ใกล้ถึงฉากอวสานของสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ใช้วาทศิลป์โน้มน้าวก่อม็อบสำเร็จ ต้องมาตกม้าตายเพราะปากพาไป เพราะกรรมกำลังตามสนอง และถูกรุมกินโต๊ะจากมหาชนทั่วสารทิศที่บังอาจหมิ่นเบื้องสูง ทั้งทหาร ประชาชน ที่ยื่นเรื่องฟ้องดำเนินคดี ในฐานความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี
ในที่สุด ก็มาถึงฉากอวสานของสนธิ ลิ้มทองกุลผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และแกนนำคนสำคัญของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ชุมนุมประท้วงขับไล่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
หลังจากปรากฏหลักฐานความผิดชัดเจน เป็นคลิปต์วีดีโอ เกี่ยวกับการหมิ่นเบื้องสูง ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผ่านเวบไซต์ พันทิพย์ดอทคอม ที่ใช้วาจาสามหาว จาบจ้วง หมิ่นเบื้องสูง ดึงฟ้าต่ำ กรณีให้สัมภาษณ์ หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ปีที่ 5 ฉบับที่ 1621 ลงวันที่ 24 มีนาคม 2549 หน้า 18 ที่ลงตีพิมพ์คำให้สัมภาษณ์ ซึ่งเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้วยประโยคสั้นๆ ว่า
แน่นอน....แน่นอน....เอ็งส่งกฎหมายให้ในหลวงลงพระปรมาภิไธย พอพระองค์ท่านลงมาแล้วเกิดความผิดพลาด นายกฯต้องลาออกแสดงความรับผิดชอบ ถ้าไม่ยอมลาออกต้องบอกประชาชนทั้งประเทศว่าให้.......ลาออก
เป็นสนธิ ลิ้มทองกุล ที่มีชื่อ และแซ่ เดิมว่า โกตั๊บ แซ่ลิ้ม ที่มีรากเง้าต้นตระกูลหอบเสื่อผืนหมอนใบจากจีนโพ้นทะเล เชื้อสายจีนไหหลำ
เป็นสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ปวรณาตน ขอเป็นยามเฝ้าแผ่นดิน
เป็นสนธิ ลิ้มทองกุล ที่แอบอ้างสถาบัน ด้วยสโลแกนเราจะสู้เพื่อในหลวง บังหน้าเพื่อก่อม็อบสร้างความปั่นป่วนให้กับบ้านเมือง เพียงเพราะถูกขัดผลประโยชน์ของตัวเอง
และเป็น สนธิ ลิ้มทองกุล ที่ใช้วาทศิลป์ชั้นยอด โน้มน้าวคนไทยจำนวนมาก ทั้งนักวิชาการ คนชั้นกลาง ให้หลงลมปาก ดึงเข้ามาเป็นแนวร่วม จนสร้างมูลค่าเพิ่มให้สนธิมีความชอบธรรม ในการชุมนุมประท้วงขับไล่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ต้องมาตกม้าตาย เพราะปากพาไป ด้วยประโยคดังกล่าว
และประโยคที่ว่านี้ ทำให้นายทหารในกองทัพ ซึ่งนำโดย พล.ต.สุรสิทธิ์ ถาวร ผู้ทรงคุณวุฒิกองบัญชาการทหารสูงสุด พร้อมด้วยนายทหารจากกองบัญชาการทหารสูงสุด และกองทัพบก รวม 9 นาย ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นนายทหารเตรียมทหารรุ่น 17, 18 และ 20 ที่ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ตบเท้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ดำเนินคดี ในฐานความผิดหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ต่อกรณีคำสัมภาษณ์ดังกล่าวขอดงสนธิ ลิ้มทองกุล
ขณะที่กลุ่มทหารผ่านศึกพิทักษ์ประชาธิปไตย ประมาณ 10 คน ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีประชาชนอีกจำนวนมาก ในหลายจังหวัดเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสนธิ ลิ้มทองกุล ในข้อหาเดียวกัน
/////////////////////////////
แม้ สนธิ พยายามดิ้น หาวิธิแก้ต่าง ด้วยการให้อัญชลี ไพรีรัตน์ และยุทธิยงค์ ลิ้มเลิศวาที นำเทปช่วงที่นายสนธิ กล่าวปราศรัยบนเวที ไปเปิดในรายการสถานีข่าวมัฆวานรังสรรค์ และแม้จะมีการทำเป็นคลิปเสียง ไว้ในเวบไซต์ผู้จัดการ ตอนที่สนธิปราศรัย เพื่อช่วยแก้ต่างยืนยันว่าไม่มีการพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์
และถึงแม้ กองบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ซึ่งเป็นผู้ตีพิมพ์ข่าวการให้สัมภาษณ์ของสนธิ จะพยายามปกป้องสนธิ ชนิดสุดลิ่มทิ่มประตู โดยออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมาว่า
ยอมรับความผิดพลาดของกองบรรณาธิการฯ โดยระบุว่า การตีพิมพ์ข้อความดังกล่าวเป็นการนำคำให้สัมภาษณ์ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาลงโดยไม่ครบถ้วนและยืนยันว่ามีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด
การที่ หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก พยายามปกป้องสนธิ ทั้งที่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจนในคลิปต์วีดีโอว่า สนธิ ให้สัมภาษณ์ ตรงตามคำพูดทุกคำที่ตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก
ไม่เพียงเท่านั้น ภาพที่ปรากฏในคลิปต์วีดีโอ การให้สัมภาษณ์ของสนธิ ยังมีเทปบันทึกเสียงของนักข่าวที่ยื่นจ่อสัมภาษณ์นายสนธิ ซึ่งมีโลโก้ของเครือเนชั่น ปรากฏอยู่ด้วย
การที่หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ยอมรับว่าเป็นความผิดของกองบรรณาธิการ ที่นำคำสัมภาษณ์ สนธิ ไม่ครบถ้วน และยืนยันว่ามีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอดจึงฟังไม่ขึ้น
และกลายเป็นที่มาของการชุมนุมปิดล้อมหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ที่อาคารเนชั่น เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา และเรียกร้องให้กองบรรณาธิการ คม ชัด ลึก ยอมรับความจริง
การที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กลุ่มคณาจารย์ นิสิต นักศึกษา จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กลุ่มคาราวานคนจน หยุดคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน แถมยังยกย่อง คม ชัด ลึก มีความรับผิดชอบต่อสังคม จึงเป็นการออกมาผิดที่ ผิดทาง และผิดกาลเทศะ เพราะเป็นการเรียกร้องโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง
เป็นการปกป้องสื่อในทางที่ผิด เพราะพฤติกรรมของหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ที่ปกป้องคนทรราช หมิ่นเบื้องสูง เท่ากับหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก จงรักภักดีสนธิ ลิ้มทองกุล ไม่เหมือนดังในแถลงการณ์ยืนยันว่ามีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ถามว่า ในเมื่อแถลงการณ์ยืนยันว่า มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วทำไม จึงต้องปกป้องคนทรราช ที่คิดร้ายต่อพระมหากษัตริย์
และการที่หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ทูลถวายฎีกาขอพระราชอภัยโทษ กรณีตีพิมพ์ข้อความอันทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท วันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อชี้แจงดังนี้
1.กองบรรณาธิการฯขออภัยต่อประชาชนชาวไทยที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจอันเกิดจากการเผยแพร่ข้อความดังกล่าว
2.กองบรรณาธิการฯขอยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดของกองบรรณาธิการฯ และขอรับผิดชอบในความผิดพลาดทุกกรณี
3.การตีพิมพ์ข้อความดังกล่าวเป็นการนำคำให้สัมภาษณ์ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาลงโดยไม่ครบถ้วน อันเนื่องมาจากความประมาทเลินเล่อ จนทำให้เกิดความเข้าใจว่าข้อความดังกล่าวทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท
4.ได้ตีพิมพ์ข้อความขอพระราชทานอภัยโทษในหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก ในฉบับที่เผยแพร่ประจำวันที่ 29 มีนาคม 2549 พร้อมทั้งจะยื่นหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษแก่สำนักราชเลขาธิการ
5.กองบรรณาธิการฯขอยืนยันว่ามีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และปฏิบัติหน้าที่ในการรายงานข่าว ตลอดจนความคิดเห็น เพื่อธำรงไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด และจะดำรงไว้ซึ่งความมุ่งหมายนี้ตลอดไป
ประเด็นที่ที่ต้องถามต่อไป คือ เมื่อปรากฏหลักฐานชัดว่า แต่ยังคงปกป้องสนธิ นั่นเท่ากับว่า การทูลเกล้าถวายฎีกาที่หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ทำหนังสือไปยังราชเลขาธิการ ก็เป็นทูลเกล้าด้วยข้อความเท็จ
ตรงกันข้ามกับแถลงการณ์ ที่ระบุว่า มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างสิ้นเชิง
จึงไม่ถือว่าเป็นภาพที่เกินเลยไปนัก สำหรับกลุ่มราคาวานคนจน ที่ปิดล้อมหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก เพื่อให้ออกมายอมรับความจริง เอาผิดกับทรราช ในฐานะปวงชนชาวไทย ที่แสดงความจงรักภักดีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
//////////////////////////////////////
ภาพหลักฐานที่ชัดเจน ในคลิปต์วีดีโอ เกี่ยวกับการหมิ่นเบื้องสูง ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่มีการเผยแพร่ผ่านเวบไซต์ พันทิพย์ดอทคอม ได้เกิดปรากฏการณ์ อย่างคาดไม่ถึง เนื่องจากประชาชนจำนวนมาก ให้ความสนใจ และได้เข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยอารมณ์ร่วมอย่างสะใจ กับผลกรรมที่สนธิ จะได้รับในอนาคตอันใกล้
เพราะตลอดระยะเวลา ที่สนธิ ก่อม็อบเพื่อชุมนุมประท้วงขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีการเดินขบวน ปิดถนน และภาพที่แสดงพฤติกรรมถ่อย และเถื่อน ทำร้ายประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มผู้ชุมนุม สร้างความเดือดร้อนปั่นป่วนวุ่นวายให้กับบ้านเมืองไม่จบไม่สิ้น
จนเป็นที่เกลียดชังของประชาชนจำนวนมาก และค่อนข้างจะเบื่อหน่ายกับกลุ่มม็อบ ที่อ้างเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ ทำให้กลุ่มพลังประชาชน และสารพัดกลุ่มและองค์กรโดยเฉพาะพลังเงียบ เหลืออด-เหลือทน กับพฤติกรรมของม็อบสนธิ และมีการสาปส่ง และสาปแช่ง ต่างๆ นาๆ
ณ เวลานี้ สนธิ กำลังจะชดใช้กรรมที่ตัวเองก่อไว้ เหมือนดัง สุภาษิตที่ว่ากรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตามสนอง ส่วนจะตามสนองกันในชาติไหน จะเป็นชาตินี้ หรือชาติหน้า ก็ขึ้นอยู่กับว่าความร้ายแรงของการก่อกรรมของแต่ละบุคคล
เพียงแต่กรรมที่สนธิ ลิ้มทองกุล ก่อไว้ อยู่ในขั้นร้ายแรงถึงที่สุด ทำให้ถูกสนองอย่างรวดเร็ว ชนิดเร็วยิ่งกว่าติดจรวด
เพราะตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หมวด 2 มาตรา 8 องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่ เคารพสัก การะผู้ใดจะละเมิดมิได้ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระ มหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้
ซึ่งกรณีของสนธิ ลิ้มทองกุล ถือว่ามีความผิดค่อนข้างร้ายแรง เข้าข่ายประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 บัญญัติว่า ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี
//////////////////////////////////////
จากคุณ :
mr_a 
- [
8 เม.ย. 49 17:14:25
]
ใกล้ถึงฉากอวสานของสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ใช้วาทศิลป์โน้มน้าวก่อม็อบสำเร็จ ต้องมาตกม้าตายเพราะปากพาไป เพราะกรรมกำลังตามสนอง
