| ยกมือไหว้ด้วยความเคารพนับถือ (34 คน) |
| เมินหน้าหนี ไม่อยากมองหน้า (2 คน) |
| ให้ใบแดง กกต. (17 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 53 คน |
ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน โปรดใช้วิจารณญาน
ข้อมูลเพิ่มเติม
ศาลฎีกา มีคำพิพากษา "ย้ายสมัครข้ามเขตผิดกม.เลือกตั้ง!"
ผลของคำพิพากษา ศาลฎีกา
1. นายพันธมิตร ดวงทิพย์ จากพรรคแผ่นดินไทย ที่ยื่นสมัครในเขต 3 นครศรีธรรมราช เนื่องจากศาลฎีกายืนตามความเห็นของ ผอ.กต.เขต ไม่รับเป็นผู้สมัคร เพราะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย. นายพันธมิตร มีชื่อเป็นผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ของพรรคแผ่นดินไทย และขณะนี้กกต.ยังไม่ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการเลือกตั้ง ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ จึงยังถือว่าความเป็นผู้สมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อของนายพันธมิตรยังคงอยู่ เมื่อมาลงสมัครรับเลือกตั้งใน เขต 3 เท่ากับว่า พรรคแผ่นดินไทยส่งผู้สมัครเพียงคนเดียวใน 2 ระบบ ถือว่าเข้าลักษณะต้องห้ามในมาตรา 30 ของพ.ร.บ.เลือกตั้งส.ส. .ส.ว.
2. กรณีนายอาคม หญีตน้อย จากพรรคเพื่อนเกษตรไทย ที่ยื่นสมัครในเขต 1 ชุมพร เนื่องจากศาลฎีกายืนตามความเห็นของ ผอ.กต.เขต ที่ไม่รับเป็นผู้สมัคร เพราะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย. นายอาคม มีชื่อเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 2 ในเขตชุมพร ซึ่งเมื่อปิดรับสมัครเลือกในวันที่ 9 มี.ค. กกต.ยังไม่ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 2 จ.ชุมพร เท่ากับว่ากระบวนการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตในเขตเลือกตั้งที่ 2 ยังไม่เสร็จสิ้น และถ้ากกต.สั่งให้ใบเหลืองในเขตเลือกตั้งดังกล่าว นายอาคมก็ยังมีสิทธิเป็นผู้ได้รับการเลือกตั้งของเขตเลือกตั้งที่ 2 จึงถือว่านายอาคม ยังเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขตที่ 2 อยู่ ดังนั้นการที่นายอาคม มาลงสมัครในเขตเลือกตั้งที่ 1 จึงเท่ากับว่าพรรคเพื่อนเกษตรไทย ส่งผู้สมัครคนเดียวใน 2 เขตเลือกตั้ง ถือเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 108 ที่กำหนดให้พรรคการเมืองส่งผู้สมัครในระบบเขตได้คนเดียว ในแต่ละเขตเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำพิพากษาที่ออกมาดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นการปฏิเสธการใช้อำนาจ กกต. ที่ก่อนหน้านี้ได้มีหนังสือเวียนไปยัง ผอ.กต.เขตทุกเขตว่า ผู้ที่ย้ายข้ามเขตมาสมัครไม่ถือว่าเข้าข่ายเป็นผู้ที่มีลักษณะต้องห้ามในการลงรับสมัครเลือกตามมาตรา 107,108,109 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งในกรณีที่ ผอ.กต.เขต ประกาศให้ผู้ที่ข้ามเขตมาลงสมัครเป็นผู้สมัครนั้น หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาแล้วไม่ไปยื่นคำร้องขอเพิกถอนรายชื่อก็เสี่ยงที่อาจจะถูกฟ้องในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากข้อมูลรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ใน 39 เขตที่จะเลือกตั้งใหม่ ในวันที่ 23 เม.ย. ปรากฏว่ามี 18 คนที่ ย้ายเขตเพื่อลงสมัครใหม่ โดย 9 คน ผอ.กต.เขตไม่ประกาศชี่อให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ประกอบด้วย 1. นายอาคม หญีตน้อย พรรค เพื่อเกษตรกรไทย ย้ายจาก เขต 2 ชุมพร ย้ายมาลง เขต 1 ชุมพร 2.นายกิตติพงษ์ อัฐพร พรรคคนขอปลดหนี้ ย้ายจาก เขต 10 นครศรีธรรมราช ย้ายมาลง เขต 1 นครศรีธรรมราช 3.นายนพรุจ ลิ้มประสิทธิ์วงศ์ พรรคไทยช่วยไทย ย้ายจาก เขต 5 นครศรีธรรมราช ย้ายมาลง เขต 2 นครศรีธรรมราช 4.นายพิเชษฐ์ ดารากัย พรรคไทยช่วยไทย ย้ายจาก เขต 7 นครศรีธรรมราช มาลง เขต 3 นครศรีธรรมราช 5.นายสมยศ ส้มเขียวหวาน พรรคพัฒนาชาติไทย ย้ายจาก เขต 7 นครศรีธรรมราช ย้ายมาลง เขต 6 นครศรีธรรมราช 6. นายยาฮารี จินารงค์ พรรคไทยช่วยไทย ย้ายจาก เขต 3 ปัตตานี ย้ายมาลง เขต 1 ปัตตานี 7.นายนิติธรรมวัฒน์ รัตนสุวรรณ พรรคคนขอปลดหนี้ ย้ายจาก เขต 5 สงขลา ย้ายมาลง เขต 4 สงขลา 8.นายวีรวัฒน์ พรหมคง พรรคประชากรไทย ย้ายจากเขต 5 สงขลา ย้ายมาเขต 3 จ.สงขลา 9 นายเสริมศักดิ์ สัตตบงกช พรรคประชากรไทย เคยลงสมัครระบบบัญชีรายชื่อมาก่อน แต่ย้ายมาลงที่เขต 8 นครศรีธรรมราช
ส่วนอีก 9 คน ที่ผอ.กต.เขตประกาศรับรองให้เป็นผู้สมัคร ประกอบด้วย 1. นายวิญาสิษฐ์ สุนทรนนท์ พรรคประชากรไทย ย้ายจาก เขต 3 ตรัง ย้ายมาลง เขต 4 ตรัง 2นายภักดี นาบุญ พรรคประชากรไทย ย้ายจาก เขต 7 นครศรีธรรมราช ย้ายมาลง เขต 4 นครศรีธรรมราช ( ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 18 เม.ย.) 3. นายกนก ชิดมาลย์ พรรคประชากรไทย ย้ายจาก เขต 5 นครศรีธรรมราชา ย้ายมาลง เขต 2 นครศรีธรรมราช 4 นายจงรักษ์ พันธรังสี พรรคประชากรไทย ย้ายจาก เขต 10 นครศรีธรรมราชา ย้ายมาลง เขต 3 นครศรีธรรมราช 5 .นายเขมาวุฒิ สุวรรณ์ พรรคพัฒนาชาติไทย ย้ายจาก เขต 1 พัทลุง ย้ายมาลง เขต 2 พัทลุง 6.นายวรพจน์ วิชัยดิษฐ์ พรรคประชากรไทย ย้ายจาก เขต 5 สุราษฎร์ธานี ย้ายมาลง เขต 4 สุราษฎร์ธานี 7. น.ส.สุมิตรา แก้วอินทร์ พรรคคนขอปลดหนี้ ย้ายจาก เขต 1 สุราษฎร์ธานี ย้ายมาลง เขต 6 สุราษฎร์ธานี 8. นายสุพร จันทรแก้ว พรรคคนขอปลดหนี้ ย้ายจาก เขต 5 สุราษฎร์ธานี ย้ายมาลง เขต 3 สุราษฎร์ธานี 9.นายประยูร พูลจันทร์ พรรคพัฒนาชาติไทย ย้ายจาก เขต 10 นครศรีธรรมราช ย้ายมาลง เขต 2 ภูเก็ต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หาก ผอ.กต.เขตทั้ง 8 เขตไปยื่นขอเพิกถอนรายชื่อผู้สมัคร เนื่องจากการย้ายไปสมัครเขตอื่นเป็นการผิดกฎหมายเลือกตั้งตามแนวคำพิพากษาของศาลฯ ก็จะมีผลให้มีเขตเลือกตั้งที่มีผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยเพียงคนเดียว เพิ่มขึ้นอีก 8 เขต คือ เขต 1 ตรัง เขต1, 2 นครศรีธรรมราช เขต 2 พัทลุง เขต 2 ภูเก็ต เขต 3,4,6 สุราษฎร์ธานี โดยเมื่อรวมกับ 16 เขตเดิมที่มีผู้สมัครพรรคไทยรักไทยเพียงคนเดียวคือ เขต 1,3 ชุมพร เขต 4 ตรัง เขต 8 นครศรีธรรมราช เขต 4 นราธิวาส เขต 1 ปัตตานี เขต 1 พังงา เขต 1,2,3,4,6,7,8 สงขลา และเขต 1 สตูล ก็จะมีเขตที่มีผู้สมัครพรรคไทยรักไทยเพียงคนเดียวรวม 24 เขตเลือกตั้งจาก 40 เขตเลือกตั้ง
แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 49 22:14:32
จากคุณ :
พระราม ยกรบ
- [
19 เม.ย. 49 21:40:39
]