CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ( คุยกันริมคลองแบบเย้ยยุทธจักร ) นูเรอฮาเช่อ จักรพรรดิบนหลังม้า... (ท่านประมุข ตงฟาน ขอมา)

    จากคราวที่แล้ว... ผมได้นำเสนอจุดเริ่มต้นของ นูเรอฮาเช่อ  สหายประมุขตง

    ฟาน  ได้อยากรู้ว่า  อย่างไร นูเรอฮาเช่อ  ถึงได้พาพวกหนี่ชิง (ต้ากิม , แมนจู)

    ขึ้นมาเป็นใหญ่ในแผ่นดินฮั่นได้อย่างไร....

             ผมก็ขอเล่าต่อดังนี้...  หลังจากที่ นูเรอฮาเช่อ นำทหารเกราะเก่า 13 คน

    และทหารไร้เกราะอีกไม่กี่สิบชนะ  นี่เหอไอรัน  ซึ่งมีทหาร 2000 คนได้แล้ว  

    ความกริ่งเกรงในตัวของ  นูเรอฮาเช่อ  ก็มากขึ้นทุกที ๆ  

             แม้ในศึกคราวก่อนที่  นูเรอฮาเช่อ  จะชนะแต่ก็ไม่อาจจับตัว  นี่เหอไอรัน  

    ได้  เขาจึงตั้งปณิธานแน่วแน่ว่า  "เสียอย่างไรก็ดีตราบเท่าที่ข้ายังมีชีวิตอยู่  ข้า

    ต้องจับนี่เหอไอรัน  มาฆ่าชำระแค้นให้ได้"   นูเรอฮาเช่อ จึงทำศึกกับทุกเมืองที่ให้

    ความช่วยเหลือศัตรูคู่แค้น

             สุดท้ายเขาก็ทำได้สำเร็จและได้รวบรวมเมืองในแคว้นเจี๊ยนโจวไว้เป็นปึก

    แผ่นอีกด้วย  แต่คนทะเยอทะยานอย่างเขาหรือจะหยุดอยู่แค่นั้น  เขายังมองถึง

    การรวบรวมชนเผ่า  หนี่ชิง  เข้าด้วยกันอีก  จำเป็นต้องยึดดินแดนที่อยู่ในครอบ

    ครองของ  เย่เหอนารา  (ตระกูลของซูสีไทเฮา)  ให้ได้อีกด้วย

             และในครั้งนี้เองที่ทำให้  นูเรอฮาเช่อ  ขัดแย้งกับ  ราชวงศ์ หมิง  เพราะ

    พวกหมิงต้องการที่จะยุยงให้ชนเผ่าหนี่ชิง  แตกกันอยู่แล้ว  เมื่อ  นูเรอฮาเช่อ  จะ

    เข้ายึด เย่อเหอ  ราชสำนัก หมิง จึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ

             นูเรอฮาเช่อ  อดทนจนผ่านเหตุการณ์นั้นแล้วยกทัพขยี้เย่อเหออีกครั้ง  

    และเขาก็ทำได้สำเร็จ  รวบรวมแผ่นดินของชาวเผ่าหนี่ชิงเข้าไว้ด้วยกันจนได้

             แม้  นูเรอฮาเช่อ  จะเป็น  จักรพรรดิต้ากิม  หรือ  จักรพรรดิของชาวหนี่ชิง

    แต่ยังไงก็ต้องเป็นประเทศราชของ  หมิง  อยู่ดี  ไม่ต่างจาก  เกาหลีและดินแดน

    อื่นเช่น  มองโกล  ,  ธิเบต  ประเทศราชเหล่านี้ต้องส่งส่วยให้ราชวงศ์  หมิง  ทุกปี

             แต่ในคราหนึ่ง  แผ่นดินแตกระแหง  ความแห้งแล้งเข้าปกคลุม  ผลผลิต

    ไม่ตามที่ต้องการประชาชนอดอยากปากแห้ง  นูเรอฮาเช่อ  จึงงดส่งส่วย...

             2 ปีผ่านไป  แผ่นดินยังคงแห้งแล้งดุจเดิม  แต่ทาง  ราชวงศ์หมิง  ไม่

    สนใจ  เขาต้องได้ส่วยจึงส่งขุนนางมาทวงถาม  เมื่อ  นูเร่อฮาเช่อ  ให้คำตอบที่ดี

    ไม่ได้จึงเกิดการขัดแย้งกับราชวงศ์หมิงอีกครั้ง

             และครั้งนี้  นูเรอฮาเช่อ  ไม่ยอมถูกไล่เบี้ยอีกแล้ว  เขาจึงตั้งโต๊ะบูชาฟ้า

    ดินและประกาศทำสงครามกับ  หมิง  ด้วยความอัดอั้นของชาวหนี่ชิงที่มีต่อราชวงศ์

    หมิง  แปรเปลี่ยนมาเป็นแรงเฉื่อยในการทำสงคราม

             นูเรอฮาเช่อ  ทำศึกชนะจนกินดินแดนหมิงเข้าไปถึง 5 เมือง  และทำท่าจะ

    อันตรายมากขึ้นเมื่อ  นูเรอฮาเช่อ  กรีฑาทัพเข้าเขต  เหลียวตง  เพราะเท่ากับอีก

    ไม่เท่าไหร่ก็จะถึง  ปักกิ่ง

             ราชวงศ์  หมิง  ผู้ทะนงตนมาตลอดว่าอาณาจักรของตนเหนือกว่า

    อาณาจักรอื่น  จึงขาดการพัฒนาด้านการทหารอย่างต่อเนื่อง  เมื่อมีศึกมาประชิด

    เมืองเช่นนี้ก็ร้อนรน  จึงสั่งรวมพลขึ้นมาอย่างรีบร้อนจึงได้กองทัพขึ้นมาสองแสน

    ว่าไปแล้วก็เยอะกว่าทหารต้ากิมถึง 5 เท่า

             สี่หมื่น  ต่อ  สองแสน  นูเรอฮาเช่อ  ประสพกับความยากลำบากอีก

    ครั้ง...   และดุจเดิม  เขาไม่ยอมแพ้  นูเรอฮาเช่อ  ใช้ความสุขุมครุ่นคิด...  สุด

    ท้ายเขาตัดสินใจ  สู้อีกครั้ง

             สงครามนี้เป็นสงครามใหญ่อีกครั้งในแผ่นดินจีน  เพราะมันหมายถึง

    อนาคตของสองประเทศ  ใครแพ้ครั้งนี้ก็ตกที่นั่งลำบาก

             สงครามกินเวลาหกวัน  ท่ามกลางควันไฟและกลิ่นกระไอเลือด  มือหนึ่ง

    โผล่ออกมาจากปากหลุมดินที่เกิดจากแรงของปืนใหญ่และร่างเขาก็ปรากฏขึ้น

    พร้อมกับประกาศก้องต่อฟ้าว่า  "ข้ายังมีชีวิตอยู่  ข้ายังไม่ตาย"

             และประวัติศาสตร์ก็จารึกชื่อ  นูเรอฮาเช่อ  เอาไว้อีกครั้ง  เพราะยุทธการนี้

    โด่งดังไม่แพ้  ศึกเซ็กเพ็ก หรือ  ยุทธการกัวต๋อ  
             
             ยุทธการเขาซาเอ่อร์หู ...

             หลังจากสงครามครั้งนี้  ราชวงศ์ หมิง ก็ถอยหลังเข้าคลองอย่างเห็นได้

    ชัด  แผ่นดินระส่ำระส่าย  จนเป็นเหตุให้ขุนนางต่าง ๆ เอาใจออกห่าง  เข้ามาแปร

    พักต์โกนหัวติดหางเปียกันเป็นจำนวนมาก

             แต่ด้วยร่างกายที่กรำศึกมานานความเหนื่อยล้าและโรคภัยเข้าสะสม  นูเรอ

    ฮาเช่อ  จึงได้จากโลกนี้ไปด้วย  อายุแค่  65  ปี

             เขามีลูกชายที่เป็นอ๋อง 4 คน  คนโตถูกเขาสั่งประหาร  อีกหนึ่ง (คนเล็ก)

    ก็ไม่ไหว  ดังนั้นสงครามชิงอำนาจจึงมาตกที่  ไทซ่าน (บุตรคนรอง)  และ หวงไท่

    จี๋  

             นูเรอฮาเช่อ  ไม่แต่งตั้งผู้สืบทอดไว้เพราะกลัวว่า  ลูก ๆ จะฆ่ากัน  แต่ที่สุด

    แล้วเหตุการณ์ที่เขากลัวก็ได้เกิดขึ้น...  และผู้ชนะคนนั้นก็ก้าวขึ้นมาเป็น  

    จักรพรรดิของจีน

             สรุป...  การล่มสลายของ  หมิง  นั้นไม่ต่างจากอยุธยาเสียกรุงในครั้งที่

    สอง  เพราะบ้านเมืองระส่ำระส่าย  ฮ่องเต้อ่อนแอ  ขุนนางกังฉินครองเมือง  จึงทำ

    ให้แมนจูบุกเข้าปักกิ่งได้

             ถ้าใครได้ดู  อุ้ยเสี่ยวป้อ  ก็จะรู้จัก  

             แมนจูเข้าเมืองมาทางด่าน  ซานไห่กวน  โดยการเปิดประตูของ  อู๋ซานกุ๋ย

             ดังนั้น  แมนจู  จะเข้ามาเป็นใหญ่ในแผ่นดินไม่ได้เด็ดขาด  ถ้าคนในชาติรู้

    รักสามัคคี

             เล่าให้ฟังพอหอมปากหอมคอ  ขออนุญาติหลบลี้หนีไปจิบสุราเพื่อเบิกบาน

    ใจ  ถ้าพี่ ๆ สหายท่านใดเข้ามาขอให้ร่วมเสพสุรากันอย่างมีความสุขเถิด

             เหตุการณ์วันนี้มันร้อนเหลือเกิน  ทั้งกาย...  ทั้งใจ  หาอะไรที่รื่นรมย์ทำดี

    กว่า...  ขอเรียนเชิญ  ดื่มสุรา..

             ปล.  สหายท่านประมุข ตงฟาน  กระผมได้อ่านแล้ว รัฐศาสตร์ถังไท่จง  

    เห็นว่า  ผู้เรียบเรียงได้หยิบยกข้อความใน  ประวัติศาสตร์จีน ฉบับ จิวเจี่ยหลง มา

    เกือบทั้งดุ้น   ถ้าผู้พี่อยากศึกษาเรื่องนี้เพิ่ม  ผู้น้องขอแนะนำให้ท่านพี่หา

    หนังเรื่อง  ศึกลำน้ำเลือด  มาดูและอ่าน  มังกรคู่สู้สิบทิศ  ควบคู่พร้อมกับอ่าน  

    ประวัติศาสตร์จีนฉบับที่ผู้น้องเอ่ยอ้าง  ผู้พี่จะกระจ่างมากขึ้น  แต่ถ้าผู้พี่อ่านจบแล้ว

    ประสงค์จะเสวนา  ผู้น้องก็อยากจะขอร่วมด้วยเช่นกัน  เพราะเห็นว่า  การปกครอง

    ฉบับ  ถังไท่จง  นั้นน่าสนใจ  เพราะรากฐานถ้าไม่ดีจริง  ถัง คงไม่ยืนยาวถึง  290

    ปีเป็นแน่     ขอคารวะและสวัสดีทุกท่าน

    แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 49 17:32:50

    จากคุณ : ปฐม พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง - [ 24 เม.ย. 49 17:23:35 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป