ความคิดเห็นที่ 1 ตร.แจงเหตุดำเนินคดี ASTV          วันเดียวกัน พ.ต.อ.วิชาญ บริรักษ์กุล ผกก.สน.ชนะสงคราม ได้ทำหนังสือชี้แจงการดำเนินคดีสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ASTV มายังกองบรรณาธิการข่าวสด ระบุว่า ตามที่ข่าวจากสื่อสารมวลชนเกี่ยวกับการดำเนินคดีกับสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ASTV ซึ่งเป็นของบริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด โดยมีผู้ให้ข่าวว่า เป็นเรื่องการกลั่นแกล้งโดยผู้มีอำนาจทางการเมือง เพื่อดำเนินคดีและปิดสถานีโทรทัศน์ ASTV นั้น ขอชี้แจงข้อเท็จจริงการสอบสวนดำเนินคดี โดยเมื่อวันที่ 3 ก.พ.2549 กรมประชาสัมพันธ์ โดยนางภัทรียา สุมะโน รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดี ได้มอบอำนาจให้ นายอานนท์ ลอยกุลนันท์ และนายไสว ชุติชุษณพงศ์ มาร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ บริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด เจ้าของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ASTV เนื่องจากตรวจพบว่า มีการแพร่ภาพและเสียงออกอากาศรายการโทรทัศน์ทางช่อง 11 นิวส์วัน โดยประชาชนทั่วไปสามารถรับสัญญาณภาพและเสียงได้โดยการซื้อจานรับสัญญาณที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป          พ.ต.อ.วิชาญ ชี้แจงว่า ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดฐาน ดำเนินบริการส่งวิทยุกระจายเสียงหรือวิทยุโทรทัศน์ เพื่อให้บริการแก่ชุมชนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้ตามคดีอาญาที่ 300/2549 ปจว.ข้อ 7 วันที่ 3 ก.พ. 2549 หลังจากรับแจ้งได้สอบสวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง และรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ จนได้พยานหลักฐานเป็นที่แน่ชัดว่า บริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด ได้กระทำผิดตามที่กรมประชาสัมพันธ์กล่าวหา จึงได้ออกหมายเรียกกรรมการของบริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด ให้มาพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ชนะสงคราม จึงเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงมาเพื่อทราบ และขอเรียนว่า การดำเนินการดังกล่าว ไม่ได้กลั่นแกล้งโดยทางการเมือง แต่เป็นการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานตามกระบวนการสอบสวน ตามขั้นตอนของกฎหมาย Source - เว็บไซต์ข่าวสด (Th) Thursday, April 13, 2006 จากคุณ : <_Eminem_> - [ 16 เม.ย. 49 01:21:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 น่าคิดครับว่า การมี Studio ในประเทศไทย แต่ส่งผ่านดาวเทียม จากต่างประเทศ จะถือว่า ASTV เป็นสถานีโทรทัศน์ในประเทศไทยหรือเปล่า ในกรณีคล้าย ๆ กัน หาก Studio อยู่ต่างประเทศ แล้วยิงสัญญาณซึ่งสามารถรับชมได้ในประเทศไทย จะต้องขออนุญาตจัดตั้งสถานีหรือไม่ จากคุณ : บก.ลายจุด - [ 16 เม.ย. 49 01:27:13 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้ามีบริษัทที่เกี่ยวพัน ที่ตั้งกิจการในประเทศไทย ก็ไม่รอดกฏหมายทรัพยากรการสื่อสาร จากคุณ : Ken - [ 16 เม.ย. 49 01:37:05 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นพ้องตาม คห.1และ2 ครับ น่าสงสัยการมีอยู่ ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งจะเป็นเหตุให้สามารถแสดงถึงการเป็นสื่อสัยชาติไทย หรือ ไม่ใช่ ไม่เช่นนั้น ถ้ามีขึ้นอีกหลายๆสถานี ที่ส่งจากดาวเทียมต่างชาติ แล้วบ่อนทำลายความมั่นคง จะทำยังงัยกันต่อไป จากคุณ : ~Hidden Tiger~ (oe_dipus) - [ 16 เม.ย. 49 01:38:50 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมคิดว่าเป็น ถึงผมจะไม่เคยดู แต่ผมก็ยังคิดว่า ที่แย่ยิ่งไปกว่าการละเมิดสิทธิ์เสรีภาพของสื่อสารมวลชน คือการละเมิดสิทธิ์เสรีภาพการรับรู้ของผมครับ แต่รัฐบาลชุดนี้ก็ละเมิดสิทธิ์การรับรู้ไปหลายต่อหลายเรื่องเลยนี่ครับ พอเรารับรู้กันน้อยๆ ต่อไปก็จะคิดกันน้อยๆ แล้วสักวันหนึ่งเราก็จะชินไปเอง ชินกับการไม่รู้ไงครับ ถ้าผมจำไม่ผิด คุณเจ้าของกระทู้ก็เป็นคนที่ชอบชมภาพยนตร์ไม่ใช่หรือครับ แล้วคิดอย่างไรบ้างกับการทำงานของกระทรวงวัฒนธรรมที่ตั้งขึ้นโดยรัฐบาลชุดนี้ล่ะครับ บางทีคุณอาจจะลองอ่านสไตล์การทำงานของกระทรวงวัฒนธรรมที่หนูแม้วตั้งขึ้นจากกระทู้นี้ดูครับ http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A4254524/A4254524.html แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 49 02:25:31 จากคุณ : emanuelle - [ 16 เม.ย. 49 01:39:00 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมคิดว่าการรับรู้ข่าวสารที่เผยแพร่ไม่กระทบกับความมั่นคงของชาติเท่าความมั่นคงของผู้ที่อยู่ในอำนาจหรอกครับ ถ้าจะเป็นห่วงเรื่องความมั่นคง ควรเป็นห่วงกรณีที่ว่า บริษัทเทมาเสกซึ่งสามารถใช้งานดาวเทียมที่เรามีจะสามารถดักฟังสัญญานต่างๆจากดาวเทียมที่พวกเขาได้สิทธิ์การใช้ไปหรือไม่มากกว่า จากคุณ : emanuelle - [ 16 เม.ย. 49 01:43:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แล้วพวกติดจานไปแล้วจะทำไง 6000 บาท จานเล็ก 10800 จานใหญ่ เอ่อแล้วใครเอาเงินส่วนนี้ไป ปิดแล้วเขาจะคืนเงินไหม น่าคิด จากคุณ : กบเขียดปาด - [ 16 เม.ย. 49 01:49:56 ]

ความคิดเห็นที่ 8 รู้สึกแปลกๆกับการกดโหวตของพันทิพย์ ผมกดไป1ครั้ง คห.ที่5 บอกว่าเป็น แต่ไหงขึ้นว่าเป็นแค่ 1 คน จากคุณ : Umiki - [ 16 เม.ย. 49 01:51:18 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่เป็นการละเมิดสิทธิผมแม้แต่น้อย เพราะขยะเช่นนี้ผมไม่ต้องการดูอยู่แล้ว 555 (ขำ) เปล่า หรอก ถ้ามันละเิมิดกฏหมายก็ต้องลงมือจัดการให้เรียบร้อยสิ เพราะการที่มันเปิดทำการได้ แล้วไม่ต้องสนกฏหมายเนี่ย ในสายตาผม มันละเิมิดสิทธิผมมากกว่าอีก ขนาดพวกเราๆท่านๆ ยังต้องทำตามกฏหมาย แล้วมันใหญ่มาจากไหน ถึงไม่ต้อง? ยิ่งมาอ้างตัวเราไปเกี่ยวด้วยแล้ว ยิ่งต้องเอาให้หนัก จากคุณ : เบื่อความเกลียดชัง (kung lee) - [ 16 เม.ย. 49 02:08:18 ]

ความคิดเห็นที่ 10 กรณีที่ไม่ผิดกฎหมายแล้วไปปิดเค้า ถือว่าเป็นการละเมิดครับ คุณ #9 ครับ  ถึงจะเป็นขยะ แต่คนคุ้ยขยะก็ยังได้รับประโยชน์นะครับ   หรือคุณคิดว่าคนคุ้ยขยะไม่มีค่าควรเคารพสิทธิ์ ? กรณีที่ผิดกฎหมาย ก็ต้อเอาโทษตามกฎหมายนั่นแหละครับ จากคุณ : IntoDreams - [ 16 เม.ย. 49 02:17:30 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ทำผิดแล้วจะไม่ยอมรับความผิดได้ไง จากคุณ : Ap_Ni - [ 16 เม.ย. 49 02:17:54 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณความเห็นที่ 9 ครับ ละเมิดกฏหมายแล้วมาละเมิดสิทธิ์ของผมหรือไม่นั้น ผมว่าควรดูที่เจตนาของกฏหมายที่ถูกเขียนขึ้นมากกว่าดูตามตัวอักษรนะครับ คุณเห็นว่ามันเป็นขยะคุณก็ไม่ต้องดู นั่นเป็นสิทธิของคุณ แต่ไม่ใช่ว่าจะมาตัดสินใจแทนผมว่าผมไม่ควรจะดูนี่ครับ นั่นมันเกินขอบเขตของสิทธิที่คุณมี   เป็นเพราะเรามีประชากรที่ง่ายต่อการถูกปกครองอย่างนี้นี่เอง เราถึงไม่เคยตั้งคำถามกับเจตนารมณ์ของกฏหมายและการเซ็นเซอร์เลยว่ามีไว้เพื่อจุดประสงค์อะไร ทำไมเราถึงรู้เรื่องราวต่างๆจากโลกภายนอกได้ไม่เท่ากับประชากรในสังคมอื่นๆ แต่ก็อย่างว่าแหละครับ คิดกันน้อยๆให้สมกับเป็นคนไทยที่ดี แล้วเราจะไม่ปวดหัว อย่าลืมนะครับว่ากฏหมายไม่ใช่กฏธรรมชาติ เป็นสิ่งที่มนุษย์คิดขึ้น และมักจะเขียนโดยผู้ที่อยู่ในอำนาจ เพื่อรักษาความมั่นคงให้กับโครงสร้างทางอำนาจ ความสัมพันธ์ทางอำนาจที่มีอยู่ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 49 02:21:56 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 49 02:19:37 จากคุณ : emanuelle - [ 16 เม.ย. 49 02:18:14 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อ้าวถ้าผิดแล้วปล่อยให้ขายจานได้ไง ล่อลวงรึเปล่า จากคุณ : กบเขียดปาด - [ 16 เม.ย. 49 02:33:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เรียนจขกท. ดิฉันไม่เคยดู และไม่เคยคิดจะดูด้วย สือเฮงซวยแบบนี้ ข่าวสารของสื่อนี้ เท่าที่ได้รับทราบจากสารพัดความคิดเห็นตามเว็บบอร์ดต่างๆ รวมทั้งสมาชิกที่บ้านที่ต่างจังหวัดเล่าให้ฟัง ดิฉันก็ยังงงอยู่ว่าปล่อยมาได้ยังไง ใครรับผิดชอบ แต่ขอยืนยันว่าการปิด"ASTV" เป็นสิ่งสมควรอย่างยิ่ง -------------------------------------------------------- K.emanuelle คห.5 สิทธิเสรีภาพในการรับรู้ ต้องเป็นข้อมูลที่ตรงไปตรงมาไม่บิดเบือน การเสนอข่าวสารในเชิงมอมเมายั่วยุให้เกิดความเกียจชัง การรับรู้นั้นจะมีประโยชน์อะไรกัน แล้วที่ว่ารัฐบาลละเมิดสิทธิการรับรู้หลายเรื่อง ช่วยแจงด้วย เผื่ออีกหลายๆล้านคน กรุณาอย่ากล่าวลอยๆ คห.6 คุณก็พูดซะเหมือนคนเป็นโรคประสาท ลองค่อยๆคิดพิจารณาตัวเองว่าจริงหรือไม่ ก่อนที่จะกลายเป็นคนบ้า คห.12 หวังว่าการดูเจตนารมณ์ตามกม.ของคุณคงไม่เหมือนนายแก้วสรรเรื่องฉีกบัตรเลือกตั้งนะคะ ส่วนข่าวสารขยะ ไม่มีใครไปเสียเวลาตัดสินใจคนที่มีเช่นคุณหรอกค่ะ เพราะดูจะเสียเวลาเปล่า และดิฉันมีสิทธิที่จะเตือนญาติพี่น้อง,เพื่อนๆว่า ASTV มันเลวแค่ใหน สมควรดูหรือไม่ สรุป ดูคุณเป็นคนมีความรู้ แต่ไม่ฉลาดค่ะ ทายว่ามีอาชีพ เป็นคนรับจ้างสอน ที่ไม่ค่อยมีคุณภาพ การรู้เรื่องราวตามที่คุณว่าคืออะไร ข้อมูลโคมลอย ทั้งมั่วทั้งผิด ส่งเสริมให้เกลียดชังรัฐบาล จากคุณ : aruka - [ 16 เม.ย. 49 03:07:47 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ 14 ก็ลองอ่านดูตามลิงค์ของผมในความเห็นที่ 5 สิครับ ถ้าตาของคุณยังใช้การได้อยู่ แล้วจะรู้ว่าสิทธิ์การรับรู้ของผมในการชมภาพยนตร์มันถูกริดรอนไปเท่าไร ใครจะไปรู้ว่า ถ้าวันนี้มาเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ พรุ่งนี้อาจจะคิดเซ็นเซอร์ดนตรี มะรืนอาจจะเซ็นเซอร์หนังสือ ยังไม่นับเรื่องการบล็อคเว็บต่างๆด้วยนะครับ ได้ยินมาว่าพวกนักศึกษาอาสาสมัครที่คอยรายงานกระทรวงไอซีทีว่าเว็บไหนควรจะบล็อคบ้างนี่ พวกนี้ก็กร่างกันเหลือเกิน ไม่พอใจเว็บไหนก็ส่งรายชื่อไปโดยที่ทางกระทรวงไม่เคยมีการตรวจสอบ ผมไม่สงสัยเลยว่าทำไมเว็บดีๆถึงถูกเหมารวมไปด้วย นี่แค่คร่าวๆนะครับ ถ้าเห็นว่าข้อมูลบิดเบือนไม่เป็นความจริง ก็ใช้เสรีภาพในการนำเสนอข่าวสารข้อมูลมาหักล้างสิครับ รัฐบาลก็มีทั้งสื่อทีวีในครอบครอง ทำไมไม่มีปัญญา และถ้าเห็นว่าข่าวที่นำเสนอทำให้เกิดความเสียหาย ก็ใช้กระบวนการทางศาลสิครับ อย่างที่พวกกองเชียร์แนะนำเวลาที่ใครต้องการจะตรวจสอบข้อสงสัยต่างๆเกี่ยวกับการทำงานของรัฐ ผมก็เสนอคำแนะนำอย่างเดียวกันนี่แหละครับ ผมก็เคยรู้สึกเหมือนกันครับว่าข้อมูลจากสื่อบางครั้งก็เหมือนกับขยะ ยกตัวอย่างง่ายๆนะครับ อย่างเช่นรายการของสมัครกับดุสิต  ซึ่งผมก็คงจะรู้สึกกับรายการนั้นแบบเดียวกับที่คุณรู้สึกกับรายการที่คุณคิดว่ามันเป็นขยะ แต่ผมก็ไม่เคยคิดที่จะไปสนับสนุนการเซ็นเซอร์หรือริดรอนสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นของตาแก่แร้งทึ้งสองตัวนั่น ซึ่งมันจะเป็นการริดรอนสิทธิ์ในการรับชมของผู้ที่ชอบรายการนั้นด้วย ถ้าผมเห็นว่ารายการนั้นมันงี่เง่า สู้ให้ความงี่เง่าของพวกเขาประจานตัวมันเองดีกว่า การพัฒนาวิจารณญานของผู้ชมจะเกิดขึ้นได้เมื่อเขาได้รับรู้อย่างรอบด้าน ทุกๆด้าน แล้วนำข้อมูลที่ได้รับรู้มาพาจารณา แต่การพัฒนาวิจารณญานจะไม่มีวันเกิดขึ้นได้จากการควบคุมด้วยอำนาจหรอกครับ รัฐบาลเองก็มีสื่ออยู่ในมือ ผมก็คงไม่ต้องห่วงว่าพวกนั้นจะไม่มีเวทีสำหรับชี้แจง ยกเว้นแต่ว่าพวกเขาไม่สามารถชี้แจงอะไรได้ แล้วได้แต่ตอบข้อกังขาแบบข้างๆคูๆ พอเห็นท่าไม่ดีก็เลยหาเหตุมาปิดกั้นการรับรู้ แล้วช่วยชี้แจงหน่อยนะครับว่าความเห็นที่ 6 ของผมเหมือนคนเป็นโรคประสาทตรงไหน บริษัทไม่ได้เป็นเจ้าของดาวเทียม แต่ก็มีสิทธิที่จะใช้ได้ตามใจขอบตลอดระยะเวลาที่ได้รับนี่ครับ   คุณมีสิทธิ์ที่จะเตือนญาติพี่น้องคุณ แต่คุณไม่มีสิทธิ์สนับสนุนการเซ็นเซอร์นะครับ เพราะการบังคับใช้มันไม่ได้บังคับใช้กับคุณคนเดียว ผมไม่ใช่คนฉลาดอะไรอย่างที่คุณว่านั่นแหละครับ และก็ไม่ได้มีการศึกษาที่สูงนัก แต่ผมไม่ใช่พวกเชื่องง่ายที่รู้จักแต่วัฒนธรรมการยอมจำนน และคุ้นเคยกับการถูกสวมปลอกคอเป็นอย่างดีหรอกนะครับ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 49 04:06:48 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 49 04:03:50 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 49 03:59:45 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 49 03:52:24 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 49 03:50:33 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 49 03:47:12 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 49 03:46:34 จากคุณ : emanuelle - [ 16 เม.ย. 49 03:40:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าคุณไม่ห่วงความมั่นคงของชาติ  แล้วความสงบสุขเรียบร้อยภายในชาติล่ะ ไม่ห่วงด้วยใช่มั้ย ไอ้สถานี ASS(HOLE)TV เนี่ยวันๆมีแต่ปั้นข่าวปลุกปั่นยุยง ปลุกระดมให้คนไทยเกลียดกัน  ถ่ายทอดสดปราศรัยกี่ทีๆ มันก็ยุให้คนใต้แยกประเทศ  ยุให้คนไม่เสียภาษี  แบบนี้มันบ่อนทำลายชาติชัดๆ  สร้างความแตกแยกวุ่นวายในประเทศ  มันจะตั้งอยู่ที่ไหนไม่สำคัญ  แต่ได้เนื้อหาการนำเสนอแบบนี้ สมควรถูกปิด จากคุณ : (: - [ 16 เม.ย. 49 04:10:39 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ความสงบเรียบร้อยของประเทศนี้มันไม่มีมาได้ห้าปีแล้วครับ จากคุณ : emanuelle - [ 16 เม.ย. 49 04:22:52 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ดิฉันว่าคำว่า "สิทธิเสรีภาพ" มันมันความหมายอยู่ คือว่าคุณอยากทำอะไรก็ได้ แต่อย่าไปละเมิดสิทธิของคนอื่นด้วย นั่นคือสิทธิเสรีภาพของคุณ ถ้าไปละเมิดทำให้คนอื่นเดือดร้อน นั่นไม่ใช่สิทธิเสรีภาพแล้วค่ะ ถ้าสื่อบิดเบือนก็เหมือนการ "การโฆษณาชวนเชื่อ" ทางการเมือง แบ่งให้คนเป็นสองกลุ่ม แตกแยกตามความคิดเห็นทางบ้านเมือง ไม่สร้างความปรองดองให้กับประเทศ อยากให้คนไทยคิดว่าเราเป็น 1 ครอบครัว เราทะเลาะเบาะแว้งกัน แต่มีมั้ยที่คนในครอบครัวจะเอาเรื่องคนในครอบครัวไปบอกคนข้างบ้าน พี่สาวเราชอบนอนแก้ผ้า หรือว่า พ่อเราเข้าห้องน้ำไม่กดชักโครก หรือว่า แม่เราทำกับข้าวสกปรก มือไม่เคยล้าง เหล่านี้คนในครอบครัวล้วนบอกกันได้เพราะเป็นเรื่องในบ้าง แต่แปลกที่บ้านเราประเทศไทย สื่อทำตัวเหมือนเด็กในบ้านที่ชอบนินทาว่าร้ายคนในบ้านให้คนนอกบ้านฟัง ยุให้พี่น้องทะเลาะกัน แบ่งเป็นสองฝ่าย แล้วอย่างนี้ครอบครัวนี้จะมีความสุขมั้ย ทำไมไม่ทำให้คนรักไคร่ปรองดองกัน เราทะเลาะกันข้างบ้านดีใจ ทำให้เขาเอาของขึ้นมาขาย บ้านเราทะเลาะกันไม่มีใครช่วยกันทำกับข้าวเอาของมาขาย ต่อไปก็จะไม่มีใครมาซื้อของบ้านเรา อยากให้ทุกคนคิดว่าเราเป็นคนครอบครัวเดียวกัน ปรองดองกัน ทำอะไรคิดถึงประเทศเป็นที่ตั้ง ถ้าประเทศร่ำรวย มีหรือเราจะไม่อยู่ดีกินดีขึ้น ทำไมไม่คิดแบบนี้ จากคุณ : ชาวบ้าน (Yishun) - [ 16 เม.ย. 49 04:57:59 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ปิดไปเถอะครับ   ดูเขาด่ารัฐบาล ทั้งวัน ทั้งคืน  จนคนสระ บุรี  ใกล้บ้าแล้วครับ  บางคนทำตาขวาง  ใครพูดชมนโย บายรัฐบาล  ทำท่าจะเอามีดกระซวกพุง  แล้วบอกว่าเป็น อารยะขัดขืน  ไม่ติดคุก จากคุณ : .. (ศิษย์เจ้าตาก) - [ 16 เม.ย. 49 05:42:56 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าชมรัฐบาล จะไม่โดนปิดครับ จากคุณ : พ่อค้าหน้าเลือด - [ 16 เม.ย. 49 06:09:14 ]

ความคิดเห็นที่ 21 พวกคุณถ้าจะบ้ากันไปใหญ่แล้ว จริงๆแล้ว ASTV ของเขานะมันไม่ผิดหรอกมันผิดที่ว่าสถานีฐานในไทยที่พวกเฮงซวยนั้นก่อตั้งขึ้น(โดยไม่ได้รับอนุญาตต่างหาก)แล้วลิ้งไปที่ ASTV ต่างหากถ้าจะด่าก็ต้องด่าสถานีแม่มันซึ่งมีหลักแหล่งอยู่ที่ไหนทุกคนก็รู้แต่ทำไมไม่ทำหือท่านผู้มีหน้าที่ทั้งหรือกล้วบ้าอะไรอยู่ จากคุณ : kajohn14 (kajohn14) - [ 16 เม.ย. 49 06:54:26 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้ามันทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายรวมทั้งคดีหมิ่นที่ทุกคนกำลังจับดูอยู่ จะได้ตาสว่างกันบ้าง ใครโดน ASTV หลอก ก็จงยกโทษให้ถ้ากลับตัวกลับใจเป็นคนปกติ หยุดทำตาขวาง เถียงคำไม่ตกฟาก ถ้าหยุดก็ให้อภัยได้ ผมไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวร้านประจำ ปรากฏว่าแกเปิด ASTV ให้ลูกค้าดู ผมต้องงดกินไปก่อนเพราะเดี๋ยวเจ้าของร้านจะเอามีดแทง จนกว่าแกจะเลิกเปิด ผมถึงจะไปอุดหนุนใหม่ ไอ้กะทิมันเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก ปากว่าตาขยิบ ฝีปากมันดี แต่มันก็กำลังจะตายเพราะปาก จากคุณ : หมอปรุงยา - [ 16 เม.ย. 49 07:32:25 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าพูดไทย ใช้คนไทยก็คือสถานีโทรทัศน์ไทยนั่นแหละครับ ศาลคงรู้อยู่ ดูที่การปฏิบัติ ปิดไปเถอะครับ มันไม่ใช่สถานีสื่อมวลชนแล้วครับ เปิดมาด่าคนอื่นโดยเฉพาะ ไม่มีประโยชน์ จากคุณ : Bomb308 - [ 16 เม.ย. 49 07:43:23 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ASTV ไม่นับว่าเป็นสื่อ เป็นกระบอกเสียงพวก ต่อต้านรัฐบาล จากคุณ : แมวเกเร - [ 16 เม.ย. 49 07:51:33 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าไม่จัดการตามกฏหมาย เดี๋ยวเอกยุทธ+TPI ก็ตั้งออกมาอีก 100 ช่อง จะทำยังไงกัน ไหนจะจิ๋มศักดิ์อีกละ? จากคุณ : boilerthai - [ 16 เม.ย. 49 08:09:41 ]

ความคิดเห็นที่ 26 กฎหมายต้องเป็นไปตามกฎหมายค่ะ.............ตอนนี้เรามีปิดถนนไม่ผิด  ฉีกบัตรเลือกตั้งไม่ผิด   ...........อีกหน่อยเราจะมี  ข่มขืนไม่ผิด  ฆ่าคนไม่ผิด  เพราะเป็นอารยะขัดขืน................. ถ้าโดนกับครอบครัวคุณจะเป็นยังไง จากคุณ : ไฮเปอร์แคท - [ 16 เม.ย. 49 08:18:03 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เสรีภาพสื่อไม่ใช่เสรีภาพในการกล่าวคน จากที่เห็นมันไม่ได้ต่างไปจากศาลเตี้ย ที่จะให้ร้ายใครก็ได้โดยที่ไม่มีคณะกรรมการอิสระปกป้อง ผู้ถูกละเมิดเลย ถึงแม้ว่าจะเอาหมายศาลไปอ้าง ก็มิได้รับการปกป้อง วันนี้ASTVชี้เป้าไปที่ทักษิณ และถ้าวันหนึ่งชี้เป้าไปที่ใครจะเกิดอะไร เขาผู้นั้นจะได้รับการปกป้องสิทธิ์ทีมีไว้ในรัฐธรรมนูญหรือไม่ หรือจะได้รับการปกป้อง เพียงข้อเดียวที่อ้างกันสั่วๆทุกวันนี้ "เสรีภาพสื่อ"ที่เหนือเสรีภาพของประชาชน จากคุณ : Cool Popstick - [ 16 เม.ย. 49 08:22:06 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ปิด ๆ ไปเถอะครับท่าน....วัน ๆ เอาแต่ด่า, และก็กระแนะกระแหนง  ด้านพิธีกรก็ไม่ทำหน้าที่ของสื่อสารมวลชนที่ดีที่ควรจะมีความเป็นกลาง  ...คุณต้องอย่าลืมซิครับ...ว่าคุณเป็นสื่อสารมวลชนที่มีหน้าที่นำเสนอข้อมูลทุกด้าน  แต่ไม่ต้องลำเอียงข้างใดข้างหนึ่ง  ไม่ต้องชี้นำ  การตัดสินใจในเรื่องนั้น ๆ เป็นสิทธิ์ของประชาชน  ไม่จำเป็นว่าคนที่ไม่เห็นด้วยกับคุณต้องเป็นคนโง่ จากคุณ : เซียงน้อย..พเนจร - [ 16 เม.ย. 49 08:35:11 ]

ความคิดเห็นที่ 29 พรบ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ มาตรา 80 ในวาระเริ่มแรกที่การคัดเลือกและแต่งตั้ง กสช. หรือ กทช. แล้วแต่กรณี ยังไม่แล้วเสร็จ ให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ อธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข และเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่นใดที่เกี่ยวกับการบริหารคลื่นความถี่ การจัดสรรคลื่นความถี่ การอนุญาต และการกำกับดูแลหรือการควบคุมการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมตามกฎหมายว่าด้วยวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ กฎหมายว่าด้วยวิทยุ คมนาคม กฎหมายว่าด้วยโทรเลขและโทรศัพท์ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง มีอำนาจหน้าที่ตามที่ กฎหมายบัญญัติจนถึงวันพ้นกำหนดเวลาตามมาตรา 77 แต่ในระหว่างนั้นจะพิจารณาจัดสรรคลื่น ความถี่ ออกใบอนุญาตประกอบกิจการ หรืออนุญาตให้ประกอบกิจการเพิ่มเติมไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 49 08:45:25 จากคุณ : X-CU - [ 16 เม.ย. 49 08:43:37 ]

ความคิดเห็นที่ 30 พรบ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ มาตรา 23 ให้ กสช. มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ (1) กำหนดนโยบายและจัดทำแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และแผนความถี่วิทยุให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ และตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ (2) กำหนดลักษณะและประเภทของกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (3) พิจารณาอนุญาตและกำกับดูแลการใช้คลื่นความถี่เพื่อกิจการวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ (4) พิจารณาอนุญาตและกำกับดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการ โทรทัศน์ (5) กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาต เงื่อนไข หรือค่าธรรมเนียม การอนุญาตตาม (3) และ (4) รวมทั้งการกำกับดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการ โทรทัศน์ (6) ติดตามตรวจสอบและให้คำปรึกษาแนะนำการประกอบกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (7) กำหนดมาตรฐานและลักษณะพึงประสงค์ทางด้านเทคนิคของอุปกรณ์ที่ใช้ ในการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (8) กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการเชื่อมต่อโครงข่ายในการประกอบกิจการ กระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (9) กำหนดโครงสร้างอัตราค่าธรรมเนียมและอัตราค่าบริการในกิจการกระจาย เสียงและกิจการโทรทัศน์ รวมทั้งอัตราการเชื่อมต่อโครงข่ายในการประกอบกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ให้เป็นธรรมต่อผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการโดยคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะ เป็นสำคัญ (10) กำกับดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์เพื่อให้ผู้ใช้ บริการได้รับบริการที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ รวมถึงการกำหนดหลักเกณฑ์การรับคำร้องเรียน และพิจารณาคำร้องเรียนของผู้ใช้บริการที่รวดเร็ว ถูกต้องและเป็นธรรม (11) กำหนดมาตรการเพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนโดยคำนึงถึง เกียรติยศ ชื่อเสียง สิทธิในครอบครัวหรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของบุคคล ความสงบเรียบร้อยและ ศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเนื่องมาจากการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (12) กำหนดมาตรการเพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและส่งเสริมการปฏิบัติตาม จรรยาบรรณในการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบของบุคลากรในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (13) กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการคุ้มครองและการกำหนดสิทธิในการ ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (14) ส่งเสริมสนับสนุนการวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ อย่างต่อเนื่อง (15) ออกระเบียบเกี่ยวกับการจัดตั้งองค์กร การบริหารงานบุคคล การงบประมาณ การเงินและทรัพย์สิน และการดำเนินงานอื่นของสำนักงาน กสช. (16) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายของสำนักงาน กสช. รวมทั้งเงินที่จะจัดสรรเข้า กองทุนตามมาตรา 27 (17) จัดทำรายงานผลการดำเนินงานของ กสช. เสนอต่อคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทน ราษฎร และวุฒิสภา อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้งและให้เผยแพร่ต่อสาธารณชนด้วย (18) เสนอความเห็นหรือให้คำแนะนำต่อคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับกิจการกระจาย เสียงและกิจการโทรทัศน์ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ รวมทั้งการให้มีกฎหมายหรือ แก้ไขปรับปรุงหรือยกเลิกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (19) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่น ซึ่งกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ กสช. เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง ให้ กสช. มีอำนาจ ออกระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง หรือข้อกำหนด บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง หรือข้อกำหนดใด ๆ ที่ใช้บังคับเป็นการ ทั่วไป เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้ การดำเนินการตาม (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) (11) (12) และ (13) นอกจากที่บัญญัติไว้โดยเฉพาะในพระราชบัญญัตินี้แล้ว ต้องเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการ ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 49 08:46:39 จากคุณ : X-CU - [ 16 เม.ย. 49 08:44:48 ]

ความคิดเห็นที่ 31 แค่ปิดยังไม่พอ  เจอผู้ประกาศข่าวควรช่วยกันรุมประชาทัณฑ์ด้วย เพราะการกระทำของ ASTV มิใช่เป็นสื่อของมวลชน แต่เป็นสื่อหรืออาวุธของคนกลุ่มหนึ่งที่ใช้ทำร้าย ทำลายศัตรู และเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตน แต่มากล่าวอ้างว่าเป็นสื่อสารมวลชน จากคุณ : ไม้กวาดขยะ - [ 16 เม.ย. 49 08:49:49 ]

ความคิดเห็นที่ 32 พรบ. วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ 2498 มาตรา ๕  ห้ามมิให้ผู้ใดส่งวิทยุกระจายเสียงหรือส่งวิทยุโทรทัศน์เพื่อให้บริการแก่สาธารณะหรือแก่ชุมชน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินบริการส่งวิทยุกระจายเสียงหรือบริการส่งวิทยุโทรทัศน์จากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต การส่งวิทยุกระจายเสียงหรือการส่งวิทยุโทรทัศน์ ที่กระทำโดยการทำให้คลื่นแฮรตเซียนแพร่กระจายไปในบรรยากาศ ถ้าได้ทำการส่งโดยมีรายการแน่นอนสม่ำเสมอหรือเป็นประจำ และบุคคลอื่นสามารถรับการส่งวิทยุนั้นได้โดยใช้เครื่องรับวิทยุกระจายเสียงหรือเครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ที่ผู้ส่งจัดหาให้หรือที่มีจำหน่ายโดยทั่วไป ให้ถือว่าการส่งวิทยุนั้นเป็นการส่งวิทยุกระจายเสียงหรือการส่งวิทยุโทรทัศน์เพื่อให้บริการแก่สาธารณะหรือแก่ชุมชนตามความในวรรคหนึ่ง การส่งวิทยุกระจายเสียงหรือการส่งวิทยุโทรทัศน์ ที่กระทำโดยการทำให้คลื่นแฮรตเซียนผ่านไปทางสายหรือสื่อตัวนำไฟฟ้า ถ้าได้ทำการส่งโดยมีรายการแน่นอนสม่ำเสมอหรือเป็นประจำ และบุคคลอื่นสามารถรับการส่งวิทยุนั้นได้โดยใช้เครื่องรับวิทยุกระจายเสียงหรือเครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ที่ผู้ส่งจัดหาให้หรือที่มีจำหน่ายโดยทั่วไป ไม่ว่าเครื่องรับนั้นจะมีความจำเป็นต้องดัดแปลงหรือติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมหรือไม่ก็ตาม และถ้าการส่งวิทยุนั้นได้กระทำตามลักษณะหรือขอบเขตตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ให้ถือว่าการส่งวิทยุนั้นเป็นการส่งวิทยุกระจายเสียงหรือการส่งวิทยุโทรทัศน์เพื่อให้บริการแก่สาธารณะหรือแก่ชุมชนตามความในวรรคหนึ่ง กฎกระทรวงที่ออกตามความในวรรคสาม ให้ใช้บังคับในวันที่ระบุในกฎกระทรวง แต่จะใช้บังคับก่อนเก้าสิบวันนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาไม่ได้ กฎกระทรวงที่ออกมาเปลี่ยนแปลงลักษณะและขอบเขตของการส่งวิทยุตามที่ได้มีกฎกระทรวงกำหนดไว้แล้ว ย่อมไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิของผู้รับใบอนุญาตอยู่แล้วก่อนวันที่กฎกระทรวงดังกล่าวใช้บังคับ และให้ผู้รับใบอนุญาตดังกล่าวดำเนินการต่อไปได้จนกว่าอายุใบอนุญาตนั้นจะสิ้นสุดลง แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 49 08:57:56 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 49 08:54:55 จากคุณ : X-CU - [ 16 เม.ย. 49 08:52:34 ]

ความคิดเห็นที่ 33 พรบ. วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ 2498 มาตรา ๑๗  ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๕ หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการดำเนินบริการส่งวิทยุกระจายเสียงหรือบริการส่งวิทยุโทรทัศน์ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามความในมาตรา ๒๕ (๒) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับเป็นรายวันอีกวันละสองพันบาทจนกว่าจะดำเนินการให้ถูกต้อง จากคุณ : X-CU - [ 16 เม.ย. 49 08:57:00 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมเอาตัวบทมาให้ อาจต้องทนอ่านยาวๆ นิดนึง แต่อ่านแล้วทีนี้การคุยก็จะอยู่บนพื้นฐานกฎหมายและความรู้แล้ว การคาดคะเนหรือเดาเอาตามรู้สึกจะน้อยลง จากคุณ : X-CU - [ 16 เม.ย. 49 09:00:26 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ไม่เกี่ยวว่า astv จะอยู่ฝ่ายไหน ถ้าไม่ได้รับอนุญาต ก็ควรจะโดนจัดการตามกม. ก็แค่นั้น จากคุณ : ปรศุ - [ 16 เม.ย. 49 09:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 36 astv พอพ้นช่วงนี้จะดูอะไรกัน  ถ้ามันไม่ทำให้ ปท  วุ่นวายแล้วจะได้มีเรื่องมาเล่นเรื่อยๆคิดดูเอาครับ จากคุณ : บ๊วยย่นจ้า - [ 16 เม.ย. 49 09:16:47 ]

ความคิดเห็นที่ 37 คุณ emanuelle ยังกลัวเรื่องการดัก สัญญาณ ดาวเทียมอีกเหรอครับ ก่อนหน้าเราจะมี ไทยคม 1 เราเคยเช่า ปาราป้า ของ อินโดฯ ตอนนั้นความมั่นคงคงจะย่ำแย่น่าดู ใช่มั๊ย คิดอะไรให้อยู่บนพื้นฐานความจริงหน่อยสิครับ ดาวเทียม เป็นแค่เครื่องมือ ในการรับส่ง คลื่นวิทยุ ทำหน้าที่ เป็นตัวสะท้อนสัญญาณ จากสถานี ภาคพื้นดินเท่านั้น  แล้วไอ้คลื่นอันนี้ มันก็ลอยอยู่ทั่วไป นั่นแหละ ขอแค่คุณ หาเครื่องไปดักสัญญาณ แล้วแปลงสัญญาณนั้นออกมา อย่างที่ ถ้าบ้านใครมีจานรับสัญญาณดาวเทียมขนาดใหญ่ อาจจะรับสัญญาณ จาก ดาวเทียม ของ อินโด ออสเตรเลีย อินเดีย จีน ญี่ปุ่น ก็ได้ แค่หันจานไปให้ถูกทิศ แต่คลื่นบางอย่าง บางสถานี เช่นสัญญาณ ของ UBC หรือ ESPN เครื่องรับสัญญาณทั่วไป มันไม่อาจจะ decode ออกมาได้ เพราะสัญญาณเหล่านี้ ถูกเข้ารหัสเอาไว้ (คล้ายๆ กับการทำหมอก เซ็นเซอร์ หนังนั่นแหละ) คุณต้องมีตัวรหัส ในการถอดสัญญาณนั้นเหมือนกัน ถึงจะแปรสัญญาณออกมาได้ ทีนี้ ข่าวสารเกี่ยวกับความมั่นคง เค้าก็จะเข้ารหัสเอาไว้ทุกครั้งที่มีการส่งออกไป ข่าวสารพวกนี้ จะถูก เข้ารหัสไว้หลายชั้น  ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะถอดออก เหมือนกับในหนังเรื่อง U571นั่นแหละครับ ที่ฝ่ายสัมพันธมิตร อยากได้ ตัวเครื่องถอดรหัสในเรือ U751 เพื่อใช้ในการดักฟังสัญญาณการสื่อสารของพวก เยอรมัน อธิบายมายืดยาว หวังว่าคงจะพอกระจ่างบ้างนะครับ กลับมาที่ ASTV ไม่ต้องพูดถึงเนื้อหาการนำเสนอ ของ ASTV แต่ผมอยากให้ดูแค่เรื่องความเป็นธรรมต่อ สถานีที่ทำอย่างถูกต้อง ก็พอ สถานีที่ได้ใบอนุญาต ถูกต้อง อย่างน้อยเค้าก็ต้องเสีย ค่าใบอนุญาต และอาจมีค่าสัมปทานส่วนหนึ่ง แต่กับ ASTV เค้าเสียอะไรให้รัฐบ้าง มากอบโกยอย่างเดียว ผมอยากถามใจฝ่ายพันธมิตร ทำไมกรณี ไทยแอร์เอเชีย คุณเรียกร้องให้ยกเลิกเส้นทางการบิน หลังจาก กลุ่มชินถูก เทมาเส็กซื้อไป แต่ในกรณี ASTV คุณกับคัดค้านไม่ให้ยกเลิก จากคุณ : Gump - [ 16 เม.ย. 49 10:01:11 ]

ความคิดเห็นที่ 38 #37 อธิบายได้ยอดเยี่ยมครับ แต่ก็อยากบอกครับ ว่าเหตุผลใช้ไม่ได้กับทุกเรื่อง แม้แต่โจรก็ยังมีสนุนเข้าสวมิภัดิ์ เดรถีย์ก็สามารถมีลูกศิษย์ อลัชีก็มีผู้ถวายตัวมอบพรหมจรรย์ คนที่ละเมิดกฎหมายบ้านเมือง จึงยังมีผู้เห็นดีเห็นงามสนับสนุนอยู่ จากคุณ : X-CU - [ 16 เม.ย. 49 10:25:52 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เห็นด้วยกับคุณชาวบ้านและ คุณเอ็กซ์ฯ ประเทศไทยเรามีกฎหมายรองรับอยู่แล้วเรื่องเสรีภาพและการคลื่นวิทยุ ยิ่งประเทศพัฒนาแล้ว ยิ่งจะโดนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายหากไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่น ๆ เห็นข่าวบ่อย ๆ จากคุณ : หลานย่าจริงใจ (คนบบโนน) - [ 16 เม.ย. 49 10:26:45 ]

ความคิดเห็นที่ 40 astv เป็นสื่อหรือครับ ถ้าเป็นแล้วความเป็นกลางอยู่ตรงไหน (สงสัยกลางของ astv คือกลางใจสนธิ) astv ย่อมาจาก อั้วสนธิเว้ย จากคุณ : rtee7@ - [ 16 เม.ย. 49 11:29:27 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มันไม่เกี่ยวหรอกว่ารับสัญญาณจากที่ไหน ในประเทศหรือต่างประเทศ แต่หากมีการตั้งบริษัทดำเนินกิจการในประเทศไทยก็ต้องปฎิบัติตามกฎหมายไทย ทางการสามารถเอาผิดได้ทั้งนั้น จากคุณ : KamoOldman - [ 16 เม.ย. 49 13:35:55 ]

ความคิดเห็นที่ 42 สัญญานมันผ่านบ้านเราโดยไม่ได้รับอนุญาต - บุกรุก สิทธิครอบครองของเรามีทั้งเหนือดิน ใต้ดิน มันใช้สิทธิโดยไม่สุจริต - เรียกค่าเสียหายทางแพ่งข้อหา ละเมิด จากคุณ : poopen - [ 16 เม.ย. 49 13:40:32 ]

ความคิดเห็นที่ 43 จะให้โดนปิดหูปิดตา โอ้ นายกของช้านน นายกคนดี หรือจะให้อ่านแต่ไทยรัฐ เดลินิวส์ หรือจะให้ดูละครเจ๊แดง  เกมโชว์คุณปันยา รายการเพลงค่ายใหญ่ และ ข่าวเชียร์รัฐบาล อย่างเดียว เนี่ยน้า ทุยรักทุย มันก็รักทุยอยู่วันยังค่ำ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 49 14:49:02 จากคุณ : Nut Sky Walker - [ 16 เม.ย. 49 14:44:10 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ความคิดเห็นที่ 2   น่าคิดครับว่า การมี Studio ในประเทศไทย แต่ส่งผ่านดาวเทียม จากต่างประเทศ จะถือว่า ASTV เป็นสถานีโทรทัศน์ในประเทศไทยหรือเปล่า ในกรณีคล้าย ๆ กัน หาก Studio อยู่ต่างประเทศ แล้วยิงสัญญาณซึ่งสามารถรับชมได้ในประเทศไทย จะต้องขออนุญาตจัดตั้งสถานีหรือไม่ จากคุณ : บก.ลายจุด --------------------------------------------------------- สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ก่อนทีจะมาใช้ช่องสัญญานดาวเทียมไทยคมอย่างปัจจุบันนี้ได้เช่าดาวเทียมปาราป้าของ อินโดนีเซีย สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 มี Studio ในประเทศไทย แต่ส่งผ่านดาวเทียม จากต่างประเทศ ปาราป้าของ ประเทศอินโดนีเซีย จะถือว่าสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 เป็นสถานีโทรทัศน์ในประเทศไทยหรือเปล่า ??? อย่างนี้ถือว่าเป็น สถานีโทรทัศนของไทย หรือของอินโดนิเซีย ???? สิ่งที่แตกต่างกันระหว่าง ช่อง 7 กับ astv คือ ช่อง 7 เป็นสถานีโทรทัศน์ ถูกต้องตามกฏหมายทุกประการ มีสัมปทาน และจ่ายค่าสัมปทานให้รัฐทุกปีผ่านกองทัพบก ASTV เป็นสถานีโทรทัศน์เถื่อน ตั้งขี้นมาเอง ตามใจชอบของไอ้หงอกมีสตูดิโอ และเนื้อหา วัตถุดิบ  เหตุการณ์ ในประเทศไทยไทย และหารายได้จากการโฆษณาขายของม็อบ ขายของให้นายทุนม็อบ ซึ่งพวกนี้ก็อยู่ในประเทศไทย แต่รัฐ หรือประเทศไทยได้รายได้จาก astv  โดย ?????????? เห็นเป็นเดือดเป็นร้อนแค้นแทนรัฐ(ไม่ใช่รัฐบาล)กันหนักหนา เรื่องรายได้ของรัฐ เรื่องขายชาติ แต่พฤติกรรมพวกนี้มัน สกปรกสิ้นดี  !!! แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 49 20:06:08 จากคุณ : +:Non Media:+ - [ 16 เม.ย. 49 19:50:13 ]

ความคิดเห็นที่ 45 สมควรปิดไปตั้งนานแล้ว จากคุณ : dianumcha - [ 16 เม.ย. 49 21:19:22 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อ้าวอย่างงั้นไม่ต้องใช้เนตดิ เพราะเราใช้ผ่านเมืองนอกก็มีนะ เข้าใจไรผิดเปล่าเนี่ย การยิงภาพขึ้นไปไม่น่ากลัวเท่าเทมาเสกมาได้ดาวเทียมเราไปเหมือนตอนนี้หรอกครับ จากคุณ : เซฟิโร่ - [ 16 เม.ย. 49 22:47:26 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ASTV สื่อทำลายชาติ ปิดสถานเดียว เท่านั้น จากคุณ : YoungPrinter - [ 16 เม.ย. 49 22:48:52 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อ้าว ถามจริงๆนะ ยุคนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสารด้านเดียวเหรอ เก่งจริงให้ถ่ายทอดดิ ไม่มีใครอยากเอาเงินไปลงทุนให้ต่างชาติเหมือนหน้าเหลี่ยมหรอก แล้วหุ้นอ่ะ ถามง่ายๆ คนไทยไม่มีเงินซื้อหุ้นเหรอ ทำไมต้องขายให้สิงค์โปร์ แค่นี้ก็เห็นๆอยู่ครับว่า มันรักไทยเหมือนปากไหม ถ้ามันรักไทยมันต้องให้คนไทยถือหุ้นในไทยก่อนขายให้คนอื่นดิ จากคุณ : เซฟิโร่ - [ 16 เม.ย. 49 22:50:34 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ควรปิดไปนานแล้ว ช้าจัง จากคุณ : BlooDCastlE - [ 16 เม.ย. 49 22:52:43 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ถ้าอยากทำทีวี ก็ต้อง ทำให้ถูกช่องทางสิ คุณ เซฟิโร่ บ้านเมืองมีกฏหมายนะ คลื่นความถี่วิทยุ โทรทัศน์ ถือเป็นสมบัติชาตินะ ไอ้ ASTV มันเอาไปใช้โดยไม่ได้จ่ายเงินให้ชาติ น่ะ แถวบ้านเค้าเรียกว่า "ปล้น" เจ้าอื่นๆ เค้าเอาไปใช้ เค้าก็ต้องจ่ายเงินให้รัฐ ใครอยากทำก็มาประมูลสัมปทานไป อินเตอร์เนต ก็เหมือนกัน รัฐ เก็บสัมปทานจาก บรรดา ISP ทั้งหลาย ที่คุณต้องจ่ายค่า ชม. เนต นั่นแหละ การเสนอข่าวสองด้าน เค้าก็ไม่ได้ห้าม แต่ต้องทำให้ถูกกฏหมาย หากอีกหน่อย สมมติ ว่า ทาง 3 จว. เกิดมีนายทุน ทำ สตูดิโอ แล้วส่งสัญญาณ ไปยังดาวเทียม ของ เพื่อนบ้าน แล้วนำเสนอข่าว เชิงปลุกระดม คุณจะยอมมั๊ย เสนอข่าวสองด้านแบบนี้น่ะ หรือไม่รุนแรง แบบนั้น เอาเป็นแบบ สมมติว่า อาเสี่ยแถวรัชดา แกคึก เอาเงิน มาทำสตูดิโอบ้าง ส่งสัญญาณไปยังดาวเทียมเมืองนอก แล้วรายการแก คือ หนังโป๊ ตลอด24 ชม. คุณจะว่ายังงัย จากคุณ : Gump - [ 17 เม.ย. 49 10:01:54 ]

ความคิดเห็นที่ 51 มันไม่เกี่ยวกับใช้ดาวเทียมที่ไหน เมื่อก่อนเรามีดาวเทียมของเราเองที่ไหน ทีวีทุกช่องก็ใช้ดาวเทียมของอินโดนีเวียทั้งนั้น ไม่เห็นมีใครมาห่วงเรื่องความมั่นคงเลย (ถ้ามันจะบื่อ ไม่รูจักเข้ารหัสข้อมูล) จากคุณ : jack (jackporn) - [ 17 เม.ย. 49 16:12:56 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ปิดๆ ไปเหอะ เราเคยดูแล้วมีความรุสึกจนอยากจะอาเจียน จากคุณ : O.K.Crinum - [ 17 เม.ย. 49 16:39:44 ]