ ... ไม่ว่าจะจบอย่างไร ... และมันก็จะจบเร็วกว่าที่หลายคนคิดมาก ... คุณอภิสิทธิ์ครับ คุณจะมีส่วนเขียนตอนจบของเรื่องให้งดงาม ... ให้สมกับเป็นปีอะไรคุณก็ทราบ ... ป๋าบอกไว้แล้วว่าขอให้ทุกฝ่ายคิด ... และทำให้ได้ ... คุณทำได้มั๊ยครับ คุณอภิสิทธิ์ ... แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 49 11:33:12 แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 49 11:29:44 จากคุณ : Winthrop - [ 3 เม.ย. 49 11:23:46 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เขียนได้ดีครับ จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 3 เม.ย. 49 11:47:05 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อีกเรื่องที่สอนให้รู้ว่า ปัจจุบันเหล่าอธรรมชนะธรรมะอีกครั้ง เศร้าใจเมืองไทย จากคุณ : ยิ่งยง (thaimanu) - [ 3 เม.ย. 49 14:05:34 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เขียนเล่าได้ดีครับ  แต่เพราะคุณมองคนไม่ออกหรือมองคนในแง่ดีเกินไป  เรื่องราวบ้านเมืองมันจึงถล่ำลึกลงเหวมา 5 ปีโดยที่เราไม่รู้ตัว....แต่ก็ไม่แปลกครับที่คนจะถูกหรอกเยอะ เพราะคนเราชอบคนพูดเพราะ  มาดดี แต่ไม่มองลึกลงไปถึงการกระทำและเนื่อหา...น่าเศร้าครับ จากคุณ : pupan - [ 3 เม.ย. 49 14:36:20 ]

ความคิดเห็นที่ 45 #44 เขาเขียนลึกขนาดนี้ ผมยังไม่ค่อยเจอคนมองได้ขนาดนี้ในเมืองไทย แม้แต่ระดับอาจารย์มหาลัย คุณยังคิดว่าเขามองคนไม่ออกอีกหรือ ผมว่าน่าจะเป็นคุณเสียมากกว่านะ จากคุณ : Winthrop - [ 3 เม.ย. 49 14:42:00 ]

ความคิดเห็นที่ 46 สิ่งที่ผมกำลังมองว่าประชาชนยังไว้ใจทักษิณหรือไม่ ผมมองที่คะแนนที่ผู้สมัครได้รับครั้งนี้ เปรียบเทียบกับคะแนนการเลือกตั้งครั้งที่แล้วที่มีคู่แข่งร่วมลงสนามด้วยครับ คะแนนในช่องไม่ออกเสียง ผมมองเป็นเรื่องรองลงมาในการตัดสินครับ การที่มีสื่อช่องหนึ่งพยายามจะบอกคนดูว่า "การที่มีผู้ลงคะแนนไม่ออกเสียงมากมาย หมายถึงการไม่ไว้วางใจนายก  ถึงแม้ว่าคะแนนผู้สมัครจะมากเกิน20%ของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงก็ตาม แต่ผู้สมัครก็น่าจะรู้ตัวว่าคะแนนที่ได้น้อยกว่าคะแนนไม่ออกเสียง" ดูเอาเถอะครับ พยายามจะเบี่ยงอีกแล้ว ไม่มีการวิเคราะห์คะแนนกับการไม่มีคู่แข่ง ไม่มีการนำคะแนนการเลือกตั้งครั้งที่แล้วมาเปรียบเทียบ อยากให้ลองคิดดูครับ นี่คือความคิดเห็นส่วนบุคคล กรุณาอย่าเอาไปเป็นบรรทัดฐานทางความคิด จากคุณ : รักพ่อ อย่าทะเลาะกัน - [ 3 เม.ย. 49 14:44:42 ]

ความคิดเห็นที่ 47 คุณ Winthrop จะโพสซ้ำเตะตัดขาอะไรนักหนาครับ จากคุณ : YJ - [ 3 เม.ย. 49 15:08:16 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เข้ามาชมค่ะ ตามงานเขียนของคุณjustgig อยู่ เขียนได้ดีมาก ตรงใจค่ะ จากคุณ : korata - [ 3 เม.ย. 49 15:31:44 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เขียนตรงใจค่ะ จากคุณ : Moby_p - [ 3 เม.ย. 49 16:38:25 ]

ความคิดเห็นที่ 50 I agreed. People who work in Electric works get high salary and bonus many month also free electric usage. Too good benefit make electric company have no money to develope the plantation. Sorry no Thai font here. จากคุณ : Cherry (Yishun) - [ 3 เม.ย. 49 16:47:08 ]

ความคิดเห็นที่ 51 บางครั้งทำไมความคิดเห็นที่ดีๆ   ใช้ได้กับคนบางกลุ่มเท่านั้นเองที่ยอมรับฟังและคิด    น่าเสียดาย..ครับ  ผมได้อ่านแล้ว.....อยากให้คนที่ไม่ต้องการอ่าน..รองอ่านครับ....จะได้คิดในสิ่งดีๆมากขึ้น จากคุณ : Mr.Jee - [ 3 เม.ย. 49 17:14:20 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ถ้าผมมีกำลังมากกว่านี้ .. ผมจะพิมพ์ข้อความ บทวิเคราะห์ของท่านทั้งหมดนี้ แจกจ่ายให้กับประชาชนทั่วไปได้อ่านบ้าง  .. ตอนนี้ทำได้ก็แค่ส่งเมล์ไปให้กับเพื่อนฝูง  แล้วก็นั่งคิดว่า ทำยังไงจะได้ส่งให้กับพวกที่กำลังตกอยู่ในวงล้อมความคิดของเหล่าพันธมิตร ได้อ่าน และวิเคราะห์ดูบ้าง  เพราะวัน ๆ คนเหล่านั้นเฝ้าแต่หน้าจด ASTV อ่าน นสพ.ผู้จัดการ จากคุณ : สามทับหนึ่ง - [ 3 เม.ย. 49 17:18:35 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เขียนดี.. จากคุณ : ก้อนหินสีชมพู - [ 3 เม.ย. 49 17:39:38 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อยากให้ขึ้นกระทู้แนะนำจัง จากคุณ : HaHaHa - [ 3 เม.ย. 49 17:41:56 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ฟังรายการเกี่ยวกับตลาดทุน ได้ยินนักวิเคราะห์ด้านการเงินมาให้ความเห็นว่า ช่วงก่อนหน้านี้ ประเทศมีเงินไหลเข้าเป็นหมื่นๆ ล้าน ช่วง ม.ค ก.พ แต่พอเข้ามี.ค มีแต่เงินไหลออก เชื่อว่า ประเทศไทยคงเหมือนคนง่อยเปลี้ยเสียขา ไม่มีสิทธิ์ลงแข่งวิ่งกับประเทศอื่นๆ คงได้แต่มองตาปริบๆ ดูประเทศเพื่อนบ้านเช่น เวียดนาม เขาไปถึงไหนๆ แล้ว จากคุณ : Boon-Kwang - [ 3 เม.ย. 49 17:43:32 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอ คาราวะ จากคุณ : โต้มอญ - [ 3 เม.ย. 49 17:50:41 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ขอคาราวะ พวกทุนนิยม เต็มขั้น จากคุณ : Love is Blue - [ 3 เม.ย. 49 17:59:30 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เวียดนามมีแผนขายรัฐวิสาหกิจหมดเลยไหม? จะแข่งกับต่างชาติได้ ไทยต้องขายรัฐวิสาหกิจให้เขาหมดเลยหรือไง? การอ้างการศึกษาและข้อคิดเห็นของนักวิชาการต่างชาติ ต้องทำตามทุกอย่างเลยหรือไง? ต้นเหตุการสิ้นชาติ ไม่ใช่เพราะต่างชาติหรอก คนไทยทำเอง จากคุณ : em ok - [ 3 เม.ย. 49 18:00:39 ]

ความคิดเห็นที่ 60 "มาแย่งกัน แพ้เพื่อชนะ"    ชอบมากครับ ขอแสดงความนับถือ จากคุณ : บางโตนด - [ 3 เม.ย. 49 18:13:23 ]

ความคิดเห็นที่ 61 โหวตๆๆๆๆๆ ถึงๆ ทุกๆ กระทู้ และทุกความเห็น กรุณาอย่าเรียกว่า ปกครองประเทศครับ นายกมีหน้าที่บริหารประเทศ ปกครองประเทศใช้ได้กับในหลวงพระองค์เดียวครับ แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 49 18:40:15 จากคุณ : นิราศภูมิเรียง - [ 3 เม.ย. 49 18:34:14 ]

ความคิดเห็นที่ 62 อ่านไปอ่านมาพวกลิ่วล้อทักษิณก็ตะแบงเหมือนเดิม จากคุณ : certis (certis) - [ 3 เม.ย. 49 18:44:46 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณ จขกท  คุณ  Jaisamarn....ที่ให้กำลังใจคนทำงานให้มีกำลังใจอยู่ได้ ...ขอบคุณจริงๆ ค่ะ จากคุณ : แก้วเปล่า? - [ 3 เม.ย. 49 19:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 64 คห 59 ครับ ผมไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับการแปรรูปนะครับ... แต่ที่ไม่เห็นด้วยก็คือวิธีการของการแปรรูปครับ... รัฐบาลพรรคไทยรักไทยยึดติดกับวิธีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่ทำเงินเพียงแค่รูปแบบเดียวคือการกระจายหุ้น.... จริง ๆ แล้ว... คนที่ค้านหลายคนเขาก็มีเหตุมีผลที่ลึกซึ้งเช่นกันครับ... ในเรื่องของสภาพความเป็นเจ้าของ ... และ การ Maximize กำไรจากบริการสาธารณะ (Public Service) (หมายความว่าถ้าคุณเอาเงินคนอื่นเขาเข้ามาเป็นเจ้าของร่วม คุณก็คงไม่สามารถดำรงนโยบายการให้บริการสาธารณะ เพื่อประโยชน์ของสาธารณะเป็นอันดับหนึ่ง (First Priority) เอาไว้ได้ครับ เพราะว่ามันไม่แฟร์กับเจ้าของเงิน) ผมคิดว่าการดำรงประโยชน์ของสาธารณะเป็นอันดับหนึ่งนั้นมีนัยสำคัญในหลายมุมมากกว่าแค่การอุ้มคน  หรือ อุ้มค่าไฟด้วย ถ้าเราไม่ดำรงประโยชน์ของสาธารณะเป็นอันดับหนึ่ง แต่เลือกที่จะ Maximize Profit วันหนึ่งข้างหน้าเราอาจจะเห็นว่าโครงสร้างค่าไฟฟ้าของภาคครัวเรือนอาจจะสูงกว่าภาคอุตสาหกรรมก็เป็นไปได้เนื่องจากว่า จากการวิเคราะห์ทางการตลาดแล้วพบว่าเป็นแนวทางที่จะทำให้ได้กำไรมากที่สุด (แค่ยกตัวอย่าง) ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้จริงจะเห็นได้ชัดเจนว่าฝ่ายที่เป็นผู้เสียเปรียบคือ สังคมส่วนรวม ทั้งหมด และจะมีคนได้ประโยชน์มากกว่าสังคมส่วนรวมอยู่ส่วนหนึ่ง เพราะเป็นผู้ถือหุ้น เป็นการได้ประโยชน์จากการแย่งชิงโอกาสของคนในสังคม (เพราะทุกคนในสังคมเป็นผู้ใช้ไฟฟ้า แต่ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นผู้มีเงินเก็บที่สามารถนำไปลงทุนซื้อหุ้นได้) นอกจากนี้ ... วิธีการแปรรูปโดยการกระจายหุ้นแบบนี้ยังมีความเสี่ยงอีก หลายประเด็น เช่น - ความเที่ยงธรรมเหมาะสมของการประเมินราคา IPO  (ค่อนข้างไม่แฟร์กับประชาชนทั้งประเทศที่จะต้องเอามูลค่าสินทรัพย์ของคนทั้งชาติไปฝากไว้กับนักวิเคราะห์ ซึ่งไม่รู้ว่าเก่ง หรือไม่เก่ง และไม่มั่นใจว่าจะไม่โกงอีกต่างหาก...) - สภาวะของตลาดหุ้นโดยรวม ซึ่งมีผลต่อราคา IPO (ค่อนข้างไม่แฟร์กับประชาชนทั้งประเทศที่จะต้องเอาฝากชีวิตเอาไว้กับกลุ่มนักวิเคราะห์ที่จะตัดสินใจในจังหวะของการนำหุ้นเข้าไปกระจายในตลาดอย่างเหมาะสมและมียุทธศาสตร์ ซึ่งไม่รู้นักวิเคราะห์พวกนี้ว่าเก่ง หรือไม่เก่ง และไม่มั่นใจว่าจะไม่โกงอีกต่างหาก...เหมือนกัน) - ความเที่ยงธรรมของการกระจายหุ้น (ไม่มั่นใจว่าหุ้นกลุ่มที่มีการขายโควต้าเป็นล๊อตใหญ่ให้กับต่างประเทศจะไม่มีใครเป็น  Nominee ของใครบางคน) ผมว่านี่คือความลึกซึ้งของกลุ่มคนที่ออกมาคัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ (ถ้าเปิดใจรับฟัง) สรุปว่าคนที่ศรัทธาคุณทักษิณ ก็ควรเปิดใจมองและรับฟังเหตุผลของคนที่ค้านคุณทักษิณบ้าง เพราะเขาก็มีความคิดความอ่านเช่นกันครับ... ปล. ข้อเสียของคุณทักษิณที่สำคัญอีกประการก็คือการใช้วิธีการ Discredit ทุกคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างจากสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำ คุณทักษิณทำอย่างนี้กับทุกคน ... พยายามสร้างภาพให้คนอื่นเข้าใจว่า พวกที่ออกมาค้านเป็นพวกถ่วงความเจริญ... ครับ จากคุณ : go-getter - [ 3 เม.ย. 49 19:11:26 ]

ความคิดเห็นที่ 65 โหวตค่ะ จากคุณ : punpun22 - [ 3 เม.ย. 49 19:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 66 โหวตค่ะ ขอยืนยันว่าไม่ได้รับตังค์จากใครทั้งสิ้น! ตอนนี้ยังทำงานอยู่เลย (เลิกงาน 5.30 น.) เลยพอจะเข้าใจว่า คนที่เสียผลประโยชน์และคนที่ต้องทำงานหนักขึ้นเพราะเปลี่ยนผู้นำเนี่ย...จะเกลียดผู้นำใหม่ ที่ทำให้ตัวเองต้องทำงานหนักขึ้นแบบฝังรากลึก เพราะที่ทำงาน (เป็นเอกชน...แต่เงินเดือนน้อยมาก หากเทียบกับว่าเป็นบ.เอกชน) มีพนักงานแบบนี้จำนวนมาก ทำให้หากำไรแทบไม่ได้   พอมีคนเก่ง(ในการบริหาร) เป็นฝรั่งวัย 67 ปี มาบริหาร ก้อมีการจัดการ(เรียกง่ายๆว่า ไล่ออก และบีบออก) กับพนักงานเก่ามากมาย และมีการลดเงินเดือนพนักงานเก่าที่ไม่มีประสิทธิภาพ (ดิฉันเป็นพนักงานใหม่ ทำงานได้ยังไม่ถึง 6 เดือน) ก็เลยทำให้โดนเกลียด...แต่ฐานะการเงินและการบริหารดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ...เฮ้อ คล้ายๆ กับสถานการปัจจุบันเลย ขอสนับสนุนข้อความ 5 , 6, 7, 8 และ 40 และข้อความของคุณ Rockhill ....ตั้งหมดตรงกับใจดิฉันอย่างยิ่งค่ะ ไม่เคยทำงานจริงจัง จากคุณ : Rainbow Obsidian - [ 3 เม.ย. 49 19:30:26 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เรื่องการแปรรูป คำว่าแปรรูปคือการปรับเปลี่ยนรูปแบบครับ ผมยินดีกับการ แปรรูป เพื่อการบริหารที่ดีขึ้น ซึ่งการแปรรูปเพื่อการบริหารที่ดีขึ้น สามารถทำได้ด้วยผู้บริหารที่มีความสามารถและคุณธรรมครับ การแปรรูปไม่ใช่การนำ ไปขายนะครับกรุณา ทำความเข้าใจด้วย  ขณะนี้ทักสิน กำลังนำ การไฟฟ้าไปขายนะครับ ขาย ปตท ก็ขาย คุณ ปรับไปสิระบบการทำงานบีบออกไล่ออก คุณทำได้แต่คุณไม่ทำ อ้างอะไร หรือจะรอขายอย่างเดียวเลย จากคุณ : WindMaster - [ 3 เม.ย. 49 20:34:49 ]

ความคิดเห็นที่ 68 #44 ครับ หรือคุณอยากให้คนมองโลกในแง่ร้ายมากกว่าแง่ดีล่ะครับ ถ้าคุณคิดว่าตอนนี้ตกต่ำมา 5 ปี งั้นลองย้อนไปดูตอนสมัย ปชป. ปกครองนะครับว่า ถลำลึกหรือขึ้นสูงกว่านี้ ไม่แปลกครับที่คนจะถูกหลอกเยอะ เพราะวันๆเอาแต่เฝ้าหน้าจอดู astv หรือคุณชอบคนพูดไม่เพราะ มาดกุ๊ยล่ะ อีกอย่างคุณคิดว่าทักกี้นี่พูดเพราะหรือครับ เห็นสื่อออกมาด่าประจำว่าเป็นนายกไม่สมควรใช้คำพูดแบบชาวบ้านแบบนี้ และขอใช้คำพูดของคุณว่า ไม่มองลึกลงไปถึงการกระทำและเนื่อหา...น่าเศร้าครับ จากคุณ : olivine - [ 3 เม.ย. 49 20:58:08 ]

ความคิดเห็นที่ 69 คห 59 ... การแปรรูปไม่ได้เป็นส่วนที่สำคัญที่ทำให้ประเทศด้อยพัฒนานะคะ (ถ้ามันคือความคิดของคุณ) และการที่มีนายกที่ไม่รู้จักพอ เดินเร็วเป็นกระต่ายขนยุ่งก็ไม่ใช่ไม่ดี เพียงแต่นายกควรจะไม่รู้จักพอจากบันทัดฐานความเป็นอยู่ของคนไทย เพราะท่านถูกเลือกเข้ามาบริหารประเทศ ไม่ใช่ความไม่รู้จักพอกับความมักมากของตนเอง การแปรรูปที่มีพวกพ้องเข้ามาเป็นกรรมการ มีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างโจ่งแจ้ง หลังการแปรรูป มีคนจำนวน 1 กลุ่มเท่านั้นที่เป็นเจ้าของ และจะได้รับผลประโยชน์จากกำไร มีการตั้งค่าไฟฟ้าจากนักวิเคราะห์แสนเก่งที่อ้างว่ากำลังจะขาดทุน หรือแบกรับต้นทุนต่อไปไม่ไหว แบบ ปตท. แต่พอมีการแบ่งเงินปันผล กลับได้เงินปันผลออกมาไม่รู้เลขกี่หลักต่อกี่หลัก แล้วก็มาทำโฆษณาว่ากำไรของฉันมีคุณอนันต์ต่อประเทศ ... ;-P   จริงอยู่ที่การแปรรูปอาจสร้างกำไรให้ชาติได้มหาศาล แต่บางสิ่งบางอย่างมีค่ามากกว่ากำไร อันนี้รวมถึงความเป็นเจ้าของ สิ่งที่เป็นของคนไทยทั้งประเทศ .... "คนทำงาน"ไม่ใช่ไม่ดี แต่อย่าลืมว่าที่ได้มาอยู่ตรงนี้ ตำแหน่งนี้ เค้าตั้งใจเลือกคุณมาทำงาน บริหารงานให้บ้านเมือง ไม่ใช่บริหารเงินให้ครอบครัว จากคุณ : เราพบกันที่เกาะเสม็ด - [ 3 เม.ย. 49 21:02:23 ]

ความคิดเห็นที่ 71 โหวต ครับ จากคุณ : โคถึก (Home TH.) - [ 3 เม.ย. 49 21:49:42 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ยอดเยี่ยมมากครับ นิทานแมว ผมเองมีแมวอยู่สิบกว่าตัวเลยพอจะเข้าใจ ธรรมชาติของพวกมันบ้าง บางตัวใช้ได้ บางตัวไม่ได้ความ ตัวที่ใช้งานได้ก็ไม่ได้ดีไปซะหมด มีแอบขโมยปลาบ้าง เป็นธรรมชาติของแมว คุณ คิดเหมือนกับผม 2ข้อเลยครับ -ถ้านายกคนนี้ได้เป็นต่อไปก็จะทำอะไรระวังยิ่งขึ้น ผมเองเป็นคนนึงที่เชียร์ท่านและดีใจที่ กฟฝ.ไม่แปรรูปทันที (เรื่องนี้ยาวไม่อยากอธิบายแต่เข้าใจข้อดีของการแปรเหมือนกัน) เดี๋ยวจะเป็นหนามที่บ่งไม่ออกอย่าง ปตท. -ถ้านายกเว้นวรรคเค้าจะกลับมาอีกอย่าง ภาคภูมิและมั้นคง ผมเองไม่ได้หวังให้ หนูเต็มบ้าน(เศรษฐกิจพัง)ก่อนนะครับ กลัวนิดหน่อยแต่ว่าอยากให้ประชาชนเข้าใจว่าระบบการทำงาน สมัยใหม่มันดี ยอดเยี่ยมแค่ไหน ขอก๊อบไว้นะครับ ไม่อยากให้กระทู้ตกเร็วเลย โหวตให้ครับ จากคุณ : Mr. why? - [ 4 เม.ย. 49 01:12:24 ]

ความคิดเห็นที่ 73 (ไม่อยากให้กระทู้นี้ตก เห็นหลายข้อความเขียนไว้อ่านแล้วถูกใจ เลยก๊อปรวมมิตรมาไว้ให้อ่าน ขออภัยจำไม่ได้ว่าของใครบ้าง) ______________________________________________________ จรรยาบรรณสื่อ เรื่องไม่ยุติธรรมในสังคมแต่ไม่อยู่ในกระแสท่านไม่ค่อยสนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตอนไฟลามเข้าหาตัว  เต้นกันเป็นเจ้าเข้า ก๊กข้าใครอย่าแตะ ตอนประเทศไทยลุกเป็นไฟ ไม่เห็นสื่อห้ามแฮะ กลับกระพือไฟให้ลุก หยุดพูดเป็นแผ่นเสียงตกร่องเสียทีว่า มันโกง มันโกง ... เชื่อมั่นในระบบบ้าง ... อย่าหูเบา ... เดือนก่อนๆ ประเทศก็สงบดี ... ตอนนี้เป็นไง ... ท่านผู้รักประเทศชาติเหลือเกิน (จะรับ) ... ฝีมือใครปิดถนน ... มีสภาก็ไม่ใช้ ... ก่อนล้มคนไม่มีจริยธรรม หาวิธีที่มันมีจริยธรรมให้เจอก่อนดีมั๊ย ... ใครแพ้ใครชนะเราก็ไม่เกี่ยว ... แต่เราก็ต่างมีความเชื่อของเรา ... เคารพสิทธิกันดีมั๊ย ... เล่นในระบบ ... อย่าอวดว่าฉลาดคนเดียว ... มันไม่ดี ... มันไม่ดี ... ท่านสื่อ นักวิชาการ ฯลฯ ... พาคนออกมาสู่ท้องถนน แทนที่จะเป็นคูหาเลือกตั้ง ... วันๆ อ่านแต่ข่าว ... สอนแต่หนังสือ ... วิจารณ์คนโน้นคนนี้ ... โลกแห่งการต่อสู้ภายนอก มันยากลำบาก และต้องการความรู้มากกว่าในตำรามาก ... โง่แล้วยังอวดฉลาดกันอีก ... สื่อ ถูกกดดันด้วย อำนาจนอกระบบ ... รู้สึกเห็นใจ คุณทักษิณ ที่ถูกอำนาจนอกระบบคุกคามบ้างมั๊ยครับ ... คงคิดว่าคนอื่นถูกจัดตั้งหมด ... คิดเองไม่เป็นอย่าง พวกคุณ ซิครับ ... เอ แต่ทำไมคนฉลาดทั้งหลายที่คัดค้านเลือกตั้งต้องเดินเข้าคูหา ... แบบที่ฝ่ายรัฐยังไม่ได้ใช้อำนาจรัฐไปบีบบังคับอะไรสักแอะเลย ... มันยังไม่ได้แสดงว่าพวกคุณมี bad judgement กันอีกหรือครับ ... ทำไมครับ คาราวานจะรู้สึกโกรธแค้น ผจก. และ เนชั่น ... แบบเดียวกับที่ คุณสนธิ โกรธแค้น คุณทักษิณ ไม่ได้หรือครับ ... เขาจะตัดสินว่า สื่อ ไร้จริยธรรม ที่สนับสนุนกลุ่มคนที่เลือกใช้ศาลเตี้ย ส่งเสริมพรรคที่เล่นนอกระบบ ถือเป็นการทำลายความมั่นคงของชาติไม่ได้เลยหรือครับ ... หรือสรุปว่า สื่อต้องถูกเสมอ และความคิดสูงส่งกว่าฝ่ายตรงข้ามเสมอหรือครับ ... คนอื่นใช้ศาลเตี้ยกับคุณ ... ถือว่าผิด เพราะเป็นการปิดกั้นการแสดงความเห็นอย่างเสรี ... แต่ถ้าพวกคุณใช้ศาลเตี้ยกับความมั่นคงของชาติ ... ถือว่าไม่ผิด เพราะเป็นความชอบธรรมที่จะล้มล้างระบอบทักษิณ ... ทำไมคุณไม่คิดว่า ... คนอื่นใช้ศาลเตี้ยกับคุณ ... ถือว่าไม่ผิด เพราะเป็นความชอบธรรมที่จะล้มล้างระบอบสื่อศาลเตี้ย ... แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 49 09:01:18 แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 49 08:59:47 จากคุณ : dqfkztxc - [ 4 เม.ย. 49 08:59:05 ]

ความคิดเห็นที่ 74 อ่านมาทั้งหมด (2วันแหนะ เวลามันน้อย) มีข้อคิดที่ดีเยอะครับ แต่คนที่ไม่รับยังไงก็ไม่รับ (เห็นได้จากหลายๆกระทู้ที่โพสต์ตอบในนี้)   คนพวกนี้ไม่เคยคิดที่จะรับอะไรหรอกครับ ปากพูดอย่างเดียวทักษิณ ขายชาติๆๆๆๆ เหมือนถูกโปรแกรมตั้งไว้ มักอ้างข้อมูลเชิงลึก (เชิงลึกที่สนทิบอก  จริงๆน้ะ เอ้า) คนที่ผมอ่านแล้วมีอะไรดีๆจริงน้อยมาก ส่วนมากมักอารมณ์รุนแรง โพสต์ ด่าอย่างเดียว ใครไม่เห็นด้วยกับตัว ก็จะหาว่าโง่ ตามืดบอด โดนทักษิณมันหลอกแล้ว (อันนี้ ผมก็ว่ามันแล้วแต่มุมมอง เพราะทางนี้ก็ว่าทางนั้นโดนสนทิกะจำลอง หลอก) ผมเห็นที่โพสต์ๆมาข้อมูลเชิงลึกที่เค้ากล่าวอ้าง ช่างน่าขัน และน่าวิตก(ในความคิดของคนโพสต์) อยู่หลายกระทู้ ผมจะเอาประสบการณ์จริงๆ มาเล่าให้ฟัง ไม่ต้องหาหลักฐานหรือ เอารูป หรือให้ผมสาบานหรอก เพราะไม่มี แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นจริงๆ จากคนรอบตัวที่เชื่อสนทิ รัก ปชป ซะเหลือเกิน เอาจากคนเชื่อสนทิก่อน ถาม--ทำไมแกถึงเชื่อสนทิ แกรู้ได้ไงว่าที่มันพูดหนะถูก ตอบ-- ชั้นไม่รู้หรอก ว่าเรื่องราวเป็นไง แต่คงเป็นแบบที่สนทิบอกมั้งเพราะสนทิเค้าเก่งน้ะ ......อึ้ง 1 ญ 1-- ทักษิณขายชาติ บ้านชั้นจะไม่มีที่อยู่แล้ว ต้องไล่มันออกไป ลูกชั้นจะอยู่ไม่ได้ ถ้าทักษิณเป็นนายก เพราะจะไม่มีชาติอยู่ ชาติเราจะล่มแบบ อาร์เจนติน่า ฯลฯ (คนนี้นี่สาวกสนทิตัวจริงวันๆนั่งหน้า ASTV เข้าเว้บ ผจก) ลองดูคนใกล้ตัวท่านหรือท่านเองเป็นแบบนี้มั้ย ท่าทางจะน่ากลัวมาก เหมือนคนขาดสติ ไม่ได้แกล้งว่าหรือ ยั่วให้ด่าน้ะครับ เอาเรื่องจริงมาพูด ถาม-- ขายชาติยังไง ไม่มีประเทศอยู่ยังไง  จะเป็นอาร์เจนติน่าได้ไง  นี่ฟังมาแล้วคิดตามมั้ย ญ 1--เธอมันจะรู้อะไร (แน้ะ) กรอเทป(เปรียบเทียบน้ะ)  คลิ้ก(เปิดอีกครั้ง)    ทักษิณขายชาติ บ้านชั้นจะไม่มีที่อยู่แล้ว ต้องไล่มันออกไป ลูกชั้นจะอยู่ไม่ได้ ถ้าทักษิณเป็นนายก เพราะจะไม่มีชาติอยู่ ชาติเราจะล่มแบบ อาร์เจนติน่า ฯลฯ ..............อึ้ง 2 เอาแค่ 2 พอ กรณีสนทิ เอา ตย รัก ปชป สุดใจ (หัวคะแนนแถวๆ กลางเมือง) คนในออฟฟิศผมเอง --เฮ้ย ทักษิณมันเลว มันทำแบบนี้ได้ยังไง (ตอนเป็นนายกอยู่ก่อนยุบสภา) ออกกฎอะไรมาว่ะ @%$^&%(ด่า) --เป็นไรพี่ --เนี้ย ชั้นมี เสื้อวินอยู่ 4 ตัว ตัวตั้ง แสน มาเลิกวิน มาทำแบบนี้ได้ไงหละ --อ้าว ก็ทำถูกแล้วนี่ แล้วพี่หละไปทำแบบนี้ได้ไงหละ ผู้มีอิทธิพลน้ะเนี่ย(แซวเค้าหน่อย) --โว้ย ทักษิณ แม่ง@#%@$@&^@(*@*()@&) หลัยุบสภา --(เสียงแว่วมา ตอนดูทีวีเรื่องม็อบ) นี่ถ้าทักษิณลาออก เรื่องเสื้อวินสีส้มจะยกเลิกได้มั้ยเนี่ย เอามา 1 ตย พอ เอาอีก ตย ของคนที่ไม่รู้ข่าวสารอะไรมากนอกจากดูทีวี อ่าน นสพ โหย หน้าด้านไม่ลาออก ว่าอย่างนั้นอย่างนี้ (ก๊อปจาก พัธมิตร ตอนด่าออกทีวีมา) ถาม-- คุณคิดแบบนั้นได้ไงหนะ ไปว่าเค้าหนะ รู้ดีแล้วเหรอ อธิบาย 1,2,3,4... ตอบ--เหรอ  อืมม จริงด้วยเน้อะ ถาม--ไม่รู้น้ะ อธิบายแล้วไปคิดต่อเอง ไม่ใช่เอาแต่ มันส์อย่างเดียว ไม่ใช่ผู้พิพากษา อย่าตัดสินคนอื่น ตอบ--เหรอ (คิดอะไรบ้างซี่ ไม่ใช่ใครว่าอะไรก็ตามไปโม้ดดดดด เฮ้อ) ************************************ แต่เอาจริงๆน้ะ สรุปจากมุมมองผมเอง ย้ำน้ะสรุปจากมุมมองตัวเอง คนที่ไม่รับยังไงก็ไม่รับหรอกครับ ผมเห็นเหมือนคุณ คนนึง(ขออภัยหา คคห มาอ้างอิงไม่เจอ) ที่ว่า คุณทักษิณ ไม่ออกมาพูดอะไรเท่าไหร่ ข้อเสียคือตรงนี้ แต่พอความรู้สึกของคนมันไปตรงนั้นแล้ว(คือทักษิณเลวซะเหลือเกิน) จะมาแก้ไขตอนนี้ ก็ยากพอดู คติพจน์คนไทย -- ทำอะไรก็ได้ตามใจคือไทยแท้ แต่พอ บางกลุ่ม มันทำอะไรไม่ค่อยจะได้ตามใจ เลยต้องกรูออกมาพอมีช่อง เลยเป็นอย่างที่เห็นแหละครับ นายกทักษิณ ก็มัวแต่เล่นเอาล่อเอาเถิดกับคนกลุ่มนี้ แต่ไม่ทราบว่าลืม หรือ คิดอีกอย่าง ที่จะอธิบาย หรือ ให้ความกระจ่าง แล้วพวกที่จ้องจะล้มก็เอาจุดนี้มาตี ทำให้ทุกวันนี้ คนอีกหลายคนจึงรู้สึกว่า ถ้าไม่ผิดจริง ทำไมถึงไม่ออกมาพูด เรื่องราวก็ประมาณนี้แหละครับ อยากพูดถึงเรื่องสื่อที่ว่าถูกคุกคามอีกนิด อยากรู้ว่าสื่อนี่มันมองแต่ตัวเองจริงๆน้ะครับ ไม่รู้อะไร หรือความคิดจากไหน ที่ทำให้เค้าคิดว่าเค้าจะทำอะไรก็ได้เหรอครับ ไม่มีสิทธิ์ที่คนอื่นจะไม่เห็นด้วยเหรอ ทำเรื่องไม่ดี มีคนไม่ชอบ ก็ชอบอ้างสิทธิของสื่อ หลายๆทีแล้วไม่ใช่เฉพาะกรณีนี้ ถ้าสิทธิมันทำให้กร่างชี้เป็นชี้ตาย(แบบคิดเอง ชี้นำ) หรือทำให้คนอื่นเสียหาย(แบบให้ข้อมูลผิด ไม่ใตร่ตรอง ชี้นำ )  หละก็ ผมว่าอย่าเป็นเลย (แค่ข้อคิดเห็นส่วนตัว) สื่อหนะ ไร้ซึ่ง จรรยาบรรณ วันนี้ ฟังเทพชัย  หย่องให้สัมภาษณื ในเรื่องเล่าเช้ายี้ ก็โอเคน้ะกับที่ต่อว่าม็อบเรื่องที่ไปปิดเนชั่น จะฟ้อง แจ้งความอะไร ก็แล้วแต่จะประชุมกันใน บริษัท แต่ไอ้ท่าที ที่เหมือนจะไม่ยอมรับสิ่งที่ตัวเองทำพลาดนี่มัน น่าทุเรศ ขอใช้คำนี้แล้วกัน พูดเหมือน ต้องยอมปิดเพราะถูกกดดัน  ตัวเองไม่ผิดเลยว่างั้นเหอะ เห็นแล้วเซ็งครับ ป.ล. ถึงกลุ่มผู้บูชาลัทธิสนทิ เพลาๆบ้างน้ะครับ ก่อนจะไปกันใหญ่ ไม่ชอบหนะ โอเค แต่ ถึงขั้นเกลียดแบบไร้เหตุผล(หรือมีเหตุผลที่สนทิจับยัด) พอเหอะครับ เห็นมา 2-3 คนแล้ว น่าเป็นห่วงครับ แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 49 10:22:32 จากคุณ : L RULES - [ 4 เม.ย. 49 10:09:45 ]

ความคิดเห็นที่ 75 โหวตครับ จากคุณ : padow - [ 4 เม.ย. 49 10:29:31 ]

ความคิดเห็นที่ 76 #74 ผมคิดว่าการต่อสู้คราวนี้ที่มันยุ่งเหมือนยุ่งตีกัน ก็เพราะว่ากลุ่มคนที่ไม่สนับสนุนคุณทักษิณเป็นกลุ่มคนที่มีชื่อชั้นในสังคม ... มีลักษณะชี้นำสังคมอยู่มาก (คุ้นเคยกับการเป็นกระแสชี้นำสังคมมาตลอด) ... ปัญหาก็คือ คนเหล่านี้ขาดมุมมองที่ยังไม่บรรลุจริงในอีกหลายมิติของศาสตร์ ... พอสรุปให้ไม่ให้เสียน้ำใจกันได้ว่า หัวอนุรักษ์ ... กลุ่มนี้มีภาพในสังคมดูเหมือนเป็นผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์หนึ่งๆ ... แม้จะได้ชื่อว่า นักวิชาการ แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามีประสบการณ์อยู่ในศาสตร์ที่มีวงจำกัดมาก... ในขณะที่กลุ่มคนที่สนับสนุนคุณทักษิณกลุ่มใหญ่ที่สุด (ด้วยความเคารพ) มีการศึกษาน้อยกว่า ... คนกลุ่มนี้ใช้ชีวิตกับ รูปธรรม ไม่ใช่ นามธรรม ... การต่อสู้ของเขาจึงเรียบง่ายตรงไปตรงมา ... คนกลุ่มที่พอจะต่อสู้ในเชิงแนวคิดกับกลุ่มต่อต้านที่กล่าวข้างบนได้ ... คงเป็นการต่อสู้ของกลุ่มชนชั้นกลางและสูงในเมือง ... ผมเรียกกลุ่มสนับสนุนคุณทักษิณว่า กลุ่มหัวปฏิรูป  ... มีลักษณะการกล้าได้กล้าเสีย และยอมรับแนวทางใหม่ๆ ... กลุ่มนี้ถูกกดไว้ด้วยชื่อชั้นของกลุ่มต่อต้านที่เติบโตมาจากสังคมรุ่นเก่า ... กลุ่มนี้จึงมีความรู้สึกอึดอัดกับการกล่าวอ้างของกลุ่มต่อต้านที่ว่า ผู้สนับสนุนคุณทักษิณไม่มีการศึกษา ... กลุ่มนี้มีไม่น้อย เห็นได้จากคะแนนเสียงในเมืองที่เกลี่ยกันออกมาแล้วก็ยังสูสีกันมาก ... เป็นการแบ่งแยกที่ชัดเจนของหัวปฏิรูปและหัวอนุรักษ์ ... (ขอยกเว้น ภาคใต้ ซึ่งมีลักษณะพิเศษ คือ แนวคิดกระแสหลักที่ถกกันจนชนะแล้วจะไม่มีความยืดหยุ่นและให้การยอมรับกระแสรองอีกต่อไป ตามลักษณะการปกครองของศาสนา) ... แต่หลายคนไม่ทันสังเกตว่ามีกลุ่มสนับคุณทักษิณอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นกลุ่มที่เล็กมาก แต่สำคัญที่สุด เพราะเป็นกลุ่ม Top ของประเทศ ... กลุ่มนี้เข้าใจคุณทักษิณในลักษณะ (ถ้าจะพูดให้น่าหมั่นไส้แต่ดูเข้าใจง่ายก็คือ) ... อรหันต์รู้ว่าใครเป็นอรหันต์ ... คนกลุ่มนี้ผ่านโลกผ่านชีวิตมาในระดับสูงสุดในหลากหลายมิติ ... เช่น เป็นทั้งนักวิชาการและนักปฏิบัติที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ... ใช้ชีวิตทั้งในและต่างประเทศมาอย่างโชกโชน ... อยู่มาแล้วทั้งภาคราชการและเอกชน ... และที่สำคัญมีก้าวหน้าในระดับสูงสุดขององค์กรหรือสายงานนั้นๆ ... คนกลุ่มนี้มีมิติของความเข้าใจชีวิตในระบบทั้งทุนนิยมและธรรมนิยม ... มีความเข้าใจกับเทคโนโลยีในระดับผู้ใช้งานจริง ... ในขณะที่กลุ่มต่อต้านมองภาพ สองมิติ จึงมักดูถูกชนชั้นล่างว่ามองภาพ มิติเดียว ... แต่คนกลุ่มนี้จะมองภาพได้ สามมิติ ... กลุ่มนี้ถือว่าเป็นยอดของกลุ่มผู้มีการศึกษาที่นำทฤษฎีไปปฏิบัติได้อย่างมีบูรณาการเป็นรูปธรรม ... เพียงแต่กลุ่มนี้จะช่วยหลบอยู่ในมุมมืด ... ไม่อยากเปลืองตัวขัดแย้งกับกลุ่มต่อต้าน ... (แวะมาอ่าน ต้องขอโทษ ปกติผมจะไม่ค่อยตอบใครนะ วันนี้ขอตอบกันสนุกๆ เบาๆ ... อย่าซีเรียสกับมันมากครับ ... ผมยังเห็นว่าเป็นโอกาสที่สังคมกำลัง audit และ educate กันและกัน ... เพียงแต่วิธีการ audit ที่ม๊อบทำอยู่ในปัจจุบันนี้มันโบราณไม่สร้างสรรค์ ขาดความยืดหยุ่น และเอาประเทศมาเสี่ยงมากเกินความจำเป็น ... ขาด maturity ของทั้งผู้มีธรรมและผู้มีการศึกษาที่แท้จริง ... ถ้าทุกคนเชื่อว่าตนถูก และจะเอาอะไร ตรงนี้ เดี๋ยวนี้ เดาออกมั๊ยครับว่าตอนนี้พันธมิตรฯ จะไปกองอยู่ตรงไหน ... สำหรับ ไม้แก่ที่ดัดยาก แล้วก็คงไม่มีประโยชน์อะไรจะไปดัด ... แต่คนรุ่นหนุ่มสาวอีกมาก เชื่อว่าถึงยังไม่เข้าใจ อ่านไม่ทะลุจริง หรือเชื่อมั่นใน idol ของเขา ก็ไม่เป็นไร ... learning curve ... อย่างไรเสีย ประเทศก็จะได้ประโยชน์จากการขัดแย้งครั้งนี้มหาศาล ... ถ้าไม่ดื้อรั้นไปจนถึง Point of No Return อย่างบางท่านได้พูดไว้ ...) แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 49 11:16:44 จากคุณ : Rockhill - [ 4 เม.ย. 49 10:40:12 ]

ความคิดเห็นที่ 77 #76 น่าสนใจตรงที่คุณ Rockhill บอกว่ามีกลุ่มเล็กระดับ Top ที่สนับสนุนคุณทักษิณ...ที่บอกว่ามองได้สามมิติก็น่าสนใจครับ...คุณ Rockhill ครับ...ทำไมคนกลุ่มนี้ถึงไม่อยากยุ่งเพราะคิดว่าเปลืองตัวครับ?...ถ้าไม่ยุ่งเพราะกลัวเปลืองตัวผมคิดว่าคนกลุ่มนี้มีลักษณะต่างจากคุณทักษิณอย่างสิ้นเชิง...คุณทักษิณเป็นบุคคลประเภทที่ไม่คิดอย่างเดียวแต่ลงมือทำด้วยนะครับ...อันนี้เป็นข้อดีมากๆของท่านนายกฯท่านนี้จริงๆ อ่านทั้งหมดที่คุณ Rockhill เขียนมาทั้งหมดแล้วขอคารวะครับว่าหาได้ยากในสังคมราชดำเนินที่มีแต่การด่ากันและการยึดติดกับความคิดของตัวเองเพียงอย่างเดียว...ถ้าสังคมของราชดำเนินเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นขัดแย้งโดยสุภาพโดยเคารพความเห็นฝ่ายตรงข้ามพร้อมกับนำมาวิเคราะห์ด้วย...ก็จะไม่มีสถานการณ์เหมือนปัจจุบัน ผมเห็นด้วยครับว่าบุคคลที่ไม่เห็นด้วยกับนายกฯหลายๆท่านเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและชี้นำสังคมและอาจจะมองไม่บรรลุจริง...ประเด็นของคนธรรมดาที่ไม่มีชื่อเสียงอย่างพวกเราคืออย่าเพิ่งเชื่อพวกเขาครับ...แม้ว่าเราจะเคารพพวกเขาเหล่านั้นก็ตาม... แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่พิจารณาสิ่งที่เขาพูดครับ...บางคนมองมิติเดียวแต่เป็นมิติที่มีเหตุผลและเป็นประเด็นที่สามารถนำมาปรับปรุงกระบวนการเมืองให้ดีได้...ก็น่าจะรับฟังนะครับ พวกเราน่าจะถามและคุยกันด้วยเหตุผลว่าอะไรดีที่สุด - ผู้นำแบบไหนที่ดีที่สุด - พรรคแบบไหนดีที่สุด - ลักษณะการเมืองการปกครองแบบไหนที่ดีที่สุด เอาประเด็นแรกก่อนเรื่องผู้นำ...จากที่เห็นก็คงใกล้เคียงกับผลเลือกตั้งว่าคุณทักษิณใกล้เคียงกับผู้นำที่เราว่าดีที่สุด...ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิสัยทัศน์...ความฉลาดและการตัดสินใจ...และอีกหลายๆเรื่องที่ทำให้บ้านเมืองเราพัฒนาขึ้น...แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังต่างจากผู้นำในอุดมคติในหลายๆประเด็นโดยเฉพาะในเรื่องของความเชื่อใจจากประชาชนหลายๆกลุ่ม...ที่ไม่เชื่อว่าคุณทักษิณเห็นแก่บ้านเมืองมากกว่าตนเอง... คำถามคือถ้าคุณทักษิณปรับเปลี่ยนหลายๆเรื่องเช่น...ไม่สร้างความแตกแยกเรื่องเลือกไทยรักไทยแล้วจะดูแลก่อน...ไม่ส่งเสริมพวกเดียวกันหาผลประโยชน์...เปิดโอกาสให้องค์กรอิสระเข้มแข็งและขยันให้องค์กรอิสระนั้นตรวจสอบตนเองมากๆ...คุณทักษิณก็คงใกล้เคียงผู้นำที่ดีที่สุดมากกว่านี้ ถ้าถามว่าแล้วที่ดีอยู่ปัจจุบันไม่พอหรือ?....จะเอาอะไรกันนักหนา?...คงต้องมองอย่างเป็นกลางว่าสิ่งที่ยังขาดอยู่นั้นสำคัญกับการเป็นผู้นำที่ดีหรือไม่?...การเลือกตั้งคงตอบตรงนั้นไม่ได้เพราะเป็นการเหมารวม...แต่ถ้าแตกประเด็นและให้มีการโหวตรายประเด็นนั้นๆ...คุณทักษิณคงได้คำตอบแน่ๆ... ผมคิดว่าคนอย่างคุณทักษิณคงพัฒนาตัวเองไปถึงจุดนั้นได้ถ้าตั้งใจทำเนื่องจากเป็นคนที่มีความสามารถมาก...แต่จะทำหรือเปล่าคนไทยต้องคอยตามดู แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 49 12:23:22 จากคุณ : kraikria - [ 4 เม.ย. 49 12:20:59 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เยี่ยม ขอโหวต คุณ Rockhill,justgig,Winthrop ,Jaisamarn น่าจะร่ายเรื่องสื่อสักหน่อยนะครับ จะเป็นคุณูปการต่อชาติ จากคุณ : ปลงแล้ว - [ 4 เม.ย. 49 12:32:38 ]

ความคิดเห็นที่ 79 #77 บางอย่างมันพิสูจน์กันยากครับ เช่น ผมเชื่อว่านายกจริงใจต่อประเทศ หรือ ผมเชื่อว่านายกไม่จริงใจต่อประเทศ ฯลฯ การอ่านและการตีความของแต่ละคนไม่เหมือนกัน (ยอมรับครับข้อด้อยของนายกก็เห็นกันอยู่)  แต่ผมว่าข้อเสนอของคุณผมก็ว่าน่าสนใจนะ  กรณีที่จะหา ผู้นำ พรรค หรือ ระบบการปกครอง แบบไหนดีที่สุด  แต่ผมสงสัยว่าเราจะเอาเรื่องมาพูดกันในบรรยากาศอย่างนี้จะไม่มีใครมีมู๊ดมาคิดหรือว่างพอหรือเปล่า น่าจะเอาไปให้องค์กรที่มีหน้าที่ทำการศึกษาวิจัยอย่างเป็นระบบนะ (คิดว่าก็คงทำกันอยู่แล้ว) ส่วนเรื่องอื่นก็นานาจิตตังนะ  เค้าถึงมีการโหวต  สำหรับ จขกท ถ้าไปไล่อ่านมาตั้งแต่ต้นกระทู้ ผมก็ว่าเค้ามีเหตุผลความเชื่อของเค้า  สำหรับสถานการณ์ในตอนนี้ ผมอ่าน #5 #73 แล้วชอบ สรุปไว้สั้นและง่ายดีสำหรับคนเชียร์ทักษิณอย่างผม #78 สำหรับผม ผมคิดว่าการทำสงครามกับ สื่อ จริงๆ แล้วไม่ใช่ความคิดที่ฉลาดในตอนนี้  ผมเห็นตอนแรกเค้าแค่เข้าข้าง  ตอนนี้ดูแล้วถึงขั้น bias อย่างหนัก  ผมเชื่อว่า สัจธรรม จะดูแลตัวมันเอง  ใครก็ตามเดินเลยจากจุดนี้ก็เท่ากับสร้างรอยด่างพร้อยไว้ใน record ตัวเอง  อย่าไปทะเลาะเลยครับ  ถ้าใช้บทบาทเกินเลยไปจนลืมตัวเวรกรรมก็ทำหน้าที่ของมันเอง ดูกรณี คุณสนธิ ก็น่าจะพอทำให้เราสบายใจได้บ้างนะครับว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว   _________________________________________________________ อยากให้ฝ่ายสนับสนุนช่วยเอา link ไปกระจายหน่อยครับ ไม่อยากให้กระทู้นี้ตกไป แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 49 13:05:16 แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 49 12:56:48 แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 49 12:52:28 จากคุณ : Winthrop - [ 4 เม.ย. 49 12:48:33 ]

ความคิดเห็นที่ 80 #79 ขอบคุณคุณ Winthrop สำหรับความเห็นครับ...ที่ผมคิดเรื่องนี้เพราะเห็นแต่การต่อสู้กัน...การไม่ยอมรับฟังกัน...การด่ากัน...เลยมองว่าน่าจะมองแบบที่ว่าเราทุกคนจะได้อะไรจากที่ทุกท่านที่เคารพในที่นี้ (รวมถึงคุณ Wintrop) ได้สละเวลาอันมีค่าให้ความเห็นมา? ประเด็นไม่ใช่แค่ว่าใครถูกใครผิดเท่านั้นเพราะเห็นทุกคนก็มีเหตุผลของตัวเอง...ยืนยันว่าผมก็ชอบ #5 #73 และอีกหลายๆความเห็นเหมือนกันครับ...แล้วความเห็นที่เราไม่ชอบละครับ...เราควรทำอย่างไรครับ? ถ้ามองว่าเรื่องการวิเคราะห์ผู้นำที่ควรจะเป็น...ไม่ใช่สิ่งที่ควรคิดในตอนนี้ก็ไม่เป็นไรครับ...ไว้คิดวันหลังก็ได้ครับ...ยังมีเวลา...ผมเพียงแต่ไม่อยากให้คนไทยเอาแต่คิดเรื่องเหตุผล....คิดเรื่องใครถูกผิด...วิเคราะห์ว่าทำไมสถานการณ์จึงเป็นแบบนี้...คิดว่าเป็นเพราะคนนั้นทำแบบนี้คนนี้ทำแบบนั้นแต่เพียงอย่างเดียว ผมเพียงแต่คิดว่าเราในฐานะคนไทยควรจะคิดว่าเราจะก้าวไปสู่จุดไหนแล้วพยายามไปให้ถึงจุดนั้นโดยที่พยายามหลีกเลี่ยงการขัดแย้งแบบไม่สุภาพให้มากที่สุด นักการเมืองมาแล้วก็ไป...แต่พวกเรายังอยู่...ผมเองก็มีความคิดที่ขัดแย้งกับสิ่งที่พันธมิตรหรือฝ่ายค้านทำในหลายๆเรื่องที่รับไม่ได้เลย...แต่ก็ไม่อยากจะพูดเพราะมีคนพูดไปแล้ว...ถ้าพูดซ้ำก็ทะเลาะกันอีก...ราชดำเนินก็เป็นแบบเดิมอีก...แล้วคนที่ตั้งกระทู้ดีๆแบบนี้ก็จะไม่เข้ามา จากคุณ : kraikria - [ 4 เม.ย. 49 13:26:54 ]

ความคิดเห็นที่ 82 โหวตให้ 1 เสียงน้อย ๆ ครับ จากคุณ : เจ้ายมบาล - [ 4 เม.ย. 49 14:49:00 ]

ความคิดเห็นที่ 83 สรุป..ง่าย..นายกออก..อภิสิทธิ์ เป็นแทน..มันต้องการแค่นี้เอง..นายกไม่ได้พูดถึง... จากคุณ : เวลคัม - [ 4 เม.ย. 49 14:51:30 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ขอโหวตต่อค่ะเพื่อคนอื่นจะได้อ่าน จากคุณ : punpun22 - [ 4 เม.ย. 49 16:21:07 ]

ความคิดเห็นที่ 85 Rockhill เขียนได้ตรงใจครับ ผมเชื่อคุณ Rockhill ก็คือหนึ่งในคนกลุ่มเล็กนั้นแหละ จากคุณ : I_Feel_Control - [ 4 เม.ย. 49 16:34:45 ]

ความคิดเห็นที่ 86 การที่คนไทยจะตามอารยะประเทศทันมันต้องมีการสูญเสียบ้าง เพราะไทยไม่ได้สั่งสมฐานความรู้ให้คิดเป็นโดยไม่ต้องชี้นำ และไม่มีครั้งไหนในการปฏิวัติประเทศให้ก้าวทันชาติอื่นไม่มีการสูญเสีย จากคุณ : ปลาน้ำร้อน - [ 4 เม.ย. 49 16:36:46 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ขอบคุณมากครับ โหวตให้เต็มตัวครับ ^_^ จากคุณ : You Be See - [ 4 เม.ย. 49 16:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เป็นบทความที่ให้ความเห็นได้ดีมากเหลือเกินค่ะ จากคุณ : NTAM - [ 4 เม.ย. 49 17:20:41 ]

ความคิดเห็นที่ 89 โหวตกับ save ไว้ก่อนค่ะ ไว้วันพรุ่งนี้จะมาแสดงความเห็น ในฐานะคนที่อยู่ในแวดวงวิชาการซึ่งต้องชิงดีชิงเด่นกันในอาเซียน จากคุณ : Pride - [ 4 เม.ย. 49 17:33:19 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ปัญหาคือหลายคนพยายามจับหลักการตรงโน้นทีตรงนี้ทีมาอ้างกันในลักษณะ selective evidence เพื่อสนับสนุนบทสรุปของตัว ************************************ ขอสนับสนุนคุณ Jaisamarn ใน คคห 81 ตรงข้อความที่ผมขออนุญาตยกมาอย่างยิ่ง สังเกตอย่างนึงมั้ยครับ คนทำงานในเมืองไทย โดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีน (เชื้อสายอื่น หรือไทยแท้ๆไม่แน่ใจไม่เคยสัมผัส เพราะส่วนใหญ่ที่ทำการค้าที่รู้จักก็ไทยเชื้อสายจีนครับ เพราะฉะนั้นนี่คือมุมมองของคนไทยที่มีเชื้อสายจีนที่ผมได้ติดต่อด้วยหลายๆท่านน้ะครับ)  มักจะทำงานไม่เหมือนระบบของชาวฝรั่งมังค่า แม้ว่าบริษัทนั้นจะใหญ่โตแค่ไหนก็ตาม ที่จะพูดก็คือมันไปตรงกับสิ่งที่คุณ Jaisamarn ว่าไว้ใน คคห 81 ************************************* นิสัยที่ลึกๆ แล้วขาดความเคารพในความคิดคนอื่น เรื่องเหล่านี้แม้ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ในเชิงหลักการ แต่มันนำมาซึ่งการทำงานคนเดียวในที่สุด และนานๆ เข้าก็เห็นเริ่มจับงาน micro มากขึ้น มากขึ้น (เพราะคนอื่นทำไม่ได้ดั่งใจ) แทนที่จะดูแลภาพ macro ... ธรรมชาติคนทำงานจะรู้ว่างาน micro มันมันส์ครับ ยิ่งทำยิ่งรู้สึกว่าฉันเก่งเหลือเกิน (อะไรทำนองนั้น) ... ************************************* แม้จะวางระบบให "เป็นระบบ" แต่ก็ไม่วายติดนิสัย หรืออาจเรียกว่า สันดานที่ต้องลงไปดูแลในจุด micro เอง บางทีอย่างที่ คุณ Jaisamarn บอกคือไม่ได้ดั่งใจนั่นเอง (อันนี้ตัวผมก็มักเป็นบ่อย เรื่องเล็กๆน้อยๆบางเรื่องก็ไม่ได้ปล่อยวาง สุดท้ายก็คือเหนื่อยขึ้น  หลังๆนี่ว่าจะฝึกให้ใจร่มๆ ปลงนิดๆบ้าง) ทีนี้ พอมาอยู่ในตำแหน่งนายก ยังไงก็ติดนิสัยแบบนั้นอยู่ดี จึงเข้าในประเด็นที่คุณว่าไว้ อีกอย่างน้ะครับ ผมมองว่า นายกทักษิณไม่ใช่ นักการเมืองมืออาชีพมาก่อน เรียกได้ว่ามือใหม่หัดขับเลยหละ แต่ทีนี้คุณทักษิณขึ้นมาเร็วมาก บางทีอาจจะเร็วไปในสายตาหลายๆคนซึ่งอาจเก็บงำความเจ็บช้ำน้ำใจไว้ในอก ซึ่งผลพวงจากการที่เป็นนักธุรกิจมาก่อน จึงเป็นจุดอ่อนอีกอย่างที่หลักการปกครองท่านอาจด้อยมากเมื่อเทียบกับนักการเมืองสายอาชีพ เขี้ยวลากดินที่รู้หลบรู้หลีกรู้ว่าจะวางตัวเช่นไร  กอปรกับการที่ท่านติดนิสัย(หรือสันดาน ไม่หยาบน้ะเพราะเป็นสิ่งที่ติดตัวแก้ยาก) จากการเป็นนักธุรกิจและนำมาใช้ในการบริหารประเทศ ซึ่งก่อให้เกิดความเจ็บช้ำน้ำใจในอีกหลายส่วน (ถ้าท่านผู้อ่านบางท่านที่เป็นนักธุรกิจ เป็นเจ้าของกิจการน่าจะพอดูในจุดนี้ออก)  ในบางจุดที่ควรอะลุ่มอะหล่วยสำหรับนักปกครอง แต่ก็ทำเด็ดขาดไป(ซึ่งผมชอบ ถ้ามาทำงานกับราชการเหมือนผม จะสะใจมากที่พวกนี้น่าจะโดนซะที)  ยิ่งก่อให้เกิดไฟสุมทรวง ก่อเป็นแรงต่อต้านอีก 1 ด้าน สรุป(โดยตัวผมเอง วิเคราะห์จากสมองเล็กๆ) ท่านนายกติดในความเป็นนักธุรกิจมากเกินไป ท่านบริหารประเทศโดยมีพื้นหลังของความเป็นนักธุรกิจ จึงทำให้คนไทยบางกลุ่มที่ชอบความนอบน้อมถ่อมตน ความนิ่มนวลสุภาพ จึงรับตรงนี้ไม่ค่อยจะได้ ส่วนเรื่องที่เหล่า พันธมิตรฯเปิดศึกมา มันเป็นคนหละสาเหตุกับ จุดที่ผมได้ว่าเอาไว้ข้างบน เรื่องนั้นเราๆท่านๆในพันทิพย์แห่งนี้ก็พอจะรู้ตื้นลึกหนาบางกันอยู่ (เดี๋ยวอ้างข้อมูลเชิงลึกบ้าง  ) เอ้า จะปิดออฟฟิศแล้วหละ เดี๋ยวดึกๆมาอ่านมาเสนอหน้าต่อ แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 49 23:07:38 จากคุณ : L RULES - [ 4 เม.ย. 49 17:36:28 ]

ความคิดเห็นที่ 91 เยี่ยมครับ ขอโหวตให้ จากคุณ : เชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ - [ 4 เม.ย. 49 18:28:38 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ชอบมากๆ..ขอบคุณนะคะที่มีบทความดีๆไว้ให้อ่าน ขอ add to favorites..ไว้เผื่อให้คนข้างเคียงอ่านบ้าง จะได้หูตาสว่าง   VOTE  ค่ะ จากคุณ : come together - [ 4 เม.ย. 49 18:32:43 ]

ความคิดเห็นที่ 93 เขียนได้ดีมากๆ ขอแสดงความนับถือ น่าจะให้พวก columnist ในเครือ Nation มาอ่านนะครับ ว่าบทความดีๆ เขาเขียนกันแบบนี้ ใครช่วยส่งไปให้พวกเขาอ่านได้ไม๊ครับ จากคุณ : อภิอัครมหายาน - [ 4 เม.ย. 49 18:42:05 ]

ความคิดเห็นที่ 94 อยากขอเล่านิทานบ้างอ่ะ ขออนุญาตนะครับท่าน จขกท (คุณ rockhill) ขอถือวิสาสะหน่อยเถอะครับ (วุ้ย จะโดนเรื่องลิขสิทธิ์ป่าวเนี่ย) และแล้วผลก็ออกมาว่า ทุกคนในบ้านโหวตให้ไอ้สินยังอยู่ต่อไป แต่ผลโหวตครั้งนี้น้อยกว่าครั้งที่แล้ว 3 เสียง เพราะสมาชิกบางคนเบื่อเหลือเกินกับการวุ่นวายไม่มีที่สิ้นสุด และบางคนยังคลางแคลงใจไอ้สินอยู่ ว่าจริงหรือไม่ที่ไอ้สินโกงปลาย่างเดินกร่างไปมา จึงตัดสินใจไม่ออกเสียง ปีนี้เป็นปีมหามงคลด้วย ไอ้สินอยากเห็นความสงบของบ้าน ไอ้สินจึงตัดสินใจบอกกับทุกคนว่าถ้ามันยอมลงจากหลังคาแล้วทำให้ไอ้ทิหยุด ทำให้สามเกลอหัวแข็งทำตามกติกา มันจะยอมลงจากหลังคาบ้าน ไปหากิน ไปท่องเที่ยวให้สบายใจอย่างที่มันอยากจะทำ ไม่ต้องทนลำบากมาจับหนูแล้วยังโดนด่าแบบนี้ เมื่อทุกคนในบ้านเห็นท่าทีแบบนี้ของไอ้สิน ก็ยังคลางแคลงใจอีกว่าไอ้สินจะรักษาคำพูดหรือเปล่า แต่ก็ประกาศว่าถ้าไอ้สินยอมลงจากหลังคาเท่านั้น จะยอมไม่รื้อหลังคาบ้านและหยุดพยายามพังบ้านทันที ตอนนี้เจ้าของบ้านกำลังมองหาแมวตัวใหม่มาจับหนูถ้าไอ้สินจากไป ว่าจะเอาใครดีระหว่าง แมวสีสวาดที่ไม่จับหนู กับแมวธรรมดาแบบไอ้สิน แต่เป็นแมวตัวอื่นที่ไม่ใช่ไอ้สิน หรือว่าจะให้ไอ้สินยังจับหนูต่อไปดี หลังจากที่ไอ้สินแสดงท่าทีอย่างชัดเจนแบบนี้ส่งผลให้ร้านเฮียกิจขายของได้ดีขึ้น หลังจากขายไม่ค่อยได้มาหลายวันตั้งแต่มีการพยายามจะพังบ้าน คนซื้อก็ไม่กล้ามาซื้อเพราะกลัวโดนลูกหลงไปด้วย ถ้ากระเบื้องมุงหลังคาปลิวมาโดนหัวแตกใครจะรับผิดชอบค่าหมอค่ายาล่ะ ไปซื้อร้านอื่นดีกว่า เมื่อเฮียกิจขายของได้ดีขึ้นก็มีเงินพอจ่ายค่าเช่าหน้าบ้านที่ทำร้าน คนในบ้านก็หน้าตาสดใสมากขึ้น เพราะมีข้าวกิน มีที่อยู่ มีการศึกษาดีขึ้น คนในบ้านเริ่มมองว่าไอ้สินเป็นฮีโร่ จับหนูก็ได้ และยังยอมทำเพื่อคนส่วนใหญ่ในบ้านด้วย คนบางคนในบ้านเริ่มออกมาแสดงท่าทีว่าให้ไอ้ทิไอ้ไสและตาเทียมหยุดได้แล้ว และอย่าเรียกร้องอะไรไปมากกว่านี้เพราะไอ้สินมันยอมถอยอย่างสุดตัวแล้ว ทีนี้ก็รอกันต่อไปว่า นิทานแมวจะดำเนินต่อไปอย่างไร ถ้าแมวทุกตัวยอมทำตามที่ตัวเองพูดไว้ บ้านก็จะสงบต่อไป ยิ่งถ้าสงบได้เร็วเท่าไหร่ทันสงกรานต์ได้ยิ่งดี เพราะลูกค้าเฮียกิจจะได้มาซื้อของมากขึ้นในช่วงวันหยุดยาวๆแบบนี้ ...นิทานของผมนึกออกเท่านี้ถ้านึกออกแล้วจะมาเติมใหม่... @@@จึงขอจบไว้เท่านี้ก่อน@@@ ...เอวัง... จากคุณ : olivine - [ 4 เม.ย. 49 18:49:12 ]

ความคิดเห็นที่ 95 อ่านครบทุกตอนค่ะ ชอบ จากคุณ : แมกโนเลีย - [ 4 เม.ย. 49 19:59:04 ]

ความคิดเห็นที่ 96 อ่านไปอมยิ้มไปอยู่คนเดียว แจ่มจริงๆ ตอนนี้ไอ้สินก็ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะลงจากหลังคา จากคุณ : แวววัฒน์ - [ 4 เม.ย. 49 21:34:25 ]

ความคิดเห็นที่ 97 น่าจะให้ข้อความดีๆเหล่านี้ได้ไปถึงคนอื่นๆในวงกว้างบ้าง ขอโหวตให้คะรับ จากคุณ : champ_ee85 - [ 4 เม.ย. 49 23:11:59 ]

ความคิดเห็นที่ 98 สุดยอดจริงๆ  พูดไม่ถูกเลย โดนใจมั่กๆ  โหวตให้เต็มที่เลยค่ะ  แมวอย่างเจ้าสิน อาจไม่ใช่แมวที่เลิศเลอ  แต่ก็เป็นแมวที่ดีที่สุดของบ้านหลังนี้ จริงๆ แล้ว ดิฉันก็กลัวว่าลูกหลานของดิฉัน  จะโตบนรถเมล์ และ ตายเพราะยาบ้า และที่สำคัญ กลัวจะโง่ว่า ลาว กว่า เวียตนามเหมือนกัน. เพราะงั้น ถึงจะไม่ชอบ เจ้าสินในบางเรื่อง แต่ก็เชียร์ เจ้าสินสุดใจค่ะ จากคุณ : รักความเจริญ (vibig) - [ 5 เม.ย. 49 01:14:36 ]

ความคิดเห็นที่ 99 โหวตค่ะ จากคุณ : นักศึกษาคนหนึ่งค่ะ (4ปีจบ) - [ 5 เม.ย. 49 01:51:24 ]

ความคิดเห็นที่ 100 คห #12 คนที่พูดว่า "เมืองไทยนี่ดีทุกอย่าง ทั้งความสมบูรณ์ สภาพแวดล้อมสวยงาม อะไรก็ดีไปหมด เสียอย่างเดียวคือ . . . มีคนไทย" คือ ลีกวนยิว อดีตผู้นำของ "สิงคโปร์" (มั้ง) จากคุณ : lanarin - [ 5 เม.ย. 49 05:55:46 ]

ความคิดเห็นที่ 101 เยี่ยม ขอโหวต คุณ Rockhill,justgig,Winthrop ,Jaisamarn น่าจะร่ายเรื่องสื่อสักหน่อยนะครับ จะเป็นคุณูปการต่อชาติ ขออนุญาต copy คุณ : ปลงแล้ว จากคุณ : สหายแทนไท - [ 5 เม.ย. 49 09:06:10 ]

ความคิดเห็นที่ 102 Vote for Rockhill.............. จากคุณ : mhoobin - [ 5 เม.ย. 49 09:24:57 ]

ความคิดเห็นที่ 103 1 โหวตค่ะ เป็นเรื่องของความเป็นจริงที่คุณ Rockhill และท่านอื่นๆ ได้กรุณาทำให้เป็นเรื่องไม่เครียดในสถานการณ์บ้าน เมืองอย่างนี้...นับถือด้วยใจจริง ใจจริง หวังอยากให้คนในบ้านออกมาปกป้องไอ้สินบ้าง แต่ก็คงเป็นการเปลืองตัวเกินไป อีกทั้งอีกฝ่ายอาจมองว่าไม่ยุติธรรม หลายข้อกล่าวหา คนในบ้านถูกเอามาพาดพิงบ่อยครั้ง แต่คนในบ้านไม่เคยตอบ ยิ่งทำให้น้ำหนักของข้อกล่าวหาดูมีมากขึ้น เมื่อทุกคนตีรวนให้ไอ้สินเป็นคนผิด ก็ต้องทำใจยอมรับกับหนูที่จะกลับมาด้วย และต้องทำใจกับแมวขี้เกียจที่มาร้องเมี้ยวเอาใจ ประจบประแจงเพื่อขอกินเช่นกัน ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ว่าไอ้สินจะกลับมาหรือไม่ดิฉันมั่นใจว่าเขาบรรลุ self-esteem ของตัวเองแล้ว มีความสุขได้ในชีวิต และครอบครัว ดิฉันขอเป็นกำลังใจและขอให้ไอ้สินได้มีชีวิตที่ดี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้คุณพระ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง (น้ำตาใหลเลย) โชคดีจ้ะ ไอ้สิน จากคุณ : ฟ้าใหม่วันใหม่ - [ 5 เม.ย. 49 09:51:35 ]

ความคิดเห็นที่ 104 กระทู้สุดยอดมากๆครับ โหวตให้ๆๆ ตอนนี้ผมเรียนอยู่ ม.4 มีเพื่อนคนนึง มันเกลียดทักษิณมากมาย วันนึงผมลองไปถามันดู ผม -- เฮ้ย ถามจริงเถอะ เอ็งเกลียดทักษิณมันตรงไหนวะ เพื่อน -- อ้าว เอ็งไม่เห็นหรอ มันหน่ะขายชาติ แดxมันจะหมดอยู่แล้ว ผม -- แล้วเค้าขายยังไงอ่ะ บอกหน่อยดิ เพื่อน -- ก็ อ่ะ อย่าง กฟฝ.อย่างเงี้ย เอ้งคิดดู สมบัติของชาติแท้ๆ ขายได้ยังไง ผม -- แหม เอ็งนี่ก็ เอ็งเคยขึ้นเครื่องบินการบินไทยใช่มั้ย ? เพื่อน -- ช่ายๆ ทำไมรึ ผม -- รู้มั้ยว่าเนี่ยก็แปรรูปมาเหมือนกัน เพื่อน -- อืมๆ ผม -- เมื่อก่อนเอ็งก้เห็น เครื่องบินนี่ โห ... เก่ายังพอทนแต่นี่ ที่นั่งอืดอัดมาก บิซซิเนสคลาสยังไงของมันวะตั้งแถวละ 8 ที่ ปรับเอนนอนก็เหมือนแค่พรีเมียม์อีโคของสายการบินอื่น แล้วของใหม่ เป็นไง อึ้งไปเลยสิ เพื่อน -- อืมๆ มันก็ใช่ ผม -- ก็เนี่ยแหละ เค้าเอาเงินที่ได้จากที่เค้าแปรรูปมาปรับปรุง อีกอยาง เมื่อก่อนจะทำอะไรก็ต้องปรึกษารัฐบาล จะซื้อหม้อใบนึงยังต้องทำเรื่องไปเลย แต่พอแปรรูป ก็มีอิสระมากขึ้น สามารถตัดสินใจอะไรๆได้รวดเร็ว เห็นมั้ยหล่ะ ซื้อเครื่องบินมาตั้งหลายลำ คิดปุ๊บ ประชุมปั้บ สั่งปุ๊บ เพื่อน --   นั่นสิเนอะ (แล้วเพื่อนก็เงียบไป) เอาแค่นี้ก่อน จริงๆมีอีกเยอะ แต่สรุป ผมถามว่าทำไมถึงเข้าข้างสนธิ เค้าก็บอกว่าเค้าสนธิพูดถูกยังไง มันบอกว่าไม่รู้ ตามกระแส เฮ้อๆๆ ..... จากคุณ : น้าเปี๊ยก - [ 5 เม.ย. 49 10:37:36 ]

ความคิดเห็นที่ 105 คห.๖ สิ่งที่ได้จากการแปรรูป (เพิ่มเติม) คือ การขายสมบัติชาติและประชาชนซึ่งได้รับพระราชทานจากพ่อหลวงรัชกาลที่ ๕ อย่าลืม ๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : อ.กรร - [ 5 เม.ย. 49 10:39:38 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ประเทศไทย ควรมีนายก ที่ เจ้าเล่ห์ ปลิ้นปล้อน เหมือนศรีธนชัย ผสม เซลล์แมน จอมกะล่อน ไหม จากคุณ : สุจิปุริ - [ 5 เม.ย. 49 11:07:52 ]

ความคิดเห็นที่ 107 จากคุณ : noom_no1 (ป่ารักน้ำ) - [ 5 เม.ย. 49 12:12:28 ]

ความคิดเห็นที่ 108 เลิกเอาพระนามร.5 มาอ้างเสียทีเถอะค่ะ หรือจะดองเป็นฟอสซิลสมกับสมัยร.5 ไปจนถึงยุคชาวโลกเขาอพยพกันไปดาวอังคารหมดแล้ว ? หรือจะรอจนกว่าการกฟผ.จะมีพนักงานนามสกุลเดียวกันหมดทั้งหน่วยงาน หรือต้องแบกค่าใช้จ่ายครึ่งหนึ่งของต้นทุนแต่พนักงานสะด๊วบโบนัสกันทุกปีไปจนชั่วลูกชั่วหลาน ? ยามที่ประเทศชาติมีแต่ปลิงกับขอนไม้ ขอเลือกเซลล์แมนดีกว่า จากคุณ : Pride - [ 5 เม.ย. 49 12:41:38 ]

ความคิดเห็นที่ 109 VOTE KRAB.. จากคุณ : Super Chew - [ 5 เม.ย. 49 12:41:51 ]

ความคิดเห็นที่ 110 โหวตครับ จากคุณ : SIMONs (SIMONs) - [ 5 เม.ย. 49 14:01:08 ]

ความคิดเห็นที่ 111 โหวตให้ครับ จากคุณ : VanGogh_Zaa - [ 5 เม.ย. 49 14:27:06 ]

ความคิดเห็นที่ 112 เราต้องการนายกที่เป็นผู้ปฎิบัติ มากกว่านักทฤษฎี จากคุณ : <didi> - [ 5 เม.ย. 49 14:27:18 ]

ความคิดเห็นที่ 113 บทความดี ๆ แบบนี้ ทำไมไม่ปรากฏในหน้านังสือพิมพ์บ้างนะ จากคุณ : ฟ้าฝนไม่เป็นใจ - [ 5 เม.ย. 49 14:58:11 ]

ความคิดเห็นที่ 114 #100 เคยฟังพระราชดำรัสเมื่อหลายปีก่อนหรือเปล่าเอ่ย ______________________________________________________ #108 คงหมายถึง #105 น่ะ ______________________________________________________ #105 ร.5 ท่านคงเศร้าใจที่เห็นเราเอาสิ่งที่ท่านมอบให้มาทำร้ายคนไทยด้วยกันเอง ด้วย ค่าไฟที่แพง จากองค์กรอันเทอะทะ แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 49 15:16:17 จากคุณ : dqfkztxc - [ 5 เม.ย. 49 15:09:44 ]

ความคิดเห็นที่ 115 #105 ยังไม่เลิกงมงายในสิ่งที่เจ้าลัทธิยัดใส่หัวอีกเหรอครับ ไปปลูกผักปลูกหญ้าอยู่ป่าเหอะ คอมพิวเตอร์มือถือ อินเตอร์เนต เลิกใช้ซะ  เพราะมันหมายถึง"ระบอบทักษิณ" ที่เจ้าลัทธิของคุณ รวมถึงนักวิชาการความคิดก้าวหลังพยายามยัดเยียด และพยายามสร้างภาพให้ดูเลวร้าย ถ้าทำไม่ได้ เรื่องห้ามแปรรูปอย่ามาพูดเหม็นขี้ฟัน +++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ขณะที่กำลังพิมพ์กระทู้ตอบได้ฟังช่อง 98.0 ตอน ราว 4 โมงเย็นกว่าๆ สัมภาษณ์ สุริยะใส ถึงแนวทางพันธมิตร พอสรุปได้ว่าจะโค่นล้มระบบทักษิณ แถมพกด้วยพรรคอะไรจำชื่อไม่ได้ ที่ครั้งที่แล้วเป็นพรรคฝ่ายค้านที่ผันมาผสมโรงยามคุณทักษิณเว้นวรรค ราวกับว่า ตอนนี้ไม่ซ้ำจะซ้ำตอนไหน ตอนนี้ถ้ากดไม่ให้โผล่ได้ ล้มไทยรักไทยได้ แล้วพรรคตนเองก็จะสามารถโงหัวขึ้นมาแทนได้โดยปริยาย (ไม่คิดถึงการที่จะนำเสนอนโยบายและปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมในกรซื้อใจประชาชน แต่ใช้วิธีสกปรก อุบาทว์ อีแอบ ตามพรรคนิยม ที่จะทำให้พรรคตัวเองกลับมาผงาดได้อีกครั้ง มักจะกล่าวหาการดำเนินนโยบายของ ไทยรักไทยว่าประชานิยม ... ตัวเองไม่ทำอะไร ประชาไม่ค่อยนิยม เลยไปว่าเค้า...) ตอนนี้มันจะไปกันใหญ่ แค่ท่านทักษิณเว้นวรรค ก็แสดงสันดานออกมาเป็นระยะ พยายามออกหน้ามาโชว์ แอบอ้างสิทธิต่างๆ เพื่อที่จะได้กุมอำนาจหากไทยรักไทยจำต้องหมดอำนาจทั้งพรรค(สิ่งที่เกิดได้ยากแต่ตอนนี้แต่ยกมาเป็นกรณีให้ดู) ถึงตอนนั้น คอยดูฝูงไฮยีน่า ถึงตอนนั้น อยากเห็นพวกสาวกพันธมิตรกู้ชาติ ถึงตอนนั้น ผมคงไม่อยู่ในไทยให้ถึงตอนนั้น พูดจริงๆหากเกิดเหตุที่มีแนวโน้มจะเป็นเช่นนี้ขึ้น มีความพยายามที่จะใช้ มาตรา 7 ให้ได้ซะเหลือเกิน อยากดูเหมือนกันว่าจะเสนอใคร อยากเห็นเหลือเกิน ท่านทักษิณ ตอนนี้เป็นโอกาสที่จะทบทวนสิ่งต่างๆที่ผ่านมา และส่วนตัวผมก็อยากให้มีการตวจสอบเหมือนกัน อยากให้ท่านได้มาอธิบายเรื่องต่างๆที่โดนกล่าวหาเช่นกัน(แต่รู้สึกว่าคงยากที่จะดึงอารมณ์ของพวกผักที่โดนล้างสมอง เพราะคงสายไป) จากคุณ : L RULES - [ 5 เม.ย. 49 19:04:02 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ก็บอกกันมาหลายกระทู้แล้วไงคะ ขับไล่ทักษิณก็แค่หมากตัวแรก จุดมุ่งหมายที่แท้จริงคือการล้มพรรคไทยรักไทย ยกเลิกมาตราที่ห้ามนักการเมืองย้ายพรรค ภายใน90วัน แก้กฏหมายไม่ให้มีพรรคการเมืองที่เป็นองค์กรใหญ่แบบนี้เกิดขึ้นอีก จุดมุ่งหมายนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามาจากพรรคอีแอบ ใช้วิธีการปลุกปั่น โน้มน้าว ชักจูงว่าตัวคือผู้สะอาดบริสุทธิ์ คนอื่นทุกผู้ที่เล่นการเมืองล้วนมีเบื้องหลังหมองหม่น เลวร้าย เข้าขั้นวิกฤต ในขณะที่ความเป็นจริง พรรคนี้ คือพรรคที่รวมคนทางทฤษฏีไว้มากที่สุด แต่ปฏิบัติไม่เป็น เขายอมรับกฏหมายในครั้งนั้นเพราะตนเป็นพรรคใหญ่ ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าทักษิณจะสามารถรวมเอาพรรคความหวังใหม่ และชาติพัฒนาเข้ามาร่วมจนเป็นพรรคที่ ใหญ่กว่าได้  วันนี้กฏจึงต้องถูกแก้ ระบบจึงต้องถูกล้าง เพราะไม่ว่าทักษิณจะเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ จะเล่นการเมืองหรือไม่ พรรคปชปก็รู้ดีว่าไม่สามารถสู้ขุมกำลังและสมองทางเศรษฐกิจกับพรรค ทรทได้เลย ตัดรากถอนโคนเสียแต่วันนี้ ดีกว่าถูกเขาฝังไว้ใต้โคลนตม ปชป จึงต้องสู้ตาย ด้วยวิธีสารเลวของพันธมิตร จากคุณ : ฟ้าใหม่วันใหม่ - [ วันจักรี 08:37:38 ]

ความคิดเห็นที่ 117 พวกคุณที่อ้าง ร.5 ท่านบ่อยครั้ง เคยได้พิจารณาหรือไม่คะว่าพระองค์ท่านเป็นผู้นำสิ่งใดเข้ามายังประเทศไทย แต่วันนี้เรากำลังต่อต้านค่ะ อย่ามองแค่รัฐวิสาหกิจ คุณมองให้กว้างคุณจะรู้ว่าทำไมท่านต้องนำค่านิยมของชาติตะวันตกเข้ามาในประเทศ วิสัยทัศน์ของท่านกว้างไกลนัก อย่ามาแอบอ้างเลยค่ะ ของคุณมันแคบเหมือนพวกหัวโบราณมากกว่า จากคุณ : ฟ้าใหม่วันใหม่ - [ วันจักรี 08:40:50 ]

ความคิดเห็นที่ 118 #78 #101 (ขอเขียนแบบรักษาน้ำใจกันครับ) ปัญหาที่ยุ่งอยู่ทุกวันก็เพราะ จุดสมดุลของประเทศ มีเพียงจุดเดียว (ไปอ่านเอาในกระทู้ที่เขียนๆ ไปแล้ว) ... ทุกคนอยากจะกำหนดจุดให้ประเทศยืนในตำแหน่งที่ตนต้องการ ... ในขณะที่ จุดสมดุลของคน สามารถอยู่ในที่ที่แตกต่างกันได้อย่างมากมาย ... ถ้าเปรียบแบบสามมิติก็อาจพูดได้ว่า ... จุดสมดุลของพวกเรา ก็เสมือนดวงดาวที่กระจายอยู่ในอวกาศ ... บางคนก็อยู่ใกล้กัน บางคนก็อยู่ห่างไกลกัน ตามแต่ธรรมชาติของคน (นิสัยสันดาน ฐานะฐานันดร สภาพแวดล้อมครอบครัว เชื้อชาติ ถิ่นอาศัย ศาสตร์ที่ศึกษา ความเข้าใจการมีอยู่ของตัวตนและจักรวาล ฯลฯ) ... บางคนอยู่ในกลุ่มสุริยะเดียวกัน (หมอกับหมอ หรือ กระเหรี่ยงคอยาวกับกระเหรี่ยงคอยาว ฯลฯ)  บางคนอยู่ห่างไกลกันลิบลับ (ผู้มีธรรมกับผู้เบียดเบียน หรือ พระลามะในยอดเขาสูงในธิเบตกับนักธุรกิจใหญ่กลางกรุงนิวยอร์ค ฯลฯ) ... บางคนมีจุดสมดุลที่สูง ... สุขก็ยากหน่อย ถ้าได้น้อยก็เป็นทุกข์ (อย่าง ลูกเศรษฐีได้รับโตโยต้าเป็นของขวัญวันเกิด อาจนอนดิ้นทุรนทุลายกับพื้นสามวัน)  ... บางคนมีจุดสมดุลที่ต่ำ ... สุขก็ง่ายหน่อย ถ้ามีมากกว่านั้นก็เป็นทุกข์ (อย่าง ยายแม้นได้รับเชิญไปฟัง BSO และรับประทานอาหารแบบตะวันตก ก็อาจนอนกลุ้มใจไปสามวันสามคืน) ... ท่านจึงแนะนำให้หา ทางสายกลาง  หรือ ความพอเพียง ของตัวเราเองให้เจอ (และอย่าไปพยายามยัดเหยียดทางสายกลางของเราให้กับคนอื่น) ... ให้รู้ตัวว่าเราเป็นใคร และถ้าเลือกได้ก็ให้เลือกจุดสมดุลที่ทำให้เรา สุขง่ายๆ ทุกข์ยากๆ ...  ไม่ได้บอกว่า มีมาก หรือ มีน้อย ... ถ้าคนหรือกลุ่มคนใดปล่อยให้ภาวะจิตสกปรกครอบงำนำทางได้ ... สัจธรรมจะนำไปสู่ความเสื่อมเอง ... ธรรมชาติจะทำลายสิ่งที่ไม่ถูกต้องด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง (วัวสองหัวย่อมจะอยู่ไม่รอด ถ้าอยู่รอดก็ทุกขเวทนา) ... ถ้ากลุ่มสื่อเดินเป็นกลุ่มก้อนผิดทางขาดจรรยาบรรณ ก็เป็นหน้าที่ของสื่อบางส่วนที่ต้องต่อสู้หาทางกำจัดกระแสที่ผิดพลาดนั้นเพื่อนำกลุ่มของตนเดินกลับมาสู่ทางสว่างเอง ... เราแทบจะไม่ต้องไปทำอะไรให้เหนื่อย หรือเดือดร้อนตัวเรา (ขอใช้แนวทาง สมานฉันทร์ ตามกระแสดีมั๊ย) ... เหมือนการปกครองในระบอบก็ต้องให้คนในระบอบต่อสู้ ... ถ้าอาศัยแนวทางนอกระบบ ก็เดือนร้อนกันไปทั่ว ... ห้ามแล้วไม่ฟัง ก็ทรมานตัวกันไป ... ในส่วนของสื่อ ถ้าเราใช้แนวทางนอกระบบหรือความแค้นเป็น เครื่องนำทาง ... คิดจะตอบโต้สื่อกลับแล้ว ยิ่งไม่ควร ... ผู้ใช้แนวทางนอกระบบที่เกินขอบเขตเกินไป ย่อมพาภัยเข้าหาตัวเองในที่สุด ... กฎแห่งกรรม ได้ทำหน้าที่บางส่วนกับ สื่อ ไปแล้ว ... ก็อย่างที่เห็นกันอยู่ ... จะไปร้อนรนเครียดแค้น หลับก็โกรธ ตื่นก็โกรธ กันทำไม ... หลายคนบอกว่า ห้องสีขาวแต่เจ้าสาวชุดดำ ... ก็อย่าเปลี่ยนให้มันเป็น เจ้าสาวชุดขาวกับห้องสีแดง ก็แล้วกัน ... วัฎจักรของ แม่ปูสอนลูกปู จะไม่มีที่สิ้นสุด ... ถ้าเปรียบให้เห็นก็อย่าง ระบบการปกครอง ... ระบบที่ไม่เหมาะสมก็จะค่อยๆ สูญพันธุ์ไป ... ที่อยู่ได้ก็เพราะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวบางอย่าง ... แต่ เวลา ก็จะทำหน้าที่ของมัน คือ ทำลายเอกลักษณ์นั้นในที่สุด ... เช่น คิวบาอยู่ได้ก็เพราะ คาสโต ... แต่ คาสโต ก็จะไม่อยู่ชั่วฟ้าดินสลาย ... เมื่อจากไป ใครคือผู้รับกรรม ... คนรุ่นต่อมาก็ต้องชดใช้กรรม ต้องปรับตัวเข้าหาโลกสมัยใหม่ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ... วันนี้ไม่ทำ พรุ่งนี้ใครสักคนก็ต้องทำ ... แล้วจะทิ้งภาระให้ลูกหลานกันทำไม ... ยิ่งทำช้า ราคาก็ยิ่งแพง ... รุ่นพ่อซื้อบ้านอาจผ่อนแค่ 10 ปีก็หมด แต่วันนี้ซื้อบ้านเนื้อที่เท่ากันกับรุ่นพ่อ ลูกต้องผ่อน 30 ปีก็ยังไม่หมด (อ้อ ไม่ต้องมาเถียงเรื่องค่าเงินกับเงินเฟ้อนะ  ต้องหัดพยายามก้าวข้าม ช่องแคบ ทางปัญญากันให้ได้) ... ถ้าเอามาเปรียบกับ สื่อ ก็เห็นๆ กันอยู่ ... การปรับตัวของ เนชั่น ... ผู้นำรุ่นก่อนพยายามจะก้าวห่างออกมาเพื่อให้องค์กรได้ปรับตัวยืนอยู่บนขาของตนเอง ... ถ้าองค์กรไม่สามารถสร้างดาวรุ่งที่มีคุณธรรมอยู่ในหัวใจทดแทนได้ทันเวลา ... หรือมีดาวรุ่งที่ไม่เหมาะสม (แล้วขวางทางคนที่เหมาะสมกว่าไว้ เหมือนรัฐวิสาหกิจกลัวการแปรรูป) ... ความเสื่อมก็จะมาเยือนในที่สุด ... เพียงแค่อาศัยบารมีที่คนรุ่นก่อนสั่งสมไว้ บวกกับ ฝีปากกล้า นั้นไม่พอจะช่วยให้องค์กรอยู่รอดในระยะยาว ... ก้าวล้ำเส้นจนเกินขอบเขตของข่าว โดยใช้ความรู้สึกของตนเองพยายามจะช่วยสร้างกระแสโดยขาดสติและปัญญาแล้ว ... ความเสื่อมก็จะมาเยือนในที่สุด ... ไม่มีใครต้องไปทำลายอะไร ... ผจก ก็หนีไม่พ้นสัจธรรมเดียวกัน ... ถ้าผู้นำหลงทางเสียเอง ... ในเชิงการตลาดก็คงต้องบอกว่า ... ไม่มีอะไรจะทำลายฐานส่วนแบ่งทางการตลาดได้มากขนาดนี้อีกแล้วในชั่วข้ามคืน ... กฎแห่งกรรมจะทำหน้าที่ของมันเอง ... แม้กระแสพวกพ้องอาจช่วยสนับสนุนในระยะสั้น แต่ระยะยาวแล้วความอยู่รอดขึ้นอยู่กับแก่นแท้ของความถูกต้องตามเนื้อหาสาระของ ข่าวสารที่บริสุทธิ์ เป็นหลัก ... ถ้า ข่าวไม่บริสุทธิ์ จะเรียกร้องหา ความเสรี เป็นเกราะกำบังได้อย่างไร ... ถ้าไม่เป็นกลางก็ต้องประกาศตัว และไม่ใช้สถานะของสื่อเป็นเกราะกำบังอีกต่อไป ... ความเป็นกลางของสื่อเท่านั้น ที่เป็นเกราะกำบังให้กับฐานันดรได้ ... ไม่ใช่อีกหลายอย่างที่เอามาอ้างกัน ... อ้อ อย่าบอกนะว่าปัจจุบัน แนวข่าวน้ำเน่าขายดี (จน เนชั่น ต้องพัฒนาลงมาหาไทยรัฐเดลินิวส์) ... คำตอบคือ สัจธรรมของเวลายังมาไม่ถึงวันพิพากษา ... ไม่ว่าอย่างไร คนรุ่นชอบข่าวน้ำเน่า (ขออภัยอาจฟังเหมือนดูถูกดูแคลนไปนิด) ก็จะเป็นคนส่วนน้อยของประเทศในที่สุด ... โลกจะเปลี่ยนแปลงไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม ... ประเด็นก็คือคุณเลือกจะปรับตัวเอง หรือคุณจะให้คนอื่น (อย่าง เทสโก้โลตัส ทำกับกลุ่มโชห่วย) มาบังคับให้คุณปรับตัว ... คนบางคนอาจเชื่อว่าเมื่อถึงวันนั้นเขาก็ปรับตัวทัน ... คนที่รู้จริง และเคยเห็นหรือเคยผ่านการเปลี่ยนแปลงมามากพอจะรู้ว่า ... ทำ มันไม่ง่ายอย่างพูด ... เราจึงเห็นคนเก่งมากมายอาศัยการกลายเป็น ผู้ล้มละลาย เพื่อให้อยู่รอดในสังคม ... มันเป็นเช่นนั้นเอง ... แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 49 16:48:13 แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 49 13:58:49 จากคุณ : Rockhill - [ วันจักรี 09:25:23 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ดิฉันนับถือค่ะ คุณ rockhill ตอบใน คห 118 ได้ดีเหลือเกิน รวมถึงประโยคที่ว่า "เราจึงเห็นคนเก่งมากมายอาศัยการกลายเป็น ผู้ล้มละลาย เพื่อให้อยู่รอดได้มากมายในสังคม ...." ขอคารวะค่ะ จากคุณ : ฟ้าใหม่วันใหม่ - [ วันจักรี 09:40:06 ]

ความคิดเห็นที่ 120 #85 ผมเชื่อคุณ Rockhill ก็คือหนึ่งในคนกลุ่มเล็กนั้นแหละ _________________________________________ ผมเป็นได้ก็แค่คนบ้านนอกจากปักธงชัยเท่านั้นครับ ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่านั้นจริงๆ  ต้องขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิด ผมเองไม่เคยเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเมืองอย่างแน่นอนที่สุดครับ  เพียงแค่ต้องการใช้โอกาสได้แสดงความคิดเห็นให้สังคมได้รับรู้เสียงของคนไทยคนหนึ่งเท่านั้น   ถ้าติดตามบทความของผมมาโดยตลอดก็จะเห็นเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่ 3 ประการ คือ     หนึ่ง  หยุดยั้งการนองเลือดให้ได้     สอง  ช่วยคุณทักษิณ (แต่ก็อย่างที่บอก ผมเป็นแค่กิก <justgig> เท่านั้นเอง)     สาม  อยากให้การเมืองเปลี่ยนจากการแย่งชิงอำนาจผลประโยชน์ เป็นการแย่งกันพัฒนาประเทศ   มาถึงจุดนี้คิดว่าหมดภาระหน้าที่ของตัวละครอย่างผมแล้ว ที่เหลือฝากไว้กับพวกเราทุกคน  ขอบคุณสำหรับทุกน้ำใจไมตรีที่ดีครับ ขอทรงพระเจริญ แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 49 00:13:20 แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 49 00:06:56 แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 49 21:26:04 จากคุณ : Rockhill - [ วันจักรี 21:24:36 ]

ความคิดเห็นที่ 121 พอดีได้มาอ่าน เลยเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า การคอร์รัปชั่นมโหฬารในระดับนโยบายที่ทำให้ประเทศชาติเสียผลประโยชน์เป็นพันล้านต่อปี มันไปตกหล่นเสียที่ไหนหนอ........ การครอบงำเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นโดยคนเพียงไม่กี่กลุ่มในช่วงห้าปีที่ผ่านมา มันไปตกหล่นอยู่ที่ไหน ฤ การบ่อนทำลายองค์กรอิสระอย่างเป็นกระบวนการ จนทำให้องค์กรที่มีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลเหล่านั้นอ่อนแอ ไร้น้ำยามันอยู่ไหนกันรึ ไอ้สินอาจดูเก่ง  รวดเร็ว  มีความสามารถ แต่นั่นก็เป็นภาพลวงตา อันเนื่องมาจากไอ้สินคุมโทรโข่งของบ้านเอาไว้ในมือ ลองกลับไปดูตัวเลขการคลังของบ้านเราหน่อยเป็นไรว่าตอนนี้เป็นอย่างไร    เนื่องเพราะนโยบายแมวนิยมของไอ้สิน แจกปลาทูดะไม่เลือกหน้า หลายอย่างที่เป็นพื้นฐานของบ้านนี้เมืองนี้  การคลัง  จริยธรรม  องค์กรอิสระเพื่อตรวจสอบอำนาจการจับหนูของไอ้สิน ล้วนแล้วแต่พังย่อยยับไปแล้ว   เมื่อเทียบกับความเก่งกาจของไอ้สินจับหนูจนหดหาย แต่เรือนใกล้ทรุดแล้ว อันเนื่องมาจากรากฐานถูกบ่อนทำลาย  มันไม่คุ้มกันเลยนะเราว่า   สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา  ก่อให้เกิดผลสะเทือนลึกซึ้งต่อระบบประชาธิปไตยของประเทศ   ต่อระบบจริยธรรมของคน  ต่อระบบความเป็นธรรมในการแข่งขันทางธุรกิจ(ซึ่งแม้จะไม่ค่อยมีเท่าไร  แต่ก็ไม่เคยถูกผูกขาดรุนแรงมหาศาลแบบนี้)  ระบบการคลังที่คนรุ่นก่อนหน้าพยายามวางรากฐานให้แข็งแกร่งอย่างที่ประเทศเล็กควรจะมี......     เมื่อพิจารณาจากทั้งหมด  ไอ้สินควรลงจากหลังคาจริง ๆ เพื่อให้จัดระบบขึ้นมาใหม่  เหตุผลไม่ใช่เพราะไอ้สินเก่งเกินไป นั่นเป็นแค่โคสะนามาร์เก็ตติ้งที่ลิ่วล้อไอ้สินสำแดงให้เราเห็น  แต่เป็นเพราะไอ้สินแผ่ขยายอำนาจไม่ใช่แค่จับหนูแต่กลายมาเป็นชี้เป็นตายให้คนในบ้านได้แล้วต่างหาก   ตัวไอ้สินเองก็เป็นส่วนหนึ่งของวงจรอุบาทว์ในบ้านที่นำไปสู่ความรุนแรงในที่สุด  การนำเอาแมวสีน้ำตาลที่ชื่อสินออกไปจากบริบทแห่งการเผชิญหน้าในชุมชนนิทานแมว  โดยอ้างว่าฝ่ายอื่นเป็นผู้ก่อเป็นการเล่านิทานระบายสีขาวให้แมวน้ำตาลกลายเป็นแมวเทพอย่างควรละอาย  เพราะพฤติกรรมของเจ้าเหมียวสินห่างไกลจากคำว่ารักสงบ ประนีประนอม  รับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายมากนัก แม้เป็นนิทานก็ควรประกอบด้วยการพิเคราะห์ให้ลึกซึ้ง กว้างไกล และเปิดกว้างมากกว่านี้   อย่าหลงเพียงนโยบายมาร์เก็ตติ้งชิ่งงบมาโปะหน้าอย่างทุกวันนี้เลย จากคุณ : ตาหวาน - [ 7 เม.ย. 49 01:03:24 ]

ความคิดเห็นที่ 122 สินเป็นแมวที่เลวหรือเปล่า? คำตอบคือสินเป็นแมวที่มีนิสัยเยี่ยงแมว เมื่อมีปลาย่างวางอยู่ใกล้ย่อมต้องถูกแมวขโมยเอาไป เฉกเช่นเดียวกับเจ้าเทียม เจ้าษิต หรือแมวตัวอื่นๆที่เคยอยู่ในบ้านหลังนี้ แต่เจ้าสินเป็นแมวเปิดเผยกินให้ดู คาบให้ดู ก็เลยซวยไป ผิดกับแมวตัวอื่นคาบไปซ่อนจนใกลท้ายซอยแล้วค่อยๆย่องกลับไปกิน ความที่ไอ้สินเป็นแมวที่ทำงานโดดเด่นแมวบางตัวก็ยอมรับให้ไอ้สินเป็นหัวโจก เพื่อให้ตัวมันได้ความดีความชอบไปด้วย ถามว่าไอ้สินแจกปลาทูไปทั่วพวกมันจึงมาหรือ? ไม่เลยแต่พวกมันรู้เพราะเห็นว่าเมื่อไอ้สินจับหนูได้ย่อมได้รับรางวัล หรืออาจได้ส่วนแบ่งหนูที่มีอยู่มากมายด้วยก็ได้ ไอ้สินก็เลยเป็นแมวที่ดูเล่นพวก แถมบางทีดูจะมีพวกมากกว่าตัวอื่นๆที่เคย เป็นหัวโจกของบ้าน เจ้าสินเก่งที่รู้จักหาอาหาร และรางวัลให้กับพวกพ้อง แต่เจ้าสินก็ไม่ใช่จะยอมให้พวกพ้องนั่งกิน นอนกินสบาย ทุกตัวต้องรู้หน้าที่ ต้องทำงานถึงจะได้ส่วนแบ่ง ถ้าไม่ทำ อาจไม่ถูกนับเป็นพวก ยิ่งไอ้พวกจะมาขอฟรีจากไอ้สินยิ่งไม่ต้องหวัง อย่างพวกเจ้าโอ หรือเจ้าสือก็ดี ที่คอยพูดโน่นพูดนี่จริงบ้างไม่จริงบ้าง คอยมาสั่งเจ้าสินวิ่งไปนั่นไปนี่ทั้งที่ไม่มีอะไร ถึงเวลาจะมาขอส่วนแบ่ง ไอ้สินย่อมให้ไม่ได้ เมื่อก่อนที่บ้านหลังนี้ ปลาย่าง และของกินหายบ่อยครั้ง ทุกคนก็บอกว่าเป็นเพราะหนูมันขโมยเอาไป มันลากเอาไป ทั้งที่จริงๆแล้ว หลายส่วน และเป็นส่วนที่มากเสียด้วยถูกแมวในบ้านนั่นเองเป็นคนเอาไป คาบไปกินใกล นอกบ้าน ไม่มีใครเห็น หรือเห็นก็ทำเฉยเสีย เพื่อถึงคราวตัวจะได้เอาบ้าง  บางครั้งหนักขนาดชวนแมวต่างถิ่นเข้ามาเอาถึงในบ้านด้วยซ้ำ ถึงแม้ได้ค่าเช่าจากเฮียกิจ แต่เศรษฐกิจในบ้านก็ไม่ค่อยดี อยู่กินไม่สุขสบายนัก เจ้าของบ้านเห็นจำนวนหนูมากมายก็เชื่อว่าคงเป็นฝีมือหนูจริง จนมาวันนี้...หนูหดหายไปมาก แมวที่เคยแอบอ้างหนู เพื่อเอาของกินเป็นของตัวเองก็เดือดร้อน จะขโมย เจ้าของบ้านก็ต้องรู้ แถมมีเจ้าสินมาคอยดูเสียอีก อดอยากไปมาก ผอมโซ แมวต่างถิ่นที่ตัวใหญ่กว่ามากก็ชักไม่ไว้ใจ เร่งเร้าให้จัดการเจ้าสินให้พ้นทาง พวกมันจึงคิด... นิสัยแมวก็คือแมว จะทำให้แมวอย่างไอ้สินอัปจนก็ไม่ยาก ทำให้เจ้าสินเป็นแมวขโมยอย่างที่ตัวเองเคยทำแล้วแอบอ้างหนู เท่านี้เจ้าสินก็ไม่มีที่ซุกหัวนอนแล้ว แต่จะให้ดีต้องเอาพวกเจ้าสินออกไปให้หมดด้วย ไม่งั้นอาจมาปูดเอาทีหลังได้ว่าเป็นฝีมือ แมวขโมยตัวจริงที่แอบซ่อนอยู่ หรืออาจมีตัวใหนในกลุ่มเก่งพอจะขึ้นมาเทียบไอ้สินได้อีก อย่างนั้นแล้วคงลำบาก และให้ดี ก็ต้องเอาหนูเข้ามาในบ้านอีกเยอะๆ ให้เจ้าสินไม่มีเวลามาแก้ตัว เอาให้เจ้าสินวุ่นตัวเป็นเกลียว แล้วตีหัวมันซะเลย ฮ่าๆๆ คลังเสบียงของเจ้าสินที่เก็บรางวัลไว้แม้ได้รางวัลมามากก็ต้องแบ่งออกไปมากเพราะแมวตัวอื่นก็ทำงาน แต่เจ้าสินก็เก่งไม่น้อย เพราะเมื่อคลังร่อยหรอเจ้าสิน ก็เติมได้เร็วทันใจ ไม่เคยปล่อยให้พวกพ้องลำบาก และไม่เคยทำให้เจ้าของบ้านเดือดร้อน ของในบ้านก็อยู่ครบ แต่ก็กลับกลายเป็นเจ้าสินถูกกล่าวหา ว่าตะกละ ได้เท่าไรไม่เคยพอ เอาของกินไปผลาญ เที่ยวเร่แจก หาพวกพ้อง หวังตั้งตัวเป็นหัวโจก ต่อไปคงเริ่มทำลายข้าวของในบ้าน เอาของในบ้านไปขาย และกัดคนในบ้านด้วย ต่างๆนานา ทั้งที่จริงๆเจ้าสินเพียงคาบผ้าปูที่นอนเก่าของแมวขี้เกียจที่สกปรกเป็นแหล่งเชื้อโรคของบ้าน และเป็นตัวนำมาซึ่งหนูออกไปทิ้งเท่านั้นเอง เจ้าสินเป็นแมวฉลาดมีหรือจะไม่รู้ทันเกมนี้ หากแต่เจ้าสินไม่ใช่แมวพูดเก่ง ประจบประแจง ซึ่งเจ้าของบ้านเองก็รู้ดี แต่คนในบ้านส่วนใหญ่ ไม่สนใจ และเริ่มคล้อยตามแมวที่ไม่ได้ส่วนแบ่ง ขี้เกียจไม่ทำงาน ประจบสอพลอขอส่วนแบ่งที่เริ่มมีจำนวนมากขึ้นๆ หน้าบ้าน พวกมันหาว่าเจ้าสินพวกมาก จะยกพลมาตีมัน เจ้าของบ้านต้องช่วย แต่ไม่เคยเห็นเจ้าสินทำสักที ทั้งที่เฮียกิจก็ลุ้นๆอยู่ให้มันเหมือนกัน พวกมันบอกว่าเจ้าสินแอบประจบเจ้าของบ้าน ใส่ร้ายพวกมันเป็นแมวขี้เกียจ ไม่ยอมให้มันได้เจอเจ้าของบ้าน ก็ไม่เห็นพวกมันกล้าเข้าไปเจอเจ้าของบ้านสักที ตะโกนฟ้องอยู่หน้าบ้านให้ท่านรำคาญ แถมพูดเสียๆหายๆให้ท่านระคายหูอีก ถึงตอนนี้ไอ้สินก็ยังไม่ยกพวกตี แถมบอกลูกน้องว่า “อย่า เดี๋ยวมันจะวุ่นกว่าเดิม” “กลับกันเถอะ” ไม่เคยเห็นไอ้สินตีพวกปากมาก นี่เสียที  พวกมันหาว่าเจ้าสินพยายามยึดโทรโข่งเพื่อให้ตัวเองเสียงดังกว่า อนิจจา ตัวมันเองถือโทรโข่งด่าอยู่ปาวๆ ไม่เห็นไอ้สินทำอะไร วงจรอุบาทว์ของบ้านนี้ ไม่รู้เหมือนกันจะจบลงตรงใหน แต่ที่แน่ๆ ไม่ว่าใครอยู่หรือไปบ้านนี้ก็ไม่ได้อะไรดีขึ้นมา มีแต่จะแย่ลงกว่าเดิม ใครรู้ช่วยต่อทีนะคะ จากคุณ : ฟ้าใหม่วันใหม่ - [ 7 เม.ย. 49 10:25:56 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ตลกกับความคิดว่ารัฐบาลยึดครองสื่อทั้งหมด ถ้ายึดหมดจริงๆ แล้วไอ้ที่มาปาวๆ เอียง ป้ายสีใส่ ตลอดมาหละ ถ้ายึดครองจริง คิดว่าสื่อเหล่านี้จะมีที่ซุกหัวนอนมั้ย คิดอะไรตื้นๆ ไม่เคยใตร่ตรองก่อนที่จะผายลมออกมา ทั้งเรื่องคอรัปชั่น หรือการปกครอง ทำไมไม่ไปให้กระบวนการยุติธรรมจัดการ มาหาเรื่องกันปาวๆข้างถนน ไม่เคยแม้แค่นิดเดียวที่จะใช้กระบวนการยุติธรรม (หาว่าโดนครอบงำอีก?) หรือหลักฐานไม่มีเพราะทักษิณเก่งมาก ซ่อนหลักฐานหาทางหลบได้หมด? โอ้ย ถ้าเหตุผลเช่นนั้น อยากจะบ้า ถ้ามีหลักฐานตามกล่าวอ้างจริง และพิสูจน์ได้ว่าผิดจริง ผมว่าไม่ต้องมานั่งไล่ให้เมื่อยตุ้มให้เนื่อยคอกันหรอก ถ้าผลตัดสินออกมาว่าผิดเช่นนั้น ทักษิณคงจะเผ่นออกประเทศแทบไม่ทัน แต่นี่อะไร มาตัดสินกันเองข้างถนน โดยฟังไอ้คนที่ไม่ได้รับการเอื้อจากทักษิณ แล้วก็เชื่อกันเป็นตุเป็นตะ พิพากษากันไปเรียบร้อย เป็นตุลาการ เป็นศาลกันหรือไง ถุด !!!   ขอถุยน้ำลายถ่มความเลว raยำ เหล่านั้น (ขอโทษในความถ่อย แต่ไม่ขอโทษที่ถ่มน้ำลาย) นี่แหละคือสันดานที่แท้จริงของสังคมไทย มักตัดสินคนอื่นโดยความรู้สึก โดนชักจูงง่าย หลายๆต่อหลายคนที่ถูกสังคมพิพากษาโดยที่ยังไม่รู้ถูกผิด แต่เพียงเพราะสื่อบางอัน คนบางคนที่มีอิทธิพลในสังคมได้ชี้ขาดเค้าไปเสียแล้วโดยไม่เคยได้ผ่านกระบวนการยุติธรรมใดๆ ไม่เคยฟังเหตุผล ไม่เคยยอมศึกษาอะไรที่ยุ่งยาก หากแต่ชอบอะไรง่ายๆไม่ต้องตรอง ป้อนมาเหอะ ... เชื่อแหละ บัดซบสิ้นดี สังคมแบบนี้ ทุกวันนี้ดูข่างได้แต่สมเพช ความพยายามของกลุ่มคนที่คิดว่าตนเองได้รับชัยชนะ แสดงสันดานดั่งไฮยีน่า  พยายามออกมารุม ทึ้งล้มล้างระบบ"ทักษิณ" ซึ่งตัวเองออกมาอุปโลกกันเอง สร้างภาพใส่ไข่ให้ดูน่ากลัวจนเว่อร์ไปหมด   พยายามจะล้ม อิงกระแส เพื่อที่จะกำจัดในสิ่งที่ไม่สามารถจะต่อสู้ได้ (เพราะไม่มีปัญญา  ไม่เกี่ยวกับเงิน เพราะนายทุนหนุน ปชป ไม่ใช่ขี้ๆกันน้ะ หรือจะเถียง) สลดใจครับ ถ้าเกิดยอมกันต่อไป ก็ได้แต่นับเวลาถอยหลังสู่ความ ซิบหาย จากคุณ : L RULES - [ 7 เม.ย. 49 12:10:58 ]

ความคิดเห็นที่ 124 เมื่อชาติมีภัย (ฉบับ สุดท้าย) ถึง บุคคลที่กำลังจะมีส่วนสร้างบรรทัดฐานให้กับสังคม คนเรียนมากกว่า ... จำเป็นต้องถูกต้องเสมอไปทุกครั้งหรือเปล่า ... คนที่มีประสบการณ์มากกว่า ... จำเป็นต้องถูกต้องเสมอไปทุกครั้งหรือเปล่า ... คนที่รวยมากกว่า ... จำเป็นต้องถูกต้องเสมอไปทุกครั้งหรือเปล่า ... คนที่มียศฐาบรรดาศักดิมากกว่า ... จำเป็นต้องถูกต้องเสมอไปทุกครั้งหรือเปล่า ... แม้แต่คนหมู่มากกว่า ... ก็ยังไม่แน่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกต้องหรือเปล่า (อย่างที่พยายามจะอ้างกัน) ... คนเราทุกคนก็มีโอกาสตัดสินใจผิดพลาดกันได้เสมอ ... เมื่อมีความไม่แน่นอนมากมายขนาดนี้ ... ทำไม ผู้รู้ ดูเหมือนจะใช้ อัตตา แทน ปัญญา ... ผมเชื่อเสมอว่าถ้าเราแก้ปัญหาด้วยแนวทางที่ ถูกต้อง และ ชอบธรรม จริง ... ไม่ว่าปัญหาจะหนักขนาดไหนก็มีทางออกที่ เบาและไม่ทารุณ เป็นทางเลือกให้อยู่เสมอ ... ทำไมผู้รู้เลือกทำลายกฎกติกา ... และเอาเสถียรภาพความมั่นคงของชาติเข้ามาเสี่ยง ... คนเราทุกคนทำผิดพลาดกันได้เสมอ ... ถ้ามองจากภายนอก ความเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้ง่ายมาก ... โดยเฉพาะสังคมของเรา ไม่สังเกตหรือครับว่าข่าวลือมันมากขนาดไหน ... เล่าเหมือน รู้จริง เกิดจริง และเชื่อกันเป็นตุเป็นตะ ... พอถามว่ามีหลักฐานอะไร ... ส่วนใหญ่ก็อึ้ง และบอกว่าคนโน้นคนนี้ (อันเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือได้) เขียนไว้ในหนังสือ หรือบอกต่อกันมา ... เคยเล่น เกมกระซิบ กันมั๊ยครับ ... ถ้าคนที่มีภาพเป็นฝ่ายธรรมะเกิดหลงทางชั่ววูบ ... ใช้ความน่าเชื่อถือของตนสร้างแนวทาง อวิชา โดยปลุกกระแสของคนขึ้นมาเป็นเครื่องมือด้วยกลไกของ fear mechanism ... ผลักดันความคิดของตนเพื่อเป็นฝ่ายชนะในทางการเมืองให้ได้ ... เราแน่ใจหรือว่า เราต้องเป็นฝ่ายถูกต้องอย่างแน่นอนที่สุด ... ประวัติศาสตร์ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าแม้แต่สังคมที่อ้างนักหนาว่าเป็นผู้เจริญก็พลาดกันมามากแล้ว ...ผู้หญิงที่ดีดีถูกเอาไปเผาในฐานะแม่มด โดยใช้มาตรฐานความรู้ความเชื่อของคนชั้นนำในสังคม ณ ขณะนั้นๆ มาตัดสิน ... ก็ล้วนคนกลุ่มอยู่ในศีลในธรรมทั้งนั้น ใช่มั๊ย ... เราแน่ใจกันแล้วหรือว่ามาตรฐานชีวิตของเราควรเป็นบรรทัดฐานของสังคม ... และจะทำให้ประเทศชาตินี้อยู่รอดได้โดยไม่ใช้วิธีเอารัดเอาเปรียบชนชั้นล่าง ... บางทีผมก็ไม่แน่ใจว่า ผมต่อสู้อยู่ในสงครามการเมืองหรือสงครามเลิกทาส ... กรณีของสื่อ ... ต้องยอมรับว่า สื่อหลายท่าน ก็นำเอาเสถียรภาพและสถานะความเป็นสถาบันของสื่อมาใช้เกินจุดของความเหมาะสม ... อย่าเถียงเลยครับ ... สื่อว่าคุณทักษิณใช้อำนาจเกินขอบเขต ... ผมว่าสื่อบางท่านก็กำลังทำสิ่งเดียวกับที่คุณว่าคุณทักษิณอยู่นะ ... abuse of power ... อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่จำเป็นต้องถึงกับทำลายกันให้สิ้นซากใช่มั๊ย (ไม่มีคุณผมก็เหงาแย่) ... ต่อสู้กันทางความคิดกันพองาม ... แพ้ทางปัญญา พรุ่งนี้ไปค้นคว้าศึกษามาให้พอ แล้วลุกขึ้นมาสู้ใหม่ได้ ... พยายาม educate กันอย่างสร้างสรรค์เมื่ออีกฝ่ายมี bad judgement ... อย่าถึงขั้นเอาชีวิตคนอื่นมาเสี่ยงให้เป็นตราบาปติดตัวเราไป ... ถ้าเกิดขึ้น ... สักวันเมื่อคิดได้ คุณอาจไม่ให้อภัยตัวเอง ... ผมไม่อยากให้ใครต้องเข้าไปเผชิญกับประสบการณ์ของ กฎแห่งกรรม เช่นนั้น ... แนวทางก็คือพยายามรักษาเวทีของการต่อสู้เอาไว้ในสภาดีกว่า ... จะได้ไม่เดือดร้อนคนที่เขายังไม่เข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริงและไม่สามารถวิเคราะห์มันได้ลึกซึ้งถูกต้องพอ ... คนเก่งบ้านเราเยอะครับ และทุกคนก็ไม่มีใครคิดว่าตนคิดผิดได้ง่ายๆ หรอกครับในประเทศนี้ ... ถ้าวันนี้ เรายอมรับบรรทัดฐานทางการเมืองที่ไม่ยอมรับเสียงส่วนใหญ่ ... ผมทำนายว่าบรรทัดฐานนี้จะทำให้คนไทยต้องฆ่ากันเป็นพันเป็นหมื่นในอีก 20 ปีข้างหน้า ... เพราะความขัดแย้งทางการเมืองจะเกิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุดครับ ... ย่อมจะมีฝ่ายหนึ่งได้เปรียบอีกฝ่ายหนึ่งอยู่เสมอ ... เมื่อไรที่ ฝ่ายที่มีเสียงส่วนน้อย ใช้ความรู้สึกว่าอีกฝ่ายจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปไม่ได้อีกต่อไปแม้แต่วันเดียว (ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม) ... และไม่ยอมรับแนวทางการต่อสู้ด้วยระบบเสียงส่วนมาก ... หาเหตุผลมาอ้างเพื่อใช้แนวทางนอกสภาจนดูชอบธรรม ... เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ให้ได้ ... เอาชีวิตคนมาเล่นเป็นเกม ... ในอีก 20 ปีข้างหน้าอะไรจะเกิดขึ้น ... ใครจะเตือนสติลูกหลาน ... จะหลีกเลี่ยง สงครามกลางเมือง อย่างไร ... พวกเรารักษาแนวทางสันติไว้เป็นบรรทัดฐานให้ลูกหลานได้จดจำไม่ดีกว่าหรือครับ ... สอนให้เขาใช้สมองและเหตุผลต่อสู้กันด้วยสันติวิธี ... ใช้ความอดทน รักษากติกา เอาไว้เพื่อเป็นทางสายกลางให้ทุกคนได้ยึดเหนี่ยว ... คนที่จะต่อสู้กันในอีก 20 ปีข้างหน้า จะได้ไม่อ้างว่าที่เขาต้องทำลายล้างกันถึงเลือดเนื้อ ก็เพราะเรียนรู้และจดจำบรรทัดฐานที่พวกเราทิ้งเอาไว้ให้กับสังคม ... แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 49 12:51:12 แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 49 12:47:52 จากคุณ : justgig - [ 8 เม.ย. 49 12:39:50 ]

ความคิดเห็นที่ 125 vote จากคุณ : FARM-C - [ 8 เม.ย. 49 15:23:15 ]

ความคิดเห็นที่ 126 โหวตให้ กระทู้นี้ค่ะ อย่าหายไปไหนนะ จะกลับมาตามอ่านอีก จากคุณ : Roborovski - [ 8 เม.ย. 49 15:44:39 ]

ความคิดเห็นที่ 127 #121 เรื่องนโยบายด้านการเงินการคลังนั้น ... ผมคิดว่า คุณทนง คุณสมคิด และทีมที่ปรึกษาด้านการเงินการคลังของคุณทักษิณคงตอบโจทย์คุณได้ไม่มีปัญหาอะไร (ไปถามเองนะ) ... เรื่องมันยาว ถ้าคุณมีความรู้จริง ก็จะไม่ยกประเด็นนี้ขึ้นมา ... คำถามนี้ต้องเป็นคนไม่ค่อยรู้ถึงถาม (เหมือนประเด็นเรื่อง รัฐวิสาหกิจ นั้นหละ) ... หรือว่าคุณเป็น ปชป (รู้คำตอบแล้ว ชอบแกล้งโง่ยกขึ้นมาเป็นประเด็นอยู่เรื่อย ว่างมากหรือไง) ... เรื่องนี้ คนที่เรียน Macroeconomic และ Public Policy มา จะเข้าใจว่าบางทีมันชี้ถูกชี้ผิดทันทีไม่ได้ ต้องดูกันยาวๆ ... เหมือนจะไปเชียงใหม่ บางคนก็อยากเดินไป บางคนเลือกรถประจำทาง บางคนอยากนั่งเครื่องบิน ฯลฯ ... ถามว่าวิธีไหนถูก ... บางคนก็อาจบอกว่าโง่มากที่นั่งรถยนต์(เสียเวลา) ... บางคนก็บอกว่าโง่มากที่นั่งเครื่องบิน (เสียเงิน) ... อีกคนก็อาจบอกว่าทำไมไม่ไปรถไฟ (ปลอดภัยกว่า) ... มันขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการอะไร ... เวลา เงิน หรือ ความปลอดภัย ... ใครเป็นรัฐบาลก็เป็นสิทธิของเขาที่จะเลือกวิธีไป ... ต้องให้เกียรติกับระบบบ้าง ... ตอน ปชป เอาเงินไปหว่านในโครงการมิยาซาว่า ... ทำไมเงียบเป็นป่าช้ากันหมด ทั้งที่มีทุจริตเยอะแยะ ... มีข่าวแม้กระทั่งมีงบไปทาสีโรงเรียนที่เขาพึ่งจะทาสีเสร็จไปแล้ว ... มีคนไปขอให้เขาตั้งงบขึ้นมาใหม่เพื่อเอาเงินไปแบ่งกันคนละครึ่ง ... ไม่ต้องพูดถึงงบตัดหญ้าของกรมชลฯ ที่มีรายชื่อลูกจ้างผีทั่วประเทศ ... ฯลฯ ... ปชป วางโครงสร้างการเงินของประเทศมาดีมากนะ ... รู้จริงหรือเปล่า หรือไปฟังขี้ปากใครมา ... ลองไปถามคนที่อยู่สำนักงบประมาณในสมัยนั้นดูดีมั๊ย ... ทรท เข้ามาสมัยแรกก็ชนะถล่มทลายเลยนะ ... ปชป วางโครงสร้างไว้ดีมาก (จนไม่มีใครเลือกเข้าสภา) ... ปีแรกก็เห็น ทรท ต้องปลุกปั้มกับเศรษฐกิจแทบแย่ ก็เห็นกระเสือกกระสนตั้งนานกว่าเศรษฐกิจจะโงหัวขึ้น ... จำกันไม่ได้แล้วหรือ ... แหม ปชป วางรากฐานไว้ดีมาก ... เท่ห์มาก ... ขโมยผลงานเขาดื้อๆ เลยนะ ... ความจริงก็คิดว่าพอจะอธิบายให้ฟังได้มากกว่านี้ แต่ขอบอกอย่างไม่อายว่าขี้เกียจมานั่งหารายละเอียดและจัดระบบอธิบายเรื่องที่มหาวิทยาลัยเขาต้องสอนกันเป็นปีถึงจะเข้าใจ (เรื่องนี้คนรู้ก็รู้ คนไม่รู้อธิบายก็เหงื่อตก ... ที่สำคัญ เรื่องเปลืองเวลามากๆ แล้วไม่ได้เงินนี้ไม่ทำแน่นอนอยู่แล้ว เห็นมั๊ย ผมมันพวกทุนนิยมแน่นอน) ...   สรุปแบบยกเมฆเหมือนคุณที่ว่าการคลังจะเป็นปัญหา ผมว่าไม่เป็นปัญหาอะไรนะ ... เอาเป็นว่าผมไว้ใจทีมงานด้านการคลังของคุณทักษิณว่า ไม่โง่ แน่นอน ... เรื่องเงินนี้ ผมไม่ห่วงนักธุรกิจอย่างคุณทักษิณว่าจะดูแลไม่ได้หรอก ว่ามั๊ย ... คนที่เข้าใจเรื่องพวกนี้จะรู้ว่า ภาระรายจ่ายของเงินทุกก้อนที่รัฐจะสร้างขึ้นมา ต้องทำการ match กับรายรับไว้เสมอ (อ้อ แผนพวกนี้เขาจะทำ projection ไว้เป็น 10 ปีนะ และปกติก็จะทำในทุก scenario ของภาวะเศรษฐกิจอยู่แล้วด้วย ยอหอ) ... คุณทักษิณเองก็พูดออกบ่อยว่า monitor financial risk ของประเทศอยู่ตลอดเวลา ... แม้ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่วงใน แต่ดูตัวเลขจากวงนอกแล้ว ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลยครับ (แต่ในสถานการณ์เดียวกัน ถ้าพรรคอื่นดูแล ผมอาจไม่ค่อยจะสบายใจก็ได้นะ มันเหมือนนั่งรถยนต์หละครับ นั่งไปกับเพื่อนบางคนเราก็ไว้ใจเพราะรู้ฝีมือกัน แต่นั่งไปกับอีกคนก็ชักเสียวสันหลังเหมือนกันครับ สำหรับคนขับคนนี้ผม Ok นะ) ... ส่วนเรื่องทุจริตก็ไปว่ากันในศาลนะครับ ... ขืนพูดเองเออเองอย่างนี้ อีกหน่อยยุบศาลไปเลยดีมั๊ย ... เอาพวกคุณมานั่ง ฟันธง แทนระบบศาลน่าจะประหยัดงบประมาณประเทศได้มาก ... ส่วนเรื่องพวกพ้องนี้ ผมว่าย้อนกลับไป ทุกรัฐบาล ถ้าจะกล่าวหากันก็มีหมดหละครับ ... ประเทศไทยหันไปทางไหนมันก็มีสายสัมพันธ์กันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ... นักธุรกิจส่วนใหญ่ที่ไม่เล่นการเมืองก็มักเหยียบเรือสองแคมกันทั้งนั้น ... ก้าวหาแบบลอยๆ อย่างนี้ไม่ค่อยสร้างสรรค์เท่าไหร่ ... ไอ้ประเภท ได้ยินเขาว่ามา ... ผมได้ยินมาตั้งแต่สมัยคุณชวนก็ไม่น้อยนะ ว่ามั๊ย คุณสุเทพ ... ความจริงคือ ต้องถามว่าคุณชวนหรือคุณทักษิณไปรู้เห็นเป็นใจด้วยหรือเปล่า ... พูดตรงๆ ผมเห็นว่าผลงานในสมัยนี้เดินเร็วมากนะ ... ปกติถ้าจะกิน รมต ก็มักจะดึงเรื่องให้ช้าเพื่อต่อรอง ... เหมือนกับรัฐบาลหลายชุดในยุคก่อนหน้านี้ทำกันให้เห็นบ่อยๆ ไม่สังเกตบ้างหรือไง ... พูดถึงเรื่อง ระบบตรวจสอบ ... ปชป รีบบอกเลยว่า ตรวจสอบไม่ได้ ... ปชป ก็ขยันหานโยบายดีดีมาหาเสียงหน่อยซิครับ ... ชาวบ้านเขาจะได้เลือกมาเยอะๆ ... คุณไม่มีน้ำยาดันโยนความผิดไปให้คนอื่นอีก ... งงจริงๆ ประเทศนี้ ... พรรคอื่นได้เสียงมาก แทนที่จะโทษตัวเองว่าไม่มีผลงาน ... ดันบอกว่า เพราะมันต้องโกงแน่เลย เราถึงแพ้ ... หัดมี น้ำใจนักกีฬา บ้างก็ดีนะ ... อ้อ แล้วประเด็นการแทรกแซงองค์กรอิสระ ... ถ้าคุณเคยเป็นนักบริหาร คุณก็จะเข้าใจว่าบางเรื่องก็ต้องมีการจัดการบ้างก็ถูกต้องแล้ว ... เพื่อให้นโยบายหลายๆ ส่วนเดินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ... ถ้าเป็น win-win ก็ไม่เห็นเสียหายอะไรสำหรับประเทศ ... รัฐบาลอเมริกาก็มีหน่วยงาน lobby โดยตรงกับรัฐสภา ... ประธานาธิบดีก็โทร. ไป lobby กับวุฒิสภาโดยตรงอย่างเป็นที่เปิดเผยก็บ่อยครั้ง ... (ไม่เคยดูข่าว CNN CNBC กันบ้างหรือไง) ... เรื่องปกติมาก เพื่อผลประโยชน์ของประเทศ ... จะปล่อยให้ประเทศลอยไปแบบเรือไม่มีหางเสือหรือไง ... ไอ้เรื่องกล่าวหากันเลยเถิดไป อย่างเช่น เรื่องให้เงินเดือน ก็ช่วยไปหาหลักฐานมาหน่อย ... ไอ้สิน มันจะโง่เสี่ยงขนาดนั้นเลยเหรอ ... ไม่กลัวคนได้เงินเดือนไปแบล๊กเมล์เอาเข้าคุกเหรอ ... จะฟังอะไรจาก ฝ่ายแค้น ก็หัดเอาหินถ่วงหูกันไว้หน่อยนะ ... เนื้อหาฟังดูน่าตื่นเต้นดี แต่ในทางปฏิบัติมันเป็นเรื่องปัญญาอ่อน ... เรื่องอย่างนี้ไม่น่าหาหลักฐานยากนะ กล้องเล็กกล้องจิ๋วเยอะแยะไป ... ใช้ข่าวโคมลอยจากพวกฝ่ายแค้นที่สนามหลวงแล้วมา ฟันธง ไร้สาระสิ้นดี ... หูเบา ... ถ้าพูดถึง องค์กรอิสระ ... ก็ให้เกียรติกันหน่อย หลายท่านก็เป็นผู้ใหญ่ ... มีประวัติการทำงานที่ดีมาตลอด ... กล่าวหาเปรอะไปหมด ... ไม่เหลือคนดีเลยนะประเทศนี้ ... ศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนใหญ่ก็มาจาก มธ. เกินครึ่งแล้วมั๊งครับ ... เชื่อมั่นในเกียรติภูมิของความเป็นคนของคนอื่นบ้างจะดีมั๊ย ... ใครไม่เห็นด้วย สรุปว่าเลวหมดเลยเหรอ ... หน่วยงานประเทศไทยจะทำงานประสานสามัคคีกันไม่ได้เลยหรือไง ... หรือต้องขัดแข้งขัดขาถ่วงความเจริญของประเทศเอาไว้ถึงจะเรียก ไทยแท้ ... แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 49 18:05:37 แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 49 02:37:37 จากคุณ : dqfkztxc - [ 9 เม.ย. 49 02:14:29 ]

ความคิดเห็นที่ 128 #121 ที่ผมเชียร์ ทรท ก็เพราะ ตั้งใจทำงานจริงจัง ... ผมมีเพื่อนอยู่ในวงการก่อสร้าง ทำงานอยู่ในสุวรรณภูมิ ... มันบอกว่ามันรู้ดีว่าทำไมทักษิณถึงโดนเรื่อง CTX ... โครงการเขาเวียนเทียนกินกันมาหลายปี ... ทรท มาผู้รับเหมากำไรหายหมด ... มันเปรยให้ฟังว่า ... ทักษิณคุมงานแบบกัดไม่ปล่อย ตรวจงานหินขึ้นมาก ... เร่งงานจนกำไรไม่เหลือ ... สมัยพรรคอื่นมาคุม ยังยัดใต้โต๊ะได้ ... มันบอกว่ามันคุมนักการเมืองสมัยก่อนได้สบายๆ ด้วยเงิน ... แล้วไปลดคุณภาพงานเอา ... ได้กำไรอื้อซ่า ... แต่ ทรท ให้ก็ไม่เอา เพราะพวกนี้รวยอยู่แล้ว ... พอเร่งงานมากๆ ขั้นตอนมันก็เลยดูไม่โปร่งใส ฝ่ายค้านก็เลยมีข้อมูลโจมตีได้เรื่อยๆ ... เพราะ ผรม อึดอัดมาก อยากให้ทักษิณลงเร็วๆ ก่อนจะเจ๊งกันหมด ... มันบอกว่าเนื้อในแล้ว ทรท ค่อนข้างโปร่งใสนะ ... อาจมีรั่วไหลบ้าง แต่ก็น้อยมากถ้าเทียบกับที่มันเห็นสมัยก่อน ... จากคุณ : Winthrop - [ 9 เม.ย. 49 09:01:43 ]

ความคิดเห็นที่ 129 โหวตครับ มีข้อมูลครบถ้วนจนฝ่ายค้าน ค้านไม่ออกเลย ผมขอ copy เก็บไว้อ่านนะครับ จากคุณ : LowGradeIT - [ 9 เม.ย. 49 09:53:33 ]

ความคิดเห็นที่ 130 อ่านแล้วเข้าใจง่าย มองเห็นภาพชัดเจน โหวตให้ครับ จากคุณ : ทรูมูฟ - [ 9 เม.ย. 49 13:10:59 ]

ความคิดเห็นที่ 131 #128 ดิฉันอยู่ในกลุ่มที่มำสนามบินสุวรรณภูมิมาหลายปีมาก ไม่เห็นที่บอกว่ารวยแล้วไม่เอาเลยค่ะ รับทุกรัฐบาลแหล่ะค่ะ พวกที่บอกว่าภาพดี ดูแล้วเหนียมๆอย่างรัฐบาลเก่าๆก็รับ ใหม่ๆก็รับ รัฐบาลปัจจุบันทำงานเร็วจริงค่ะ เป็นข้อดีมากๆ แต่ไม่มีใครดีไปหมด ฝ่ายค้านปัจจุบันก็มีทั้งดีและเลว ไม่แปลกที่คนในที่นี้จะเชียร์ใครหรือไม่เชียร์ใคร เป็นความเห็นส่วนตัวที่ต้องเคารพกัน ดิฉันเพียงอยากจะแชร์ข้อมูลที่ดิฉันประสบมาก็เท่านั้นเอง ขอย้ำ เหมือนกันหมดเรื่องสุวรรณภูมิ จากคุณ : MableCat - [ 10 เม.ย. 49 00:32:20 ]

ความคิดเห็นที่ 132 ึ#76 ผมเคยอ่านนิทานเต๋า เกี่ยวกับเซียน นะ เขาว่าเซียนไม่ค่อยอยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวในโลกหล้าหรอก เพราะมันเป็นการทะเลาะเบาะแว้งเล็กๆน้อยๆในสายตาเขา เพราะโลกมันเปลี่ยนแปลงอยู่ทุักวันอยู่แล้ว แผ่นดินมีไฟ แล้วก็ดับไปเป็นวัฏจักร พอดับแล้วความร่มรื่นก็เข้ามาแทน สำหรับเซียนแล้ว การทะเลาะในโลกมนุษย์มันช่างเล็กขนาดนั้นเลยล่ะ จากคุณ : เบื่อความเกลียดชัง (kung lee) - [ 10 เม.ย. 49 04:51:51 ]

ความคิดเห็นที่ 133 #127 เห็นด้วยกับคุณทีเดียวครับ (ผมมันทุนนิยมเหมือนกันมั้ง    ) คงเป็นเพราะผมมันคนมองโลกแง่ร้ายกว่าคนอื่นๆมั้ง มองโลกที่มันเป็นจริง ไม่เคยคิดเอาพระเอกในนิยายมาอุปโลก ปลอบใจตัวเอง ตัดสินคนอื่น ไม่เคยเป็นผู้พิพากษาในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้,ไม่มีหลักฐานใดๆมารองรับการตัดสินใจ ซึ่งแบบที่คุณว่าไว้หละครับ ผู้พิพากษาเยอะไปหมด คนไทยจบกฎหมายกันครึ่งประเทศเลยแหะ #132 อ่านที่คุณพิมพ์แล้วได้ข้อคิดที่ดีเหมือนกันครับ ผมมานั่งประมวลเหตุการณ์ สุดท้ายก็สมบัติผลัดกันชม เปลี่ยนมือนี้ ก็เป็นคราของมืออื่นในผลัดต่อไป ห่วงแต่ประเทศไทย ไม่ได้รับการพัฒนาแบบต่อเนื่องซักที เพราะคนมีอำนาจเอาแต่เล่นการเมือง(หมายถึงทุกฝ่าย) สุดท้ายคือประชาชนที่ต้องปรับตัวให้ได้ เพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ในทุกรัฐบาล ขอความสงบและความสุขจงบังเกิดแก่ท่านทุกคน จากคุณ : L RULES - [ 10 เม.ย. 49 08:36:34 ]

ความคิดเห็นที่ 134 #132 ผมเห็นด้วยกับคุณนะ ... ผู้รู้จริงย่อมไม่แสวงหา ... แต่ต้องยอมรับว่าพวกเรายังห่างไกลจากจุดนั้นกันมาก ไม่ว่าจะรู้มากหรือมีมากก็ตาม ... ความรู้ ยศฐาบรรดาศักดิ์ มันทำให้มนุษย์ตกหลุมพรางหลงยึดติดและบูชาตัวเองกันไป ... ทำไงได้มันก็เป็นไปตามที่ มาสโลว์ ว่าไว้ ... ไม่หลุดพ้น ... แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม  ถ้าพวกเราเห็นว่าประเทศมาถึงจุดที่ ... ไม่ควรมีการเปลี่ยนรัฐบาลบนท้องถนน อีกต่อไป ... มันเป็นจุดที่ประเทศจะก้าวข้ามไปสู่อีกระดับหนึ่งของการเมือง ... หรือจะต้องจมอยู่ในที่เดิมต่อไปอีกอย่างน้อย 20 ปี (อย่างเจ็บปวด) ... ก้าวไปสู่จุดที่ประเทศที่เจริญแล้วเขาแสดงให้เห็นแล้วว่าอะไรที่เขามี แต่เราไมมี (ในทางการเมือง) ... เคยเห็นประเทศที่เจริญแล้วพยายามเปลี่ยนรัฐบาลบนท้องถนนมั๊ยครับ ... มันเป็นวัฒนธรรมที่เขารู้ว่าต้องปลูกฝั่งให้ลูกหลาน เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ ... หลีกเลี่ยงสงครามการเมือง ... จะเซียนหรือไม่เซียนบางที กิเลสก็ครอบงำ ครับ (ก็เหมือนที่หลายเซียนกำลังพยายามทำอยู่บนท้องถนนในขณะนี้) ถ้าเห็นว่าประเทศของเรามาสู่จุดที่ too close to call แล้ว ...   อ้อ การประท้วงแสดงความคิดเห็นเสรีมีได้ ไม่มีปัญหาอะไร (ขอย้ำว่า แต่ต้องไม่ริดรอนสิทธิของคนอื่นจนเกินไป) ... ในกรณีที่ไม่พอใจนโยบายเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็ประท้วงกันไป ไม่ว่ากัน ... แต่การพยายาม เปลี่ยนรัฐบาล ด้วยการประท้วงมันคนละเรื่องกัน ... มันเป็นก้าวสำคัญที่จะต้องสร้างให้เป็น วัฒนธรรมประเทศในทางการเมือง ให้ได้ว่า ต้องไม่เกิดขึ้นอีก (ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ... สิ่งไม่ดีใดๆ จะทำลายตัวมันเอง ... ขอให้เชื่อว่า เราต้องทำลาย ความเลว ด้วย ความดี เสมอ ... ขอให้ใจแข็งสุดท้ายประเทศก็จะหลุดพ้นไปในที่สุด) ... เราเลยผ่านการปฏิวัติรัฐประหารมาแล้ว (หวังว่า) ... เราต้องผ่านจุดนี้ไปให้ได้ ... เพราะถ้ามันเกิดขึ้น มันจะปลูกฝั่ง วัฒนธรรมทางการเมืองเช่นนี้ ไว้ในคนรุ่นใหม่ (ที่คุณพาเขาออกมาบนท้องถนนนั้นหละ) ... เป็นวงจรอุบาทว์ที่ไม่มีวันจบสิ้น ... ผมอยากให้ค่านิยมโบราณเช่นนี้เลือนหายไปกับคนรุ่นปัจจุบัน (ไม่อยากให้เด็กรุ่นใหม่ได้เห็นได้สัมผัสมันด้วยประสบการณ์จริง ... การต้องมานั่งร่ายกลอนกันแถวสี่แยกคอกวัวควรหมดไป ... ก้าวไปทำสิ่งอื่นๆ น่าจะสร้างสรรค์กว่า มีอีกหลายเรื่องที่ประเทศเรายังไม่ได้ทำกัน) ... เราต้องต่อสู้กันในระบบ ... การเคารพในสิทธิ ความเท่าเทียม ในความเห็นที่แตกต่างอย่างสันติ ... เป็นแนวทางที่เราจะแสดงความเจริญทางด้านปัญญาให้โลกเห็น ... เป็นสิ่งเดียวที่ต่างชาติจะยอมรับเราอย่างเท่าเทียม ... ไม่ใช่เงินตรา ... ผมไม่อยากให้เราส่งต่อวัฒนธรรมโบราณนี้ให้ลูกหลาน ... มันเป็นมรกดกเลือด (อ่าน #124 ดูนะครับ) ... ผมเฝ้ามองประเทศในแถบนี้ว่า ประเทศใดจะก้าวผ่านจุดนี้ไปได้ก่อนกัน (โดยเฉพาะ TIP) ... มันจะแสดงถึงพัฒนาการที่แท้จริงของคนในประเทศนั้นๆ ... เรามาลองมาแข่งกันดูมั๊ยครับ ... (อย่าไปงมงายกับคำว่า เซียน กันเลยครับ มันเป็นคำที่แสดงความเขลาทางปัญญาของเรา) แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 49 11:03:53 แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 49 10:39:10 แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 49 10:34:35 แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 49 10:32:02 แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 49 10:19:12 จากคุณ : dqfkztxc - [ 10 เม.ย. 49 10:18:12 ]

ความคิดเห็นที่ 135 #131 ดีครับ ... ก็เหมือนที่บอกไว้ในหลายจุดในกระทู้ ... อีแอบในรัฐบาลก็มีไม่น้อย ... ถ้าเหมารวม (อาจไม่ยุติธรรมกับอีกหลายคน) ก็คงบอกว่า นักการเมืองรุ่นเก่า ... คนพวกนี้ไม่ค่อยเชื่อในกฏแห่งกรรมหรอกครับ (และมักจะหัวเราะเยาะคำคำนี้) ... ช่วยกันควบคุมดูแลถูกต้องแล้วครับ ... #132 ถ้าคุณได้อ่าน กระทู้ เหล่านี้ ณ เวลาที่มันเกิด ในสภาพแวดล้อมขณะนั้นๆ (ในบรรยากาศสับสนวุ่นวาย ไม่รู้ทิศเหนือทิศใต้ ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพรุ่งนี้) ... คุณจะเห็นว่า คนหนึ่งคนที่ใช้ปัญญานำทาง (ไม่ได้มีอะไรหนุนหลัง และไม่ได้เป็นอะไรยิ่งใหญ่ทั้งสิ้น และไม่รู้จะสื่อสารกับกลุ่มอำนาจอย่างไร) บวกกับ คอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่อง ก็อาจควบคุมกระแสความเคลื่อนไหวของสังคมไม่ให้หลงทางได้แล้ว ... ถ้า justgig ไม่สร้าง สมดุล ให้คุณทักษิณ ... ไม่ช่วยสื่อสาร ... ไม่เสนอแนะทางออกที่เบากว่าให้เกิด ... ตอนนี้ก็นึกไม่ออกว่าเราจะเป็นอย่างไร ... รู้แต่ว่าคงไม่ healthy เท่าไหร่ ... และที่สำคัญประเทศคงเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องไปอีกนาน ... ถ้า rockhill ไม่สะท้อนมุมมองแปลก ด้านวัฒนธรรมประเทศ ... ประเทศก็คงจมลึกอยู่กับ ฝ่ายเอ็ง ฝ่ายข้า ... เมื่อไรที่คนสองฝ่ายทะเลาะกัน มันแสดงว่าไม่มีใครรู้อะไรจริงสักเท่าไหร่ ... บางทีมันก็ต้องมี ปัญญา มาจากที่ไหนสักแห่ง ... ถ้า ปัญญา มันมีทางวิ่งไปสู่ขั้วอำนาจต่างๆ (ไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่งของแต่ละกลุ่ม) ... ปัญญาก็คือปัญญา ... มันจะทำหน้าที่ของมันเอง ... ไม่ต้องไปผลักไปดันอะไรมาก (อ้อ อาจต้องมีแรงช่วยตรงโน้นนิดตรงนี้หน่อยนะ) ... ทำไมต้องใช้คนนับหมื่นแสนมาเสี่ยงชีวิต ... มันคงเป็นสามัญสำนึกที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคมกระมั๊งครับ ... จะเริ่มใช้ ปัญญา กันได้หรือยัง ... แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 49 12:09:45 แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 49 12:05:31 แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 49 12:03:59 แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 49 11:59:40 จากคุณ : Winthrop - [ 10 เม.ย. 49 11:36:52 ]

ความคิดเห็นที่ 136 เข้ามาโหวต เขียนได้ดี #135(ขอนอกเรื่องหน่อย )   เข้าใจว่า คุณ Rockhill กับ Justgig และ...  เป็นคนเดียวกันนะจาก #120 ^^ แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 49 00:15:34 จากคุณ : ความจริงคือ... (i-tana) - [ 11 เม.ย. 49 00:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 137 #136 ตกลงจะไม่ไปเที่ยวสงกรานต์กันเลยเหรอ ... ไปเที่ยวพักผ่อนคลายความเครียดกันหน่อยก็ดีนะ ... ผมเองพึ่งกลับมาจากภาคเหนือ ... สำหรับคำถาม คำตอบคือ ... น่าจะใช้นะ ... และน่าจะรวมถึง Jaisamarn ด้วย ... (Jaisamarn สงสัยจะปากมากไปหน่อยที่ #81 ก็เลยถูกหิ้วไปแล้ว ... เอาเป็นว่าใครที่หิ้วแกไปช่วยเอา #81 ไปให้เจ้านายคุณอ่านหน่อยนะ ... มันจะช่วยให้ประเทศเรามีนายกฯ ที่สมบูรณ์ขึ้นในอนาคต ... ช่วยๆ กันหน่อยนะ ...) ... และก็ขออนุญาติเอา #6 ที่ Jaisamarn พูดถึงรัฐวิสาหกิจมาโพสไว้อีกทีเพื่อเป็นการไว้อาลัยให้แก ... ไม่ว่ากันนะ ... VVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVV การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ทุกประเทศในโลกทำกัน มันเหมือน คอมมิวนิส กับ ประชาธิปไตย คุณจะเลือกอะไร สิ่งได้จากการแปรรูป ... - การอาศัยตลาดเสรีดูแลด้านประสิทธิภาพ ไม่ใช่อำนาจรัฐที่เสี่ยงต่อระบบอุปถัมภ์ (เปลี่ยนจาก ระบบอุปถัมภ์ มาเป็น ระบบประสิทธิภาพ ... สิ่งที่สหภาพกลัวนักกลัวหนา) - การแยก operator และ auditor ออกจากกันให้ได้อย่างสมบูรณ์ - การดึงรัฐออกจากภาระความวุ่นวายทางด้านการเมือง เสถียรภาพของรัฐต้องผันแปรไปตามการผันแปรของราคาในตลาด - การดึงรัฐออกจากภาระด้านการเงิน เพื่อให้มีเงินออกไปพัฒนาในส่วนอื่นๆ ที่ยังขาด - การใช้ทุนเป็นการลดค่าใช้จ่ายในหลายๆ ด้าน ที่ชัดเจนคือ ภาระดอกเบี้ยจ่าย ที่จะเป็นต้นทุนในค่าไฟฟ้า (ทุน ไม่มีภาระดอกเบี้ย) - การลดบทบาทระบบอุปถัมภ์ของสหภาพ เช่น โรงไฟฟ้าระยองเมื่อแปรรูป พนักงานลดลงเป็นสิบเท่าตัว (ภาระเงินเดือนพวกนี้อยู่ในค่าไฟฟ้าที่ประชาชนแบกรับโดยไม่จำเป็น) - ที่สำคัญ ถ้าคุณจัดการคนในองค์กรไม่ได้ (เลือกคนที่เก่งที่สุดมาทำงาน แต่ต้องเลือกคนที่อยู่ในสหภาพแทน) ... คนไม่เก่งก็จะสร้างภาระต้นทุนที่มองไม่เห็น ... เช่น ดูแลเรื่องความเสี่ยงด้านอัตตาแลกเปลี่ยนไม่เก่ง ค่าไฟก็สูงขึ้น ... ดูแลการจัดหาเชื้อเพลิงไม่เก่ง ค่าไฟก็สูงขึ้น ... ฯลฯ ฯลฯ คงต้องไปหาอ่านเอาในสิ่งที่ที่ปรึกษาต่างประเทศเขียนไว้ อย่าง Anderson ทำให้ กฟผ. เมื่อหลายปีก่อน ... สรุปว่า ขอบคุณ นักคุ้มครองผู้บริโภคที่ไม่ได้ทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค จริง ... กลับทำให้ประชาชนแบกรับค่าไฟฟ้าแพงไปตลอดกาล (อย่าบอกนะ ว่าต้นทุนส่วนใหญ่ คือ ค่าเชื้อเพลิง ... จริงครับ ... ทุนไม่น้อยยังรวมไปถึง พนักงานที่ไม่จำเป็น สวัสดิการที่ไม่จำเป็น และอื่นๆ ... ไปถาม ดร. ปิยสวัสดิ์ ดูดีมั๊ย ในฐานะคนที่รู้เรื่องนี้ดีที่สุด ... อยากรู้เหมือนกันว่าท่านจะกล้าพูดความจริงแบบไม่รักษาหน้าสหภาพหรือเปล่า หรือจะตอบแบบการเมือง) ... แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 49 21:49:15 จากคุณ : Winthrop - [ 12 เม.ย. 49 21:44:24 ]

ความคิดเห็นที่ 138 แม่ทัพใหญ่ของผมคือ Justgig กับ Rockhill ก็เกษียณไปแล้วตามภารกิจที่ลุล่วงไป ... หน่วยจรยุทธที่เหลืออีกสาม ... Jaisamarn ดูจะน่าสงสารกว่าเพื่อน ... ในสงครามบางทีฝุ่นตลบมันก็เข้าใจผิดกันได้ ... friendly fire เกิดขึ้นได้ ไม่ว่ากัน ... สำหรับ Winthrop และ dqfkztxc เป็นพลทหารที่เหลือที่มีหน้าที่สุดท้ายที่ได้รับมอบหมายคือเปิดเผยความจริงบางส่วนแก่สังคม หรือตอบปัญหาที่ยังค้างคาใจอยู่ตราบเท่าที่จะไม่ทำให้ privacy ของผมสูญเสียไป ... ฉบับสุดท้าย คงต้องขออนุญาติเป็นเรื่องส่วนตัวมากหน่อยเพื่อให้หลายคนที่อุตส่าห์ติดตามงานของผม (ตามชื่อข้างต้น) มาเป็นเดือนจะได้รับความยุติธรรมมากที่สุดเท่าที่ผมจะให้ได้ ... อย่างที่บอกผมไม่ได้เป็นบุคคลสำคัญอะไร ... ผมคิดว่าสมบัติที่มีค่าที่สุดของมนุษย์คือ อิสรภาพ ... การกลายเป็นบุคคลสาธารณะไม่ว่าจะเพราะร่ำรวย เป็นเจ้าของกิจการใหญ่ เป็นนักร้องดารา เป็นนักกีฬา เป็นนักการเมือง เป็นผู้สื่อข่าว ฯลฯ สำหรับผมแล้วถือเป็น nightmare ... หวังว่า Pantip จะเข้าใจและช่วยปกปิด (ขอให้ Pantip ช่วย suspend ชื่อทั้งหมดที่กล่าวถึงนี้ด้วย ขอบคุณครับ) ... และหวังว่าหลายคนที่พยายามติดต่อผมจะเข้าใจและให้อภัย ... ผมแม้เป็นผู้ใหญ่แต่อายุก็ไม่ได้มากอย่างที่หลายคนจินตนาการ ... ยังอยากใช้ชีวิตที่เหลืออย่างคนธรรมดา ... ไม่ได้เป็นเซียนหรือเป็นคนดีอย่างที่หลายคนคิดว่าเป็น (ความจริงตรงข้าม เพราะต้องเป็นจอมหลอกลวงมาตลอด) ... เห็นคนไทยนับล้านต้องทนทุกข์ต่อสู้กันโดยไม่จำเป็นก็อดไม่ได้ขอเข้ามาเป็นตัวช่วยตัวหนึ่งให้สถานการณ์คลี่คลาย ... แค่ได้เห็นพวกเราได้สนุกกันอย่างเต็มที่ในวันสงกรานต์ก็ถือว่าคุ้มค่าความเหนื่อยของผมแล้ว (อนาคตจะเป็นอย่างไรก็สุดแต่ใจของพวกเราทุกคน) ... ส่วนตัวแล้ว ผมยังอยากเดินออกจากบ้านได้โดยไม่มีใครเหลียวหันมามอง ... ไปเดินซื้อแผ่นซีดีเถื่อนแถวคลองถมได้อย่างไม่เขอะเขินหรือเป็นตัวประหลาด ... ขอสารภาพว่า ผมเกียจพิธีรีตอง การเข้างานสังคม หรือเข้าหาผู้ใหญ่เป็นชีวิตจิตใจ ... ปัจจุบัน แม้จะมีวีซ่าถาวรที่จะไปอยู่ในต่างประเทศได้ แต่ก็ยังไม่คิดจะไป เพราะโหนรถเมล์บ้านเราก็สนุกดี เดินเข้าซอยโน้นออกซอยนี้หาของอร่อยกินไปวันๆ ... ที่สำคัญ พ่อแม่พี่น้องก็อยู่เมืองไทย ... ผมชอบมีชิวิตสงบๆ ท่องเที่ยว ติดตามข่าวสารของโลก และอ่านหนังสืออยู่ในห้องเงียบๆ ไปวันๆ ... อีกนัยหนึ่งคือ ที่ผมสามารถสื่อเข้าถึงพวกเราในมุมกว้างในหลายชนชั้นก็เพราะผมเป็น คนธรรมดาเดินถนน นั้นเอง ... ผมจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอย่างเด็ดขาด (ดูแดจังกึมตอนจบก็น่าจะเข้าใจนะ) ... คราวนี้ผมก็ถือว่าเป็นเวรเป็นกรรมมากแล้ว ... ขอให้ทุกฝ่ายว่ากันต่อไปตามครรลอง และลืมว่าเคยมีคนอย่างผมอยู่จะขอบคุณมาก ... แม้ว่าผมจะเลือกข้าง แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้เจตนาจะช่วยใครเฉพาะเจาะจงเป็นตัวบุคคล ... มี ประเทศชาติ เท่านั้นที่เป็นที่ตั้ง ... ก็เหมือนกับที่พวกเราทุกคนทุกฝ่ายพยายามจะทำอยู่ในขณะนี้ ... น่าจะได้เวลาที่จอมบงการอีกคนจะจากไปแล้ว ... จะขอจบในตอนท้ายด้วยกลอนที่แต่งไว้ให้นามแฝง (เมฆ ควันดำ) ของผมในสมัยเรียนหนังสือ ... เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้พวกเราแยกแยะนักการเมืองในปัจจุบัน ... ขอให้พวกเราทุกคนโชคดีครับ ... เมฆ ขาวผ่อง .. สูงเด่น .. บริสุทธิ์     แม้ดำดุจ .. ควันดำ .. ยังให้ฝน ควันดำ นั้น .. คล้าย เมฆ เทียม .. แต่สุดทน       ต่างกันจน .. สุดเปรียบปาน .. เมฆ ควันดำ ... แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 49 18:13:00 แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 49 11:33:44 แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 49 11:23:04 จากคุณ : dqfkztxc - [ วันเนา (14) 11:21:21 ]