CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    คุณเห็นด้วยการกระทำของม๊อบอุดรหรือไม่ที่ขับไล่พันธมิตร?

      เห็นด้วย (96 คน)
      ไม่เห็นด้วย (24 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 120 คน

     80.00%
     20.00%


    ปาหิน-ตีหัว-ยิงหนังสติ๊ก ถล่ม2พันธมิตร
    Source - เว็บไซต์มติชน

    Monday, April 24, 2006  

             ม็อบปิดล้อมรภ.อุดรฯล้มเสวนา คนฟังเจ็บ-ประณามส.ส.ทรท. "วิชัย"อ้างเปิดทางแล้วไม่หนี
             ล้อมกรอบ - ชมรมคนรักอุดรฯกว่า 200 คน นำโดยนายวิชัย ชัยจิตวณิชกุล ส.ส.อุดรธานี พรรคไทยรักไทย ปิดล้อมและพยายามบุกเข้าไปห้องประชุม 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ที่ตัวแทนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจัดเสวนา ตำรวจพยายามสกัดกั้นและพาตัวแทนกลุ่มพันธมิตรออกมา ท่ามกลางขวดน้ำและก้อนหินที่ผู้ชุมนุมขว้างปาใส่ เมื่อวันที่ 23 เมษายน
             ฮือปิดล้อม"มรภ.อุดรฯ"บีบพันธมิตรประชาชนเลิกจัดเสวนาต้านระบอบทักษิณ ส.ส.ทรท.ปลุกเร้าดุเดือด ฮือทำร้ายคนร่วมเจ็บ ตะโกนฆ่ามันๆ "สุริยะใส"โดนหินปา ล้อมนาน 9 ชม.
             เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 เมษายน เครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.อุดรธานี จัดเสวนาทางวิชาการเรื่อง "สมัชชาประชาชน เพื่อประชาธิปไตยและปฏิรูปการเมือง" ที่ห้องประชุม 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี โดยนายสุริยะใส กตะศิลา และนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำพันธมิตร มาร่วมเสวนาด้วย มีผู้ร่วมฟังราว 150 คน ขณะที่ด้านหน้าอาคาร มีกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านพันธมิตรกว่า 200 คน อ้างชื่อ "ชมรมคนรักอุดร" นำโดยนายขวัญชัย สาระคำ หรือ ขวัญชัย ไพรพนา นักจัดรายการวิทยุ และเจ้าของสถานีชุมชน เอฟเอ็ม 97.5 รวมตัวใช้รถติดเครื่องเสียง 2 คันถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุชุมชน โจมตีพันธมิตรและเวทีเสวนา พร้อมประกาศให้ยุติการเสวนาจึงจะสลายตัว มีตำรวจมาดูแลกว่า 200 นาย
             เหตุการณ์รุนแรงขึ้นเมื่อ นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล ส.ส.อุดรธานี พรรคไทยรักไทย ขึ้นปราศรัยโจมตีพฤติกรรมของกลุ่มพันธมิตรว่าเป็นการเคลื่อนไหวมีวาระซ่อนเร้น ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจชาติ จนกำลังจะเกิดวิกฤตคนตกงาน แล้วก็หนีไปไม่มารับผิดชอบ จากนั้นชวนผู้ชุมนุมไปปิดประตูอาคาร ซึ่งก็ได้ผลเมื่อม็อบเคลื่อนตัวเข้าไปหน้าอาคาร พร้อมเสียงตะโกนด่าทอ ใช้วาจาข่มขู่ผู้สื่อข่าวที่ไปทำข่าว ข่มขู่คนที่จะเข้าไปร่วมเวทีหรือเดินออกจากอาคาร แม้กระทั่งนักศึกษาที่มามหาวิทยาลัย กระทั่งบุกเข้าไปถึงห้องเสวนา ตำรวจต้องใช้เวลาอยู่นานจึงกันผู้ชุมนุมออกจากอาคารได้
             ต่อมา ผศ.จรูญ ถาวรจักร อธิการบดี พล.ต.ต.เขมนัส สุขเจริญ ผบก.ภ.จว. พ.ต.อ.สิทธิพร โนนจุ้ย ผกก.สภ.อ.เมือง ประชุมร่วมกับแกนนำ 2 ฝ่าย สรุปว่ากลุ่มพันธมิตรจะปิดเวทีและให้ม็อบสลายชุมนุม เมื่อนำผลเจรจามาแจ้ง ม็อบกลับไม่ยอมยุติ ตำรวจจึงขอให้นายสุริยะใสและนายไชยวัฒน์เดินทางกลับ แต่ม็อบรู้เข้าจึงแบ่งกำลังกันไปปิดประตูทางออกทั้ง 5 แห่ง ขณะที่ตำรวจนำนายสุริยะใสและนายไชยวัฒน์ออกจากอาคาร ก็ถูกผู้ชุมนุมขว้างปาด้วยหิน ขวดน้ำ และรองเท้า ต้องนำตัวกลับเข้าไปในตัวอาคารอีกครั้ง ส่วนผู้มาร่วมเสวนากว่า 200 คนแม้จะทยอยออกจากอาคารไปได้ แต่บางคนก็ถูกสาดน้ำ ถูกกระดาษม้วนตีศีรษะ ถูกหนังสติ๊กยิง และทำร้ายร่างกาย แม้แกนนำจะประกาศให้ยุติการชุมนุม
             เวลา 12.30 น. นายจารึก ปริญญาพล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี มายังอาคารเฉลิมพระเกียรติ และสั่งให้ตำรวจจาก สภ.อ.ใกล้เคียง 100 นาย ตชด. 100 นาย มาเป็นแนวกันเพื่อนำคนออก แต่ก็ไม่สามารถนำใครออกมาได้ จากนั้นนายจารึกเข้าไปอยู่ให้ความปลอดภัยกับแกนนำพันธมิตร
             นายสุริยะใส ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า มาเวทีเสวนาตามคำเชิญของเครือข่ายพันธมิตร จ.อุดรธานี และอีสานตอนบน ทราบจากฝ่ายตำรวจที่มาดูแลความเรียบร้อยว่า สถานการณ์รุนแรงขึ้นเมื่อ นพ.วิชัยปลุกระดมให้ผู้ชุมนุมบุกเข้ามาถึงห้องเสวนา ส.ส.พรรคไทยรักไทย 2 คน ไม่ว่าจะเป็น นพ.วิชัย นายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.อุดรธานี รวมทั้งผู้สนับสนุน ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้น
             "เวทีเริ่มตอน 9 โมงเช้า ผ่านไปเพียงชั่วโมงเศษต้องตัดสินใจปิดเวที จากนั้นตำรวจขอให้กันเรา 2 คนออกจากห้องไปก่อนเพื่อลดกระแส แต่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมใช้ก้อนหิน ก้อนอิฐ ขวดน้ำ รองเท้า รุมขว้างปาใส่ ผมโดนก้อนหิน 2 ก้อนปามาถูกหน้าอก"นายสุริยะใสกล่าว
             เวลา 14.00 น. นายสุริยะใส ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า จะออกจากห้องประชุมก็ต่อเมื่อแกนนำม็อบที่อยู่ข้างล่างพาชาวบ้านสลายตัวไปก่อน จากการประเมินสถานการณ์ ถ้าผู้เข้าร่วมเสวนาที่เหลืออยู่ลงไปจากห้อง จะมีการขว้างปาแน่ เพราะมีการเตรียมก้อนหิน หนังสติ๊กเอาไว้ ขนาดคนที่ลงไปก่อนก็ถูกตี ถูกชกไปหลายคน มีผู้บาดเจ็บบางคนถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล นอกจากนี้ แกนนำม็อบยังปราศรัยยั่วยุให้มีการประทุษร้ายกลุ่มพันธมิตร ถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายซ่องโจร มีบางส่วนกินเหล้าด้วย
             นายไชยวัฒน์กล่าวว่า นายจารึก ปริญญาพล ได้เข้าไปเจรจากับ นพ.วิชัย ขณะเจรจาอยู่ก็ยังมีคนเตะประตูโครมๆ อ้างว่ารอนานไม่ได้ จนนายจารึกต้องเงียบไป จึงยืนยันว่า จะไม่ออกไปเด็ดขาด หากไม่สลายการชุมนุม
             เวลา 15.30 น. นายจารึกพยายามยุติปัญหา โดยเจรจากับแกนนำ 2 ฝ่ายอีกครั้ง พร้อมประสาน นพ.วิชัยและนายธีระชัย มารับกลุ่มพันธมิตรออกไป แต่แกนนำพันธมิตรยังไม่ยอมออกมาพบ ส.ส.ทั้งสองคน
             นพ.วิชัย ชัยจิตรวณิชกุล กล่าวว่า ไม่ได้อยู่เบื้องหลัง แต่อยู่เบื้องหน้า การที่นายสุริยะใสและนายไชยวัฒน์ไม่ขึ้นรถกลับเพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยนั้น รับประกันได้ หากมีใครถูกทำร้ายได้รับอันตราย ส.ส.ทั้ง 2 คนจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด แต่หากเป็นนายสนธิ ลิ้มทองกุล รับรองได้ว่าจะไม่ให้ออกจากที่นี่แน่นอน
             "เมื่อผมและนายธีระชัยมารับ เขากลับไม่สนใจที่จะลงมา ผมมองว่าเป็นการเล่นการเมืองแน่นอน ผมได้เจรจากับผู้ชุมนุมจนเข้าใจ ยอมเปิดทางให้ ทำไมไม่ยอมลงมา ทั้งหมดก็เพื่อใส่ร้าย ให้สัมภาษณ์นักข่าวที่จะโจมตีผู้ชุมนุมว่าป่าเถื่อนโหดร้าย ทำให้เสียชื่อ จ.อุดรธานี" นพ.วิชัยกล่าว
             ด้านนายจารึกกล่าวว่า ได้บอกกับนายไชยวัฒน์และคุณสุริยะใสว่า ผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ ผู้การฯจะพาออกมา ครั้งแรกก็กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย ก็ถ่วงเวลามาเรื่อยๆ จนเกิดเงื่อนไขใหม่ว่าต้องให้ นพ.วิชัยมา เพราะเป็นคนปลุกกระแส ก็เชิญ นพ.วิชัยมา และเปิดทางให้ แต่ก็ไม่ยอมลง เกรงจะไม่ปลอดภัย
             "ผมย้ำว่าจะคุ้มกันให้ ถ้าเจ็บก็เจ็บด้วยกัน คุณไชยวัฒน์บอกว่าไม่อยากจะให้ผู้ว่าฯเจ็บกับเขา พูดคุยกันว่าถ้าจะให้ลงจากอาคารก็ให้กลุ่มผู้ชุมนุมสลายตัวไป แกนนำเขาบอกว่าผู้ชุมนุม ต่างมากันเอง ไม่รู้บอกอย่างไรจึงจะกลับ แต่รับปากจะไม่ทำร้ายใคร ขณะที่เจ้าหน้าที่เราก็คุ้มกันดี ส่วนการจะให้ผู้ชุมนุมออกไปพันธมิตรจึงจะออกมาเป็นเรื่องยาก และถ้าปล่อยยืดเยื้ออาจจะรุนแรงขึ้น เพราะจะมีคนทยอยมาเรื่อยๆ" ผู้ว่าฯอุดรฯกล่าว
             เวลา 16.45 น. นายสุริยะใส ให้สัมภาษณ์อีกครั้งทางโทรศัพท์ว่า ไม่รู้สึกไม่ดีกับคนอุดรธานี เพราะคนที่เชิญมาก็เป็นคนอุดรธานีเหมือนกัน คงให้สังคมพิจารณา โดยเฉพาะมีคนของนักการเมืองขึ้นปราศรัย ให้ทำร้ายว่า "ฆ่ามัน ฆ่ามัน"
             "ผมไม่ได้กลัว ตำรวจพาลงไปสองครั้ง พวกที่ประท้วงก็กรูเข้ามารุมล้อมและขว้างปาสิ่งของมาที่ผมและพี่ไชยวัฒน์ ผมเห็นว่า ไม่มีความปลอดภัย ก็ไม่ออก เลยต้องรออยู่" แกนนำพันธมิตรกล่าว
             เวลา 17.50 น. กลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคนที่ปิดล้อมอาคารเฉลิมพระเกียรติ ได้ย้ายสถานที่ชุมนุมไปอยู่ในสนามกีฬาของสถาบัน ตรงข้ามอาคาร ส่วนกลุ่มวิทยากรยังคงอยู่ในอาคาร ไม่กล้าออกมา เพราะสนามกีฬาอยู่ไม่ไกลจากอาคารนัก
             เวลา 18.10 น. นายจารึก ปริญญาพล กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่มีผู้บาดเจ็บรุนแรง มีเพียงบาดเจ็บเล็กน้อยจากการถูกขว้างปาด้วยขวดพลาสติค และก้อนหิน จึงได้แนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความเอาไว้
             เวลา 18.40 น. กำลังตำรวจ 400 นายล้อมวงอารักขานายสุริยะใส นายไชยวัฒน์ และคณะประมาณ 30 คน เคลื่อนผ่านม็อบที่ชุมนุมอยู่ฝั่งตรงข้ามอาคารเฉลิมพระเกียรติออกมาได้โดยปลอดภัย แม้จะมีบางคนพยายามเข้ามาทำร้าย แต่ก็โดนตำรวจสกัดกั้นเอาไว้ได้ คาดว่า ทั้งนายสุริยะใส นายไชยวัฒน์ กับคณะคงจะเดินทางกลับกรุงเทพฯทันที
             ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว นายพิภพ ธงไชย แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายสุวิทย์ วัดหนู และนายปานเทพ พัวพงศ์พันธ์ โฆษก ร่วมแถลงข่าวกรณีชมรมคนรักอุดรฯปิดล้อมนายสุริยะใส นายไชยวัฒน์ และทำร้ายผู้เข้าฟังเสวนา โดยนายปานเทพกล่าวว่า กลุ่มคนที่ปิดล้อมทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน มีการคุกคามประทุษร้ายร่างกาย ขว้างปาขวดน้ำก้อนหิน ยิงหนังสติ๊กใส่ ที่ผ่านมารัฐบาลประกาศว่าได้ถอยแล้ว เว้นวรรคแล้ว แต่ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทุกครั้งเกิดจากฝ่ายรัฐบาลก่อนทั้งสิ้น ครั้งนี้ก็ชัดเจนว่ามีนายธีระชัย แสนแก้ว และ นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล ส.ส.อุดรธานี พรรคไทยรักไทย ปราศรัยปลุกระดมประชาชนให้ต่อต้านแกนนำพันธมิตร จนนำไปสู่ความรุนแรง เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องทบทวนบทบาทตัวเองอย่างเร่งด่วน และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ต้องสอบสวน ส.ส.พรรคไทยรักไทยที่เป็นแกนนำในการก่อเหตุครั้งนี้
             นายสุวิทย์กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ต่างจากเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ที่ปูพื้นด้วยการใช้สื่อวิทยุปลุกระดมชาวบ้าน ให้รู้สึกเกลียดชังการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร อย่างไรก็ดี ยืนยันว่า การจัดเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรยังคงเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่พื้นที่ที่น่าเป็นห่วงและกังวลมีอยู่ 2 แห่งคือ จ.นครราชสีมา และเชียงใหม่
             ด้านนายพิภพกล่าวว่า แกนนำพันธมิตรขอประณามการใช้ความรุนแรง ลิดรอนสิทธิขั้นพื้นฐานในการแสดงออกทางการเมือง การขัดขวางเวทีที่ จ.อุดรธานีไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ฉะนั้น ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชอบด้วยการแถลงข่าวถึงจุดยืนว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกในรัฐบาลรักษาการชุดนี้ นับจากวันนี้ไปหากมีความรุนแรงเช่นนี้เกิดขึ้น รัฐบาลต้องรับผิดชอบโดยไม่มีเงื่อนไข
             ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่เหตุการณ์ครั้งนี้มี ส.ส.ระดับประเทศคนหนึ่งอยู่เบื้องหลัง ทั้งที่นักการเมืองจะต้องทำหน้าที่คลี่คลายความขัดแย้งของประชาชนในกรณีที่มีความเห็นแตกเป็นหลายฝ่าย แต่กลับทำตัวเป็นผู้ยุยงให้เกิดปัญหาความแตกแยกเสียเอง พรรคประชาธิปัตย์ขอเรียกร้องให้นักการเมืองคนดังกล่าวยุติการกระทำที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง และขอให้รัฐบาลจะต้องเอาใจใส่ดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น
             ด้าน พล.ต.อ.ชิดชัยกล่าวว่า ใครก็ตามที่กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย
             เวลา 18.20 น. พ.ต.อ.สิทธิพร โนนจุ้น ผกก.สภ.อ.เมือง นำนายสุริยะใส นายไชยวัฒน์ และเครือข่ายขึ้นรถของตำรวจที่จัดไว้มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานอุดรธานี แต่ไม่สามารถขึ้นเครื่องบินได้ทัน จึงเดินทางกลับโดยรถยนต์
             ด้านนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำม็อบคนรักอุดรฯ กล่าวว่า ถือว่ากลุ่มคนรักอุดรฯได้รับชัยชนะ เพราะกลุ่มพันธมิตรไม่สามารถเปิดเวทีได้ ต่อไปจะตามคัดค้านกลุ่มพันธมิตรทุกครั้งที่จะมีการเปิดเวทีเสวนา
             นายสมพงษ์ จันทร์งาม ประธานกลุ่มคนรักอุดรฯ กล่าวว่า ขอให้จังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ นำการชุมนุมวันนี้ ไปเป็นแบบอย่าง โดยที่ไหนพันธมิตรมีการเปิดเวที ให้รวมตัวกันออกมาขับไล่ ไม่ให้จัดเวทีได้สำเร็จ

    จากคุณ : <_Eminem_> - [ 24 เม.ย. 49 09:29:58 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป