CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เมื่อคืนคุณดูถึงลูกถึงคนรึป่าว...คิดอย่างไรกับสรยุทธ และเทพชัย หย่อง

    ในยุคสมันหนึ่ง อเมริกัน เคย ใช้สงครามสื่อกับรัฐบาลกัวเตมาลา
    ผลที่ออกมาได้ดีเกินคาด นั่นคือ ผู้นำกัวเตมาลา (ประธานาธิบดี อาร์เบ๊นซ์)

    ถูกล้มลงในพริบตาเนื่องจากการใช้สงครามสื่อ จาก ทางรัฐบาลอเมริกา

    นี่คือบทพิสูจน์ให้เห็นว่า "สื่อ" มีอิธิพลครอบงำคนทุกชนชั้น
    คนรวย คนจน คนรู้เยอะ คนรู้น้อย

    ทุกคนต่างบริโภคสื่อ

    และสิ่งที่เป็นจุดอ่อนของการบริโภคสื่อของคนเหล่านั้นคือ
    "พวกเขาจะไปรู้ได้อย่างไร ว่าเรื่องที่เขียนในสื่อเป็นเรื่องจริง แท้ทุกประการ!!"
    ทุกคนคงเคยเจอมาแล้ว ที่ว่า เรื่องเดียวกันหัวข้อเดียวกัน

    แต่รายละเอียดของเรื่องราวเหล่านั้น ที่ลงในหนังสือพิมพ์ทุกฉบับกลับไม่เหมือนกันเลย

    ผมจึงย้อนกลับมาคิดว่า
    "เฮ่ยแล้วที่กรูอ่านข่าวไปทั้งหมดนั้น กรูจะรู้ได้ไงว่าอันไหนเรื่องจริงวะ"

    แต่คนก็ยังเชื่อ ข่าวเหล่านั้นเป็นส่วนใหญ่ เพราะไม่อย่างงั้นจะไปเชื่อใครละ(วะ?)


    และเช่นกัน นี่คือจุดอ่อนของรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร ที่นายทักษิณ มองข้ามไป หรือ จงใจที่จะมองข้ามไป

    ยังจำกันได้ใช่ไหมครับ เมื่อก่อนมีดาราคนนึงเคยมีเรื่องมีราวกับนักข่าว
    โยนนักข่าวออกไปจากบ้าน ด้วยความสะใจ

    สุดท้ายเจอ นักข่าว ทุกสำนัก บอยคอต ร่วมหัวกันไม่ลงข่าวของดาราคนนี้

    ผ่านไปเกือบปี ดาราคนนั้น ไม่มีชื่อได้ลงในหนังสือพิมพ์อีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว...ส่งผลให้ดาราคนนั้น แทบจะเครียดยิ่งกว่าเดิมอีก

    สุดท้ายดาราต้องออกมาขอโทษนักข่าวแล้วบอกว่า
    "ผมขอโทษครับ ผมรู้แล้วว่า สื่อสำคัญแค่ไหน"


    รัฐบาล ทักษิณ ก็เช่นกัน
    เราน่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า รัฐบาลมักจะเป็นศัตรูกับสื่ออยู่ตลอด โดยเฉพาะรัฐบาลนี้

    รัฐบาลทักษิณ ไม่เคยก้มหัวให้สื่อเลยแม้กระทั่งสักครั้งเดียว


    และแล้วเรื่องราววุ่นวายมันก็เกิดขึ้น จากจุดนี้
    เมื่อ สนธิ ลิ้มทองกุล นักพูดชื่อดัง และเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ

    ประกาศสงครามกับรัฐบาลอย่างเป็นทางการและออกหน้าออกตา

    ส่งผลให้ เกิดกระแสต่อต้านรัฐบาลไปทั่วทุกแห่งหน อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
    นี่คือความจริงที่เราไม่สามารถปฎิเสธได้

    ไม่ว่าคุณจะบอกว่า
    "ผมไม่ได้ชอบสนธิ..แต่สนธิเอาความจริง รัฐบาลมาแฉ ผมเชื่อเขา"
    "สนธิเป็นแค่คนๆหนึ่ง เขาจะเลวยังไงผมไม่รู้แต่เขาออกมาแฉความจริงของบ้านเมือง ผมเชื่อเขา"

    สุดท้าย ไม่ว่าใครจะพูดยังไงทุกคนต้องลงท้ายด้วยคำว่า"ผมเชื่อ สนธิ ลิ้มทองกุล"

    คุณเคยลองย้อนกลับไปคิดหรือไม่ว่า

    สนธิ ลิ้มทองกุลเป็นใคร? ทำไมคุณจึงเชื่อเขา

    "ถ้ามีคนออกมาพูดเรื่องเดียวกัน ด้วยวาจาที่น่าเบื่อ ไม่น่าฟัง คุณจะเชื่อเขาไหม?"

    แน่นอน ใครจะไปเชื่อ
    ถ้ามีคนออกมาพูดติดๆขัดๆ เลิกๆลักๆ แต่ใช้คำพูดคำเดียวกันกับสนธิลิ้มทองกุล
    แน่นอน ว่าไม่มีใครเชื่อ

    แต่ทุกคนเชื่อ เพราะ สนธิ ลิ้มทองกุล เป็นนักพูดตัวฉกาจ ที่สามารถโน้มน้าวใจคนได้ทุกแห่งหน

    ทำไมเมื่อตอนที่สนธิ ยังไม่มีปัญหากับรัฐบาล
    เมื่อเขาพูดชมรัฐบาล คุณเชื่อ!
    เมื่อเขาด่ารัฐบาล คุณเชื่อ!..

    เขาออกมาบอกว่า ผมกลับใจได้เมื่อก่อนผมเลวแต่ตอนนี้กลับใจแล้ว คุณก็เชื่อ!

    ผมเชื่อว่าถ้า สนธิ กลับมาพูดชมนายกแล้วบอกว่า "ที่ผ่านมาผมเข้าใจผิดไป"พร้อมกับพูดจาโน้มน้าวตามประสา นักพูด

    พวกคุณก็จะเชื่อ และ ม้อบก็จะสลายตัวหายไปกว่า เกือบครึ่ง

    คำถามของผมคือพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย จะเกิดกระแสรุนแรงขนาดนี้หรือไม่ ถ้าไม่มีสนธิ ลิ้มทองกุล?

    สื่อของสนธิ ลิ้มทองกุล ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ เว็บไซ้ด์ หรือตัวเขาเอง

    ต่างเขียนข่าวโจมตีรัฐบาลอย่างสม่ำเสมอ
    ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอ่ะไร

    สนธิ ลิ้มทองกุลรู้ดีว่า คนไทยอ่อนไหว กับสีของธงชาติ
    "ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์"

    หากคุณสังเกตคุณจะพบว่า เรื่องที่สนธิโจมตีรัฐบาลในช่วงต้น ล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริยั ทั้งหมด


    โดยเฉพาะ สถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพยิ่งของคนไทย
    สนธิ รู้จุดนี้ดี

    จึงออกมาใช้สโลแกนว่า
    "เราจะสู้เพื่อในหลวง!"
    "เราจะกู้ชาติ"
    "ทำไมต้องมีพระสังฆราช สอง องค์"
    "นายก จาบจ้วงเบื้องสูง"

    คุณไม่สังเกตหรือว่า ข่าวที่สนธิ นำมาประโคมให้ดัง นำมาจุดให้ไฟติดล้วนเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ทั้งสิ้น

    นอกจากนั้น สนธิยังพยายาม จุดกระแสแห่ง "คนหมู่มาก"ให้เกิดขึ้น

    เพราะสนธิรู้นิสัยคนไทยดี ที่ชอบทำอ่ะไร "ที่ใครๆเขาก็ทำกัน "

    สนธิพยายาม ปั่นกระแสตัวเลขที่เยอะแยะมากมาย เข้ามาในสื่ออาทิเช่น

    "ม้อบวันนี้ มีคนมากว่า ครึ่งล้านแล้ว!!!"
    "นักวิชาการนักพูด นักธุรกิจมากมาย ร่วมกันขับไล่นายก"
    "นักวิชาการ ผู้มีชื่อเสียงหลายท่านออกมาขับไล่นายก"
    "ตอนนี้ คนไทยทั้งประเทศ เค้าไม่ต้องการนายกแล้ววววว!!"

    สนธิใช้วาจา ที่แสนจะปลุกใจ พูดให้คนไทยคิดว่า คนส่วนใหญ่คิดแบบเขาแน่นอน!!!

    และนั่นก็ได้ผลในระดับที่ดีเกินคาด กลายเป็น วงจร อุบาทว์ ที่กำลังกลืนกินความจริง

    เมื่อคนๆหนึ่งเชื่อว่ามีคนทั้งประเทศที่ไม่ได้คิดเหมือนเขานะ
    จิตใจเขาก็จะเริ่มสับสนและเอนเอียงไปอย่างไม่รู้ตัวว่า "เฮ่ย นี่กูกำลังคิดอ่ะไรผิดรึเปล่าวะ?"

    คนฉลาด คนโง่ คนเก่ง คนห่วย
    ทุกๆคน หาก "ขาดสติ ที่มั่นคง" เมื่อฟังวาจา ของสนธิ ลิ้มทองกุลย่อมต้องคล้อยตาม

    และการครอบงำทางความคิดก็ยิ่งมากขึ้น

    "วงจร ของ สนธิลิ้มทองกุลจึงเกิดขึ้น"

    เมื่อ "คนฉลาด แต่ขาดสติ โดนสนธิ ปั่นหัวจนติด"

    เมื่อคนฉลาด ที่เต็มไปด้วยความรู้เหล่านั้น ออกมาโจมตีรัฐบาล ด้วยความคิดที่ถูกปลูกฝังจาก วงจร สนธิ
    คน ปกติ ก็จะเริ่มเชื่อ และเอนเอียงขึ้นเรือยๆ เพราะพวกเขาเชื่อ คนฉลาดเหล่านั้น

    คนฉลาด เมื่อขาดสติ เมื่อโดนสื่อครอบงำ ก็ไม่ต่างอ่ะไรกับ นักรบที่เต็มไปด้วยอาวุธ แต่กำลังเมาเหล้า สามารถฆ่าผู้บริสุทธิ์ได้โดยไม่รู้ตัว

    และทั้งหมดนี้ก็คือที่มาของกระแสต่อต้านนายกในทุกวันนี้

    Website manager กลายเป็น Website ติดอันดับ 1 ใน 2 ที่มีคนเข้าชมมากที่สุด
    แต่Website นี้กลับลบความคิดเห็น ที่ไม่ตรงกับตนทั้งหมดทิ้ง (เรื่องนี้ ไม่มีหลักฐาน แต่คุณสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง เลยครับ)

    ทำให้ผู้คนที่เกลียดชังนายกอยู่แล้ว ยิ่งปักใจเชื่อเข้าไปอีกว่า คนส่วนใหญ่ ไม่มีใครชอบนายกอีกต่อไปแล้ว เพราะมีแต่ความคิดเห็นที่เกลียดชังนายก อยู่เต็ม Website ไปหมด

    ก่อให้เกิดกระแสแห่งความเกลียดชังที่ หลงงมงาย คิดว่าตัวเองเป็นคนที่ถูกต้องเพราะเป็นคนส่วนใหญ่ของสังคม


    ถามตัวเองดูคุณเป็น เหยื่อ ของนายสนธิ หรือเปล่า
    คุณกำลังเชื่อ สิ่งที่คุณเห็นจริง
    หรือคุณกำลังเชื่อกระแส แห่ง สื่อ กระแสแห่งนักวิาการผู้น่าเชื่อถือ ที่มันกำลังพาคุณไป

    คุณอาจจะบอกว่า "เพราะตัวผมเองนี่แหละ ผมเห็นแล้วว่าทักษิณ มันเลว มันโกงชาติ มัน..."

    ผมอยากให้คุณลองหลับตา
    แล้วนึกภาพดูว่า

    ถ้าไม่มีหนังสือพิมพ์ ในเครือผู้จัดการ
    ถ้าไม่มี นักวิชาการ นักพูด(ที่ก็ บริโภคแต่ตำรา +หนังสือพิมพ์)
    ถ้าไม่มี สนธิ ลิ้มทองกุล


    พวกคุณ จะเกลียดนายกคนนี้หรือไม่


    หากคำตอบในใจของคุณคือ "ผมเกลียดนายก ทักษิณ ครับ ผมเห็นว่านายกทักษิณไม่ดีจริง ผมไม่ชอบนโยบายของเขา..."

    ผมขอแสดงความยินดี คุณคือผู้มีความคิดเป็นของตัวเอง


    แต่หากคำตอบคือ "..ผมไม่แน่ใจ...แต่ผมก็อ่านข่าว ผมก็ฟังนักวิชาการ..ผมเห็นคนส่วนใหญ่ ก็ออกมด่านายกทั้งนั้นนี่..มันจะไม่จริงได้ไงละ"

    คุณกำลังตกเป็นเครื่องมือของเขาไปแล้วเรียบร้อย


    ผมไม่ได้บอกว่า สิ่งที่สนธิ พูดหาความจริงไม่ได้
    แต่ผมเชื่อว่า เรื่องกว่าครึ่ง จากสื่อของสนธิลิ้มทองกุล เกิดจากการ ปั่นกระแสแห่งความเกลียดชังด้วยวาจาที่เฉียบคบมาแล้วทั้งนั้น

    เรื่องเดียวกัน หากใช้คำพูดที่ต่างกัน อาจกลับจากถูกเป็นผิด และ ผิดเป็นถูกได้ทันที

    หากผมลงพาดหัวข่าวว่า
    "สยาม พารากอน ปิด ห้างหนีม้อบ เป็นเวลา2 วัน "
    แน่นอน จะมีกระแสที่บอกว่า "เห็นไหม ห้างเขายังปิดหนีม้อบเลย"

    แต่ สื่อผู้จัดการกลับเลือกที่จะลงข่าวว่า
    "สยามพารากอน เปิดทาง พันธมิตร ปิดห้าง2 วัน"
    กระแสก็จะกลายเป็น "เห็นมั้ย เค้าปิดห้างเพื่อม้อบเลย"


    บทความที่ผมเขียนนี้
    ผมแค่อยากจะมาบอกทุกๆคนว่า

    การเล่นสงครามสื่อโดยใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ

    เป็นเรื่องที่ เลวทราม ต่ำช้าที่สุด ของมนุษยชาติ
    ยิ่งกว่าระบอบเผด็จการ มากมายนัก

    การทำให้ คนๆหนึ่งถูกเกลียดชัง
    โดน วาจา ที่โน้มน้าว ปลุกระดมคนหมู่มาก เพื่อเข้าร่วมอุดมการณ์ ของตน โดยไม่สนว่า สิ่งที่ตนพูดจะเป็นเรื่องโกหก
    เพื่อทำลายคนอีกคนหนึ่ง

    คุณคิดหรือว่า คนๆนี้คุณสมควรที่จะมอบหน้าที่ให้เขาเป็นผู้ "สื่อสารความจริง" ให้กับคุณ
    คนที่ชื่อ สนธิ ลิ้มทองกุล คือผู้มีอิธิพ
    จอมบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร
    จอมปลุกระดม ความเกลียดชัง

    คุณไว้ใจคนๆนี้หรือว่าเค้าจะนำสิ่งที่ดีกว่า มาให้ประเทศชาติของคุณ?

    การเกลียดชังคนหนึ่งคนแล้วมาตะโกนด่าเขาได้อย่างสะใจ
    ถ้า เขาคนนั้นไม่ได้มาทำร้ายร่างกายคุณหรือเคยทำให้ คุณได้รับความเสียหายโดยตรงละก็

    ยากครับ

    แต่หากคุณสามารถเกลียดเขาเข้าใส้ขนาดนั้นได้ แปลว่า

    "คุณกำลังเชื่อว่าเขาคนนั้นเลวทรามสุดๆ..ด้วยอิธิพลของบางสิ่งบางอย่าง..และกำลังเชื่ออย่างสนิทใจ"


    ตัวอย่างของประเทศ กัวเตมาลาที่ถูก อเมริกาเล่น สงครามสื่อคงเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเรื่องๆนี้
    ลองไปศึกษาอ่านดูนะครับ


    คุณมีสิทธิ์ ที่จะมีความคิดเห็นที่แตกต่าง
    เพราะมันคือ "ประชาธิปไตย"

    แต่คุณ "ห้าม" ตกเป็นเครื่องมือของ คนชั่ว ที่ใช้ประชาธิปไตยเครื่องมือเด็ดขาด
    เพราะนั่นหมายความว่าคุณกำลังเป็น ส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมคนชั่วเหล่านั้นโดยบริสุทธิ์ใจ

    อเมริกา เจริญ มาได้ถึงทุกวันนี้ เพราะเขาคนขอเขา "เลือกที่จะเชื่อ และ ไม่เชื่อ " ได้โดยไม่มีใครชักจูงเขาได้

    "คนชั่วไม่มีวันหมดไปจากโลกใบนี้ แต่สิ่งที่เราทำได้คืออย่าให้คนชั่วเหล่านั้นมีอำนาจเหนือคนดี"

    อำนาจ ที่ว่านี้ไม่ใช่อำนาจนายกรัฐมนตรี
    แต่อำนาจ ของจริงในยุคนี้ คืออำนาจสื่อที่คุณจะไม่มีวันรู้เลยว่าตกอยู่ในมือคนดี หรือ คนชั่วช้าสามาญ ขนาดไหน

    บริโภคสื่อด้วยสติ คุณจะกลายเป็นคนทันโลก
    บริโภคสื่อโดยขาดสติ คุณจะกลายเป็น ไอ่โง่ทันที

    ฝากกลับไปคิดนะครับ

    จากคุณ : Nik Assassin - [ 5 เม.ย. 49 18:25:03 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป