CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    แนวคิดประชาธิปไตยระบอบใหม่ของผมเอง ช่วยวิจารณ์ด้วยครับ

    เมื่อวันก่อนผมได้เอาแนวคิดในการแก้ปัญหารเรื่อง แอดมิสชั้นมาลงไว้ ซึ่งวันนี้เป็นความคิดต่อยอดครับ และรู้สึกว่าน่าจะแก้ปัญหาการเมืองได้ แต่ก็ไม่รู้ว่ามีแนวคิดนี้ที่ไหนในโลกรึเปล่าครับ ผมเลยเอามาให้ลองคิดดูครับ

    ก่อนที่จะอ่านอันนี้ผมคิดว่าลองไปอ่านความคิดตอนแรกดูก่อนนะครับ.... เพื่อเพิ่มความเข้าใจสักนิดก่อน
    http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4282426/K4282426.html

    พออ่านแล้วรู้สึกว่ามันน่าจะมีอะไรที่พอจะปรับเปลี่ยนการเมืองได้บ้างรึเปล่าครับ....

    ที่นี้มาดูความคิดที่ต่อยอดจากอันนั้นของผมนะครับ...

    จากอันที่แล้วผมเสนอให้มีการสร้าง "สถาบันนักคิด นักวิชาการ และนักพัฒนาแห่งชาติ" เพื่อให้มีการเตรียมการล่วงหน้า และเพื่อให้มีการสร้างระบบที่เป็นกลาง และรองรับกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นหลังการเปลี่ยนแปลง

    ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ครับ ในเมื่อการเมืองปัจจุบันนั้นเกิดจากความเปลี่ยนแปลง ขอยกตัวอย่างนะครับ

    เช่นการเปลี่ยนรัฐบาลจากพรรคการเมืองหนึ่งไปเป็นอีกพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งหลังจากการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ก็ทำให้ต้องกลับไปเริ่มดำเนินการเกือบจะหนึ่งใหม่อีก เพราะการไม่ยอมรับในวิธีคิดของพรรครัฐบาลก่อนหน้า

    ซึ่งการเมืองปัจจุบันนั้นผมมองว่าฝ่ายบริหารนั้นมีอำนาจมากเกินไป แต่ตอนนี้เราก็กำลังแก้ปัญหากันอยู่ โดยผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหาครับ

    ปัญหาอยู่ที่ระบบสภาครับ... ซึ่งระบบสภานั้นจะเป็นการรวมอำนาจในการคิดและตัดสินใจเข้าด้วยกัน...

    และมันอยู่ตรงนี้ครับ เพราะการที่ฝ่ายบริหารมีอำนาจในการคิดและตัดสินใจ ซึ่งตรงนี้เป็นที่มาของปัญหาทั้งหมดครับ

    ลองคิดกันง่ายๆ นะครับ เวลาที่เราคิดอะไรได้ เราก็ต้องบอกว่าของเราดีที่สุด ของเราเจ๋งที่สุด จริงไหม?  ซึ่งไอ้การคิดนั้นมันก็มีทั้งคิดดี และคิดไม่ดีเช่นกัน โดยถ้าคิดดีก็ดีไป แต่ถ้าคิดไม่ดีล่ะ บ้านเมืองก็ย่ำแย่ อันนี้ทุกคนรู้กันอยู่แล้ว

    แต่ปัญหานั้นจะไม่เกิดครับถ้าพวกที่คิดทั้งหลายนั้นไม่มีอำนาจในการตัดสินใจด้วย

    ทางออกของผม คือ การเพิ่มสถาบันที่ผมคิดขึ้นในตอนแรกเพื่อทำหน้าคิด และวางระบบที่สามารถใช้ได้จริง และเป็นกลางที่สุดไปอยู่หน้าฝ่ายบริหารในการจัดการประเทศ ซึ่งผมต้องการให้"นักคิด นักวิชาการ และนักพัฒนาที้งหลายมีอำนาจในการสร้างสรรค์ใช้ความรู้ได้โดยไม่ตกอยู่ในอำนาจของสภาหรือผู้มีอำนาจครับ

    ผมบอกแบบนี้ไม่รู้จะนึกภาพออกไหม ผมจะอธิบายง่ายๆ ครับ  ลองนึกภาพว่าประเทศนั้นเป็นบริษัทใหญ่ๆ บริษัทหนึ่ง เวลาที่บริษัทนั้นจะทำอะไรก็ตามจะต้องมีฝ่าย วางแผนทำหน้าที่ในการคิด การวางระบบโครงสร้างในการใช้จริงใช่ไหมครับ และนี้ก็จะเปรียบได้กับสถาบันที่ผมคิดไว้ครับซึ่งจะเป้นสถาบันที่ทำหน้าที่ในการคิดแผนระยะยาวในการบริหาร แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ ที่สำคัญครับ ระบบที่คลอดออกมาจากสถาบันนี้จะต้องเป็นความลับจนกว่าจะถึงเวลาที่ให้สภาตัดสินใจ...

    ซึ่งพอสถาบันที่ผมคิดหรือก็คือฝ่ายวางแผนนั้นได้แนวคิดและระบบมา ก็จะส่งไปให้กับฝ่ายบริหารทำหน้าที่ในการตัดสินใจครับว่าจะทำระบบนี้ไหมหรือว่าจะไม่ทำเพราะอะไร โดยฝ่ายบริหารที่ผมว่าก็คือสภานั่นเอง ซึ่งสภาและรัฐมนตรีในระบบของผมจะทำหน้าที่แก้ไขปัญหาระยะสั่น และกลางในบางเรื่องครับ... ทำให้มีอำนาจไม่เบ็ดเสร็จเกินไป ซึ่งถ้าแนวคิดและระบบที่ส่งมาไม่ผ่านก็แค่ส่งกลับไปแก้ไขให้ดีขึ้นและค่อยส่งกลับมาใหม่ครับ

    ซึ่งการทำแบบที่ผมว่านั้น จะเป็นการแยกฝ่ายคิด และฝ่ายตัดสินใจออกจากกันครับ.. พวกที่คิดไม่ดีก็จะไม่สามารถอะไรได้ ได้แต่คิดเท่านั้น ส่วนพวกตัดสินใจก็จะไม่รู้ว่าระบบที่วางออกมาจะออกมาแบบไหนจะทุจริตอย่างไรได้เพราะระบบที่ผ่านสภาจะถูกวางกฏเกณฑ์ไว้ตามระบบของมัน

    ที่นี้ปัญหามันคงจะอยู่ที่ว่าถ้าสถาบันที่คิด กับผู้มีอำนาจมีความเกี่ยวข้องกันก็จะทุจริตได้ง่ายขึ้น ผมจึงมีความคิดว่าก็แค่มีองค์กรที่ทำหน้าที่ในการหาความเกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเรื่องตรงนี้ซึ่งผมว่าในบ้านเราคงจะมีอยู่แล้ว พวกปปช.อะไรทำนองนี้

    ซึ่งการทำแบบนี้ผมคิดว่ามันจะอุดรอยต่อของรัฐบาลระบอบประชาธิปไตยได้ครับในความคิดของผม เพราะว่าองค์กรที่ทำหน้าที่คิดนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกับสภา ดังนั้นปัญหาในการดำเนินงานในแต่ละรัฐบาลที่ไม่เชื่อมต่อกันก็จะมีน้อยลง

    ซึ่งการที่มีระบบแบบนี้เกิดขึ้นก็อาจจะทำทุจริตได้ยากขึ้น แต่ก้ไม่รู้ว่าจะดีพอรึเปล่า แต่ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นการยกระดับของประชาธิปไตยไปอีกก้าว

    แต่ตอนนี้ผมยังคิดวิธีที่ให้"สถาบันนักคิด นักวิชาการ และนักพัฒนา"นั้นเกิดขึ้นได้อย่างบริสุทธิ์ โดยไม่มีการแซกแซงจากอำนาจของสภาครับ

    ปล.ระบบนี้ผมอยากให้ช่วยวิจารณ์ด้วยครับว่าดีหรือไม่ดียังไง และถ้าใครเห็นด้วยหรือคิดว่าน่าจะใช้ได้ ก็ช่วยผมส่งบทความทั้งสองอันของผมไปที่สื่อต่างๆ หรือนักวิชาการด้วยครับ เพราะถ้ามันดีจริงและใช้ได้จริง ก็จะเป็นอีกแนวทางในการปฏิรูปการเมืองได้ครับ

    จากคุณ : Pathorn - [ 18 เม.ย. 49 22:38:39 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป