หลายคำถามในความอึมครึม
21 เมษายน 2549 17:28 น.
เชื่อว่ามีหลายคนที่กำลังดีใจ เพราะเห็นดาราคนโปรดมาเป็นนักการเมือง
พอๆ กับคนที่เห็นนักร้องลูกทุ่ง ที่รู้จักกันในชื่อ สดใส รุ่งโพธิ์ทอง มากกว่าสดใส โรจนวิชัย ก็สอบเป็น สว.หน้าใหม่ได้
ขณะที่ศิลปินชื่อดังบางคน ที่มีผลงานวิจารณ์การเมือง และสังคมด้วยบทเพลงมากมายอย่าง แอ๊ด คาราบาว กลับไม่แสดงออกว่าไม่สนใจร่วมเวทีการเมือง ทั้ง ๆ ที่คนอย่างเขาเคยสนใจใคร่ครวญและติดข้องกับผลพวงทางการเมืองของสังคมมากว่าใคร หลายๆ คน ที่กระโดดเข้ามาเป็นนักการเมืองในเวลานี้
เมื่อน้าแอ๊ด สมบัติ เมทะนี สอบได้เป็น ส.ว. กับ น้าแอ๊ด ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ สอบตกพลาดอันดับสุดท้ายไปเพียง 500 กว่าเสียง
ตัวอย่างนี้มองได้ว่า น้าแอ๊ดทั้งสอง เป็นบุรุษสูงวัย ที่เคยมีรูปงาม มีคนรู้จักในคนละวงการ น้าแอ๊ดสมบัตินั้นไม่ต้องพูดถึง การเป็นพระเอกรุ่นลายครามที่ยังไม่ยอมลาจากวงการบันเทิง เป็นแต้มต่อที่สำคัญนอกเหนือไปจากเป็นสุภาพบุรุษตัวจริงทั้งนอกจอในและในจอ
ส่วนน้าแอ๊ดเกรียงศักดิ์ เป็นทายาทครอบครัวขุนนาง เคยเป็นปลัด กทม. ข้าราชการระดับสูงสุดของ กรุงเทพมหานคร จึงน่าจะได้เสียงข้าราชการกทม.และคนกรุงเทพฯ บางส่วน
อัธยาศัย ใจคอและผลงานของน้าแอ๊ดสมบัติ เป็นที่จดจำสำหรับผู้คนแฟนหนังไทยมานานกว่าสี่ทศวรรษ
ส่วนอัธยาศัยใจคอ และผลงาน ของน้าแอ๊ด เกรียงศักดิ์ ก็เป็นที่จดจำของเพื่อนฝูงและผู้ใต้บังคับบัญชามานานสามทศวรรษ
น้าแอ๊ดเกรียงศักดิ์พลาดลำดับที่ 18 ซึ่งเป็นสื่อมวลชนรุ่นหลัง เพียง 500 กว่าคะแนน
ดังนั้น การเกิดก่อน เกิดทีหลังจึงไม่ใช่ประเด็นชี้ขาดความไว้วางใจของประชาชน
ประเด็นที่น่าคิดอยู่ที่ คนกรุงเทพฯ เลือก สว.หนนี้ด้วยเหตุผลใด
ความหลากหลายในอาชีพ เป็นเรื่องจำเป็นจริงหรือไม่
หรือความไว้วางใจใน อดีต สำคัญที่สุด
คนที่มีโอกาสได้แสดงออกถึง ประวัติชีวิตของตัวเอง ได้เปรียบกว่า จริงหรือไม่
หรือทำไมสื่อมวลชน อย่าง บุญเลิศ คธายุทธเดช อดีตนักข่าวมือฉมังของมติชน ที่ลงเมืองนนท์ ไม่ชนะ
ส่วนนักข่าวที่สื่อทีวีอย่างบุญยอด สุขถิ่นไทย ที่ลงกรุงเทพฯ ได้อันดับ 18 แม้จะเป็นอันดับท้ายสุด แต่ก็บอกอะไรเรา
หรือเสียงคนกรุงเทพฯหลายเสียงไปปรากฏในเวบไซต์ที่ด่าผู้กำลังจะได้เป็น สว.หน้าใหม่ๆ หลายคน เป็นคนกลุ่มไหน
เรากำลังฉงนว่า คนที่สนุกกับการแสดงความคิดเห็นอย่างสุดขั้วในอินเทอร์เน็ต คือประชากรกลุ่มไหนของประเทศ เห็นได้จากเสียงตอบโต้ เปิดกระทู้ในของห้องราชดำเนินในเวบไซต์พันธ์ทิพย์ จำนวนไม่น้อยแสดงความไม่พอใจผู้ที่ไม่ได้อยู่ฝ่ายรัฐบาล และโจมตีสื่อที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล
เรากำลังตั้งข้อสังเกตว่า นี่เป็นยุคที่คนไทยรักการถกแถลง มากกว่าการเลือกข้างอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู จริงหรือ
นับจากวันที่สื่อในเครือเนชั่นถูกกล่าวหาว่าไร้จริยธรรม โดนล้อมคุกคามของคาราวานคนจน กระทู้ในห้องราชดำเนินก็เกล่นเกลื่อนด้วยเสียงยุยงให้เกลียดสื่อเนชั่น ด้วยการถูกลากไปเป็นพวกกับสื่อเครือผู้จัดการ
เหล่านี้ เป็นกระแสการเบียดเบียนรุกรานพื้นที่สื่อสาธารณะอย่างเห็นได้ชัด
เสียงเหล่านี้เป็นเสียงข้างมากในสังคมจริงหรือไม่
ปรากฏการณ์ การแตกแยก และยุยงให้เกิดการเลือกข้างเหล่านี้น่านำมาใคร่ครวญ ค้นหาคำตอบ
สื่อมวลชนยังคงต้องหนักแน่นในการยืนยัน ยืนหยัดการทำหน้าที่ ค้นหาความจริงและบอกสังคมต่อไป อย่างไม่ลดละ
การได้ ส.ว.หน้าใหม่ที่มาจากพลังเงียบ เป็นข้อเท็จจริงที่บอกนัยสำคัญข้อหนึ่งคือ ยังมีคนจำนวนมากเลือกที่จะไม่ปรากฏตนในเวทีสื่อสาธารณะ
แต่พวกเขาได้ทำการ ศึกษา สั่งสม และใช้วิจารณญานของตนเองที่มีพื้นฐานส่วนตัว การศึกษา ความเข้าใจส่วนตัว เป็นต้นทุนสะสม
เสียงที่บอกความประสงค์ของตัวเองอย่างชัดเจนผ่านการเลือกตั้งทั้งสองครั้ง เป็นสัญญานเตือนให้เรารู้ว่า คนกลุ่มไหนที่ไปใช้สิทธิ์ ตามกฎหมายและระบอบรัฐธรรมนูญ กำลังจัดอันดับความไว้วางใจใครให้เข้าไปทำหน้าที่สภาสูง เพื่อตรวจสอบการทำงานของสภาล่าง
เสียงทุกเสียงของประชาชนที่อาจจะไม่เคยออกไปตะโกนในเวทีสื่อสาธารณะหรือม็อบสาธารณะ วันนี้ กำลังสื่อสารนัยสำคัญไปยังรัฐสภาซึ่งกำลังถูกวางแผนในการจัดตั้งแบ่งขั้วอำนาจกันอยู่
เมื่อมองจากตัวเลขและปริมาณนักการเมืองหน้าใหม่ที่ได้รับเสียงโหวตให้เดินเข้าสภาครั้งนี้ เราต้องไม่ไว้ใจความอึมครึมในรัฐสภา
ซึ่งวันนี้กำลังตกอยู่ใต้วงจรอำนาจมืดที่หลบอยู่เบื้องหลังอย่างน่าสะพรึงกลัว
http://www.bangkokbiznews.com/2006/04/24/w006_96964.php?news_id=96964
ผม link กระทู้นี้ไปที่คอลัมน์แล้ว ใครจะแสดงความคิดเห็นเชิญครับ
จากคุณ :
tonytui
- [
24 เม.ย. 49 20:12:44
]