ประโยคตามกระทู้นี้ เป็นอาการและเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองเก่าแก่ที่ระบอบประชาธิปไตยน่าจะฝากความหวังว่าจะสามารถเป็นพรรคการเมืองหลักที่ทำหน้าที่อาสาและแข่งขันในการใช้วิถีทางการเมืองสร้างความเจริญให้เกิดขึ้นกับสังคมและประเทศชาติได้
แต่นับถึงเวลานี้ การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์หลายอย่างผิดพลาดอย่างนึกไม่ถึง ตลอดเวลาที่มีพรรคคู่แข่งทางการเมืองเช่นพรรคไทยรักไทยที่ได้ใช้วิธีการต่อสู้ทางการเมืองโดยเสนอนโยบายหลายอย่างต่อสังคมและเพื่อการตัดสินใจของประชาชน แต่รอแล้วรออีกประชาชนกลับไม่เคยเห็นนโยบายทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ออกมาเสนอต่อสังคมเลย มีเพียงวิธีการเดิมที่เคยใช้อยู่อย่างประจำจนผู้ที่เฝ้าจับตาอยู่คุ้นชินกับพฤติกรรมเช่นนั้น นั่นคือ การโจมตี กล่าวร้าย ต่อคู่แข่งทางการเมือง หลักการเดิมที่เคยบอกกล่าวต่อสังคมให้รับทราบคือ"ยึดมั่นในระบบรัฐสภา" กลับถูกทำลายลงเมื่อภาพของนายอภิสิทธิ์ฯหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เดินทางไปถึงที่ทำการของหัวหน้าแกนนำกลุ่มพันธมิตร นายสนธิ....ซ้ำเติมไปด้วยการประกาศไม่ยอมรับแนวทางตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตย ภาพของการชุมนุมใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ ณ สนามหลวงก่อนวันที่กลุ่มพันธมิตรฯนัดรวมพลครั้งใหญ่ล่วงหน้า 1 วัน หรือ การเตรียมระดมคนทางภาคใต้ให้มาร่วมฟังการปราศรัยของนายสนธิ ที่ ม.สงขลานครินทร์ เหล่านี้ เป็นภาพการเมืองที่ปรากฎออกสู่สังคมที่คงไม่มีใครจะปฏิเสธว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เกี่ยวข้องได้...เหล่านี้ จึงเป็นการเดินหน้าที่มีแต่ถลำลึกลงไปของพรรคประชาธิปัตย์
การออกมาเรียกร้องแสดงความเห็นในเรื่องการขอนายกพระราชทาน...อะไรที่ทำใหเพรรคการเมืองอย่างพรรคประชาธิปัตย์ที่มีนักกฎหมายมือดีหลายคนหลงทางได้ขนาดนี้...เพราะเรื่องนี้น่าจะรู้และมีคำตอบอยู่แก่ใจว่า ตราบใดที่รัฐธรรมนูญยังใช้บังคับอยู่ การเรียกร้องในลักษณะเช่นนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้อย่างแน่นอน เรื่องดังกล่าวเป็นแนวคิดที่ไม่ใช่วิถีทางทางการเมือง...เป็นเรื่องของการดิ้นรนหาทางที่ยิ่งให้เห็นถึงการหลงทาง
60 ปี ของสถาบันทางการเมืองเช่นพรรคประชาธิปัตย์ ที่น่าจะผ่านร้อนผ่านหนาวทางการเมืองมามากกว่าพรรคการเมืองอื่น แต่วิธีการที่ได้แสดงออกมาให้ปรากฎต่อสังคมนั้น นับวันคุณค่าแห่งการดำรงอยู่ในความเป็นสถาบันทางการเมืองมีแต่จะเสื่อมถอยลงไปอย่างน่าเสียดาย เพียงเพราะการไร้ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ของนักบริหาร และทีมงานที่มีความคิดให้คนในสังคมได้มองเห็นว่าสามารถที่จะทำประโยชน์เพื่อสังคมอย่างแท้จริง ไม่ใช่ทำเพื่อประโยชน์เพียงพวกพ้อง หรือเพื่อความอยู่รอดของพรรคประชาธิปัตย์เองเท่านั้น...เพราะในระบอบประชาธิปไตยยังมีความจำเป็นที่จะต้องมีการถ่วงดุลย์ในเรื่องอำนาจทางการเมืองอยู่ หากพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่แก้ไขและปรับแนวทางอย่างที่เป็นอยู่...ความเป็นพรรคการเมืองที่จะเป็นคู่แข่งกับพรรคไทยรักไทยอาจจะเปลี่ยนไปเป็นพรรคชาติไทยก็เป็นได้...แล้วเมื่อนั้น ความภูมิใจของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่เพิ่งจะได้ฉลองการก่อตั้งครบ 60 ปีจะมีเหลืออยู่แค่ไหนกัน
โจทก์คำถามที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องเร่งหาคำตอบให้เร็วที่สุดก็คือ "อะไรที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เดินหลงทางได้ขนาดนี้"
.
จากคุณ :
ศรีธนญชัย
- [
10 เม.ย. 49 15:48:55
]